ภายในห้องโถงของคฤหสน์ตระกูลไป๋
ร่างสูงของไป๋เริ่นเจินก้าวมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าตัวแทนของสมาชิกที่เดินทางมาร่วมงานในคืนนี้จนเต็มเกือบทุกเก้าอี้เหลือเพียงเก้าอี้ของหัวหน้าแก๊งทางประเทศญี่ปุ่นไป๋หลันฮวาและฮ่องกงหวังเหล่ยที่ยังคงว่างอยู่เช่นนั้น ดวงตายาวรีเหลือบไปมองเก้าอี้ประจำตำแหน่งของน้องสาวนอกไส้และเพื่อนชายคนสนิทที่ถูกสั่งให้กำจัดไปแล้วอย่างสิ้นซาก รอยแสยะยิ้มเหยียดเต็มไปด้วยความลำพองที่ทุกอย่างเต็มไปตามความต้องการของตนตามแผนที่ถูกวางเอาไว้ ก่อนจะมองตรงไปที่เก้าอี้ประจำตำแหน่งของแก๊งเจ้าพ่อซึ่งมีอิทธิพลสูงสุดในจีนรวมไปถึงสามประเทศหลักและเครือข่ายที่กระจัดกระจายอยู่ทุกมุมโลกในขณะนี้ “ขอต้อนรับพี่น้องร่วมแก๊งทุกคนที่เดินทางมาร่วมประชุมในค่ำคืนนี้ ต้องขอบใจที่สละเวลาอันมีค่าทุกเวลาและทุกนาทีที่ก่อให้เกิดรายได้มหาศาลให้กับแก๊งสามพยัคฆ์ของเรา ต่างเข้ามาเป็นพยานในการประกาศว่านายใหญ่ รุ่นที่ 4 ซึ่งจะต้องสืบทอดขึ้นนั่งตำแหน่งคนต่อไปหลังจากอดีตนายใหญ่คนก่อนเสียชีวิตลงนั้นก็คือฉะ....” ยังมิทันที่ภายในห้องโถงของคฤหสน์ตระกูลไป๋ร่างสูงของไป๋เริ่นเจินก้าวมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าตัวแทนของสมาชิกที่เดินทางมาร่วมงานในคืนนี้จนเต็มเกือบทุกเก้าอี้เหลือเพียงเก้าอี้ของหัวหน้าแก๊งทางประเทศญี่ปุ่นไป๋หลันฮวาและฮ่องกงหวังเหล่ยที่ยังคงว่างอยู่เช่นนั้นดวงตายาวรีเหลือบไปมองเก้าอี้ประจำตำแหน่งของน้องสาวนอกไส้และเพื่อนชายคนสนิทที่ถูกสั่งให้กำจัดไปแล้วอย่างสิ้นซากรอยแสยะยิ้มเหยียดเต็มไปด้วยความลำพองที่ทุกอย่างเต็มไปตามความต้องการของตนตามแผนที่ถูกวางเอาไว้ ก่อนจะมองตรงไปที่เก้าอี้ประจำตำแหน่งของแก๊งเจ้าพ่อซึ่งมีอิทธิพลสูงสุดในจีนรวมไปถึงสามประเทศหลักและเครือข่ายที่กระจัดกระจายอยู่ทุกมุมโลกในขณะนี้“ขอต้อนรับพี่น้องร่วมแก๊งทุกคนที่เดินทางมาร่วมประชุมในค่ำคืนนี้ ต้องขอบใจที่สละเวลาอันมีค่าทุกเวลาและทุกนาทีที่ก่อให้เกิดรายได้มหาศาลให้กับแก๊งสามพยัคฆ์ของเรา ต่างเข้ามาเป็นพยานในการประกาศว่านายใหญ่ รุ่นที่ 4 ซึ่งจะต้องสืบทอดขึ้นนั่งตำแหน่งคนต่อไปหลังจากอดีตนายใหญ่คนก่อนเสียชีวิตลงนั้นก็คือฉะ....”ยังมิทันที่
ในขณะเดียวกันเฮลิคอปเตอร์ขนาด 10 ที่นั่งของเจ้าพ่อไป๋โหย่งอี๋ถูกลูกชายนอกไส้นำมาใช้เพื่อกำจัดลูกสาวแท้ๆ ของนายใหญ่แห่งแก๊งสามพยัคฆ์เพื่อครอบครองทุกสิ่งทุกอย่างให้เป็นของตนใบพัดที่หมุนติดต่อกันมานานกว่าสี่ชั่วโมงจากทะเลทรายจนถึงใจกลางเมืองเซี่ยงไฮ้ เริ่มชะลอความเร็วลงก่อนจะค่อยๆ ร่อนลงบนลานกว้างสำหรับใช้จอดเฮลิคอปเตอร์โดยเฉพาะในขณะที่คนบนเครื่องนั่นก็คือไป๋หลันฮวาและหวังเหล่ย กำลังจับจ้องไปที่ร่างของเวรยามจำนวนสี่คนที่กำลังเดินตรงมาทางลานจอดเฮลิคอปเตอร์ดังกล่าว“ถ้าเราสองคนจัดการไอ้สี่ตัวนี้ลงแล้วละก็ รับรองว่าคนข้างในแม่งต้องแห่มาข้างนอกแน่ๆ”หวังเหล่ยเอ่ยออกมาก่อนจะได้ยินเพื่อนสาวตอบกลับไป“นายจะกลัวอะไรอาเหล่ย อย่าลืมสิว่าตอนนี้สมาชิกแก๊งมารวมตัวที่นี่กันหมด แสดงว่าเริ่นเจินมันฝังพ่อที่สุสานเรียบร้อยไปแล้ว เท่ากับว่าระยะเวลาที่เราถูกจับและถูกเอาไปฆ่ากลางทะเลทรายก็ประมาณ 3หรือ4วัน ตอนนี้มันกำลังเรียกประชุมสมาชิกแก๊งเพื่อประกาศว่ามันเป็นหัวหน้าคนต่อไป”หญิงสาวบอกสหายร่วมแก๊งกลับไป&nbs
คฤหาสน์ตระกูลไป๋ในยามนี้ทั่วบริเวณพื้นที่ด้านในของคฤหาสน์เจ้าพ่อไป๋โหย่งอี๋ เต็มไปด้วยสมาชิกแก๊งสามพยัคฆ์ซึ่งมาร่วมงานศพหัวหน้าใหญ่รุ่น 3 ที่เพิ่งฝังร่างลงสู่ผืนดิน ณ.สุสานของตระกูลไป๋เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมาและสมาชิกแก๊งต่างเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียงกัน ตามบัตรเชิญของไป๋เริ่นเจิน บุตรชายคนโตของเจ้าพ่อใหญ่ซึ่งสมาชิกภายในแก๊งยังไม่มีใครล่วงรู้ว่าแท้จริงแล้วเป็นเพียงลูกติดท้องของภรรยารอง หาใช่สายเลือดโดยแท้จริงสมาชิกแก๊งสามพยัคฆ์ที่มีมากมายนับหลายหมื่นคนต่างส่งตัวแทนเข้ามาร่วมการประชุมตามบัตรเชิญดังกล่าวกันอย่างพร้อมเพรียง ในแผ่นดินจีนสมาชิกกระจัดกระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาค จึงส่งตัวแทนของแต่ละมณฑลซึ่งมีตำแหน่งเป็นหัวหน้าของแต่ละเมืองเข้าร่วมประชุมแทนในขณะที่ทางฮ่องกงและไต้หวันมีหวังเหล่ยเป็นตัวแทนเข้าร่วมประชุมและไป๋หลันฮวาลูกสาวแท้ๆ ของเจ้าพ่อผู้ยิ่งใหญ่เป็นตัวแทนเข้าร่วมประชุมจากทางประเทศญี่ปุ่นและประเทศฮ่องกง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในสาขาใหญ่ของแก๊งหากแต่ทั้งสองกลับไร้สิ้นเงาและตัวตนไม่ปรากฏกายแม้กระทั่งพิธีส
“หลันฮวา! รีบหนีออกมา!!!” เสียงตะโกนก้องของหวังเหล่ยดังขึ้นท่ามกลางความเงียบงันร่างสันทัดของหัวหน้าแก๊งฮ่องกงพยายามยันกายของตนออกจากหลุมทรายขึ้นมาอย่างทุลักทุเล จนสามารถประคองร่างของตัวเองให้ลุกขึ้นยืนได้เป็นผลสำเร็จ และเสียงตะโกนดังกล่าวปลุกสติและความเป็นตัวตนของแม่สาวน้อยคนงามให้หวนกลับคืนมาพรึ่บ!!! ดวงตากลมโตคู่งามเปิดขึ้นทันใด ขนตางามงอนกะพริบขึ้นลงติดต่อกันเมื่อเธอพบว่ากำลังจุมพิตตอบโต้ซากโครงกระดูกที่บัดนี้คืนร่างกลับมาเป็นคนได้อีกครั้ง“ยะ..แย่แล้ว! ทำไมเราจะต้องเคลิบเคลิ้มฟินไปกับการจูบด้วยวะเนี่ย นี่ฉันกำลังจูบกับผีอยู่นี่หว่า” หญิงสาวรำพึงในใจตุบ! ตุบ! ตุบ! กำปั้นน้อยๆ ทุบลงบนแผ่นอกกว้างตรงหน้าเธออย่างไม่ยั้งมือเลยทีเดียวทว่าแทนที่ร่างใหญ่นั้นจะรู้สึกแต่ตรงกันข้ามแรงทุบตีของหญิงสาว มิได้สะเทือนผิวกายหรือระคายเคืองแม้แต่น้อย แม่ทัพในตำนานยังคงระดมจุมพิตสตรีสาวโฉมงามตรงพระพักตร์อยู่เช่นนั้น ในขณะที่อีกฝ่ายพยายามขืนร่างของเธออย่างเต็มที่ให้หลุดพ้นจากร่างใหญ่ที่เริ่มจะทำท่าดึงรั้งกายอรชรของไป๋หล
ในขณะที่กลุ่มชายฉกรรจ์ที่เต็มไปด้วยอาวุธครบมือต่างก็เห็นเฉกเช่นเดียวกัน แต่ละคนดวงตาเบิกค้างด้วยความตกใจเมื่อจู่ๆ เห็นผู้ชายร่างสูงใหญ่กำยำกลายร่างเป็นโครงกระดูกของคนตายเข้ามาแทนที่ และแต่ละคนยังมิได้ทันลงมือแต่อย่างใด โครงกระดูกผีที่กระชับมีดอยู่ในมือวิ่งเพียงแค่สามก้าวเท่านั้นพลันถึงตัวพวกมันทุกคนฉัว!ฉัว!ฉัว!ฉัว!!!! โครงกระดูกแม่ทัพในตำนานเคลื่อนไหวราวล่องหน เมื่อพระองค์ทรงใช้วรยุทธ์ที่ถูกฝึกฝนมาเป็นอย่างดีเมื่อสามพันปีก่อน ปลิดชีพชายโฉดทั้งเจ็ดด้วยการใช้มีดสั้นของพระองค์ตรงเข้าเชือดลำคอของแต่ละคนจนเป็นแผลเหวอะหวะโดยไม่รู้ตัวอ๊าคคคค!!! เสียงร้องโหยหวนดังออกมาอย่างไม่ขาดสายฉูดดด!!! เลือดแดงฉานพุ่งกระฉูดทะลักออกจากลำคอของแต่ละคนหลั่งไหลเป็นสายธาราดั่งน้ำก๊อกตุบ!ตุบ!ตุบ!ตุบ! ร่างกลุ่มชายโฉดที่ถูกโครงกระดูกแม่ทัพในอดีตกาลจับเชือดคอเป็นว่าเล่นหงายท้องล้มลงไปนอนกับผืนทราย แต่ละคนถูกเชือดคอเกือบขาดห้อยร่องแร่งจบสิ้นชีวิตไปโดยไม่รู้ตัวว่าตัวเองตายเสียด้วยซ้ำ“บะเจ้า!เก่งโคตรๆ เลย”ไป๋หลันฮวาเอ่ยออกมาทันใดครั้นเห็นเหตุการณ์เช่
บัดนี้แม่ทัพไร้พ่ายในตำนานได้ฟื้นคืนชีพหวนกลับคืนมาอีกครั้งอย่างไม่คาดฝัน ครั้นเมื่อกระดองเต่าศักดิ์สิทธิ์ซีกที่อยู่กับไป๋หลันฮวาและที่อยู่กับองค์ชายโจวโยว่เฉิงประกบเข้าหาเป็นชิ้นเดียวกันด้วยความบังเอิญ ประจวบเหมาะกับได้เลือดของมาเฟียสาวคนสวยหลั่งรินลงบนพระศพซึ่งเป็นซากโครงกระดูกที่ตายมานานกว่า 3000 ปี ด้วยพลังเวทย์ที่อยู่บนกระดองเต่าและเลือดของสตรีสาวพรหมจรรย์ของไป๋หลันฮวา จึงทำให้แม่ทัพในตำนานหวนคืนพระชนม์ชีพกลับมาอีกครั้งชนิดที่ว่าเขียนเป็นนิยายยังอ่านแล้วต้องอึ้ง คนอ่านคงว่าเพ้อเจ้อสิ้นดีแต่ของจริงในเวลานี้คนที่เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างตั้งแต่ต้นจนจบแทบจะสติแตกไปตามๆ กัน “ผะ..ผะ...ผี..ผี!!!”หวังเหล่ยเอ่ยเสียงตะกุกตะกัก ในขณะที่ริมฝีปากหยักได้รูปสวยของแม่ทัพในอดีตองค์ชายโจวโยว่เฉิง ได้สัมผัสกับริมฝีปากอวบอิ่มเต็มไปด้วยความเย้ายวนของสตรีสาวปริศนาตรงพระพักตร์เป็นครั้งแรกในพระชนม์ชีพ ครั้นกลับมามีชีวิตอีกครั้ง แม่ทัพรูปงามเริ่มบอดเบียดริมฝีปากของตนที่เต็มไปด้วยความร้อนรุ่มลงทาบทับอย่างหนักหน่วง ระดมจุมพิตเร่าร้อนอย่างลืมตัว ลิ้นเก