ย้อนเวลากลับมาครั้งนี้ฉันไม่ขอกลับไปตระกูลเดิม!

ย้อนเวลากลับมาครั้งนี้ฉันไม่ขอกลับไปตระกูลเดิม!

last updateLast Updated : 2025-10-17
By:  ต้นไม้แห้งUpdated just now
Language: Thai
goodnovel12goodnovel
10
1 rating. 1 review
26Chapters
120views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

ในลมหายใจสุดท้ายของชีวิตวัย 35 ปี ‘ซูเยว่ซิน’ ได้ตระหนักว่าการถูกครอบครัวที่แท้จริงรับกลับไปดูแลนั้นคือจุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรมทั้งหมด เธอถูกสลับตัวไปเมื่อแรกเกิด เติบโตอย่างยากลำบากแต่เปี่ยมสุขกับครอบครัวชาวนา ก่อนจะถูกพรากไปสู่คฤหาสน์ของตระกูลซูผู้ให้กำเนิด ที่นั่นเธอไม่ได้พบกับความรัก แต่กลับถูก ‘ซูเหม่ยลี่’ ลูกสาวตัวร้ายที่เติบโตมาในฐานะคุณหนูคอยกดขี่ข่มเหง จนสุดท้ายถูกใส่ร้ายและทอดทิ้งให้ตายอย่างโดดเดี่ยว แต่แล้วสวรรค์กลับมีตา ทำให้เยว่ซินได้ย้อนเวลากลับมาในร่างวัย 17 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งวันก่อนที่ตระกูลซูจะมารับตัว! ครั้งนี้เธอจะไม่เลือกเส้นทางเดิมอีกต่อไป เยว่ซินจึงปฏิเสธสายเลือดอย่างเด็ดขาด ประกาศตัดความสัมพันธ์กับตระกูลเศรษฐี และเลือกที่จะอยู่กับครอบครัวหลินผู้ยากจนแต่รักเธอสุดหัวใจ

View More

Chapter 1

๐๑ โอกาสอีกครั้ง

สายลมปลายฤดูสารทปี 1998 หอบเอาอากาศอันหนาวเย็นที่เสียดแทงถึงกระดูกแทรกซึมผ่านรอยแตกของบานหน้าต่างไม้เก่าซอมซ่อเข้ามาในห้องเช่าขนาดเท่ารูหนู ซูเยว่ซิน ในวัยสามสิบห้าปีนอนขดตัวอยู่บนเตียงแข็งกระด้าง ร่างกายผ่ายผอมราวกับกิ่งไม้แห้งที่รอวันแหลกสลาย กับผ้าห่มผืนบางเฉียบที่ทั้งเก่าและเปื่อยยุ่ย จนแทบไม่อาจมอบไออุ่นใด ๆ ให้แก่เธอได้เลย

เสียงหอบหายใจของเธอดังครืดคราดอยู่ในลำคอ แต่ละครั้งที่ไอออกมาก็ราวกับจะขย้อนเอาเครื่องในออกมาด้วยอย่างไรอย่างนั้น เลือดสีคล้ำที่กระเซ็นเปรอะผ้าเช็ดหน้าผืนเก่านั้นเปรียบดั่งสิ่งที่บ่งบอกถึงความพ่ายแพ้ของชีวิต

เปลือกตาหนักอึ้งค่อย ๆ ปรือขึ้น ภาพเพดานที่มีหยดน้ำเกาะพราวและคราบเชื้อราสีดำทะมึนเป็นสิ่งที่เธอเห็นจนชินตามาตลอดห้าปีสุดท้ายของชีวิต มันช่างแตกต่างจากโคมระย้าคริสตัลระยิบระยับในคฤหาสน์ตระกูลซูราวฟ้ากับเหว บ้านที่เธอเคยคิดว่าเป็นของตัวเอง!

ภาพความทรงจำในวันนั้นย้อนกลับมาฉายชัดในมโนสำนึกราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน...

วันนั้นฝนตกพรำ ๆ เช่นกัน แต่เป็นฝนในฤดูร้อนที่นำพาความอับชื้นน่ารำคาญใจ เธอยืนตัวเปียกปอนอยู่กลางห้องโถงโอ่อ่าของบ้านตระกูลซู ตรงหน้าคือบิดา กับมารดาผู้ให้กำเนิดที่เธอเพิ่งได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยเพียงสิบกว่าปี พวกเขามองเธอด้วยสายตาเย็นชาที่เต็มไปด้วยความผิดหวังและรังเกียจเดียดฉันท์

“ฉันไม่เคยคิดเลยว่าเลือดในอกของฉันจะกลายเป็นอสรพิษเสียเอง แกกล้าดียังไงถึงได้ยักยอกเงินของบริษัท!?” ซูเจิ้งกั๋ว หรือพ่อผู้บังเกิดเกล้าตวาดลั่น ใบหน้าของเขาแดงก่ำด้วยโทสะ นิ้วที่ชี้มาที่เธอนั้นสั่นเทิ้มอย่างเห็นได้ชัด

“พ่อคะ มันไม่ใช่...” เยว่ซินพยายามจะอธิบาย แต่เสียงของเธอกลับสั่นเครือและแผ่วเบาจนน่าสมเพช

“ยังจะแก้ตัวอีก!” เผยฮุ่ยหลัน ผู้เป็นแม่ร่ำไห้ปานจะขาดใจ พลางชี้นิ้วมาที่กองเอกสารบนโต๊ะ “หลักฐานมัดตัวขนาดนี้ แกยังจะปากแข็งอีกหรือ! ฉันอุตส่าห์รักและเอ็นดูแกมากกว่าเหม่ยลี่ตั้งเท่าไหร่ ทำไมแกถึงทำกับพวกเราได้ลงคอ!”

น้ำเสียงนั้นเปรียบเสมือนคมมีดกรีดเฉือนหัวใจของเยว่ซินจนเป็นแผลเหวอะหวะ ที่เจ็บปวดกว่านั้นคือสายตาของผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างกายเผยฮุ่ยหลัน ซูเหม่ยลี่ น้องสาวต่างสายเลือดที่ถูกสลับตัวกันไปเมื่อครั้งยังเป็นทารก

ในขณะที่ทุกคนกำลังเกรี้ยวกราด เหม่ยลี่กลับมีเพียงรอยยิ้มเยาะหยันที่มุมปาก ดวงตาของเธอฉายแววแห่งผู้ชนะอย่างปิดไม่มิด เป็นรอยยิ้มที่เยว่ซินจะไม่มีวันลืมเลือนไปชั่วชีวิต

“พี่เยว่ซินคะ ฉันไม่คิดเลยว่าพี่จะลำบากถึงขั้นต้องทำเรื่องแบบนี้ ถ้าพี่ต้องการเงินทำไมไม่บอกฉันดี ๆ ล่ะคะ” น้ำเสียงของหล่อนหวานล้ำ “ถึงแม้ว่าพี่จะมาจากบ้านนอกคอกนา แต่พ่อกับแม่ก็รักพี่มากนะคะ ทำไมถึงไม่รู้จักพอเสียที”

คำพูดของเหม่ยลี่เป็นดั่งการราดน้ำมันลงบนกองไฟ ซูเจิ้งกั๋วคำรามลั่น

“นับแต่นี้ต่อไป ตระกูลซูจะไม่มีลูกสาวที่ชื่อซูเยว่ซินอีก! รีบไสหัวออกไปจากบ้านของฉันเดี๋ยวนี้!”

เธอยังจำได้ดีถึงสัมผัสหยาบกระด้างของคนรับใช้ที่ลากตัวเธอออกไปนอกประตูรั้วใหญ่โตมโหฬาร แล้วโยนกระเป๋าเสื้อผ้าใบเล็กตามหลังออกมา หรือเสียงปิดประตูเหล็กดัดที่ดังสนั่นนั้น ไม่เพียงแต่ปิดกั้นไม่ให้เธอกลับเข้าไป แต่ยังปิดฉากชีวิตอันสวยหรูที่เธอเคยหลงระเริงไปกับมันด้วย

นับจากวันนั้น ชีวิตของเธอก็ดิ่งลงสู่จุดต่ำอย่างถึงที่สุด ถูกตราหน้าว่าเป็นคนขี้ขโมย อกตัญญู ไม่มีแม้ใครที่จะรับเข้าทำงาน ไม่มีใครคบค้าสมาคมด้วย จนเธอกลายเป็นเพียงเศษธุลีที่สังคมรังเกียจ จนสุดท้ายต้องมาจบชีวิตลงในห้องเช่าแห่งนี้เพียงลำพัง

หากย้อนเวลากลับไปได้ เธอก็อยากจะถามเหลือเกินว่าความผิดของเธอคืออะไร คือการที่เธอไม่ใช่ลูกสาวที่แท้จริงของบ้านตระกูลหลินที่แสนยากจนงั้นหรือ? หรือคือการที่เธอหลงเชื่อคำหวานของครอบครัวเศรษฐีที่มารับเธอกลับไป โดยทอดทิ้งครอบครัวที่กัดก้อนเกลือเลี้ยงดูเธอมาตลอดสิบเจ็ดปีเต็ม

ใช่แล้ว ครอบครัวหลิน

น้ำตาหยดสุดท้ายไหลรินจากหางตาอันแห้งผาก ภาพใบหน้าที่เปี่ยมด้วยความรักของพ่อหลิน แม่หลิน พี่ต้าเฉียง และพี่ซิวอิงพลันปรากฏขึ้นมาในห้วงคำนึงสุดท้าย พวกเขาคือคนที่ยอมอดเพื่อให้เธอได้อิ่ม คือคนที่ยอมสละทุกอย่างเพื่อเธอเสมอมา แต่เธอกลับตอบแทนพวกเขาด้วยการจากมาอย่างไม่ไยดี

ช่างโง่เขลา ช่างน่าสมเพชสิ้นดี

ซูเยว่ซินเอ๋ยซูเยว่ซิน มีสมบัติล้ำค่าอยู่กับตัวแท้ ๆ แต่กลับมองไม่เห็น กลับไล่ตามคว้าเงาในน้ำ จนสุดท้ายก็ไม่เหลืออะไรเลย

ลมหายใจเฮือกสุดท้ายขาดห้วงไปพร้อมกับเปลือกตาที่ปิดสนิท ความมืดมิดอันเป็นนิรันดร์เข้าครอบคลุมทุกสรรพสิ่ง

***

“เยว่ซิน! เยว่ซิน! ตื่นได้แล้วลูก!”

เสียงที่คุ้นเคยแต่ห่างหายไปนานเกือบยี่สิบปีดังขึ้นข้างหู ปลุกให้สติที่กระจัดกระจายของหลินเยว่ซินค่อย ๆ รวมตัวกันอีกครั้ง เปลือกตาที่เคยหนักอึ้งราวกับมีหินถ่วง บัดนี้กลับขยับเปิดขึ้นได้อย่างง่ายดาย

สิ่งที่ปรากฏแก่สายตาไม่ใช่เพดานผุพังชื้นแฉะ แต่เป็นหลังคาไม้สีเข้มที่มุงด้วยกระเบื้องดินเผาเก่า ๆ แม้จะมีใยแมงมุมเกาะอยู่บ้างประปราย แต่มันกลับให้ความรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยอย่างน่าประหลาด

เมื่อเธอลองขยับร่างกาย ความเจ็บปวดทรมานที่เคยเกาะกินอยู่ทุกอณูก็พลันหายไปเป็นปลิดทิ้ง เหลือเพียงความรู้สึกเมื่อยขบเล็กน้อยเท่านั้น เธอยกมือขึ้นมาดู เห็นฝ่ามือเรียวเล็ก ขาวสะอาด ปราศจากร่องรอยกร้านงานหนักและริ้วรอยแห่งวัย นี่มันมือของเด็กสาวชัด ๆ

“ตื่นแล้วหรือลูก? ฝันร้ายเหรอ เห็นเหงื่อออกเต็มหน้าผากเลย”

เยว่ซินหันไปตามเสียงนั้น แล้วหัวใจของเธอก็พลันกระตุกวูบราวกับจะหยุดเต้น สตรีวัยกลางคนที่นั่งอยู่ข้างเตียงมีใบหน้าซูบตอบ ดวงตาโหลลึกจากการทำงานหนักและพักผ่อนน้อย แต่แววตาที่มองมายังเธอนั้นกลับเปี่ยมไปด้วยความรักและความห่วงใยอย่างสุดซึ้ง...

“แม่...” คำ ๆ นี้หลุดออกจากปากของเธออย่างแผ่วเบา น้ำตาที่คิดว่าเหือดแห้งไปแล้วกลับทะลักทลายออกมาจากดวงตาทั้งสองข้างอย่างไม่อาจควบคุม

นี่คือแม่หลิน แม่ผู้เลี้ยงดูเธอมาสิบเจ็ดปี!

จ้าวซู่เฟิน หรือ แม่หลิน ตกใจจนทำอะไรไม่ถูกเมื่อเห็นลูกสาวสุดที่รักจู่ ๆ ก็ร้องไห้โฮออกมา “โอ๋ ๆๆ เป็นอะไรไปลูกรัก บอกแม่มาสิว่าใครทำอะไรให้หนูเสียใจ” เธอดึงร่างของเยว่ซินเข้ามากอดปลอบโยน พลางลูบหลังบางเบา ๆ

ไออุ่นจากอ้อมกอดนี้ กลิ่นดินจาง ๆ ที่ติดอยู่บนเสื้อผ้าของผู้เป็นแม่บ่งบอกได้ว่ามันคือของจริง ทุกอย่างเป็นความจริง! เยว่ซินกอดตอบผู้เป็นแม่แน่นราวกับกลัวว่าภาพตรงหน้าจะสลายไป

“หนู... หนูแค่ฝันร้ายค่ะแม่” เธอตอบเสียงอู้อี้ ซุกใบหน้ากับอกอุ่น ๆ ของมารดาเพื่อซ่อนความสับสนตื่นตระลึงของตัวเอง

“ฝันก็คือฝัน ตื่นมาก็ลืมมันไปนะลูก” แม่หลินลูบหัวเธออย่างอ่อนโยน “ลุกไปล้างหน้าล้างตาเถอะ พ่อกับพี่ ๆ เขารอมันต้มฝีมือลูกอยู่นะ วันนี้ต้าเฉียงไปขุดมาได้หัวใหญ่เชียว”

เยว่ซินค่อย ๆ คลายอ้อมกอดแล้วพยักหน้ารับ สติของเธอเริ่มกลับมาทำงานเต็มที่อีกครั้ง เธอมองไปรอบ ๆ ห้องนอนเล็ก ๆ ที่คุ้นเคย ทั้งเตียงไม้ โต๊ะหนังสือเก่า ๆ ที่พ่อเป็นคนต่อให้ และปฏิทินกระดาษที่แขวนอยู่บนผนัง

ดวงตาของเธอเบิกกว้างเมื่อเห็นตัวเลขบนปฏิทิน...

วันที่ 12 เดือนกันยายน ปี 1983

หัวใจของเธอเต้นระรัวราวกับจะทะลุออกมานอกอก ปี 1983 เธอได้ย้อนกลับมาเมื่อตอนอายุสิบเจ็ดปี และวันที่ 12 เดือนกันยายน นั่นหมายความว่า...

พรุ่งนี้!

พรุ่งนี้คือวันที่ 13 กันยายน วันที่รถยนต์คันหรูของตระกูลซูจะมาจอดที่หน้าบ้านหลังนี้ วันที่พวกเขาจะมาพรากเธอไปจากครอบครัวที่แท้จริง และเป็นจุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรมทั้งหมดในชาติที่แล้ว

ฟ้ายังมีตา! สวรรค์ยังเมตตาเธอ!

เยว่ซินกำหมัดแน่นจนข้อนิ้วขาวซีด โอกาสมาอยู่ตรงหน้าแล้ว โอกาสที่จะได้แก้ไขความผิดพลาดทั้งหมด โอกาสที่จะได้ปกป้องครอบครัวนี้ และโอกาสที่จะได้เอาคืนคนพวกนั้นอย่างสาสม!

หลังจากล้างหน้าด้วยน้ำเย็น ๆ ในกะละมัง เยว่ซินก็เดินออกมายังห้องโถงเล็ก ๆ ซึ่งใช้เป็นทั้งที่กินข้าวและที่นั่งเล่น กลิ่นหอมหวานของมันเทศต้มลอยอบอวลไปทั่ว พ่อหลินกำลังนั่งซ่อมเครื่องมือทำไร่อยู่ที่มุมหนึ่ง หลินต้าเฉียง พี่ชายคนโตกำลังเช็ดเหงื่อบนใบหน้าคมเข้ม และ หลินซิวอิง พี่สาวคนรองกำลังช่วยแม่หลินจัดเตรียมชามข้าวอยู่

“เยว่ซินมาแล้วรึ” พ่อหลิน หรือ หลินเจี้ยนกั๋ว เงยหน้าขึ้นมายิ้มให้ลูกสาวคนเล็กอย่างรักใคร่ “หน้าตาดูไม่ค่อยดีเลย ไม่สบายหรือเปล่าลูก”

“เปล่าค่ะพ่อ หนูสบายดี” เธอยิ้มตอบ พยายามเก็บซ่อนความรู้สึกที่ปั่นป่วนอยู่ภายในใจ

“มา ๆๆ น้องเล็กมานั่งนี่เร็ว วันนี้พี่ใหญ่ขุดมันหัวใหญ่ที่สุดในแปลงมาให้เธอเลยนะ!” ต้าเฉียงพูดพลางตบที่นั่งว่างข้าง ๆ เขาด้วยท่าทีแข็งขันแต่แฝงไว้ด้วยความเอ็นดู

ครอบครัวหลินมีกันห้าชีวิต แม้จะยากจนข้นแค้นชนิดที่เรียกว่ากัดก้อนเกลือกิน แต่ความรักความผูกพันกลับเหนียวแน่นยิ่งกว่าสิ่งใด ทุกคนทำงานหนักเพื่อส่งเสียให้เยว่ซินได้เรียนหนังสือ เพราะเธอเป็นความหวังเดียวของครอบครัว

แม่หลินตักมันเทศต้มสีเหลืองทองที่ร้อนกรุ่นใส่ชามให้ทุกคน ในหม้อมีมันอยู่เพียงไม่กี่หัว แต่ชามของเยว่ซินกลับได้รับชิ้นที่ใหญ่และดูน่ากินที่สุดเสมอ

“กินเยอะ ๆ นะลูก จะได้มีแรงอ่านหนังสือ” ซิวอิงคีบมันชิ้นเล็ก ๆ จากชามของตัวเองมาใส่ให้เยว่ซินเพิ่ม

ภาพตรงหน้าทำให้หัวใจของเยว่ซินอุ่นซ่านและเจ็บปวดในเวลาเดียวกัน นี่คือความรักอันบริสุทธิ์แบบที่เธอโหยหามาตลอดชีวิตในชาติที่แล้ว ครอบครัวที่ยอมสละทุกอย่างได้เพื่อเธอโดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน

เธอก้มหน้าลงกินมันต้มในชาม รสชาติหวานอร่อยของมันแผ่ซ่านไปทั่วทั้งปาก มันอร่อยกว่าอาหารเหลาหรูหราจานไหน ๆ ที่เธอเคยกินในบ้านตระกูลซูเสียอีก เพราะมันคือรสชาติของบ้าน

เยว่ซินเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของทุกคนอีกครั้ง ใบหน้าของพ่อที่เต็มไปด้วยริ้วรอยจากการตรากตรำกลางแดดฝน ใบหน้าของแม่ที่ซูบซีดแต่แววตายังคงอ่อนโยน ใบหน้าของพี่ชายที่เปื้อนดินแต่เปี่ยมด้วยรอยยิ้ม และใบหน้าของพี่สาวที่เรียบง่ายแต่แฝงความเสียสละ

น้ำตาหยดหนึ่งหยดลงในชามข้าวโดยที่เธอไม่รู้ตัว

ไม่! เธอเปล่งเสียงในใจอย่างเด็ดเดี่ยว ชาตินี้ฉันจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายพวกเขาอีกแล้ว!

ตระกูลซูงั้นหรือ? ความร่ำรวยมั่งคั่งงั้นหรือ? มันก็แค่ภาพลวงตาจอมปลอมที่เคยทำลายชีวิตเธอมาแล้วครั้งหนึ่ง น้ำบ่อหน้าย่อมสู้น้ำบ่อน้อยหลังบ้านไม่ได้ ความสุขจอมปลอมที่อยู่ไกลตัว จะเทียบกับความอบอุ่นที่แท้จริงตรงนี้ได้อย่างไร

เธอจะใช้ความทรงจำและความรู้จากอนาคต พลิกชะตาชีวิตของครอบครัวนี้ให้จงได้ เธอจะทำให้พ่อแม่และพี่น้องได้อยู่อย่างสุขสบาย ไม่ต้องลำบากลำบนอีกต่อไป

ส่วนตระกูลซูและซูเหม่ยลี่ หนี้แค้นที่เคยติดค้างกันไว้ ชาตินี้เธอจะขอทวงคืนกลับมาทั้งหมด ทั้งต้นทั้งดอก!

หลินเยว่ซินกำหมัดที่อยู่ใต้โต๊ะแน่น แววตาที่เคยสับสนและอ่อนแอ บัดนี้ทอประกายกล้าแกร่งและเย็นเยียบขึ้นมาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

“ชาตินี้ฉันจะไม่ไปจากที่นี่เด็ดขาด!”

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

More Chapters

Comments

default avatar
ฟารา รีนฯ.
อ่านสนุกค่ะ อ่านเพลินดี เป็นกำลังใจให้นะคะ
2025-10-21 19:18:28
0
26 Chapters
๐๑ โอกาสอีกครั้ง
สายลมปลายฤดูสารทปี 1998 หอบเอาอากาศอันหนาวเย็นที่เสียดแทงถึงกระดูกแทรกซึมผ่านรอยแตกของบานหน้าต่างไม้เก่าซอมซ่อเข้ามาในห้องเช่าขนาดเท่ารูหนู ซูเยว่ซิน ในวัยสามสิบห้าปีนอนขดตัวอยู่บนเตียงแข็งกระด้าง ร่างกายผ่ายผอมราวกับกิ่งไม้แห้งที่รอวันแหลกสลาย กับผ้าห่มผืนบางเฉียบที่ทั้งเก่าและเปื่อยยุ่ย จนแทบไม่อาจมอบไออุ่นใด ๆ ให้แก่เธอได้เลยเสียงหอบหายใจของเธอดังครืดคราดอยู่ในลำคอ แต่ละครั้งที่ไอออกมาก็ราวกับจะขย้อนเอาเครื่องในออกมาด้วยอย่างไรอย่างนั้น เลือดสีคล้ำที่กระเซ็นเปรอะผ้าเช็ดหน้าผืนเก่านั้นเปรียบดั่งสิ่งที่บ่งบอกถึงความพ่ายแพ้ของชีวิตเปลือกตาหนักอึ้งค่อย ๆ ปรือขึ้น ภาพเพดานที่มีหยดน้ำเกาะพราวและคราบเชื้อราสีดำทะมึนเป็นสิ่งที่เธอเห็นจนชินตามาตลอดห้าปีสุดท้ายของชีวิต มันช่างแตกต่างจากโคมระย้าคริสตัลระยิบระยับในคฤหาสน์ตระกูลซูราวฟ้ากับเหว บ้านที่เธอเคยคิดว่าเป็นของตัวเอง!ภาพความทรงจำในวันนั้นย้อนกลับมาฉายชัดในมโนสำนึกราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน...วันนั้นฝนตกพรำ ๆ เช่นกัน แต่เป็นฝนในฤดูร้อนที่นำพาความอับชื้นน่ารำคาญใจ เธอยืนตัวเปียกปอนอยู่กลางห้องโถงโอ่อ่าของบ้านตระกูลซู ตรงหน้าคือบิดา ก
last updateLast Updated : 2025-10-17
Read more
๐๒ สัญญาตัดขาด
รุ่งอรุณของวันที่สิบสามเดือนกันยายนมาเยือนเร็วกว่าที่คิด แสงสีทองอ่อน ๆ ของดวงอาทิตย์ยามเหม่า [1] สาดส่องผ่านช่องหน้าต่าง ปลุกทุกชีวิตในบ้านตระกูลหลินให้ตื่นขึ้นจากนิทรา บรรยากาศในบ้านยังคงดำเนินไปเหมือนทุกวัน พ่อหลินกับต้าเฉียงเตรียมตัวจะออกไปทำไร่แต่เช้าตรู่ แม่หลินกับซิวอิงก็ง่วนอยู่กับการเตรียมอาหารเช้าง่าย ๆ อยู่ภายในครัวมีเพียงหลินเยว่ซินเท่านั้นที่รู้ว่าความสงบสุขนี้เป็นเพียงภาพฉากหน้าของพายุลูกใหญ่ที่กำลังจะพัดกระหน่ำในไม่ช้าเธอตื่นนอนตั้งแต่ไก่โห่ ช่วยงานบ้านทุกอย่างอย่างแข็งขันผิดกับเมื่อก่อน บังคับให้ตัวเองทำตัวเป็นปกติที่สุดเพื่อไม่ให้ครอบครัวต้องเป็นกังวล แต่ในใจกลับนับเวลาถอยหลังอย่างเงียบ ๆ สองหูคอยเงี่ยฟังเสียงจากนอกบ้านอยู่ตลอดเวลา“วันนี้ลูกดูแปลก ๆ นะเยว่ซิน” แม่หลินเอ่ยขึ้นขณะยื่นข้าวต้มร้อน ๆ ให้ “เมื่อคืนยังนอนหลับสบายดีอยู่ใช่ไหม?”“สบายดีค่ะแม่” เยว่ซินรับชามข้าวต้มมา พลางยิ้มบาง ๆ เป็นการกลบเกลื่อน “หนูแค่คิดว่าโตแล้ว ควรจะช่วยงานบ้านให้มากขึ้นหน่อย”คำตอบของเธอทำให้ทุกคนในครอบครัวยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู ไม่มีใครติดใจสงสัยในความเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้เลยแม
last updateLast Updated : 2025-10-17
Read more
๐๓ ความอบอุ่น
เมื่อรถยนต์คันหรูลับหายไปจากสายตา ทิ้งไว้เพียงฝุ่นควันที่ค่อย ๆ จางลงในอากาศ ความโกลาหลที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ก็พลันสลายหายไป เหลือไว้เพียงความเงียบอันหนักอึ้งที่เข้าปกคลุมทุกอณู ราวกับมีผ้าห่มผืนหนาที่มองไม่เห็นคลุมทับบ้านหลังเล็กเอาไว้ ชาวบ้านที่เคยยืนมุงดูต่างแยกย้ายกันกลับไป แต่สายตาอยากรู้อยากเห็นยังคงชำเลืองมองมาเป็นระยะ ๆครอบครัวหลินทั้งสี่ยืนนิ่งแข็งทื่อราวกับรูปสลัก แต่ละคนมีสีหน้าแตกต่างกันไป หลินเจี้ยนกั๋วผู้เป็นพ่อขมวดคิ้วมุ่น ใบหน้าเต็มไปด้วยความสับสนและเป็นกังวล ต้าเฉียงกำหมัดแน่นด้วยความโกรธเคืองที่ยังคุกรุ่น ส่วนซิวอิงนั้นมีน้ำตาคลอหน่วยด้วยความสงสารน้องสาวจับใจแต่คนที่อาการหนักที่สุดคือแม่หลิน เธอมองแผ่นหลังเล็ก ๆ ของลูกสาวที่ยืนกำกระดาษแผ่นนั้นไว้แน่น แล้วหัวใจก็พลันบีบรัดราวกับถูกคีมเหล็กขย้ำ เธอไม่สนใจเรื่องสายเลือด ไม่สนใจความยากดีมีจน สิ่งเดียวที่เธอรับรู้ได้คือความเจ็บปวดที่ลูกสาวสุดที่รักต้องเผชิญในที่สุดจ้าวซู่เฟินก็เป็นฝ่ายทลายความเงียบลง เธอก้าวเข้าไปหาหลินเยว่ซินอย่างเชื่องช้า แล้วสวมกอดร่างนั้นไว้จากด้านหลังอย่างแนบแน่น“เยว่ซิน... ลูกแม่...” เธอกระซิบเสีย
last updateLast Updated : 2025-10-17
Read more
๐๔ การเปลี่ยนแปลง
ค่ำคืนนั้นผ่านพ้นไปพร้อมกับคำมั่นสัญญาที่ยังคงก้องกังวานอยู่ในใจของทุกคน เช้าวันรุ่งขึ้น บรรยากาศในบ้านตระกูลหลินแปรเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด แม้ทุกคนจะยังคงตื่นขึ้นมาทำงานตามวิถีชีวิตเดิม แต่ในแววตาของพวกเขากลับมีประกายบางอย่างที่แตกต่างออกไป มันคือประกายแห่งความหวังระคนความเคลือบแคลงสงสัยคำประกาศของหลินเยว่ซินเมื่อคืนนี้เป็นดั่งก้อนหินที่ถูกโยนลงไปในบ่อน้ำนิ่ง ๆ แม้จะทำให้เกิดแรงกระเพื่อม แต่ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าระลอกคลื่นนั้นจะนำพาพวกเขาไปในทิศทางใดหลังอาหารเช้าอันเรียบง่าย ขณะที่พ่อหลินและต้าเฉียงกำลังจะคว้าจอบเสียมเพื่อออกไปทำไร่ เยว่ซินก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นจริงจัง“พ่อคะ พี่ต้าเฉียง... เดี๋ยวก่อนค่ะ หนูมีเรื่องสำคัญอยากจะคุยกับทุกคน”การกระทำของเธอทำให้ทุกคนชะงัก นี่เป็นครั้งแรกที่เยว่ซินผู้ซึ่งเคยเป็นเพียงผู้ตามมาโดยตลอด กลับแสดงบทบาทเป็นผู้นำและร้องขอให้มีการประชุมครอบครัวอย่างเป็นทางการหลินเจี้ยนกั๋ววางจอบลงแล้วหันมามองลูกสาวด้วยความแปลกใจ “มีเรื่องอะไรเหรอลูก?”เยว่ซินรอให้ทุกคนนั่งลงพร้อมหน้ากันบนม้านั่งยาว ก่อนจะเปิดประเด็นที่เธอครุ่นคิดมาตลอดทั้งคืน “เมื่อคืนท
last updateLast Updated : 2025-10-17
Read more
๐๕ ปากตลาดและข่าวลือ
หลายวันผ่านไปนับตั้งแต่หลินเยว่ซินไปสมัครสอบเทียบ ชีวิตภายในกระท่อมตระกูลหลินดูเหมือนจะเข้าสู่สมดุลใหม่ กลางวันทุกคนแยกย้ายกันไปทำงานอย่างขยันขันแข็ง พอกลางคืนก็กลับมารวมตัวกันใต้แสงตะเกียงเพื่อเรียนหนังสือ บรรยากาศเต็มไปด้วยความหวังและความมุ่งมั่นเงียบ ๆทว่า โลกภายนอกรั้วบ้านที่ผุพังนั้นกลับไม่ได้สงบนิ่งเหมือนเช่นเคยข่าวการปฏิเสธครอบครัวมหาเศรษฐีของหลินเยว่ซินได้แพร่สะพัดไปทั่วทั้งหมู่บ้านและตำบลใกล้เคียงรวดเร็วยิ่งกว่าไฟลามทุ่ง เรื่องราวที่ควรจะเป็นเรื่องส่วนตัวของสองครอบครัว บัดนี้ได้กลายเป็นหัวข้อสนทนาที่ร้อนแรงที่สุดในวงน้ำชาและตลาดสดและแน่นอนว่าเรื่องเล่าที่แพร่หลายที่สุด ย่อมเป็นฉบับที่ถูกปรุงแต่งรสชาติโดยตระกูลซูด้วยความอับอายและเสียหน้าที่ถูกเด็กสาวบ้านนอกหักหน้าอย่างไม่ไยดี ตระกูลซูจึงไม่ยอมอยู่นิ่งเฉย พวกเขาไม่ได้ออกมาโวยวายให้เป็นเรื่องใหญ่โต แต่เลือกใช้วิธีที่แนบเนียนและร้ายกาจกว่านั้นมากนัก... นั่นคือการปล่อยข่าวลือพวกเขาปล่อยข่าวผ่านปากของญาติสนิทมิตรสหายที่ชอบสอดรู้สอดเห็น บอกเล่าเรื่องราวในเวอร์ชันที่บิดเบือนไปอย่างสิ้นเชิง“น่าสงสารคุณท่านซูเหลือเกิน อุตส่าห์ตาม
last updateLast Updated : 2025-10-17
Read more
๐๖ แรกพบ
ดวงตะวันคล้อยต่ำ แสงแดดยามบ่ายที่เคยร้อนแรงเริ่มอ่อนกำลังลง ทอแสงสีอำพันอาบไล้ไปทั่วท้องทุ่งนาสองข้างทาง หลินเยว่ซินเดินถือห่อเกลือเล็ก ๆ กลับบ้านด้วยฝีเท้าที่สม่ำเสมอ ในใจของเธอกำลังประเมินสถานการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นในตลาดอย่างเงียบ ๆชัยชนะในสมรภูมิน้ำลายเมื่อครู่นี้ไม่ได้ทำให้เธอลิงโลดใจแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม เธอกลับตระหนักได้อย่างชัดเจนว่านี่เป็นเพียงการโหมโรงของมหากาพย์ที่ยาวนานกว่าที่คิด การโต้ตอบของเธอในวันนี้เปรียบเสมือนการโยนก้อนหินลงไปในรังแตน ต่อไปนี้ตระกูลซูคงจะไม่เพียงแค่ปล่อยข่าวลืออีกแล้ว แต่อาจจะลงมือทำอะไรที่ร้ายกาจยิ่งกว่านี้ลิ้นคนยาวกว่าถนน คำพังเพยนี้ยังคงเป็นจริงเสมอ เธอหยุดคำนินทาของคนทั้งโลกไม่ได้ แต่เธอสามารถทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้นจนไม่มีใครกล้ารังแกได้ นี่คือเป้าหมายที่แท้จริงของเธอเส้นทางจากตัวอำเภอกลับสู่หมู่บ้านค่อนข้างเปลี่ยวและเงียบสงบ สองข้างทางขนาบด้วยทิวต้นไหวที่ทิ้งกิ่งก้านยาวระย้าลงมาอย่างอ่อนช้อย ลู่ไหวไปตามแรงลมยามบ่ายราวกับกำลังเต้นระบำอย่างอ้อยอิ่ง เป็นภาพที่งดงามและสงบสุข แต่สำหรับเยว่ซินในตอนนี้ เธอกลับสัมผัสได้ถึงอันตรายบางอย่างที่ซ่อนอยู่ภายใ
last updateLast Updated : 2025-10-17
Read more
๐๗ ผลสอบ
เวลาผ่านไปราวหนึ่งเดือนเต็ม ฤดูใบไม้ร่วงได้แผ่พรมสีเหลืองทองของมันไปทั่วทั้งหุบเขา อากาศเริ่มเย็นลงในยามเช้าและค่ำคืน แต่บรรยากาศภายในบ้านตระกูลหลินกลับอบอวลไปด้วยความอบอุ่นจากการเรียนรู้และความหวังทุกค่ำคืน ภาพของสี่ชีวิตที่โน้มตัวเข้าหาแสงตะเกียงดวงน้อยเพื่ออ่านหนังสือได้กลายเป็นเรื่องปกติ ทว่าภายใต้ความขยันขันแข็งนั้น ทุกคนต่างซ่อนความกังวลใจไว้เงียบ ๆ วันประกาศผลสอบเทียบของเยว่ซินใกล้เข้ามาทุกขณะ เงินค่าสมัครสอบสิบสองหยวนห้าเหมานั้นแม้จะไม่มีใครเอ่ยถึง แต่มันก็ยังคงแขวนอยู่กลางใจของทุกคนประหนึ่งดาบของดาโมเคิลที่พร้อมจะร่วงหล่นลงมาได้ทุกเมื่อมีเพียงหลินเยว่ซินเท่านั้นที่ยังคงสงบนิ่ง เธอปลอบใจทุกคนว่าความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น แต่ในใจลึก ๆ แล้วแม้จะรู้ผลลัพธ์จากอนาคต แต่ก็อดที่จะรู้สึกประหม่าไม่ได้อยู่ดี เพราะนี่คือก้าวแรกที่สำคัญที่สุด หากผิดพลาดไป แผนการทั้งหมดที่วางไว้ก็จะต้องสะดุดลงอย่างแน่นอน…บ่ายของวันศุกร์อันแสนปกติ ขณะที่พ่อหลินและต้าเฉียงกำลังซ่อมรั้วบ้าน ส่วนเยว่ซินกำลังช่วยแม่หลินและซิวอิงคัดแยกเมล็ดพันธุ์สำหรับฤดูปลูกหน้า จู่ ๆ ก็มีเสียงตะโกนโหวกเหวกด
last updateLast Updated : 2025-10-17
Read more
๐๘ กิจการแรกของครอบครัว
เช้าวันรุ่งขึ้นหลังงานฉลอง ควันหลงแห่งความสุขยังคงอบอวลจาง ๆ อยู่ในอากาศ แต่คำประกาศทิ้งท้ายของหลินเยว่ซินเมื่อคืนนี้ก็ได้เข้ามาแทนที่ความปลาบปลื้มยินดีด้วยความสงสัยใคร่รู้ระลอกใหม่ เพราะคำ ๆ นั้นช่างดูห่างไกลจากวิถีชีวิตชาวนาของพวกเขาเหลือเกินหลังมื้อเช้าอันเรียบง่าย เยว่ซินก็ขอให้ทุกคนมารวมตัวกันอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่มีใครแสดงความกังวลหรือเคลือบแคลงในแววตาอีกแล้ว ทุกคนต่างจ้องมองมาที่เธอด้วยความเชื่อมั่นและรอคอยที่จะได้ฟังแผนการอันน่าทึ่งของอัจฉริยะประจำบ้านเยว่ซินไม่ทำให้ทุกคนต้องรอนาน เธอหยิบกระดาษหลายแผ่นที่เต็มไปด้วยภาพวาดลายเส้นด้วยถ่านไม้ออกมาวางบนโต๊ะ“พ่อคะ แม่คะ พี่ ๆ นี่คือแผนธุรกิจที่ฉันคิดไว้ค่ะ”ทุกคนต่างก้มลงมองภาพวาดเหล่านั้นด้วยความฉงน บนกระดาษคือภาพร่างของเสื้อผ้าสตรีในรูปแบบที่ไม่เคยมีใครเคยเห็นมาก่อนในยุค 80 มันไม่ใช่เสื้อคอกลมแขนกระบอก หรือกางเกงทรงหลวม ๆ สีทึม ๆ ที่ผู้คนนิยมใส่กันจนชินตา แต่กลับเป็นเสื้อที่มีการตัดเย็บเข้ารูปเล็กน้อย แขนเสื้อพองนิด ๆ ดูน่ารัก หรือชุดกระโปรงทรงเอที่เรียบง่ายแต่กลับดูสง่างาม“เสื้อผ้า?” พ่อหลินเอ่ยขึ้นเป็นคนแรก “ลูกจะให้เราทำเสื้อ
last updateLast Updated : 2025-10-17
Read more
๐๙ พลิกสถานการณ์
ณ คฤหาสน์ตระกูลซูอันโอ่อ่า บรรยากาศกลับอบอวลไปด้วยความเย็นชาและตึงเครียดราวกับฤดูเหมันต์มาเยือนก่อนกาล นับตั้งแต่วันที่ถูกหลินเยว่ซินหักหน้ากลับมา ซูเจิ้งกั๋วก็เอาแต่เก็บตัวเงียบด้วยโทสะที่ยังคุกรุ่น ส่วนเผยฮุ่ยหลันก็จมอยู่กับความเศร้าสร้อยและความรู้สึกผิดหวังที่ถูกลูกในไส้ปฏิเสธมีเพียงซูเหม่ยลี่เท่านั้นที่ดูเหมือนจะมีความสุขอยู่ลึก ๆ การจากไปของเยว่ซินทำให้เธอกลับมาเป็นคุณหนูหนึ่งเดียวของบ้านได้อย่างเต็มภาคภูมิอีกครั้ง แต่ความสุขนั้นก็อยู่ได้ไม่นาน...ข่าวความสำเร็จของหลินเยว่ซินเปรียบเสมือนหนามแหลมที่ทิ่มแทงหัวใจของเธออยู่ตลอดเวลา ทั้งเรื่องผลสอบ การที่เด็กบ้านนอกคนนั้นกลายเป็นอัจฉริยะของอำเภอในชั่วข้ามคืน ทำให้ซูเหม่ยลี่รู้สึกเหมือนถูกตบหน้าอย่างแรง แต่ก็ยังพอปลอบใจตัวเองได้ว่าคงเป็นเรื่องฟลุกเท่านั้น แต่ข่าวล่าสุดที่เพิ่งได้ยินมาจากกลุ่มเพื่อนคุณหนูด้วยกันนั้น เรื่องกิจการเสื้อผ้าที่กำลังเป็นที่กล่าวขวัญกันทั้งตลาดนั้น ประหนึ่งสิ่งสุดท้ายที่ทำให้ความอดทนของเธอขาดสะบั้นเด็กนั่น... นังเด็กสกปรกคนนั้นน่ะหรือจะมีความคิดสร้างสรรค์พอที่จะออกแบบเสื้อผ้าเองได้ เป็นไปไม่ได้! ในสายตาของซู
last updateLast Updated : 2025-10-17
Read more
๑๐ อนาคตของพี่น้อง
ฟ้าหลังฝนย่อมงดงามเสมอ คำกล่าวนี้ไม่เคยเป็นจริงเท่าวันนี้มาก่อนสำหรับครอบครัวหลินหลังจากเหตุการณ์ปะทะคารมกับเผยฮุ่ยหลันที่ตลาดวันนั้น ชื่อเสียงของแผงลอยใบไหวดีไซน์ก็ยิ่งโด่งดังเป็นพลุแตก เรื่องราวการตอบโต้อย่างชาญฉลาดและมีชั้นเชิงของหลินเยว่ซินกลายเป็นหัวข้อสนทนาที่น่าชื่นชม ผู้คนไม่ได้มองว่าเธอเป็นแค่เด็กสาวอัจฉริยะอีกแล้ว แต่ยังมองว่าเธอเป็นนักสู้ผู้หยิ่งทะนงที่ไม่ยอมก้มหัวให้กับความไม่เป็นธรรม ลูกค้ามากมายต่างแวะเวียนมาที่ร้าน ส่วนหนึ่งเพื่อซื้อเสื้อผ้าดีไซน์เก๋ และอีกส่วนหนึ่งก็เพื่อมาดูหน้าวีรสตรีคนเก่งด้วยตาตัวเองกิจการที่รุ่งเรืองทำให้เงินทองเริ่มไหลมาเทมาเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของครอบครัว แม้จะยังไม่มากมายนัก แต่ก็มากพอที่จะทำให้บนโต๊ะอาหารของพวกเขามีเนื้อสัตว์ปรากฏขึ้นสัปดาห์ละครั้งสองครั้ง และทุกคนก็เริ่มมีเสื้อผ้าใหม่ ๆ ที่สะอาดสะอ้านใส่กับเขาบ้างแล้วทว่าสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปมากกว่าสถานะทางการเงิน ก็คือจิตใจของคนในครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลินต้าเฉียงและหลินซิวอิงทุกครั้งที่พวกเขายืนมองน้องสาวคนเล็กยืนต้อนรับลูกค้าอย่างฉะฉาน ตอบคำถามได้อย่างคล่องแคล่ว และนับเงินทอนไ
last updateLast Updated : 2025-10-17
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status