Home / โรแมนติก / พรางพิษ / EP 5/4 ความจริงอันแสนเจ็บปวด

Share

EP 5/4 ความจริงอันแสนเจ็บปวด

last update Last Updated: 2025-04-10 11:47:30

“จุ๊ๆๆ อย่าร้องนะโอบ ชู่ว์...” กอดน้องชายไว้แล้วน้ำตาจะไหล ทุกอาทิตย์คุณลุงจะมาหาโอบนิธิ แต่นับตั้งแต่ท่านเสียไป โอบนิธิก็ได้เฝ้ารอแค่ความว่างเปล่า จิตใจของเด็กนั้นอ่อนไหวเกินกว่าจะทนรับเรื่องร้ายๆ เธอไม่โทษน้องชายเลยที่ร้องไห้อย่างไม่อายใคร เพราะหากเธออายุเท่าเขา เธอคงนอนร้องไห้ทุกวันทุกคืน

“พี่เทียน...ฮึกๆ คิดถึงพ่อ...พ่อไม่มาแล้ว...ไม่มากอดโอบแล้ว ฮือ...”

เด็กชายร้องไห้ฟูมฟาย จนอกเสื้อพี่สาวเปียกชุ่ม เทียนหยดเห็นท่าไม่ดีก็ร้องหาตัวช่วย

“แม่! แม่คะ แม่!”

“อะไร! อะไรของแกฮึเทียน”

ผกากรองเดินหน้าตื่นออกจากห้องครัว นางตรงมาทางห้องนั่งเล่น กลิ่นน้ำพริกแกงเลียงยังติดกายนางมาประหนึ่งถือถ้วยแกงมาด้วย

สตรีวัยเลยสาวขมวดคิ้วมุ่นเมื่อเห็นบุตรชายนั่งร้องไห้อยู่กับอกคนเป็นพี่ นางเข้าไปดึงร่างโอบนิธิออกมา

“แม่ครับ...ฮึกๆ”

“หยุด...แม่บอกให้หยุดร้อง”

ผกากรองใช้เสียงเรียบต่ำ บอกให้รู้ว่านางไม่พอใจที่เห็นเขาร้องไห้

โอบนิธิปาดน้ำตา หน้าตายังบิดเบ้ พวงแก้มขึ้นสีแดงเรื่อ ดวงตาเปียกชุ่มหยดน้ำใส เขายังสะอื้นน้อยๆ ริมฝีปากสั่นระริกน่าสงสาร

“คิดถึงคุณลุงค่ะ” เทียนหยดบอกแทน คนเป็นมารดาหนักใจเหลือจะกล่าว

“หยุดร้องเดี๋ยวนี้โอบ เป็นผู้ชายต้องเข้มแข็ง จะมาร้องไห้เหมือนผู้หญิงได้ยังไง โอบโตแล้วนะ ต่อไปต้องดูแลแม่กับพี่ ถ้าขี้แยอย่างนี้จะดูแลแม่กับพี่ได้ยังไง”

เด็กชายพยักหน้า กลืนน้ำลายหนืดๆ ลงคอ ริมฝีปากยังโค้งอยู่

“ขอโทษ...ครับ”

“ดีลูก เข้มแข็งสิลูก โอบเห็นแม่ร้องไหม แม่ก็คิดถึงพ่อ แต่แม่ไม่ร้องไห้ มันทำให้เราอ่อนแอ อย่าร้องลูก แล้วก็...อย่าซบอกผู้หญิงอย่างนั้น โตแล้ว เป็นหนุ่มแล้วนะ” นางสั่งสอนในแบบของนาง มันทำให้สมัตถ์ต้องเลิกคิ้วงุนงง

“เอ่อ...น้องยังเล็กนะครับ คงแค่ต้องการคนโอ๋มากกว่า”

“ฉันรู้ค่ะ แต่ฉันไม่ชอบ ผู้ชายเป็นเพศที่ต้องปกป้องผู้หญิง ถ้าเขาอ่อนแอแล้วเขาจะปกป้องคนที่เขารักได้ยังไง โอบน่ะ โตมาแต่กับผู้หญิง ฉันกลัวว่าแกจะเบี่ยงเบน ฉันยังอยากเลี้ยงหลาน พอจะเข้าใจไหมคะ” ผกากรองชี้แจง

โอบนิธิปาดน้ำตา เขาไม่ได้เบี่ยงเบนอย่างที่มารดาว่าสักหน่อย

“ผมเปล่านะ ผมเป็นผู้ชาย” เด็กน้อยว่า

“แม่ดีใจที่ลูกรู้ว่าลูกเป็นอะไร” นางเอ่ย

“แม่คะ คิดมากน่า” คนเป็นลูกสาวว่า ส่งหน้างอหงิกให้มารดา

สมัตถ์ลุกมาหาโอบนิธิ วางมือบนไหล่เด็กชายเบาๆ

“เก็บของเถอะ แล้วไปกินข้าวกัน แดดร่มๆ เดี๋ยวสอนตีกอล์ฟ” ว่าแล้วยิ้มให้เด็กชาย โอบนิธิยิ้มแป้น แม้วงหน้ายังมีรอยชื้นหยาดน้ำตา

“จริงนะครับ”

“จริง” เขายืนยัน

“เย้! ตีกอล์ฟ โอบจะตีกอล์ฟ แม่ซื้อไม่กอล์ฟให้โอบนะ นะแม่นะ”

พอเอ่ยถึงเรื่องกีฬาตีกอล์ฟ โอบนิธิก็แทบจะลืมเรื่องทุกข์ใจ เด็กชายชอบกีฬาชนิดนี้ เคยเห็นแต่ในโทรทัศน์เพราะอยู่แต่บ้านสวน เขาคิดว่ามันน่าทึ่งในการตีลูกกลมๆ เล็กๆ ลงหลุมที่อยู่ไกลๆ ให้ลงได้อย่างพอเหมาะ

“ดูเกรดเทอมนี้ก่อน ถ้าเกรดดีจะซื้อให้ แต่บอกไว้ก่อนนะว่าแม่ตีไม่เป็น”

“ผมตีเป็น แล้วผมจะสอนให้ครับ” ชายหนุ่มอาสา ท่ามกลางความทึ่งของสามแม่ลูก

“ก็ดี...” ผกากรองว่าแล้วหันหลังกลับเข้าครัว มีรอยยิ้มที่มุมปากที่ไม่มีใครสังเกตเห็น

โอบนิธิเอาสมุดการบ้านและตำราขึ้นไปเก็บบนห้อง ในห้องนั่งเล่นจึงเหลือเพียงเทียนหยดกับสมัตถ์ หญิงสาวลุกขึ้นยืน เตรียมตัวไปห้องอาหาร ท้องร้องจ้อกๆ ด้วยว่าเริ่มหิว วันนี้เธอจะกินให้อิ่ม เพราะตอนบ่ายมีภารกิจสำคัญ มันจะได้รู้ๆ กันไปเสียทีว่าจีรวัฒน์กับเธอจะมีวันพรุ่งนี้ร่วมกันหรือเปล่า

“นี่คุณ” หญิงสาวเรียก

“อะไร”

“เมียคุณน่ะ ไม่กินข้าวกินปลาบ้างเหรอ นี่มันจะเที่ยงแล้วนะ ไม่สบายหรือเปล่า” ไม่ได้คิดห่วงใยมากมาย แค่อยากรู้ความเป็นไปของราตรีเท่านั้น ไม่อยากจะคิดหรอกว่าเมื่อคืนราตรีไปเที่ยวกับจีรวัฒน์ แต่มันอดไม่ได้จริงๆ

เขายักไหล่ “เรื่องปกติ ถ้าดื่มหนักก็ตื่นสายเป็นเรื่องธรรมดา เพลียขนาดนั้นให้นอนไปเถอะ ตื่นมาจะได้สดชื่น”

“โห...สามีแห่งชาติจริงๆ ดีเกินไปแล้ว หัดหืออือกับเมียบ้างสิคุณน่ะ”

“บอกตัวเองก่อนเถอะครับคุณเทียนหยด”

เขาประชดแล้วเดินจากไป เทียนหยดเดินหน้างอตามมาติดๆ เจอนางศรีสุรางค์นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร ท่าทางไม่สู้ดีนัก

“คุณย่า เพิ่งออกมาจากห้องหรือครับ”

เขาถามทันทีที่เดินมาถึง คนถูกถามพยักหน้าแทนคำตอบ

“เพลียๆ น่ะ ปวดขาด้วย” นางว่าแล้วทุบขาสองสามที เป็นจังหวะเดียวกับที่ผกากรองกับสาวใช้ลำเลียงอาหารเข้ามาวาง ศรีสุรางค์มองผกากรองอย่างนึกขอบคุณ อาหารปรุงเสร็จใหม่ๆ มีควันฉุย น่าอร่อยเชียว

“ไปหาหมอเถอะครับ นะครับ กินข้าวเสร็จแล้วไปเลย”

ศรีสุรางค์พยักหน้า ทนไม่ไหวแล้วกับการปวดขาปวดเข่า สังขารคนเรามันไม่เที่ยงจริงๆ

“เมียเราล่ะตามัตถ์” ถามถึงหลานสะใภ้ที่ควรลงมาตระเตรียมมื้อเที่ยงตามหน้าที่ของหล่อน

สมัตถ์อึกอัก “เอ่อ...อยู่บนห้องครับ”

“เที่ยวดึกละสิ”

“ครับ”

“ปรามๆ เสียบ้างลูก ผู้หญิงยิงเรือจะเที่ยวอะไรนักหนา มันไม่ปลอดภัย แล้วนี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว ถ้าแม่ผกาไม่เข้าครัว เราจะได้กินข้าวกันไหม” สั่งสอนหลานชายด้วยความจริง สมัตถ์ลำบากใจยิ่งนัก

เทียนหยดเดินมานั่ง โอบนิธิตามมา รั้งท้ายด้วยนางผกากรอง นางทำกับข้าวสามสี่อย่าง แต่มากพอสำหรับคนสี่ห้าคน ทำเยอะหน่อยเผื่อสาวใช้ด้วย ทุกคนเริ่มมื้อเที่ยงกันเงียบๆ มีเสียงช้อนกระทบจานเป็นระยะ กระทั่งราตรีเดินลงมาจากชั้นสอง หล่อนอาบน้ำแต่งตัวพรมน้ำหอมเสียหอมฟุ้ง แต่ทำหน้ากังวลตอนเดินเข้ามาในห้อง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พรางพิษ   บทส่งท้าย -2

    “เดี๋ยวก็เบื่อไปเองมั้งคะ”“ไม่...โอบว่าไม่เบื่อง่ายๆ หรอก พี่ต้องมีอีกสักโหลอ่า จริงๆ”“โอบ...” เทียนหยดครางเสียงต่ำ โหลหนึ่งเลยหรือ ไม่ไหวหรอก“แหะๆ โอบไปรอที่รถดีกว่า หิวแล้ว แม่ครับย่าครับ ไปขึ้นรถเร็วเข้า”โอบนิธิรีบเผ่นก่อนถูกพี่สาวเขกหัว มื้อค่ำวันนี้รอเขาอยู่ ก่อนที่สมาชิกทุกคนของบ้านจะทยอยกันไปขึ้นรถเพื่อไปฉลองงานวันเกิดให้กับเด็กหญิงตัวน้อยเด็กหญิงมัชฌาวี โสภณวิชญ์__________ทฤษฎีโลกกลมยังใช้ได้เสมอในทุกยุคทุกสมัย ในระหว่างที่ครอบครัวโสภณวิชญ์กำลังเลี้ยงฉลองอยู่นั้น ภายในร้านอาหารเดียวกันก็มีหนึ่งสตรีเฝ้ามองความอบอุ่นของพวกเขาด้วยสายตาแสนเสียดาย แม้ข้างกายมีหนุ่มใหญ่เคียงข้าง ทว่ามิใช่ในแบบปกตินานมากแล้วที่ราตรีมิได้เห็นสมัตถ์ มิได้เห็นคนที่อยู่ในหัวใจ มันทรมานยามเห็นพวกเขามีความสุข พอทนไม่ไหวก็รีบบอกให้คนข้างกายลุกกลับ เธอขอย้ายร้านด้วยไม่อยากทนมองความสุขของพวกเขาให้มันร้าวรานใจราตรีเดินออกจากร้านเงียบๆ พร้อมกับลูกค้าของตัวเอง ไม่ทันได้

  • พรางพิษ   บทส่งท้าย -1

    -+- บทส่งท้าย -+-____________งานวิวาห์แสนหวานถูกจัดขึ้นในอีกสองอาทิตย์ถัดมา งานเล็กๆ แต่อบอุ่น สองสามีภรรยาหมาดๆ เลือกทะเลที่ไม่ไกลจากเมืองกรุงฯ เป็นสถานที่ดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ ด้วยภาวะตั้งครรภ์ของเทียนหยดไม่ชวนให้สมัตถ์อยากนั่งเครื่องบินออกนอกประเทศ ทริปฮันนีมูนสั้นๆ ไม่กี่วันของทั้งสอง เลยสรุปที่ชายทะเลที่สมัตถ์เคยมาคราวก่อน คลื่นลมยังแรงด้วยเข้าสู่ฤดูฝนพรำ คู่สามีภรรยาเดินจับมือกันเดินไปตามชายหาดที่ทอดยาว กลุ่มนักท่องเที่ยวมากหน้าหลายตาทั้งไทยและเทศ เดินกันขวักไขว่ ครึกครื้นไม่น้อย“ลมแรงจัง กลับโรงแรมดีไหม ฝนจะตกแล้วด้วย” สมัตถ์ว่าเทียนหยดส่ายหน้าดิก ซบศีรษะลงกับบ่าของสามี สองมือของทั้งสองจับกันไว้มั่น มีแหวนแต่งงานสวมไว้คนละวง“เดินต่ออีกนิดนะคะ สัก...ต้นมะพร้าวต้นนู้น...ค่อยกลับ” ว่าที่คุณแม่ชี้ไปข้างหน้า เจ้าเล่ห์น้อยๆ เพราะต้นมะพร้าวที่ว่าอยู่ไกลโข“ไม่เหนื่อยหรือไง เดินมาตั้งไกลแล้วนะ”“ไม่ค่ะ ถ้าเหนื่อย จะขึ้นหลังคุณแล้วกัน”“หึๆๆ

  • พรางพิษ   EP 21/2 พรางรัก

    “ฉันรู้ และขอโทษที่มัวแต่ทำใจในเรื่องนี้จนละเลยสิ่งที่ควรปฏิบัติต่อเธอ ฉันเสียใจที่แม่ต้องตาย แต่มันเสียใจมากกว่าเดิมที่รู้ว่าคนที่ทำให้ท่านต้องตาย...คือเธอ” เขาเอ่ยด้วยเสียงเหมือนผิดหวังระคนน้อยใจ ทำไมต้องเป็นเทียนหยดด้วยเล่า ทำไม“ขอโทษ ฉันขอโทษนะคุณสมัตถ์ ขอโทษจริงๆ”“ชู่ว์...เราเลิกพูดเรื่องนี้เถอะนะ พูดไปก็มีแต่เจ็บปวด ฉันเชื่อว่าเธอไม่ได้ตั้งใจ อุบัติเหตุน่ะ ไม่มีใครอยากให้มันเกิดหรอก เราลืมเรื่องร้ายๆ แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่กันเถอะนะ ลืมมันให้หมด ลืมว่าเราเคยเกลียดกัน ลืมว่าเราเคยทุกข์ทรมานเพราะความสูญเสีย เรามาอยู่กับปัจจุบันดีกว่า ยังมีอีกหลายอย่างที่เราต้องทำไม่ใช่เหรอ เรามาทำมันไปพร้อมกันเถอะนะ”เทียนหยดน้ำตาซึม ถูกสมัตถ์ดึงตัวไปกอด และมันช่างอบอุ่นนัก นี่คืออ้อมกอดที่เธอโหยหา ช่างควรค่าแก่การเฝ้ารอเหลือเกิน“ฉันว่าเรากินมื้อค่ำดีกว่า ฉันมีอะไรอยากให้เธอดู”“อะไรคะ”“ไม่บอก เธอต้องรอดึกๆ และควรกินมื้อค่ำแล้วหลับสักงีบ ดึกๆ เดี๋ยวฉันปลุก”“แน่นะคะ&rd

  • พรางพิษ   EP 21/1 พรางรัก

    [21]พรางรัก___________รุ่งเช้าเสียงกุกกักดังขึ้นที่ข้างเตียง เทียนหยดลืมตาขึ้นช้าๆ สมองหนักอึ้ง โพรงปากรสชาติฝืดเฝื่อน พอขยับลุกขึ้นนั่ง มืออุ่นๆ ของสมัตถ์ก็ช่วยพยุงให้เธอนั่งดีๆ“เป็นยังไงบ้าง อยากอ้วกไหม”หญิงสาวพยักหน้าเมื่อถูกถาม และพอเขาเอาถุงพลาสติกมารอใต้ปาก เธอก็โก่งคออาเจียน มันทรมานเมื่อไม่มีสิ่งใดออกมากับการสำรอกนอกจากน้ำลายเปรี้ยวๆ สมัตถ์ไม่ได้นึกรังเกียจ เขายังช่วยลูบหลัง ช่วยเก็บถุงอาเจียนไปทิ้ง“ฉันจะไปทำงานแล้วนะ เอารถเธอไป”“เอ้า แล้วฉันล่ะ” เธอท้วง ถ้าให้นั่งแท็กซี่ช่วงนี้มีหวังได้อ้วกบนรถแท็กซี่แน่ๆ“เธอไม่มีรถก็ไม่ต้องไปสิ”“ได้ไง ฉันจะไป”“ฮื่อ...พูดไม่รู้ฟัง แพ้ท้องแทบจะยืนไม่ขึ้น ยังจะหาเรื่องอีก แล้วถ้าไปทำงานเผลอไปพะอืดพะอมให้พนักงานเห็น เดี๋ยวลูกน้องก็ได้นินทาพอดี” สมัตถ์หาทางเลี่ยงไม่ให้เทียนหยดไปทำงาน แต่เทียนหยดกลับคิดเป็นอื่น“ช่างสิ นินทาหรือ

  • พรางพิษ   EP 20/5 กว่าเราจะเข้าใจ

    สมัตถ์อมยิ้ม ยักไหล่ใส่คนที่ร้องขอ “ทำไมล่ะ”“กลัวลูกได้ยินมั้ง ฉันนี่ร้ายกาจจริงๆ”“ถึงร้ายก็รักนะ”“คะ?” ประโยคที่ออกจากปากสมัตถ์ทำเอาเทียนหยดตื่นตะลึง นี่เธอหูฝาดหรือเปล่า “อะไร ฉันไม่ได้ยิน”“เธอได้ยิน ฉันรู้”“ก็มันไม่แน่ใจนี่นา พูดอีกทีซิ”“ไม่”“น่านะ พูดอีกที” คนสวยร้องขอสมัตถ์เบะปากน้อยๆ ตั้งหน้าตั้งตาขับรถแต่ก็แอบมองเทียนหยดเป็นครั้งคราว เรียวปากคลี่ยิ้มบางๆ บางเสียจนเทียนหยดไม่ทันสังเกต“คุณจะพาฉันไปไหน” เธอถาม“ก็หาอะไรกิน แล้วพากลับบ้าน”“ไม่กลับ ฉันจะกลับคอนโดฯ ถ้าไม่ไปส่งฉันที่นั่น ก็เชิญคุณลงไปโบกแท็กซี่กลับเอง” เธอยืนยัน แล้วสมัตถ์จะทำอะไรได้ นอกจากทำตามที่แม่ของลูกบัญชา_________เวลา 21:30 นาฬิกากลิ่นนมหอมๆ ลอยอวลทั่วห้อง เทียนหยดผลักประตูเข้าไปแล้วสูดกลิ่นนั้นจนเต็มปอด ผู้ช่วยคนเก่งของเธอยืนยิ้มแป้นอยู่หน้าเตา เจ้า

  • พรางพิษ   EP 20/4 กว่าเราจะเข้าใจ

    เธอพยักหน้า จีรวัฒน์เคลื่อนกายออกจากโต๊ะตัวสูงมายืนอยู่ตรงหน้าเธอ ดวงตาเขามีหยาดน้ำตารื้นอยู่ในนั้น“โชคดีนะจี ขอโทษสำหรับทุกอย่าง”จีรวัฒน์มองเทียนหยดอย่างอาลัยอาวรณ์“ขอกอดสักทีได้ไหม ครั้งสุดท้าย...”เทียนหยดยิ้มน้อยๆ ดวงตามีหยาดน้ำใสไม่แพ้จีรวัฒน์ การจากกันด้วยดีย่อมน่าพิศสมัยกว่าการลาจากแบบโกรธเคือง อ้อมกอดของจีรวัฒน์อบอุ่นเสมอ ทว่าเธอไม่ต้องการมันอีกแล้ว หากมิได้อ้อมกอดของสมัตถ์มาครอบครอง เธอก็ขอแค่กอดตัวเองตลอดไปหวืด! โครม!ความโกลาหลเกิดขึ้นชั่วขณะ อะไรสักอย่างพุ่งมาทางด้านหลังเทียนหยดแล้วจับแยกหญิงสาวกับจีรวัฒน์ออกจากกัน จีรวัฒน์ถูกผลักจนล้มหงายหลัง ชนเข้ากับโต๊ะเก้าอี้โครมคราม แต่คนต้นเหตุยังไม่สาแก่ใจ ตามไปประเคนหมัดใส่จีรวัฒน์อีกสามทีซ้อนพลั่ก! พลั่ก! พลั่ก!“คุณสมัตถ์!? หยุดนะ! คุณสมัตถ์ฉันบอกให้หยุด!”พลั่ก!หมัดสุดท้ายกระแทกใบหน้าจีรวัฒน์จนเลือดกบปาก ด้วยว่าไม่นิยมออกกำลังกาย ร่างกายจึงมิใช่หุ่นนักกีฬา ไม่มีลวดลายพอจะต่อกรกับหมัดแกร่งของอีกฝ่ายสมัตถ์ลุกจ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status