Home / โรแมนติก / พรางพิษ / EP 5/3 ความจริงที่แสนเจ็บปวด

Share

EP 5/3 ความจริงที่แสนเจ็บปวด

last update Last Updated: 2025-04-09 11:46:51

“เรื่องบางเรื่องก็น่าแปลกที่เราไม่สามารถหาคำตอบให้มันได้” เขาเปรยราวกับปลงแล้วทุกสิ่ง

“บางทีเวลาอาจเป็นคำตอบ ฉันไม่รู้ว่าสามีฉันเอาอะไรมาวัดว่าคุณไว้ใจได้ อาจเป็นความรู้สึกผิดของเขา หรืออาจเพราะมันมีเหตุผลมากกว่านั้น ที่เขายกหุ้นให้คุณ แต่ฉันเชื่อใจเขานะ เขาคงไม่หาคนมาผลาญ RPS หรอก ในเมื่อเขาไว้ใจคุณ ฉันก็จะไว้ใจคุณ ไม่ว่าเหตุผลใดก็ตามที่รุ่งรดิศอยากให้ฉันมาอยู่ที่นี่ ฉันมาแล้ว เวลาอาจช่วยไขข้อข้องใจให้เราก็ได้ รอไปด้วยกันไหมคุณสมัตถ์”

แม้ไม่อยากเห็นด้วย แต่ไม่มีทางเลือกเลย สุดท้ายสมัตถ์ก็ต้องพยักหน้ารับคำนางผกากรอง นางยิ้มน้อยๆ ราวกับพอใจในคำตอบของเขา ก่อนจะยกเอาถาดฟักทองมาถือไว้แล้วลุกขึ้นยืน เขาลุกตามบ้าง ฟักทองเหลืองอร่ามในถาดอลูมิเนียมหากเอาไปทำแกงคงอร่อยไม่หยอก

“แม่ผมไม่ค่อยเข้าครัวเท่าไหร่ เราชอบความสะดวก ซื้อมากิน หรือไม่ก็ไปกินที่ร้าน ผมชินเสียแล้วกับการที่แม่บ้านแม่เรือนไม่ค่อยทำหน้าที่” เขาเอ่ยขำๆ แต่เหมือนแก้ต่างให้ศรีภรรยาที่ยังหลับไม่ตื่น

“ฉันเข้าใจค่ะ คนเราถูกเลี้ยงมาไม่เหมือนกัน ยัยเทียนเอง เห็นเป็นสาวสมัยใหม่อย่างนั้น ทำอาหารใช้ได้นะ แต่ไม่ค่อยทำหรอก แกว่าเอาเวลาไปรับออเดอร์งานดีกว่า รายนั้นเวลาเป็นเงินเป็นทอง พวกแม่ค้าออนไลน์น่ะ ฉันก็ไม่ค่อยรู้เรื่องหรอก” นางว่าแล้วยิ้มงาม ภูมิใจในตัวบุตรสาว

“หรือครับ ได้ยินเธอพูดเหมือนกัน”

นางพยักหน้ารับ ถือถาดออกจากใต้ร่มอโศกจะเข้าไปห้องครัวทางประตูหลัง สมัตถ์ไม่ได้ตามไป เขาตัดสินใจชั่วครู่ ก่อนจะเอ่ยบางอย่างออกมา

“คุณผกาครับ”

“คะ?” นางหันมาขานรับเขา ก่อนที่เท้าจะก้าวเข้าครัว

“ขอบคุณนะครับ ที่ทำอาหารให้เรากิน กับข้าวคุณอร่อยมากเลย”

“ฉันจะทำให้กินทุกวันค่ะ จนกว่า...เราจะไม่ได้อยู่ที่นี่”

นางว่าแล้วยิ้มอ่อน ก่อนจะก้าวเข้าห้องครัวไป

สมัตถ์ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม หัวใจเขาวูบโหวงแปลกๆ มันใจหายใช่ไหมที่ได้ยินผกากรองเอ่ยอย่างนั้น บ้านเขาหลังใหญ่แต่อยู่กันไม่กี่คน พอเทียนหยดพาทุกคนมาอยู่ด้วย บ้านก็ดูมีสีสันบ้าง แม้ว่าตอนแรกยังมีความโกรธความชิงชังระบายอยู่ทั่วบ้านก็ตาม แต่มาวันนี้ ความโกรธแค้นชิงชังนั้นเหมือนว่าจะค่อยๆ จางหายไป เพราะอะไรนะ เพราะความจริงใจของพวกหล่อนใช่ไหม

ชายหนุ่มยังหาข้อสรุปให้กับคำถามไม่ได้ สุดท้ายเลยต้องเดินกลับเข้าไปในสนามหญ้า เก็บอุปกรณ์ตีกอล์ฟใส่ถุงของมันแล้วยกสะพายบ่า ก่อนจะเดินเข้าบ้าน เพื่อสอนการบ้านให้โอบนิธิดังที่เทียนหยดปรารถนา

____________

ครึ่งชั่วโมงก่อนถึงเวลาอาหารเที่ยง

โอบนิธินั่งฟังสมัตถ์สอนการบ้านภาษาจีนอย่างมีความสุข ในขณะที่เทียนหยดนั่งเล่นอยู่บนโซฟาใกล้ๆ ด้วยอากาศที่ร้อนเป็นปกติ แม้จะอยู่ในบ้านที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำแต่เทียนหยดก็เลือกสวมกางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดแขนกุดแบบสบายๆ ทว่าเวลาเจ้าตัวนั่งเอนไปด้านหลัง กางเกงขาสั้นมันก็ยิ่งถูกรั้งขึ้นไป ต้นขาขาวเนียนจึงปรากฏแก่สายตาคนมองอย่างไม่ตั้งใจ

“อะแฮ่ม...อ่า...ถึงไหนแล้วนะโอบ” สมัตถ์กระแอมเพราะดันเอาสายตาไปมองท่อนขาเรียวๆ ของเทียนหยด ทำไมร่างกายถึงไม่ฟังสิ่งที่หัวใจต้องการนะ พยายามไม่วอกแวกไปกับสิ่งยั่วยุ แต่มันอดไม่ได้ บอกตัวเองเตือนตัวเองซ้ำๆ แต่ก็เหมือนเดิมทุกที ผู้ชาย...ยังไงก็เป็นผู้ชาย เห็นสาวๆ สวยๆ นุ่งสั้นๆ มานั่งใกล้ๆ ใครจะอดใจไม่มองได้ล่ะ เมื่อไหร่ราตรีจะลงมาเสียทีนะ อย่างน้อยร่างของศรีภรรยาคงพอช่วยปรามสายตาเขาได้บ้าง

“ตรงนี้ครับพี่ มันคล้ายกันจนแยกไม่ออก”

โอบนิธิชี้ใส่อักษรภาษาจีนกลางที่กล้ายกัน เขาต้องเขียนเป็นคำอ่านภาษาไทย และเขายังแยกมันไม่ออกระหว่างตัวนี้ กับอักษรในการบ้านข้อที่ผ่านมา

“ดูตรงขีดสิ เห็นไหม มันมีขีดเล็กๆ ตรงหาง ไม่เหมือนกัน” เขาอธิบาย

หนูน้อยยิ้มแป้น เมื่อสังเกตเห็น เริ่มจำได้แล้วว่าอักษรตัวนี้อ่านว่าอะไร เขาตั้งใจทำการบ้านต่อ ข้อไหนสงสัยหรือทำไม่ได้ค่อยถามพี่มัตถ์

สมัตถ์ก็ดูเด็กชายเขียนทุกอักษร บางข้อโอบนิธิทำผิด เขาก็ไม่ได้ทักท้วงในทีเดียว จะให้เด็กชายอ่านทวนอีกรอบ แล้วจึงค่อยอธิบายให้เข้าใจ โอบนิธิหัวดี ช่างจดจำ แต่ไม่ค่อยช่างพูด เป็นเด็กเงียบๆ เสียด้วยซ้ำ

“พ่อเก่งภาษาจีน” จู่ๆ เด็กชายก็เอ่ย การบ้านข้อสุดท้ายเสร็จลงพอดี สมัตถ์นั่งนิ่งรอฟัง “พ่อบอกว่าถ้าย้ายเข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ จะให้โอบเรียนภาษาจีน เราจะได้แอบคุยความลับกันโดยที่สาวๆ สองคนนั้นไม่รู้” เด็กชายชี้ไปที่ร่างพี่สาว ก่อนจะชี้ไปทางห้องครัว

สมัตถ์มีรอยยิ้ม “โอบก็ตั้งใจเรียนสิ เราจะได้มาคุยด้วยกัน”

“จริงนะครับ”

เด็กน้อยถามย้ำ ยิ้มจนตาหยี ในดวงตากลมแป๋วนั้นมีหยดน้ำตาเจือจาง

“อาฮะ” สมัตถ์รับคำ

“คิดถึงพ่อจังครับ พี่มัตถ์คิดถึงพ่อพี่มัตถ์ไหม”

“คิดถึงสิ” ใช่...เขาคิดถึง แต่เขาไม่ใช่เด็กอย่างโอบนิธิที่สามารถระบายความคิดถึงออกมาเป็นหยดน้ำตา “โธ่...โอบ ไม่เอานะ ร้องทำไม ไม่เอาๆ เดี๋ยวสาวล้อนะ โตแล้ว” ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ โอบนิธิน้ำตาร่วงพรูอาบสองแก้ม

เทียนหยดลดสมาร์ตโฟนในมือลงเมื่อรู้ถึงสิ่งผิดปกติรอบกาย และพอเห็นโอบนิธิมีน้ำตาก็เบนสายตานางยักษ์มายังสมัตถ์ทันที

“ฉันเปล่านะ” เขายกมือกางออก บอกให้รู้ว่าไม่ได้ทำอะไรน้องชายหล่อน

เทียนหยดลุกมานั่งกับน้อง โอบนิธิยังร้องไห้อยู่ เด็กชายไม่ใช่เด็กซุกซน เพราะอยู่แต่กับผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่จึงมีนิสัยอ่อนโยนและอารมณ์อ่อนไหว พอมาขาดพ่อไป โอบนิธิจึงยังทำใจไม่ได้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พรางพิษ   บทส่งท้าย -2

    “เดี๋ยวก็เบื่อไปเองมั้งคะ”“ไม่...โอบว่าไม่เบื่อง่ายๆ หรอก พี่ต้องมีอีกสักโหลอ่า จริงๆ”“โอบ...” เทียนหยดครางเสียงต่ำ โหลหนึ่งเลยหรือ ไม่ไหวหรอก“แหะๆ โอบไปรอที่รถดีกว่า หิวแล้ว แม่ครับย่าครับ ไปขึ้นรถเร็วเข้า”โอบนิธิรีบเผ่นก่อนถูกพี่สาวเขกหัว มื้อค่ำวันนี้รอเขาอยู่ ก่อนที่สมาชิกทุกคนของบ้านจะทยอยกันไปขึ้นรถเพื่อไปฉลองงานวันเกิดให้กับเด็กหญิงตัวน้อยเด็กหญิงมัชฌาวี โสภณวิชญ์__________ทฤษฎีโลกกลมยังใช้ได้เสมอในทุกยุคทุกสมัย ในระหว่างที่ครอบครัวโสภณวิชญ์กำลังเลี้ยงฉลองอยู่นั้น ภายในร้านอาหารเดียวกันก็มีหนึ่งสตรีเฝ้ามองความอบอุ่นของพวกเขาด้วยสายตาแสนเสียดาย แม้ข้างกายมีหนุ่มใหญ่เคียงข้าง ทว่ามิใช่ในแบบปกตินานมากแล้วที่ราตรีมิได้เห็นสมัตถ์ มิได้เห็นคนที่อยู่ในหัวใจ มันทรมานยามเห็นพวกเขามีความสุข พอทนไม่ไหวก็รีบบอกให้คนข้างกายลุกกลับ เธอขอย้ายร้านด้วยไม่อยากทนมองความสุขของพวกเขาให้มันร้าวรานใจราตรีเดินออกจากร้านเงียบๆ พร้อมกับลูกค้าของตัวเอง ไม่ทันได้

  • พรางพิษ   บทส่งท้าย -1

    -+- บทส่งท้าย -+-____________งานวิวาห์แสนหวานถูกจัดขึ้นในอีกสองอาทิตย์ถัดมา งานเล็กๆ แต่อบอุ่น สองสามีภรรยาหมาดๆ เลือกทะเลที่ไม่ไกลจากเมืองกรุงฯ เป็นสถานที่ดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ ด้วยภาวะตั้งครรภ์ของเทียนหยดไม่ชวนให้สมัตถ์อยากนั่งเครื่องบินออกนอกประเทศ ทริปฮันนีมูนสั้นๆ ไม่กี่วันของทั้งสอง เลยสรุปที่ชายทะเลที่สมัตถ์เคยมาคราวก่อน คลื่นลมยังแรงด้วยเข้าสู่ฤดูฝนพรำ คู่สามีภรรยาเดินจับมือกันเดินไปตามชายหาดที่ทอดยาว กลุ่มนักท่องเที่ยวมากหน้าหลายตาทั้งไทยและเทศ เดินกันขวักไขว่ ครึกครื้นไม่น้อย“ลมแรงจัง กลับโรงแรมดีไหม ฝนจะตกแล้วด้วย” สมัตถ์ว่าเทียนหยดส่ายหน้าดิก ซบศีรษะลงกับบ่าของสามี สองมือของทั้งสองจับกันไว้มั่น มีแหวนแต่งงานสวมไว้คนละวง“เดินต่ออีกนิดนะคะ สัก...ต้นมะพร้าวต้นนู้น...ค่อยกลับ” ว่าที่คุณแม่ชี้ไปข้างหน้า เจ้าเล่ห์น้อยๆ เพราะต้นมะพร้าวที่ว่าอยู่ไกลโข“ไม่เหนื่อยหรือไง เดินมาตั้งไกลแล้วนะ”“ไม่ค่ะ ถ้าเหนื่อย จะขึ้นหลังคุณแล้วกัน”“หึๆๆ

  • พรางพิษ   EP 21/2 พรางรัก

    “ฉันรู้ และขอโทษที่มัวแต่ทำใจในเรื่องนี้จนละเลยสิ่งที่ควรปฏิบัติต่อเธอ ฉันเสียใจที่แม่ต้องตาย แต่มันเสียใจมากกว่าเดิมที่รู้ว่าคนที่ทำให้ท่านต้องตาย...คือเธอ” เขาเอ่ยด้วยเสียงเหมือนผิดหวังระคนน้อยใจ ทำไมต้องเป็นเทียนหยดด้วยเล่า ทำไม“ขอโทษ ฉันขอโทษนะคุณสมัตถ์ ขอโทษจริงๆ”“ชู่ว์...เราเลิกพูดเรื่องนี้เถอะนะ พูดไปก็มีแต่เจ็บปวด ฉันเชื่อว่าเธอไม่ได้ตั้งใจ อุบัติเหตุน่ะ ไม่มีใครอยากให้มันเกิดหรอก เราลืมเรื่องร้ายๆ แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่กันเถอะนะ ลืมมันให้หมด ลืมว่าเราเคยเกลียดกัน ลืมว่าเราเคยทุกข์ทรมานเพราะความสูญเสีย เรามาอยู่กับปัจจุบันดีกว่า ยังมีอีกหลายอย่างที่เราต้องทำไม่ใช่เหรอ เรามาทำมันไปพร้อมกันเถอะนะ”เทียนหยดน้ำตาซึม ถูกสมัตถ์ดึงตัวไปกอด และมันช่างอบอุ่นนัก นี่คืออ้อมกอดที่เธอโหยหา ช่างควรค่าแก่การเฝ้ารอเหลือเกิน“ฉันว่าเรากินมื้อค่ำดีกว่า ฉันมีอะไรอยากให้เธอดู”“อะไรคะ”“ไม่บอก เธอต้องรอดึกๆ และควรกินมื้อค่ำแล้วหลับสักงีบ ดึกๆ เดี๋ยวฉันปลุก”“แน่นะคะ&rd

  • พรางพิษ   EP 21/1 พรางรัก

    [21]พรางรัก___________รุ่งเช้าเสียงกุกกักดังขึ้นที่ข้างเตียง เทียนหยดลืมตาขึ้นช้าๆ สมองหนักอึ้ง โพรงปากรสชาติฝืดเฝื่อน พอขยับลุกขึ้นนั่ง มืออุ่นๆ ของสมัตถ์ก็ช่วยพยุงให้เธอนั่งดีๆ“เป็นยังไงบ้าง อยากอ้วกไหม”หญิงสาวพยักหน้าเมื่อถูกถาม และพอเขาเอาถุงพลาสติกมารอใต้ปาก เธอก็โก่งคออาเจียน มันทรมานเมื่อไม่มีสิ่งใดออกมากับการสำรอกนอกจากน้ำลายเปรี้ยวๆ สมัตถ์ไม่ได้นึกรังเกียจ เขายังช่วยลูบหลัง ช่วยเก็บถุงอาเจียนไปทิ้ง“ฉันจะไปทำงานแล้วนะ เอารถเธอไป”“เอ้า แล้วฉันล่ะ” เธอท้วง ถ้าให้นั่งแท็กซี่ช่วงนี้มีหวังได้อ้วกบนรถแท็กซี่แน่ๆ“เธอไม่มีรถก็ไม่ต้องไปสิ”“ได้ไง ฉันจะไป”“ฮื่อ...พูดไม่รู้ฟัง แพ้ท้องแทบจะยืนไม่ขึ้น ยังจะหาเรื่องอีก แล้วถ้าไปทำงานเผลอไปพะอืดพะอมให้พนักงานเห็น เดี๋ยวลูกน้องก็ได้นินทาพอดี” สมัตถ์หาทางเลี่ยงไม่ให้เทียนหยดไปทำงาน แต่เทียนหยดกลับคิดเป็นอื่น“ช่างสิ นินทาหรือ

  • พรางพิษ   EP 20/5 กว่าเราจะเข้าใจ

    สมัตถ์อมยิ้ม ยักไหล่ใส่คนที่ร้องขอ “ทำไมล่ะ”“กลัวลูกได้ยินมั้ง ฉันนี่ร้ายกาจจริงๆ”“ถึงร้ายก็รักนะ”“คะ?” ประโยคที่ออกจากปากสมัตถ์ทำเอาเทียนหยดตื่นตะลึง นี่เธอหูฝาดหรือเปล่า “อะไร ฉันไม่ได้ยิน”“เธอได้ยิน ฉันรู้”“ก็มันไม่แน่ใจนี่นา พูดอีกทีซิ”“ไม่”“น่านะ พูดอีกที” คนสวยร้องขอสมัตถ์เบะปากน้อยๆ ตั้งหน้าตั้งตาขับรถแต่ก็แอบมองเทียนหยดเป็นครั้งคราว เรียวปากคลี่ยิ้มบางๆ บางเสียจนเทียนหยดไม่ทันสังเกต“คุณจะพาฉันไปไหน” เธอถาม“ก็หาอะไรกิน แล้วพากลับบ้าน”“ไม่กลับ ฉันจะกลับคอนโดฯ ถ้าไม่ไปส่งฉันที่นั่น ก็เชิญคุณลงไปโบกแท็กซี่กลับเอง” เธอยืนยัน แล้วสมัตถ์จะทำอะไรได้ นอกจากทำตามที่แม่ของลูกบัญชา_________เวลา 21:30 นาฬิกากลิ่นนมหอมๆ ลอยอวลทั่วห้อง เทียนหยดผลักประตูเข้าไปแล้วสูดกลิ่นนั้นจนเต็มปอด ผู้ช่วยคนเก่งของเธอยืนยิ้มแป้นอยู่หน้าเตา เจ้า

  • พรางพิษ   EP 20/4 กว่าเราจะเข้าใจ

    เธอพยักหน้า จีรวัฒน์เคลื่อนกายออกจากโต๊ะตัวสูงมายืนอยู่ตรงหน้าเธอ ดวงตาเขามีหยาดน้ำตารื้นอยู่ในนั้น“โชคดีนะจี ขอโทษสำหรับทุกอย่าง”จีรวัฒน์มองเทียนหยดอย่างอาลัยอาวรณ์“ขอกอดสักทีได้ไหม ครั้งสุดท้าย...”เทียนหยดยิ้มน้อยๆ ดวงตามีหยาดน้ำใสไม่แพ้จีรวัฒน์ การจากกันด้วยดีย่อมน่าพิศสมัยกว่าการลาจากแบบโกรธเคือง อ้อมกอดของจีรวัฒน์อบอุ่นเสมอ ทว่าเธอไม่ต้องการมันอีกแล้ว หากมิได้อ้อมกอดของสมัตถ์มาครอบครอง เธอก็ขอแค่กอดตัวเองตลอดไปหวืด! โครม!ความโกลาหลเกิดขึ้นชั่วขณะ อะไรสักอย่างพุ่งมาทางด้านหลังเทียนหยดแล้วจับแยกหญิงสาวกับจีรวัฒน์ออกจากกัน จีรวัฒน์ถูกผลักจนล้มหงายหลัง ชนเข้ากับโต๊ะเก้าอี้โครมคราม แต่คนต้นเหตุยังไม่สาแก่ใจ ตามไปประเคนหมัดใส่จีรวัฒน์อีกสามทีซ้อนพลั่ก! พลั่ก! พลั่ก!“คุณสมัตถ์!? หยุดนะ! คุณสมัตถ์ฉันบอกให้หยุด!”พลั่ก!หมัดสุดท้ายกระแทกใบหน้าจีรวัฒน์จนเลือดกบปาก ด้วยว่าไม่นิยมออกกำลังกาย ร่างกายจึงมิใช่หุ่นนักกีฬา ไม่มีลวดลายพอจะต่อกรกับหมัดแกร่งของอีกฝ่ายสมัตถ์ลุกจ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status