“เรื่องบางเรื่องก็น่าแปลกที่เราไม่สามารถหาคำตอบให้มันได้” เขาเปรยราวกับปลงแล้วทุกสิ่ง
“บางทีเวลาอาจเป็นคำตอบ ฉันไม่รู้ว่าสามีฉันเอาอะไรมาวัดว่าคุณไว้ใจได้ อาจเป็นความรู้สึกผิดของเขา หรืออาจเพราะมันมีเหตุผลมากกว่านั้น ที่เขายกหุ้นให้คุณ แต่ฉันเชื่อใจเขานะ เขาคงไม่หาคนมาผลาญ RPS หรอก ในเมื่อเขาไว้ใจคุณ ฉันก็จะไว้ใจคุณ ไม่ว่าเหตุผลใดก็ตามที่รุ่งรดิศอยากให้ฉันมาอยู่ที่นี่ ฉันมาแล้ว เวลาอาจช่วยไขข้อข้องใจให้เราก็ได้ รอไปด้วยกันไหมคุณสมัตถ์”
แม้ไม่อยากเห็นด้วย แต่ไม่มีทางเลือกเลย สุดท้ายสมัตถ์ก็ต้องพยักหน้ารับคำนางผกากรอง นางยิ้มน้อยๆ ราวกับพอใจในคำตอบของเขา ก่อนจะยกเอาถาดฟักทองมาถือไว้แล้วลุกขึ้นยืน เขาลุกตามบ้าง ฟักทองเหลืองอร่ามในถาดอลูมิเนียมหากเอาไปทำแกงคงอร่อยไม่หยอก
“แม่ผมไม่ค่อยเข้าครัวเท่าไหร่ เราชอบความสะดวก ซื้อมากิน หรือไม่ก็ไปกินที่ร้าน ผมชินเสียแล้วกับการที่แม่บ้านแม่เรือนไม่ค่อยทำหน้าที่” เขาเอ่ยขำๆ แต่เหมือนแก้ต่างให้ศรีภรรยาที่ยังหลับไม่ตื่น
“ฉันเข้าใจค่ะ คนเราถูกเลี้ยงมาไม่เหมือนกัน ยัยเทียนเอง เห็นเป็นสาวสมัยใหม่อย่างนั้น ทำอาหารใช้ได้นะ แต่ไม่ค่อยทำหรอก แกว่าเอาเวลาไปรับออเดอร์งานดีกว่า รายนั้นเวลาเป็นเงินเป็นทอง พวกแม่ค้าออนไลน์น่ะ ฉันก็ไม่ค่อยรู้เรื่องหรอก” นางว่าแล้วยิ้มงาม ภูมิใจในตัวบุตรสาว
“หรือครับ ได้ยินเธอพูดเหมือนกัน”
นางพยักหน้ารับ ถือถาดออกจากใต้ร่มอโศกจะเข้าไปห้องครัวทางประตูหลัง สมัตถ์ไม่ได้ตามไป เขาตัดสินใจชั่วครู่ ก่อนจะเอ่ยบางอย่างออกมา
“คุณผกาครับ”
“คะ?” นางหันมาขานรับเขา ก่อนที่เท้าจะก้าวเข้าครัว
“ขอบคุณนะครับ ที่ทำอาหารให้เรากิน กับข้าวคุณอร่อยมากเลย”
“ฉันจะทำให้กินทุกวันค่ะ จนกว่า...เราจะไม่ได้อยู่ที่นี่”
นางว่าแล้วยิ้มอ่อน ก่อนจะก้าวเข้าห้องครัวไป
สมัตถ์ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม หัวใจเขาวูบโหวงแปลกๆ มันใจหายใช่ไหมที่ได้ยินผกากรองเอ่ยอย่างนั้น บ้านเขาหลังใหญ่แต่อยู่กันไม่กี่คน พอเทียนหยดพาทุกคนมาอยู่ด้วย บ้านก็ดูมีสีสันบ้าง แม้ว่าตอนแรกยังมีความโกรธความชิงชังระบายอยู่ทั่วบ้านก็ตาม แต่มาวันนี้ ความโกรธแค้นชิงชังนั้นเหมือนว่าจะค่อยๆ จางหายไป เพราะอะไรนะ เพราะความจริงใจของพวกหล่อนใช่ไหม
ชายหนุ่มยังหาข้อสรุปให้กับคำถามไม่ได้ สุดท้ายเลยต้องเดินกลับเข้าไปในสนามหญ้า เก็บอุปกรณ์ตีกอล์ฟใส่ถุงของมันแล้วยกสะพายบ่า ก่อนจะเดินเข้าบ้าน เพื่อสอนการบ้านให้โอบนิธิดังที่เทียนหยดปรารถนา
____________
ครึ่งชั่วโมงก่อนถึงเวลาอาหารเที่ยง
โอบนิธินั่งฟังสมัตถ์สอนการบ้านภาษาจีนอย่างมีความสุข ในขณะที่เทียนหยดนั่งเล่นอยู่บนโซฟาใกล้ๆ ด้วยอากาศที่ร้อนเป็นปกติ แม้จะอยู่ในบ้านที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำแต่เทียนหยดก็เลือกสวมกางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดแขนกุดแบบสบายๆ ทว่าเวลาเจ้าตัวนั่งเอนไปด้านหลัง กางเกงขาสั้นมันก็ยิ่งถูกรั้งขึ้นไป ต้นขาขาวเนียนจึงปรากฏแก่สายตาคนมองอย่างไม่ตั้งใจ
“อะแฮ่ม...อ่า...ถึงไหนแล้วนะโอบ” สมัตถ์กระแอมเพราะดันเอาสายตาไปมองท่อนขาเรียวๆ ของเทียนหยด ทำไมร่างกายถึงไม่ฟังสิ่งที่หัวใจต้องการนะ พยายามไม่วอกแวกไปกับสิ่งยั่วยุ แต่มันอดไม่ได้ บอกตัวเองเตือนตัวเองซ้ำๆ แต่ก็เหมือนเดิมทุกที ผู้ชาย...ยังไงก็เป็นผู้ชาย เห็นสาวๆ สวยๆ นุ่งสั้นๆ มานั่งใกล้ๆ ใครจะอดใจไม่มองได้ล่ะ เมื่อไหร่ราตรีจะลงมาเสียทีนะ อย่างน้อยร่างของศรีภรรยาคงพอช่วยปรามสายตาเขาได้บ้าง
“ตรงนี้ครับพี่ มันคล้ายกันจนแยกไม่ออก”
โอบนิธิชี้ใส่อักษรภาษาจีนกลางที่กล้ายกัน เขาต้องเขียนเป็นคำอ่านภาษาไทย และเขายังแยกมันไม่ออกระหว่างตัวนี้ กับอักษรในการบ้านข้อที่ผ่านมา
“ดูตรงขีดสิ เห็นไหม มันมีขีดเล็กๆ ตรงหาง ไม่เหมือนกัน” เขาอธิบาย
หนูน้อยยิ้มแป้น เมื่อสังเกตเห็น เริ่มจำได้แล้วว่าอักษรตัวนี้อ่านว่าอะไร เขาตั้งใจทำการบ้านต่อ ข้อไหนสงสัยหรือทำไม่ได้ค่อยถามพี่มัตถ์
สมัตถ์ก็ดูเด็กชายเขียนทุกอักษร บางข้อโอบนิธิทำผิด เขาก็ไม่ได้ทักท้วงในทีเดียว จะให้เด็กชายอ่านทวนอีกรอบ แล้วจึงค่อยอธิบายให้เข้าใจ โอบนิธิหัวดี ช่างจดจำ แต่ไม่ค่อยช่างพูด เป็นเด็กเงียบๆ เสียด้วยซ้ำ
“พ่อเก่งภาษาจีน” จู่ๆ เด็กชายก็เอ่ย การบ้านข้อสุดท้ายเสร็จลงพอดี สมัตถ์นั่งนิ่งรอฟัง “พ่อบอกว่าถ้าย้ายเข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ จะให้โอบเรียนภาษาจีน เราจะได้แอบคุยความลับกันโดยที่สาวๆ สองคนนั้นไม่รู้” เด็กชายชี้ไปที่ร่างพี่สาว ก่อนจะชี้ไปทางห้องครัว
สมัตถ์มีรอยยิ้ม “โอบก็ตั้งใจเรียนสิ เราจะได้มาคุยด้วยกัน”
“จริงนะครับ”
เด็กน้อยถามย้ำ ยิ้มจนตาหยี ในดวงตากลมแป๋วนั้นมีหยดน้ำตาเจือจาง
“อาฮะ” สมัตถ์รับคำ
“คิดถึงพ่อจังครับ พี่มัตถ์คิดถึงพ่อพี่มัตถ์ไหม”
“คิดถึงสิ” ใช่...เขาคิดถึง แต่เขาไม่ใช่เด็กอย่างโอบนิธิที่สามารถระบายความคิดถึงออกมาเป็นหยดน้ำตา “โธ่...โอบ ไม่เอานะ ร้องทำไม ไม่เอาๆ เดี๋ยวสาวล้อนะ โตแล้ว” ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ โอบนิธิน้ำตาร่วงพรูอาบสองแก้ม
เทียนหยดลดสมาร์ตโฟนในมือลงเมื่อรู้ถึงสิ่งผิดปกติรอบกาย และพอเห็นโอบนิธิมีน้ำตาก็เบนสายตานางยักษ์มายังสมัตถ์ทันที
“ฉันเปล่านะ” เขายกมือกางออก บอกให้รู้ว่าไม่ได้ทำอะไรน้องชายหล่อน
เทียนหยดลุกมานั่งกับน้อง โอบนิธิยังร้องไห้อยู่ เด็กชายไม่ใช่เด็กซุกซน เพราะอยู่แต่กับผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่จึงมีนิสัยอ่อนโยนและอารมณ์อ่อนไหว พอมาขาดพ่อไป โอบนิธิจึงยังทำใจไม่ได้
“จุ๊ๆๆ อย่าร้องนะโอบ ชู่ว์...” กอดน้องชายไว้แล้วน้ำตาจะไหล ทุกอาทิตย์คุณลุงจะมาหาโอบนิธิ แต่นับตั้งแต่ท่านเสียไป โอบนิธิก็ได้เฝ้ารอแค่ความว่างเปล่า จิตใจของเด็กนั้นอ่อนไหวเกินกว่าจะทนรับเรื่องร้ายๆ เธอไม่โทษน้องชายเลยที่ร้องไห้อย่างไม่อายใคร เพราะหากเธออายุเท่าเขา เธอคงนอนร้องไห้ทุกวันทุกคืน“พี่เทียน...ฮึกๆ คิดถึงพ่อ...พ่อไม่มาแล้ว...ไม่มากอดโอบแล้ว ฮือ...”เด็กชายร้องไห้ฟูมฟาย จนอกเสื้อพี่สาวเปียกชุ่ม เทียนหยดเห็นท่าไม่ดีก็ร้องหาตัวช่วย“แม่! แม่คะ แม่!”“อะไร! อะไรของแกฮึเทียน”ผกากรองเดินหน้าตื่นออกจากห้องครัว นางตรงมาทางห้องนั่งเล่น กลิ่นน้ำพริกแกงเลียงยังติดกายนางมาประหนึ่งถือถ้วยแกงมาด้วยสตรีวัยเลยสาวขมวดคิ้วมุ่นเมื่อเห็นบุตรชายนั่งร้องไห้อยู่กับอกคนเป็นพี่ นางเข้าไปดึงร่างโอบนิธิออกมา“แม่ครับ...ฮึกๆ”“หยุด...แม่บอกให้หยุดร้อง”ผกากรองใช้เสียงเรียบต่ำ บอกให้รู้ว่านางไม่พอใจที่เห็นเขาร้องไห้โอบนิธิปาดน้ำตา หน้าตายังบิดเบ้ พวงแก้มขึ้นส
“ตายจริง ขอโทษนะคะ ไนท์ปวดหัวเลยลุกไม่ขึ้น ไม่ได้ออกไปซื้อกับข้าวให้ทุกคนเลย” เอ่ยอย่างขออภัยแล้วนั่งลงข้างสามี สาวใช้รีบยกผ้ารองจานกับจานข้าวมาให้ ราตรียังตีหน้าสำนึกผิดจนสมัตถ์นึกสงสาร“ไม่เป็นไรครับ แม่น้องโอบทำกับข้าวแล้วล่ะ คุณกินสิ กำลังร้อนๆ เลย” ว่าแล้วตักแกงเลียงใส่ถ้วยเล็กๆ ให้ภรรยา แต่ราตรีที่ยังมีอาการเมาค้าง เกิดพะอืดพะอม ต้องยกแก้วน้ำขึ้นจิบ “โอย...ไหวไหมไนท์”สมัตถ์ถามอย่างห่วงใย ท่าทีเอาใจใส่ภรรยานั้นทำเอาเทียนหยดหน้าสลด แน่ล่ะ จีรวัฒน์ไม่ได้ครึ่งของสมัตถ์เลย เป็นเธอมากกว่าที่ต้องคอยเอาอกเอาใจเขา“พะอืดพะอมอย่างนี้จะมีข่าวดีหรือเปล่าคะ” ผกากรองตั้งข้อสังเกต แต่ทำให้สีหน้าของสมัตถ์เปลี่ยนไป เขาขยับนั่งตัวตรง หันไปมองภรรยา ฝ่ายนั้นก็ยื่นมือมาจับมือเขา มันทำให้เขาพอมีรอยยิ้มขึ้นมาบ้าง“ถ้าหล่อนหมายถึงเรื่องลูกละก็ เป็นไปไม่ได้หรอก หลานฉันเป็นหมันน่ะ”“คุณย่าคะ!” ราตรีเอ่ยดังๆ ด้วยไม่อยากให้นางศรีสุรางค์เอ่ยเรื่องนี้“ทำไมฮึยัยไนท์ มันเรื่องจริง ยอมรับส
มือเรียวยกป้องปากงาม หัวใจเต้นถี่ระรัว ทั้งโกรธ...ทั้งรัก ทั้งแค้นใจ! ไฟล์วิดีโอยังเล่นไปพร้อมๆ กับน้ำตาของเทียนหยดที่ไหลริน ริมฝีปากสั่นระริกเม้มแล้วเม้มอีก ดวงตาหลั่งสายธารออกมาราวกับน้ำตกผืนใหญ่ในฤดูฝนพรำ ยิ่งนั่งดู ยิ่งปวดใจ เฝ้ามองภาพคนรักของตัวเองกำลังนัวเนียกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับหญิงอื่น ทั้งสองปล้ำถอดเสื้อผ้ากันจนเหลือเพียงชุดชั้นใน และวินาทีที่เสื้อผ้าชิ้นสุดท้ายจะหลุดออกจากสองร่าง เธอก็กดหยุดวิดีโอ ก่อนที่หัวใจจะแตกสลายเพราะการกระทำของชายที่เธอจงรักภักดีเทียนหยดปิดพับหน้าจอกล้องถ่ายรูปเข้าหาตัว กล้องตัวนี้สมรรถภาพเยี่ยมยอด สามารถกดแชร์ภาพ แชร์วิดีโอลงแอปพลิเคชั่นเฟซบุ๊กได้ทันที เธออยากทำใจจะขาด อยากประจานความชั่วร้ายของคนทั้งสอง แต่สุดท้าย...ก็เก็บมันเข้ากระเป๋าถือใบโต หักห้ามใจเอาไว้ ข่มความโกรธความเจ็บใจ ไว้รอวันเอาคืน ตอนนี้เธอยังมีสติไม่พอ เธอกำลังโกรธมาก! และทุกอย่างจะพังพินาศถ้าเธอสติแตก!“อือ...เทียน...มาแล้วเหรอ”เสียงถามดังอืออามาจากห้องนอน เทียนหยดรีบปาดน้ำตา หยิบเครื่องสำอางมาเติมแป้งเติมลิปสติก มิให้มีรอยพิรุธ ทว่าแต่งเติมอย่างไร
“โธ่เทียน...ก็...ที่ตรงนั้นมันไม่ใช่แค่ห้าหกล้าน ถ้าขายจริงๆ มันอาจได้มากกว่านั้นเท่าตัวเลยก็ได้” จีรวัฒน์เริ่มหัวเสีย เทียนหยดปาดน้ำตา“งั้นจีเอาเงินมาคืนเทียนสิคะ เทียนจะได้เอาไปหมุน จีพูดอย่างนี้เทียนเสียใจนะ เทียนช่วยเหลือจีมาตลอด แต่พอเทียนลำบาก จีกลับไม่อยากช่วย ถามจริงๆ เถอะ รักเทียนบ้างไหม...” เทียนหยดเม้มปากแน่น ร้องไห้ฟูมฟายออกมา หยดน้ำตาแห่งความแค้นคลั่งหลั่งออกมาพร้อมกับน้ำตาแห่งความเสียใจจีรวัฒน์นึกสงสารเลยดึงร่างน้อยมากอด กายหนุ่มสัมผัสกายสาวพาให้ความรุ่มร้อนบังเกิดอย่างไม่รู้จักเวล่ำเวลา“ขอโทษนะเทียน จีขอโทษ...ขอเวลาจีหน่อยนะคนดี” ว่าพลางลูบแผ่นหลังบางเรื่อยลงมาถึงเอวคอดเทียนหยดตาเบิกโต รู้สึกได้ถึงฝ่ามือร้อนของอีกฝ่าย ได้แต่เม้มปากแน่น ดวงตาดุดันเพ่งมองไปข้างหน้าแต่ไม่ได้โฟกัสที่จุดใด แม้ในเวลาแห่งความทุกข์ จีรวัฒน์ก็ยังอยากทำบ้าๆ กับเธอ เอาสิจีรวัฒน์ ลองมาพนันกันดู!“เอามือออกนะจี เราเครียดกันอยู่นะ” บอกเสียงเง้างอนไม่จริงจัง จะชนะคนชอบฉวยโอกาส มันต้องทำให้แนบเนียน“ก็
“แน่นะคะ ถ้าผิดคำสาบานล่ะ”“ขอให้...ขอให้เทียนลงโทษอย่างสาสม พอใจหรือยังครับ”จีรวัฒน์เอ่ยทีเล่นทีจริง แต่เทียนหยดถือว่าสิ่งที่เขาเอ่ยออกมาคือคำสาบานที่เขาได้ลั่นวาจาออกมาแล้ว และหญิงสาวขอให้มันเป็นไปตามนั้น และเธอ...จะขอเริ่มบทลงโทษเขาตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป!“พอใจแล้วค่ะ จีน่ารักที่สุด” พูดจบก็ยิ้มกว้างแล้วโผเข้าหาร่างเขาจนอีกฝ่ายหงายหลังบนโซฟา เลยกลายเป็นว่าตอนนี้เธอทาบทับเขาไว้ และมันทำให้จีรวัฒน์พอใจ“เทียนน่ารักจังที่เป็นแบบนี้”“แบบไหนคะ” ถามพลางใช้นิ้วแหวกสาบเสื้อคลุมอาบน้ำของเขาให้แบะอ้าออก แล้วใช้มือบางลูบไล้แผงอกเปล่าเปลือยเล่นอย่างยั่วเย้า“ก็แบบนี้ไง แบบ...ยั่ว...”“เทียนเปล่ายั่ว ก็จีน่ารัก เทียนแค่แกล้งหรอกน่า”“จียอมให้เทียนแกล้งทั้งคืน” ไม่ว่าเปล่าๆ แต่ใช้มือข้างขวาลูบบั้นท้ายงามงอนไปมา ไม่ลืมขยำมันเบาๆ บั้นท้ายหล่อนช่างนุ่มหยุ่นขยำเท่าไหร่ก็มิมีเหลวอ่อน“แต่เทียนไม่ว่าง...” ลากเสียงยาวๆ แล้วก้มลงจุ
EP 6ยั่วฟืดๆๆเสียงสูดน้ำมูกดังๆ ก่อนที่เทียนหยดจะเอาหน้าผากออกจากหลังสมัตถ์ ชายหนุ่มเบี่ยงหน้าจะดูหลังตัวเอง ไม่เห็นมันหรอก แต่รู้เชียวละว่ามันคงเป็นด่างดวงเพราะหยดน้ำตา“ขอโทษนะ แล้วก็...ขอบคุณสำหรับแผ่นหลัง” เธอบอกเขา ปาดน้ำตาลวกๆ“เธอโอเคแล้วใช่ไหม”“ไม่...ไม่โอเค แต่ฉันหิว ขอกินก่อนแล้วค่อยไปนอนร้องไห้เป็นเผาเต่าที่ห้องก็ได้”สมัตถ์พยักหน้าหงึกๆ “งั้นฉันไปแล้วนะ ลงมานานแล้วเดี๋ยวไนท์สงสัย”“สงสัยบ้าอะไรล่ะ คุณกับฉันไม่ได้ลักลอบทำอะไรสักหน่อย”เทียนหยดหน้ายุ่ง เขาจะกลัวเมียอะไรนักหนา“อือ...นั่นแหละ ฉันรักของฉัน”“ค่า เชิญค่ะสามีตัวอย่าง” เธอประชดแล้วก้มหน้าลงจานข้าว เลยไม่ได้เห็นสมัตถ์ยิ้มกว้างยามโดนประชด พอเขาออกนอกประตูไป แม่สาวอกหักก็เงยหน้าขึ้นมา ทำไมผู้ชายดีๆ ไม่มีให้เธอบ้างนะ ที่สวรรค์ส่งมาให้ก็ช่างเลวได้ใจ ที่พอจะมองเห็นก็ดันมีเมียอยู่แล้ว ส
“ตัวนี้ว่าจะลองเองค่ะ เดี๋ยวนี้แม่ค้าออนไลน์เยอะ เราต้องทำให้เขามั่นใจในสินค้า แค่ถือครีมถือแป้งยืนถ่ายรูปอย่างเดียวไม่ได้แล้วค่ะ งานนี้คงต้องอัดคลิปลงยูทูปไปเลย” เมื่อเอ่ยถึงเรื่องงานความเครียดอีกเรื่องก็เข้ามารุมเร้า“ไหวไหมเทียน ไม่ไหวก็พัก แม่มีเงิน”ลูกสาวค้อนเข้าให้เมื่อมารดาเอ่ยอย่างนั้น“หนูก็อยากมีนี่คะ ไม่อยากขอเงินแม่ไปจนตายหรอก เงินแม่น่ะ เก็บไว้แต่งลูกสะใภ้เถอะค่า” ว่าแล้วยิ้มหวาน ตาบวมฉึ่งกับหน้าโทรมๆ นั้นมิได้เข้ากับรอยยิ้มเลยผกากรองเองก็ยิ้มกับลูกด้วย สุดท้ายเลยถูกลูกกอดแรงๆ“รักแม่นะคะ”“รู้แล้วน่า” ตอบแก้เขิน ยกมือยีกระหม่อมบางเบาๆ “งั้นกลับห้องดีกว่า เผื่อตาโอบตื่นมาไม่เจอ รายนั้นยิ่งกลัวผีอยู่ด้วย”“ค่า วันนี้หลับเร็วนะคะ หนูกลับมาบ้านเงียบเชียว”“อือ...คุณศรีสุรางค์ไม่สบายน่ะ พอกินข้าวเสร็จสองสามีภรรยานั่นก็พาย่าเขาเข้านอน ตาโอบก็ง่วงเพราะตอนบ่ายสมัตถ์สอนเล่นกอล์ฟจนเหงื่อชุ่ม ชอบใจใหญ่ ดูเขาเข้ากันดีนะ อาจเพราะตาโอบไม
“นายแน่มากโอบ”“ตัวแค่นี้รู้จักพูดนะ โอบนิธิ” ศรีสุรางค์ว่า ยิ้มน้อยๆ แต่ดูมีความสุข เป็นครั้งแรกที่นางยิ้มอย่างมีความสุขหลังจากผ่านเรื่องร้ายๆ บางที..การมาของพวกเตชะทัตก็มิได้เลวร้ายเสมอไปหรอก บางครั้งมันก็มีเรื่องดีๆ ดีมากๆ เสียด้วยมื้อเช้าเสร็จสิ้นในเวลาต่อมา ผกากรองพาโอบนิธิไปโรงเรียน ศรีสุรางค์กินยาแล้วไปเอนหลังในห้อง หญิงชราเจ็บป่วยด้วยสังขารที่ใกล้ร่วงโรย แล้วแต่ว่าวันนี้จะเป็นอะไร ปวดขา ปวดหัว ตัวร้อน นางก็สลับหมุนเวียนเปลี่ยนไปเรื่อยๆราตรีออกมาส่งสามีที่รถของเขา เหมือนเช่นทุกๆ วัน“ขับรถดีๆ นะคะ รีบกลับบ้านล่ะ”“ครับผม อย่าลืมดูคุณย่าด้วยนะไนท์ ปลุกแกกินข้าวเที่ยงถ้าแกเผลอหลับ ให้กินยาบำรุงด้วยนะห้ามลืม”“ค่า ไนท์จะทำตามทุกอย่างเลยค่า ตั้งใจทำงานนะคะ”“ครับ รักคุณจัง” บอกแล้วโน้มจมูกไปสูดดมแก้มบางเทียนหยดเดินมาเห็นต้องส่ายหัวให้ จินตนาการอันบรรเจิดของเธอแลเห็นสมัตถ์มีสองเขาผุดขึ้นเหนือหัวไปแล้ว สองเขานั้นงดงามยิ่งกว่าเขากวางเรนเดียร์เชียวล่ะ
เทียนหยดทำอย่างเดียวกับกับน้องชาย เหลือเพียงสมัตถ์ที่ยืนตัวแข็ง ใบหน้านิ่งเฉยไร้รอยยิ้ม“พี่มัตถ์ ไหว้พ่อสิครับ”สมัตนิ่งขึง เทียนหยดดึงชายเสื้อเขาแรงๆ เขาจึงยอมนั่งลง ท่ามกลางแสงแดดยามบ่ายคล้อยที่ยังร้อนอยู่“เธอคิดว่าทำอย่างนี้แล้วฉันจะยอมยกโทษให้เขาเหรอ” เขาถามเสียงเบาเพียงกระซิบ แต่มั่นใจว่าเทียนหยดได้ยินชัดเจน“ไม่หรอก เผื่อฟลุกไง เปิดใจหน่อยน่าคุณ ท่านทำทุกวิธีแล้วนะ ไม่ยกโทษให้ท่าน ก็โกรธท่านน้อยลงก็ยังดี นะๆ”เทียนหยดร้องขอพร้อมรอยยิ้มซื่อใส ใบหน้าน้อยติดอ้อนอย่างเด็กสาว ทำให้ใจของสมัตถ์กระตุกเบาๆ ต้องรีบหันหน้ามาทางที่เด็กน้อยนั่งอยู่ รูปของรุ่งรดิศยังคลี่ยิ้มละไม เขาเพิ่งเห็นหน้าของอีกฝ่ายชัดๆ ก็ตอนนี้ โครงหน้าเขา ดวงตาเขา หรือแม้แต่รอยยิ้ม คล้ายคลึงใบหน้าโอบนิธิไม่น้อยเลยสมัตถ์พ่นลมเบาๆ ออกจากปาก หน้าตาบอกบุญไม่รับ“พี่มัตถ์ร้อนเหรอ เดี๋ยวโอบยืนบังแดดให้นะ” ว่าแล้วโอบนิธิก็ลุกไปยืนบังแดดให้พี่มัตถ์ ด้วยยามบ่ายคล้อยดวงตะวันมิได้อยู่ตรงศีรษะ มันเลยส่องร่างด้านข้างของพี่มัตถ์ เข
เช้าวันอาทิตย์เสียมอันเล็กๆ ถูกเทียนหยดใช้ขุดดินดำๆ ที่ข้างสนามหญ้า หน้าห้องของเธอมีพื้นที่ว่างไม่น้อย และคงดีหากมีดอกไม้มาออกดอกให้ได้ยลโฉมบ้าง เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดพรายทั่วใบหน้างาม แต่ไม่ทำให้คนสวนจำเป็นย่อท้อ ยังตั้งใจขุดดินจนมันกลายเป็นแปลงขนาดสองคูณสี่เมตร ก่อนจะใช้ดินที่ซื้อมาคลุกเคล้าเข้ากับดินเดิมของมัน มีต้นดอกเทียนหยดอยู่ในถุงพลาสติก บางต้นเริ่มออกดอกสีม่วงสดใส บางต้นยังตูมอยู่ แต่พร้อมจะบานในไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า“อะแฮ่ม”เสียงกระแอมดังขัดจังหวะเสียมที่กำลังปักลงดิน เทียนหยดลุกยืน สมัตถ์ในชุดอยู่บ้านสบายๆ เดินแบกไม้กอล์ฟมาทักทายเธอแต่เช้า“อะไรติดคอคะ”เขาทำหน้ายุ่งเมื่อถูกเบรก “ฉันแค่อยากรู้เลยหาเรื่องคุยกับเธอน่ะ”“อาฮะ เข้าใจแล้ว อยากรู้อะไรล่ะ”“อยากรู้ว่าเธอกำลังทำอะไรน่ะสิ”หญิงสาวมองค้อน เขาไม่รู้จริงๆ หรือแกล้งไม่รู้กันแน่“วันอาทิตย์ฉันว่าง ไม่ต้องไปหาผู้ชาย เลยหาอะไรทำแก้เซ็ง” เธอบอก หอบน้อยๆ เพราะเหนื่อยจากการออกแรงข
“ไม่นะเทียน ก็แค่รูป เทียนอยู่ในใจจีเสมอ เทียน...อย่าร้องไห้ จีขอโทษ ปล่อยจีแล้วเรามาคุยกันนะเทียน” เขาวอนขอ รู้สึกวูบวาบหวามไหวขึ้นมาอีกแล้ว แม้จะถูกความจริงสาดใส่หน้าจนด้านชา ทว่าความรู้สึกปรารถนาเรื่องอย่างว่ายังคงมีอยู่ บ้าจริง! ทำไมเป็นแบบนี้ เหตุใดถึงควบคุมมันไม่ได้นะ!“ทรมานไหมคะ หึๆ”“อะไร? หมายความว่าไงฮะ!”เขาร้องถาม ยิ่งเห็นหล่อนหัวเราะเยือกเย็นยิ่งรู้สึกเสียวสันหลัง“ก็ทรมานเพราะอยากมีเซ็กซ์ไงล่ะ ชอบไม่ใช่เหรอ คืนนี้ได้ตายคาเตียงแน่จีรวัฒน์!”คนถูกขู่กลืนน้ำลายหนืดๆ ลงคอ ชักไม่มั่นใจแล้วว่าสถานการณ์นี้มันจะปกติ“เทียน แก้มัดเถอะ ขอร้อง”“ไม่...รู้อะไรไหมจีรวัฒน์ ดอกเทียนหยดน่ะ มันงดงาม น่ารักน่าทะนุถนอมจะตาย แต่ว่า...อย่าเผลอไปทำลายมันเข้าล่ะ เพราะพิษมันร้าย อาจทำให้คุณถึงตายได้เชียวนะ แต่อย่ากังวลไปเลย สิ่งที่คุณทำกับเทียนมันร้ายแรงก็จริง แต่เทียนไม่เอาคุณถึงตายหรอก ก็แค่ จดจำไปตลอดชีวิต จดจำชื่อเทียนหยดไปตลอดชีวิตเท่านั้นเอง...”&ldqu
[10]แด่คนสารเลว____________สมัตถ์มองวงหน้าน้อยอย่างพิจารณา ดูเอาเถิด หล่อนร้องไห้น่าสงสารนัก ตาหล่อนแดงก่ำ ปลายจมูกหล่อนแดงไปหมด มีแต่ซีกแก้มข้างที่เขาประคองอยู่นี้ที่มันมีสีม่วงอ่อนแซมจางๆ ผิวหล่อนเนียนนุ่มมือ ทั้งยังขาวสะอาด ไม่สมควรมีรอยอย่างนี้ให้ต้องมีตำหนิเลย“ฉันขอโทษจริงๆ”เธอพยักหน้าหงึกๆ “ฉันรู้ค่ะ” ฝืนยิ้มให้เขา หัวใจเต้นแรงยามปลายนิ้วเรียวเกลี่ยหยดน้ำตาออกให้ เขาคงทำไปเพราะความเคยชินกระมัง คนอย่างสมัตถ์แคร์ความรู้สึกสุภาพสตรีเสมอ โดยเฉพาะภรรยาเขา และครั้งนี้ ความเผลอคงทำให้เขาแบ่งปันมันมาให้เธอ“อ่า...ขอโทษที ฉัน...” ไร้คำแก้ต่างใดๆ ยามรู้ตัว สมัตถ์ดึงมือออกช้าๆ เทียนหยดมองมันอย่างแสนเสียดาย“ฉันต่างหากที่ต้องขอโทษ...ขอโทษจริงๆ รู้ไหม...ตอนนี้ฉันอยากยืมแผ่นหลังคุณจัง มันคงซับน้ำตาฉันได้ดีกว่ากระดาษเช็ดหน้าแน่ๆ” บอกเขาขำๆ มีรอยยิ้มทั้งที่น้ำตายังไหลอยู่“ไม่...ไม่ดีหรอก...ไม่ได้”“
วันรุ่งขึ้นผกากรองยืนอยู่ข้างรถตัวเอง นางกำลังจะไปส่งบุตรชายที่โรงเรียน แต่อยากถามบางอย่างจากสมัตถ์ก่อน เขาเดินออกมาขึ้นรถตามปกติ ราตรีตามมาส่งเขาแต่กลับเข้าบ้านไปแล้ว“เดี๋ยวค่ะคุณสมัตถ์”สมัตถ์ชะงักมือที่กำลังจะเปิดประตูรถ รับรู้ถึงการมาของสตรีวัยเลยสาว“ครับ”“คุณเจอยัยเทียนบ้างไหม ฉันไม่ได้เจอลูกมาสองสามวันแล้ว อยู่บ้านเดียวกันแท้ๆ” นางบ่นสมัตถ์ถอนหายใจเบาๆ ภาพเมื่อคืนจู่โจมเขาจนรู้สึกอึดอัด ต้องขยับเนกไทให้หลวมยิ่งกว่าเดิม “เอ่อ...เธอคงยุ่งอยู่กับแฟนมั้งครับ”“งั้นเหรอ เฮ้อ...ยัยเทียนนะยัยเทียน จะเลิกกับนายนั่นอยู่แล้ว ไม่รู้จะไปข้องแวะทำไมอีก”“นั่นสิครับ” เขาสำทับผกากรองตาเบิกโต “คุณรู้เรื่องด้วยหรือคะ”เขาพยักหน้า “เธอระบายน่ะ อกหัก แฟนมีคนอื่นและเธอกำลังหาทางเอาคืน” เขาอธิบายผกากรองหนักใจยิ่ง “ฉันไม่เห็นด้วยเลย ผู้ชายยังไงก็เป็นผู้ชาย มันอันตรายจะตายไป ถ้ายังไงถึงบริษัทแล้ว รบกวนคุณช่วยบอกเธอให
กลางดึกของคืนอันขุ่นมัวด้วยความไม่เข้าใจ เทียนหยดยืนอยู่ใต้ร่มอโศกในชุดนอนแบบสตรีที่ไร้เสื้อคลุม มวลไอแห่งหยดน้ำค้างลอยอ้อยอิ่งเต็มสนาม ราตรีกาลอันมืดสลัวมีเพียงแสงสว่างรางเลือน หญิงสาวกะพริบตาถี่ๆ มิได้รู้สึกถึงฤทธิ์แอลกอฮอล์ในร่างแล้ว เธอยืนนิ่งในจุดที่เพิ่งผละจากสมัตถ์ ไอเย็นจากบรรยากาศรอบกายทำให้ต้องยกมือกอดอก ถามตัวเองในใจว่าทำไมต้องมายืนอยู่ตรงนี้ ทำไมไม่กลับไปนอนเสีย นี่ก็ดึกมากแล้ว เขาคงไม่ลงมาแล้วกระมังทว่าในวินาทีที่ก้าวขาออกเดิน แขนข้างหนึ่งของเธอก็ถูกกระชากอย่างแรง“โอ๊ย!”“ชู่ว์...” สมัตถ์ห้ามเสียงหวีดร้องของแม่คนงาม เขาดึงร่างเทียนหยดเข้ามาหาแล้วดันจนแผ่นหลังหล่อนชิดต้นอโศก“เจ็บนะ” เธอบอก“เธอชอบแบบนี้ไม่ใช่เหรอ ไงล่ะ ในที่สุดก็ทนไม่ไหวต้องออกมาอ่อยฉันถึงที่”เสียงสบประมาทแม่คนใจกล้าดังอยู่ข้างหูหญิงสาว เทียนหยดใจเดือดปุดๆ พยายามแกะมือเขาออกจากแขนตัวเอง แต่ทำไปก็เท่านั้นเพราะตอนนี้ร่างเธอกับเขาแนบชิดกันแทบทุกสัดส่วน ปลายจมูกเขาคลอเคลียที่ข้างแก้มเธอ ได้ยินเสียงลมหายใจเข
ตีหนึ่งกว่าๆ เทียนหยดขับรถกลับมาถึงบ้าน มันดึกมากแล้ว แต่ใครบางคนยังไม่นอน เขามองมาทางนี้ตอนที่เธอเอารถเข้าไปจอดให้เรียบร้อย ไฟข้างสนามหญ้าส่องร่างเขาเจิดจ้า มองไกลๆ ราวกับว่าตัวเขาเปล่งแสงได้อย่างไรอย่างนั้นสองขาเรียวพาร่างก้าวลงจากรถตรงไปยังห้องของตัวเอง สมัตถ์จ้องเธอเขม็ง ให้ตายเถอะ เธอดื่มเหล้ามาพอสมควร และอยากนอนพักมากกว่าหาเรื่องคน“ไปไหนมา”“ฉันต้องตอบคุณด้วยเหรอ” โต้กลับเสียงห้วน ความเสียใจเรื่องจีรวัฒน์บวกกับฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้ความบ้าบิ่นในกายลุกฮือขึ้นเรื่อยๆ ทำไมนะ ทำไมคนที่แสนดีอย่างเธอต้องมาพบเจอจีรวัฒน์ในขณะที่คนเลวๆ อย่างราตรีได้ผู้ชายแสนดีอย่างสมัตถ์ไปครอบครอง“ไม่ตอบก็ได้แต่รู้ไว้ว่าเธอทำให้ฉันมีปัญหา ฉันทะเลาะกับไนท์และไนท์ไม่ยอมให้ฉันเข้าห้อง” เขาบอกรัวเร็ว เดินตามหลังหล่อนจนเกือบจะไปถึงห้อง หล่อนหยุดยืนใต้ร่มเงาของต้นอโศกต้นใหญ่ที่อยู่หลังห้องครัว ด้วยร่มเงาของมันทำให้แสงส่องเข้ามาไม่มากมายนัก หล่อนใช้มือข้างหนึ่งค้ำลำต้นของมันไว้ราวกับไม่มีแรงยืน ก่อนจะหันกลับมาหาเขา ยกมือกอดอกแน่น หน
เวลา 14:30 นาฬิกา ณ สำนักงานที่ดินกรุงเทพฯ โฉนดที่ดินใบงามถูกส่งลงซองเอกสารแล้วเรียบร้อย ไม่ทันให้เจ้าของเก่าของมันได้พิจารณาด้วยซ้ำ หัวใจของจีรวัฒน์สั่นไหวแปลกๆ กลัวว่าจะไม่ได้โฉนดคืนก็กลัว กลัวว่าจะเสียเทียนหยดไปก็กลัว แต่เมื่อตัดสินใจไปแล้ว ก็คงทำอะไรไม่ได้ แต่มั่นใจอย่างหนึ่งว่าเทียนหยดไม่มีวันทอดทิ้งเขา หลายปีที่ผ่านมาหล่อนคอยช่วยเหลือเขามาตลอด เขาจะถือว่าครั้งนี้ ที่ยกที่ดินให้หล่อน เป็นการตอบแทนความดีของหล่อนก็แล้วกัน“ทีนี้จีก็ไม่มีอะไรเหลือแล้ว” เขาโอดครวญ“บ้านะสิ ยังเหลือตัวกับหัวใจ”เทียนหยดเย้า เดินควงแขนเขาไปยังลานจอดรถของสำนักงานที่ดิน“หัวใจก็ไม่เหลือ ให้เทียนไปเหมือนกัน”เทียนหยดแอบทำท่าแหวะใส่อากาศ แน่นอนว่าจีรวัฒน์ไม่มีทางได้เห็น“ขอให้จริงค่ะ ถ้าจีแอบมีคนอื่นนะ เทียนจะทำให้จีจดจำเทียนไปตลอดชีวิตเลย เทียนน่ะ...ทุ่มเทกับจี รักจีมากนะคะ จีน่าจะรู้ ที่ทำงานหนักทุกวันนี้ก็เพื่อเรา ถ้าจีแอบทรยศเทียนละก็ เทียนคง...ใจสลาย”เธอเอ่ยแล้วสังเกตสีหน้าจีรวัฒน์ เขาช่าง
บทรักจากสองร่างยังดำเนินต่อไปอีกกว่าชั่วโมง ฝ่ายสามีจึงได้ปลดปล่อยสายธารแห่งชีวิตออกมาอย่างท่วมท้น พอๆ กับศรีภรรยาที่เสร็จสมอารมณ์ใคร่เป็นหนที่สอง สุขจนแทบหมดเรี่ยวแรง ได้แต่นอนหงายหอบหายใจที่กลางเตียงกว้างเคียงข้างสามีสมัตถ์นอนพักเหนื่อย เขาพร้อมจะปิดเปลือกตาลงด้วยความเพลีย แต่ฝ่ายศรีภรรยาคงไม่คิดเช่นนั้น ราตรียังไม่พอ หล่อนสะกิดเขาด้วยการลุกมาคร่อมร่างเขาไว้อีกครั้งหนึ่ง“ไม่ๆๆ หมดแรงแล้วไนท์จ๋า”เขาพึมพำ ดึงผ้านวมมาคลุมร่างด้วยว่ารู้สึกหนาว“โอย...อย่าเพิ่ง ไนท์ยังไม่อิ่มเลย อีกรอบนะคะมัตถ์ขา...” ศรีภรรยาออดอ้อนสมัตถ์ส่ายหน้าช้าๆ ดวงตาปิดลงไปแล้วแต่ยังไม่สนิท“ขอแปะโป้งไว้คืนวันเสาร์นะครับที่รัก”“ไม่เอา วันเสาร์ไนท์เที่ยวนี่คะ คืนนี้แหละ นะๆๆ”“อือ...ไนท์ก็ไม่ต้องเที่ยวสักคืนสิครับ นะครับ วันนี้ผมเพลียจัง ฝันดีนะที่รัก” เขาดึงคนร่างเล็กลงมานอนข้างกันแล้วจุมพิตหน้าผากมนอย่างแสนรัก ก่อนจะเข้าสู่นิทราอันแสนสุข ไม่ได้สนใจเลยว่าราตรีจะรู้สึกอย่างไรศรีภรรยาพลิก