"อุ๊ย..บอสจะทำอะไรคะ" "ไม่รู้จริงเหรอว่าจะทำอะไร" ในขณะที่พูดใบหน้าหล่อคมก็ได้โน้มเข้าไปใกล้ริมฝีปากบาง "เดี๋ยวก่อนสิคะท่านประธาน ถ้าคุณคนนั้นขึ้นมา..เออ..บอสไม่กลัวว่าเธอจะเห็นหรือคะ"
Узнайте большеคนึงหา..หญิงสาวที่เติบโตมากับยาย เพราะถูกแม่ทิ้งไป เพื่อแต่งงานกับสามีใหม่ซึ่งเป็นมหาเศรษฐี
ตั้งแต่ที่แม่จากไปก็ไม่เคยติดต่อกลับมาหาอีกเลย วันที่ยายจากโลกนี้ไป ก็ไม่เห็นแม้เพียงเงาของแม่ที่มาไหว้ศพท่านเป็นครั้งสุดท้าย เธอยังจำคำที่ลุงซึ่งเป็นญาติห่างๆ บอกได้ดี ว่าติดต่อไปหาแม่ของเธอแล้ว แต่ท่านปฏิเสธที่จะมางานศพ เพราะกลัวสามีใหม่จะรู้ว่าเคยมีลูกมีผัวมาก่อน มันก็เลยสร้างความเคียดแค้นให้กับหญิงสาวยิ่งนัก แม้ลมหายใจสุดท้ายก่อนที่ยายจะสิ้น ยังเอ่ยชื่อแม่ของเธอขึ้นมา ท่านคงจะคิดถึงลูกสาวคนเดียวของท่านมาก "คนึง แกจะไปกรุงเทพฯ จริงเหรอวะ" "อยู่ที่นี่ก็ไม่มีอะไรทำ คงต้องไปหางาน" "แกก็แต่งงานกับพี่เรานี่ไง" รัตนาเพื่อนสนิทของคนึงหา พยายามเป็นแม่สื่อแม่ชัก เพราะอยากได้เพื่อนรักมาเป็นพี่สะใภ้ แต่ดูเหมือนคนึงหาจะไม่สนใจใครเลย ไม่ว่าผู้ชายจะเข้ามาหาสักกี่คน "แกอย่าพยายามเลย เราคงไม่ชอบผู้ชายหรอกมั้ง" "หรือแกจะเอาฉันก็ได้นะ" "ไอ้บ้า" ทั้งสองพูดคุยและหัวเราะ มองดูท้องฟ้าไปพร้อมกัน เพราะตั้งแต่ยายจากไป เธอก็มาค้างบ้านเพื่อน ถ้าให้อยู่ที่บ้านหลังนั้น ก็คงทำได้แค่นอนร้องไห้คิดถึงยายไปวันๆ วันเดินทาง.. คนึงหาพอจะมีเงินที่ได้จากการทำประกันชีวิตของยายอยู่บ้าง เพราะงานศพของยายไม่ได้ใช้เงินมาก ชาวบ้านช่วยกันคนละไม้ละมือ เงินส่วนนั้นก็เลยพอเหลือให้เธออยู่ไปได้อีกสักพัก หญิงสาวมีแค่กระเป๋าใบเดียว แล้วขึ้นรถทัวร์มุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพฯ เมืองหลวงที่วุ่นวาย เรื่องเข้ามาหางานทำน่ะเหรอ มันเป็นเพียงแค่ข้ออ้าง แต่จริงๆ แล้ว เธอจะมาตามหาผู้หญิงใจร้ายคนนั้นมากกว่า หญิงสาวเจ้าของใบหน้าสวยหวาน ใครเห็นก็สะดุดตา เธอไม่ได้มีแค่ใบหน้าที่สะดุดตาเท่านั้น ทรวดทรงองค์เอวของเธอใครเห็นก็ถึงกับมองเหลียวหลัง ตอนนี้ได้มาถึงจุดหมายปลายทาง แต่ก็ยังไม่รู้ว่าต้องไปที่ไหนต่อ เพราะเบาะแสเดียวที่เธอมีก็คือชื่อบริษัทที่แอบได้ยินจากลุง แถมได้ยินมาไม่ค่อยชัดด้วย ถามแท็กซี่ไปแท็กซี่ก็ไม่รู้ "ถ้าออกหัวไปทางนี้ ออกก้อยไปทางนั้นแล้วกัน" มือเรียวคว้าเอาเงินเหรียญในกระเป๋าออกมา แล้ววางมันใส่หลังมือของตัวเอง "ช่วยคนึงตามหาแม่ด้วยนะจ๊ะยาย" จบประโยคคำอธิษฐานเธอก็ค่อยๆ เปิดเหรียญนั้นออกมา กึก! แต่เหรียญดันตกลงที่พื้นแล้วกลิ้งไป "หยุดก่อนสิแกจะไปไหน ยังไม่เห็นเลยว่าออกหัวหรือออกก้อย" เท้าเรียวรีบสาวตามเหรียญนั้นไปโดยไม่ได้มองคนที่อยู่ด้านหน้า จนชนเข้ากับใครบางคน "ขอโทษค่ะ คุณเป็นอะไรไหมคะ" "มะ..มะ..ไม่เป็นอะไร" ผู้หญิงคนนั้นดูกระวนกระวายจนเธอสัมผัสได้ "ไปไหนแล้วไม่รู้ คุณพอจะมีเหรียญให้ฉันยืมไหม เมื่อกี้ฉันยังไม่รู้เลยว่าออกหัวหรือออกก้อย" "มะ..มีค่ะ" เธอคนนั้นค่อยๆ ล้วงกระเป๋าตัวเองเอาเหรียญออกมา "ฉันอยากได้เหรียญบาทค่ะ ไม่ได้อยากได้เหรียญสิบสักหน่อย" "..มีค่ะ แต่อยู่บนรถ" "งั้นดีเลยค่ะ พาฉันไปเอาหน่อย" ว่าแล้วเธอก็ผลักตัวผู้หญิงคนนั้นออกไปพร้อมกับเท้าที่ถีบกลับหลัง จนถูกกล่องดวงใจของผู้ชายที่ยืนอยู่กับผู้หญิงคนนี้ก่อนหน้านั้น "วิ่งสิคะรออะไร!" พอเห็นว่าไอ้หมอนั่นมันจุก เธอก็รีบคว้ามือของผู้หญิงคนที่เธอขอยืมเหรียญให้วิ่งตามมา ทั้งสองวิ่งจนเหนื่อยหอบ แล้วมาหยุดอยู่ที่หน้าสถานีตำรวจ "ขอบคุณนะคะที่ช่วย" "ฉันว่าคุณเข้าไปแจ้งความก่อนดีกว่าค่ะ" "ไม่ค่ะ" "ทำไมคะ" "เหตุผลส่วนตัวค่ะ" "ถ้ามันกลับมาทำร้ายคุณอีกล่ะ" "ขอบคุณอีกครั้งนะคะที่ช่วย" "ตายแล้ว" "อะไรคะ" "ก็กระเป๋าของฉันน่ะสิ" คนึงหาตกใจมากขณะที่กำลังวิ่งเธอเผลอทิ้งกระเป๋าไป "มีอะไรสำคัญอยู่ในนั้นไหมล่ะคะ" เพราะถ้าให้กลับไปเอาคงเจอไอ้ผู้ชายคนนั้นอีกแน่ "มีแต่เสื้อผ้าค่ะ" โชคดีที่กระเป๋าเงินเธอเอาไว้ในกางเกง "แล้วนี่คุณจะไปที่ไหนคะ" "ไม่รู้เหมือนกันค่ะเพิ่งจะมาจากบ้านนอก" "ถ้าไม่มีที่พักไปพักกับฉันก่อนก็ได้" "จริงเหรอคะ" คนึงหาไม่ปฏิเสธเลย เพราะยังไม่รู้ว่าคืนนี้จะไปนอนที่ไหน [คอนโด] ..มันเป็นคอนโดที่ไม่ค่อยใหญ่แต่ค่าเช่าก็แพงพอตัว เพราะอยู่ใจกลางเมืองกรุง "ยังไม่ได้ถามชื่อคุณเลย" ในขณะที่เปิดประตูห้องหญิงสาวที่เป็นเจ้าของห้องได้หันมาถาม "ฉันชื่อคนึงหาค่ะ" "คนึงหาชื่อแปลกจังเลยนะคะ" "ค่ะ..แปลก" พูดถึงชื่อตัวเองทีไรก็แอบเศร้าใจ "ส่วนฉันชื่ออัญนะคะ ชื่อจริงชื่ออัญญารัตน์ค่ะ" "คุณชื่อเพราะจังเลยนะคะ" "คอนโดเล็กหน่อยนะ" "ไม่เล็กหรอกค่ะ คุณอยู่กับใครคะ" ที่เธอถามไปเพราะถ้าอัญญารัตน์มีสามี เธอคงจะเกรงใจแย่ "อยู่คนเดียวค่ะ" "ถ้างั้นฉันขอพักอยู่ที่นี่จนกว่าจะหาบริษัทนั้นเจอได้ไหมคะ" "บริษัทอะไรคะ" "วิวัฒนาเครื่องจักรกล เสรี.." คนึงหาพยายามพูดทุกคำที่ได้ยินจากปากลุงที่คุยกับป้าอีกที "เสรีวิวัฒน์เครื่องจักรกลไหมคะ" "ใช่เลยค่ะ ทำไมคุณรู้ล่ะคะ" "ก็มันเป็นบริษัทที่ฉันทำงานอยู่ไงคะ" อะไรจะโลกกลมขนาดนี้ คุณยายช่วยคนึงใช่ไหมคะ ขอบคุณนะคะคุณยาย 🖋ชะนีติดมันส์ @มัดหมี่น้ำตาค่อยๆ คลอออกจากเบ้า เมื่อเห็นหน้าหลานชายคนแรก นางเป็นได้ทั้งย่าและยายของเด็กคนนี้ พ่อของเด็กก็คือลูกชายที่นางเลี้ยงมา และแม่ของเด็กก็คือลูกสาวแท้ๆ ของนางเอก"ยังเจ็บอยู่ไหมลูก""ไม่เจ็บแล้วค่ะ" คนึงหารู้ซึ้งก็วันนี้ ตอนที่อยู่ในห้องคลอด ถึงแม้ว่าจะกุมมือสามีไว้ แต่ขณะที่เจ็บมากๆ ก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงแม่ ถึงแม้แม่จะคลอดแล้วทิ้งเธอไป แต่แม่ก็คงทรมานไม่ต่างกัน ในระหว่างที่อุ้มท้องและเบ่งคลอด"คุณได้ชื่อหลานหรือยังล่ะ" วิวัฒน์ถามภรรยาเก่าที่เอาแต่เช็ดน้ำตา ทั้งสองยังพูดคุยกันตลอดมา แต่จะคุยแค่เรื่องลูกและหลาน เพราะความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยาได้ขาดสะบั้นไปแล้ว"จะให้ฉันตั้งชื่อเหรอคะ""ใช่ครับคุณแม่" คนที่ตอบก็คือพร้อมรบ "คนึงบอกว่าจะรอให้แม่เป็นคนตั้งชื่อหลานให้" ในขณะที่พูดมือหนาของสามีก็กุมมือภรรยาไว้ตลอดเวลาคณิตมองดูลูกสาวที่นอนอยู่บนเตียงแล้วส่งยิ้มให้ทั้งน้ำตา"ยายบอกว่า ชื่อคนึงหา เป็นชื่อที่แม่ตั้งไว้ให้ค่ะ" คนึงหาเอ่ยพูดกับแม่เบาๆ ..ถึงแม้ชื่อนี้มันจะดูเศร้า แต่มันก็เป็นสิ่งเดียวที่เธอรู้สึกผูกพันกับแม่มาก หญิงสาวคิดว่าแม่อาจจะตั้งคล้องจองกับชื่อของท่านที่ชื่อคณิตแต่จริงๆ แล้ว
สองวันผ่านไป.. ก่อนที่จะกลับคนึงหาพาแม่มาไหว้ยายกับพ่อ ที่จริงคณิตก็มาไหว้ตั้งแต่วันถัดมาที่มาถึงแล้ว และนางก็มาทุกวัน ถึงแม้จะคิดได้ก็สายไปแล้ว ชีวิตที่เหลืออยู่ คณิตได้แต่สาบานกับตัวเองไว้ว่าจะไม่ทำตัวเหมือนแต่ก่อน โชคดีเท่าไรแล้วที่นางยังมีโอกาสได้กลับตัว ก่อนที่ทุกอย่างมันจะสายมากไปกว่านี้"คุณพ่อกับคุณยายต้องเข้าใจแน่ค่ะ คุณแม่อย่าคิดมากนะคะ"หึ..คณิตได้แต่ขำในใจ นางอายุขนาดนี้แล้ว ยังต้องให้ลูกเป็นคนคอยสอน เกิดมานางเคยมีดีอะไรบ้าง และนางก็ไม่คิดว่าลูกสาวที่นางทิ้งไป จะเป็นคนดีและกตัญญูได้ถึงเพียงนี้ ..ขอบคุณนะคะแม่ที่เลี้ยงคนึงหามาได้ดีขนาดนี้"ไปกันค่ะแม่" ก่อนที่จะเดินออกมาคนึงหาก็ได้หันไปคุยกับยายและพ่อว่าถ้ามีโอกาสจะพาแม่มาหาพวกท่านอีกพอทุกคนเสร็จธุระก็ออกมาที่รถตู้คันหรู ซึ่งมีต้นสนทำหน้าที่เป็นคนขับ[กรุงเทพฯ] ขับรถอยู่หลายชั่วโมงก็ได้มาถึงที่วิลล่าพอมาถึงก็เห็นลูกหว้าเตรียมของรอรับแม่กับพี่สาวและพี่ชายไว้แล้ว เพราะเธอติดต่อกับคนึงหาตลอดเวลา"คิดถึงคุณแม่จังเลยค่ะ" หญิงสาวเดินเข้าไปโอบกอดแม่ไว้ คนึงหาแอบมองที่น้องกับแม่กอดกัน เพราะลูกหว้าได้รับความอบอุ่นจากแม่แบบนี้เสมอ
ดวงตางามหลบสายตาคมที่มองแบบมีเลศนัย "คุณจะสอนยังไง" ลูกหว้าไม่ใช่คนที่ใฝ่หาเรื่องพวกนี้ ก็เลยไม่รู้ว่าถ้าจะช่วยผู้ชายต้องทำยังไง"ใช้ปาก"ยิ่งได้ยินคำพูดแบบนี้เธอก็ยิ่งอายไปกันใหญ่ ก็รู้แหละว่าการใช้ปากคือเอาไอ้นั่นเข้ามาในปากของตัวเอง เหมือนกับที่เขาใช้ลิ้นให้เธอ "เออ""ถ้าไม่ ก็ไม่เป็นไรนะครับ" โลกันตร์ไม่คิดจะบังคับเธออยู่แล้ว เพราะมันเป็นอะไรที่บางคนอาจจะรับไม่ได้หญิงสาวพยักหน้าเล็กน้อยเพื่อเป็นการตอบว่าจะช่วยเขา ..เห็นเท่านั้นแหละ โลกันตร์รีบคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำไปเพื่อทำความสะอาด เพราะทำงานมาทั้งวันชายหนุ่มใช้เวลาอาบน้ำอยู่เพียงไม่นานก็ออกมา ส่วนหญิงสาวที่นั่งอยู่ปลายเตียงถึงกับหน้าแดงก่ำ เมื่อเห็นเจ้ามังกรลำใหญ่มือแกร่งเอื้อมไปจับมือเรียวของเธอให้ขึ้นมาสัมผัสกับท่อนเอ็นอุ่น เขาใช้อุ้งมือของเธอเพื่อรูดมันขึ้นลง เพื่อให้เธอชินมือก่อน"ไม่ต้องอายผมนะ เราแต่งงานกันแล้ว" เห็นเธอหน้าแดงก็อดเอ็นดูไม่ได้ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่เวลาแบบนั้น เพราะเขาเริ่มเสียวซ่านเมื่อถูกมือเรียวกำแน่นขึ้นลูกหว้าเผยอปากขึ้นเมื่อเจ้าของท่อนเอ็นขยับมันเข้ามาใกล้แบบไม่ต้องให้บอก"อ๊าา เสียวจัง" เข้าไปได้แ
"แต่ลูกหว้า.." เธอเป็นลูกผู้หญิงที่คิดจะฆ่าท่าน แถมไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของท่านอีก แล้วเธอจะกล้ากลับไปได้ยังไง"ลูกจะทิ้งตาแก่ไว้ที่บ้านแบบนั้นคนเดียวได้ลงคอเหรอ""คะ?" ลูกหว้าไม่สามารถที่จะกลั้นน้ำตาไว้ได้ ทำไมท่านช่างดีกับเธอนัก ทั้งที่รู้ว่าเธอไม่ใช่ลูกแท้ๆ แต่ท่านก็ยังไม่เคยทำร้ายจิตใจของเธอเลยแม้แต่นิด"กลับบ้านเรานะลูก""ค่ะ คุณพ่อ" หญิงสาวโผล่เข้าไปกอดชายสูงวัยที่เลี้ยงเธอมาตั้งแต่คลอด ลูกหว้าไม่อยากรู้เลยด้วยซ้ำว่าใครเป็นพ่อแท้ๆ ของเธอ ขอแค่มีท่านคนเดียวก็พอแล้วเย็นวันเดียวกัน.. ที่คฤหาสน์เสรีวิวัฒน์ชายหนุ่มได้แต่ยืนมองคฤหาสน์หลังใหญ่ ที่ครั้งหนึ่งแม่ของเขาเคยอยู่ที่นี่ แต่ต้องหอบลูกในท้องออกจากบ้านของสามีไป เพราะความไม่รู้จักพอ ของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อ"เข้าบ้านกันค่ะ" มือเรียวเอื้อมไปกุมมือของสามีแล้วพูดกับเขาเบาๆ และมันก็ทำให้โลกันตร์ตื่นจากภวังค์ที่กำลังคิดอยู่คนร่างหนาเดินตามหญิงสาวตัวเล็กๆ ที่จูงแขนของเขาให้เดินเข้ามาในบ้านหลังใหญ่"ยินดีต้อนรับกลับบ้านทั้งสองคนเลยนะลูก" คนหนึ่งลูกชายในไส้ อีกคนลูกสาวที่เลี้ยงมากับมือ ไม่รู้ว่าจะเป็นความโชคดีหรือโชคร้ายกับสิ่งที่พบ
คนึงหาโทรกลับไปหารัตนาเพื่อวานให้ทำความสะอาดบ้านไว้รอ เพราะเธอจะพาแม่กลับไปส่วนพร้อมรบไม่ทิ้งให้พวกเธอกลับไปเพียงลำพังแน่ เขาก็เลยให้โลกันตร์อยู่ดูงานช่วยพ่อไปก่อนส่วนลูกหว้าอยากจะไปกับแม่และพี่สาว แต่ถ้าเธอไป สามีก็จะตามไปด้วย ลูกหว้าก็เลยจำเป็นต้องได้อยู่ที่นี่ไปก่อน แล้วค่อยตามไปอีกทีเมื่องานบริษัทเบาลงแล้วต้นสนทำหน้าที่ขับรถตู้คันที่เคยเป็นของคณิตมาก่อน เพราะถ้าเดินทางด้วยรถส่วนตัวก็จะสะดวกหน่อยขับรถอยู่หลายชั่วโมง ก็กลับมาถึงที่หมู่บ้านในช่วงเย็นหลายคนในหมู่บ้านที่ได้ยินข่าวว่าคณิตจะกลับมาต่างก็มารอรับ และทุกคนก็พูดแบบยินดีที่เห็นคณิตกลับมาบ้านเกิด"แม่นอนห้องนี้ได้ไหมคะ"คณิตมองดูบรรยากาศเก่าๆ บ้านหลังเก่า ห้องเก่าที่นางเคยนอนกับสามีพ่อของคนึงหา นางถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่"ไม่เป็นไรนะคะแม่ คนเราไม่จำเป็นต้องดีเสมอไป แต่ขอให้คิดได้ก็พอแล้ว" คนึงหาไม่รู้จะปลอบใจแม่ยังไง กลัวว่าอาการเดิมของแม่จะกลับมา"นอนได้สิจ๊ะ แต่ก่อนแม่ก็เคยนอนที่นี่แหละ"ในระหว่างที่ทั้งสองคุยกันอยู่ในห้อง ด้านนอกก็กำลังคุยเช่นกัน..."ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะพี่ต้น" จะไม่ให้ทักก็คงไม่ได้ แต่รัตนาก็รู้แล
"คุณแม่คะ" ลูกหว้าหันมองตามสายตาของโลกันตร์ไป ก็เห็นว่าเขากำลังมองแม่ของเธออยู่"ผมไปนะ" คำพูดนี้โลกันตร์พูดกับภรรยาก่อนที่จะหันหลังให้ ทำไมเขาถึงทำไม่ได้ เขาเองไม่ใช่เหรอที่เป็นคนพูดว่ามันคงเป็นเวรกรรมที่พวกท่านทำร่วมกันมา พอคิดได้แค่นั้น ชายหนุ่มร่างสูงก็ค่อยๆ หันกลับมาอีกครั้ง และสายตานั้นก็หันมองเห็นเธอกำลังเช็ดน้ำตาอยู่พอดี"คุณร้องไห้ทำไม"ลูกหว้าไม่ได้ขอร้องให้เขาหยุด เพราะคงไม่กล้าไปขอร้องเขาอภัยให้แม่ของเธอได้ ท่านทำกับครอบครัวของเขาไว้มากมายเหลือเกินชายหนุ่มรีบเดินกลับมาหาภรรยา มือหนาเอื้อมไปโอบเธอเข้ามาแนบอกตัวเองไว้"ไม่ร้องนะครับ"ที่ลูกหว้าร้องไห้เพราะไม่คิดว่าเขาจะหันกลับมา แต่พอเห็นเขาเดินกลับมาปลอบ มันยิ่งทำให้เธอเชื่อว่าผู้ชายคนนี้แคร์เธอมาก"แม่ขอคุยกับคุณโลกันตร์หน่อยได้ไหม""เอาไว้คุยวันหลังแล้วกันครับ" โลกันตร์พูดโดยที่ไม่หันไปมองนางเลยด้วยซ้ำ"แม่จะรอนะ""ไปพักดีกว่า" โลกันตร์มองต่ำลงมาพูดกับคนที่เขากำลังกอดอยู่ โดยที่ไม่สนใจประโยคนั้นของแม่เธอเลย"ไหนคุณบอกว่าจะกลับไปบริษัทไงคะ""ไม่กลับไปแล้ว" เรื่องงานเขาไม่ได้เป็นห่วงเลย สิ่งที่เป็นห่วงก็คือเธอกับลูกลูกหว้
Комментарии