‘ฮัลโหล โทรมาทำไม’
“คุณอยู่ไหม ว่างหรือเปล่า”
‘ไม่ ฉันต้องอยู่บ้านคืนนี้’
“โธ่ ทนไม่ไหวแล้ว มาหาหน่อย ได้โปรด...” เขาวอนขอคนปลายสาย ได้ยินเสียงหล่อนจุ๊ปากอย่างขัดใจ
‘ไม่ได้ๆ มันค่ำแล้ว และวันนี้ไม่ใช่วันเสาร์อาทิตย์ที่ฉันจะเที่ยวได้ พรุ่งนี้แล้วกัน’
ปลายสายต่อรอง จีรวัฒน์ยิ่งขัดใจ “โธ่...ไนท์ คิดถึงคุณ”
‘ชู่ว์...ฉันไม่ใจอ่อนหรอกนะ ต่อให้คุณลงแดงตายก็เถอะ อ้อ...อย่าโทรหาฉันอีก ฉันจะเป็นฝ่ายโทรหาคุณเอง แค่นี้นะ สามีฉันมา’
ตู๊ด...
จีรวัฒน์ขว้างโทรศัพท์ทิ้ง หลายปีที่คบกับเทียนหยดเขาก็มีผู้หญิงคนอื่นลับหลังหล่อนเสมอ จนกระทั่งได้มาพบราตรี หล่อนตอบโจทย์เรื่องบนเตียงให้เขาอย่างถึงอกถึงใจ ที่สำคัญ แม้ว่าหล่อนจะแต่งงานแล้วก็ยังไม่เลิกติดต่อกับเขา เมื่อมีเวลาก็มาเจอกัน สนุกกันบ่อยๆ เขาชอบแบบนี้ มีเมียชาวบ้านมาเสิร์ฟถึงเตียงแล้วจะไปหาซื้อตามอ่างตามเลาจน์ทำไม
แต่วันนี้ราตรีคงมาไม่ได้เสียแล้ว ให้ตายเถอะ แทนที่จะคิดถึงหล่อนเขากลับคิดถึงแต่ภาพก้อนเนื้ออว
“อะไรไนท์ ผมไม่รู้เรื่อง”“ไม่รู้เรื่องได้ยังไง! ก็ไอ้นี่มันอยู่ในรถคุณ! บอกมานะสมัตถ์ คุณมีคนอื่นใช่ไหม ใช่ไหมฮะ!” ไม่ถามเปล่าๆ แต่เข้าไปเค้นเอาความจริงด้วยการทุบตีสามี ความไว้เนื้อเชื่อใจหายไปสิ้น ความรู้สึกเหมือนถูกหักหลังจู่โจมหัวใจ ไม่ได้นึกถึงยามที่ตัวเองแอบไปมีสัมพันธ์กับชายอื่นเลยเผียะ!หนึ่งตบของราตรีกระทบซีกแก้มสมัตถ์อย่างแรง ชายหนุ่มยืนนิ่ง กำเจ้าผ้าผืนเล็กในมืออย่างโกรธเคือง เพราะมันแท้ๆ ที่ทำให้เขาโดนตบฟรีๆ“ทำไม! พูดไม่ออกเลยใช่ไหม รักมันมากหรือสมัตถ์! รักมันมากก็ไปเอากับมัน อย่ามายุ่งกับฉัน!” ราตรีตะโกนใส่ น้ำตาไหลเป็นทาง ริมฝีปากสั่นระริก ความโกรธวิ่งพล่านทั่วร่างเหมือนยาพิษชั้นดีที่กำลังแทรกซึมสู่หัวใจสมัตถ์ส่ายหน้า ชาที่ซีกแก้มเกินจะกล่าว รู้สึกถึงกลิ่นคาวเลือดจางๆ ที่มุมปาก ราตรีมือหนักเหลือเกิน“ผมไม่รู้เรื่องจริงๆ ฟังผมบ้างไนท์ ผมรักคุณคนเดียว ไม่เคยมีใครจริงๆ ส่วนเจ้านี่ ผมไม่รู้ว่ามันมาอยู่ในรถได้ยังไง ผมไม่รู้จริงๆ สาบาน...” เขาเอ่ยความจริง พยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบยามภร
ศรีภรรยาผู้แสนดีของสมัตถ์เดินมาส่งเขาที่รถตามเคย ทั้งสองร่ำลากันและจบด้วยการที่ศรีภรรยาเอียงแก้มให้หอมเทียนหยดยืนมองแล้วต้องเบือนหน้าหนีเพราะสงสารสมัตถ์เกินจะกล่าว พอเขาเคลื่อนรถออกไปราตรีก็เดินกลับเข้ามา ทั้งสองเดินสวนกันที่บันไดขึ้นลงด้านหน้า“รักกันจริงนะคะ” เทียนหยดเปิดฉาก อีกฝ่ายไม่อยากคุยด้วยนักแต่คงอดไม่ได้“แน่นอน ไม่ว่าอะไรก็มาพรากสมัตถ์ไปจากฉันไม่ได้หรอก พวกสัมภเวสีเที่ยวขอส่วนบุญน่ะ ไปหาเอาข้างหน้า”“โอ้...แรง!” เทียนหยดทำตาโตอ้าปากค้าง ตะลึงในคำผรุสวาทของอีกฝ่าย“เขาเป็นของฉัน ไม่มีวันชายตาแลคนอื่น อย่า...พยายาม” ราตรีเตือนเทียนหยดยิ้มเยาะ “อย่ามั่นใจนักสิ เคยได้ยินคำว่าทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่วไหม คนเราทำอะไรไว้มันก็ได้รับผลอย่างนั้นแหละ”“เธอหมายถึงอะไร”“ฉันแค่พูดในสิ่งที่เคยได้ยินน่ะ” ตอบอย่างมีนัย“ฉันดีพอสำหรับเขา ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่หลงฉันหัวปักหัวปำหรอก”“เฮอะ! น่าขำ” เทียนหยดทำทีหัวเราะอย
[8]ไม้ตาย**************กริ๊งๆๆเสียงโทรศัพท์ภายในดังขึ้นที่โต๊ะของหญิงสาว เธอหยิบมันมาแนบหู ก่อนที่ปัญหาเล็กๆ แต่ยิ่งใหญ่จะพรั่งพรูเข้ามาให้ต้องขบคิด เธอเจรจากับปลายสายราวสิบนาที ก่อนจะวางลงแล้วต่อสายหาผู้ช่วยผ่านโทรศัพท์มือถือ“นิดา”‘คะ คุณเทียน’“เรามีปัญหาแล้ว” เทียนหยดว่า ได้ยินเสียงครางของคนปลายสายดังแว่วมา‘ยังไงคะ’เทียนหยดลุกจากเก้าอี้มาคุยโทรศัพท์ดีๆ สมัตถ์มองหล่อนทางหางตา แล้วรีบเบนสายตาหลับมาที่จุดเดิม เพราะดวงตาเขาดันไปปะทะเข้ากับบั้นท้ายงอนงามยามเจ้าตัวขยับเคลื่อนไหว เรือนร่างของเทียนหยดช่างมีส่วนเว้าส่วนโค้งที่ดึงดูดใจคนมองเหลือเกิน“โกดังของ RPS ไม่มีพื้นที่พอให้ของของเรา”‘ตายแล้ว! แล้วจะทำยังไงดีคะ จะไปหาเช่าโกดังที่ไหน แล้วกี่วันคะถึงจะต้องย้ายของออกมา’ ปลายสายมีความกังวล เพราะของที่ว่านั้นก็มีปริมาณมากอยู่“ไม่ๆๆ ฉันไม่อยากเช่าเลย มันเพิ่มต้นทุนให้เราโดยใช่เหตุ จะดีกว่าถ้าเรามีโกดังของเราเอง”‘ที่ไหนละคะบอส’“นั่นนะสิ!” หยดเทียนหัวเสีย มีเวลาอีกสองเดือน เธอต้องหาโกดังให้ได้ “ฉันมีเวลาหาอีกไม่มาก ความจริงถ้าเราระบายของที่มีตอนนี้ออกจากโกดังได้ภายในสองเดือน ของใหม
“ฉันจะสั่งยานอนหลับทางอินเทอร์เน็ต”“ฉันจะโทรหาเมีย” เขาเอ่ยบ้าง เทียนหยดเบะปากใส่น้อยๆ แต่สมัตถ์ไม่สนใจ ถ้าหล่อนอยากอิจฉาคนมีความรักก็ช่างหล่อนเถิดหญิงสาวเดินกลับไปนั่งหลังโต๊ะทำงาน เสิร์ชหาของที่ต้องการทางอินเทอร์เน็ตแล้วสั่งให้เขาเอามาส่งที่นี่โดยยอมเสี่ยงจ่ายเงินก่อนเพื่อความสะดวก“ทำไมไม่รับโทรศัพท์นะ”เขาบ่นให้ศรีภรรยา ด้วยว่าต่อสายไปสองสามครั้ง รออยู่เป็นนาทีก็ไม่มีคนรับ“มีกิ๊กหรือเปล่า” เสียงหวานของเทียนหยดเอ่ยประชดประชันสมัตถ์หน้าตึง “ปากเสียจริงๆ ไม่แปลกที่โดนสวมเขา”เทียนหยดอ้าปากค้าง นี่เธอโดนด่าอยู่ใช่ไหม เสียความมั่นใจนะโว้ย!“คุณสมัตถ์!”“อะไร”“แทงใจดำฉันจึ๊กๆ เลย! อีตาบ้า!” ด่าเขาแต่มีรอยยิ้มระบายที่มุมปากสมัตถ์เองก็เผลอยิ้มไปด้วย หล่อนเอามือทุบอกข้างซ้ายปึ้กๆ ช่างน่าขัน ดูท่าว่าเทียนหยดจะเริ่มทำใจได้แล้ว มันคงตัดใจได้ง่ายในเมื่อกล่อนกับแฟนยังไม่เคยมีความสัมพันธ์ทางกาย นอกจากความรู้สึกและเงิน
โทรศัพท์ของจีรวัฒน์ยังมิได้ถูกดึงออกจากหูเลย เป็นเวลามากกว่าครึ่งชั่วโมงที่เขาโทรหาคู่ขาคนเก่ง หล่อนบอกคล้ายๆ ว่าจะมาหาเขาในวันนี้ ทว่านี่ก็ค่ำแล้ว แต่ยังไร้วี่แวว เขาทิ้งโทรศัพท์มือถือลงบนเตียงแรงๆ ตัดสินใจว่าจะนั่งทำงานต่ออีกสักนิดแล้วจะออกไปหาเด็กเลาจน์มานอนด้วย ช่วงนี้เขาเป็นอะไรก็ไม่รู้ รู้สึกได้ถึงแรงปรารถนาของตัวเอง มันพลุ่งพล่านบ่อยครั้ง ทั้งหมดทั้งมวลเกิดขึ้นเพราะเทียนหยด เพราะท่าทีที่เปลี่ยนไปของหล่อน ให้ตายเถอะ ถ้ารู้ว่าหล่อนจะร้อนแรงขนาดนั้น เขาคงล่อลวงให้หล่อนหลงอยู่ในบ่วงสวาทตั้งนานแล้ว ไม่ทำตัวเป็นสุภาพบุรุษรอให้หล่อนยินยอมพร้อมใจหรอกชายหนุ่มกลับไปที่โต๊ะทำงาน ตั้งสมาธิให้นิ่งแล้วเริ่มทำงานวาดแบบของตัวเอง กระทั่งเวลาสองทุ่มเศษๆ ประตูห้องเขาก็ถูกเปิดเข้ามา เสียงรองเท้าส้นสูงดังกระทบพื้นเป็นจังหวะทำให้เขารู้ว่าคนที่เดินเข้ามาคือใคร“โอ...คุณพระคุณเจ้า”จีรวัฒน์อุทานแล้วรีบลุกมาต้อนรับแม่สาวสวยสุดเซ็กซี่ที่ยืนพิงกรอบประตูอยู่ ผมที่ดัดเป็นลอนบางๆ ทำให้เทียนหยดดูเปลี่ยนไป ชุดที่หล่อนสวมก็ด้วย มันสั้นเพียงแก้มก้น คอเสื้อนั้นก็คว้านลงลึกจนเห
“เทียน...” จีรวัฒน์ครางชื่อเทียนหยดเสียงอ่อยเทียนหยดหันข้างให้ ทำทีปาดน้ำตาแม้รู้ว่ามันยังไม่ได้ไหลออกมา ก่อนจะเดินตรงไปที่ประตู ไม่ได้รีบร้อนนัก เพราะทุกย่างก้าวมันคือการท้าทายกับตัวเอง เธอเริ่มนับเลขห้าในใจ ตามด้วยสี่...สาม...สอง...หนึ่ง!“ก็ได้! เทียน! ก็ได้!”เธอหันหลังขวับ เลิกคิ้วสูงราวกับสงสัยทั้งที่รู้ว่าที่จีรวัฒน์จะเอ่ยออกมามันคือเรื่องใด “อะไรอีก เทียนรีบ”เขาไม่ตอบ แต่เดินเข้าไปในห้องอย่างเร่งรีบ แล้วกลับออกมาพร้อมกับโฉนดที่ดินในมือ“เอาไปเลย พรุ่งนี้จีจะไปเซ็นให้มันเป็นชื่อเทียน เทียนจะได้เอาไปค้ำประกันเงินกู้ แต่ขอร้อง เทียนอย่าไปเลยนะ มันอันตราย จีห่วง” ท้ายเสียงอ่อนโยนจนตัวเองยังรู้สึก เขากับเทียนหยดคบกันมานาน ย่อมมีความผูกพันความแหนหวง แม้ไม่มากมาย แต่ก็ยังมี“จี...จริงๆ นะ จีให้เทียนยืมจริงๆ นะ” ถามอย่างตื่นตะลึง และพอเขาพยักหน้า เธอก็คว้าโฉนดมาไว้ในมือแล้วกระโดดกอดคอเขาจีรวัฒน์อุ้มเทียนหยดแนบแน่นเนิ่นนาน ดีใจที่สามารถรั้งหล่อนไว้ได้ กลัวแสนกลัวว่าหล่อนจะไป กลัวอันตรายที่สมัยนี้ไม่สามารถมั่นใจได้เลยว่าจะไม่เกิด เรื่องบางเรื่องมันเกิดขึ้นได้เสมอ เทียนหยดผู้ไร้เดียงส
[9]ก่อนใจจะสลาย___________มือสั่นๆ ของสมัตถ์ เคลื่อนลงไปหาร่างบาง ใกล้เข้าไปเรื่อยๆ ราวกับถูกดึงดูดด้วยแม่เหล็กขนาดเท่าตึกสามชั้น มันดูดมือเขาเข้าไปหากางเกงชั้นในสีม่วงที่ห่อหุ้มความอวบอูม เขากลืนน้ำลายหนืดๆ ลงคอ จ้องมองมือตัวเองที่เข้าใกล้ส่วนนั้นของเทียนหยด และก่อนที่เขาจะทำอะไรให้ตัวเองต้องมานั่งเสียใจ มืออีกข้างที่ว่างอยู่ก็เลื่อนลงไปด้านล่าง เพื่อดึงผ้านวมมาปิดร่างหล่อน...จนชิดคอ“เฮ้อ...รอดตายแล้ว! สมัตถ์”สมัตถ์เดินตบอกเบาๆ ขึ้นมาจนถึงห้องนอน สิ่งที่มองเห็นติดตาเขาจนร่างกายรุ่มร้อนไปหมด เขาแลหาร่างภรรยาท่ามกลางแสงสลัวของไฟในห้อง หล่อนมิได้อยู่บนเตียง แต่ลุกไปเข้าห้องน้ำ ประตูห้องน้ำปิดอยู่ มีแสงสว่างลอดออกมาจากช่องเล็กๆ ด้านล่าง เขาเดินไปรอหล่อนหน้าประตูนั้น และพอหล่อนเปิดมันออกมา เขาก็รวบร่างหล่อนไว้หมับ!“ว้าย! ตกใจหมดเลยสมัตถ์ นี่แน่ะ!”ภรรยาคนดีตีแขนสามีเปาะแปะไม่จริงจัง ยังอมยิ้มกับการกระทำของเขา“หอม
บทรักจากสองร่างยังดำเนินต่อไปอีกกว่าชั่วโมง ฝ่ายสามีจึงได้ปลดปล่อยสายธารแห่งชีวิตออกมาอย่างท่วมท้น พอๆ กับศรีภรรยาที่เสร็จสมอารมณ์ใคร่เป็นหนที่สอง สุขจนแทบหมดเรี่ยวแรง ได้แต่นอนหงายหอบหายใจที่กลางเตียงกว้างเคียงข้างสามีสมัตถ์นอนพักเหนื่อย เขาพร้อมจะปิดเปลือกตาลงด้วยความเพลีย แต่ฝ่ายศรีภรรยาคงไม่คิดเช่นนั้น ราตรียังไม่พอ หล่อนสะกิดเขาด้วยการลุกมาคร่อมร่างเขาไว้อีกครั้งหนึ่ง“ไม่ๆๆ หมดแรงแล้วไนท์จ๋า”เขาพึมพำ ดึงผ้านวมมาคลุมร่างด้วยว่ารู้สึกหนาว“โอย...อย่าเพิ่ง ไนท์ยังไม่อิ่มเลย อีกรอบนะคะมัตถ์ขา...” ศรีภรรยาออดอ้อนสมัตถ์ส่ายหน้าช้าๆ ดวงตาปิดลงไปแล้วแต่ยังไม่สนิท“ขอแปะโป้งไว้คืนวันเสาร์นะครับที่รัก”“ไม่เอา วันเสาร์ไนท์เที่ยวนี่คะ คืนนี้แหละ นะๆๆ”“อือ...ไนท์ก็ไม่ต้องเที่ยวสักคืนสิครับ นะครับ วันนี้ผมเพลียจัง ฝันดีนะที่รัก” เขาดึงคนร่างเล็กลงมานอนข้างกันแล้วจุมพิตหน้าผากมนอย่างแสนรัก ก่อนจะเข้าสู่นิทราอันแสนสุข ไม่ได้สนใจเลยว่าราตรีจะรู้สึกอย่างไรศรีภรรยาพลิก
ราตรีใจหายวาบ รีบหาทางแก้ต่างเป็นการด่วน“อะไรนะ! บ้าไปแล้วสมัตถ์ ไม่มีอะไรทำหรือไงถึงได้มาหาเรื่องกัน ไนท์จะมีกลิ่นแบบนั้นได้ยังไงฮะ อย่ามาพูดแบบนี้นะ ไนท์โกรธ!” ราตรีทำเป็นตีโพยตีพาย แต่สมัตถ์ก็ไม่ยอมแพ้“แต่ผมมั่นใจ!”“ไปตายซะ! ไนท์อยู่ของไนท์ดีๆ มาว่าไนท์ทำไมฮะ! หรืออยากมีคนใหม่ ถ้าอยากมีก็ไปเลยสมัตถ์ ไม่ต้องมากล่าวหากันอย่างนี้!” ราตรีออกอาการเหวี่ยงวีน บีบน้ำตาจนมันไหลมาคลอเต็มสองเบ้าสมัตถ์ใจไหวยวบ น้ำตาผู้หญิงไม่เคยถูกจริตเขาเลย“ไม่ต้องมาบีบน้ำตา ตอบมาไนท์ ไอ้นั่นมันเป็นใคร!”“บ้าบอคอแตก ฆ่าไนท์เถอะถ้าจะให้ไนท์โกหก!”คำย้อนคืนของราตรีทำเอาสมัตถ์เริ่มไม่มั่นใจ“ก็มันจริง!” เขาเถียง ใบหน้าหล่อเหลาไร้แววรื่นรมย์ มันเครียดขมึง แดงก่ำและดวงตาเต็มไปด้วยโทสะราตรีร้องไห้กระซิกๆ ยืนมองสามี ริมฝีปากสั่นไหว“หลักฐานก็ไม่มี”“มี! แต่คุณอาบน้ำแล้วนี่” เขาเอ่ยออกมาเหมือนเยาะราตรีส่ายหน้าอย่างเหลืออด มือข้างหน
เสียงหัวเราะของราตรีช่างเจ้าเล่ห์เหลือร้าย สมัตถ์มุ่นคิ้วหนักๆ ความระแวงแคลงใจแล่นกลับสู่หัวใจอีกระลอก เขาตัดสินใจเคาะประตูก๊อกๆๆราตรีหันขวับมาหา ดวงตาเบิกโตเล็กน้อย หน้าเจื่อน รีบเอาโทรศัพท์ซ่อนไว้ด้านหลัง“เอ้า...มาแล้วหรือคะ วันนี้กลับไวจัง” ทำเป็นทักทายอย่างปกติ มิให้พิรุธสมัตถ์หรี่ตาลงอย่างสงสัย แต่วงหน้าก็ยิ้มแย้มเช่นเดิม เขาดึงเนกไทลงน้อยๆ แล้วเดินเข้าไปสวมกอดหล่อน“อะไรคะนี่”“ก็คิดถึง อยากกอด” เขาว่า สองแขนโอบร่างหล่อน แต่สองตามองลงไปเบื้องล่าง โทรศัพท์มือถือของหล่อนยังไม่วางสาย มันยังขึ้นแถบสีเขียวสว่างจ้า ไม่ปรากฏชื่อคนที่โทรเข้ามา มีแต่เบอร์ที่เป็นตัวเลขเท่านั้น เขาจนใจจะจำมันได้ครบเพราะเห็นไม่ชัดเจน และไม่กี่วินาทีต่อมาหล่อนก็ผลักเขาออก“พอแล้วค่ะ กลับมาเหนื่อยๆ ไปอาบน้ำก่อนสิคะ เหม็นเหงื่อ”“เหม็นตรงไหน ออกจะหอม” เขาเถียง ราตรีกลอกตาไปมา“เอ่อ...ไนท์ ไนท์ว่าจะลงไปดูคุณย่าค่ะ แกเอนหลังตั้งแต่บ่าย ไม่รู้ตื่นหรือยัง” เอ่ยยิ้มๆ เอามือถือ
[11]ระแวงแคลงใจ___________เสียงไขกุญแจเบาๆ ดังขึ้นที่หน้าประตู สมัตถ์รีบดึงผ้านวมขึ้นชิดปลายคาง ปกติเขาจะไม่ตื่นขึ้นมากลางดึกหากได้หลับลึกไปแล้ว ทว่าวันนี้ดันดื่มน้ำอัดลมเยอะไปหน่อย ท้องไส้เลยไม่ปกติต้องลุกมาหายารับประทาน ต้องถือว่าเป็นความผิดของโอบนิธิละนะ เพราะเด็กน้อยผู้น่ารักดันชวนดวนน้ำอัดลมตอนออกมาจากวัด จัดกันไปคนละหลายขวดโดยมีเทียนหยดเป็นเจ้ามือ นอกจากท้องอืดจนรับประทานมื้อค่ำไม่ได้แล้ว เลยได้ของแถมเป็นการปวดท้องตอนใกล้เที่ยงคืนนี่อย่างไรแกรก...เสียงลูกบิดประตูถูกหมุนให้ลงล็อก สมัตถ์ยิ้มกริ่มท่ามกลางแสงสลัวในห้องนอน ไฟในห้องเขาไม่ได้เปิด เปิดไว้เพียงไฟในห้องน้ำ ทว่ามันก็ถูกแง้มไว้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เสียงฝีเท้าของราตรีหยุดอยู่ที่หน้าห้องน้ำ ก่อนที่เสียงสั่นครืดๆ ของโทรศัพท์ไร้สายของหล่อนจะดังขึ้นเบาๆ เสียงควานหามันในกระเป๋าดังตามมา เขาเปิดเปลือกตาขึ้นดูเล็กน้อย ก่อนจะรีบหุบลงเมื่อหล่อนเหลือบมามอง“ฮัลโหล โทรมาทำไมฮะ”เสียงกระซิบกระซาบถามคนปลายสายสมัตถ์ม
เทียนหยดทำอย่างเดียวกับกับน้องชาย เหลือเพียงสมัตถ์ที่ยืนตัวแข็ง ใบหน้านิ่งเฉยไร้รอยยิ้ม“พี่มัตถ์ ไหว้พ่อสิครับ”สมัตนิ่งขึง เทียนหยดดึงชายเสื้อเขาแรงๆ เขาจึงยอมนั่งลง ท่ามกลางแสงแดดยามบ่ายคล้อยที่ยังร้อนอยู่“เธอคิดว่าทำอย่างนี้แล้วฉันจะยอมยกโทษให้เขาเหรอ” เขาถามเสียงเบาเพียงกระซิบ แต่มั่นใจว่าเทียนหยดได้ยินชัดเจน“ไม่หรอก เผื่อฟลุกไง เปิดใจหน่อยน่าคุณ ท่านทำทุกวิธีแล้วนะ ไม่ยกโทษให้ท่าน ก็โกรธท่านน้อยลงก็ยังดี นะๆ”เทียนหยดร้องขอพร้อมรอยยิ้มซื่อใส ใบหน้าน้อยติดอ้อนอย่างเด็กสาว ทำให้ใจของสมัตถ์กระตุกเบาๆ ต้องรีบหันหน้ามาทางที่เด็กน้อยนั่งอยู่ รูปของรุ่งรดิศยังคลี่ยิ้มละไม เขาเพิ่งเห็นหน้าของอีกฝ่ายชัดๆ ก็ตอนนี้ โครงหน้าเขา ดวงตาเขา หรือแม้แต่รอยยิ้ม คล้ายคลึงใบหน้าโอบนิธิไม่น้อยเลยสมัตถ์พ่นลมเบาๆ ออกจากปาก หน้าตาบอกบุญไม่รับ“พี่มัตถ์ร้อนเหรอ เดี๋ยวโอบยืนบังแดดให้นะ” ว่าแล้วโอบนิธิก็ลุกไปยืนบังแดดให้พี่มัตถ์ ด้วยยามบ่ายคล้อยดวงตะวันมิได้อยู่ตรงศีรษะ มันเลยส่องร่างด้านข้างของพี่มัตถ์ เข
เช้าวันอาทิตย์เสียมอันเล็กๆ ถูกเทียนหยดใช้ขุดดินดำๆ ที่ข้างสนามหญ้า หน้าห้องของเธอมีพื้นที่ว่างไม่น้อย และคงดีหากมีดอกไม้มาออกดอกให้ได้ยลโฉมบ้าง เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดพรายทั่วใบหน้างาม แต่ไม่ทำให้คนสวนจำเป็นย่อท้อ ยังตั้งใจขุดดินจนมันกลายเป็นแปลงขนาดสองคูณสี่เมตร ก่อนจะใช้ดินที่ซื้อมาคลุกเคล้าเข้ากับดินเดิมของมัน มีต้นดอกเทียนหยดอยู่ในถุงพลาสติก บางต้นเริ่มออกดอกสีม่วงสดใส บางต้นยังตูมอยู่ แต่พร้อมจะบานในไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า“อะแฮ่ม”เสียงกระแอมดังขัดจังหวะเสียมที่กำลังปักลงดิน เทียนหยดลุกยืน สมัตถ์ในชุดอยู่บ้านสบายๆ เดินแบกไม้กอล์ฟมาทักทายเธอแต่เช้า“อะไรติดคอคะ”เขาทำหน้ายุ่งเมื่อถูกเบรก “ฉันแค่อยากรู้เลยหาเรื่องคุยกับเธอน่ะ”“อาฮะ เข้าใจแล้ว อยากรู้อะไรล่ะ”“อยากรู้ว่าเธอกำลังทำอะไรน่ะสิ”หญิงสาวมองค้อน เขาไม่รู้จริงๆ หรือแกล้งไม่รู้กันแน่“วันอาทิตย์ฉันว่าง ไม่ต้องไปหาผู้ชาย เลยหาอะไรทำแก้เซ็ง” เธอบอก หอบน้อยๆ เพราะเหนื่อยจากการออกแรงข
“ไม่นะเทียน ก็แค่รูป เทียนอยู่ในใจจีเสมอ เทียน...อย่าร้องไห้ จีขอโทษ ปล่อยจีแล้วเรามาคุยกันนะเทียน” เขาวอนขอ รู้สึกวูบวาบหวามไหวขึ้นมาอีกแล้ว แม้จะถูกความจริงสาดใส่หน้าจนด้านชา ทว่าความรู้สึกปรารถนาเรื่องอย่างว่ายังคงมีอยู่ บ้าจริง! ทำไมเป็นแบบนี้ เหตุใดถึงควบคุมมันไม่ได้นะ!“ทรมานไหมคะ หึๆ”“อะไร? หมายความว่าไงฮะ!”เขาร้องถาม ยิ่งเห็นหล่อนหัวเราะเยือกเย็นยิ่งรู้สึกเสียวสันหลัง“ก็ทรมานเพราะอยากมีเซ็กซ์ไงล่ะ ชอบไม่ใช่เหรอ คืนนี้ได้ตายคาเตียงแน่จีรวัฒน์!”คนถูกขู่กลืนน้ำลายหนืดๆ ลงคอ ชักไม่มั่นใจแล้วว่าสถานการณ์นี้มันจะปกติ“เทียน แก้มัดเถอะ ขอร้อง”“ไม่...รู้อะไรไหมจีรวัฒน์ ดอกเทียนหยดน่ะ มันงดงาม น่ารักน่าทะนุถนอมจะตาย แต่ว่า...อย่าเผลอไปทำลายมันเข้าล่ะ เพราะพิษมันร้าย อาจทำให้คุณถึงตายได้เชียวนะ แต่อย่ากังวลไปเลย สิ่งที่คุณทำกับเทียนมันร้ายแรงก็จริง แต่เทียนไม่เอาคุณถึงตายหรอก ก็แค่ จดจำไปตลอดชีวิต จดจำชื่อเทียนหยดไปตลอดชีวิตเท่านั้นเอง...”&ldqu
[10]แด่คนสารเลว____________สมัตถ์มองวงหน้าน้อยอย่างพิจารณา ดูเอาเถิด หล่อนร้องไห้น่าสงสารนัก ตาหล่อนแดงก่ำ ปลายจมูกหล่อนแดงไปหมด มีแต่ซีกแก้มข้างที่เขาประคองอยู่นี้ที่มันมีสีม่วงอ่อนแซมจางๆ ผิวหล่อนเนียนนุ่มมือ ทั้งยังขาวสะอาด ไม่สมควรมีรอยอย่างนี้ให้ต้องมีตำหนิเลย“ฉันขอโทษจริงๆ”เธอพยักหน้าหงึกๆ “ฉันรู้ค่ะ” ฝืนยิ้มให้เขา หัวใจเต้นแรงยามปลายนิ้วเรียวเกลี่ยหยดน้ำตาออกให้ เขาคงทำไปเพราะความเคยชินกระมัง คนอย่างสมัตถ์แคร์ความรู้สึกสุภาพสตรีเสมอ โดยเฉพาะภรรยาเขา และครั้งนี้ ความเผลอคงทำให้เขาแบ่งปันมันมาให้เธอ“อ่า...ขอโทษที ฉัน...” ไร้คำแก้ต่างใดๆ ยามรู้ตัว สมัตถ์ดึงมือออกช้าๆ เทียนหยดมองมันอย่างแสนเสียดาย“ฉันต่างหากที่ต้องขอโทษ...ขอโทษจริงๆ รู้ไหม...ตอนนี้ฉันอยากยืมแผ่นหลังคุณจัง มันคงซับน้ำตาฉันได้ดีกว่ากระดาษเช็ดหน้าแน่ๆ” บอกเขาขำๆ มีรอยยิ้มทั้งที่น้ำตายังไหลอยู่“ไม่...ไม่ดีหรอก...ไม่ได้”“
วันรุ่งขึ้นผกากรองยืนอยู่ข้างรถตัวเอง นางกำลังจะไปส่งบุตรชายที่โรงเรียน แต่อยากถามบางอย่างจากสมัตถ์ก่อน เขาเดินออกมาขึ้นรถตามปกติ ราตรีตามมาส่งเขาแต่กลับเข้าบ้านไปแล้ว“เดี๋ยวค่ะคุณสมัตถ์”สมัตถ์ชะงักมือที่กำลังจะเปิดประตูรถ รับรู้ถึงการมาของสตรีวัยเลยสาว“ครับ”“คุณเจอยัยเทียนบ้างไหม ฉันไม่ได้เจอลูกมาสองสามวันแล้ว อยู่บ้านเดียวกันแท้ๆ” นางบ่นสมัตถ์ถอนหายใจเบาๆ ภาพเมื่อคืนจู่โจมเขาจนรู้สึกอึดอัด ต้องขยับเนกไทให้หลวมยิ่งกว่าเดิม “เอ่อ...เธอคงยุ่งอยู่กับแฟนมั้งครับ”“งั้นเหรอ เฮ้อ...ยัยเทียนนะยัยเทียน จะเลิกกับนายนั่นอยู่แล้ว ไม่รู้จะไปข้องแวะทำไมอีก”“นั่นสิครับ” เขาสำทับผกากรองตาเบิกโต “คุณรู้เรื่องด้วยหรือคะ”เขาพยักหน้า “เธอระบายน่ะ อกหัก แฟนมีคนอื่นและเธอกำลังหาทางเอาคืน” เขาอธิบายผกากรองหนักใจยิ่ง “ฉันไม่เห็นด้วยเลย ผู้ชายยังไงก็เป็นผู้ชาย มันอันตรายจะตายไป ถ้ายังไงถึงบริษัทแล้ว รบกวนคุณช่วยบอกเธอให
กลางดึกของคืนอันขุ่นมัวด้วยความไม่เข้าใจ เทียนหยดยืนอยู่ใต้ร่มอโศกในชุดนอนแบบสตรีที่ไร้เสื้อคลุม มวลไอแห่งหยดน้ำค้างลอยอ้อยอิ่งเต็มสนาม ราตรีกาลอันมืดสลัวมีเพียงแสงสว่างรางเลือน หญิงสาวกะพริบตาถี่ๆ มิได้รู้สึกถึงฤทธิ์แอลกอฮอล์ในร่างแล้ว เธอยืนนิ่งในจุดที่เพิ่งผละจากสมัตถ์ ไอเย็นจากบรรยากาศรอบกายทำให้ต้องยกมือกอดอก ถามตัวเองในใจว่าทำไมต้องมายืนอยู่ตรงนี้ ทำไมไม่กลับไปนอนเสีย นี่ก็ดึกมากแล้ว เขาคงไม่ลงมาแล้วกระมังทว่าในวินาทีที่ก้าวขาออกเดิน แขนข้างหนึ่งของเธอก็ถูกกระชากอย่างแรง“โอ๊ย!”“ชู่ว์...” สมัตถ์ห้ามเสียงหวีดร้องของแม่คนงาม เขาดึงร่างเทียนหยดเข้ามาหาแล้วดันจนแผ่นหลังหล่อนชิดต้นอโศก“เจ็บนะ” เธอบอก“เธอชอบแบบนี้ไม่ใช่เหรอ ไงล่ะ ในที่สุดก็ทนไม่ไหวต้องออกมาอ่อยฉันถึงที่”เสียงสบประมาทแม่คนใจกล้าดังอยู่ข้างหูหญิงสาว เทียนหยดใจเดือดปุดๆ พยายามแกะมือเขาออกจากแขนตัวเอง แต่ทำไปก็เท่านั้นเพราะตอนนี้ร่างเธอกับเขาแนบชิดกันแทบทุกสัดส่วน ปลายจมูกเขาคลอเคลียที่ข้างแก้มเธอ ได้ยินเสียงลมหายใจเข