“ฉันไม่ติดอะไรว่ะ” อิทธิพัทธ์เอ่ยพลางยักไหล่ แล้วยกแก้วขึ้นจิบ
“พวกนายทนดื่มลงคอได้ยังไงกัน” จักรินทร์ถาม มองเพื่อนทั้งสองด้วยความเหลือเชื่อ
“มันก็แค่น้ำผลไม้โซดาซ่า ที่มีแอลกอฮอล์ผสมอยู่นิดหน่อยเองนี่หว่า จะดื่มไม่ได้ตรงไหน” อิทธิพัทธ์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเฉยเมย
จักรินทร์ส่ายหน้า “ฉันละไม่เก็ทพวกนายจริง ๆ เลยว่ะ”
ชัชชนกับหญิงสาวที่ควงมาทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาอีกตัว เริ่มนัวเนียกันอย่างออกนอกหน้า และอิทธิพัทธ์ยังคงกวาดสายตาสำรวจผู้คนรอบกายต่อไป ส่วนจักรินทร์นั่งเอนหลังพิงพนักโซฟา ครุ่นคิดถึงสิ่งที่ควรจะทำต่อไปในค่ำคืนนี้
และในขณะนั้นเอง สายตาของเขาก็พลันเหลือบไปเห็นใครบางคนที่คุ้นเคย
คุ้นเคย…เกินไปแล้ว...
ใจของจักรินทร์เต้นกระหน่ำราวกับกลองศึก ไม่แน่ใจว่าตนกำลังตาฝาดไปหรือไม่
นั่นมัน… ธาริกา…
หญิงสาวกำลังเริ
แสงแดดยามเช้าที่สะท้อนเข้ามาทำให้คนที่กำลังนอนหลับอยู่ค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้น ธาริกาต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะปรับโฟกัสสายตาได้ เนื่องจากอาการปวดศีรษะจู่โจมอย่างหนัก ความทรงจำในค่ำคืนที่ผ่านมาเลือนราง ราวกับหมอกควัน บ่งบอกว่าเธอคงจะดื่มหนักเกินไปจนขาดสติในที่สุดเปลือกตาก็เปิดขึ้นเต็มที่ เธอจึงก็เริ่มสำรวจสภาพแวดล้อมรอบกายทว่าสถานที่ที่เธอเห็นนั้น ไม่ใช่คอนโดของเอวา ดังที่คาดการณ์ไว้ และก็ไม่ใช่ห้องที่บ้านของเธอเองเช่นกัน เธอตื่นนอนขึ้นมาในสถานที่ที่ไม่รู้จัก ต้องใช้เวลาครู่หนึ่งกว่าจะประมวลผลสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทันใดนั้น ร่างบางก็ดีดตัวลุกขึ้นจากเตียงอย่างรวดเร็ว คว้าผ้านวมเนื้อนุ่มมากอดไว้แนบอก ชุดราตรีที่เธอสวมใส่เมื่อคืนวานไม่ได้อยู่บนร่างกายอีกต่อไป หากแต่เปลี่ยนเป็นชุดวอร์มเนื้อดี และเสื้อยืดคอกลมสีอ่อนสัมผัสนุ่มสบายความจริงบางอย่างเริ่มกระจ่างชัด ทว่าเธอกลับไม่อยากที่จะครุ่นคิดถึงมันสายตาของธาริกากวาดมองสำรวจสภ
ทั้งสองรับประทานอาหารกันเงียบ ๆ แม้ว่าธาริกาจะสัมผัสได้ว่าจักรินทร์อาจมีเรื่องอยากพูด แต่เธอเลือกที่จะตักแพนเค้กที่ราดน้ำเชื่อมเมเปิลเข้าปากไปเรื่อย ๆเมื่อท้องเริ่มอิ่มและจังหวะการทานช้าลง จักรินทร์จึงหันมาหาหญิงสาว พร้อมที่จะเริ่มบทสนทนาที่เขารอคอยมาตลอดเช้า“เมื่อคืนเธอพูดอะไรบางอย่างที่น่าสนใจ...”ธาริกาเลิกคิ้วเล็กน้อยด้วยความสงสัย “อะไรหรือคะ?”“เธอบอกว่าเพื่อนเธอยุให้เธอลอง” จักรินทร์ทวนคำ “และที่สำคัญกว่านั้น…เธออยากจะลองกับฉัน”ธาริกาก้มหน้างุด พยายามควบคุมเลือดลมที่สูบฉีดขึ้นมาบนใบหน้า“ค่ะ” เธอตอบเสียงแผ่ว“จริงหรือ?”“คือ… คุณหมอก็รู้นี่คะว่า...ฉันไม่มีประสบการณ์” ธาริกาอ้อมแอ้ม“แล้วเธออยากมีรึเปล่า”ธาริกาครุ่นคิด เธอต้องการเช่นนั้นจริง ๆ หรื
สีหน้าของจักรินทร์แสดงถึงความพึงพอใจ“ใช่ นั่นแหละ ฉันคิดว่าฉันชอบมันมาก” เขาค่อย ๆ ยื่นมือมาเชยคางเธอเบา ๆ บังคับให้เธอเงยหน้าขึ้นมองตาเขา “จากนี้ไป เมื่อเราอยู่ในที่ส่วนตัว เธอต้องเรียกฉันว่าแด๊ดดี้ เข้าใจไหม”ธาริกาพยักหน้าเบา ๆ การสัมผัสที่แน่นแต่ไม่เจ็บของเขาทำให้ความรู้สึกแปลก ๆ ไหลวนไปทั่วร่างกาย เธออยากให้เขาออกคำสั่งเธอมากขึ้น บอกให้เธอทำในสิ่งที่เขาต้องการ“พูดสิ” จักรินทร์กระตุ้นเธออีกครั้ง“ค่ะ...แด๊ดดี้” ธาริกาพูดด้วยเสียงเบาแต่ชัดเจน“เด็กดี” เขาปล่อยมือจากปลายคางมนและนั่งพิงหลังอย่างผ่อนคลาย ดูเหมือนกำลังครุ่นคิดถึงขั้นตอนต่อไป “รู้ไหม มีสิ่งที่เราทำได้โดยไม่ต้องสัมผัสกันเลยตอนนี้ ถ้าเธออยากจะลอง”“อะไรคะ?” ธาริกาถามด้วยความสงสัย เอียงหัวเล็กน้อยอย่างน่ารัก“อย่างแรก มีวิธีที่เธอ และเธอเพียงคนเดียว สามารถทำให
“ดีมาก เพราะฉันเองก็อยากจะย้ายก้นยั่ว ๆ ของเธอมาวางบนโต๊ะทำงานของฉันเต็มทีแล้ว” เขาเว้นจังหวะ “ผมจะเอาเธอจากด้านหลัง”“อืม...”ธาริกาครางฮือในลำคอเบา ๆ รับรู้ได้ถึงความชื้นแฉะที่เพิ่มมากขึ้นในบริเวณส่วนนั้น“คลำหาปุ่มเสียวของเธอสิ” จักรินทร์ออกคำสั่งอีกครั้ง พลางเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ เพื่อที่จะได้มองเห็นทุกกิริยาของหญิงสาวได้อย่างชัดเจนเต็มตา “เล่นกับมัน กดคลึงมัน บีบ หรือจะทำอะไรก็ได้ ที่ทำให้เธอรู้สึกดีที่สุด”ธาริกาไม่รอให้เขาต้องย้ำคำสั่งเป็นครั้งที่สองปุ่มเนื้อเล็ก ๆ ใจกลางความสาวกำลังร่ำร้อง โหยหาการกระตุ้นที่มากยิ่งขึ้น เธอรู้สึกได้ว่าลมหายใจของตนเริ่มถี่กระชั้นขึ้น เมื่อเริ่มลงมือปรนเปรอความสุขให้แก่ตนเองการที่จักรินทร์กำลังจ้องมองมายังทุกอิริยาบถของเธอ กลับยิ่งทำให้ความรู้สึกเสียวซ่านทวีคูณมากยิ่งขึ้นไปอีกในตอนนี้ เธอรู้สึกถึงชุ่มชื้นมากพอที่จะคลึ
หลังจากธาริกากลับไป จักรินทร์กำลังคิดทบทวนสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเขารู้ดีว่าธาริกายังคงรู้สึก ตื่นตระหนกกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่เขาก็มั่นใจเช่นกันว่า เธอมีความสุขกับมันมากทีเดียว และจะต้องหวนกลับมาหาเขาอีกในเร็ววันด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมากับผู้หญิงมากมาย จักรินทร์เชื่อว่าอีกไม่นานเขาคงจะรู้สึกเบื่อหน่าย และหันเหความสนใจไปหาเหยื่อรายใหม่ แต่ด้วยข้อตกลงที่ทำไว้ เขาก็มั่นใจเช่นกันว่าการจบความสัมพันธ์ครั้งนี้จะเป็นไปอย่างราบรื่นและปราศจากปัญหาไม่เคยมีผู้หญิงคนใด ที่สามารถตรึงความสนใจของเขาไว้ได้นานเกินหนึ่งเดือน และเขาก็ไม่คิดว่าธาริกาจะแตกต่างหรือเป็นข้อยกเว้นแต่ประการใด แต่มันก็น่าสนุกดี ที่จะได้เฝ้าดู ว่าเธอจะอดทนต่อเกมนี้ได้นานสักแค่ไหน ในตอนนี้ ธาริกามิใช่หญิงสาวที่แตะต้องไม่ได้อีกต่อไป ทว่านั่นก็มิใช่ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เขาสนใจในตัวเธอร่างสูงเดินไปยังห้องทำงานส่วนตัวภายในบ้าน เปิดแล็ปท็อปและเข้าสู่ระบบออนไลน์เพื่อเขียนใบสั่งยา เขาสั่งจ่ายยาค
เขาคงจะสนุกไม่น้อยหากได้ออกคำสั่งชี้นำเธออีกครั้งเฉกเช่นที่เขารับรู้ว่า ธาริกาเองก็ปรารถนา ที่จะถูกเขาสั่งการเช่นกันจักรินทร์มิใคร่อยากจะนำพาความสัมพันธ์ส่วนตัวมายุ่งเกี่ยวในที่ทำงาน แต่เขาก็คิดว่าการหยอกเย้าด้วยการกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ และการพูดจาสองแง่สามง่ามเพื่อกระตุ้นหญิงสาว คงมิใช่เรื่องเสียหายอันใดคนไข้รายต่อไปของจักรินทร์เป็นหญิงสาวที่มาพบเขาอย่างสม่ำเสมอ หลังจากเธอเข้าห้องตรวจ จักรินทร์ก็เดินเข้าไปพร้อมกับความหวังว่าเธอจะยอมรับคำขอที่อาจฟังดูแปลกไปสักหน่อย“สวัสดีค่ะคุณหมอ” เธอทักทายด้วยรอยยิ้มกว้าง“สวัสดีครับคุณจันทร์เพ็ญ เป็นยังไงบ้างครับ”“ดีค่ะ”“ครับ เอ่อ...วันนี้ผมมีเรื่องจะขอร้องคุณนิดหน่อย อาจฟังแปลกไปบ้าง แต่ไม่ต้องรู้สึกกดดันนะครับถ้าคุณไม่ยินยอม”“อะไรคะคุณหมอ” คนไข้สาวถาม พร้อมกับเอนตัวมาข้างหน้า สายตาเต็มไปด
สัปดาห์นั้นผ่านไปอย่างช้า ๆ แต่ก็รวดเร็วเกินคาดสำหรับธาริกา มันเป็นช่วงเวลาที่ทั้งยาวนานและเร็วเกินกว่าที่เธอคาดการณ์ไว้ จักรินทร์ยังคงสอนบทเรียนใหม่ ๆ ให้ และเธอก็พบว่าเธอสนุกกับการเรียนรู้มาก เขารู้ดีว่าร่างกายของเธอต้องการอะไร และสามารถให้สิ่งนั้นได้โดยไม่ต้องสัมผัสเธอเลยตลอดเจ็ดวันนั้น พวกเขาลองสิ่งใหม่ ๆ กันหลายอย่างจักรินทร์สอนให้เธอสำรวจจุดอ่อนไหวบนร่างกาย และลองใช้ไวเบรเตอร์เพื่อกระตุ้นให้เธอถึงจุดสุดยอดได้อย่างรวดเร็วแม้เธอจะสนุกกับการใช้ของเล่น แต่ก็รู้สึกว่ามันจบเร็วเกินไป เธอจึงชอบใช้มือของตัวเองมากกว่า เพราะเธออยากให้ช่วงเวลากับจักรินทร์ยืดยาวออกไป แม้จะไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมในวันหยุด ธาริกาบอกพ่อแม่ว่าเธอต้องทำงานควบกะและเลิกดึกและจะพักที่บ้านของเอวา เพื่อนของเธอยินดีช่วยปกปิด แต่ก็ไม่ปิดบังความกังวลที่มี“แสตมป์ ฉันรู้ว่าฉันบอกให้เธอทดลองอะไรใหม่ ๆ แต่ฉันไม่ได้หมายความให้เธอทดลองกับเจ้านายของเธ
“ของขวัญอะไรหรือคะแด๊ดดี้” ธาริกาเอ่ยถามด้วยความใคร่รู้ พลางก้าวเท้าเข้าใกล้เขามากยิ่งขึ้น และเอื้อมมือไปแตะสัมผัสที่ท่อนแขนแกร่งเบา ๆแต่ชายหนุ่มกลับขยับกายถอยห่างออกไป“น้ำเสียงออดอ้อนแบบนั้นของเธอ...” เขาพูดพลางส่ายหน้า “จะทำให้คนยอมเธอทุกอย่าง แต่ฉันจะไม่ยอมให้เซอร์ไพรส์ของฉันหมดสนุกหรอก” เขาเว้นจังหวะ “มาเถอะ…ไปกันดีกว่า”ว่าแล้วก็เดินนำออกจากห้องไป ธาริกาจึงเดินตามร่างสูงออกไปจนถึงลานจอดรถ ซึ่งเป็นที่เฉพาะสำหรับผู้บริหารทำให้มีความเป็นส่วนตัวไม่มีคนพลุกพล่านจักรินทร์เปิดประตูรถให้หญิงสา รอให้เธอนั่งลงก่อนจะปิดประตูและเดินไปอีกด้านเพื่อขึ้นรถขณะที่รถเคลื่อนตัว ธาริการู้สึกได้ถึงความตึงเครียดระหว่างพวกเขา เนื่องจากเขาหลบเลี่ยงการสัมผัสของเธอเมื่อครู่ เธอจึงไม่กล้าแตะเขาอีก แม้เธออยากทำมากแค่ไหนก็ตามเธอรู้สึกได้ถึงทุกเส้นขนบนร่างกายที่ตั้งชันท่ามกลางความเงียบภายในห้องโดยสาร เธอลอบส
ธาริกากลับบ้านไปหลังจากทานอาหารเช้าร่วมกัน เธอสวมชุดลำลองที่เขาซื้อให้ จักรินทร์กำชับให้เธอแต่งกายให้สวยงามสำหรับค่ำคืนนี้ และย้ำว่าไม่ต้องแจ้งเรื่องนี้ให้บิดามารดาทราบ ซึ่งธาริกาก็คงรู้อยู่แล้ว แม้เขาจะมิได้เอ่ยปากก็ตามจักรินทร์ยังคงครุ่นคิดหนักถึงเรื่องนี้ เขารู้ดีว่าหากความสัมพันธ์นี้ดำเนินต่อไป เขาจะต้องเผชิญหน้ากับบิดามารดาของเธอในสักวัน ซึ่งนั้นมิใช่ความคิดที่ชวนให้รื่นรมย์เลยสักนิดส่วนลึกในใจยังคงหวังว่าความรู้สึกของเขาจะจางหายไป และทุกอย่างจะจบลง ก่อนที่เขาจะต้องเข้าไปพัวพันกับครอบครัวของเธอเพื่อเบี่ยงเบนความคิด ก่อนถึงเวลานัดกับธาริกา จักรินทร์จึงโทรศัพท์หานายชัชชนและอิทธิพัทธ์อีกครั้งทั้งสองตอบรับคำชวน โดยมีข้อแม้ว่าจะต้องสังสรรค์กันอยู่แต่ในบ้านเท่านั้นเพราะขี้เกียจออกไปข้างนอก แต่ถึงอยู่แต่ในบ้าน ก็ยังมีกิจกรรมมากมายให้ทำ และอิทธิพัทธ์เสนอให้พวกเขาประลองฝีมือหมากรุกกันอิทธิพัทธ์เพิ่งจะซื้อหมากรุกชุด
“ตกลงค่ะ ฉันจะลองดู”ที่จริง เธอเองก็ไม่ได้คิดจะคบใครอื่นอยู่แล้ว แต่คงไม่จำเป็นต้องบอกเขาให้ล่วงรู้ ปล่อยให้เขาคิดไปว่าเธอเองก็ยินดีที่จะเสียสละเช่นกันใบหน้าของจักรินทร์แย้มรอยยิ้มกว้าง เขารั้งร่างเธอเข้าสู่อ้อมกอดอีกครั้ง จูบเธออย่างหนักหน่วง“เธอสวยมาก” เขาพึมพำเธอรู้ดีว่ามันเป็นเพียงคำลวงแต่ก็ยินยอมปล่อยใจให้ล่องลอยไปในห้วงฝัน“ฉันรู้ค่ะ” ธาริกาหัวเราะคิกคัก จูบตอบเขาแผ่วเบา “คุณหมอน่ะโชคดีมากนะคะ”“ใช่ ฉันมันโชคดีจริง ๆ”**********ทั้งคู่ผล็อยหลับไปในอ้อมกอดของกันและกัน จักรินทร์โอบกอดหญิงสาวไว้ตลอดคืน ธาริกาไม่เคยรู้สึกปลอดภัยเช่นนี้มาก่อน สัมผัสอบอุ่นจากมือแกร่งที่ทาบอยู่บนเอว และศีรษะเธอที่ซุกแนบอยู่ใต้คางแกร่งจนกระทั่งเช้า
จักรินทร์รักษาสัญญาของเขาเป็นอย่างดี ธาริกาถึงจุดสุดยอดสามครั้งก่อนที่เขาจะตัดสินใจพัก และลุกเดินไปที่ห้องน้ำเพื่ออาบน้ำ เขาถามว่าเธออยากจะไปด้วยกันไหม แต่เธอปฏิเสธ เธอต้องการเวลาคิดอะไรบางอย่าง และไม่มีทางที่เธอจะทำได้ถ้าจักรินทร์มีอะไรกับเธอใต้สายน้ำร้อนของห้องอาบน้ำสุดหรูเธอยังไม่เข้าใจว่า ตอนแรกเขาบอกให้เธอกลับไปใช้วิธีการช่วยตนเอง แต่แล้วทำไมสุดท้ายเขาถึงเข้ามา และดูจะข้ามขั้นตอนไปมากแล้วที่บอกว่าเธอเป็นของเขา แต่เขาหมายความแบบนั้นจริง ๆ หรือ หรือแค่เพราะอารมณ์ในตอนนั้นเธอมองลงไปที่รอยฟกช้ำบนขาของเธอที่เขาทิ้งไว้จากการกัดของเขา เธอทำผิดพลาดที่ใส่ชุดชั้นในชุดนี้หรือเปล่า เธอทำไปโดยตั้งใจ เธอแค่อยากรู้ว่าเธอจะยั่วยุเขาได้แค่ไหนแต่นั่นเป็นสิ่งที่เห็นแก่ตัว และไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นร่างกายของเธอยังคงร่ำร้องเขา แม้ว่าเขาจะให้เธอทุกอย่างแล้ว แต่หัวใจของเธอก็ยังร่ำร้องหาเขามากขึ้นไปอีก
ธาริกาค่อย ๆ สอดนิ้วเข้าไปใต้ขอบเอวของบ็อกเซอร์ และดึงรั้งมันให้หลุดล่นลงไปกองที่ข้อเท้าเหมือนกับกางเกงก่อนหน้าแก่นกายขนาดเขื่องของจักรินทร์ผงาดโผล่พ้นออกมาจากพันธนาการแห่งเนื้อผ้า ดวงตากลมจับจ้องมองมันอย่างตะลึงลานขณะที่ดึงรั้งเครื่องปกปิดให้หลุดล่นลงไปกองที่ข้อเท้า และจักรินทร์ก็เตะมันทิ้งไปให้พ้นทางอีกครั้ง“คุกเข่าลงสิ”เสียงบัญชาเปี่ยมไปด้วยอำนาจ ด้วยเขารู้ดีว่ามันจะเป็นผลดีต่อหญิงสาวมากยิ่งกว่าหากเขาหนักแน่นและมั่นคงในคำพูดของตนเอง เพราะในตอนนี้ธาริกาไม่รู้ว่าควรจะกระทำสิ่งใดต่อไป ด้วยเหตุนั้นเขาจึงจำเป็นที่จะต้องคอยชี้แนะนำทางเธอในทุก ๆ สิ่ง และดูเหมือนว่าเธอจะพึงใจในบทบาทนี้ของเขาเสียด้วยธาริกาปฏิบัติตามคำบัญชาของชายหนุ่มแต่โดยดี ทรุดกายคุกเข่าลงตรงหน้าร่างสูงอย่างว่าง่ายจักรินทร์แทบจะควบคุมตนเองไม่ได้อีกต่อไปภาพของธาริกาที่กำลังคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเขาในตอนนี้ ในชุดชั้นในสีแดงเ
ช่างเป็นเด็กที่เจ้าเล่ห์เสียจริงใบหน้าหวานแหงนเงย เหยเกไปด้วยความสุขสมในยามที่เธอค้นพบจังหวะที่พึงพอใจเสียงหวานละมุนเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากอิ่ม เสียงครางแผ่วเบาอันแสนสุขสมเกินบรรยาย ช่างคล้ายคลึงกับเสียงอ้อนวอนเชื้อเชิญให้ชายหนุ่มรีบก้าวเข้าไปหาและมอ ความสุขสมให้แก่เธออย่างแท้จริงจักรินทร์พยายามอย่างยิ่งที่จะฝืนสะกดกลั้นตนเองต่อไป ทว่าในที่สุด เขาก็มิอาจควบคุมตนเองได้อีกต่อไปช่างน่าขันเสียจริง ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ยังคงต้องการในตัวเธออยู่ดีและเขาต้องการเธอเดี๋ยวนี้ด้วย!ถึงแม้ว่า ในภายภาคหน้าเขาอาจจะหมดสิ้นความสนใจในตัวเธอไปจนหมดใจแล้วก็ตามที แต่ในโมงยามนี้เขากลับตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะเสพสุขกับเธอให้ถึงขีดสุดจนกว่าจะถึงวันนั้นธาริกาเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มด้วยความประหลาดใจระคนงุนงง ในยามที่ร่างสูงเดิมข้ามห้องมาหาเธอด้วยสองก้าวยาว ๆ
จักรินทร์แทบจะควบคุมตนเองไม่ได้ในระหว่างที่ขับรถ ทว่าเขาก็ตระหนักดีว่าเขาไม่ควรที่จะแตะต้องเนื้อต้องตัวเธออีกเป็นอันขาด เพราะในตอนนี้ ธาริกากำลังรู้สึกไม่สบายใจและยังเริ่มก่อเกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้นมา ซึ่งเป็นความรู้สึกที่เขาไม่ควรได้รับจากเธอยิ่งไดสัมผัสใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น สิ่งต่าง ๆ ก็จะยิ่งเลวร้ายลงมากยิ่งขึ้นเท่านั้น และนั่นก็คือสิ่งสุดท้ายที่เขาปรารถนาที่จะจัดการในโมงยามนี้ด้วยเหตุนั้นจักรินทร์จึงไม่แม้แต่จะหันไปมองหญิงสาวเลยในระหว่างที่นั่งรถมาด้วยกันเขาจำเป็นที่จะต้องสร้างระยะห่างที่เหมาะสมขึ้นระหว่างพวกเขาทั้งสอง ทว่าก็ต้องไม่มากจนเกินไป จนอาจจะทำให้เธอเกิดความสงสัยในพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของเขาเพราะหากเป็นเช่นนั้นจริง และถ้าสมมติเธอเริ่มมีความรู้สึกพิเศษให้เขาขึ้นมาจริง ๆ เขาก็ไม่อยากที่จะปล่อยให้เธอต้องมีความหวังลม ๆ แล้ง ๆ กับความสัมพันธ์ครั้งนี้เมื่อกลับมาถึงบ้าน จักรินทร์ลงมาเปิดประตูรถให้หยิงสาว
“ฉันก็ไม่ได้จะให้เธอแสร้งทำสักหน่อย นี่เธอไม่เข้าใจในสิ่งที่ฉันต้องการจะสื่อจริง ๆ หรือ ใช่…พวกเราจำเป็นที่จะต้องรักษาระยะห่างที่เหมาะสมในสถานที่ทำงาน แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า เธอจะต้องหลบหน้าฉันถึงขนาดนี้”“ฉัน…ไม่แน่ใจว่าคุณหมอเข้าใจความรู้สึกของฉันจริง ๆ หรือเปล่านะคะ”ในใจของธาริกายังคงไม่ปรารถนาที่จะเอื้อนเอ่ยออกไปว่า เธอเริ่มคิดว่าตนเองกำลังมีความรู้สึกพิเศษให้เขา เพราะมั่นใจว่า หากเขาล่วงรู้ถึงความรู้สึกที่แท้จริงของเธอ เขาจะต้องผละถอยห่างจากเธอไปอย่างแน่นอนและนั่นก็คือสิ่งสุดท้ายที่เธอปรารถนาจะให้เกิดขึ้น“ถ้าอย่างนั้นก็อธิบายให้ฉันฟังหน่อย” น้ำเสียงของจักรินทร์อ่อนลง“เอ่อ...ฉันว่าเราไปนั่งคุยกันได้ไหมคะ” ธาริกาเสนอ“ไปสิ”จักรินทร์ตอบรับในทันที เขาผุดลุกขึ้น และดึงเก้าอี้ตัวข้าง ๆ ให้หญิงสาว จากนั้นจึงค่อยเลื่อนเก้าอี้ของตนเองมาข้าง ๆ เพื่อจะได้น
มันเป็นความรู้สึกแปลก ๆ ที่ต้องไปทำงานในวันรุ่งขึ้น ธาริการู้ว่าการที่เธอกับจักรินทร์ลางานพร้อมกันไม่ได้เป็นที่สงสัย แต่เธอก็ยังอดกังวลไม่ได้มีสิ่งหนึ่งคือปฏิกิริยาของเธอในยามที่ต้องเผชิญหน้ากับชายหนุ่ม จะต้องปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนเป็นแน่ แค่การที่เขาเป็นผู้ชายคนแรก ก็ถือเป็นเหตุผลที่มากเพียงพอแล้วเธอไม่ได้รู้สึกเสียใจแต่ประการใด ประสบการณ์ในค่ำคืนที่ผ่านมา ช่างยอดเยี่ยมเกินกว่าจะบรรยายเป็นคำพูดได้ทั้งหมด และจักรินทร์ก็อ่อนโยนต่อเธออย่างน่าประทับใจทว่าในใจของธาริกากลับมีความกังวลขึ้นมาอย่างเงียบ ๆ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างดูเหมือนจะจริงจังมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม หลังจากการใกล้ชิดกันถึงเพียงนั้นเธอสงสัยว่าเธออาจจะกำลังเริ่มหลงรักเขาเข้าให้แล้วจริง ๆ ก็เป็นได้และหากมันเป็นเช่นนั้นจริง มันก็คงจะเป็นหายนะครั้งใหญ่ในชีวิตของเธออย่างแน่นอนเธอไม่รู้ว่าเธอควรจะจัดการกับสถานการณ์อันน่ากระอักกระอ่วน
จักรินทร์วางของลงกับพื้น พลางถอนหายใจออกมาเบา ๆ และยกแขนขึ้นบิดขี้เกียจเหนือศีรษะในขณะเดียวกันอิทธิพัทธ์ก็เตรียมพร้อมที่จะยิงธนูเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขากำลังขึ้นสายธนูและเล็งไปยังเป้าที่ตั้งอยู่ไกลที่สุด จากนั้นก็ปล่อยมือ ลูกธนูวิ่งฝ่าอากาศออกไป ทว่ามิได้เข้าเป้าตรงกลางเป้าตามที่หวัง แต่ก็ยังคงโดนเป้าอยู่ดี นับว่าเป็นการยิงที่น่าประทับใจไม่น้อย“แล้วตกลงว่านายมีเรื่องอะไรจะพูดหรือไอ้หมอ” อิทธิพัทธ์เอ่ยถาม หันหน้ามามองจักรินทร์จักรินทร์หยิบลูกธนูขึ้นมา และถือคันธนูในท่า เตรียมพร้อมยิง“ฉันไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี”“ก็เริ่มเล่าจากตรงที่แกค้างเอาไว้นั่นแหละ” ชัชชนเสนอแนะ พลางยกยิ้ม เขาใช้เวลานานเป็นพิเศษในการเล็งเป้าที่ตั้งอยู่ใกล้ที่สุด จากนั้นจึงค่อยปล่อยลูกธนูออกจากคันธนู และลูกธนูก็ปักเข้าไปในเป้า...ทว่ากลับเป็นเพียงแค่บริเวณขอบนอกของเป้าเท่านั้น“ก็...ดีมากแล้วนี่” อิทธิพัทธ์เอ่ย