เขาผู้ไม่เชื่อในรัก แต่ความสัมพันธ์ครั้งเดียวกลับเปลี่ยนเขาไปตลอดกาล ธาริกา สาวน้อยแสนสวยที่ดันไปเข้าตา จักรินทร์ คุณหมอที่ขึ้นชื่อเรื่องความเป็นคาสซาโนว่า เธอเป็นคุณหนูที่ถูกพ่อแม่เลี้ยงดูมาราวกับไข่ในหิน ซึ่งความรักของพ่อแม่ที่คอยปกป้องดูแลอย่างไม่ให้คลาดสายตาทำให้เกิดความรู้สึกอึดอัด เธอไม่สามารถไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระโดยไม่แจ้งให้พ่อแม่ได้รับรู้ ด้วยเหตุนี้ประสบการณ์รักเหมือนเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันจึงเป็นศูนย์ แน่นอนว่าเรื่องนั้น...เธอยังคงความบริสุทธิ์ผุดผ่อง เขาเป็นคุณหมอหนุ่มที่ไม่เชื่อเรื่องความรัก เมื่อเขาเจอเธอ เขาถูกความงามของเธอดึงดูดจนไม่อาจปล่อยวางได้ เขาต้องได้เธอ เขาใช้ประสบการณ์อันโชกโชนล่อลวงสาวน้อยที่หมายปองได้สำเร็จ โดยการทำข้อแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน เขาจะสอนประสบการณ์บนเตียงให้เธอ แต่ทั้งหมดนี้ ไม่มีเรื่องหัวใจมาเกี่ยวข้อง ทว่าเหตุการณ์กลับไม่เป็นเช่นนั้นเมื่อความหวั่นไหวเกิดขึ้นในใจ ด้วยอายุที่หางกันมาก อีกทั้งสถานะทางสังคม กลับเป็นอุปสรรคขัดขวางเส้นทางรักของทั้งคู่ สุดท้ายแล้วเรื่องราวจะลงเอยอย่างไร โปรดไปติดตามกันค่ะ
View Moreร้านเบเกอรี่เล็ก ๆ แห่งนี้ดูอบอุ่นและน่ารักตั้งแต่ก้าวแรกที่ ธาริกา เดินเข้าไป กลิ่นหอมหวานของขนมอบสดใหม่อวบอวลแทรกอยู่ในอากาศ ผนังร้านทาสีโทนพาสเทลอ่อน ๆ ให้ความรู้สึกสบายตา ชั้นวางขนมเรียงรายอยู่ด้านหน้า เต็มไปด้วยครัวซองต์สีทองกรอบ ชิ้นพายผลไม้ที่ดูน่าทาน และเค้กชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่ตกแต่งอย่างประณีต
ธาริกาเลือกนั่งยังที่นั่งริมหน้าต่างบานใหญ่ ที่ประดับด้วยผ้าม่านลายดอกไม้สีอ่อน เก้าอี้เบาะนุ่มสีครีมและโต๊ะไม้เล็ก ๆ ถูกจัดวางอย่างเรียบร้อย เหมาะแก่การนั่งจิบชาและเพลิดเพลินกับขนมอบร้อน ๆ เสียงเพลงแจ๊สเบา ๆ ดังลอยมาจากลำโพง ทำให้บรรยากาศในร้านรู้สึกผ่อนคลายและเป็นส่วนตัว
วันนี้เธอนัดเจอกับเพื่อนสนิทหลังจากที่ไม่ได้เจอกันมานานหลายสัปดาห์เนื่องจากเธอวุ่นอยู่กับการสอบปลายภาคและการสำเร็จการศึกษา
เธอมีเรื่องราวมากมายที่ต้องการเล่าและอัปเดตให้กับ เอวา เพื่อนของเธอให้ได้ฟัง
ไม่นานก็ปรากฏหญิงสาวที่เดินมาพร้อมกับรอยยิ้มสดใส ผมยาวสยายพลิ้วไหลเคลียไปบนไหล่ เสื้อยืดที่สวมมีร่อยรอยเปรอะเปื้อนรอยสี แต่นั่นไม่ได้ทำให้ดูสกปรกหรือน่ารังเกียจ กลับกัน มันสะท้อนความคิดสร้างสรรค์และอิสระอันเต็มเปี่ยมของเธอในทุกย่างก้าวที่เดิน
หญิงสาวเดินไปสั่งอาหารและลาเต้ก่อนที่จะหันกลับมามองยังที่หมาย เธอยิ้มสดใสพร้อมกับเดินมานั่งลงที่โต๊ะฝั่งตรงข้ามกับธาริกา
“ฉันกะแล้วว่าเธอจะต้องนั่งตรงนี้ นี่มันที่ประจำเธอ”
ธาริกายิ้มพลางกัดครัวซองต์ที่อยู่ในมือ “แล้วช่วงนี้เธอเป็นยังไงบ้าง ฉันมัวแต่ยุ่ง ๆ เรื่องเรียนจบ เลยไม่ได้คุยกันเลย”
“อ๋อ อย่างที่เคยน่ะ ฉันกลับมาวาดรูปอีกครั้งตามที่แม่เธอแนะนำ ท่านได้ช่วยให้ฉันได้เข้าร่วมงานนิทรรศการจัดแสดงศิลปะต่าง ๆ แล้วครั้งที่จะถึงนี้ฉันอยากให้เธอมาร่วมงานเปิดนิทรรศการด้วย ไม่รู้ว่าวันเสาร์นี้เธอจะว่างรึเปล่า”
“ว่างสิ ฉันอยากไปมากเลย!” ธาริกาตอบด้วยความตื่นเต้นทันที เธอชอบไปงานแสดงศิลปะกับเอวา และยิ่งชอบผลงานของเพื่อน เพราะเหมือนได้ถ่ายทอดจินตนาการให้มีชีวิตชีวาขึ้นมาอย่างแท้จริง
นั่นก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่แม่ของเธอ ผู้หลงใหลในศิลปะและเป็นเจ้าของแกลเลอรี่ ได้สนับสนุนเอวาอยู่เสมอ หากไม่มีการสนับสนุนนี้ เอวาอาจต้องหางานจริงจัง เพื่อหาเลี้ยงชีพแทนที่จะได้ตามความฝันที่เธอรัก
“งั้นฉันจะไปรับเธอเอง เธอไม่ได้มีแพลนจะไปไหนใช่ไหม”
ธาริกายักไหล่ คิดในใจว่าเธอจะไปไหนได้ พ่อแม่แม้จะสนับสนุนเธอทุกอย่าง เธอสามารถมีทุกสิ่งที่ต้องการ มีความเป็นอยู่สุขสบาย เรียกได้ว่าใช้ชีวิตเป็นคุณหนูอย่างแท้จริง แต่กลับถูกตีกรอบไว้เสมอ เธอก็ยังไม่แน่ชัดว่าพ่อแม่จะมองเธอเป็นผู้ใหญ่จริง ๆ หรือไม่
“ไม่มี แต่ฉันกำลังจะเริ่มทำงานแล้วนะ หรือบางทีอาจจะเป็นการฝึกงาน…ยังไม่แน่ว่าเป็นแบบไหน”
“ยังไง? แล้วที่ไหนล่ะ?” เอวาถามพลางโน้มตัวเข้ามาใกล้ “เธอกำลังจะทิ้งฉันไปหรือ?”
“ไม่ ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกนะ เธอรู้จักคุณหมอจักรินทร์ไหม พ่อแม่ฉันเป็นเพื่อนกับเขา เลยจะฝากให้ฉันไปทำงานที่โรงพยาบาลเขาสักระยะหนึ่ง พวกท่านบอกว่าคุณหมอเป็นคนเก่งและอยากให้ฉันมีประสบการณ์จริง แต่ฉันว่ามันเป็นเพราะโรงพยาบาลนั้นอยู่ใกล้บ้านมากกว่า พวกท่านจะได้วางใจ”
“อืม ก็ถูกของเธอ” เอวาถอนหายใจ เข้าใจความรู้สึกเพื่อน “แต่จะวางใจได้จริงหรือ คุณหมอจักรินทร์น่ะ...”
“ทำไมหรือ” ธาริกาถามด้วยความอยากรู้เกี่ยวกับนายจ้างในอนาคตของเธอ
“ฉันไม่แน่ใจว่าการที่คุณลุงคุณป้าจะไว้วางใจให้คุณหมอจักรินทร์คอยดูแลเธอนั้นจะเป็นความคิดที่ดีหรือเปล่าน่ะสิ” เอวาเอ่ยก่อนจะลดเสียงลง “ฉันได้ยินมาว่าเขาขึ้นชื่อในเรื่อง...บางอย่างอยู่”
“เรื่องอะไรอะ” ธาริกายิ่งอยากรู้ “ที่จริงคืนนี้ฉันจะต้องไปร่วมงานเลี้ยงที่เขาจัดอยู่เหมือนกัน พ่อแม่อยากแนะนำฉันให้รู้จักเขาด้วย”
“ฉันได้ยินมาว่าคุณหมอจักรินทร์เป็นคาสซาโนว่าตัวพ่อ” เอวาโน้มหน้ามากระซิบ
“จริงหรอ!”
“ก็เท่าที่ฉันได้ยินมามันก็ประมาณนั้นแหละ เขาจัดงานเลี้ยงแล้วเชิญคนไปร่วมบ่อย ๆ พวกผู้หญิงอยากไปงานนั่นจะตาย เพราะเขาหล่อและรวยมาก แต่ว่านะ เขาเปลี่ยนผู้หญิงบ่อยจะตาย พอเบื่อก็สลัดทิ้งแบบไม่ใยดี เธอเองก็ต้องระวังตัวไว้นะยัยแสตมป์”
ธาริการู้สึกกังวลเล็กน้อย
“ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันไม่คิดจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเขาในแบบนั้นหรอก เขาอายุมากกว่าฉันพอสมควรนะ แล้วคุณหมอเขาก็เป็นเพื่อนกับพ่อแม่ฉัน”
ไม่ต้องตกใจนะคะ ไรต์ได้ทำการรีไรต์และเริ่มลงเนื้อหาฉบับรีไรต์ให้อ่านตั้งแต่แรกค่ะ
ในหลายเดือนต่อมา เหตุการณ์ต่าง ๆ ก็เริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น บิดามารดาของธาริกาและจักรินทร์ต่างพยายามอย่างยิ่งที่จะปรับความเข้าใจ และสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อกันส่วนทางญาติของจักรินทร์ก็แสดงไมตรี และกล่าวคำขอโทษต่อธาริกา สำหรับวิธีการที่พวกเขาเคยใช้จัดการปัญหาในอดีตจักรินทร์บอกกับพวกเขาว่า เขาไม่อยากจะรับฟังคำแก้ตัวใด ๆ อีก แต่ก็ยินยอมที่จะรับคำขอโทษนั้นไว้ แน่นอนว่าเรื่องราวไม่ได้จบลงเพียงแค่นั้น พวกญาติ ๆ ของเขายังคงติดต่อมาหาเขาอีกครั้ง พร้อมกับของขวัญเพื่อแสดงไมตรีจิต และธาริกาก็ช่วยเกลี้ยกล่อม ให้เขาพยายามประนีประนอมและคืนดีกับครอบครัวของเขาด้วยแม้ว่าทุกอย่างจะยังไม่ราบรื่นถึงขั้นนั้น แต่จักรินทร์ก็เริ่มเปิดใจพยายามแล้ว บางครั้งเขาจะยอมไปทานอาหารเย็นกับที่บ้าน หรือในบางครั้ง พวกเขาก็จะมาทานอาหารเย็นที่คฤหาสน์ของพวกเขาถึงแม้ว่าภายหลัง จักรินทร์จะบ่นให้ธาริกาฟังอยู่บ่อยครั้ง ถึงคำพูดเสียดสี หรือการดูถูกเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ยังคงแฝงอยู
การคลอดลูกเป็นความเจ็บปวดที่สุดที่เธอเคยประสบมา มันใช้เวลาหลายชั่วโมง ซึ่งเธอรู้ว่าเป็นเรื่องปกติ แต่เวลาดูเหมือนจะยืดยาวออกไปเรื่อย ๆ เธอเพียงแต่หวังว่าทุกอย่างจะจบลงเสียที เพื่อที่เธอจะได้อุ้มลูกน้อยไว้ในอ้อมแขนและหลับไปพร้อมกับจักรินทร์ที่อยู่ข้าง ๆเขาอยู่ที่นั่นตลอดเวลา คอยปลอบใจเธอให้ผ่านความเจ็บปวด ในขณะที่หมอแพรวาบอกให้เธอรู้ว่าเมื่อไหร่ควรเบ่ง และอธิบายความคืบหน้าของการขยายตัวของปากมดลูกธาริกาไม่เคยรู้สึกใกล้ชิดกับจักรินทร์มากไปกว่านี้ มันรู้สึกเหมือนว่าเธอสามารถเชื่อได้อย่างลึก ๆ แล้วว่าเขาจะไม่ทิ้งเธอไป ว่าสิ่งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องชั่วคราวสำหรับเขาแม้ว่าเธอจะเจ็บปวด แต่เธอก็รู้สึกมีความสุขด้วยเอวากำลังรอเธออยู่กับเพื่อนของจักรินทร์ในห้องรอใกล้ ๆ เพื่อนสาวแวะเข้ามาดูเธอบ่อย ๆ แม้ว่าหมอแพรวาจะพยายามไล่เธอออกไป เพราะไม่อยากให้มีอะไรมารบกวนเธอมากเกินไปในที่สุด ปากมดลูกของเธอก็ขยายพอที่ลูกน้อยจะออกมาได้ เธอรู
จักรินทร์ได้โทรจองไว้ล่วงหน้าเพื่อให้พนักงานตกแต่งตามที่เขาต้องการ ด้วยดอกไม้และเทียนทุกที่ วงดนตรีกำลังเล่นเพลงรักเบา ๆ“ฉันรู้ว่ามันไม่มาก แต่ฉันอยากทำให้วันนี้พิเศษสำหรับเธอ”“นี่มันสุดยอดมากเลยค่ะ”“ฉันรู้ว่าเธอจะชอบ”เขาโน้มตัวเข้ามาเพื่อจูบที่หน้าผากของเธอ แล้วพาเธอไปที่โต๊ะที่จัดไว้สำหรับทั้งห้าคนของว่างรออยู่บนโต๊ะแล้ว ปลาหมึกทอดและสลัด ผักย่างและตะกร้าฟรายส์กูร์เมต์ ชีสละลายพร้อมสำหรับจิ้ม ปากของเขาน้ำลายสอเมื่อเห็น และเขาได้ยินเสียงท้องของธาริการ้องข้าง ๆเมื่อพวกเขานั่งลง เขาหัวเราะเล็กน้อย “ดูดีไหม”เธอพยักหน้า “ฉันหิวมากเลยค่ะ”“ฉันหวังว่าทุกคนคงจะหิว เพราะเรามีคอร์สอาหารและเครื่องดื่มอีกหลายอย่างรออยู่ แต่ไม่ต้องรีบ เรามีเวลาทั้งวัน”“นายจองทั้งร้านไว้ทั้งวันเลยเหรอ” ชัชชนดูประหลาดใจ
แม้จักรินทร์จะพยายามอย่างเต็มที่ แต่พ่อแม่ของธาริกาก็ยังไม่ยอมรับความสัมพันธ์ของพวกเขา ทั้งคู่พูดคุยกับเธอบ้าง แต่เป็นการพูดคุยสั้น ๆ และไม่บ่อยนัก แม่ของเธอจะส่งข้อความมาถามไถ่เป็นครั้งคราว ส่วนพ่อของเธอก็ส่งข้อความมาเป็นระยะ ๆ ในช่วงแรก โดยเฉพาะจะถามเธออยู่บ่อย ๆ ว่าเธอเปลี่ยนใจหรือยัง แต่เธอบอกอย่างหนักแน่นให้หยุดถามเรื่องนั้นเสียที และในที่สุดบวรพจน์ก็หยุด หลังจากนั้นข้อความจากเขาก็เริ่มห่างหายขึ้น จักรินทร์สงสัยว่ามารินีเป็นคนที่ผลักดันให้สามีพูดคุยกับธาริกาทั้งคู่ไม่ยอมพูดคุยกับจักรินทร์ แม้ว่าเขาจะพยายามโทรหาพวกเขาบ่อย ๆ เพื่อแจ้งเรื่องราวของธาริกา พยายามแสดงให้พวกเขาเห็นว่าเขาเป็นคนที่ไว้ใจได้และเหมาะสมกับลูกสาวของพวกเขาธาริกาอยากให้พ่อแม่ของเธอมาที่อำเภอในวันที่พวกเขาจดทะเบียนสมรส แต่มันก็ไม่เกิดขึ้นเธอพยายาม แต่แม่ของเธอบอกว่าเนื่องจากเธอและบวรพจน์ไม่เห็นด้วย พวกเขาจึงไม่มาในวันที่พวกเขานัดหมายเพื่อทำให้ทุกอย่างเป็นทางการ จักรินทร
“เชิญเลยค่ะ”ธาริกาโน้มตัวเข้าหาจุมพิตของชายหนุ่ม ขณะที่เขาก้มลงมาทาบทับร่างของเธอ มือแกร่งทั้งสองข้างเท้าลงบนเตียง คร่อมร่างของเธอไว้ เธอแหงนคอขึ้น ปล่อยให้เขาประทับจูบลงมาตามลำคอระหง ปลุกปั่นให้ผิวเนื้อบริเวณที่เขาเคยฝากรอยเขี้ยวคำรามไว้ก่อนหน้านี้ ให้กลับมาส่งเสียงครวญครางด้วยความรัญจวนอีกครั้ง“อืม...อา...”ทันทีที่สัมผัสลมหายใจร้อนรินรดแผ่ซ่านลงมา ธาริกาก็พลันเปล่งเสียงครางออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ร่างกายของเธอสั่นสะท้านไปทั้งร่าง ยังคงโหยหาความสุขสมที่เขาเคยปรนเปรอให้ก่อนหน้านี้“ชอบไหม ที่รัก”ธาริกาพยักหน้า“ว่ายังไง”“ชอบค่ะ แด๊ดดี้ขา”“ดีมาก”เสียงทุ้มครางต่ำในลำคออย่างพึงพอใจ พลางขยับตัวเลื่อนร่างของธาริกาขึ้นไปบนเตียง และตามขึ้นมาทาบทับร่างของเธออีกครั้ง“อยากให้ฉั
“ของแด๊ดดี้ค่ะ” ธาริกาพูดพร้อมเสียงคราง รู้ว่าอีกไม่นานเธอจะถึงจุดสุดยอด “ฉันเป็นของแด๊ดดี้”“ใช่แล้ว และฉันจะไม่ปล่อยเธอไปไหน”จักรินทร์ยังคงเล่นกับปุ่มสวามของหญิงสาวต่อไปอีกหลายนาที จนเธอทนไม่ไหว เธอกัดฟันเพื่อกลั้นเสียงร้องไว้เมื่อความสุขครั้งแรกถาโถมเข้ามา“อ๊า...คุณหมอไนล์!” เธอหลุดปากออกมา เขามองเธอด้วยแววตาเจ้าเล่ห์“ฉันทำให้เธอรู้สึกดีไหม”“ดีมากค่ะ”จักรินทร์ยิ้มมุมปาก ถอนหายใจก่อนที่จะเอนตัวกลับ“ฉันอยากจะทำต่อในรถ แต่เกรงว่าจะไม่มีที่พอ และฉันต้องระวังไม่ให้รุนแรงเกินไปด้วย”หญิงสาวทำปากยู่ ส่งเสียงครางขัดใจเล็ก ๆ“ฉันสัญญาว่าจะทำต่อทันทีเมื่อเรากลับถึงบ้าน ฉันจะพาเธอตรงเข้าห้องนอนและทำให้เธอครางจนเสียงแห้งไปเลย”ชายหนุ่มผละออกมาและกลับไปนั่งตัวตรงอีกครั้ง ธาริกา
Comments