Share

บทที่ 1264

Penulis: โม่เสียวชี่
ในที่สุดฉู่จืออี้ก็เงยหน้าขึ้น ริมฝีปากยกยิ้มอย่างมีนัยยะ "เจ้าแค่ไปเคาะประตูเสีย"

เด็กรับใช้เดินออกไปด้วยความงุนงง

เจ้าสิบทำหน้าฉงน "พี่ใหญ่ ข้างห้องคือ?"

ฉู่จืออี้ไม่ตอบ รินเหล้าให้ตัวเองหนึ่งจอก เหล้าในจอกกระเพื่อมเป็นระลอกสะท้อนดวงตาลึกล้ำของเขา

บริเวณบันไดมีเสียงฝีเท้าแผ่วเบาดังขึ้น หากไม่ตั้งใจฟังก็แทบจะถูกเสียงเอะอะด้านล่างกลบจนหมด

ปลายนิ้วของฉู่จืออี้หยุดอยู่ตรงขอบจอกชั่วขณะ แล้วก็เคาะต่อไปอย่างมีจังหวะ

เสียง "เอี๊ยด" ดังขึ้น ประตูห้องส่วนตัวถูกผลักเปิดออก

ร่างหนึ่งในเสื้อคลุมขนจิ้งจอกสีขาวยืนอยู่หน้าประตู ยืนต้านแสงจนมองไม่เห็นใบหน้า เห็นเพียงเหรียญเหล็กนิลที่เอวสะท้อนแสงเย็นวาบในแสงโคม

"ท่านอ๋อง" น้ำเสียงของผู้มาเยือนเย็นเยียบดุจน้ำแข็งแตกกระทบกัน "ไม่ได้พบกันเสียนานเลยขอรับ"

ฉู่จืออี้เหลือบตามองออกไป ก็เห็นว่าเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลมู่ มู่ซ่างเสวี่ย

ทันใดนั้นจึงผายมือเชิญให้นั่ง "คุณชายใหญ่มู่มาด้วยตนเอง ข้าน้อยฉู่รู้สึกเป็นเกียรติยิ่งนัก"

มู่ซ่างเสวี่ยยังไม่ได้นั่งลงทันที แต่ยืนอยู่ข้างโต๊ะ มองฉู่จืออี้จากที่สูง "เจ้ารู้ตั้งแต่เมื่อไร?"

"ตั้งแต่ข้ากับเจ้าสิบก้าวเข้
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terbaru

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1456

    “ส่งตัวเฉียวเนี่ยนออกมาเดี๋ยวนี้!”เสียงตวาดเกรี้ยวกราดจากชั้นล่างดังทะลุเข้ามาในโสตประสาทของเฉียวเนี่ยนอย่างชัดเจนมาเพื่อหาเรื่องนางหรือ?เฉียวเนี่ยนขมวดคิ้วมุ่น นางคว้าเสื้อคลุมข้างเตียงขึ้นมาคลุมกาย แล้วกัดฟันข่มความเจ็บปวด ฝืนก้าวเดินออกไปทีละก้าวทันทีที่เปิดประตู ก็เห็นหนิงซวงและเกอซูอวิ๋นยืนรออยู่หน้าห้องแล้วเมื่อเห็นเฉียวเนี่ยนเดินออกมา หนิงซวงก็รีบปราดเข้ามาหา “คุณหนูออกมาทำไมเจ้าคะ? ท่านยังบาดเจ็บอยู่นะเจ้าคะ!”“ข้าไม่เป็นไร” น้ำเสียงของเฉียวเนี่ยนแม้จะอ่อนแรงแต่กลับเยือกเย็นยิ่งนัก นางปัดมือหนิงซวงออกเบา ๆ ใช้มือยันผนังที่เย็นเฉียบ แล้วค่อย ๆ ลากสังขารเดินไปที่หัวมุมบันไดภาพเบื้องหน้าทำให้หัวใจของนางดิ่งวูบลงสู่ก้นเหวเห็นเพียงโถงโรงหมอที่สว่างไสวไปด้วยแสงไฟ ทว่ากลับถูกปกคลุมไปด้วยบรรยากาศสังหารอันน่าสะพรึงท่านหมอชราผู้ใจดีและเด็กรับใช้ยาต่างคุกเข่าอยู่กับพื้น ถูกองครักษ์ตระกูลมู่ที่มีท่าทางดุร้ายราวกับยักษ์มารกดแขนไพล่หลังเอาไว้อย่างหยาบคาย ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและคราบน้ำตาประตูใหญ่เปิดอ้า ด้านนอกมีเงาคนวูบไหว เห็นได้ชัดว่าถูกล้อมไว้หมดแล้วแ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1455

    “ว่ากระไรนะ?!” มู่ซ่างเสวี่ยตกใจอย่างมาก พลันลุกพรวดขึ้นยืน ทว่าเบื้องหน้ากลับมืดมิด วิงเวียนศีรษะจนต้องทิ้งตัวกลับลงไปบนเตียงอย่างแรงเขาหลับตาลง ปรับลมหายใจอยู่ครู่หนึ่งจึงค่อยเงยหน้าขึ้น ใบหน้าซีดเผือดไร้สีเลือด นัยน์ตาฉายแววตื่นตระหนกแกมไม่อยากเชื่อเป็นครั้งแรก!“ข้าสั่งให้เจ้าส่งคนไปเฝ้าเอาไว้แล้วมิใช่หรือ?!”“เฝ้าแล้ว! เฝ้าแล้วขอรับ!” มู่หงเสวี่ยโบกไม้โบกมือด้วยความตื่นเต้นระคนร้อนรน “ที่หอเป่าเสียงทางทิศตะวันออก ท่านปู่ห้านำยอดฝีมือองครักษ์สิบสองคนที่เก่งกาจที่สุดไปนั่งบัญชาการด้วยตนเองเลยนะขอรับ! เฝ้าชนิดไม่ให้คลาดสายตาเลยทีเดียว!”ท่านปู่ห้ามู่เจิ้นไห่ ดูแลกองกำลังองครักษ์ของตระกูลมู่มานานหลายสิบปี ใต้สังกัดชุบเลี้ยงยอดฝีมือที่มีชื่อเสียงในยุทธภพไว้นับไม่ถ้วน นับเป็นหนึ่งในปราการที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลมู่วันนี้เซียวเหอมาด้วยเจตนาไม่ดี มู่หงเสวี่ยจึงมิกล้าชะล่าใจ อุตส่าห์ไปเชิญเสาหลักผู้นี้ ให้ช่วยนำกำลังไปเฝ้าจุดสำคัญที่น่าจะตกเป็นเป้าหมายมากที่สุดด้วยตนเองทว่าใครจะคาดคิด... สุดท้ายก็ยังเกิดเรื่องขึ้นจนได้!มู่ซ่างเสวี่ยรู้สึกจุกแน่นในอกประหนึ่งถูกหินผาพันชั่งกดทั

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1454

    มู่ซ่างเสวี่ยรู้สึกถึงไอเย็นระลอกหนึ่งแผ่ซ่านจากฝ่าเท้าทะลวงขึ้นสู่กลางกระหม่อม!เขาทอดสายตาจ้องเขม็งไปยังเซียวเหอ เค้นเสียงลอดไรฟันออกมาทีละคำอย่างยากลำบาก “ท่านต้องการสิ่งใดกันแน่?”“ง่ายมาก” เซียวเหอลุกขึ้นยืน สองมือไพล่หลัง ทอดสายตามองมู่ซ่างเสวี่ยจากที่สูงด้วยแววตาเหยียดหยาม “ส่งยาถอนพิษ ‘พิษเถากัดกระดูก’ มาเสีย”“ตระกูลมู่มิได้มีพิษนี้ จะมียาถอนพิษได้อย่างไร!” มู่ซ่างเสวี่ยปฏิเสธอย่างหนักแน่น“ไม่มีรึ?” เซียวเหอหัวเราะเบา ๆ แววตาฉายแววรู้ทัน “ข้าได้ยินมาว่า เมื่อไม่กี่วันก่อนแดนต้องห้ามของจวนท่านถูกเปิดออก ข้าเดาว่าพิษประหลาดที่เป็นความลับไม่ถ่ายทอดสู่ภายนอกของตระกูลมู่ คงจะถูกเก็บซ่อนไว้ที่นั่นกระมัง? ยาถอนพิษเองก็ย่อมต้องอยู่ที่นั่นเช่นกัน ในเมื่อเจ้าตระกูลมู่ยืนกรานว่าไม่มี เช่นนั้นก็ให้ข้าเข้าไปในแดนต้องห้ามเพื่อดูให้เห็นกับตาเถิด”“เป็นไปไม่ได้!” มู่ซ่างเสวี่ยปฏิเสธทันควัน “แดนต้องห้ามตระกูลมู่ แม้แต่ลูกหลานในตระกูลเรายังมิอาจล่วงล้ำเข้าไปตามอำเภอใจ ไฉนเลยจะยอมให้คนนอกเช่นท่านเข้าไปได้?!”เซียวเหอย้อนถามเสียงเย็น “คนนอกที่เข้าไปได้ก็มีตั้งไม่รู้กี่คนแล้ว ข้าเข้าไปอีกสั

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1453

    เซียวเหอแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจนัยที่มู่ซ่างเสวี่ยต้องการจะสื่อ เขาเพียงแย้มยิ้มบางเบา “การที่ข้าเดินทางมาในครั้งนี้ ก็เพื่อตามหาน้องชาย เซียวเหิง เขาหายสาบสูญไปในจวนของท่าน ไร้ซึ่งข่าวคราว ในฐานะพี่ชาย ข้าย่อมต้องมาทวงถามคำอธิบายด้วยตนเอง”รอยยิ้มบนใบหน้าของมู่ซ่างเสวี่ยยังคงเดิม ทว่าแววตากลับฉายแววอำมหิตวูบหนึ่ง “เกรงว่าท่านอ๋องจะมาผิดที่แล้ว เวลานี้แม่ทัพเซียวเป็นแขกพักอยู่ที่จวนขององค์ชายรอง หากท่านอ๋องต้องการตามหาคน ก็ควรไปที่จวนองค์ชายรองถึงจะถูก”มุมปากของเซียวเหอยกขึ้นเป็นรอยยิ้มจาง ๆ ทว่าดวงตากลับไร้ซึ่งไออุ่น “ข้าย่อมรู้อยู่แล้วว่าเขาอยู่ที่นั่น เพียงแต่ข้ายังรู้อีกว่า เขาถูกพิษร้าย ‘พิษเถากัดกระดูก’ เล่นงาน ซ้ำยังบาดเจ็บสาหัส เวลานี้เป็นตายร้ายดีอยู่ที่จวนองค์ชายรองก็สุดจะรู้! เจ้าตระกูลมู่ บัญชีหนี้นี้ หากข้าไม่มาทวงเอากับตระกูลมู่ จะให้ไปทวงกับองค์ชายรองหรือไร?”ในครานั้น ผู้ที่รับตัวเซียวเหิงออกจากแคว้นจิ้ง ก็คือคนของตระกูลมู่น้ำเสียงของเขาราบเรียบ แต่กลับเชือดเฉือนดั่งคมมีดทุกถ้อยคำรอยยิ้มบนใบหน้าของมู่ซ่างเสวี่ยเลือนหายไปจนสิ้น เหลือทิ้งไว้เพียงความเย็นชาดุจน้ำแข็ง

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1452

    วันนั้น คือวันคล้ายวันเกิดของนางไม่คาดคิดเลยว่าเซียวเหอจะจัดเตรียมงานเลี้ยงฉลองให้นางอย่างพิถีพิถันถึงเพียงนี้นับตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่ มีใครเคยจัดงานฉลองวันเกิดให้นาง? มีใครเคยใส่ใจวันสำคัญเช่นนี้ของนางบ้าง? ความตื้นตันและอบอุ่นอันใหญ่หลวงถาโถมเข้าใส่ จนทำให้นางมิอาจหักห้ามใจ ดื่มสุราจนมิอาจยับยั้ง…ท้ายที่สุด ความทรงจำหลงเหลือเพียงแสงเทียนไหวระริก เงาร่างผู้คนเลือนราง ทุกสรรพสิ่งพร่ามัวสับสนไปหมดยามตื่นขึ้นมาอีกครา สิ่งที่ปรากฏแก่สายตาคือดวงหน้าอันอ่อนโยนของเซียวเหอท่ามกลางแสงอรุณรุ่งเรือง และ… สภาพห้องที่ยุ่งเหยิง กับความปวดเมื่อยแปลกประหลาดที่เรือนกายของนางนางกับเซียวเหอ… ได้กลายเป็นสามีภรรยาที่แท้จริงเสียแล้วนางจำได้แม่นยำ นัยน์ตาของเซียวเหอฉายแววรักใคร่เอ็นดู พลางเอ่ยถามนางว่า “หิวหรือไม่? อยากทานอะไรหน่อยไหม?”ยามนั้นหัวใจนางเต้นกระหน่ำดั่งรัวกลอง แทบจะสำลักความสุขจมดิ่งลงในห้วงความอ่อนโยนนั้นทว่าเพียงชั่วอึดใจถัดมา นามที่เขาเอื้อนเอ่ยออกมากลับเปรียบเสมือนน้ำเย็นเฉียบถังใหญ่ที่สาดรดลงมาจนหนาวเหน็บไปถึงขั้วหัวใจ——“เนี่ยนเนี่ยน”เมื่อหวนนึกถึงตรงนี้ หัวใจของเกอซูอว

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1451

    อาการคลื่นเหียนในท้องของเกอซูอวิ๋นยังไม่ทันทุเลาลง ก็ต้องตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูกเมื่อความลับถูกเปิดโปงอย่างกะทันหัน นางเผลอผลักอกเซียวเหอที่ยืนขวางหน้าอยู่ออกไปเต็มแรงโดยสัญชาตญาณ น้ำเสียงสั่นเครือแฝงแววต่อต้าน “ออกไปนะ! เรื่องของข้า ไม่เกี่ยวกับท่าน!”ทว่าเรี่ยวแรงอันน้อยนิดของนางนั้น ช่างดูไร้ค่าราวกับมดปลวกเขย่าต้นไม้ใหญ่แววตาตื่นตะลึงของเซียวเหอยังจางหายไปไม่หมด ทว่ากลับถูกแทนที่ด้วยความเคร่งขรึมจริงจังชนิดที่ไม่อาจโต้แย้งได้เขาไม่เพียงไม่ถอย หากแต่ยังโน้มกายลง สอดมือข้างหนึ่งเข้าใต้ข้อพับเข่า อีกมือประคองแผ่นหลังของนางไว้อย่างมั่นคง เพียงออกแรงเพียงเล็กน้อย ร่างที่เบาหวิวนั้นก็ถูกช้อนอุ้มขึ้นแนบอก!“อ๊า!” เกอซูอวิ๋นอุทานแผ่วเบา สัญชาตญาณทำให้นางกำเสื้อบริเวณอกของเขาไว้แน่น ก่อนจะรีบปล่อยมือออกอย่างรวดเร็วราวกับถูกไฟลวก และดิ้นรนอย่างเปล่าประโยชน์ “ปล่อยข้าลงนะ!”เซียวเหอกระชับอ้อมแขน กักขังนางไว้ในอกแกร่งแน่นหนา ก่อนจะก้าวเท้ายาว ๆ ตรงดิ่งไปยังห้องพักรับรองของโรงหมอ สันกรามของเขาขบแน่น แววตาฉายแววทะมึนลึกล้ำประดุจท้องนภาก่อนพายุจะโหมกระหน่ำ กลิ่นอายสังหารที่ผ่านการกรำศึกใน

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status