เหลือเพียงนางและรอยยิ้มของนางเท่านั้นไม่นานนัก บ่าวรับใช้ก็พบทั้งสองและช่วยพาขึ้นฝั่งภายในห้อง เฉียวเนี่ยนนั่งอยู่หน้าโต๊ะ มือประคองถ้วยน้ำขิงที่หนิงซวงยัดเยียดให้นาง"ถึงจะเป็นหน้าร้อน แต่ถ้าตกน้ำก็ยังมีโอกาสเป็นหวัดอยู่ดี เพราะฉะนั้นต้องดื่มนะเจ้าคะ!" หนิงซวงกล่าว พลางอ้อมไปด้านหลัง ค่อย ๆ ใช้ผ้าขนหนูซับผมของเฉียวเนี่ยนที่ยังแห้งไม่สนิทนางเหลือบมองออกไปด้านนอกแวบหนึ่ง ก่อนจะลดเสียงลง เอ่ยอย่างระแวดระวัง "คุณหนู อีกเดี๋ยวฮูหยินเซียวคงจะมาหาเรา หรือไม่… ให้บ่าวปิดประตู แล้วบอกไปว่าคุณหนูไม่สบายและเข้านอนแล้วดีหรือไม่เจ้าคะ?"เฉียวเนี่ยนจิบชาไปหนึ่งอึก ก่อนจะเลิกคิ้วถามอย่างฉงน "ทำไมรึ?"แม่เซียวจะมา ก็ปล่อยให้นางมาเถิด เหตุใดหนิงซวงจึงดูต่อต้านถึงเพียงนี้?หนิงซวงขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยตามตรง "บ่าวได้ยินข่าวลือบางอย่างในตลาดวันนี้ พูดกันว่าคุณหนูมีดวงพิฆาตสามี แล้ววันนี้คุณชายใหญ่ก็บังเอิญตกน้ำเข้าเสียอีก… บ่าวคิดว่าฮูหยินเซียวคงต้องโทษคุณหนูแน่ ๆ!"ได้ยินเช่นนั้น เฉียวเนี่ยนก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองหนิงซวงสีหน้าของอีกฝ่ายเคร่งเครียดนัก เมื่อเฉียวเนี่ยนเห็นดังนั้น ก็อดคิ
ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น เซียวเหอก็หันมามองทางนี้อย่างกะทันหันสายตาทั้งคู่สบกัน เฉียวเนี่ยนก็มีแต่ถ้อยคำที่เซียวเหอกล่าวไว้ริมทะเลสาบในวันนี้วนเวียนอยู่เต็มหัว ใจกลางอกพลันสั่นไหวอย่างควบคุมไม่อยู่เซียวเหอกำลังเดินตรงมาทางนางนางตกใจและก้าวถอยหลังไปครึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัวฝีเท้าของเซียวเหอก็ชะงักลงเมื่ออยู่ห่างจากประตูห้องของนางสามก้าว เขาก็หยุดลง แล้วยกมุมปากยิ้มเล็กน้อยพลางกล่าวว่า "พักผ่อนเถอะ"เฉียวเนี่ยนรีบพยักหน้า "เจ้าค่ะ ท่านพี่เซียวก็เช่นกัน""อืม" เขาพยักหน้า แล้วจึงหันหลังกลับเข้าห้องไปพอประตูห้องปิดลง สีหน้าของเซียวเหอก็หม่นหมองลงในทันทีท่าทางที่เฉียวเนี่ยนถอยหลังไปครึ่งก้าวเมื่อครู่ เขาเห็นชัดเจนดี และก็รู้ว่าวันนี้นางก็ยังคงตกใจกลัวอยู่ดีหรือว่าเขาจะตรงไปตรงมาเกินไปหน่อยหว่างคิ้วขมวดเล็กน้อย แต่ในหัวกลับปรากฏภาพรอยยิ้มสดใสของเฉียวเนี่ยนขึ้นมาอีกครั้ง มุมปากก็อดไม่ได้ที่จะยกยิ้มบาง ๆ ตามไปด้วยเขาคิดว่า ดูเหมือนเรื่องราวก็ไม่ได้เลวร้ายถึงเพียงนั้นพูดออกไปแล้วก็ดี อย่างน้อยจากนี้ความดีของเขาที่มีต่อนาง ก็จะไม่ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นความรักแบบพี่น้องอีกต่อไปส่
ตกดึกเฉียวเนี่ยนนอนพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง หลับไม่ลงเลยไม่รู้เพราะอะไร พอหลับตาลงในวันนี้ ภาพใบหน้าของเซียวเหอก็ลอยเข้ามาให้เห็นทันทีบางเรื่อง หากไม่พูดถึงก็จะไม่เผลอนึกถึงแต่พอถูกเอ่ยขึ้นมาเมื่อใด ก็จะไหลบ่าราวกับกระแสน้ำเชี่ยวกราก ไม่อาจขวางกั้นได้ ยิ่งพยายามไม่ใส่ใจ ก็ยิ่งห้ามความคิดไม่ให้ย้อนกลับไปไม่ได้!ถึงอย่างไรก็หลับไม่ลงอยู่ดีเฉียวเนี่ยนลุกขึ้นนั่ง หยิบเสื้อคลุมมาสวม แล้วเปิดประตูออกไปข้างนอกเดิมทีตั้งใจจะไปนั่งใต้ชิงช้า ชมจันทร์ รับลม คลายความกังวลแต่พอเพิ่งก้าวออกจากประตู นางก็เงยหน้ามองไปยังต้นอู๋ถงโดยไม่รู้ตัวกิ่งใบหนาแน่น มองไม่ออกในทันทีว่ามีใครอยู่หรือไม่แต่นางก็ยังคงระมัดระวัง ขณะเดินไปใต้ต้นไม้ก็มองขึ้นไปบนต้นอู๋ถงไปด้วยจนกระทั่งแน่ใจว่าบนต้นอู๋ถงนั้นไม่มีใครอยู่จริง ๆ เฉียวเนี่ยนถึงได้นั่งลงอย่างวางใจชิงช้าแกว่งเบา ๆ พระจันทร์กลมสวยก็โผล่ให้เห็นเป็นระยะจากเบื้องหลังเงาไม้เฉียวเนี่ยนคิดในใจว่าหากตอนนี้มีเหล้าบ๊วยอยู่ในมือสักไห ก็คงเข้ากับบรรยากาศไม่น้อยแต่แล้วก็มีใบไม้จากต้นอู๋ถงใบหนึ่งค่อย ๆ ร่วงหล่นลงมาตรงหน้าเพิ่งจะต้นฤดูร้อน ทำไมถึงมีใ
ก่อนหน้านี้ หญิงชราคนนี้ก็เคยบรรยายลักษณะของคนที่สั่งให้นางทำเช่นนี้จี้เยว่ฟังจากคำบรรยายแล้วพบว่าคล้ายกับเซียวเหิงไม่น้อย จึงพานางมาหาเซียวเหอ เพื่อให้เซียวเหอเป็นคนตัดสินเพียงแต่ เขาไม่ได้หวังว่าหญิงชรานี้จะกล้าชี้ตัวเซียวเหิงต่อหน้าทุกคน ขอแค่นางเหลือบมองเซียวเหิงหลาย ๆ ครั้งก็พอแล้วและตอนนี้ ดวงตาของหญิงชราคู่นั้น ก็พลันหันไปมองเซียวเหิงอยู่เรื่อย ๆ แม้ปากจะไม่ได้เอ่ยอะไร ทว่ากลับทำให้ทุกคนเข้าใจได้ทันที ว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ก็คือเซียวเหิง!เฉียวเนี่ยนหันไปมองเซียวเหิงโดยไม่รู้ตัว นางเองก็ไม่คิดเหมือนกันว่าข่าวลือทั้งหลายนอกเรือนนั้น จะเป็นฝีมือของเซียวเหิงแต่พอคิดอีกที กลับไม่รู้สึกแปลกใจเลยแผนการแปลก ๆ ของเซียวเหิงมีอยู่มากมายมาแต่ไหนแต่ไร สมัยเด็ก ๆ ตอนที่พาไปล้างแค้น ส่วนใหญ่ก็มาจากแผนของเซียวเหิงทั้งนั้นกลอุบายพวกนี้ หากใช้ในสนามรบ ก็คงเรียกว่าเฉลียวฉลาดมากแต่พอเอามาใช้กับนางแล้ว อย่างไรก็รู้สึกว่าออกจะต่ำช้าไปหน่อยสีหน้าของพ่อเซียวกับแม่เซียวตอนนี้ก็ดูจะอึมครึมถึงขีดสุด สายตาที่มองไปยังเซียวเหิงก็เต็มไปด้วยความตำหนิแม้แต่เซียวชิงหน่วนก็อดไม่ได้ที
นอกจากนี้ ยังมีคำพูดบางประการที่กล่าวใส่ร้ายเฉียวเนี่ยนแต่ที่น่าสังเกตคือ ลายมือของคนเขียน...พ่อเซียวเผลอถลึงตาใส่เซียวเหิงเด็กนี่ไม่โง่ เขียนด้วยมือซ้าย เป็นเพียงเขาคนเดียวที่เป็นพ่อจะรู้ได้ทันใดนั้นเขาก็เก็บจดหมายไว้ แล้วถามต่อไปว่า "ทำไมคนนั้นถึงมาหาเจ้า? เจ้ามีเรื่องอะไรกับสะใภ้ใหญ่ของตระกูลข้าหรือ?"หญิงชราตกใจจนรีบปฏิเสธ "ไม่มี ไม่มีเรื่องอะไรเลยเจ้าค่ะ ข้าน้อยเป็นแค่คนธรรมดา จะมีเรื่องอะไรกับนายหญิงน้อยใหญ่ได้เล่า? แค่... "หญิงชรากำลังจะพูด แต่กลับหยุดคำพูดไว้เซียวชิงหน่วนที่มีนิสัยร้อนรนอยู่แล้ว เมื่อเห็นหญิงชราพูดติดอ่าง จึงโกรธจัดจนไม่สามารถทนได้ "อย่ามัวแต่พูดอ้อมค้อม รีบพูดมาให้จบ!"หญิงชราจึงพูดด้วยเสียงอ่อน ๆ อีกครั้ง "แค่... ข้าน้อยชอบพูดคุยกับผู้คน ไปมาหาสู่กับพวกหญิงสาวหลายคนตามปกติ ก็เลย..."คำพูดถัดไปไม่จำเป็นต้องพูดต่อ ทุกคนก็น่าจะเดากันได้ว่า นี่คือหญิงชราที่มีชื่อเสียงเรื่องปากเปราะในเมืองหลวง!แต่อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงที่ปากพล่อยพวกนี้โดยปกติจะไม่ค่อยได้ติดต่อกับชนชั้นสูงเท่าไหร่ จึงไม่มีใครในตระกูลเซียวที่จำนางได้ทว่าทหารในกองทัพของเซียวเหิงส่วนใ
เซียวเหิงหยุดฝีเท้าที่กำลังจะก้าวออกจากห้องโถง ศีรษะของเขาเอียงไปเล็กน้อย เพียงแค่มองดูแผ่นหลังนั้นก็สามารถทำให้คนรู้สึกถึงความหงุดหงิดที่เขากำลังมีในขณะนี้เขาไม่ได้หันกลับมา ยังคงหันหลังให้กับทุกคนพ่อเซียวตวาดเสียงดัง "ไอ้ลูกเวร อย่าได้ทำเรื่องโง่ ๆ แบบนี้อีก ไม่เช่นนั้นข้าจะไม่ให้อภัยเจ้าแน่!"คำขู่นั้นไม่ได้สร้างความเจ็บปวดอะไร เซียวเหิงไม่แม้แต่จะตอบรับ เพียงแค่ยกเท้าเดินออกไปจากธรณีประตูพ่อเซียวโกรธจนแทบคลั่ง และลุกขึ้นเหมือนจะตามไป แต่กลับถูกแม่เซียวขวางไว้จนในที่สุด ความโกรธของพ่อเซียวก็ตกไประบายที่แม่เซียวแทน "ดูเจ้าซิ สอนลูกประสาอะไร!"ในขณะที่พ่อเซียวกำลังโกรธ แน่นอนว่าแม่เซียวไม่อาจโต้เถียงอะไรได้ จึงเพียงแต่ปลอบโยนว่า "พอได้แล้วเจ้าค่ะ เดี๋ยวข้าจะสั่งสอนเขาเอง อย่าให้ตัวเองเครียดจนเสียสุขภาพนะเจ้าคะ หน่วนหน่วน พาท่านพ่อเจ้าไปนั่งพักผ่อนหน่อย"พ่อเซียวรักและเอ็นดูเซียวชิงหน่วนมากที่สุด การที่เซียวชิงหน่วนมาเป็นคนปลอบประโลมจึงเหมาะสมที่สุดเซียวชิงหน่วนตอบรับทันที แล้วก้าวไปประคองแขนพ่อเซียว "ท่านพ่อ ให้หน่วนหน่วนเล่นหมากรุกกับท่านพ่อดีหรือไม่เจ้าคะ?"ความโกรธของ
แม้ว่านางจะพูดไว้ว่าสามปี แต่เขาก็เคยพูดไว้ว่าหากนางอยากจะไปเมื่อไหร่ก็ย่อมได้เขารู้ดีว่าความรักนั้นไม่สามารถบังคับกันได้เขาชอบนางมากจริง ๆ ดังนั้นเขาจึงต้องพยายามเอาชนะใจนางให้ได้แต่หากนางไม่ชอบเขา เขาก็ไม่มีทางไปบังคับนางได้นิสัยของเขาต่างจากเซียวเหิงโดยสิ้นเชิงนึกถึงตรงนี้ ในใจของเซียวเหอก็รู้สึกหนักอึ้งขึ้น นึกถึงเซียวเหิงที่มีนิสัยแบบนั้น ดวงตาของเขาก็หมองลงไปทันใดนั้น เขาก็หันไปพูดกับเฉียวเนี่ยน "หรือไม่ก็... ให้ข้าไปจากเมืองหลวงด้วยกันกับเจ้าก็ได้"ได้ยินคำนี้ เฉียวเนี่ยนเงยหน้าขึ้นมองเซียวเหอทันที ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความตกใจเขาจะคิดที่จะออกจากเมืองหลวงไปกับนางได้อย่างไร?เมื่อเห็นการตอบสนองของนางที่ตกใจขนาดนี้ เซียวเหอก็รู้ทันทีว่าเขาคงพูดสิ่งที่ตรงใจนางไปแล้ว เขาจึงยิ้มเล็กน้อย "ข้ารู้ว่าเจ้ากังวลเกี่ยวกับเหิงเอ๋อร์ ดังนั้น ข้าจึงอยากบอกเจ้าไว้ เจ้าไม่ต้องกังวล ข้าสามารถจัดการทุกอย่างได้"เขาไม่จับเป็นต้องรับภาระอะไรของตระกูลเซียวอีกต่อไปแล้ว ดังนั้นเขาจึงสามารถไปกับนางโดยไม่ต้องกังวลอะไร ออกไปชมภูเขาและแม่น้ำที่ไม่เคยเห็น และสัมผัสกับวัฒนธรรมที่ไม่เคยได้พบ
เซียวเหิงมิได้ปฏิเสธและก็มิได้เอ่ยวาจาใดเพียงยกมือสะบัดเบา ๆ ก็เห็นชายฉกรรจ์กว่าสิบคนโผล่ออกมาจากตรอกซอยรอบด้านดูออกว่าแต่ละคนล้วนเป็นยอดฝีมือในกองทัพสีหน้าเซียวเหอยิ่งอึมครึม สองดวงตาจับจ้องเซียวเหิงแน่นิ่ง "เจ้าคิดจะทำสิ่งใดกันแน่?"เซียวเหิงจึงล้วงออกมาจากอกเสื้อ หยิบยาขึ้นมาหนึ่งเม็ด "นี่คือยาที่ข้าไปขอจากสำนักราชาโอสถมา สามารถเสริมสร้างร่างกาย บำรุงกล้ามเนื้อ ฟื้นฟูโลหิต เหมาะสำหรับพี่ใหญ่ที่สุด"ขาของเซียวเหอที่มิได้ใช้มาห้าปี กล้ามเนื้อย่อมหดลีบไปไม่น้อยยานี้สามารถช่วยให้เขาฟื้นตัวได้โดยเร็วแต่ยาที่ดูเหมือนดีต่อเขาถึงเพียงนี้ เหตุใดจึงต้องหลอกล่อให้ออกจากจวนก่อนจึงค่อยยื่นให้?เซียวเหอมิได้ตอบ เพียงรอฟังเซียวเหิงพูดต่อเป็นดังคาด เซียวเหิงหลุบตาลง คล้ายไม่กล้าสบตาเซียวเหอ "เพียงแต่ยานี้มีผลข้างเคียงหนึ่ง หลังกินเข้าไป จะทำให้หลับไหลถึงสิบสองชั่วยาม"สิบสองชั่วยาม เพียงพอให้เขาทำเรื่องต่าง ๆ ได้มากมายระหว่างที่หว่างคิ้วของเซียวเหอขมวดต่ำลง เขาก็เข้าใจแล้วว่าเซียวเหิงตั้งใจจะทำสิ่งใดกันแน่สายตาของเขากวาดมองชายฉกรรจ์ที่ล้อมอยู่อย่างช้า ๆ หัวใจก็พลันจมดิ่งถึงก้น
“เจ้าพูดว่าอะไรนะ!” ท่านโหวหลินตกใจมาก ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วฮูหยินหลินเองก็เบิกตากว้างอย่างกะทันหัน มองหลินเย่ว์ด้วยความไม่เชื่อหลินยวนก็ตกใจมากเช่นกัน ทันใดนั้นก็เข้าใจว่าทำไมหลินเย่ว์ถึงทำตัวผิดปกติเช่นนี้ก่อนหน้านี้ที่แท้ก็เพราะเรื่องนี้หรือ?เพราะเฉียวเนี่ยนตายแล้วรึ?แต่ในขณะนี้ หลินยวนไม่รู้สึกดีใจเลยแม้แต่น้อยสิ่งที่เหลืออยู่มีเพียงความตื่นตระหนกเท่านั้นเฉียวเนี่ยนตาย แล้วนางจะปัดความรับผิดชอบเรื่องของย่าเฉาได้อย่างไร?นางจะโยนความผิดให้ใคร?ทำเช่นไรดี?หลินยวนรู้สึกหวาดกลัวถึงขีดสุดแต่ไม่คิดว่าหลินเย่ว์จะพุ่งเข้ามาจับคอเสื้อของนาง “เจ้าเป็นใครกันแน่? พูดมา!”หลินยวนตกใจกลัวนางไม่เคยเห็นหลินเย่ว์ดุร้ายเช่นนี้มาก่อนน้ำตาไหลพรากออกมาไม่หยุด แต่ก็ยืนกรานว่าตัวเองเป็นบุตรสาวสายตรงแห่งจวนโหว“พี่ใหญ่ อย่าขู่ข้าเลย... ข้าเป็นน้องสาวของพี่นะ!”“หมอตำแยพูดเองกับปากว่า ข้าถูกนางสลับตัว! นางพูดเองกับปาก!”“ข้าหน้าเหมือนแม่มากเลยนะ พี่ใหญ่ ดูข้าสิ! ข้าจะไม่ใช่ลูกของแม่ได้อย่างไร!”นางปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวเองไม่ใช่!มิเช่นนั้น ด้วยสภาพของคนในตระกูลหลินยามนี้ พวกเขาจ
คิดไม่ได้แล้ว คิดต่อไม่ได้แล้ว...นางจะทนไม่ไหวแล้ว!ในขณะนั้นเอง มามาหลายคนคนที่พาหลินยวนลงไปก่อนหน้านี้ ในที่สุดก็พาหลินยวนกลับมา "ทูลฮูหยิน เอวของคุณหนูรองไม่มีปานเจ้าค่ะ"เมื่อได้ยินเช่นนี้ ย่าเฉาจึงรีบเอ่ยว่า "นางไม่ใช่ตั้งแต่แรก จะมีได้อย่างไร!"หลินยวนร้องไห้ตะโกน "ท่านแม่ ไม่ใช่เช่นนั้น! ท่านอย่าฟังคำพูดเหลวไหลของหญิงชั่ว!"ฮูหยินหลินราวกับโดนค้อนหนักทุบจนหัวเริ่มมึนงงนางไม่เคยสงสัยหลินยวนเลย เพียงแต่คนที่นางส่งไปไม่เคยได้เบาะแสอะไรกลับมาเลยก่อนหน้านี้มีช่วงหนึ่งที่นางสงสัยว่ายวนเอ๋อร์กับเนี่ยนเนี่ยนเป็นพี่น้องฝาแฝด และหมอตำแยที่ทำคลอดให้นางขโมยไปคนหนึ่งฉะนั้น นางจึงรักลูกทั้งสองคนและตัดใจจากลูกทั้งสองคนไม่ได้...นางอยากจะเชื่อว่านางคลอดลูกฝาแฝดมากกว่าที่จะสงสัยว่าหลินยวนไม่ใช่ลูกของนาง!หายใจเข้าลึกๆ หลายที ฮูหยินหลินก็ดูเหมือนจะมีแรงกลับมา จึงยกมือขึ้นและเรียกเด็กรับใช้ที่อยู่ไม่ไกลออกไป "ไป ไปตามท่านโหวกลับมา! ตามท่านโหวน้อยกลับมาด้วย!"เรื่องนี้ นางทนรับคนเดียวไม่ไหวจริงๆเด็กรับใช้รีบรับคำและจากไปทันทีแต่หลินยวนยังคงร้องไห้ "ท่านแม่ ท่านไม่ควรเชื่อคำพูดของ
ชาวแคว้นจิ้งเชื่อว่าเด็กๆ เป็นของขวัญจากสวรรค์เหล่านางฟ้าบนสวรรค์เลือกครอบครัวที่เหมาะสม แล้วส่งเด็กๆ ลงมาทีละคนเด็กบางคนซุกซน ไม่ยอมลงมา นางฟ้ากริ้วโกรธ ก็เลยต้องลงมือรอยปานเล็กๆ นั่นต้องเป็นรอยที่นางฟ้าจิ้มแน่นอนส่วนรอยที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อย ต้องเป็นรอยที่นางฟ้าหยิกแน่นอนและรอยที่ใหญ่กว่านั้น อืม ต้องเป็นเด็กที่ซุกซนมาก นางฟ้าทนไม่ไหว จึงเตะลงมาฮูหยินหลินรู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่งเมื่อก่อน ยามที่นางดูแม่นมเปลี่ยนผ้าอ้อมให้เนี่ยนเนี่ยน นางก็เคยพูดว่า เด็กคนนี้ต้องซุกซนมากแน่ๆ ถึงโดนนางฟ้าหยิกที่เอวเนี่ยนเนี่ยนมีปานที่เอวเมื่อคิดถึงตรงนี้ ฮูหยินหลินก็ค่อยๆ หันไปมองหลินยวน "เจ้ามีปานหรือไม่?"หลินยวนตกใจส่ายหัวไม่หยุด "ท่านแม่ อย่าฟังหญิงคนนี้พูดจาเหลวไหล..."แต่ก่อนที่นางจะพูดจบ ฮูหยินหลินก็ออกคำสั่ง "ใครก็ได้เข้ามาที! พาตัวนางออกไป ถอดเสื้อผ้าออกให้หมดแล้วหาปาน!""เจ้าค่ะ!"มามาคนหนึ่งที่อยู่ด้านข้างตอบรับและพาหลินยวนออกไปหลินยวนไม่ยอมและดิ้นรน แต่นางจะสู้แรงเหล่ามามาได้อย่างไร?ในไม่ช้า ห้องโถงด้านหน้าก็กลับมาเงียบสงบอีกครั้งฮูหยินหลินแทบจะนั่งไม่ไหวแล้ว แต่ก็ยัง
ขณะนั้น หลินยวนที่ถูกขังอยู่นอกเรือนลั่วเหมยก็เบิกตากว้างทันทีด้วยความไม่เชื่อด้านข้างมีสาวใช้กระซิบว่า "คุณหนู ท่านโหวน้อยเป็นอะไรไป ทำไมถึงดูเหมือนคนบ้าเช่นนี้? เกิดอะไรขึ้นหรือไม่?"หลินยวนขมวดคิ้วนิดๆ นางเองก็ไม่รู้แต่การที่หลินเย่ว์คลุ้มคลั่งขึ้นมาอย่างกะทันหัน กลับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนางโอกาสที่ดีที่จะไปแสดงความน่าสงสารต่อหน้าฮูหยินหลิน เพื่อให้ฮูหยินหลินสงสารนาง!นางรู้ดีว่าแม้ท่านโหวหลินและฮูหยินหลินจะช่วยชีวิตนางไว้ แต่พวกเขาก็ไม่ได้รักนางเหมือนเมื่อก่อนบางที วันนี้นางอาจใช้โอกาสนี้เพื่อเรียกความรักของพวกเขากลับคืนมาได้เมื่อคิดได้เช่นนั้น หลินยวนจึงไปหาฮูหยินหลินแต่ได้รับแจ้งว่า ฮูหยินหลินกำลังต้อนรับแขกอยู่ที่ห้องโถงด้านหน้าเพื่อแสดงความน่าสงสารของตน หลินยวนจึงมาที่ห้องโถงด้านหน้า โดยตั้งใจไม่มองแขกคนนั้นเลย นางเพียงแค่น้ำตาคลอเบ้าเดินไปหาฮูหยินหลินและคุกเข่าลง "ท่านแม่ ได้โปรดให้ความเป็นธรรมแก่ยวนเอ๋อร์ด้วย! ท่านพี่ไม่รู้เป็นอะไร ไล่ยวนเอ๋อร์ออกจากเรือนลั่วเหมย! ฮือๆ ๆ พี่ใหญ่ยังผลักยวนเอ๋อร์ด้วย ข้อเท้าของยวนเอ๋อร์เคล็ดเลยเจ้าค่ะ!"ฮูหยินหลินมองหลินยวนที่คุ
ไม่รู้ว่าตบหน้าตนเองไปนานแค่ไหน หลินเย่ว์ก็เหมือนนึกบางอย่างออก รีบรวบรวมเศษผ้าเหล่านั้นกลับเข้าไปซุกไว้ในอกของตนแล้วลุกขึ้นเปิดประตูออกไปข้างนอกเขาต้องไปหาเนี่ยนเนี่ยนออกจากประตู ก็เห็นต้นหวยขนาดใหญ่วัยเด็ก เนี่ยนเนี่ยนชอบปีนขึ้นไปเล่นบนต้นไม้มากที่สุดโขดหินจำลองที่อยู่ไม่ไกลก็เป็นสถานที่ที่เนี่ยนเนี่ยนชอบเล่นมากที่สุดเช่นกัน ครั้งหนึ่ง นางตกจากโขดหินจำลอง ทำให้เขาตกใจแทบแย่ แต่นางกลับยิ้มร่าเริง ไม่คิดอะไรมากศาลาหลังนั้น เขาเคยเล่นหมากรุกกับนางด้วยกันครั้นที่เด็กน้อยเพิ่งหัดเล่น นางชอบเล่นตุกติกมากที่สุด หมากกระดานหนึ่ง ต้องแก้เกมเป็นสิบๆ ครั้งต้นท้อเหล่านั้น ออกผลทั้งใหญ่และหวานมาก เนี่ยนเนี่ยนจะพาบ่าวรับใช้มาเก็บผลไม้ทุกครั้ง แล้วนำมาทำเป็นขนมหวานอร่อย ยกมาให้เขาที่ห้องหนังสือด้วยตัวเองทางเดินเส้นเล็กนี้ เป็นทางที่เนี่ยนเนี่ยนเดินบ่อยที่สุดเพราะเรือนของนางอยู่ใกล้กับเรือนของเขามากที่สุด ในวัยเด็ก หากนางฝันร้าย นางจะกอดหมอนของตน พาสาวใช้อีกกลุ่มหนึ่ง วิ่งเข้ามาในห้องของเขา แล้วบังคับให้เขาต้องนอนกับนางให้ได้นางพูดว่า: มีพี่ใหญ่อยู่ข้างกาย เนี่ยนเนี่ยนถึงจะวางใจ
ร่างกายของหลินเย่ว์สั่นเทาราวกับว่าเขาสามารถเห็นภาพของเฉียวเนี่ยนเมื่อสามปีก่อนที่ถูกพาตัวไปยังกรมซักล้างและร้องไห้คร่ำครวญนางไม่ยอมจำนน ไม่ยอมอยู่ที่นั่น จึงถูกมามาในกรมซักล้างเฆี่ยนตีครั้งแล้วครั้งเล่าจากนั้น นางก็นอนคว่ำอยู่ในห้องที่มีทั้งลมและฝนรั่วฉีกเสื้อผ้าบนร่างกายที่ขาดหลุดลุ่ยใช้นิ้วจุ่มเลือดจากบาดแผลเขียนทีละตัวอักษรว่า:พี่ใหญ่ ช่วยข้าด้วยหัวใจของเขาเจ็บปวดจนหายใจแทบไม่ออกหลินเย่ว์รีบพลิกเศษผ้าเหล่านั้นทีละชิ้นเกือบทุกชิ้นเขียนด้วยเลือดว่า: พี่ใหญ่ ช่วยข้าด้วยพี่ใหญ่ รับข้ากลับบ้านด้วยพี่ใหญ่ ช่วยข้าด้วยยยเป็นเวลาสามปีแล้วที่เศษผ้าเปื้อนเลือดเหล่านี้บันทึกทุกครั้งที่นางขอความช่วยเหลือ และทุกครั้งก็เป็นการขอความช่วยเหลือจากเขาหลินเย่ว์เพิ่งตระหนักว่า ในใจของเฉียวเนี่ยน พี่ใหญ่ของเขาสำคัญมากเพียงใดในใจของนาง มีเพียงพี่ใหญ่เท่านั้นที่สามารถช่วยนางได้!แต่เขาทำอะไร?ในขณะที่นางนอนคว่ำอยู่บนเตียงไม้เย็นเฉียบ ขอความช่วยเหลือจากเขาด้วยเลือดสด เขาทำอะไรอยู่?เขาจะเข้าวังขอความเมตตาจากฮ่องเต้ แต่ถูกพ่อขวางไว้ ให้เขายึดประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลักส่วนรวม.
เขาไม่กล้าคิดต่อได้แต่บังคับตัวเองให้ดึงความคิดอันกระวนกระวายนั้นกลับมาเซียวเหิงใกล้ระเบิดแล้ว เขาจะบ้าตามไม่ได้!ดังนั้น เขาจึงสูดหายใจเข้าลึกๆ และพยักหน้า “ใช่ ต้องไม่เป็นอะไร”หลินเย่ว์ราวกับได้แรงกลับคืนมา เขาพยักหน้าและหันหลังเดินจากไปใช่ ต้องไม่เป็นอะไรรอให้เขากลับไปพักชั่วครู่ แล้วค่อยกลับมาหาเนี่ยนเนี่ยน...หลินเย่ว์ขี่ม้ากลับไป แต่ในหัวกลับปรากฏแต่ภาพขณะที่เฉียวเนี่ยนตกลงไปในแม่น้ำไกลจากเขามากไกลจนเขาไม่เห็นหน้านางชัดๆ ไกลจนเขาคว้าแม้แต่เงาของนางไว้ไม่ได้!แต่ทำไมพวกเขาถึงห่างกันได้ขนาดนี้?หรือว่าเขาค่อยๆ ผลักไสนางออกไปเอง?“ท่านโหวน้อย!”ทันใดนั้น เสียงหวานนุ่มนวลก็เรียกสติของหลินเย่ว์กลับคืนมาเขาชะงักไปครู่หนึ่ง เงยหน้าขึ้นมอง แล้วก็ตกใจที่พบว่าตนมาถึงหน้าจวนโหวตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่รู้“ท่านโหวน้อย!”เสียงเรียกดังขึ้นอีกครั้ง หลินเย่ว์จึงสังเกตเห็นหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่ไม่ไกลเขาจำนางไม่ได้แต่เห็นได้ชัดว่าหญิงสาวคนนั้นจำเขาได้ และเมื่อเห็นเขามองมาก็รีบวิ่งมาหาหลินเย่ว์ "คารวะท่านโหวน้อย บ่าวชื่อหลิ่วเหนียง เป็น...สหายของคุณหนูใหญ่ขณะอยู่ในวัง"คำว่าส
"เนี่ยนเนี่ยน!""เนี่ยนเนี่ยน!""ไม่!"เสียงดังสามเสียงดังขึ้นแทบจะในเวลาเดียวกันเซียวเหอและหลินเย่ว์ชักดาบออกมาพร้อมกัน ในขณะที่ชายหนวดเคราและเด็กหนุ่มยังไม่ทันได้ตั้งตัว พวกเขาก็ถูกปาดคอไปแล้วส่วนเซียวเหิงนั้น เขาไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นและกระโดดลงไปในแม่น้ำฉางหยางเมื่อเห็นเช่นนั้น เซียวเหอและหลินเย่ว์จึงรีบคว้าตัวเซียวเหิงกลับพร้อมกัน"ปล่อย!" เซียวเหิงตะโกนเสียงทุ้มต่ำและดิ้นรนอย่างสุดกำลัง ดวงตาทั้งสองจ้องมองไปที่ผิวน้ำที่ราบเรียบไร้ระลอกคลื่น พยายามมองหาร่างของเฉียวเนี่ยนเขาพยายามกระโดดลงไปในแม่น้ำอย่างต่อเนื่องแต่สองมือที่อยู่ข้างกายเขาคอยคว้าเขาไว้และดึงเขากลับมาเขาจึงทำได้เพียงปัดมือเหล่านั้นออกเนี่ยนเนี่ยนยังอยู่ในแม่น้ำ เขาต้องไปช่วยเนี่ยนเนี่ยน!“เพียะ!”เสียงตบที่ดังสนั่น ทำให้เซียวเหิงได้สติเซียวเหอกำลังจับคอเสื้อของเซียวเหิงไว้แน่น เสียงแข็งกร้าวเริ่มสั่นคลอน และเอ่ยว่า “เนี่ยนเนี่ยนจะไม่เป็นอะไร! นางว่ายน้ำเป็น! สิ่งที่เจ้าต้องทำในยามนี้คือพาสมุนหานางที่ปลายน้ำ ไม่ใช่กระโดดลงไป!”หากแม้แต่เซียวเหิงก็กระโดดลงไปด้วย แล้วพวกเขาจะช่วยใคร ช่วยเซียวเหิงหรือช
“อย่าหุนหันพลันแล่น!” เซียวเหอลงจากม้าเป็นคนแรก พร้อมตะโกนใส่พวกโจรภูเขาเมื่อเห็นรอยเลือดสีแดงฉานปรากฏบนคอของเฉียวเนี่ยน หัวใจของเขาก็พลันบีบรัดเซียวเหิงและหลินเย่ว์รีบลงจากม้าตามมาติดๆสีหน้าของเซียวเหิงดูมืดมนอย่างยิ่ง และกำหมัดแน่นเขาโกรธตัวเองที่ยามนั้นทำไมไม่กำจัดพวกโจรภูเขาให้หมดสิ้น ปล่อยให้เฉียวเนี่ยนตกอยู่ในอันตรายเช่นนี้ได้ยิ่งโกรธตัวเองที่หลงกลพวกโจรภูเขา!หลินเย่ว์มองเฉียวเนี่ยนที่ถูกจับเป็นตัวประกัน จิตใจว้าวุ่น เขาตะโกนเสียงดัง "พวกเจ้าต้องการอะไร ข้าให้ได้ทุกอย่าง! ปล่อยน้องสาวข้า!"ดวงตาของเฉียวเนี่ยนหม่นหมองนางนึกไม่ถึงว่าหลินเย่ว์จะมาด้วยแล้วพลันพบว่า แม้ในสถานการณ์เช่นนี้ นางก็ยังไม่อยากเจอหลินเย่ว์ยิ่งไม่อยากได้ยินเขาเรียกนางว่า 'น้องสาว'ตั้งแต่เมื่อใดกันที่นางเกลียดพี่ใหญ่ถึงเพียงนี้?ก่อนที่นางจะครุ่นคิดมากกว่านี้ ก็ได้ยินเสียงของชายที่มีหนวดเคราตะโกนว่า "อยากให้พวกข้าปล่อยคนอย่างนั้นหรือ? ง่ายมาก! เอาหัวของเซียวเหิงมาให้พวกเรา!"เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซียวเหอและหลินเย่ว์ก็ตกใจแต่ก็นึกไม่ถึงว่าเซียวเหิงจะชักดาบยาวที่เอวออกมาและวางไว้บนคอของตนโด