LOGINเธอพยายามหนีเขามาได้ตั้งหลายปี แต่อยู่ๆโชคชะตากลับไม่เข้าข้างเธออีกต่อไปเมื่อเธอเจอกับเขาโดยบังเอิญ เรื่องราวก่อนหน้านี้ผุดขึ้นมามากมายทั้งเรื่องที่เขาทำกับเธออย่างไม่น่าให้อภัย รวมไปถึงเรื่องที่เธอจากเขามาโดยไม่ล่ำลาสักคำทั้งที่เขาเคยช่วยเธอ เรื่องราวมากมายเกิดขึ้นระหว่างที่ไม่ได้เจอกันมาหลายปี รวมไปถึงในตอนที่เจอกันแล้วมันเหมือนทุกอย่างยิ่งวุ่นวายไปมากกว่าเดิมเสียอีก // หึ! ต่อให้หนียังไงก็ไม่พ้นอยู่ดี
View More" แง๊!!! คุณแม่ขาน้องอบอุ่นเจ็บจังเลยค่ะ "
เด็กสาวหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มตัวอวบอ้วนกำลังย่างเข้าสู่วัย 4 ขวบ ซึ่งน้องอบอุ่นสะดุดขาตัวเองล้มลงไปที่พื้นในขณะที่กำลังวิ่งตามเจ้าเหมียวน้อยในสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ส่วนคนเป็นแม่แค่แวะจ่ายตังค์ให้กับแม่ค้าแป๊บเดียวเพราะลูกสาวตัวน้อยอยากกินนมชมพูปั่น เผลอแป๊บเดียวก็ได้ยินเสียงลูกสาวร้องไห้อยู่ไม่ไกลเท่าไหร่นักแล้ว เธอจึงรีบวิ่งมาสุดชีวิตเพื่อมาดูลูกสาวที่กำลังหกล้มและเสียขวัญอยู่ " น้องอบอุ่น ไหน...เจ็บตรงไหนลูก แม่ขอดูหน่อยสิคะ " กุลนิดา เขมิกา (กุล) คุณแม่เลี้ยงเดี่ยววัย 28 ปีรีบวิ่งเข้ามาดูอาการของลูกสาวอย่างรวดเร็ว แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังพยายามทำสีหน้าให้ปกติที่สุด เพราะไม่อยากให้ลูกรู้สึกตกใจไปมากกว่านี้ พอสำรวจตามร่างกายก็พบว่ามีเพียงแค่เข่าเล็กเท่านั้นที่ถลอกจนเลือดออก แต่เจ้าตัวแสบกลับร้องเหมือนเจ็บไปทั้งตัวสงสัยน่าจะตกใจมากกว่า " ซนจนได้เรื่องแล้วนะคะลูกเห็นไหม เด็กดีของแม่วันนี้กลายเป็นเด็กดื้อแล้วนะ " กุลนิดาประคองลูกสาวตัวน้อยให้ลุกขึ้นยืนพร้อมกับปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มใสของลูกสาวออกจากแก้มให้เบาๆ " น้องอบอุ่นไม่ได้ดื้อนะคะคุณแม่ น้องอบอุ่นเห็นน้องแมววิ่งมาทางนี้ก็เลยแค่วิ่งมาไล่จับค่ะ กลัวว่าน้องแมวจะหลงทางน้องอบอุ่นเปล่าดื้อนะคะ " น้องอบอุ่นเด็กสาววัย 4 ขวบที่ตอนนี้พูดจาเริ่มฉะฉานแล้วก็พยายามอธิบายให้แม่ฟังด้วยกลัวว่าคุณแม่จะโกรธ " แล้วน้องแมวหายไปไหนแล้วล่ะคะ " กุลนิดามองไปรอบๆบริเวณนี้ก็ไม่เจอกับแมวเลยสักตัว " หายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ค่ะคุณแม่ น้องอบอุ่นตามไม่ทัน น้องแมววิ่งเร็วมากๆเลยค่ะ " ลูกสาวตัวน้อยของเธอตอบตาใส ท่าทางน่ารักน่าเอ็นดูแบบนี้เธอจะดุลูกลงได้ยังไง เฮ้อ!กุลนิดาผู้แพ้ทางลูก " คราวหลังไม่วิ่งแบบนี้แล้วนะคะลูก เดี๋ยวหกล้มไปอีกเจ็บหนักมากกว่านี้ หนูจะต้องไปให้ลุงหมอฉีดก้นนะรู้ไหม " กุลนิดาขู่ลูกสาวเพราะลูกสาวของเธอกลัวเข็มมากที่สุดแล้ว ยิ่งแกเคยไม่สบายแล้วโดนฉีดตรงก้นเล็กๆนั่นแกเลยจำฝังใจ " ไม่เอานะคะคุณแม่น้องอบอุ่นไม่ฉีดตูดดด... " เด็กน้อยตัวอ้วนกลมพูดพร้อมกับทำท่าทางเหมือนกำลังจะร้องไห้ " งั้นต่อไปอย่าวิ่งหนีคุณแม่แบบนี้อีกนะคะ มันอันตรายมากเลยนะรู้ไหม แล้วสวนสาธารณะแบบนี้ที่มันกว้างน้องอบอุ่นจะพลัดหลงกับคุณแม่เอาได้นะคะ ถ้าน้องอบอุ่นไม่ดื้อคุณแม่จะพามาที่นี่บ่อยๆดีไหม หรือถ้าน้องอบอุ่นดื้อมากๆก็จะโดนเข็มฉีดยาจิ้มแบบนี้ๆๆๆๆ " น้องอบอุ่นหัวเราะลั่นเพราะโดนคุณแม่จี้เอวซึ่งเด็กน้อยตัวอวบอ้วนบ้าจี้เสียด้วยสิ " ฮ่าๆๆๆๆๆ คุณแม่อย่าแกล้ง... ฮิๆๆๆๆ " น้องอบอุ่นหัวเราะคิกคักมีความสุข จนลืมว่าตัวเองร้องไห้ไปเมื่อสักครู่ ทั้งที่คราบน้ำตายังติดอยู่บนแก้มใสแต่เจ้าตัวน้อยอ้วนกลมนี่กลับลืมเสียแล้ว ปกติแล้วในช่วงเย็นแบบนี้กุลนิดาชอบพาลูกสาวออกมาเดินเล่นสวนสาธารณะใกล้บ้านเพื่อเสริมพัฒนาการให้กับแก แต่ทุกทีก็ดูแลอย่างใกล้ชิดมีบ้างบางครั้งที่เธอเผลอเรอไม่ทันเจ้าตัวแสบ และทุกครั้งที่เผลอลูกสาวก็จะได้รับบาดแผลแบบนี้มาตลอด แม้ลูกสาวของเธอจะพูดจาไพเราะน่ารักแต่นิสัยกลับดื้อรั้นห้าวหาญเหมือนคนเป็นพ่อไม่มีผิด นี่ขนาดไม่ได้เลี้ยงกันมานะยังขนาดนี้เลย " อ่ะ นมชมพูปั่นที่หนูอยากกินไงลูก คุณแม่ซื้อมาให้แล้วค่ะ " กุลนิดายื่นนมชมพูปั่นแก้วละไม่กี่บาทให้กับลูกสาว น้องอบอุ่นก็กินนมชมพูปั่นอยากมีความสุข เธอเลี้ยงลูกสาวเองมาตลอด 4 ปี นั่นจึงทำให้เงินที่พอมีเก็บมันแทบจะไม่เหลือแล้ว เธอเลยจำเป็นต้องออกไปทำงานและเพิ่งทำได้เพียงแค่ครึ่งปีเท่านั้น แม้ว่าในตอนนี้ฐานะของเธอจะเข้าขั้นยากจนมากๆแต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่เคยให้ลูกสาวต้องอด ในยามที่ลูกสาวอยากจะกินอะไรเธอก็พยายามซื้อให้กินตามกำลังเสมอมา แม้บางครั้งตัวเองจะต้องอดแต่สำหรับเธอลูกสาวมาก่อนเสมอ " คุณแม่กินด้วยกันสิคะอร่อยมากๆเลยค่ะ น้องอบอุ่นชอบ " น้องอบอุ่นยื่นแก้วนมชมพูปั่นให้กับแม่ได้กินด้วยกัน ทุกครั้งที่แม่ซื้ออะไรมาให้เธอจะแบ่งกับแม่กินเสมอและทุกครั้งแม่ก็จะตอบแบบนี้เสมอเช่นกัน " คุณแม่อิ่มแล้วค่ะ น้องอบอุ่นกินเถอะ กินเยอะๆจะได้โตเร็วๆนะคะคนสวย " กุลนิดาลุกขึ้นยืนและอุ้มลูกสาวขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน จากนั้นก็รีบเดินกลับบ้านเพราะตอนนี้ลูกสาวของเธอมีบาดแผลตรงหัวเข่าคงนั่งอยู่ที่นี่ต่อไม่ได้แล้ว และเมื่อพาลูกสาวมาถึงบ้านก็เจอเข้ากับรถเก๋งคันหรูที่จอดรออยู่หน้าบ้านหลังค่อนข้างเก่าที่เธอเช่าเอาไว้อยู่กับลูกสาว พร้อมกับอิทธิฤทธิ์ที่ยืนพิงรถหรูอยู่และยิ้มให้เธอกับลูกสาวอยู่ " ลุงอิฐ....น้องอบอุ่นคิดถึงลุงอิฐจังเลยค่ะ " เด็กอ้วนออดอ้อนอิทธิฤทธิ์ยกใหญ่เมื่อเห็นหน้า พร้อมกับกางแขนออกกว้างเพื่อให้อิทธิฤทธิ์อุ้ม และอิทธิฤทธิ์ก็รับเด็กอ้วนนี้มาอุ้มเอาไว้ " ว่าไงคะเด็กอ้วน วันนี้ไปซนที่ไหนมาคะ " อิทธิฤทธิ์เอ่ยถามน้องอบอุ่นเพราะเห็นว่าตรงหัวเข่ามีแผลและเลือดออกมาเล็กน้อย แต่เด็กอ้วนของเขาก็ยังไม่มีน้ำตาให้เห็นสักแอะมีแต่รอยยิ้มที่ส่งมาให้กับเขา " ลุงอิฐพูดเหมือนคุณแม่เลย น้องอบอุ่นไม่ได้ซนเสียหน่อยค่ะ แค่วิ่งไล่จับน้องแมวแต่น้องแมววิ่งเร็วกว่าน้องอบอุ่นเลยตามไม่ทันก็เลยล้มค่ะ แต่น้องอบอุ่นไม่ร้องไห้เลยนะคะน้องอบอุ่นเข้มแข็งมากๆค่ะ " เด็กอ้วนพูดโอ้อวดให้กับลุงอิฐของเธอได้ฟัง " จริงหรอคะ ไม่มีเด็กอ้วนที่ไหนร้องไห้จริงๆหรอ? " กุลนิดาทำเสียงน่ารักถามลูกสาว ซึ่งน้องอบอุ่นก็หันกลับมาหาคุณแม่พร้อมกับยิ้มจนตาหยี ส่วนอิทธิฤทธิ์ก็ได้แต่มองการกระทำของกุลนิดาอยู่แบบนั้นเหมือนคนโดนมนต์สะกดก็ไม่ปาน " แฮร่!!! น้องอบอุ่นโกหกค่ะลุงอิฐ ที่จริงแล้วน้องอบอุ่นร้องไห้ค่ะแต่แค่แป๊บเดียวนะคะ ไม่นานเลย " เด็กอ้วนบอกกับลุงอิฐของเธอเสียงน่ารัก น้องอบอุ่นถูกฝึกให้เป็นเด็กไม่โกหกมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ทุกครั้งที่น้องอบอุ่นคิดจะโกหกกุลนิดาก็จะถามย้ำลูกสาวแบบนี้เสมอ " หรอครับ เด็กอ้วนของลุงเก่งที่สุดเลย วันนี้ลุงมีของเล่นมาฝากเยอะแยะเลยเราเข้าไปเล่นในบ้านกันดีกว่าไหมครับ คุณแม่จะได้ทำอาหารอร่อยๆให้เราทานกัน " อิทธิฤทธิ์พูดขึ้นมาเพราะเขาเข้าออกบ้านนี้บ่อยมากจนแทบจะเป็นบ้านของตัวเองอยู่แล้ว เขาแวะมาที่นี่ทุกวันหลังเลิกงาน ไม่เว้นแม้กระทั่งวันหยุด และจะกลับออกไปอีกทีก็ตอนที่น้องอบอุ่นหลับไปแล้วแทบทุกวัน " ไปกันค่าลุงอิฐ "เมื่อเข้ามาในร้านอาหารแล้วกุลนิดารู้สึกเกร็งอย่างบอกไม่ถูกเพราะเอาเข้าจริงๆบรรยากาศแบบนี้เธอลืมไปหมดแล้ว อิทธิฤทธิ์เลื่อนเก้าอี้ให้กุลนิดานั่งพร้อมกับน้องอบอุ่นที่นั่งอยู่ข้างๆกัน" สั่งตามสบายเลยนะครับ มื้อนี้พี่เลี้ยงฉลองให้กับเจ้าเด็กอ้วนครบรอบ 4 ขวบ โตแล้วนะเรา " อิทธิฤทธิ์บอกพร้อมกับเปิดเมนูอาหารแล้วก็สั่งอาหารมากมายในแบบที่ตัวเองชอบและไม่ลืมที่จะสั่งอาหารสำหรับเด็กด้วย จนกุลนิดาไม่กล้าสั่งอีกเพราะที่เขาสั่งมาก็ไม่น่าจะกินกันหมดแล้ว อิทธิฤทธิ์หลังจากสั่งเมนูอาหารเสร็จก็ลอบมองกุลนิดาที่ไม่ยอมสั่งอะไรเลยสักอย่าง" กุลอยากกินอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าสั่งได้เลยนะไม่ต้องเกรงใจพี่หรอก วันนี้พี่กะจะพาเจ้าเด็กอ้วนมาเลี้ยงอยู่แล้ว และอยากให้สนุกกันเต็มที่ด้วย " อิทธิฤทธิ์บอกพร้อมกับมองหน้าน้องอบอุ่น แล้วเจ้าก้อนกลมนั้นก็เอาแต่ยิ้มจนตาหยีเพราะตื่นเต้นที่ได้ออกมายังสถานที่ใหม่ๆ เด็กอ้วนมองดูผู้คนรอบๆร้านพร้อมกับยิ้มให้ บางคนก็ยิ้มกลับแต่กับบางคนก็หยิ่งเกินกว่าจะยิ้มกลับให้เด็ก " แค่นี้ก็เยอะมากแล้วค่ะ แถมอาหารที่สั่งมาก็น่ากินทั้งนั้นเลยด้วยเอาแค่นั้นล่ะค่ะ ถ้าสั่งอีกได้พุงแตกแน
และแล้วก็มาถึงสุดสัปดาห์ วันนี้ตรงกับวันเกิดของเด็กอ้วนอย่างน้องอบอุ่นซึ่งวันนี้เจ้าตัวตื่นเต้นเป็นพิเศษเพราะจะได้ออกไปฉลองวันเกิดข้างนอกเป็นปีแรก หลังจากที่คุณแม่ของเธอจัดให้ที่บ้านทุกปี และวันนี้กุลนิดาก็ขอลางาน 1 วันเพื่อมาดูแลและให้ความสำคัญกับคนที่เธอรักมากที่สุด" คุณแม่ขา วันนี้น้องอบอุ่นน่ารักไหมคะ " เด็กหญิงกมลทิพย์เอ่ยถามคุณแม่ด้วยความน่ารักน่าเอ็นดูเพราะวันนี้เธอใส่ชุดวันเกิดเป็นชุดเจ้าหญิงสีชมพูที่กุลนิดาตั้งใจซื้อให้ในวันเกิดของลูกสาว" น่ารักมากเลยค่ะ วันนี้น่ารักแล้วอย่าลืมเป็นเด็กดีด้วยนะคะลูก " กุลนิดาบอกกับลูกสาวที่วันนี้จะต้องออกไปข้างนอกด้วยกัน เพราะทุกครั้งที่ออกไปข้างนอกลูกของเธอมักจะสร้างตำนานกลับมาทุกครั้ง เขาว่ากันว่าเด็กดื้อคือเด็กฉลาดตอนนี้แม่ก็เริ่มไม่มั่นใจแล้ว" น้องอบอุ่นสัญญาค่ะว่าวันนี้จะไม่ดื้อไม่ซนนะคะคุณแม่ นั่นไงรถลุงอิฐมาแล้วค่ะ " เด็กอ้วนบอกหลังจากที่เพิ่งบอกว่าจะไม่ดื้อไม่ซนแต่พอได้ยินเสียงรถลงอิฐกลับวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตออกไปหาเลย" ระวังลูก... " กุลนิดาส่ายหน้าให้กับคนที่ตั้งใจจะเป็นเด็กดีแต่ก็เป็นได้เพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้
กุลนิดาเดินตามอิทธิฤทธิ์พร้อมกับลูกสาวตัวแสบของเธอเข้ามาในบ้านและภาพที่เห็นเป็นประจำก็คืออิทธิฤทธิ์จะนั่งเล่นกับลูกสาวเธอพร้อมกับที่เธอต้องปลีกตัวไปทำมื้อเย็นให้กับทั้งสองคนทาน" อาหารเสร็จแล้วค่ะ พี่อิฐน้องอบอุ่นมากินข้าวก่อนค่ะ " อิทธิฤทธิ์กับเด็กอ้วนของเขาจึงละจากการเล่นของเล่นตรงหน้าแล้วไปยังโต๊ะอาหารที่มีกุลนิดารออยู่ก่อนแล้ว" ว๊าว...น่ากินจังเลยค่ะคุณแม่ขา ของโปรดน้องอบอุ่นทั้งนั้นเลย " เด็กอ้วนตาโตเมื่ออาหารมื้อนี้เป็นของโปรดของตัวเองทุกเมนู เพราะวันนี้เป็นสุดสัปดาห์ลุงอิฐของเธอจึงซื้อแต่วัตถุดิบที่ใช้ทำเมนูโปรดของเธอมาทั้งนั้น" ไหน ของโปรดที่ว่ามีเมนูอะไรบ้างคะ " กุลนิดาถามลูกสาวเพื่อทบทวนความจำ น้องอบอุ่นกำลังอยู่ในวัยเรียนรู้เธอจึงอยากสอนทุกอย่างที่แม่อย่างเธอสามารถที่จะสอนลูกได้ ถามบ่อยๆเด็กจะเรียนรู้ได้เร็ว" แกงจืดหมูสับ ไข่เจียวกุ้ง แล้วก็เกี๊ยวน้ำหมูสับค่ะ " น้องอบอุ่นบอกเมนูได้ถูกทุกเมนู พร้อมกับยิ้มให้คนเป็นแม่ด้วยรอยยิ้มที่ภูมิใจ อาหารแทบทุกมื้อที่เธอทานมักจะเป็นอาหารอ่อนๆที่ลูกสาวของเธอสามารถทานด้วยได้ เธอจำไม่ได้แล้วว่าอาหารรสจัดเธอทานครั้งล่า
" แง๊!!! คุณแม่ขาน้องอบอุ่นเจ็บจังเลยค่ะ " เด็กสาวหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มตัวอวบอ้วนกำลังย่างเข้าสู่วัย 4 ขวบ ซึ่งน้องอบอุ่นสะดุดขาตัวเองล้มลงไปที่พื้นในขณะที่กำลังวิ่งตามเจ้าเหมียวน้อยในสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ส่วนคนเป็นแม่แค่แวะจ่ายตังค์ให้กับแม่ค้าแป๊บเดียวเพราะลูกสาวตัวน้อยอยากกินนมชมพูปั่น เผลอแป๊บเดียวก็ได้ยินเสียงลูกสาวร้องไห้อยู่ไม่ไกลเท่าไหร่นักแล้ว เธอจึงรีบวิ่งมาสุดชีวิตเพื่อมาดูลูกสาวที่กำลังหกล้มและเสียขวัญอยู่" น้องอบอุ่น ไหน...เจ็บตรงไหนลูก แม่ขอดูหน่อยสิคะ " กุลนิดา เขมิกา (กุล) คุณแม่เลี้ยงเดี่ยววัย 28 ปีรีบวิ่งเข้ามาดูอาการของลูกสาวอย่างรวดเร็ว แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังพยายามทำสีหน้าให้ปกติที่สุด เพราะไม่อยากให้ลูกรู้สึกตกใจไปมากกว่านี้ พอสำรวจตามร่างกายก็พบว่ามีเพียงแค่เข่าเล็กเท่านั้นที่ถลอกจนเลือดออก แต่เจ้าตัวแสบกลับร้องเหมือนเจ็บไปทั้งตัวสงสัยน่าจะตกใจมากกว่า" ซนจนได้เรื่องแล้วนะคะลูกเห็นไหม เด็กดีของแม่วันนี้กลายเป็นเด็กดื้อแล้วนะ " กุลนิดาประคองลูกสาวตัวน้อยให้ลุกขึ้นยืนพร้อมกับปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มใสของลูกสาวออกจากแก้มให้เบาๆ" น้องอบอุ่นไม่ได้ดื้อนะคะคุณแม่






Comments