Share

บทที่ 551

Penulis: โม่เสียวชี่
เมื่อครู่ที่คนเหล่านั้นแสร้งทำเป็นเมา นางมองไม่ออกจริงๆ

ทว่าการแสดงหลังจากสร่างเมากลับดูทื่อเกินไป

หลายคนที่ไม่ได้โดนน้ำสาด แต่กลับตื่นขึ้นมาเอง

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ คิ้วของเฉียวเนี่ยนก็ขมวดนิดๆ และเผลอมองออกไปนอกหน้าต่าง ก็เห็นร่างสูงใหญ่ร่างนั้นเดินไปยังเพิงทางฝั่งตะวันตกแล้ว

นางไม่อยากคิดร้ายต่อผู้อื่น แต่เมื่อครู่ในเรือนมีนางเป็นคนนอกคนเดียว การที่พวกเขาทั้งกลุ่มแสร้งทำเป็นเมา เห็นได้ชัดว่าเป็นการแสดงให้นางดู

ทำไม?

ลองเชิงนาง?

เป็นเพราะก่อนหน้านี้นางเปิดเผยวรยุทธบางส่วนออกมาใช่หรือไม่?

แต่ถึงอย่างนั้น หากฉู่จืออี้เป็นเพียงนายพรานธรรมดา แล้วจะนึกถึงวิธีนี้ได้อย่างไร?

หรือว่าสถานะของเขาก็ไม่ธรรมดา?

เมื่อเมล็ดพันธุ์แห่งความสงสัยถูกฝังลงแล้ว ก็งอกเงยเติบโตอย่างรวดเร็ว

เฉียวเนี่ยนพยายามที่จะรื้อฟื้นความทรงจำทุกอย่างตั้งแต่ฟื้นขึ้นมา ทว่านอกเหนือจากความผิดปกติในวันนี้แล้ว นางก็ไม่พบสิ่งอื่นใดเลย

นางอดถอนหายใจเสียงเบาไม่ได้ สายตาจับจ้องอยู่ที่ขาซ้ายของตนเอง

ช่างเถอะ รอให้ขาหายดีแล้วค่อยรีบออกจากที่นี่ก็แล้วกัน!

นางอุตส่าห์หนีออกจากเมืองหลวงมาได้ทั้งที ไม่อยากที่จะต้องเข้าไปพ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terbaru

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1000

    สองเด็กรับใช้ท่าทีแข็งกร้าว “ท่านจะมาลักพาตัวคุณหนูของพวกเราไปตามใจได้อย่างไร!”ลักพาตัว?คำนี้แรงเกินไปแล้วเฉียวเนี่ยนกลับไม่ร้อนใจ เพียงหันไปมองชาวบ้านที่ยืนมุงรอบๆ “คิดว่าทุกท่าน คงมีไม่น้อยที่รู้จักข้า”เฉียวเนี่ยน ในเมืองหลวง เวลานี้ก็มิใช่ครั้งแรกที่ตกเป็นหัวข้อพูดคุยยามว่างของผู้คนในหมู่คนเหล่านี้ เป็นธรรมดาที่จะต้องมีไม่น้อยที่จำนางได้ทันใดก็มีคนเอ่ยเรียกขึ้น “ท่านคือคุณหนูใหญ่แห่งจวนโหว!”“เกี่ยวอะไรกับจวนโหว! คนเขาตัดขาดสัมพันธ์กับจวนโหวไปนานแล้ว! ตอนนี้นางคือน้องสาวบุญธรรมของท่านอ๋องผิงหยาง! ทุกวันนี้ก็อาศัยอยู่ในจวนอ๋องผิงหยางนั่นแหละ! เห็นรถม้าคันนั้นหรือไม่ล่ะ นั่นก็คือรถม้าของจวนอ๋องผิงหยาง!”“ข้าก็จำท่านได้!”ท่ามกลางฝูงชน มีเสียงใสของเด็กดังขึ้นมาเฉียวเนี่ยนหันตามเสียงไป ก็เห็นเด็กหญิงวัยเจ็ดแปดขวบยืนอยู่แถวหน้า ชี้ไปที่เฉียวเนี่ยนแล้วพูดว่า “ท่านคือหมอหญิงที่ฮ่องเต้พระราชทานตำแหน่ง เป็นขุนนางหญิงคนแรกของราชวงศ์”ได้ยินดังนั้น บนใบหน้าเฉียวเนี่ยนก็ปรากฏรอยยิ้มอ่อนโยนขึ้นมานางเอ็นดูพลางพยักหน้าให้เด็กหญิงน้อย “ใช่ ข้าเอง”จากนั้นจึงหันไปส่งเสียงบอกผู้ค

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 999

    “แน่นอนว่าไม่ใช่!”เด็กรับใช้รีบปฏิเสธ “นาง... นางผู้นี้เป็นเพียงคุณหนูที่เป็นญาติห่างๆ ของตระกูลเมิ่ง ใต้เท้าเมิ่งใจดี จึงรับนางมาเลี้ยงดู”“อ๋อ...” เฉียวเนี่ยนทำท่าเหมือนพึ่งเข้าใจ ยิ้มบางๆ “ข้าก็คิดว่าไม่น่าใช่ วันนั้นข้ารักษาคุณหนูของพวกเจ้าจนเกือบหายดีแล้ว ต่อให้ไม่แข็งแรงเพียงใดก็คงไม่ถึงขั้นกลายเป็นคนวิกลจริต แต่คุณหนูของพวกเจ้าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง ข้าเพิ่งกลับเข้าเมืองหลวง ยังไม่ได้ไปเยี่ยมที่จวนเลย”“คะ... คุณหนูของพวกเราดีขึ้นมากแล้วขอรับ เมื่อไม่นานนี้ไปพักรักษาตัวที่ชนบทขอรับ”“เช่นนั้นก็นับว่าน่าเสียดาย แต่เดิมข้ายังคิดจะไปเยี่ยมอยู่เชียว!”เฉียวเนี่ยนพูดพลาง สายตาก็มองไปยังสตรีผมเผ้ายุ่งเหยิงตรงหน้าอีกครั้งเด็กรับใช้ทั้งสองแสดงอาการกังวล จึงฝืนหัวเราะ “ฮะฮะ ท่านหญิงเฉียวมีน้ำใจนัก เวลานี้ก็สายมากแล้ว พวกข้าน้อยยังต้องรีบพาคุณหนูญาติห่างๆ กลับจวน ไม่เช่นนั้นใต้เท้าเมิ่งจะเป็นกังวลขอรับ!”ก็ได้ยินลุงเกิ่งขมวดคิ้วพลางพูด “เมื่อครู่พวกเจ้าว่าพูดว่านี่คือคุณหนูของพวกเจ้ามิใช่รึ แล้วเหตุใดพริบตาเดียวถึงกลายเป็นคุณหนูญาติห่างๆ ไปเล่า?”“เพราะ เพราะเมื่อครู่รีบร้อนจึงพูดผ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 998

    บนรถม้า ความคิดของเฉียวเนี่ยนเหมือนบ้าคลั่ง พุ่งพล่านไม่เป็นระเบียบครู่หนึ่ง เป็นภาพตอนยังเยาว์ที่นอนหนุนตักฮูหยินหลิน ฟังนางฮัมเพลงกล่อมเด็ก ครู่หนึ่งกลับกลายเป็นภาพที่นางถูกมามาแห่งกรมซักล้างเหยียบศีรษะรังแกครู่หนึ่งเป็นภาพจวนโหวปกป้องหลินยวน ครู่หนึ่งก็เป็นภาพท่านโหวหลินผู้มีผมขาวโพลนเมื่อครู่แท้จริงหากทำใจแข็ง ก็ตัดขาดได้สิ้นเชิงฉู่จืออี้เคยพูดไว้ว่า แม้แต่สะเก็ดเลือดเก่าก็ยังคงเจ็บปวด นางไม่จำเป็นต้องคิดมากนักทว่าคำว่า ‘สายเลือด’ กลับเป็นสิ่งที่ยากจะสลัดพ้น ราวเถาวัลย์ผลิใบในฤดูใบไม้ผลิพันรัดลำคอ ราวน้ำค้างแข็งในฤดูหนาวแทรกซึมเข้าสู่ปอด…แม้โลหิตนางจะไหลจนสิ้น ถูกเฉือนเนื้อจนหมด เหลือเพียงโครงกระดูกขาวโพลน ก็ยังเป็นสิ่งที่พวกเขามอบให้เหตุใดกัน ต้องเป็นสิ่งที่พวกเขาให้มา?ขณะกำลังคิด รถม้าก็หยุดกะทันหันเฉียวเนี่ยนไม่ทันระวัง ร่างกายทั้งร่างโถมไปข้างหน้า เกือบจะล้มคว่ำนอกรถม้า เป็นเสียงเร่งร้อนของลุงเกิ่ง“คุณหนูไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?”เฉียวเนี่ยนประคองกายมั่น ค่อยตอบ “ข้าไม่เป็นไร เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”“มีคนวิ่งออกมาจากตรอกกะทันหัน” ลุงเกิ่งพูดพลางลงจากรถม้า “ข้าไ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 997

    ท่านหมอค่อยๆ ส่ายหัว “หากพิษยังไม่ฝังลึกนัก บางทีอาจจะใช้วิธีถ่ายเลือดได้ แต่พิษนี้อยู่ในร่างของเซียวเหอมานานอย่างน้อยห้าปีแล้ว ห้าปีเวลานี้ เกรงว่าพิษคงซึมลึกถึงไขกระดูกไปแล้ว มิใช่เพียงพึ่งการถ่ายเลือดก็สามารถแก้ได้”ยิ่งไปกว่านั้น ต่อให้การถ่ายเลือดแก้ได้ แต่เล่ห์วิธีนั้นช่างโหดร้ายอำมหิต แล้วจะไปหาคนที่ยอมให้เอาเลือดมาถ่ายได้จากที่ใดกัน?ฟังคำพูดของท่านหมอเช่นนั้น คิ้วของเฉียวเนี่ยนก็ขมวดแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัวดังนั้นในตอนนี้ จึงทำได้เพียงฝากความหวังไว้กับเจ้าสำนักราชาโอสถ หวังว่าเขาจะรีบตอบจดหมายของฉู่จืออี้ในเร็ววันเฉียวเนี่ยนพูดคุยกับท่านหมออยู่ครู่หนึ่ง จึงลุกขึ้นจากไปแต่เพิ่งออกจากเรือนของท่านหมอ ก็พลันเห็นท่านโหวหลินหลายเดือนแล้วที่ไม่ได้เจอกันท่านโหวหลินดูราวกับแก่ชราลงไปอีกหลายปีผมขาวขึ้นเล็กน้อย ร่องรอยแห่งวัยที่หางตาก็เพิ่มขึ้นมากนักเมื่อเห็นเฉียวเนี่ยน เขาก็รีบแย้มยิ้มออกมา แต่กลับแข็งทื่ออย่างยิ่งท่าทีเอาใจจนเกินไป ชัดเจนเกินไปนักเขาคงรออยู่ที่นี่มาครู่ใหญ่แล้ว แม้แต่หญ้าข้างทางก็ถูกเหยียบจนล้มแบนไปเป็นวงกว้างแต่ไม่รู้เพราะเหตุใด เขากลับมิได้เข้าไปในเ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 996

    เฉียวเนี่ยนกลับมาที่จวนโหว จุดประสงค์ก็เพื่อไปพบท่านอาจารย์ของนางดังนั้นนางจึงไม่ได้แจ้งใครทั้งสิ้นคนในจวนโหวเมื่อเห็นนาง ก็เป็นธรรมดาที่จะไม่ห้ามปราม แต่รีบไปกราบเรียนท่านโหวหลินแทนเฉียวเนี่ยนไม่สนใจเรื่องพวกนั้น และรีบเดินตรงไปหาหมอประจำจวนพอเพิ่งก้าวเข้าไปในเรือน ก็ได้กลิ่นยาเข้มข้นโชยมาทันที เฉียวเนี่ยนอดไม่ได้ที่จะร้องถามเข้าไปในโรงต้มยา “ท่านอาจารย์กำลังต้มยาอะไรอยู่หรือเจ้าคะ หอมนัก!”เมื่อได้ยินเสียงเฉียวเนี่ยน หมอประจำจวนก็รีบวิ่งออกมา พอเห็นเฉียวเนี่ยนก็เต็มไปด้วยความยินดี “เมื่อวานข้าเห็นคุณชายใหญ่กลับมา ก็คิดเลยว่าวันนี้เจ้าจะต้องมาแน่! เป็นอย่างไรเล่า ชายแดนสนุกไหม?”“ไม่สนุกเลย! เกือบตายอยู่ที่นั่นแล้ว!” เฉียวเนี่ยนแกล้งหมอประจำจวนแต่ก็เห็นหมอประจำจวนยิ้มอย่างอบอุ่น “อ๋องผิงหยางไม่มีทางปล่อยให้เจ้าตายหรอก”เฉียวเนี่ยนชะงักไป ไม่คิดเลยว่ากระทั่งหมอประจำจวนก็รู้เรื่องนี้แล้ว จึงเกิดความเขินอายขึ้นมา “ท่านอาจารย์รู้แล้วหรือ?”“จะไม่รู้ได้อย่างไร? วันนั้นจดหมายจากท่านอ๋องถูกส่งกลับถึงนครหลวง ท่านโหวหลินก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ โวยวายอยู่ในจวน พูดว่าอะไรนะ อ๋องผิงหยาง

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 995

    ก่อนเซียวเหิงออกจากเมืองหลวง เป็นเคยมีความคิดอยากไปสู่ความตายอยู่จริงๆดังนั้นในใจของเซียวเหอถึงได้กังวลมากนัก จึงได้มาหานางในวันแรกที่นางกลับเมืองหลวง อยากให้นางเขียนจดหมายฉบับหนึ่งแต่สำหรับเฉียวเนี่ยนแล้ว จดหมายฉบับนั้นจะกลายเป็นชนวนที่ทำให้นางกับเซียวเหิงพันผูกไม่สิ้นสุดในอนาคต นางจึงไม่เขียน เขาเองก็เข้าใจได้ขอเพียงให้เซียวเหิงทำได้ดังที่เฉียวเนี่ยนพูด คือหาสติกลับคืนมาในสนามรบ รับมือกับทุกสิ่งทุกอย่างด้วยสติที่แจ่มชัดเถิด!เมื่อเฉียวเนี่ยนกลับมาถึงจวนอ๋อง ก็เป็นเรื่องหลังจากนั้นหนึ่งชั่วยามแล้วแม้แต่ฉู่จืออี้ก็กลับมาแล้วแน่นอน รวมถึงเกอซูอวิ๋นด้วยพอเห็นเฉียวเนี่ยน เกอซูอวิ๋นก็วิ่งกระโดดเข้ามาหานางทันที “เนี่ยนเนี่ยน จักรพรรดิของพวกเจ้าดีจริงๆ นะ! พระองค์บอกว่าข้าอยู่ที่นี่อยู่กับเจ้าได้!”“จริงหรือ?”บนใบหน้าเฉียวเนี่ยนอดยินดีขึ้นมาไม่ได้ พูดตามตรงแล้ว เกอซูอวิ๋นงามถึงเพียงนี้ หากอยู่ในวัง เฉียวเนี่ยนก็ไม่สบายใจนัก!ก็ได้ยินฉู่จืออี้เอ่ยขึ้น “องค์หญิงพูดว่าในแคว้นจิ้งมีเพียงเจ้าเป็นสหาย ก่อนออกเรือน อยากอยู่กับเจ้าสักหน่อย”เฉียวเนี่ยนพยักหน้า “หากเป็นเช่นนั้น ฮ่อง

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status