Masukตระกูลเฮมเวิร์ทซึ่งเป็นตระกูลมหาเศรษฐีเก่าแก่และมีชื่อเสียงในยุโรป ประเทศอิตาลี สตีเฟ่น เฮมเวิร์ท ชายวัยหกสิบปีเจ้าของอาณาจักรธุรกิจที่ครอบคลุมทั้งพลังงาน ธนาคาร โรงแรม โรงพยาบาล การขนส่งและอื่นๆอีกมากมาย ปัจจุบันเขาได้วางมือไปอยู่เบื้องหลังโดยแบ่งให้ลูกชายทั้งสามรับผิดชอบงานต่างๆแทน คริสโตเฟอร์ เฮมเวิร์ท ลูกชายคนกลางที่ขึ้นชื่อเรื่องความฉลาดในการทำธุรกิจ เขารับหน้าที่ดูแลธนาคารสาขาใหญ่ของตระกูลและยังนั่งตำแหน่งประธานบริหารสูงสุดอีกด้วย ชายหนุ่มผู้หล่อเหลาคนนี้ยังขึ้นชื่อเรืองความเจ้าชู้และร้อนแรงไม่น้อยหน้าพี่น้องคนอื่น สาวสวยหลากหลายวงการต่างพ่ายแพ้เสน่ห์ความหล่อและความเก่งกาจสมบูรณ์แบบอย่างถอนตัวไม่ขึ้น รวมทั้ง ช่อพิกุล พิมพิศาล สาวสวยที่เพิ่งเรียนจบปริญญาโทและเพิ่งก้าวเข้าสู่แวดวงธุรกิจ เริ่มต้นในธุรกิจของครอบครัว ความสวยเตะตาเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่พบเจอ แต่เรื่องราวที่เธอไม่เคยรู้มาก่อนทำให้เหตุการณ์พลิกผันจนเปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล…..
Lihat lebih banyakหวี๋~~~ เสียงไซเรนรถพยาบาลดังขึ้นในช่วงเช้าตรู่แทรกเคล้ากับเสียงโหวกเหวกของเจ้าหน้าที่พยาบาลวิ่งกันขวักไขว่ภายในคอนโดหรูแห่งหนึ่งย่านกลางเมืองมิลานแหล่งเศรษฐกิจของประเทศอิตาลี ด้านล่างคอนโดหรูมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนำเชือกมาล้อมกั้นพื้นที่กันไม่ให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาภายในบริเวณ
"ชาล็อตต์! ชาล็อตต์ลูกแม่!" หญิงวัยกลางคนวิ่งตามรถเข็นพยาบาลในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังเร่งมือเคลื่อนย้ายหญิงสาวที่นอนหมดสติขึ้นรถส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด หน้าห้องฉุกเฉิน ไม่นานนักประตูห้องก็เปิดออก "หมอเสียใจด้วยนะครับ เราพยายามเต็มที่แต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตเธอเอาไว้ได้ เธอกินยานอนหลับเกินขนาดจนหัวใจวายเฉียบพลัน" นายแพทย์ใหญ่ประจำโรงพยาบาลเอกชนบอกกล่าวกับบรรดาญาติคนไข้ที่ยืนรอด้วยความหวัง เมื่อจบประโยคของนายแพทย์ 'แองเจลิน่า' ผู้เป็นมารดาถึงกับปล่อยโฮออกมาอย่างหนักจนทรุดลงบนพื้น ท่ามกลางฝนพรำตลอดทั้งวันในช่วงหน้าฝนทำให้ท้องฟ้ามืดครึ้มยิ่งทำให้บรรยากาศเศร้าหมองลง ผู้คนต่างทยอยกลับหลังจากพิธีฝังศพของชาล็อตต์ผ่านไป "เกิดอะไรขึ้นนะชาล็อตต์" เสียงห้าวทุ้มเอ่ยพึมพำคนเดียว ดวงตาคมกริบแดงก่ำเหม่อมองหลุมขนาดใหญ่ที่ร่างของเพื่อนหลับใหลอยู่ในนั้นและกำลังถูกกลบทับไปตลอดกาล "นายครับ ฝนกำลังจะตกแล้ว" ร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะเดินไปเอ่ยร่ำลากับมารดาของเพื่อนสาวผู้ล่วงลับแล้วมุ่งหน้ากลับทันที วันเวลาผ่านไปนานนับเดือน ณ เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ตึกสิบเจ็ดชั้นเป็นที่ตั้งของสำนักงานบริษัท อิตาเลียนวู้ดส์ ของตระกูลเบลลามี่ ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้ส่งขายทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งยังมีโกดังแยกผลิตต่างหากซึ่งอยู่ห่างออกไปทางชานเมืองราว 2 ชั่วโมง ธุรกิจนี้ถูกส่งต่อมาจากรุ่นสู่รุ่นจนกระทั่งผู้บริหารคนปัจจุบันคือ แซม เบลลามี่ ทายาทรุ่นที่ห้าและเขายังมีน้องสาวซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องทางฝั่งมารดาอีกคนหนึ่งแต่ทั้งคู่เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่ยังเด็ก ตึก ตึก ตึก เสียงรองเท้าส้นสูงวิ่งกระหืดกระหอบมาขึ้นลิฟท์ให้ทันเวลา "เฮ้อ~เกือบไม่ทัน" เสียงหวานเอ่ยพร้อมกับพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก ดวงตากลมโตเหลือบมองนาฬิกาที่ข้อมือก่อนจะกวาดมองผู้คนที่ทยอยมาเข้างาน มือบางถือโน๊ตบุ๊กพร้อมด้วยกระเป๋าสะพายแบรนด์ดังใบโปรด เธอกาแฟจิบให้สดชื่นพร้อมทำงาน 'ช่อพิกุล พิมพิศาล' หญิงสาววัยยี่สิบห้าปีเพิ่งเรียบจบปริญญาโทด้านเศรษฐศาสตร์ก่อนจะเข้ามาทำงานที่บริษัทของครอบครัว วันนี้เป็นวันแรกที่เริ่มงานเธอเกือบจะมาสายเพราะรถติด ใบหน้าสวยหวาน ผิวขาวอมชมพูเข้ากับใบหน้ารูปไข่ที่แต่งแต้มเครื่องสำอางค์บางเบาปล่อยผมสลวยยาวถึงกลางหลัง ร่างแบบบางก้าวเดินอย่างมั่นใจเรียกความสนใจจากบรรดาชายหนุ่มทั้งหลายให้หันมามองจนคอเคล็ด เธอขึ้นลิฟท์มาหยุดที่หน้าห้องทำงานของพี่ชายซึ่งเป็นลูกของพี่สาวของมารดาจึงมีฐานะเป็นพี่ลูกน้องกับเธอ ส่วนเธอนั้นเติบโตมากับผู้เป็นป้าเนื่องจากบิดามารดาเสียชีวิตไปตั้งแต่เธอยังเด็กจึงใช้ชีวิตอยู่กับป้าตั้งแต่นั้นมา ก๊อก..ก๊อก..ก๊อก เธอเคาะประตูสองสามครั้งก่อนจะเปิดเข้าไป "อ้าวช่อ นั่งก่อนสิมาเช้าเหมือนกันนะเรา" 'แซม เบลลามี่' ลูกชายของป้าที่เติบโตขึ้นมาด้วยกันเล่นด้วยกันราวกับพี่น้องที่คลานตามกันมา แซมมองน้องสาวในชุดทำงานท่าทางเตรียมพร้อมของเธอทำให้เขาอดอมยิ้มไม่ได้ "ค่ะพี่แซม" ช่อพิกุลขานรับ "รถติดไหมล่ะ" "ที่สุดเลยค่ะ" ช่อพิกุลเอ่ยบอกก่อนจะหย่อนกายนั่งลงตรงข้ามโต๊ะทำงานตัวใหญ่ของพี่ชาย "พี่ให้คนจัดห้องทำงานไว้ให้แล้วนะ ส่วนงานก็ค่อยๆ เรียนรู้ไปเดี๋ยวก็เก่ง" แซมเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "ค่ะ ช่อพร้อมแล้ว" ก๊อก..ก๊อก..ก๊อก.. เสียเคาะประตูดังขึ้นพร้อมกับหญิงสาวเดินเข้ามาด้านใน "อ่านี่..คุณเมษา น่าจะอายุไล่เลี่ยกันเธอจะเป็นผู้ช่วยของช่อนะ นี่ช่อพิกุลน้องสาวผมเธอจะเริ่มงานในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการตลาด" แซมแนะนำให้ทั้งคู่รู้จักกัน "สวัสดีค่ะคุณช่อ" "สวัสดีค่ะคุณเมษา" "ไม่ต้องเรียกคุณหรอกค่ะ เรียกเมเฉยๆก็ได้ค่ะ" "เอางั้นเหรอคะ" ช่อพิกุลเอ่ยถามอย่างเกรงใจ "ค่ะแบบนั้นเลยค่ะ" "โอเค เม..คิก" สองสาวหัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน แซมมองทั้งคู่ที่เข้ากันได้ดีก่อนจะคลี่ยิ้มออกมาอย่างสบายใจเพราะช่อพิกุลเป็นคนอัธยาศัยดีและเข้ากับผู้คนได้ง่ายเขาจึงไม่หนักใจเลยสักนิด ช่อพิกุลใช้เวลาทั้งวันในการเรียนรู้งานจากผู้ช่วย เงยหน้าขึ้นอีกทีก็เป็นเวลาเลิกงานแล้ว สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดสั่นครืดคราดเมื่อมีสายเรียกเข้า "ว่าไงไทเลอร์" เสียงหวานเอ่ยกรอกลงไปตามสาย 'ว่างไหมจะชวนไปกินข้าว เอ็มม่าก็ไปด้วยนะ' "ว่าจะโทรหานายพอดีเลย ไว้เจอกัน" ช่อพิกุลเอ่ยบอกพลางเก็บของลงกระเป๋าก่อนจะเดินออกจากห้องทำงาน "เดินทางดีดีนะคะคุณช่อ" เมษาเอ่ยบอกพร้อมกับลุกขึ้นยืนส่งเธอ "จ้ะ เมก็ด้วยนะ" ช่อพิกุลยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยนก่อนจะก้าวเข้าลิฟท์ ณ บาร์หรูใจกลางมิลาน ช่อพิกุลเดินเข้ามาด้านในพร้อมกับชะเง้อมองหาเพื่อนที่นัดกันมาแล้ว "ทางนี้ช่อ!" เอ็มม่าตะโกนเรียกพร้อมกับโบกไม้โบกมือให้ช่อพิกุลเห็น ใบหน้าหวานชะเง้อมองพร้อมกับส่งยิ้มให้ก่อนจะแหวกผู้คนมายังสองคนที่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว "เมากันรึยังพวกเธอน่ะ" เสียงหวานเอ่ยถามพลางมองดูแก้วค็อกเทลบนโต๊ะพร้อมกับหย่อนตัวนั่งลงข้างไทเลอร์ "เพิ่งมาถึงก่อนเธอแปบเดียว" ไทเลอร์เอ่ยบอกพลางเรียกพนักงานมาสั่งเครื่องดื่มเพิ่ม "เป็นไงบ้างเริ่มงานวันแรก" เอ็มม่าเอ่ยถามด้วยความตื่นเต้น "ก็สนุกดี พี่แซมให้ผู้ช่วยสอนงานให้อยู่น่ะ ช่วงนี้ก็เรียนงานไปก่อนอีกหน่อยถ้าคล่องแล้วคงได้แบ่งเบาภาระพี่แซมได้บ้าง" ช่อพิกุลเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงสดใส ใบหน้าหวานเปื้อนยิ้มตลอดเวลาเรียกความสนใจจากสายตาชายหนุ่มโต๊ะข้างๆ ให้หันมามองได้ไม่น้อย "สนุกก็ดีแล้ว จะได้ทำได้ยาวๆ ไม่เบื่อไปซะก่อน" เอ็มม่าเอ่ยยินดีกับเพื่อน "เต็มที่เลยนะวันนี้ ฉันเป็นเจ้ามือเอง" ไทเลอร์อาสา เพราะเขาเป็นคนที่ร่ำรวยกว่าทุกคนในกลุ่มจึงมักจะอาสาเลี้ยงอยู่เสมออีกทั้งยังคอยทำหน้าที่ขับรถไปส่งเพื่อนๆที่บ้านเสมอ "โอเค! ถ้าไทเลอร์ไม่หมดตูดไม่ต้องกลับ!" เอ็มม่าชูแก้วขึ้นพร้อมกับหัวเราะออกมาพร้อมกัน...ก๊อก..ก๊อก..ก๊อก เสียงเคาะประตูดังขึ้นสองสามครั้ง ชายร่างสูงใหญ่มือขวาของเฟลิกซ์ก้าวเข้ามารายงาน"นายครับสายของเราแจ้งว่าคุณช่อพิกุลกลับมาเยี่ยมครอบครัวที่มิลานครับ" เฟลิกซ์ละสายตาจากโน๊ตบุ๊คเมื่อได้รับรายงานเรื่องของช่อพิกุล"คุณช่อกลับมามิลานงั้นเหรอ" เฟลิกซ์ทวนซ้ำพร้อมกับคลี่ยิ้ม เขาควรจะชวนเธอไปทานข้าวสักมื้อเพราะนานครั้งจะได้เจอกันสักที"ครับ เมื่อคืนคนของเราเห็นเธอขึ้นไปบนเรือยอร์ชของตระกูลเฮมเวิร์ทประมาณห้านาทีก่อนจะออกมา ตอนนี้เธอพักอยู่กับครอบครัวที่คฤหาสน์ของตระกูลครับ" เฟลิกซ์ชะงักเมื่อได้ยินลูกน้องรายงานว่าขึ้นไปบนเรือของตระกูลเฮมเวิร์ท"ขึ้นไปบนเรือนั้นเนี่ยนะ อืม ขอบใจ" เสียงทุ้มเอ่ยราบเรียบก่อนจะโบกมือไล่ลูกน้องออกไปพลางครุ่นคิดบางอย่าง ช่อพิกุลยังคงติดต่อกับคริสโตเฟอร์? เธอไปทำอะไรที่นั่นณ คฤหาสน์ของตระกูลเบลลามี่ ทุกคนพร้อมหน้าพร้อมตาบนโต๊ะทานอาหารเย็นที่ทำเยอะเป็นพิเศษเพราะช่อพิกุลกลับมาเยี่ยมบ้าน"ทำไมไม่บอกป้าล่วงหน้าล่ะลูก จะได้เตรียมกับข้าวที่หลานชอบไว้ให้ ตาแซมพี่ชายเราก็ไม่ว่างวันนี้เสียด้วยออกไปตกปลาบ้าง ตีกอล์ฟบ้างช่วงนี้ออกไป
มือบางคว้าผ้าขนหนูรีบเอาพันกายก่อนจะลุกออกจากอ่างน้ำ"คุณคริส!" เสียงหวานเรียกชื่อเขาอย่างตื่นตระหนกพลางก้าวถอยหลัง"ระวังลื่น" คริสโตเฟอร์เอ่ยบอกพลางหยุดยืนนิ่ง"ถอยไปสิคะ ฉันจะใส่เสื้อผ้า" ช่อพิกุลเอ่ยบอกเขา"โอเค โอเค" คริสโตเฟอร์ยกมือขึ้นก่อนจะยอมถอยออกมาเล็กน้อยนั่งรอที่เตียงนุ่ม มองคนตัวเล็กที่เดินอ้อมไปทางตู้เสื้อผ้าพร่อมกับคอยหันมามองเขาอย่างหวาดระแวง"เรามานั่งคุยกันดีดี" "คุยข้างนอกบ้านค่ะ" "ตรงนี้แหล่ะ" มือใหญ่เอื้อมไปคว้าเอวคอดเล็กเอาไว้ก่อนจะดึงร่างบางนั่งทับตักแกร่งแล้วรวบกอดเอาไว้แน่น"นี่คุณจะมาทำรุ่มร่ามกับฉันอีกเหรอคะ!" ช่อพิกุลโวยวายขึ้นมาพร้อมกับดิ้นขลุกขลั่ก"ฟังสิ..ฟังก่อน" คริสโตเฟอร์พยายามใจเย็นทั้งที่เขาไม่เคยต้องอดทนกับใครแบยนี้มาก่อนในชีวิต"ว่าธุระคุณมาเลยค่ะ" ใบหน้าหวานเชิดขึ้นในขณะที่ใบหน้าหล่อเหลาก้มคลอเคลียไหล่มนพร้อมกับประทับจูบลง"ฉันต้องการให้เธอกลับมิลานไปทำงานกับฉันในฐานะเลขาส่วนตัวดูแลเรื่องส่วนตัวของฉัน ฉันจะจ่ายเงินค่าตัวให้ห้าล้านยูโรต่อเดือน มีคอนโดหรูให้อยู่และรถให้ใช้ งานเธอไม่มีอะไร
ณ โฮมสเตย์ฟาร์ม ร่างบางในชุดทะมัดทะแมงเดินหิ้วกระเป๋ามาใส่รถโดยมีทับทิมเดินมาส่ง "เดี๋ยวซื้อขนมมาฝากนะ" เสียงหวานเอ่ยก่อนจะขึ้นรถจิ๊ปคู่ใจขับออกมายังตัวเมืองตอนเช้า ลมเย็นต้นฤดูหนาวโชยปะทะใบหน้าหวานจนต้องกระชับเสื้อกันหนาว ผมสลวยเริ่มยาวประบ่าพลิ้วไสวตามแรงลม"เชิญด้านในก่อนค่ะ" เสียงหญิงวัยกลางคนเอ่ยกับช่อพิกุลที่เดินเข้ามาด้านในตึกแห่งหนึ่งที่ติดริมถนนใหญ่แหล่งท่องเที่ยวที่มักจะมีแวะเวียนมาทุกปีและยังติดกับลานจัดงานเทศกาลประจำปีอีกด้วยวันนี้เธอแวะเข้ามาดูอาคารแห่งหนึ่งที่สนใจเพราะอยากเปิดหน้าร้านเพื่อนำสินค้าจากในฟาร์มมาวางขายและเป็นการโชว์ออกสู่ภายนอกไปในตัวด้วย"สวยมากเลยค่ะ ฉันสนใจอยากทำสัญญาเช่าไปก่อนถ้าไปได้ดีก็อยากจะซื้อเลย" เสียงหวานเอ่ย"ดีค่ะ ดิฉันก็อยากจะขาย ถ้าคุณช่อจะซื้อก็จะลดราคาให้เป็นพิเศษเลย ลูกเต้าก็ไม่มีเลยไม่รู้ว่าจะเก็บไว้ทำไม" น้ำเสียงท่าทางใจดีของหญิงเจ้าของอาคารเอ่ยบอกด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นมาเธอเริ่มแข็งแกร่งและทำงานเก่งขึ้นมากต่างจากเมื่อก่อนลิบลับที่อ่อนแออ้อนแอ้นเหมือนลูกคุณหนู ตอนนี้เธอสามารถลุยได้ทุกสถ
เช้าวันต่อมาช่อพิกุลเข้าไปดูงานในฟาร์มพืชดอกแต่เช้าต่อด้วยเข้าไปดูโรงบ่มไวน์ ชีวิตในฟาร์มชนบทแม้จะไม่หรูหราเท่ากับในเมืองที่เธอเคยอยู่มาแต่ก็เงียบสงบและมีความสุขไปอีกแบบ ในหนึ่งวันเธอยุ่งมากมีงานหลายอย่างให้ทำเพลิดเพลินเผลอแปบเดียวเวลาก็ผ่านไปนานเกือบครึ่งปีตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่นี่ พี่ชาย ป้าดารินทร์และแม่นมจะลงมาเยี่ยมเดือนละครั้งเพราะแซมยังคงรักษาตัวในโรงพยาบาลที่มิลานอย่างต่อเนื่อง รายได้ถึงจะไม่มากเท่ากับตอนมีบริษัทของตัวเองแต่ก็พออยู่ได้แบบไม่ขัดสนและยังพอมีเก็บบางส่วน ข้าวของแบรนด์เนมเธอเลิกซื้อและเลิกใช้ไปนานแล้ว รถหรูคันเก่ายังจอดสนิทที่คฤหาสน์ในมิลาน "คุณช่อคะ เพื่อนๆ มาเยี่ยมค่ะ" ทับทิมเข้ามาบอกเจ้านายสาวที่กำลังเปิดไวน์ชิมรสชาติ "เดี๋ยวฉันไป ให้พวกเขาไปรอที่คาเฟ่" เสียงหวานเอ่ยตอบ "รับทราบค่ะ" "ว้าว! อากาศดีจังเลย" เอ็มม่าเอ่ยบอกพร้อมกับมองไปด้านนอกโดยที่ไทเลอร์กับเฟลิกซ์นั่งจิบกาแฟพลางมองสำรวจบรรยากาศรอบๆ ที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ มีนักท่องเที่ยวทยอยมาเรื่อยๆ "อืม..ไม่หนาวมาก" ไทเ