แชร์

บทที่ 742

ผู้เขียน: โม่เสียวชี่
"นั่นใคร?"

สวีเหม่ยเหรินเอ่ยถาม เสียงอ่อนแรง แถมยังแผ่วนัก

เฉียวเนี่ยนจึงก้าวไปข้างหน้า คำนับแล้วกล่าวว่า “ข้าน้อยเฉียวเนี่ยน เป็นหมอหญิงจากโรงหมอหลวง วันนี้รับพระบัญชาจากฮ่องเต้ให้มาดูอาการเหม่ยเหริน”

รับพระบัญชาจากฮ่องเต้?

ใบหน้าของสวีเหม่ยเหรินปรากฏแววสงสัย

นางค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้นด้วยค้ำพนักเก้าอี้อย่างยากลำบาก

ทว่าเหมือนขาอ่อนแรง ยืนได้ไม่ทันไรก็เกือบล้ม

เห็นดังนั้น เฉียวเนี่ยนก็รีบเข้าไปพยุง

คิ้วขมวดเป็นปมในทันที

แขนของสวีเหม่ยเหรินนั้น อวบเกินไปหน่อยแล้ว

เมื่อครู่ที่นอนอยู่บนเก้าอี้โยก ยังไม่เห็นชัดเท่าไร แต่ตอนนี้นางยืนอยู่ข้างกายเฉียวเนี่ยน เฉียวเนี่ยนก็รู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงขนาดร่างของอีกฝ่าย

เกรงว่าจะหนักเกือบสองร้อยชั่งเข้าให้แล้ว

สวีเหม่ยเหรินตกใจจนใจสั่น ไม่อาจห้ามไม่ให้ยกมือตบหน้าอกตนเบาๆ แล้วจึงชักมือกลับ หันไปกล่าวขอบคุณเฉียวเนี่ยน “ขอบคุณท่านหญิงเฉียวที่ช่วยข้าไว้”

น้ำเสียงยิ่งถ่อมตัวกว่าเสี่ยวฝูจื่อเสียอีก

เฉียวเนี่ยนกวาดตามองไปรอบๆ อดไม่ได้จะเอ่ยถามว่า “เหตุใดไม่มีผู้ใดดูแลเหม่ยเหรินเลย?”

พอฟังคำนี้ สวีเหม่ยเหรินก็เผยแววหวาดหวั่นในดวงตา “ขะ ข้าน้อยให้น
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 744

    เห็นอยู่ว่านางกำนัลน้อยผู้นั้นเริ่มลนลานจนออกนอกหน้า เฉียวเนี่ยนก็รู้ทันทีว่านางกำนัลน้อยคนนี้ต้องได้รับคำสั่งจากฮองเฮา ให้คอยดูว่าในแต่ละวันสวีเหม่ยเหรินกินของบำรุงที่พระนางประทานมาหรือไม่ดวงตาของเฉียวเนี่ยนก็แปรเปลี่ยนไปในทันที นางกำลังจะเอ่ยปาก แต่กลับไม่คาดว่าสวีเหม่ยเหรินจะเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาก่อน “แต่ข้ากินไม่ลงจริงๆ แค่ได้กลิ่นก็คลื่นไส้แล้ว!”ขณะพูด สวีเหม่ยเหรินก็แสร้งสำรอกออกมาจริงๆนางกำนัลน้อยขมวดคิ้ว รู้สึกว่าสวีเหม่ยเหรินเสแสร้ง “อย่างไรเสีย หากไม่กิน บ่าวก็จะไปบอกฮองเฮา!”“เจ้าก็ไปสิ!” ร่างของสวีเหม่ยเหรินสั่นระริกเล็กน้อย แต่นางรู้ว่า หากนางไม่ยืนหยัดขึ้นในตอนนี้ ก็จะต้องเป็นเฉียวเนี่ยนที่ออกหน้าแทนแต่เฉียวเนี่ยนเป็นคนของเต๋อกุ้ยเฟย นางไม่อาจเปิดเผยจุดยืนของเฉียวเนี่ยนได้ และยิ่งไม่อาจทำให้ความหวังดีของเต๋อกุ้ยเฟยต้องสูญเปล่า!เห็นว่านางกำนัลน้อยยังไม่เชื่อ สวีเหม่ยเหรินจึงแสร้งสำรอกอีกครั้ง สำรอกไปถึงที่สุดก็กลายเป็นจริง น้ำตายังไหลออกมาอีกด้วยแต่แม้นางจะเป็นเช่นนี้ นางกำนัลน้อยก็ยังไม่ไยดี เพียงรู้สึกว่าสวีเหม่ยเหรินกำลังจะล้ำเส้น จึงจะเดินออกไป “ข้าจะไปเดี๋ยวน

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 743

    จริงๆ แล้วลืมไปก็เป็นเรื่องปกติ นางก็แค่บ่าวรับใช้คนหนึ่งเท่านั้น มีคุณงามความดีหรือความสามารถอะไรถึงให้กุ้ยเฟยผู้สูงศักดิ์เช่นนั้นมาระลึกถึง?วันที่นางช่วยชีวิตนางไว้ ก็ถือว่าเมตตายิ่งนักแล้วแต่ไม่คิดเลยว่า...“จริงๆ แล้วข้าจำท่านได้” สวีเหม่ยเหรินสะอื้นพลางเอ่ยขึ้น “ท่านคือคุณหนูเฉียว คุณหนูใหญ่แห่งจวนโหว”เมื่อก่อนเป็นเพราะความสัมพันธ์ระหว่างเฉียวเนี่ยนกับหมิงอ๋อง เฉียวเนี่ยนจึงเคยมายังเรือนนอนของเต๋อกุ้ยเฟยหลายครั้ง นางจะไม่เคยเห็นได้อย่างไร?ดังนั้นเมื่อครานี้เฉียวเนี่ยนบอกว่าเป็นเต๋อกุ้ยเฟยที่ส่งนางมา สวีเหม่ยเหรินจึงเชื่อเห็นสวีเหม่ยเหรินร้องไห้ เฉียวเนี่ยนก็รีบหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาช่วยเช็ดน้ำตาให้นาง “เต๋อกุ้ยเฟยให้ข้าปกป้องให้เหม่ยเหรินกับลูกในท้องให้ปลอดภัย ข้าก็จะทำสุดความสามารถ เหม่ยเหรินวางใจเถิด เมื่อมีข้าอยู่ ย่อมจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น”แต่ไม่คิดว่าสวีเหม่ยเหรินกลับสะอื้นพลางพูดว่า “อันที่จริงแล้ว ถึงข้าตายไปก็ไม่เป็นไร ต่อให้ไม่ตาย ต่อไปข้าก็แค่แก่ตายอยู่หลังกำแพงสูงนี้ ตายไปเสียเลยยังจะดีกว่า แต่... ต่อให้ต้องตาย ข้าก็ยังอยากคลอดลูกคนนี้ให้กุ้ยเฟย”สถานการณ์ของเต

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 742

    "นั่นใคร?"สวีเหม่ยเหรินเอ่ยถาม เสียงอ่อนแรง แถมยังแผ่วนักเฉียวเนี่ยนจึงก้าวไปข้างหน้า คำนับแล้วกล่าวว่า “ข้าน้อยเฉียวเนี่ยน เป็นหมอหญิงจากโรงหมอหลวง วันนี้รับพระบัญชาจากฮ่องเต้ให้มาดูอาการเหม่ยเหริน”รับพระบัญชาจากฮ่องเต้?ใบหน้าของสวีเหม่ยเหรินปรากฏแววสงสัยนางค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้นด้วยค้ำพนักเก้าอี้อย่างยากลำบากทว่าเหมือนขาอ่อนแรง ยืนได้ไม่ทันไรก็เกือบล้มเห็นดังนั้น เฉียวเนี่ยนก็รีบเข้าไปพยุงคิ้วขมวดเป็นปมในทันทีแขนของสวีเหม่ยเหรินนั้น อวบเกินไปหน่อยแล้วเมื่อครู่ที่นอนอยู่บนเก้าอี้โยก ยังไม่เห็นชัดเท่าไร แต่ตอนนี้นางยืนอยู่ข้างกายเฉียวเนี่ยน เฉียวเนี่ยนก็รู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงขนาดร่างของอีกฝ่ายเกรงว่าจะหนักเกือบสองร้อยชั่งเข้าให้แล้วสวีเหม่ยเหรินตกใจจนใจสั่น ไม่อาจห้ามไม่ให้ยกมือตบหน้าอกตนเบาๆ แล้วจึงชักมือกลับ หันไปกล่าวขอบคุณเฉียวเนี่ยน “ขอบคุณท่านหญิงเฉียวที่ช่วยข้าไว้”น้ำเสียงยิ่งถ่อมตัวกว่าเสี่ยวฝูจื่อเสียอีกเฉียวเนี่ยนกวาดตามองไปรอบๆ อดไม่ได้จะเอ่ยถามว่า “เหตุใดไม่มีผู้ใดดูแลเหม่ยเหรินเลย?”พอฟังคำนี้ สวีเหม่ยเหรินก็เผยแววหวาดหวั่นในดวงตา “ขะ ข้าน้อยให้น

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 741

    องค์หญิงซูหยวนรู้เร็วนักว่านางจะไปตำหนักฝูเหอ?นั่นมันเป็นเรื่องที่พูดกันในเรือนนอนของฮ่องเต้นี่นา!องค์หญิงซูหยวนถึงกับแฝงคนไว้ข้างกายฮ่องเต้ด้วยหรือ?นางแอบตกใจอยู่บ้าง แต่ก็รู้สึกโชคดีไปพร้อมกันวันนี้ ครที่เอ่ยถึงสวีเหม่ยเหรินต่อหน้าฮ่องเต้นั้นคือฮุ่ยเฟย ไม่ใช่นางมิเช่นนั้น สิ่งที่นางอดทนอดกลั้นเพื่อให้ได้รับความไว้วางใจจากองค์หญิงก่อนหน้านี้ คงพังทลายลงในพริบตาสีหน้านางยังคงเปื้อนยิ้มอยู่ “ไม่คาดคิดเลยว่าองค์หญิงจะเป็นห่วงข้าน้อยถึงเพียงนี้ ข้าน้อยปลื้มใจยิ่งนัก!”เสี่ยวฝูจื่อพยักหน้าแล้วยิ้มบางๆ “ท่านหญิงเฉียวจำคุณความดีขององค์หญิงได้ก็ดีแล้ว”พูดจบ ก็ค้อมตัวให้เฉียวเนี่ยนอีกครั้ง “ท่านหญิงเฉียว เชิญขอรับ”“เจ้าค่ะ ฝูกงกง”เฉียวเนี่ยนค้อมตัวตอบกลับ แล้วก็เดินตามหลังเสี่ยวฝูจื่อมุ่งหน้าไปยังตำหนักฝูเหอจริงๆ แล้ว เส้นทางในวังไม่ได้ซับซ้อนนักตำหนักฝูเหออยู่มุมฝั่งตะวันตก เดินตามเส้นทางไป สุดท้ายก็ถึงอยู่ดีเสี่ยวฝูจื่อเดินนำหน้า ไม่รู้เดินไปนานแค่ไหน บนทางที่เดินไปนั้นก็ยิ่งพบพวกนางกำนัลขันทีน้อยลงเรื่อยๆเสี่ยวฝูจื่อเงยหน้าขึ้นมองไปข้างหน้า พอเห็นว่าไม่มีคน ก็หยุด

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 740

    หลายวันต่อมาหลังจากเฉียวเนี่ยนตรวจชีพจรให้ฮองเฮาเสร็จ ก็ไปยังเรือนนอนของฮ่องเต้เพื่อตรวจชีพจรให้ฮ่องเต้ฮุ่ยเฟยก็อยู่ด้วยเมื่อเห็นเฉียวเนี่ยน ฮุ่ยเฟยก็ยิ้มแย้มแจ่มใส “ฝ่าบาทเพคะ วิชาแพทย์ของท่านหญิงเฉียวช่างเลิศล้ำ เห็นหรือไม่ว่าในตอนนี้หม่อมฉันงดงามมีชีวิตชีวาเพียงใด?”น่าจะเพราะไม่ค่อยมีใครชมตนเองเยี่ยงนี้ ฮ่องเต้จึงหัวเราะกับคำพูดของฮุ่ยเฟย แล้วก็พยักหน้า “ใช่ เจ้าก็งดงามดั่งเช่นเคย”ฮุ่ยเฟยเหมือนจะเขินจนหน้าแดง นั่งคอยปรนนิบัติอยู่อยู่ข้างฮ่องเต้เฉียวเนี่ยนตรวจชีพจรให้ฮ่องเต้แล้วจึงกล่าว “ชีพจรของฝ่าบาทมั่นคงและแข็งแรง ตำรับยาบำรุงนั้นไม่จำเป็นต้องเสวยทุกวัน ตั้งแต่วันนี้ไป หม่อมฉันจะเว้นวันมาพบฝ่าบาทวันเว้นวันเพคะ”ฮ่องเต้พยักหน้าเล็กน้อย แล้วก็ได้ยินฮุ่ยเฟยพูดว่า “ไม่แปลกใจเลยที่ฝ่าบาททรงเป็นโอรสสวรรค์ แม้จะมีอายุมากกว่าหม่อมฉัน แต่ร่างกายกลับแข็งแรงกว่าหม่อมฉันเสียอีก จะว่าไป ฝ่าบาทย่อมเป็นผู้มีบุญ ส่วนคนไร้บุญอย่างสวีเหม่ยเหริน อายุแค่ยี่สิบต้นๆ แต่ดูอิดโรยนัก!”สวีเหม่ยเหริน?เฉียวเนี่ยนเหลือบมองฮุ่ยเฟยโดยไม่รู้ตัว นางก็กำลังกลุ้มใจว่าจะพูดเรื่องของสวีเหม่ยเหรินกับ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 739

    พูดมากไป เขาก็จะเข้าใจผิดอีกเซียวเหิงยืนอยู่หน้าประตูเช่นนั้น สายตาตกอยู่ที่ตำแหน่งที่เฉียวเนี่ยนยืนเมื่อครู่ ตรงอกพลันเจ็บแปลบขึ้นมาเป็นระลอกๆไม่รู้ว่าเซียวเหอมายืนอยู่ข้างประตูตั้งแต่เมื่อไร เหลือบมองเฉียวเนี่ยนที่เดินห่างออกไปนานแล้ว จึงพูดว่า “เจ้าจะมัวยืนบื้ออยู่อีกทำไม? ไม่ต้องไปเข้าเฝ้าฝ่าบาทหรือ?”เซียวเหิงเป็นแม่ทัพ ไม่เหมือนเขาที่สามารถเข้าเฝ้าวังได้ทุกวันการที่เซียวเหิงเข้าวัง ย่อมต้องเป็นเพราะมีเรื่องจะกราบทูลฝ่าบาทน้ำเสียงของเซียวเหอสามารถดึงสายตาของเซียวเหิงให้หันกลับมาที่เขาได้สำเร็จ พร้อมกับน้ำเสียงกดต่ำ ด่าลอยๆ ว่า “ไอ้คนเจ้าเล่ห์”เซียวเหอเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เสียงเย็นเฉียบเอ่ยว่า “นี่เรียกว่าผู้ใกล้ชิดน้ำย่อมได้ชมเงาจันทร์ก่อน”ฟังดูสมเหตุสมผลไม่ใช่หรือ!ตำแหน่งผู้บัญชาการกองทหารรักษาพระองค์ของเขา แม้จะไม่สูงเท่าแม่ทัพ แต่ก็สามารถเข้าถึงเฉียวเนี่ยนได้ก่อนเซียวเหิงหนึ่งก้าวเซียวเหิงเองก็เข้าใจดี ว่านี่คือข้อได้เปรียบของเซียวเหอในฐานะผู้บัญชาการกองทหารรักษาพระองค์ถึงขนาดบางครั้ง เขายังรู้สึกว่าเซียวเหออยู่ในวังก็ยังดี อย่างน้อยก็สามารถดูแลเฉียวเนี่ยนได้

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status