LOGINภารกิจรักฉบับสายรุก เมื่อนักศึกษาสาวสวยสุดแสบพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อพิชิตหัวใจอาจารย์หนุ่มสุดหล่อที่แสนเย็นชา งานนี้แผนการที่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมจะสามารถละลายกำแพงน้ำแข็งในใจอาจารย์ได้สำเร็จหรือไม่ ?
View More“นี่มันวันอะไรของฉันเนี่ย!” เสียงบ่นของสุพิชฌาย์หรือเปียโน ดังขึ้นทันทีที่เธอก้าวเข้ามาในห้องเรียน
“ใจเย็นน่าเปียโน ก็แค่ต้องมาเรียนวันเสาร์เอง” ณัฐมลหรือใบตองเพื่อนสนิทของเธอพูดขึ้นก่อนจะหยิบแท็ปเล็ตออกมาเพื่อเตรียมพร้อมจะเรียน
“แต่ฉันต้องตื่นตั้งแต่เช้าทั้งที่วันนี้มันเป็นวันหยุด แต่ต้องมาเรียนในวิชาที่อาจารย์ประจำป่วยจนต้องจ้างอาจารย์พิเศษมาสอนนอกตารางอีก” สุพิชฌาย์ยังบ่นต่อ
“เอาน่าถือว่าเปลี่ยนบรรยากาศไงล่ะ” ณัฐมลหรือใบตองพยายามพูดให้เพื่อนใจเย็นลง
“มันวันหยุดนะ ฉันอยากนอนอยู่บ้านดูซีรีส์มากกว่ามานั่งเรียนในวันเสาร์นะ” เสียงของเจนิตาหรือเจนพูดขึ้นด้วยสีหน้าไม่พอใจเท่าไหร่ที่ต้องมาเรียนในวันหยุด
พวกเธอทั้งสามคนเป็นนักศึกษาชั้นปีที่สี่ของคณะบริหารการศึกษาและมีความสนิทสนมกันมาตั้งแต่เรียนชั้นปีที่ 1 จนถึงตอนนี้ก็เรียนอยู่ปี 4 เทอมสุดท้าย
“อาจารย์ทรงวุฒิเขาจะให้คนอื่นมาสอนแทนนานแค่ไหนมีใครรู้บ้าง” สุพิชฌาย์ถามเพื่อนสนิททั้งสองคน
“ฉันไม่รู้ แต่ถ้าเป็นไปได้ขอแค่ครั้งเดียวก็พอนะ ให้มาเรียนวันเสาร์แบบนี้ไม่โอเคเลย” เจนิตาทำหน้าเบื่อหน่ายที่วันหยุดถูกรบกวน
“ถ้ายังมีเสาร์หน้าฉันจะโดดเรียน” สุพิชฌาย์พูดอย่างแน่วแน่
เสียงพูดคุยในห้องเรียนดังขึ้นเรื่อยๆ ตามจำนวนนักศึกษาปี 4 ที่เข้ามานั่งในห้อง บ้างก็บ่นเรื่องวันหยุดที่ถูกรบกวน บ้างก็บ่นเรื่องการเรียนชดเชยที่ต้องมาพร้อมกับความง่วงในเช้าวันหยุด
ไม่นานนักเสียงบ่นทั้งหมดก็เงียบลงทันทีที่ร่างสูงโปร่งของอาจารย์พิเศษก้าวเข้ามาในห้องเรียน
“คนนี้เหรอ” เสียงกระซิบของนักศึกษาดังขึ้น
“น่าจะใช่นะ”
สุพิชฌาย์มองรูปร่างสูงสวมเชิ้ตสีขาวที่สวมทับด้วยสูทสีดำ ใบหน้าหล่อแต่นัยน์ดูเย็นชาทำให้เขาดูน่าสนใจ
“สวัสดีครับนักศึกษาทุกคนผมชื่อปณัยกรหรือที่นักศึกษาจะเรียกกันว่าอาจารย์ไนท์ ผมจะมาสอนวิชาจิตวิทยาการศึกษาแทนอาจารย์ประจำจนกว่าท่านจะหายดี” ชายหนุ่มกล่าวแนะนำตัว สายตาเขากวาดมองไปทั่วห้อง
ปกติแล้วปณัยกรจะสอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยรัฐบาลแห่งหนึ่งแต่วันนี้เขามาสอนแทนเพื่อนรุ่นประสบอุบัติเหตุจนต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล
เสียงพูดคุยของนักศึกษาดังขึ้นทั่วทั้งห้อง นักศึกษาผู้หญิงหลายคนเริ่มจับกลุ่มคุยกันเรื่องความหล่อของอาจารย์คนใหม่ รวมถึงสุพิชฌาย์ที่สนเขาไม่ต่างจากคนอื่น
“อาจารย์จะมาสอนนานไหมคะ” เพื่อนคนหนึ่งเป็นตัวแทนถามขึ้น
“ก็จนกว่าอาจารย์ของพวกคุณจะออกจากโรงพยาบาล”
“อาจารย์คะ พวกเราไม่เรียนวันเสาร์ได้ไหม”
“ทำไมละครับ”
“ก็มันเป็นวันหยุดนี่คะอาจารย์ พวกเราก็อยากพักผ่อนบ้าง อยากไปเที่ยวกับแฟนบ้าง อาจารย์เอาเวลาวันหยุดมาสอนพวกเราแบบนี้แฟนอาจารย์ไม่ว่าเหรอคะ”
“ผมว่าพวกเรามาเริ่มเรียนกันดีกว่านะครับ” ปณัยกรยังคงทำหน้าเรียบเฉยทำให้สุพิชฌาย์รู้สึกปลื้มเขามากขึ้นไปอีก
ตลอดการสอนของอาจารย์ไนท์ในวันนั้น สุพิชฌาย์แทบจะไม่ได้ฟังเนื้อหาการสอนเลย เธอเอาแต่จ้องมองเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสนใจและอยากจะรู้ว่าภายใต้ท่าทางเรียบเฉยนั้นแอบซ่อนอะไรไว้หรือเปล่า เธอนั่งมองอย่างไม่วางตาจนกระทั่งการเรียนการสอนจบลง
“นักศึกษาคนไหนมีอะไรสงสัยไหมครับ” อาจารย์ปณัยกรถามขึ้นหลังจบบทเรียน
“เสาร์หน้าอาจารย์จะมาสอนอีกไหมคะ”
“เรื่องนี้ผมเองก็ไม่แน่ใจ ผมจะให้อาจารย์ทรงวุฒิแจ้งพวกคุณอีกที” เขาเองก็ไม่รู้ว่ารุ่นพี่จะให้มาสอนแทนหรือเปล่า
“อาจารย์บอกพวกเราล่วงหน้าด้วยนะคะพวกเราจะได้เตรียมตัวก่อน”
“ได้ครับ ถ้าต้องมาเรียนวันเสาร์ผมจะแจ้งก่อนวันพฤหัสพวกคุณจะได้เตรียมตัว มีใครจะถามอะไรอีกไหม”
“อาจารย์คะ พวกเราขอเบอร์โทรศัพท์อาจารย์ได้ไหมคะ เผื่อว่ามีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องเรียนที่ต้องถาม” สุพิชฌาย์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสดใสและมั่นใจ
“ใช่ค่ะอาจารย์ เราสร้างไลน์กลุมดีไหมคะ” นักศึกษาผู้หญิงอีกคนก็พูดขึ้นบ้าง
ปณัยกรมองหน้าสุพิชฌาย์ด้วยสายตาเรียบเฉยก่อนจะหยิบนามบัตรจากกระเป๋าเสื้อและยื่นให้เธอ
“ในนามบัตรนี้มีเบอร์โทรศัพท์ของมหาวิทยาลัยกับอีเมลของผม ถ้ามีอะไรก็ติดต่อมาตามนี้ได้เลยนะครับ”
“อาจารย์คะ แต่ติดต่อทางไลน์มันน่าจะเร็วกว่านะคะ” สุพิชฌาย์ยังไม่ยอมแพ้
“แต่ผมไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ผมว่าติดต่อทางอีเมลดีกว่านะครับ ผมเองก็คงไม่ได้มาสอนบ่อยๆ หรอก ขอตัวก่อนนะครับ” ปณัยกรยิ้มให้กับเธอเล็กน้อย
“ขอบคุณค่ะ” สุพิชฌาย์มองนามบัตรในมือด้วยความผิดหวังเล็กน้อยเพราะมันไม่มีเบอร์ส่วนตัวของเขาเลยแม้แต่นิดเดียว
เมื่อปณัยกรเดินออกจากห้องไปแล้วนักศึกษาก็ทยอยกันเดินออกสุพิชฌาย์กลับนั่งลงอย่างเดิม
“แกคิดจะทำอะไรเนี่ยยัยเปียโน” เจนิตาถามขึ้นเพราะเห็นว่าเพื่อนมีท่าทางสนในตัวอาจารย์คนนี้เป็นพิเศษ
“ฉันจะจีบอาจารย์คนนี้ให้ได้” หญิงสาวพูดขึ้นด้วยท่าทางจริงจัง แววตามีแต่ความมุ่งมั่น
“แกจะเอาจริงเหรอเปียโน” ณัฐมลถามเมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของสุพิชฌาย์
“ก็จริงสิสุขุมเย็นชาดูเป็นผู้ใหญ่แบบนี้สเปกฉันเลยนะแก”
“แต่เขาเป็นอาจารย์นะเปียโนเราไปจีบเขามันจะดีเหรอ” เจนิตาเตือนด้วยความหวังดี
“เขาคงมาสอนเราแค่ไม่กี่ครั้งหรอกมั้ง เดี๋ยวอาจารย์ทรงวุฒิก็คงกลับมาสอนอย่างเดิม”
“นั่นแหละมันคือปัญหา เขามาสอนเราแค่อาทิตย์ละครั้ง แล้วแกจะเอาเวลาไหนไปจีบเขาล่ะ” ณัฐมลมองไม่เห็นโอกาสของเพื่อนเลย
“แล้วถ้าเกิดเสาร์หน้าเขาไม่มาสอนล่ะ” เจนิตาพูดเสริม
“ไม่ยากหรอกน่าเดี๋ยวฉันไปถามอาจารย์ทรงวุฒิก็ได้ว่าอาจารย์ไนท์เขาสอนประจำอยู่ที่ไหน เรื่องแค่นี้ไม่ยากหรอก” สุพิชฌาย์มองข้ามปัญหานั้นไปอย่างง่ายดาย
หลังจากเคลียร์งานทุกอย่างเป็นที่เรียบร้อยปณัยกรก็เดินทางมาที่ประเทศอังกฤษเขาเข้าพักที่อพาร์ตเมนต์ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากหอพักของสุพิชฌาย์มากนักปณัยกรมาถึงที่นี่ตั้งแต่กลางดึกแต่ไม่อยากจะไปรบกวนเวลาพักผ่อนของสุพิชฌาย์ วันนี้เข้าจึงรีบตื่นนอนตั้งแต่เช้าแล้วไปดักรอหญิงสาวที่หน้ามหาวิทยาลัย เขารู้ว่าวันนี้สุพิชฌาย์ไม่มีเรียนแต่เธอมีนัดอ่านหนังสือกับเพื่อนผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงคนที่เขาคิดถึงสุดหัวใจก็กำลังเดินเข้ามาใกล้ หญิงสาวไม่ทันสังเกตเพราะคนที่พิงกำแพงและก้มหน้าอยู่นั้นคือคนรักของตัวเอง“เปียโน” ปณัยกรเรียกชื่อคนรักเบาๆสุพิชฌาย์หยุดเดินเมื่อได้ยินเสียงเรียกเบาๆ หญิงสาวรู้สึกคุ้นหูกับเสียงที่เรียกและมันฟังดูไม่ใช่เพื่อนชาวต่างชาติของเธอเธอหันมองแล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าคนยืนอยู่นั้นคือคนที่เธอกำลังคิดถึงมากที่สุดในตอนนี้ สุพิชฌาย์โผกอดด้วยความดีใจและไม่สนใจสายตาของคนอื่นที่เดินผ่านไปผ่านมา“พี่ไนท์ มาได้ยังไง” สุพิชฌาย์ร้องไห้ด้วยความดีใจเพราะก่อนหน้านี้ปณัยกรโทรมาบอกว่าพวกเขามาหาเธอตามนัดไม่ได้ทำให้เธอน้อยใจและงอนอยู่หลายวันแต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะมาอยู่ที่นี่ก่อนเวลาที่นัดไว้“คิดถึงก็เลย
ช่วงปิดเทอมใหญ่ปณัยกรไม่มีสอนที่มหาวิทยาลัยรัฐบาล ชายหนุ่มจึงมีเวลาเรียนรู้งานกับคุณสุชาติอย่างเต็มที่ ส่วนช่วงเปิดเทอมนั้นเขาก็วางแผนเอาไว้แล้วว่าจะสอนนักศึกษาวันจันทร์ถึงวันพุธเต็มวันส่วนวันพฤหัสกับวันศุกร์เขาจะสอนแค่ครึ่งวันเพื่อจะปลีกตัวมาทำงานที่มหาวิทยาลัยของคุณสุชาติชายหนุ่มปรึกษาเรื่องนี้กับรุ่นพี่และเขาก็บอกว่าไม่มีปัญหาอะไร ถ้าออกมาทำงานข้างนอกมันไม่ได้กระทบกับการสอน ปณัยกรไม่ใช่คนแรกที่ทำแบบนี้เนื่องจากยังมีอาจารย์อีกหลายท่านที่ทำงานอื่นแต่ต้องรับผิดชอบในวิชาของตนเองให้ครบถ้วนตอนนี้ก็ผ่านมาสองเดือนที่เขาเรียนรู้งานกับคุณสุชาติได้มากแล้ว ชายหนุ่มวางแผนเอาไว้ว่าก่อนที่มหาวิทยาลัยจะเปิดภาคเรียนที่หนึ่งเขาจะบินไปหาสุพิชฌาย์ที่อังกฤษ ซึ่งเรื่องนี้เขายังไม่ได้แจ้งคุณสุชาติแต่ก็คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเพราะที่ผ่านมาเขาก็รับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมายอย่างดีมาตลอดอีกทั้งช่วงที่จะบินไปนั้นก็เป็นช่วงที่มหาวิทยาลัยของคุณสุชาติ ปิดภาคเรียนซัมเมอร์เพื่อให้นักศึกษาพักก่อนจะเริ่มเรียนในภาคเรียนต่อไปเมื่อคิดว่าจะได้เจอกับคนรักปณัยกรก็ยิ้มอย่างมีความสุขเขานั่งทำงานอยู่ในห้องของตัวเองจนกร
เวลาหนึ่งเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็วตอนนี้ก็ถึงเวลาที่สุพิชฌาย์จะต้องเดินทางไปเรียนต่อประเทศอังกฤษแล้ว แม้ในใจไม่อยากจะจากคนรักไปแต่เธอก็ยังรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับบิดาและเมื่อคิดว่ากลับมาแล้วจะได้ทำงานร่วมกับปณัยกรหญิงสาวก็เลยใช้ตรงนี้เป็นแรงผลักดันส่วนตัวปณัยกรก็รู้สึกใจหายเพราะตั้งแต่รู้จักกับสุพิชฌาย์มานานหลายเดือนเขากับเธอแทบไม่เคยอยู่ห่างกันเลย ครั้งนี้จึงเป็นการห่างกันเป็นครั้งแรกแต่เขาก็ต้องยอมให้หญิงสาวไปเรียนเพราะนั่นคืออนาคตของเธอก่อนวันเดินทางเขาและเธอต่างก็พากันไปรู้จักเพื่อนของอีกฝ่ายเพื่อเป็นการเลี้ยงส่งซึ่งดูเหมือนว่าสุพิชฌาย์จะเข้ากับเพื่อนของเขาได้ดี ส่วนเขากับเพื่อนสุพิชฌาย์นั้นเคยเจอกันใยฐานะอาจารย์กับลูกศิษย์มาบ้างแล้วแต่พอได้มารู้จักกันอีกครั้งก็รู้สึกแปลกไปบ้างแต่พอคุยไม่นานก็เริ่มปรับตัวได้วันนี้สุพิชฌาย์จะต้องเดินทางไปเรียนแล้ว ปณัยกรมาส่งเธอที่สนามบินและแยกตัวออกมาคุยกันตามลำพังส่วนบิดามารดาของเธอก็ยืนรออยู่ซึ่งทั้งสองคนจะตามไปส่งสุพิชฌาย์ที่อังกฤษด้วย “เปียโนต้องคิดถึงพี่ไนท์มากๆ แน่เลยค่ะ” สุพิชฌาย์เริ่มจะงอแงเมื่อถึงเวลาที่ต้องจากกันจริงๆ“เราวิดีโอคอลหากันไ
“พ่อว่ายังไงบ้างคะพี่ไนท์” หญิงสาวถามเมื่อปณัยกรเปิดประตูเข้ามานั่งในตำแหน่งคนขับ“ท่านก็ไม่ได้ว่าอะไร”“พี่ไนท์คะตอบให้มันละเอียดหน่อยสิคะ”“พ่อของเปียโนไม่ว่าอะไรหรอกครับ”“หมายความว่าพ่อยอมให้เราคบกันใช่ไหม”“ครับ”“พ่อพูดอะไรกับพี่บ้างพี่หายไปนานเปียโนใจคอไม่ดีเลยนะคะ”ปณัยกรหันมายิ้มก่อนจะขับรถออกจากมหาวิทยาลัยระหว่างทางเขาก็เรื่องที่ตัวเองคุยกับบิดาของสุพิชฌาย์ให้เธอฟังทั้งหมด“โล่งอกไปทีค่ะ เปียโนมีความสุขที่สุดเลยค่ะ”“พี่ก็เหมือนกันครับ เย็นนี้พ่อของเปียโนให้พี่พาเปียโนไปที่บ้าน”“ไปทำไมคะ”“ท่านก็คงอยากเจอลูกสาว”“เปียโนว่ามันต้องมีอะไรมากกว่านั้นแน่ๆ เลยค่ะ”“อย่าคิดมากไปเลยนะ ตอนนี้เราไปหาอะไรกินก่อนดีกว่ายังเหลือเวลาอีกนานกว่าจะถึงเวลานัดเปียโนอยากไปไหนล่ะ”“ไปกินข้าวแล้วก็ดูหนังสักเรื่องดีไหมคะ”“ครับ”ทั้งสองทานอาหารกลางวัน ดูหนังและเดินเล่นจนถึงเย็นจากนั้นปณัยกรก็ขับรถออกจากห้างสรรพสินค้าเพื่อนตรงไปยังบ้านของคุณสุชาติตามที่นัดไว้ระหว่างทางสีหน้าของสุพิชฌาย์ดูเป็นกังวล ปณัยกรเอื้อมมือมาจับไว้เพื่อหวังให้เธอรู้สึกผ่อนคลายและสบายใจมากขึ้น“พี่ไนท์ว่าพ่อกับแม่จะคุยอะไรกับ





