“เก่งจริง ๆ เลยนะ” ด้วยร่างกายอันอ่อนแอในตอนนี้ของนีน่า เธอค่อนข้างที่จะหมดแรงและพยายามที่จะเซฟพลังงานเอาไว้ใช้เรียน ทำให้การเคลื่อนไหวของเธอมันช้าไปหมด ถ้าไม่ได้แฟนต้าวิ่งมาที่โต๊ะล่ะก็ เธอคงได้ยืนอยู่จนกว่าจะหมดเวลาพักแน่ ๆ
เสียงของผู้คนคุยกันจอแจดังจนแทบจะกลบเสียงของพวกเธอไปจนหมด ทำให้การคุยกันในตอนนี้เหมือนเป็นการตะโกนใส่กันมากกว่า หากคนอื่นมาเห็นภาพทั้งคู่ในตอนนี้คงเข้าใจว่าทั้งสองกำลังโกรธและทะเลาะกันอยู่แน่ ๆ
แต่แล้วสายตาของนีน่าก็สะดุดเข้ากับชายหนุ่มที่ดูคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูกด้วยร่างที่สูงสง่า เป็นจุดเด่นท่ามกลางผู้คน เรือนผมสีดำขลับราวกับขนของอีกา กับตัดกับสีผิวขาวเนียนละเอียดและผุดผ่อง ใบหน้าคมเข้มจมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากบางยาวได้รูปผู้เป็นเจ้าของดวงตาอันทรงเสน่ห์รูปลักษณ์ที่ดึงดูดทุกสายตาโดยไม่ต้องพยายาม
และนีน่าก็รู้ทันที เธอรู้ได้ทันว่านั่นคือแฟนเก่าของเธอ รีไวน์
ชายคนนั้นกำลังนั่งทานข้าวอยู่ท่ามกลางเพื่อนผู้ชายหมู่มากจนไม่ได้สังเกตเห็นว่ามีสายตาคู่หนึ่งกำลังจับจ้องเขาอยู่อย่างไม่วางตา แต่แล้วเพื่อนของเขาก็รีบวิ่งถือจานข้าวมายังที่โต๊ะอย่างรีบร้อน เพื่อที่จะแจ้งข่าวเด็ดให้กับรีไวน์
“รีไวน์ เมื่อกี้กูเห็นคนที่เป็นสุดที่รักของมึงด้วยว่ะ เธอมากินข้าวที่คณะนี้เหมือนกันนะเว้ย หรือว่าจะมาหาแกกันวะ?” มั้นท์เพื่อนที่สุดของรีไวน์ที่พึ่งมาถึงโต๊ะ บอกกับรีไวน์อย่างตื่นเต้นเพื่อน ๆต่างรู้ดีว่า รีไวน์ยังลืมรักเก่าของตัวเองไม่ได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว นั่นจึงเป็นสาเหตุว่าทำไมเขาถึงได้ตื่นเต้นในการแจ้งข่าวแบบนี้
“มึงเพ้อเจ้ออะไรวะ คนอย่างนีน่าจะมากินข้าวที่คณะนี้ได้ยังไง” รีไวน์รู้ได้ทันทีว่าสุดที่รักที่เพื่อนเขาหมายถึงคือใคร ชีวิตของเขาหลังจากที่เลิกกันกับคนเก่าก็ไม่เคยแตะต้องตัวผู้หญิงคนไหนอีกเลย
“อะไรกันวะ พูดเหมือนรู้จักกันดี เลิกกันไปนานแล้วไม่ใช่หรือไงเวลาเปลี่ยนคนเปลี่ยนนะมึง”
มั้นท์ยังคงพูดเพื่อที่จะเสี้ยมให้ รีไวน์อยากรู้อยากเห็นเรื่องของนีน่าให้มากกว่านี้ และมันก็ได้ผลถึง รีไวน์จะไม่เชื่อว่านีน่ามากินข้าวที่นี่ ถึงปากจะพูดแบบนั้นแต่สายตาของเขาดันสอดส่องหาเธอไม่ยอมหยุด แต่ก็หาไม่เจอเพราะตัวของ นีน่าถูกบังเอาไว้โดยเพื่อนสาวของเธอ กลับกันนีน่าเห็นรีไวน์ได้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้งเต็มสองตา
อันที่จริงแล้วรีไวน์กับนีน่าเคยเจอกันก่อนหน้านี้ ในตอนที่ปฐมนิเทศ ครั้งนั้นเขากับนีน่าเจอกันโดยบังเอิญ แต่ทั้งสองมองหน้ากันเหมือนคนรู้จักแต่ก็แค่เหมือน หลังจากนั้นชายหนุ่มก็เมินและมองไปทางอื่น
นีน่ารู้สึกแปลกใจไม่น้อยที่ได้เจอรีไวน์ที่มหาลัย แต่ก็เท่านั้นเพราะรีไวน์ไม่ได้มีท่าทีที่สนใจเธอเลย เธอจึงทำแบบเดียวกันกับที่ เขาทำกับเธอบ้าง นั่นคือการทำเป็นไม่สนใจเขาเช่นกันเพราะยิ่งเธอนึกถึงเขามากเท่าไหร่นั่นยิ่งทำให้เธอนึงถึงอดีตที่คิดถึง...และเจ็บปวดไปด้วย
“รีไวน์!!”
ชายร่างสูงผมดำหนาเข้ากันดีกับผิวกายขาวสว่างดูสุขภาพดี หันหลังตามเสียงเรียกทันทีเมื่อได้ยิน เขาได้เจอกับเด็กนักเรียนใส่ชุดมอปลายและผูกผมเป็นหางม้า มันดูน่ารักเอามาก ๆ ในสายตาของเขา ใบหน้าของเธอมีแต่รอยยิ้มและความสดใส จนทำให้รีไวน์รู้สึกเบิกบานทุกครั้งเมื่อได้เจอหรือพูดคุยกับเธอ
“ว่าไงครับ?”
ชายหนุ่มหันไปตอบรับอย่างอ่อนโยน แม้ในเวลาที่อยู่กับเพื่อนเขาจะเป็นอีกคนหนึ่งที่เสียงดังและก้าวร้าวกว่านี้ แต่หากได้อยู่กับคนรักแล้ว เขาเหมือนกับหมาตัวโตๆที่แสนใจจะใจดี
“วันนี้รีไวน์จะกลับบ้านเย็นใช่ไหม งั้นวันนี้ไม่ต้องไปส่งเราก็ได้ เดี๋ยวเรากลับเอง”
เธอกล่าวกับชายผู้เป็นคนรัก แม้ว่าตอนนี้จะอยู่ในวัยมัธยมปลาย แต่รีไวน์ก็จะนั่งรถประจำทางไปส่ง นีน่าคนรักของเขา ถึงหน้าบ้านทุกครั้ง ถึงจะเป็นคนละทางกับบ้านของรีไวน์ เขาก็ทำแบบนั้นเป็นประจำเพราะเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของเธอ
“เอางั้นเหรอ แต่อีกนิดก็เสร็จแล้วจะไม่รอกลับพร้อมกันจริงๆ เหรอ?” รีไวน์ทวนถามเธอเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง เพราะการที่จะปล่อยให้แฟนของตัวเองต้องเดินทางกลับบ้านคนเดียว มันคงทำให้เขาไม่สบายใจเท่าไหร่นัก
ภายในใจเขาไม่อยากให้เธอต้องกลับบ้านคนเดียวเลยแท้ๆ แต่ว่าเขาต้องจัดซุ้มงานปัจฉิมให้กับรุ่นพี่ และกว่าจะเสร็จก็คงใช้เวลาอีกสักพัก
“อื้อ! รีไวน์ทำงานก็สู้ๆนะคะ เราเป็นกำลังใจให้”
นีน่ายิ้มให้รีไวน์อีกครั้ง เธอมักจะให้กำลังใจรีไวน์เสมอ ไม่ว่ารีไวน์จะทำอะไร“งั้นถึงบ้านแล้วโทรบอกด้วยแล้วกัน มีอะไรก็รีบโทรมาเลยนะ” รีไวน์บอกกับเธอด้วยความเป็นห่วง เธอตัวเล็กแค่นิดเดียวเขาเลยต้องคอยเป็นห่วงอยู่เรื่อย
ตั้งแต่ทั้งสองคนคบกันรีไวน์แทบจะไม่ปล่อยให้นีน่าอยู่นอกสายตาของเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว และครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรกที่เขาต้องจำใจปล่อยนีน่ากลับไปคนเดียว ถ้าไม่ติดว่าต้องทำซุ้มนี่ล่ะก็คงได้กลับบ้านด้วยกันเหมือนอย่างทุกๆวันไปแล้ว เขาจึงมีท่าทีที่หงุดหงิดอยู่บ้างแต่นั่นก็ทำอะไรไม่ได้ เมื่อได้รับงานมาแล้วเขาเองก็ต้องทำมันให้สำเร็จเพียงเท่านั้น
ถึงแม้จะเป็นห่วงมากแค่ไหนแต่หน้าที่เพื่อส่วนรวมก็ต้องสำคัญกว่า รีไวน์ได้แต่คอยยืนมองร่างเล็กๆ ของนีน่าเดินออกไปไกลจนไม่เห็น ก่อนที่เขาจะตั้งใจทำงานต่อให้เสร็จโดยไวที่สุดเท่าที่จะทำได้
เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ชายหนุ่มจึงรีบเก็บของทุกอย่างและเดินไปเอากระเป๋าที่ถูกวางทิ้งไว้กับพื้น สะพายขึ้นบ่าเตรียมกลับบ้าน แต่แล้วเพื่อนของเขาก็เข้ามาหาและชวนรีไวน์ให้ไปหาอะไรกินก่อนที่จะกลับ เขาจึงตอบตกลงไป
เมื่อถึงศูนย์การค้า รีไวน์เดินคุยกับเพื่อนว่าจะกินข้าวร้านไหนดีแต่ก็ยังตกลงกันไม่ได้ จนสายตาของเขาได้เห็นภาพที่แสนจะทรมานหัวใจ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋านักเรียนที่ถูกห้อยด้วยพวงกุญแจน่ารักๆ และผมทรงหางม้าที่มองจากด้านหลังเขาก็สามารถรู้ได้ ว่านั่นคือแฟนของเขา กำลังยืนเลือกซื้อของอยู่ในร้านขายตุ๊กตา สิ่งเดียวที่เขารู้สึกได้ในตอนนี้คือ การโดนหักหลัง จากผู้หญิงที่เขารักไหนว่าเธอกลับบ้านไปแล้วไง? ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้ แถมข้างกายของเธอยังมีผู้ชายอีกคนอยู่ด้วย
รีไวน์เลือกที่จะมองสถานการณ์ตรงหน้าก่อน แต่ยิ่งมองเท่าไหร่ภาพมันก็ยิ่งบาดลึกเข้าไปในใจของเขา สิ่งที่เธอเคยทำร่วมกับเขา เธอกลับทำแบบนั้นกับคนอื่นด้วยเช่นกัน แบบนี้ถ้าไม่เรียกว่าการสวมเขา จะให้เรียกว่าอะไร?
นีน่าไม่ทันได้สังเกตว่าตัวเองกำลังถูกมองอยู่ไกล ๆ จากรีไวน์ เธอตั้งใจเลือกดูตุ๊กตาอย่างละเอียด นี่คือสิ่งที่พี่ชายข้างบ้านของเธอที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กขอร้อง ก่อนที่เธอจะเดินทางถึงบ้านพี่ชายที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กอย่าง ฟรานซิส โทรมาขอให้เธอมาที่ห้างก่อน เขาต้องการคนที่จะช่วยเลือกของขวัญให้กับแฟน นีน่าจึงเป็นผู้ช่วยที่ดี เพราะเธอเองก็เป็นผู้หญิงเหมือนกัน
“เอาจริง ๆ ถ้าพี่มาเลือกเองผู้หญิงเขาจะดีใจมากกว่านะ” นีน่าเสนอความคิดของเธอกับฟรานซิส หญิงสาวมีความเชื่อว่าสิ่งที่เลือกออกมาจากใจคือสิ่งที่ดีที่สุด แต่ดูเหมือนว่าฟรานซิสจะไม่คิดแบบนั้น หลายครั้งที่ฟรานซิสพยายามจะซื้อของให้กับแฟนของตัวเอง แต่มันก็ดันไม่ถูกใจแฟนเสียที ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอางต่างๆ ของใช้ หรือกับตุ๊กตาก็ไม่เว้น
“ไม่เอาล่ะ นีน่าเลือกให้พี่หน่อยแล้วกัน พี่ไม่เก่งเรื่องการซื้อของเลย คราวที่แล้วแฟนพี่บ่นว่าอยากได้เครื่องสำอาง พี่เลยซื้อลิปสติกไปให้ ปรากฏว่าเธอโวยวายเป็นฟืนเป็นไฟ หาว่าพี่ซื้อลิปสีอะไรมาก็ไม่รู้ไม่เข้ากับเธอเลยสักนิด”
ฟรานซิสค่อนข้างมั่นใจว่านีน่าจะต้องเลือกได้ดีกว่าเขา และครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งที่ฟรานซิสจะทำผิดพลาดไม่ได้ เขาจึงต้องการผู้ช่วยมากในเวลานี้
บทส่งท้าย NC คืนวันแต่งงานกว่าจะถึงบริเวณที่จัดงานได้ก็มืดค่ำแล้ว ภายในห้องอาหารสุดหรูที่ด้านในมีแขกมากมายรวมตัวกันฉลองอยู่ในนั้น ทุกคนล้วนเป็นญาติทางฝั่งรีไวน์เกินครึ่งห้อง ส่วนที่เหลืออีกไม่กี่คนคือญาติฝั่งนีน่าเอง ในวันนี้ทุกคนต่างเฮฮาปาร์ตี้กันอย่างสุดเหวี่ยง อาหารบนโต๊ะก็น่าทานไม่แพ้กัน แต่ดูเหมือนเจ้าของงานทั้งสองจะงุ่นง่านกับการกินอาหารมากกว่าการฉลองสะอีก ก็อย่างว่าพวกเขาไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เช้าคงต้องหิวกันเป็นธรรมดา“ผมขออนุญาตกล่าวแสดงความยินดีกับหลานชายหน่อยนะครับ เอ็งเก่งมากหลานลุงข้าเชื่อว่าเอ็งจะทำได้มาตลอดแล้วก็ขึ้นบริหารเหมือนที่พ่อเอ็งทำด้วยนะ!”ชายวัยกลางคนลุกขึ้นยืนประกาศเสียงดังลั่นห้อง ถึงเนื้อความจะดูไม่มีอะไรมากแต่ก็ดันเรียกเสียงฮือฮาได้เป็นอย่างดี จนรีไวน์ต้องกุมขมับ“งั้นฉันพูดต่อบ้าง ในฐานะป้าของเขา ฉันขอแสดงความยินดีกับความสำเร็จก้าวแรกของหลานชาย ป้าเชื่อมาตลอดว่าแกจะต้องทำได้เพราะแกเก่งเหมือนพ่อแกมาก แทบจะถอดกันมาเลยแถม! แกยังได้แฟนสวยอีกด้วย อู้ยย ไม่ต่างจากพ่อมันเลยนี่หว่า”เสียงญาติๆต่างเฮฮาให้กับคำพูดติดตลกของคุณป้าวัยกลางคนอีกคนหนึ่ง รีไวน์เองก็เขินอายม
บทที่ 44 เรียนจบซะทีหลังจากส่งรีไวน์ขึ้นเครื่องในตอนเช้าแล้ว นีน่าเองก็กลับมาเก็บกระเป๋าในส่วนของเธอเตรียมย้ายไปอยู่หอใหม่ใกล้ที่ฝึกงาน เธอได้เข้าฝึกงานที่บริษัทผลิตสื่อในเครือของทางบ้านรีไวน์ เพียงแค่รีไวน์ออกปากบอกแม่ ทางนั้นก็แทบจะปูเสื่อรอรับเธอเป็นอย่างดีและให้ความช่วยเหลือทุกอย่างส่วนทางด้านของรีไวน์นั้นเขาต้องไปฝึกงานไกลถึงภูเก็ต และเป็นรีสอร์ทที่ดังที่สุดในจังหวัด ด้วยสายงานนั้นเขาไม่อยากจะฝึกกับทางบริษัทพ่อของตัวเอง เขากลัวว่าจะไม่ได้อะไรกลับมาและไม่อยากทำตัวเป็นลูกแหง่ที่พึ่งพ่อแม่ไปทุกอย่าง ถึงแม้ตอนกลับมาจะต้องบริหารต่อจากพ่อก็ตาม แต่พอเป็นนีน่าเขารีบส่งไปหาพ่ออย่างไว นั่นก็เพราะเขาเป็นห่วงนีน่าเอามากๆ ไม่อยากให้เธอต้องไปเจอบริษัทที่ไม่ดีและกดขี่เด็กฝึกงานอย่างเธอ ยิ่งสู้ใครเขาไม่ได้อยู่พอถึงห้องพักที่ต้องอยู่ในอีกสี่เดือนข้างหน้านี้ ใบหน้าสวยก็ดันมีน้ำตาเอ่อล้นออกมา ห่างกันได้ไม่เท่าไหร่ด้วยซ้ำ เธอดันคิดถึงเขาอีกแล้ว เธอพยายามฮึบและปาดน้ำตาอย่างลวกๆ“อดทนหน่อยสินีน่า! อีกแค่สีเดือนเอง! อดทนเข้าไว้!”เธอพร่ำพูดให้กำลังใจตัวเองรอบที่ร้อย ในใจก็รอให้รีไวน์โทรเข้าหาเธอเสียท
บทที่ 43 NC จัดก่อนกลับ“คงไม่มาหรอกมั้ง เธอคงไม่กล้ามาสู้หน้าฉันอีก”นีน่าหลุบตาลงเล็กน้อยเมื่อคิดถึงความดีของน้ำหวานที่เธอเคยทำ แต่ยังไงซะมันไม่สามารถหักล้างกับความผิดในวันนั้นได้ ส่วนคนที่รู้จุดจบของน้ำหวานดีอย่างมั้นท์ เรนและรีไวน์ต่างปิดปากเงียบและดูเหมือนมันจะเนียนมากเสียด้วยสิ“เอาเถอะ ๆ ไม่ต้องไปสนใจคนพรรค์นั้นแล้วกัน เรามาดื่มฉลองให้กับเพื่อนและชีวิตหลังจากนี้กันดีกว่า”แฟนต้าคว้าเอาแก้วพั้นช์มาไว้ในมือ เธอถือมันชูขึ้นรอคนอื่นๆเอาแก้วมาชนพวกเขาชนแก้วให้กับชีวิตที่ผ่านมาและสิ่งที่รออยู่ภายภาคหน้า ไม่ว่าจะมีเรื่องราวอะไรรออยู่พวกเขานั้นพร้อมที่จะฝ่าฝันอุปสรรคมากมายที่ถาโถมเข้าใส่ เพียงแค่ยังมีกันไปเรื่อยๆก็พอวันเวลาที่แสนมีความสุขผ่านล่วงเลยไปนานหลายเดือนจนมาถึงวันแห่งบททดสอบความรักทางไกล บางครั้งมันเป็นเหมือนตัวช่วยและตัวกรองว่าคนๆนี้มีคุณสมบัติเพียงพอต่อการคบหากันยืนยาวไปในอนาคตหรือไม่ แต่ในบางทีมันเป็นดาบสองคมได้เช่นกันความห่างไกลมันทำให้ยิ่งห่างเหิน จากที่เคยอยู่ใกล้กันกลับต้องไกลห่างออกไป คิดถึงแต่กอดไม่ได้ อยากสัมผัสตัวก็ทำได้เพียงนึกถึงสัมผัสนั้นครั้งแล้วครั้งเล่า“เธอ
บทที่ 42 เลี้ยงรุ่น“เอาเหล้ามาอีกสิ้!”มือเล็กๆกวักเรียกให้ช่วยเติมเหล้าให้หน่อย ตาเธอนั้นปิดไปแล้วเรียบร้อยน้ำเสียงก็แข็งขึ้นกว่าเดิม มั้นท์ถึงจะเป็นเจ้าของวันเกิดก็ได้แต่รินเหล้าให้เธอตามคำสั่ง เขาเองไม่คิดว่านีน่าจะเมาแล้วเป็นแบบนี้“โอ้ย!ที่นี่มันร้อนชะมัด ไม่เปิดแอร์บ้างเลยหรือไงวะ!เฮงซวยยย”“ที่รักไม่เอาไม่พูดหยาบคายนะครับ ไอ้มั้นท์มึงเลือกโต๊ะได้ห่วยแตกมากเมียกูร้อนหมดแล้วเนี่ย!”“นี่โต๊ะVVIP เลยนะครับเพื่อนดีกว่านี้ไม่มีอีกแล้วเมียมึงเมาแล้วต่างหาก!”“อ้ะ..”นีน่าทำท่าเหมือนกับเธอจะพูดอะไรขึ้นมาอีก แต่ดันโดนริมฝีปากของรีไวน์หยุดเอาไว้ก่อนจากจูบเนิบๆเขาค่อยๆทวีความรุนแรงขึ้นและแรงขึ้นเรื่อยๆ เขาค่อยๆไล่ริมฝีปากลงมายังซอกคอขาวเนียนอย่างไม่อายสายตาหลายคู่ที่จับจ้องมา“ฮัลโหลว์ เกรงใจคนโสดหน่อยครับเพื่อน”มั้นท์ดีดนิ้วเรียกความสนใจจากเพื่อนรักแต่มันดันสูญเปล่า ในหัวของรีไวน์มีแต่เรื่องกลืนกินนีน่าเท่านั้น“ปล่อยมันไปเถอะ ทำเหมือนมึงจะห้ามได้มาสนุกกับกูดีกว่า เดี๋ยวกูเรียกเด็กให้”สุดท้ายแล้วเรนต้องรับจบแก้ปัญหาเรื่องนี้ให้กับมั้นท์ เขาเรียกเด็กดริ๊งค์ระดับท็อปของร้านมาบริการให้ถึงที่
บทที่ 41 แม่ผัวกับว่าที่สะใภ้ใช้เวลาไปอีกร่วมชั่วโมงกว่าจะเดินทางมาถึงคฤหาสน์หรูแถวชานเมือง และพูดได้ว่ามันเป็นบ้านที่คนรวย คนมีชื่อเสียงมักจะมาสร้างบ้านเดี่ยวกันแถวนี้สะส่วนใหญ่ นีน่าเธอพูดไม่หยุดระหว่างทางขับมาเรื่องการทำตัวให้เหมาะสม ก่อนหน้านี้ตอนมอปลายเธอเคยมาบ้านหลังนี้ครั้งหนึ่งแล้ว ตอนนั้นเธอยังเป็นเด็กและดูเหมือนพ่อและแม่ของรีไวน์จะชอบเธอ แต่ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าความคิดคนจะเปลี่ยนไปตามกาลเวลาไหมนั่นเป็นต้นเหตุอีกหนึ่งเรื่องที่ทำให้เธอประหม่าเธอสูดหายใจเข้าลึกๆพร้อมกับก้าวเท้าลงจากรถ เมื่อมันจอดนิ่งสนิทแล้ว ด้านหน้าบ้านหลังใหญ่โตมีสวนดอกไม้และน้ำพุตกแต่งตามสไตล์บ้านคนรวย นีน่าไล่มองพวกมันและเก็บรายละเอียดทุกอย่าง สวนที่ตั้งใจจัดขึ้นอย่างปราณีต รีไวน์ก้าวขึ้นมาเคียงข้างคนรักของตัวเองก่อนจะยื่นมือให้เธอจับ ซึ่งนั่นเรียกความมั่นใจของนีน่าให้กลับคืนมาได้เป็นอย่างดี“มาแล้วเหรอ ปล่อยให้แม่รอสะนานเลยนะ”เสียงเอ็ดเล็กน้อยดังขึ้นอีกฝั่งของบ้าน ก่อนที่หญิงวัยกลางคนจะปรากฎตัวขึ้น ใบหน้าของเธอนั่นยิ้มแย้มแจ่มใส นานๆทีลูกชายจะกลับมาเยี่ยมบ้านแถมคราวนี้ยังมีแฟนหิ้วติดมือมาด้วยอีก ไม่แปลกที่ผู
บทที่ 40 NC ปล่อยในไม่นานนักเขาก็ถอดกางเกงออกเผยให้เห็นแก่นกายอันใหญ่ยาวที่กำลังกระตุกมองกี่ครั้งก็ไม่เคยชิน ภาพตรงหน้าของรีไวน์นั้นมันทำให้เขามีอารมณ์พุ่งขึ้นถึงขีดสุดจนอยากจะเข้าไปจัดการเธอให้รู้แล้วรู้รอดหญิงสาวรับรู้ชะตากรรมของตัวเอง เธอนั่งถ่างขาออกอยู่บนนั้นใจก็หวิว ๆ ใบหน้าของเธอแดงเถือกไปหมด ร่างกายนั้นก็เปลือยเปล่า ทั้งเขิน เสียว และอายปะปนกันไปหมด หากไม่ใช่รีไวน์เธอคงไม่ยอมใจทำแบบนี้แน่ ๆเจ้าตัวใช้แก่นกายถูขึ้นและลงรอบนอกให้น้ำใส ๆ เปราะเคลือบแท่งของเขาเอาไว้ ก่อนที่จะค่อยๆกดมันเข้าไปรูรักของเธอเต็มไปด้วยน้ำหวาน ของตัวเจ้าของเองทำให้เข้าไปได้โดยง่ายและไม่เจ็บอีกต่อไป เธอครางออกมาเล็กน้อยความรู้สึกปวดตุ้บ ๆ ไม่นานก็ชินและปรับเปลี่ยนเป็นความเสียวที่มากเกินจะรับได้แทน“อ๊า! มันลึก..ลึกมากเลย”ด้วนท่าทีที่เปลี่ยนไปและไม่เคยทำมาก่อนนั่นเป็นองศาที่ทำให้แก่นกายได้เข้าไปลึกจนกระแทกกับมดลูกของเธอเข้าอย่างจัง ถึงมันจะเจ็บแต่เธอนั้นก็ยังชอบและ ยังภาวนาให้รีไวน์ทำกับเธอรุนแรงขึ้นมากกว่านี้อีกร่างสูงไม่รอช้ารีบขยับเข้าออกอย่างเอาแต่ใจ รูรักของ คนตรงหน้านั้นบีบรัดแก่นกายของเข