“ทำอะไรอยู่ครับนมหอมจัง” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยถามทันทีที่เข้ามาถึงห้องครัวของเรือนแสนรัก แม่อุ่นที่กำลังวุ่นอยู่กับข้าวต้มกุ้งตรงหน้าหันมองหน้าเจ้านายหนุ่มที่ตนอุ้มชูมาก่อนจะเอ่ยตอบ
“ก็ข้าวต้มกุ้งของโปรดคุณเสือไงค่ะ รออีกเดี๋ยวก็เสร็จแล้วค่ะ”
“จริงเหรอครับดีจังเสือคิดถึงข้าวต้มกุ้งฝีมือนมที่สุดเลย” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกพร้อมทั้งออดอ้อนแม่นมเล็กๆ
“แหม่ถ้าจริงอย่างคุณเสือว่าทูนหัวคงอยู่ทานทุกมื้อแล้วค่ะ ไม่รีบร้อนออกไปปล่อยให้อาหารนมกินแห้วแบบนี้ตั้ง9ปีหรอกค่ะ” แม่อุ่นเอ่ยบอกอย่างแง่งอน
“นมครับต่อไปเสือจะทานอาหารนมทุกวันเลยหายงอนนะครับดีกันนะครับ” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกพร้อมยกนิ้วก้อยขึ้นมา แม่อุ่นหัวเราะร่าก่อนจะยกนิ้วก้อยมาเกี่ยวกับนิ้วก้อยของเจ้านายหนุ่ม
“คุณนมขาข้าวต้มกุ้งจะไหม้แล้วค่ะ” แต้วเอ่ยแซวผู้อาวุโสกว่าที่เธอรักดั่งบุพการี แม่อุ่นหันมาตีแขนแต๋วก่อนจะหันมาบอกนายหนุ่ม
“คุณเสือไปนั่งรอที่โต๊ะก่อนนะคะทูนหัวเดี๋ยวก็เสร็จแล้วค่ะ”
“ครับนม ผมจะรอที่ศาลาริมน้ำนะครับ” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกก่อนจะเดินไปยังศาลาทรงแปดเหลี่ยมซึ่งตั้งอยู่ริมสระบัวขนาดใหญ่ พงศ์พยัคฆ์ยืนมองดอกบัวหลากหลายสายพันธุ์ที่บานสะพรั่งเต็มสระด้วยความเพลิดเพลินพลางนึกไปถึงหญิงสาวที่เขินอายจนวิ่งหนีเข้าห้องน้ำไป
12ปีก่อน...
“ชอบดอกบัวเหรอหนูแพร” พงศ์พยัคฆ์นักศึกษาแพทย์ปี1วัย19เอ่ยถามเพื่อนรักของน้องสาวที่กำลังชื่นชมความงามของดอกบัวที่บานสะพรั่งเต็มสระอย่างเพลิดเพลินระหว่างรอพิมพ์พิชชาและปัญจวัตรที่อาสาลงไปเก็บเมล็ดบัวในสระมาให้แม่อุ่นทำขนม
“แพรชอบดอกบัวกับดอกกุหลาบขาวที่สุดเลยค่ะพี่เสือ” แพรวารินทร์วัย15ปีเอ่ยบอกแต่สายตายังจับจ้องที่สระบัวอย่างไม่คิดจะมองคนที่เธอคุยด้วย ทำให้เธอไม่มีโอกาสได้เห็นรอยยิ้มและแววตาของพงศ์พยัคฆ์มองเธออย่างแสนรักและเอ็นดู
“ทำไมถึงชอบกุหลาบขาวล่ะ สีอื่นไม่ได้เหรอพี่ว่ามันก็สวยดีนี่” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยถามอย่างใคร่รู้
“สีอื่นก็สวยค่ะแต่กุหลาบขาวหมายถึงความรักที่บริสุทธิ์ แพรชอบความรักที่บริสุทธิ์ค่ะ” แพรวารินทร์เอ่ยบอกด้วยรอยยิ้มที่ทำให้พงศ์พยัคฆ์สายตาเบลอไปชั่วขณะก่อนจะเรียกสติกลับมาได้
“หนูแพรชอบกุหลาบขาว งั้นดีเลยพี่เพิ่งสั่งพันธุ์กุหลาบขาวมาพอดีว่าจะปลูกที่ไว้ในสวนหลังบ้านหนูแพรมาช่วยพี่ปลูกหน่อยสิครับยัยตัวแสบกับนายปัญจ์คงเก็บเมล็ดบัวกันอีกนาน” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกในใจนึกชื่นชมเพื่อนน้องสาวที่อายุแค่นี้แต่มีความคิดความอ่านมากกว่าคนรุ่นเขาเสียอีกและความคิดของเด็กสาวก็ไม่ค่อนไปทางแก่แดดแก่ลมเหมือนเด็กรุ่นเดียวกันคนอื่น
“ได้สิคะ ไปค่ะ” แพรวารินทร์เอ่ยรับคำก่อนจะเดินนำไปที่สวนหลังเรือนแสนรักโดยที่เจ้าบ้านอย่างพงศ์พยัคฆ์ไม่ต้องนำทางเพราะเธอมาที่นี่บ่อยจนรู้นอกรู้ในดีทุกซอกทุกมุม พงศ์พยัคฆ์ยิ้มเอ็นดูก่อนจะเดินตามไป เด็กหนุ่มและเด็กสาวช่วยกันปลูกกุหลาบขาวจำนวนสี่ห้าต้นอย่างมีความสุขโดยหารู้ไม่ว่ามีชายชรามีอายุสองคนยืนมองด้วยรอยยิ้มอยู่ในมุมนึงของสวนและเขาทั้งสองก็คือพ่อเลี้ยงพยัคฆ์และท่านสัตยะนั้นเอง
ความเอ็นดูแปรเปลี่ยนเป็นความรักเมื่อใดชายหนุ่มไม่รู้ รู้เพียงว่าตั้งแต่ปลูกดอกกุหลาบขาวด้วยกันคราวนั้นชายหนุ่มก็เฝ้ามองแพรวารินทร์ด้วยสายตารักใคร่และหวงแหนและอยากมองเด็กสาวคนนี้ตลอดเวลาถึงแม้จะดื้อนิดๆแสบหน่อยๆและอ่อนหวานบ้างในบางทีแต่นี่คือเสน่ห์ที่ทำให้เขาหลงรักเด็กสาวที่อายุเพียงสิบห้าปีเท่านั้น ตอนนี้มันคงถึงเวลาแล้วที่เขาจะพิสูจน์ให้เธอเห็นว่าเขารักเธอแค่ไหนและถึงเวลาแล้วที่เขาจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้หัวใจของเธอมา โดยที่เธอจะไม่คิดว่าเขาทำไปเพื่อแก้ไขแบบขอไปที เขาขอใช้วันนี้เป็นวันแรกแห่งการเริ่มต้นใหม่เพื่อลบความรู้สึกดี ๆ ที่เสียไปของแพรวารินทร์ที่เกิดจากการเข้าใจผิดของเขา
อีกฟากหนึ่ง
“อ้าวคุณหนูแพรลงมาพอดีเลย นมกำลังให้เด็กตั้งโต๊ะที่ศาลาริมน้ำอยู่พอดี” เสียงแม่อุ่นเรียกให้แพรวารินทร์ที่เดินลงจากบันไดหันไปมอง หลังจากที่เธอหนีอายเข้าไปในห้องน้ำหญิงสาวใช้เวลาเกือบสิบห้านาทีกว่าจะสงบสติได้หลังจากนั้นหญิงสาวจึงรีบอาบน้ำแต่งตัวเพราะเช้าวันนี้เธอต้องไปพบลูกค้าแทนพิมพ์พิชชาเวลา09.00น.ตามคำสั่งของรณพีร์
“ทำไมต้องตั้งโต๊ะที่ศาลาริมน้ำล่ะคะ” แพรวารินทร์เอ่ยถามอย่างแปลกใจเพราะปกติหญิงสาวอยู่คนเดียวจึงให้จัดอาหารที่ห้องอาหาร
“คุณเสืออยากจะรับอาหารที่ศาลาริมน้ำน่ะค่ะ ไปค่ะเดี๋ยวนมเดินไปเป็นเพื่อน” แม่อุ่นเอ่ยบอกก่อนจะจับมือนายสาวไปตามเส้นทางที่พงศ์พยัคฆ์อยู่ แพรวารินทร์แทบจะกลั้นใจตายเมื่อรู้ว่าหมอหนุ่มยังอยู่ในบ้านเพราะคิดว่าหมอหนุ่มคงไปทำงานแล้วเหมือนทุกวันมัณฑนากรสาวจึงกล้าเดินออกมาจากห้องน้ำ
“มื้อเช้ามาแล้วค่ะคุณเสือ วันนี้นมทำข้าวต้มกุ้งคุณหนูแพรต้องทานเยอะๆนะคะคุณเสือด้วย ทูนหัวของนมทั้งสองคนดูผอมไปนิดนมจะต้องขุนให้อ้วนกว่านี้แล้ว” แม่อุ่นเอ่ยบอกก่อนจะพามัณฑนากรสาวมานั่งตรงข้ามกับหมอหนุ่ม และแน่นอนนางต้องช่วยทูนหัวของนางทำคะแนนอยู่แล้วเพราะนางเองก็อยากจะเลี้ยงคุณหนูน้อย ๆเต็มแก่แล้ว
“ข้าวต้มกุ้งของนมอร่อยมากครับอีกสองสามวันเสือคงอ้วนแน่เลย จริงสิแล้วเด็กหนุ่มคนนั้นใครครับที่ใส่ปุ๋ยกุหลาบขาวอยู่ที่สวนหลังบ้านน่ะ” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกก่อนจะถามถึงเด็กหนุ่มวัยประมาณ15-16ที่เจอตอนเดินไปตัดดอกกุหลาบขาวมาใส่แจกันเมื่อสิบนาทีก่อนนึกถึงเด็กหนุ่มแล้วก็ขำตอนที่พงศ์พยัคฆ์กำลังจะตัดดอกกุหลาบขาวแสนสวยเด็กหนุ่มวิ่งเข้ามาห้ามพร้อมบอกอีกว่ากุหลาบขาวแปลงน้อยนี้นายหญิงของบ้านหวงมากถ้าไม่จำเป็นจะไม่ให้ใครมาแตะต้องโดยที่เด็กหนุ่มหารู้ไม่ว่ากำลังห้ามเจ้าของกุหลาบตัดกุหลาบ
“อ๋อ เจ้าเอ็มนะเหรอค่ะลูกของหลานชายนมเองค่ะ เจ้าโอบน่ะค่ะทูนหัวจำได้มั้ยพ่อกับแม่มันเลิกกันเจ้าโอบมันเลยมาฝากนมไว้เดือนก่อนนี้เองเพราะต้องไปทำงานทางใต้แม่มันก็แต่งงานใหม่น่ะค่ะ ช่วงนี้นมเห็นทูนหัวยุ่ง ๆ ก็เลยยังไม่ได้บอก” แม่อุ่นเอ่ยบอกและเล่าเรื่องราวของหลานชายให้ฟังอนาวีเป็นลูกชายของโอบอ้อมลูกชายของน้องสาวแท้ๆของแม่อุ่นที่จากไปเพราะอุบัติเหตุพร้อมสามีแม่อุ่นเลี้ยงดูโอบอ้อมมาพร้อมกับการเป็นแม่นมของพงศ์พยัคฆ์โอบอ้อมอายุมากกว่าพงศ์พยัคฆ์ถึง8ปีแต่ทั้งสองก็สนิทกันเหมือนเพื่อนรวมไปถึงปัญจวัตรด้วย
“ลูกพี่โอบนี่เอง ถึงว่าสิหน้าตาคุ้นๆ พอดีเสือไปตัดดอกกุหลาบมาใส่แจกันอันนี้น่ะครับแต่เจ้าหนูบอกว่าคุณหนูแพรหวงมากห้ามตัดเด็ดขาด” พงศ์พยัคฆ์พูดไปยิ้มกวนหญิงสาวไป ชายหนุ่มรู้สึกดีไม่น้อยที่แพรวารินทร์ไม่ปล่อยปละละเลยสถานที่แห่งความทรงจำของเธอกับเขาให้เสื่อมโทรมไป
“นายเอ็มมั่วแล้ว แพรไม่ได้หวงซะหน่อยแค่เห็นว่าเจ้าของบ้านไม่อยู่คนอื่นก็ไม่ควรจะตัดมันแค่นั้น” แพรวารินทร์เอ่ยบอกทั้งที่จริง ๆแล้วหญิงสาวหวงแปลงกุหลาบขาวนั้นจริง ๆ
“ค่ะไม่หวงเลยแค่เจ้าเอ็มเตะบอลไปถูกก็รีบวิ่งไปดูทันทีไม่หวงเลยสักนิด” แม่อุ่นเอ่ยแซวนายสาวอย่างเอ็นดูก่อนจะนึกอะไรบางอย่างได้
“จริงสินมว่าจะฝากขนมไปให้คุณหนูทรายงั้นนมไปจัดใส่กล่องก่อนนะคะ” แม่อุ่นเอ่ยบอกก่อนจะเดินเลี่ยงไปที่ครัวทิ้งให้สองสามีภรรยาทานอาหารเช้ามื้อแรกหลังจากแต่งงานกันมา
“หนูแพรครับแต่งตัวแบบนี้จะไปไหนครับ” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยถามหลังจากมองชุดของแพรวารินทร์ที่ดูเรียบสวยและคล่องตัว
“คุณพีร์ให้ไปพบลูกค้าแทนทรายค่ะ ทรายไปดูสถานที่แล้วแล้วก็ลองร่างแบบไปให้เขาดูแล้วแต่เขายังให้เพิ่มอีกนิดหน่อยยัยทรายร่างเสร็จแล้วแต่ยังไม่ส่งก็มาป่วยซะก่อน” แพรวารินทร์เอ่ยบอกพร้อมตักข้าวต้มกุ้งแสนอร่อยเข้าปากอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งที่จริง ๆแล้วในใจยังคงเขินอายกับเหตุการณ์เมื่อคืนและเมื่อเช้าอยู่
“งั้นเดี๋ยวพี่ไปส่งแล้วกัน” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกแต่กลับได้รับคำปฏิเสธ
“ไม่ค่ะแพรนัดกับลูกค้าตอน9โมงคุณหมอจะสายเสียเปล่าๆ”
“วันนี้พี่มีธุระที่นิติเวชนิดหน่อยน่ะเลยลาที่โรงพยาบาลไว้แล้ว เข้าตอนไหนก็ได้ ให้พี่ไปส่งนะครับ แล้วเสร็จธุระเราจะได้ไปหาทราบพร้อมกัน” พงศ์พยัคฆ์ยังดึงดันจะไปส่งหญิงสาวให้ได้จนในที่สุดเธอก็ต้องยอมไปแต่โดยดีและเมื่อเธอยอมให้เขาไปส่งกุ้งตัวโตจากชามของหมอหนุ่มก็ถูกยกให้เป็นของรางวัลแก่เธอทันที
“ทานกุ้งเยอะๆครับกุ้งมีคอเลสเตอรอลชนิดดีมีประโยชน์ต่อร่างกายช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรงหัวใจและกุ้งยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุโบรตีน และคาร์โบไฮเดรตซึ่งช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและสดชื่น” หมอหนุ่มเอ่ยบรรยายสรรพคุณของกุ้งก่อนจะตักขึ้นป้อนหญิงสาว แพรวารินทร์จำยอมอ้าปากรับกุ้งตัวโตที่ถูกแบ่งเป็นชิ้นเล็กๆแล้วเคี่ยวมันจนละเอียดแล้วกลืนลงท้องไปอย่างเขินอาย ผู้ชายคนนี้ทำให้เธอเขินได้มากกว่าสองครั้งต่อวันทำไมเขาถึงมีอิทธิพลต่อหัวใจเธอได้ขนาดนี้ทำไมนะ หญิงสาวครุ่นคิดก่อนจะทานอาหารต่อโดยมีพงศ์พยัคฆ์ที่ดูจะเจริญทั้งอาหารร่างกายอาหารตาและยังมีอาหารใจเป็นของแถมจนกระทั้งมื้อเช้าแรกหลังแต่งงานจบลง
พงศ์พยัคฆ์นั่งมองแพรวารินทร์คุยงานกับปกรณ์ลูกค้าวัยกลางคนของน้องสาวที่แพรวารินทร์ต้องเข้ามาพูดคุยและรับผิดชอบแทนโดยไม่คิดจะละสายตา เขาไม่ได้มองหญิงสาวมาตั้งนานในตอนนี้เขาจึงอยากจะมองชดเชยที่ไม่กล้ามองมานาน...มองเธอให้นานที่สุดแม้ว่าจะมีพงศ์พยัคฆ์มานั่งอยู่โต๊ะข้าง ๆ แต่แพรวารินทร์ก็ไม่ได้ประหม่าจนเสียงาน หญิงสาวพูดคุยกับลูกค้าด้วยน้ำเสียงสบายหูจนแม้แต่พงศ์พยัคฆ์เองยังรู้สึกสบายไปด้วยแม้จะมีหลายอย่างที่เขาไม่เข้าใจก็ตาม“ผมไม่มีปัญหากับแบบที่นำเสนอนะครับ ทางผมไม่ได้รีบร้อนอะไรทางบริษัทไม่ต้องกังวล และคุณแพรวารินทร์เองก็ไม่ต้องมาคุมงานนี้แทนหรอกครับ ผมได้ยินว่าคุณแพรวารินทร์มีงานใหญ่ที่ต้องทำอีกหลายงาน ไม่ต้องลำบากหรอก บอกตามตรงผมถูกชะตาคุณพิมพ์พิชชามากอยากให้เธอได้เป็นคนควบคุมงานที่เธอออกแบบด้วยตัวเธอเอง”“ทางเราเองก็อยากให้พิมพ์พิชชาได้ทำค่ะ แต่ก็เกรงว่าทางคุณปกรณ์รอไม่ไหว”“รอได้ครับ ผมจะรอมัณฑนากรเจ้าของแบบนี้ แล้วก็หวังว่าคุณพิมพ์พิชชาจะหายกลับมาจัดการงานนี้ด้วยตัวเองได้ในเร็ววันนะครับ”“พิมพ์พิชชาจะกลั
ดวงตาคู่หวานทอดสายตามองปลาสวยงามในตู้ปลาตรงหน้าด้วยความรู้สึกเหนื่อยล้าไม่ว่างานจะหนักแค่ไหนเธอก็ไม่เคยเหนื่อยล้าและหมดแรงเท่าตอนนี้เลย ตอนรู้ความสัมพันธ์ของพงศ์พยัคฆ์และหญิงสาวอีกคนก็ช็อคแล้วยิ่งได้เห็นทั้งคู่เดินจับจูงมือกันอีกยิ่งรู้สึกเสียใจ“ยังไม่เลิกทำหน้าเหมือนหมาเปิดปลากระป๋องไม่ได้อีกเหรอคุณ” น้ำเสียงยียวนเอ่ยทักจากด้วยหลังทำให้คนยืนมองตู้ปลาอยู่ต้องละลายตาไปมอง “อุตส่าห์พาไปเลี้ยงข้าวปลอบใจถึงที่บ้านคุณยังไม่หายเศร้าอีกเหรอ อะไรจะอกหักเบอร์นั้นครับหมอฟ้ารดา”“ยุ่ง” คนโดนถามว่าแล้วก็หัวกลับไปดูปลาในตู้ต่อไป “เป็นปลานี่ดีเนอะ ไม่เห็นจะอกหักรักคุดเหมือนคนเลย”“อกหักแล้วเพี้ยนก็มีด้วยเว้ยเห้ย ไปกันใหญ่ ปะ ไปกินข้าวบ้านผมดีกว่าวันนี้ม้าผมทำแต่ของอร่อย เผื่อจะหายจากอาการอกหักบ้าง” ว่าแล้วก็ดันไหล่หญิงสาวจากด้านหลังออกไปจากโรงพยาบาลทันที ที่รีบก็เพราะเขากลัวสาวเจ้าจะได้เห็นภาพบาดตาเข้าอีกน่ะสิวันนี้ก็เป็นอีกวันที่บ้านเกตทิวรากุลได้ต้อนรับแขกสาวอีกครั้งหลังจากที่เมื่อวานนี้ได้ต้อนรับไปแล้วทว่าคุณหญิงปริศนากลับไม่ได้รู้สึกไม่ดีอะไรแม้แต่น้อย ออกจะชอบใจ
วันต่อมาโรงพยาบาลรักษ์บดินทร์การที่พงศ์พยัคฆ์ไปไหนมาในกับแพรวารินทร์ถือเป็นสิ่งที่ถูกพูดถึงไม่หยุดตั้งแต่ที่หญิงสาวเดินออกมาจากห้องทำงานของหมอหนุ่ม บ้างก็สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับหมอหนุ่มผู้แสนเย็นชาและเงียบขรึมที่ทำให้หมอหนุ่มเปลี่ยนเป็นคนที่มีรอยยิ้ม บ้างก็ใคร่รู้เหลือเกินว่าหญิงสาวเป็นใครทำไมถึงได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกับเสือยิ้มยากของโรงพบายาลได้แบบนี้และข่าวล่ามาแรงวันนี้ก็คือข่าวสารที่ว่าคืนวานนี้คุณหมอหนุ่มและหญิงสาวคนนั้นไม่ได้กลับออกไปจากโรงพยาบาลจนกระทั่งช่วงสาย ๆ จึงได้จูงมือกันออกไปข้างนอกคุณหญิงปริศนาเงี่ยหูฟังพยาบาลสาวที่เม้าท์กันอย่างเมามันก่อนจะหันมามองหน้าลูกสาวที่กำลังตั้งใจฟังอยู่ไม่แพ้กันแล้วก็ได้แต่พ้นลมหายใจอย่างเบื่อหน่าย“เรื่องชาวบ้านนี่ขยันจริง ๆ คนเรานี่”“นั่นสิคะ โอ๊ะ นั่นพี่เสือกับพี่แพรนี่คะ” ปรียาภัทรเอ่ยอย่างเห็นด้วยกับคำพูดของผู้เป็นแม่ก่อนจะหันไปเห็นคนที่ถูกพูดถึงกำลังเดินไปยังลิฟต์จึงส่งเสียงเรียกทันที“พี่แพร พี่เสือ” เสียงร้องเรียกทำให้แพรวาริน
เสียงเครื่องยนต์ของรถที่คุ้นหูทำให้ปัญจวัตรรีบเดินออกมาหน้าบ้านด้วยความแปลกใจทันที เขาจำได้เสียงนี้เป็นเสียงรถพงศ์พยัคฆ์อย่างแน่นอน และก็เป็นไปตามคาดรถหรูของพงศ์พยัคฆ์จอดอยู่ตรงหน้าจริง ๆหลังจากนั้นไม่นานรถของปรียาภัทรก็ขับมาจอดใกล้ๆกัน ปัญจวัตรมองผู้มาเยือนที่ไม่ได้มีแต่พงศ์พยัคฆ์แต่ยังมีลูกพี่ลูกน้องสุดที่รักอย่างแพรวารินทร์ด้วยความประหลาดใจ“มาได้ไงวะไอ้เสือ น้องแพร” ปัญจวัตรเอ่ยถามอย่างสงสัยทันทีที่เพื่อนรักและลูกพี่ลูกน้องสาวลงจากรถ“ปิ่นชวนเองแหละ เห็นว่าวันนี้ม้าทำแต่ของอร่อยเลยชวนมาแจมด้วย”“ชวนมาแจมเนี่ยนะ” ปัญจวัตรเอ่ยพึมพำหมอหนุ่มสังหรณ์ใจไม่ดีเท่าไรแล้วน้องสาวเขาคิดจะทำอะไรนั้นคือสิ่งที่ปัญจวัตรกำลังหาคำตอบให้ตัวเอง ส่วนพงศ์พยัคฆ์และแพรวารินทร์นั้นไม่ได้สนใจปัญจวัตรทั้งคู่เดินเข้าบ้านไปพร้อมกับปรียาภัทรโดยไม่ต้องมีใครชวน คนนอกเห็นอาจคิดว่าเสียมารยาทแต่ไม่ใช่เลยเพราะทั้งสองเข้าออกบ้านหลังนี้จนเหมือนบ้านตัวเองไปแล้วทั้งคุณหญิงปริศนากับคุณศรันย์ผู้เป็นสามีเองก็เอ็นดูพงศ์พยัคฆ์เหมือนลูกแพ
โต๊ะอาหารหลังจากที่ทุกคนย้ายสถานที่จากห้องรับแขกมาเป็นห้องอาหารพงศ์พยัคฆ์ก็เลื่อนเก้าอี้ให้แพรวารินทร์นั่งโดยจงใจให้ที่นั่งของตนและภรรยาสาวอยู่ตรงข้ามกับฟ้ารดา แพรวารินทร์มองชายผู้เป็นสามีอย่างไม่เข้าใจแต่ก็ไม่เอ่ยอะไรด้านพงศ์พยัคฆ์ก็รู้ว่าภรรยาไม่เข้าใจแต่ก็ไม่อธิบายได้แต่ตักปูมาแกะก่อนจะยื่นมาตรงหน้าแพรวารินทร์“อ้าปากสิครับ พี่จะป้อน” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกน้ำเสียงไม่เบานัก แพรวารินทร์มองอย่างไม่เข้าใจก่อนจะขยับปากจะพูดแต่ถูกพงศ์พยัคฆ์ขัดขึ้นก่อน“ไม่อ้าปากพี่จูบนะ เลือกเอา” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยขู่จนคนไม่อยากโดนจูบรีบอ้าปากงับเนื้อปูอย่างไม่รอช้า พงศ์พยัคฆ์ยิ้มอย่างเอ็นดูก่อนจะโน้นศีรษะไปใกล้หญิงสาวแล้วเอ่ยบางอย่างออกมา“น่ารักที่สุด แบบนี้ต้องให้รางวัล” พูดจบริมฝีปากหนาของพงศ์พยัคฆ์ก็ทาบลงจุ๊บที่แก้มเนียนของแพรวารินทร์โดยไม่เอียงอายต่อสายตาของผู้ร่วมโต๊ะคนอื่น ๆ แพรวารินทร์ผงะไปอย่างตกตะลึงก่อนที่แก้มเนียนจะเปลี่ยนเป็นแดงซ่าน“ป้อนให้พี่บ้างสิครับ หนูแพร” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกก่อนจะโน้นศีรษะลงไปใกล้ใบหูของหญิงส
บทที่17 เหตุการณ์สร้างพระเอก“ยัยทรายร้ายกาจและใจร้ายที่สุด สงสารหมอฟ้าจัง” แพรวารินทร์เอ่ยต่อว่าเพื่อนก่อนจะเดินนำหน้าออกไป พงศ์พยัคฆ์รีบเดินตามไปอย่างช้า ๆก่อนที่ทั้งคู่จะต้องหยุดชะงักเมื่อเดินมาถึงหน้าสระน้ำพุภาพที่ปรากฏในสายตาของทั้งคู่คือปัญจวัตรและฟ้ารดา พงศ์พยัคฆ์หันมาสบตากับภรรยาก่อนคิดด่าตัวเองในใจ‘ไม่น่ารีบกลับเล้ยไอ้เสือ ถ้าจะไปที่รถก็ต้องผ่านหน้าสองคนนั้นทำลายบรรยากาศกันพอดี’“จะกลับแล้วเหรอ”ปัญจวัตรเอ่ยถามหลังจากมองเห็นและผละออกจากกุมารแพทย์สาวอย่างนุ่มนวล“ใช่พอดีหนูแพรมีงานพรุ่งนี้น่ะเลยไม่อยากกลับดึกไปนะครับหมอฟ้า ไปนะเพื่อนกอดหน่อย” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกก่อนจะดึงเพื่อนรักมากอดและกระซิบบางอย่าง“ถึงที่ฉันทำมันดูแรงไปแต่ก็เพราะหวังดีกับหมอฟ้าแล้วก็นาย ต่อไปก็จีบไปเรื่อยๆล่ะฉันว่าหมอฟ้าไม่ได้อคติกับนายเหมือนแต่ก่อนแล้ว พยายามให้เต็มที่เอามาเป็นสะใภ้ม้าให้ได้ล่ะ ฉันเองก็จะเป็นหลานเขยที่ดีของม้ากับพ่อนายให้ได้
กว่าชั่วโมงต่อมาและแล้วสิ่งที่พิมพ์พิชชาคาดไว้ก็เป็นจริงเมื่อมีข่าวลือดังกระฉ่อนไปทั่วโรงพยาบาลแถมไวยิ่งกว่า4Gเพราะข่าวนี้เกิดขึ้นหลังมีข่าวพงศ์พยัคฆ์แต่งงานแล้วไม่ถึงสองชั่วโมงแถมรู้กันเร็วกว่าข่าวแรกเสียอีก“พี่เสือครับแย่แล้วล่ะ มีคนปล่อยข่าวว่าหมอฟ้าเป็นเมียน้อยพี่อ่ะ” รามินที่ขออนุญาตออกจากห้องประชุมไปเข้าห้องน้ำรีบบอกทันทีที่เปิดประตูเข้ามาภายในห้องที่กำลังประชุมเรื่องแผนการผ่าตัดของพิมพ์พิชชาอยู่“ใครเล่นบ้าอะไรเนี่ย” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยขึ้นสายตาเยือกเย็นจนสัมผัสได้ถึงความกรุ่นโกรธที่กำลังจะปะทุ ที่ผ่านมาตลอดสองปีเขาทำทุกอย่างไม่ให้กุมารแพทย์สาวเสียหายแต่ดูเหมือนคนที่สร้างข่าวลือต่าง ๆจะไม่ยอมหยุดคนโกรธจนแทบปะทุก้าวออกจากห้องประชุมทันทีด้วยอารมณ์ที่พร้อมปะทะ ทว่าก่อนที่ชายหนุ่มจะได้ไปปะทะกับใครเสียงเรียกของปัญจวัตรก็ดังขึ้นเสียก่อน “เสือ”“นายได้ข่าวรึยัง” ปัญจวัตรที่โมโหไม่แพ้กันและอาจจะมากกว่าพงศ์พยัคฆ์ถามทันทีที่พบหน้าเพื่อนพงศ์พยัคฆ์พยักหน้าเป็นคำตอบก่อนจะถามถึงสถานการณ์ในโรงพยาบาลเพรา
เป็นอีกครั้งที่แพรวารินทร์ต้องมานั่งรอโดยไร้วี่แววการปรากฎตัวของลูกค้าคนพิเศษ หญิงสาวยังคงนิ่งสงบแต่ก็มั่นดูเวลาเป็นระยะ...หวังว่าคราวนี้เธอจะไม่ต้องรอเก้ออีกนะดวงตาคู่หวานละสายตาจากนาฬิกาข้อมือก่อนจะลอบถอนใจโล่งเมื่อเห็นร่างสูงก้าวลงมาจากบันได...ในที่สุดก็มาสักที“ขอโทษนะครับคุณมัณฑนากร พอดีนอนดึกไปหน่อยเลยตื่นสาย” ทัศนะผู้บริหารหนุ่มเจ้าของตำแหน่งลูกค้าวีไอพีเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้ายิ้มแย้มชวนฝันหลังจากที่ตนปล่อยให้มัณฑนากรสาวนั่งรออยู่เกือบสามชั่วโมง แพรวารินทร์ควรให้อภัยกับคำขอโทษถ้าลูกค้าหนุ่มเอ่ยจากใจไม่ใช่ใบหน้ายิ้มแย้มไม่รู้สึกผิด‘ชักจะทนไม่ไหวแล้วแฮะ คนอะไรกวนประสาทเหลือเกิน’ แพรวารินทร์คิดในใจอย่างสุดทน“ไม่เป็นไรค่ะ งั้นเราก็เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า” แพรวารินทร์เอ่ยราวกับไม่ถือสาหาความ ใจจริงคือเธออยากจะออกไปจากบรรยากาศชวนโมโหนี่แล้วทัศนะยิ้มมุมปากก่อนจะเอ่ยในสิ่งที่ตรงข้ามกับสิ่งที่หญิงสาวต้องการ “
“สวัสดีครับคุณพิชชา อาการเป็นยังไงบ้างครับ” เสียงทรงเสน่ห์เอ่ยทักทายไถ่ถามอาการทำให้คนไข้วัยทำงานถึงกับใจละลายความจริงเธอไม่ได้ป่วยแต่แค่อยากจะเห็นหน้าหมอหนุ่มเท่านั้นนายแพทย์อัคนี อัครวิทย์ อายุรแพทย์หนุ่มสุดหล่อวัย25ปีขวัญใจสาวน้อยสาวใหญ่ในแถบนี้ยิ้มให้คนไข้อย่างเป็นมิตรแม้จะรู้ดีว่าสาวน้อยสาวใหญ่ทั้งหลายแค่อยากมาเห็นหน้าเขาเท่านั้นบ้างก็เอาของมาเยี่ยมเป็นประจำจนเป็นที่ชินตาของบุคลากรคนอื่นในโรงพยาบาล“วันนี้พิชชาจะเป็นอะไรดีเอ๋ย” อัคนีเอ่ยถามพร้อมยิ้มเอาใจอย่างน่ารักในสายตาเพื่อนหลายคนเขาเป็นคนกระล่อนและกวนประสาทสุดๆแต่สำหรับสาวน้อยสาวใหญ่ที่มาปลาบปลื้มเขากลับเป็นคนปากหวานและเอาใจเก่งเป็นอย่างมาก“วันนี้พิชชี่ปวดหัว ตัวร้อน ใจเต้นแรงมั๊กมากเลยค่ะหมอไฟขา” คนไข้สาวเอ่ยบอกทำท่าให้สมจริงจนหมอหนุ่มแอบขำ“แบบนี้คุณพิชชี่คงต้องมาหาหมอบ่อย ๆแล้วล่ะครับ หมอไฟว่าคุณพิชชี่เป็นโรครักหมอไฟแน่เลย” หมอหนุ่มเอ่ยหยอดพร้อมยิ้มแพรวพราว คนไข้สาวได้แต่เขินม้วนกับคำหยอดของหมอหนุ่ม&n
บ้านอัครวิทย์เพราะเกมพนันที่เคยพนันเดตแรกไว้กับฟ้ารดาที่ไร่พยัคฆ์ทำให้ปัญจวัตรต้องมาที่บ้านของฟ้ารดาในวันนี้หมอหนุ่มหายใจเข้าปอดเพื่อเรียกความมั่นใจ ครั้งนี้ไม่ใช่แค่ทำให้น้องชายฟ้ารดากลับมาบ้านเพื่อเดตแต่เพื่อเอาชนะใจพ่อแม่ของหญิงสาวด้วยและที่ปรึกษาหมายเลขหนึ่งในครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อนรักแต่เป็นผู้เป็นพ่อแทนจากข้อมูลที่ได้รับทำให้หมอหนุ่มมั่นใจเกือบ90%ว่าจะได้ใจของว่าที่แม่แฟนในอนาคตส่วนอีก10%คือพ่อและน้องชายที่เขาไม่มีความมั่นใจเลยว่าทั้งสองจะยอมให้เขาคบกับฟ้ารดา“เข้าไปข้างในกันคุณ” ฟ้ารดาเอ่ยบอกก่อนจะเดินนำเข้าไปในบ้านหมอหนุ่มเดินตามอย่างมั่นคงและมั่นใจทุกสรรพสิ่งในบ้านอัครวิทย์เหมือนจะหยุดเคลื่อนไหวทันทีเมื่อลูกสาวคนโตของบ้านเดินนำผู้ชายเข้ามาในตัวบ้านนายแพทย์หมออาศิระยืนมองชายหนุ่มรุ่นลูกอย่างไม่วางตาส่วนคุณนายฝนนภากลับมองอย่างตกใจไม่น้อยที่ลูกสาวคนเดียวพาชายหนุ่มที่หน้าคล้ายอดีตคนรักเข้ามาที่บ้านและแนะนำว่าเป็นแฟนหนุ่ม“สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่ ผมปัญจ์ครับ”ปัญจวัตรเอ่ยทักทายอย่างเ
มือหนาของพงศ์พยัคฆ์ยกขึ้นมาลูบไล้ไปตามใบหน้าเรียบของแพรวารินทร์ที่ยังหลับอยู่อย่างแสนรักก่อนจะยื่นหน้าไปจุมพิษที่หน้าผากมน แล้วเลื่อนลงมาที่หอมแก้มเนียนอย่างบางเบาเพื่อไม่ให้รบกวนคนที่ยังหลับอยู่ค่ำคืนที่ผ่านมาเขาเรียกร้องจากเธอครั้งแล้วครั้งเล่าจนเกือบรุ่งสางเธอควรได้พักผ่อนเพราะถูกตอหนวดแหลมๆที่เพิ่งขึ้นของพงศ์พยัคฆ์ทิ่มลงที่แก้มทำให้หญิงสาวรู้สึกตัวตื่น แพรวารินทร์ลืมตาขึ้นอย่างก่อนจะหลบสายตาอย่างขัดเขินกับความสัมพันธ์ที่เพิ่มขึ้นอีกระดับของเธอกับเขาเธอเป็นภรรยาของหมอหนุ่มทั้งทางนิตินัยและพฤตินัยแล้ว“อรุณสวัสดิ์ครับน้องแพร”พงศ์พยัคฆ์เอ่ยขึ้นก่อนจะจุมพิตลงที่ริมฝีปากบางก่อนจะถอนออกมายิ้มให้“อรุณสวัสดิ์ค่ะ พี่เสือ เริ่มมีหนวดขึ้นมาแล้วนะคะโกนออกดีกว่า เดี๋ยวน้องแพรโกนให้” แพรวารินทร์เอ่ยบอกหาเรื่องคุยแก้เขินจนมาสะดุดตรงไรหนวดเล็กๆบนใบหน้าของเขา“ก็ได้ครับ จริงสิคุณพีร์บอกว่าวันนี้นายนั้นต้องการเพิ่มอะไรเข้าไปในแบบให้ไปพบสิบเอ็ดโมงนะครับ” พงศ์พ
ผ้าม่านหนาเปิดออกก่อนที่ร่างบางจะเดินออกมาแพรวารินทร์อยู่ในชุดราตรีความยาวคุมเข่าสีฟ้าอ่อนลายลูกไม้ดูสวยงามใบหน้าถูกแต่งแต้มสวยงามเรือนผมถูกปล่อยปิดแผ่นหลังเนียนพงศ์พยัคฆ์ยืนมองภรรยาสาวดั่งต้องมนตร์หมอหนุ่มอยู่ในชุด เสื้อเชิ้ตสีขาวผูกเนคไทสีดำสวมทับด้วยเสื้อสูทสีเทาดำ กางเกงสแลคทุกองค์ประกอบดูหล่อเท่ห์สมาร์ท“เริด คู่สร้างคู่สมของแท้” แชมมี่เอ่ยขึ้น หลังจากดูผลงานการเลือกชุดของตน หลังจากสองสามีภรรยาเดินเที่ยวในห้างสรรพสินค้ากันจนเที่ยงทั้งสองก็เดินทางกลับไปทานราดหน้าทะเลของพิมพ์พิชชาก่อนจะเดินทางมาที่ห้องเสื้อของแชมมี่เพื่อเตรียมชุดสำหรับงานเลี้ยงรุ่นในช่วงเย็น หลังจากเดินเข้ามาในห้องเสื้อแชมมี่ก็ลากทั้งสองลองชุดต่าง ๆราวกับตุ๊กตาจนกระทั่งเวลาล่วงเลยมาเกือบ17.00น.เจ้าของห้องเสื้อชื่อดังก็ยังเลือกชุดให้ทั้งสองไม่ได้โดยที่เหตุผลของแชมมี่เอ่ยบอกคือเลือกไม่ถูกเพราะทั้งสองใส่ชุดไหนก็หล่อสวยไปหมด“ชุดนี้เริด เรียบสง่าและมีเสน่ห์ โอเคผ่านแล้ว” แชมมี่เอ่ยบอกพร้อมยิ้มปลื้มปริ่มกับความสง่าเหมาะสมของทั้งคู่“กว่าจะพอใจนายนะชัยจะห
“good morning ครับที่รักของพี่เสือ” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยขึ้นหลังจากที่แพรวารินทร์เดินออกมาจากห้องนอนหมอหนุ่มเดินเข้าไปกอดและจุ๊บแก้มเนียนเป็นอย่างแรก“ฉวยโอกาส ใครอนุญาตคะ” แพรวารินทร์แกล้งดุแต่พงศ์พยัคฆ์หาได้กลัวไม่“ไม่มีใครอนุญาตครับอนุญาตตัวเอง”“พอเลย ไปอาบน้ำแต่งตัวเถอะค่ะเราจะได้กลับเรือนแสนรักซะทีน้องแพรจะไปจัดการสถานหนักกับคนเจ้าแผนการ” แพรวารินทร์เอ่ยบอกแม้จะขะเขินกับคำว่าน้องแพรบ้างแต่เพราะหมอหนุ่มขอให้แทนแบบนี้เธอก็เลยขัดไม่ได้“หนูแพรครับ ยัยตัวแสบแค่อยากให้เราเข้าใจกันเท่านั้นแหละ”พงศ์พยัคฆ์แก้ตัวให้น้องสาวผู้แสนดี แต่ถูกแพรวารินทร์มองด้วยสายตาเอาเรื่องจนต้องหงอ“แล้วแต่หนูแพรจะจัดการเลยครับ พี่เสือไม่ยุ่ง” ‘ตัวใครตัวมันนะน้องรัก พี่เสือไม่ยุ่ง’ พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกหากแต่ประโยคท้ายเขากลับเอ่ยมันในใจส่งกระแสจิตไปบอกน้องสาว“ดีค่ะไม่ยุ่งน่ะดีแล้ว ไปอาบน้ำเถอะค่ะเดี๋ยวน้องแพรชงกาแฟกับปิ้งขนมปังไว้ให้”“K
“จากที่ไม่ชอบ ก็กลายเป็นใช่ กลายเป็นคำตอบของใจฉันความผูกพันเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นไม่ลดเลย ฉันรักเธอจัง...”เมื่อเสียงเพลงจบลงแพรวารินทร์ได้แต่เขินอายจนต้องวิ่งเข้าไปในห้องน้ำทั้งเขินทั้งเสียใจที่หมอหนุ่มยังคงนิ่งโดยไม่รู้เลยว่าคนที่คิดว่านิ่งนั้นแอบยิ้มและร้องไชโยในใจอยู่ถ้าไม่ติดที่ต้องเก๊กนิ่งนะเขาจะกระโดดเต้นแร้งเต้นกาเลยด้วยซ้ำ“สำเร็จ” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยเบาๆอย่างดีใจเมื่อแพรวารินทร์วิ่งเข้าไปในห้องน้ำ“สำเร็จแต่ยังไม่พอ ต้องบอกตรง ๆ” หมอหนุ่มเอ่ยบอกตัวเองและทำหน้านิ่งตัวตรงอีกครั้งด้านคนในห้องน้ำยืนมองตัวเองในกระจกอย่างเขินอายก่อนจะกรี๊ดลั่นแต่หมอหนุ่มก็ไม่มีทางได้ยินเพราะเป็นห้องเก็บเสียง ก่อนที่จะโทรศัพท์หาที่ปรึกษาตัวแสบอย่างพิมพ์พิชชาพร้อมเล่าทุกอย่างให้ฟัง“แก ฉันร้องเพลงบอกรักไปแล้วแต่พี่เสือยังนิ่งอีกเอาไงดีล่ะ”ด้านพิมพ์พิชชาอมยิ้มและกลั้นหัวเราะอย่างเต็มที่เธอไม่เชื่อว่าพี่ชายเธอยังนิ่งแค่ยัยเพื่อนรักไม่เห็นเท่านั้นแหละ“บอกรักผ่านเพลงอาจจะครุมเครือมั้งแก พี่เส
พระอาทิตย์ใกล้จะตกดินแล้วแต่คุณหมอหนุ่มยังไม่เลิกงานซึ่งนั้นก็หมายความว่าผู้ติดตามอย่างแพรวารินทร์ก็ยังไม่เลิกงานด้วยหญิงสาวมองญาติคนไข้ฉุกเฉินของพงศ์พยัคฆ์อย่างหงุดหงิดเธอพอจะรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นตกใจเสียใจที่ญาติเข้าโรงพยาบาลแต่มีสิทธิ์อะไรมากอดสามีเธอไว้แบบนั้นแถมยังเบียดหน้าอกหน้าใจเข้าหาเขาอีกนั้นสามีของเธอนะภรรยาเขานั่งอยู่นี่ไม่เห็นรึไง‘ชิ แกนั่งอยู่นี่ทั้งคน นางยังเบียดนมเข้าแนบอกพี่เสืออีกยัยนมแตงโม’ แพรวารินทร์ได้แต่แยกเขี้ยวใส่พร้อมก่นด่าในใจตอนนี้เข้าใจความรู้สึกของคนหึงแล้วโวยวายไม่ได้แล้วว่าเป็นยังไงและพอเข้าใจความรู้สึกของพงศ์พยัคฆ์ในวันนั้นแล้วด้วย แพรวารินทร์ได้แต่หงุดหงิดก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องทำงานของพงศ์พยัคฆ์เพราะทนภาพบาดตาไม่ไหวอยากจะกระชากออกจากกันให้รู้แล้วรู้รอด“พิมพ์พิชชาส่งคุณมาใช่มั้ย” หมอหนุ่มเอ่ยถามเมื่อแพรวารินทร์กลับห้องทำงานไปแล้ว เขามั่นใจว่าผู้หญิงที่พยายามเอาหน้าอกมาเบียดเขาเนี่ยไม่ใช่ญาติของคนไข้แน่นอนและจะเป็นใครไปไม่ได้ที่จะส่งมาถ้าไม่ใช่น้องสาวเขา“รู้ด้วย ฉลาดจังหมอขา&r
เดอะ ซัน คอนโดมิเนี่ยมคนที่ไม่ออกจากเรือนแสนรักมาโดยไม่รู้จุดหมายปลายทางเลือกจะมายังคอนโดมิเนียมแห่งนี้ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลและเป็นที่พักในช่วงที่เขาไปทำงานที่นิติเวชร่างสูงเปิดประตูเข้ามาในห้องก่อนจะเดินเข้ามายังห้องนอนแล้วทรุดลงนั่งบนเตียงอย่างหมดแรง เขาน้อยใจที่เธอว่าเขาไม่มีเหตุผลและมีสิทธิ์อะไรไปทำแบบนั้นและเขาหึงที่เธออยู่ในอ้อมกอดของชายคนอื่นและที่เป็นแบบนี้ไม่ใช่ความผิดของแพรวารินทร์แต่เป็นเพราะเขารักเธอมากเกินไปแถมเธอยังไม่มีใจให้กันอีกด้วย พงศ์พยัคฆ์ล้มลงนอนก่อนจะฝืนหลับตาลงอย่างยากลำบาก“พี่เสือคิดถึงหนูแพรนะครับ ขอแค่คิดถึงแต่จะไม่ไปกวนใจอีกแล้ว”2วันผ่านไปเรือนแสนรักเป็นเวลาสองวันแล้วหลังจากพงศ์พยัคฆ์ขับรถออกไปและหมอหนุ่มก็ไม่ได้กลับมาอีกตลอดระยะเวลาสองวันที่ผ่านมาช่างดูหดหู่ในความรู้สึกของแพรวารินทร์และทุกคนในบ้านที่ต่างเฝ้ารอการกลับมาของหมอหนุ่มโดยเฉพาะแพรวารินทร์ที่มีอาการเหม่อลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัวจนต้องขอลางานอีกหนึ่งอาทิตย์“แพรจะไปตามพี่เสือกลับมา พี่เสือ
ร่างสูงสมบูรณ์แบบของพงศ์พยัคฆ์หันมองไปยังโต๊ะที่มีคนคุ้นเคยในหัวใจของเขานั่งอยู่อย่างหงุดหงิดและพยายามควบคุมอารมณ์ไว้ไม่เดินเข้าไปกระชากผู้ชายคนนั้นขึ้นมาต่อยเพราะรู้ดีว่าตนทำผิดไว้มากและถ้าเดินเข้าไปต่อยลูกค้าของเธออีกมีหวังโอกาสของเขาคงหมดลงเป็นแน่แม้ว่าคำว่าสามีจะมีสิทธิ์ทำแบบนั้นแต่เขาไม่ใช่สามีที่เธอรักและยังอยู่ในสถานะที่รอการพิจารณาว่าจะรักหรือไม่เท่านั้นหมอหนุ่มจึงหันกลับมาสนใจกลุ่มเพื่อนร่วมงานตรงหน้าที่ชวนเขามาทานอาหารเที่ยงแทน ทีมแพทย์ที่สนิทของชายหนุ่มซึ่งนำทีมโดยรามินเอ่ยชวนเขามาทานอาหารเที่ยงที่นี่พงศ์พยัคฆ์ที่ไม่อยากเป็นกขค.ของเพื่อนรักกับกุมารแพทย์สาวจึงไม่คิดปฏิเสธการร่วมโต๊ะในครั้งนี้แต่เมื่อมาถึงที่นั่งของเขาดันบังเอิญมองไปเห็นอีกมุมนึงของร้านซึ่งเป็นที่ที่เจ้าของหัวใจของเขานั่งอยู่นั้นเอง“พี่เสือเป็นไรเปล่า ผมว่าพี่ทำหน้าดูน่ากลัวไงไม่รู้”รามินเอ่ยถามหลังจากเห็นรุ่นพี่หนุ่มทำหร้าเหมือนจะหักคอคนได้“เปล่าไม่มีอะไร ว่าแต่ที่มากันครบทีมแบบนี้เนื่องในโอกาสอะไร” พงศ์พยัคฆ์ที่ไม่อยากเป็นกอขอคอของเพื่อนรักเอ่ย