ทุกคนต่างสงสัย ใช่สิ อะไรมันจะบังเอิญได้ขนาดนี้?!! มีธุระกันหมดเลยเหรอ? เฉินเหวินเอียนสังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ ถ้าเมื่อกี้เธอหูฝาด แล้วตอนนี้ล่ะ? เธอกวาดสายตาไปมาระหว่างเจียงเหยาจิงและซ่งหยุนหยุน เธอพยายามสังเกต “หมอซ่งมีธุระอะไรเหรอ?” เธอถามหยั่งเชิง ซ่งหยุนหยุนอยากบอกเฉินเหวินเหยียนไปตรง ๆ ว่าเธอคือภรรยาของเจียงเหยาจิง จากนั้นก็ให้เจียงเหยาจิงอธิบายรายละเอียดให้เฉินเหวินเหยียนรู้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว เธอกลับไม่กล้าทำ เธอมีปัญหากับผู้ชายคนนี้ไม่ได้ เธอเสียโอกาสในการไปโรงพยาบาลกลางแล้วเรื่องหนึ่ง เธอไม่อยากตกงาน เธอทำได้แต่ก้มหัวและทำท่าเหมือนนกกระทา “ปู่เรียกให้ฉันกลับไป เพราะน่าจะมีเรื่องด่วน ฉันไม่ไปไม่ได้ แต่ก็ไม่คิดว่าคุณเจียงจะมีธุระเหมือนกัน บังเอิญจังเลยนะคะ ฮ่า ฮ่า” เธอหัวเราะแห้ง ๆ เธออยากจะปั่นเขาเล่น แต่เจียงเหยาจิงรู้ทัน “บังเอิญจังเลยครับ ปู่ของผมก็โทรมาเหมือนกัน แล้วคุณปู่ของคุณอยู่ที่ไหนเหรอครับ? ให้ผมไปส่งคุณระหว่างทางไหม?” ซ่งหยุนหยุนแทบจะฝืนยิ้มไม่ไหว ถ้าไม่ใช่เพราะทักษะการควบคุมอารมณ์ที่ดีของเธอ เธอคงจะปาถ้วยชาที่อยู่บนโต๊ะใส่หน้าเขา
ซ่งหยุนหยุนสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียง ขณะที่เธอหันหลังกลับไปมอง เธอเผลอดันกล่องใบนั้นตกลงบนพื้น! เจียงเหยาจิงจ้องมองเธอด้วยสายตาโกรธเคือง สีหน้าของเขาดูน่ากลัวมาก! เธอรีบอธิบาย “ฉัน...ฉันไม่ได้ตั้งใจ...” ขณะที่พูด เธอก็นั่งยอง ๆ และพยายามเอื้อมมือหยิบมันขึ้นมา ขณะที่นิ้วของเธอกำลังจะแตะกล่อง ข้อมือของเธอกลับถูกเขาคว้าไว้อย่างแรงจนกระดูกแทบจะหัก เจ็บ! เธอเจ็บจนเหงื่อซึม และรู้สึกเหมือนมือกำลังจะหัก เจียงเหยาจิงตาแดงก่ำด้วยความโมโห “เอามือสกปรกของเธอออกไป!” เขาพูดพลางพลักเธอออกด้วยกำลังทั้งหมดของเขา ซ่งหยุนหยุนกระเด็นไปข้างหลังหัวโขกมุมตู้ ความเจ็บปวดบีบหัวใจทำให้เธอชาไปชั่วขณะ สมองดังตุบ ๆ เธอรู้สึกได้ว่ามีของเหลวอุ่น ๆ ไหลลงมา มือเรียวเอื้อมไปหลังคอ สัมผัสได้ถึงบางอย่างเหนียว ๆ ไม่น่าแปลกใจ เธอมีเลือดออกแต่ไม่มาก เธอเงยหน้าขึ้นเห็นเจียงเหยาจิงหยิบกล่องขึ้นมาอย่างระมัดระวังผ่านเส้นผมที่ยุ่งเหยิง แค่เห็นท่าทางการเคลื่อนไหวของเขาก็สามารถรับรู้ได้ว่าของสิ่งความสำคัญกับเขามาก เจียงเหยาจิงเปิดกล่องเพื่อตรวจสอบของในนั้นอย่างระมัดระวัง เพราะกลัวว่าสิ่งที่อยู่ข้างในอาจจะเสียหา
ผู้เฒ่าเจียงคิดไว้แล้วว่าสักวันมันต้องเป็นแบบนี้ ดูเหมือนว่าตอนนี้พ่อบ้านเฉียนจะเข้าใจแล้ว “เรื่องที่ท่านขอให้ผมหาหัวใจ...” ก่อนที่เขาจะพูดจบ ซ่งหยุนหยุนก็ออกมาพร้อมกับชุดปฐมพยาบาล พ่อบ้านเฉียนรีบหุบปากทันที คุณเจียงยืนขึ้นจากโซฟาพร้อมไม้เท้าแล้วพูดกับซ่งหยุนหยุนว่า “ตามฉันมา” หลังจากพูดจบ ผู้เฒ่าเจียงก็เดินนำไปที่ห้องสมุด ซ่งหยุนหยุนวางกล่องยาไว้บนโต๊ะแล้วเดินเข้าไป ผู้เฒ่าเจียงนั่งอยู่บนเก้าอี้หน้าโต๊ะด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย “พ่อแม่ของเหยาจิงเสียชีวิตเร็ว ฉันจึงเลี้ยงดูเขาจนเติบโต ตอนเรียน เขาก็พักหอในมหาวิทยาลัย หลังจากเรียนจบ เขาย้ายออกจากบ้านเก่า และเข้ามาบริหารบริษัท เขางานยุ่งมากขึ้นเรื่อย ๆ และแทบไม่กลับมาอีกเลย” เสียงของผู้เฒ่าเจียงเบามาก พ่อของเจียงเหยาจิงเป็นลูกชายคนโตของเขา ความเจ็บปวดที่คนผมขาวมอบให้คนผมดำจะยังคงเศร้าไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีก็ตาม มีเหตุผลอยู่ว่าทำไมเจียงเหยาจิงถึงไม่อยากกลับมา เขาเดาได้ว่าเจียงเหยาจิงจะจัดการกับครอบครัวของลูกคนที่สองอย่างไรหลังจากที่ตนจากโลกนี้ไป ความอดทนของเจียงเหยาจิงจนถึงตอนนี้ดูได้จากใบหน้าของเขา เขาต้องการให้เจียงเหยาจ
“ผู้อำนวยการ ทำไมคุณถึงถามแบบนั้นคะ?” ซ่งหยุนหยุนมีลางสังหรณ์ไม่ดี “คุณน่าจะรู้ว่าการถูกแบนจากแวดวงวิชาชีพหมายความว่าอย่างไร…” ผู้อำนวยการลังเลที่จะพูด “ผมเกรงว่าอาชีพหมอของคุณจะพัง ไม่มีโรงพยาบาลไหนกล้าจ้างคุณอีก” ซ่งหยุนหยุนตกใจกับเรื่องกะทันหันนี้มาก เธอกำมือและคลายออกพลางพูดซ้ำหลายครั้ง “ผู้อำนวยการ ฉันรักงานนี้มาก ฉันเลิกทำงานนี้ไม่ได้ค่ะ” “ถึงแม้ผมอยากช่วย แต่ผมก็ไม่มีอำนาจพอ” ผู้อำนวยการรู้สึกเสียใจ เขาตระหนักและชื่นชมทัศนคติ และทักษะทางวิชาชีพของซ่งหยุนหยุนมาก แต่เขาไม่มีอำนาจปกป้องเธอ “ถ้าคุณยังอยากทำงานนี้ คุณต้องไปพบเจียงเหยาจิง ถ้าคุณทำให้เขาขุ่นเคืองก็ขอโทษเขาเถอะ ดีกว่าโดนไล่ออก” ผู้อำนวยการเตือนด้วยความหวังดี “ฉัน...” เธอลังเลที่จะพูด ความอคติของเจียงเหยาจิงที่มีต่อเธอสามารถลบล้างได้ด้วยคำขอโทษอย่างเดียวเหรอ? เธอรู้ดีว่าเจียงเหยาจิงทำกับเธอแบบนี้ ไม่เพียงเพราะเธอเกือบจะทำลายของมีค่าของเขาเมื่อคืนนี้ แต่ยังเป็นเพราะเขาไม่พอใจกับความจริงที่ว่า เธอกลายเป็นภรรยาของเขา นี่อาจเป็นการแก้แค้นเธอเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ และบังคับให้เธอคิดจะหย่า เธอสูดล
ฮั่วซุนก็ไม่ค่อยมั่นใจเหมือนกัน เขาเองก็แปลกใจที่เห็นทั้งสองคุยและหัวเราะไปด้วยขณะกินข้าวด้วยกัน ถ้าเขาไม่บังเอิญเดินผ่านหน้าร้าน เขาคงไม่สังเกตเห็น “ลองโทรถามหมอเสิ่นดูไหมครับ?” ฮั่วซุนแนะนำ เจียงเหยาจิงตอบตกลงในลำคอ ฮั่วซุนไปโทรศัพท์ กว่ายี่สิบนาทีผ่านไป เสิ่นจือเฉียนก็มาถึงบริษัท ทันทีที่เขาเข้าไปในห้อง เสิ่นจือเฉียนก็พูดว่า “ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณพอดี...” “คุณรู้จักซ่งหยุนหยุนเหรอ?” ก่อนที่เสิ่นจือเฉียนจะพูดจบ เจียงเหยาจิงก็พูดแทรก เขาพยักหน้างง ๆ “รู้จักครับ เธอเป็นรุ่นน้องของผม และเป็นคนที่รักษาอาการบาดเจ็บของคุณเมื่อครั้งที่แล้ว” เจียงเหยาจิงเอนหลังบนโซฟาหนังสีน้ำตาล ดวงตาของเขามืดลง ขนตายาวและหนาสั่น วันนั้นคือเธอเหรอ? เรื่องนี้ทำให้เขาประหลาดใจ “ใช่ครับ” เสิ่นจือเฉียนเดินเข้ามาและนั่งลง “เหยาจิง คุณช่วยทำดีกับเธอมากกว่านี้หน่อยได้ไหม?” เจียงเหยาจิงยกคิ้วและเอนหลังในท่าสบาย ๆ คนที่รู้จักเขารู้ดีว่า ยิ่งเขาผ่อนคลายและเป็นกันเองมากเท่าไร เขาก็ยิ่งมีความคิดมากขึ้นเท่านั้น เสิ่นจือเฉียนกับซ่งหยุนหยุนสนิทกันมากแค่ไหน? เขารู้สึกไม่หงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก เ
เธอคิดมาดีแล้ว แต่เมื่อคิดว่าต้องเผชิญกับเขา ในใจกลับรู้สึกท้อเล็กน้อย เรื่องร้าย ๆ ที่เขาทำกับเธอเมื่อวานยังปรากฏชัดเจนอยู่ในใจ! เธอหายใจเข้าลึก ๆ และรวบรวมความกล้าเดินเข้าไปในบ้าน เมื่อเปิดประตูเข้าไป เธอก็เห็นป้าหวู่ เธอยิ้มแล้วถาม “เลิกงานแล้วเหรอคะ?” ซ่งหยุนหยุนตอบพลางชายตามองเข้าไปข้างใน เห็นเพียงร่างคนนั่งอยู่บนโซฟา แต่ไม่เห็นหน้า ป้าหวู่กล่าวว่า “คุณผู้ชายมาค่ะ” ซ่งหยุนหยุนเปลี่ยนรองเท้าแล้วเดินเข้าไป เธอพยายามยิ้มและกล่าวทักทาย “คุณเจียง” เจียงเหยาจิงวางนิตยสารในมือลง แล้วเงยหน้าขึ้นมองเธอ น้ำเสียงเยาะเย้ย “คุณเจียง?” ผู้หญิงคนนี้นอกจากจะไม่ยอมหย่ากับเขาแล้ว ยังทำตัวห่างเหินอีก? คุณกำลังเล่นเกมกลยุทธ์แสร้งปล่อยเพื่อจับอยู่เหรอ? ซ่งหยุนหยุนขอโทษแล้วพลางพูดจริงจังอีกครั้ง “ฉันไม่ได้ตั้งใจจะแตะต้องของของคุณ ฉันขอโทษค่ะ” “คุณคงไม่คิดหรอกว่า คำขอโทษของคุณจะทำให้ผมยกโทษให้?” เจียงเหยาจิงเอนตัวไปข้างหลังในท่าสบาย ๆ พลางไขว้ขาอย่างสง่างาม เมื่อเขาเห็นผู้หญิงคนนี้ถ่อมตัว เขาก็รู้สึกมีความสุขขึ้นมา เขาแค่ชอบเห็นท่าทางที่เธอถ่อมตัวตอนอยู่ต่อหน้าเขา การสยบเ
ซ่งหยุนหยุนฝันว่าถูกงูตัวใหญ่สองตัวรัดจนหายใจไม่ออก ตอนที่เธอคิดว่าตัวเองกำลังจะอากาศหายใจ จู่ ๆ ก็มีแสงสว่างปรากฏขึ้น เธอรีบคว้า... เมื่อเธอคิดว่าจะได้รับการช่วยชีวิต เปลือกตาพลันเบิกกว้างทันที... ทันทีที่ลืมตา เธอเห็นชายร่างสูงเสื้อผ้าหลุดรุ่ยยืนอยู่ตรงหน้า เขาดูน่ากลัวราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ จู่ ๆ เธอก็ลุกขึ้นและซุกตัวอยู่ที่มุมโซฟาพลางพูดด้วยน้ำเสียงหวาดผวา “คุณ คุณกำลังจะทำอะไร?” เสียงของเธอแหบแห้งราวกับเพิ่งตื่นนอน ผสมกับสั่นเทาเล็กน้อย เจียงเหยาจิงหัวเราะเยาะ เห็น ๆ อยู่ว่าเธอจงใจกระชากชุดนอนของเขา แต่กลับแสร้งทำเป็นกลัว? “คุณไม่ได้ต้องการผู้ชายหรอกเหรอ ถึงได้จงใจแกล้งหลับแล้วลงมือกับผมแบบนี้?” ซ่งหยุนหยุนหายใจไม่ออก นิ้วเรียวค่อย ๆ งอ สายตาเขม็งพลางจ้องไปที่เขา “ฉันไม่ได้ทำ!” เจียงเหยาจิงไม่เชื่อ “เหรอ?” เขาเดินลงมาโดยไม่บอกกล่าว เขารุกเข้ามาประชิด ลมหายใจเย็นยะเยือกเต็มไปด้วยความกดดัน เธอยื่นมือออกไปกั้นเขาทันที มืออันอ่อนนุ่มของเธอแตะลงบนหน้าอกของเจียงเหยาจิง ความรู้สึกที่สัมผัสบนผิวหนังโดยไม่ทันตั้งตัวทำให้เขาเกร็งไปทั่วทั้งร่าง สายตาแหลมคมค่อย ๆ ล
เมื่อคืนเจียงเหยาจิงไม่ได้นอนในห้องที่เธอนอน ในห้องเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่มีอะไรถูกแตะต้อง เธอเดินเข้าไปอาบน้ำ แต่งตัวแล้วออกไปโรงพยาบาล ทันทีที่ไปถึงก็พบว่าผู้อำนวยการจัดแจงงานของเธอให้คนอื่นแล้ว ไม่มีที่สำหรับเธอแล้ว เธอเดินกลับออกมาด้วยความสิ้นหวัง เมื่อออกจากโรงพยาบาล เธอยืนอยู่บนขั้นบันได รู้อยู่แก่ใจว่าตัวเองไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว ตกดึก เธอไปที่หลานเฉียว ขณะที่เธออยู่หน้าประตูและกำลังจะเดินเข้าไป เธอก็เห็นเฉินเหวินเหยียน เฉินเหวินเหยียนมาที่นี่ได้อย่างไร? เมื่อนึกถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเจียงเหยาจิง ก็ไม่น่าแปลกใจ เธอแอบเดินตามเฉินเหวินเหยียนไปติด ๆ เธอเห็นเฉินเหวินเหยียนเดินเข้าไปในห้องส่วนตัวห้องหนึ่ง แต่กลับไม่มีเจียงเหยาจิงอยู่ข้างใน แต่กลับเป็นลูกของเศรษฐีที่ตามจีบเฉินเหวินเหยียนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย แม้ว่าเขาจะร่ำรวย แต่ก็ไม่ได้หน้าตาดีนัก ดังนั้นเฉินเหวินเหยียนจึงดูถูกพวกเขาอยู่เสมอ เฉินเหวินเหยียนไปเจอเขาได้อย่างไร? ความอยากรู้อยากเห็นทำให้เธอต้องการหาคำตอบ เธอค่อย ๆ ย่องไปข้างหน้าและมองผ่านรอยแยกที่ประตู เธอเห็นลูกเศรษฐีกำลังโอบกอ