หลายวันผ่านไป
@โชว์รูมรถหรูภาคิน
ร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงสแล็คสีดำเดินเข้ามาในโชว์รูมรถหรูพร้อมกับผู้ช่วยอีกหนึ่งคนเดินตามหลัง ก่อนเท้าใหญ่จะหยุดชะงักเมื่อสายตาสะดุดเข้ากับคู่หนุ่มสาวที่กำลังเดินดูรถในโชว์รูม "ไอวา"
ดวงตาคมกริบจับจ้องผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนเก่าของเขาที่กำลังใช้มารยาหญิงออดอ้อนผู้ชายที่ควงมาด้วยให้ซื้อรถให้อย่างนึกสมเพชคงเป็นเหยื่อของเธอสินะ
"หึ" เสียงเค้นหัวเราะดังกระหึ่มในลำคอหนาอย่างเย้ยหยันก่อนดวงตาคมกริบจะละออกจากร่างบางแล้วก้าวเท้าเดินขึ้นไปยังห้องทำงานบนชั้นสอง
"พรุ่งนี้ช่วยเชิญผู้หญิงคนเมื่อกี้มาเจอฉันหน่อยรู้ใช่ไหมว่าต้องทำยังไง" ร่างสูงเดินเข้ามานั่งลงที่โต๊ะทำงานแล้วออกคำสั่งกับผู้ช่วยคนสนิทจากนั้นก็หยิบแฟ้มเอกสารบนโต๊ะมาเปิดดู
เขาบนั่งจัดการเอกสารที่กองพะเนินอยู่บนโต๊ะจนเสร็จจึงออกจากโชว์รูมตรงกลับคอนโดวันนี้เขาเลือกจะพักคอนโดเพราะมีนัดกับเพื่อนตอนค่ำซึ่งสะดวกกว่ากลับไปคฤหาสน์
@SS PUB
ภายในห้องวีไอพีของผับเผยให้เห็นหนุ่มๆ หน้าตาหล่อเหลาสามคนกำลังดื่มพูดคุยสังสรรค์กันอย่างสนุกหนึ่งในนั้นก็คือภาคิน
"ไอ้ภาคินเมื่อวานกูเจอไอวาแฟนเก่ามึงด้วยวะ" เสียงของเจมส์ทำให้ภาคินละสายตาจากหน้าจอมือถือเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียงด้วยแววตาราบเรียบ "แล้วยังไง"
"บอกให้รู้ไงเผื่อมึงอยากเอาคืน"
"กูเอาคืนอยู่แล้ว" เสียงทุ้มเปล่งออกจากริมฝีปากหนาอย่างเยือกเย็นจนสัมผัสได้ถึงความโกรธแค้นของคนพูด ก่อนมือหนาจะยกน้ำสีอำพันในแก้วขึ้นกระดกรวดเดียวจนหมด
"ไอ้เจมส์มึงนั่งเงียบๆ ก็ไม่มีใครว่าอะไรนะ" เจ้านายเพื่อนอีกคนในกลุ่มหันไปเอ็ดเจมส์อย่างไม่ชอบใจที่เจมส์ยุยงให้ภาคินแก้แค้น
"ผู้หญิงแบบนั้นต้องสั่งสอนให้รู้สำนึกจะได้ไม่ไปหลอกใครอีก มึงจำไม่ได้เหรอว่าภาคินเกือบจะเสียคนก็เพราะเธอ" เจมส์ตอกกลับอย่างไม่สบอารมณ์เขายังจำได้ไม่ลืมว่าวันที่ภาคินรู้ความจริงและถูกผู้หญิงคนนั้นทิ้งไปเพื่อนชายมีสภาพยังไง
ภาคินร้องไห้ฟูมฟายอยู่เป็นเดือนขังตัวเองอยู่แต่ในห้องดื่มเหล้าแทนน้ำเปล่าเลยก็ว่าได้เกือบจะเรียนไม่จบด้วยซ้ำโชคดีที่พ่อของเขามีเส้นสายทำให้ทุกอย่างลุล่วงไปได้ด้วยดี พอนึกถึงเรื่องนี้เขาเองก็โกรธแค้นแทนเพื่อนชายไม่น้อย
"กูรู้แต่แก้แค้นไปจะมีประโยชน์อะไรใจเราจะเป็นทุกข์เปล่าๆ" เจ้านายเอ่ยให้เพื่อนทั้งสองได้คิดแต่ดูเหมือนคำพูดของเขาจะไม่เข้าหูเพื่อนทั้งสองเสียเลย
ภาคินนั่งกระดกเหล้าเข้าปากฟังเพื่อนทั้งสองถกเถียงกันเงียบๆ ไม่ออกความคิดเห็นใดๆ เพราะยังไงเขาก็จะเอาคืนหญิงสาวแน่นอน
"กูไปห้องน้ำก่อน" เสียงทุ้มเปล่งออกจากริมฝีปากหนาอีกครั้งหลังจากที่นั่งดื่มเหล้าเงียบๆ มานาน สิ้นเสียงบอกกล่าวร่างสูงก็หยัดกายลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปจากห้อง เท้าใหญ่ที่กำลังเดินตรงไปยังห้องน้ำหยุดชะงักฉับพลันเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นแฟนเก่ากำลังนั่งดื่มอยู่กับชายหนุ่มหน้าตาดีแต่ไม่ใช่คนที่เธอควงไปโชว์รูมเมื่อตอนเที่ยง
"กลางวันควงอีกคนกลางคืนควงอีกเธอนี่มันร่านได้ใจจริงๆ ไอวา" ภาคินส่ายหน้าอย่างนึกสมเพชก่อนก้าวเท้าเดินต่อหลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จก็เดินออกมาซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่เอวาเดินออกมาจากโต๊ะที่สาวฝาแฝดนั่งอยู่หลังจากเอาของให้พี่สาวเรียบร้อยแล้วทำให้เจอกับชายหนุ่มจังๆ
"คุณ!" ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจไม่คิดว่าจะได้เจอเขาอีกเมื่อได้สติก็รีบส่าวเท้าเดินหนีด้วยความเร็วกลัวว่าเขาจะหาเรื่องเหมือนวันนั้นเพราะคิดว่าเธอเป็นพี่สาวฝาแฝด ทว่าการกระทำของเธอยิ่งทำให้อีกคนคิดว่าเธอกลัวความผิดที่ได้ทำไว้เลยรีบหนี
5 ปีต่อมาวันเวลาหมุนเวียนดำเนินไปเรื่อย ๆ นี่ก็ผ่านมาห้าปีแล้วที่เอวากับภาคินได้สร้างครอบครัวด้วยกัน ทั้งสองคนได้ตกลงแต่งงานจดทะเบียนสมรสกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อสามปีก่อนมีลูกเป็นโซ่ผูกใจด้วยกันสามคนก็คืออลัน อลินดา อคิน และยังมีบุตรสาวบุตรธรรมอีกหนึ่งคนชื่อพะพายอายุรุ่นราวคราวเดียวกับอคินบุตรชายคนสุดท้อง"มามี๊ แด๊ดดี๊พี่อลันแกล้งพะพายอีกแล้วครับ" เสียงของอคินเด็กน้อยวัยสี่ขวบเศษ ๆ หน้าตาหล่อเหลาตั้งแต่เด็กวิ่งเข้ามาฟ้องบิดากับมารดาที่นั่งอยู่ในบ้านเสียงดั่งลั่น ภาคินกับเอวาที่กำลังนั่งคุยกันถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนลุกเดินตามบุตรชายคนเล็กออกไปยังลานหน้าบ้าน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ลูกชายคนโตอย่างอลันทะเลาะกับลูกบุตรธรรมแต่มันเกิดขึ้นตลอดตั้งแต่พวกเขารับพะพายเด็กกำพร้ามาเลี้ยงดู "พะพาย! ยัยตัวแสบกล้าทำฉันเลือดออกเหรอห๊ะ""พะพายไม่ได้ตั้งใจนะ ก็พี่อลันแกล้งพะพายก่อน""ไม่ต้องมาเรียกฉันว่าพี่ ฉันไม่ใช่พี่เธอ" เสียงของอลันกับพะพายที่กำลังทะเลาะกันดังแว่วมาทำให้ภาคินต้องรีบเดินเข้าไปห้ามศึก "ทะเลาะอะไรกันอลัน พะพาย" อลันกับพะพายเงียบปากลงทันทีมองหน้าผู้เป็นบิดาตาปริบ ๆ ภาคิน
วันต่อมา"แด๊ดดี๊ มามี๊ๆ" เสียงร้องตะโกนของสองแฝดที่ดังอยู่หน้าห้องปลุกให้คนเป็นพ่อแม่อย่างเอวากับภาคินที่กำลังนอนกอดกันอยู่ภายในห้องรู้สึกตัวตื่น"คุณนอนต่อเถอะผมไปเปิดประตูให้ลูกเอง" ภาคินยกมือขึ้นรั้งไหล่เมียสาวที่กำลังจะลุกให้นอนลงเหมือนเดิมเพราะอยากให้เธอพักผ่อนเมื่อคืนเขาเล่นต่อแขนต่อขาให้ลูกจนเธอแทบหมดแรง ก่อนเขาจะลุกลงจากเตียงเดินไปเปิดประตูให้ลูกแทน"กู๊ดมอร์นิ่งค่ะแด๊ดดี๊" อลินดาเอ่ยทักทายเสียงใสพร้อมฉีกยิ้มจนตายีทันทีที่บิดาเปิดประตูออกมา"มอร์นิ่งคิดส์ครับคนสวย" ภาคินย่อตัวลงหอมแก้มซ้ายแก้มขวาของบุตรสาวฟอดใหญ่แล้วหอมแก้มบุตรชายต่อ "มอร์นิ่งคิดส์ครับคนหล่อ""มอร์นิ่งครับแด๊ดดี๊" อลันยิ้มตอบบิดาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มจากนั้นก็พากันเดินเข้าไปในห้อง"ทำไมไม่นอนต่อ" ใบหน้าหล่อเหลาเลิ่กคิ้วขึ้นถามเมื่อเห็นว่าร่างบางนั่งพิงหัวเตียงอยู่"นอนไม่หลับแล้ว" เอวาระบายยิ้มตอบชายหนุ่มแล้วหันไปถามไถ่สองแฝดต่อ "เมื่อคืนนอนกับคุณปู่ คุณย่าเป็นไงบ้างคะ""สบายมากครับ สบายมากค่ะ" สองแฝดตอบเสียงเจื้อยแจ้วก่อนอลินดาจะกระโดดขึ้นเตียงไปนั่งทับหน้าขามารดาที่นั่งยืดขายาวเหยียด การกระทำของบุตรสาวสร้างความ
"ว๊าย!""ภาคินปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ" เอวาร้องท้วงเสียงดังลั่นเมื่อจู่ ๆ ชายหนุ่มก็เดินอ้อมมาช้อนตัวเธอขึ้นอุ้มในท่าเจ้าสาวขณะที่เธอกำลังลงจากรถหลังจากรถมาจอดลงหน้าบ้านวิโรจน์อัครโชติแล้ว"ปล่อยแน่...แต่หลังจากต่อแขนต่อขาให้ลูกแล้วนะ" ภาคินตอบหน้าระรื่นไม่ได้สนใจเสียงโวยวายของคนในวงแขนสักนิดอุ้มเธอเดินดุ้ม ๆ เข้าบ้าน "ฉันท้องอยู่นะ คุณคงจะทำอย่างที่พูดจริง ๆ ไม่ได้" คนฟังถึงกับอ้าปากเหวอเมื่อได้ยินคำพูดจากริมฝีปากหนาทำได้เพียงส่งเสียงร้องท้วงไม่กล้าดิ้นหรือขัดขืนอะไรยกมือขึ้นคล้องคอร่างสูงไว้แน่นเพราะกลัวตกตอนนี้เธอไม่ได้ตัวคนเดียวแล้วร่างบางถูกภาคินอุ้มมาวางบนเตียงอย่างแผ่วเบาก่อนเขาจะตามขึ้นไปคร่อมเธอเอาไว้จับจ้องใบหน้าคมที่ห่างกันเพียงคืบด้วยแววตาหวานเยิ้ม "ผมรักคุณนะ"เอวาระบายยิ้มหวานให้คนด้านบนมองสบแววตาหวานเยิ้มด้วยแววตาอ่อนโยนยกมือขึ้นประคองใบหน้าหล่อเหลาพร้อมเอื้อนเอ่ยความรู้สึกในใจออกมา "ตอนนี้ฉันยังไม่รู้หรอกว่าตัวเองรักคุณแล้วหรือเปล่า แต่ฉันมีความสุขและรู้สึกอบอุ่นที่มีคุณอยู่ใกล้ ๆ ฉันเชื่อว่าสักวันคุณจะทำให้ฉันกล้าพูดได้เต็มปากเต็มคำว่าฉันรักคุณ ฉันเปิดโอกาสให้คุณได้ทำ
วันเวลาหมุนเวียนมาจนถึงวันงานประมูลเครื่องเพชร รถลีมูซีนคันหรูที่มีสองหนุ่มสาวนั่งอยู่เบาะหลังเคลื่อนตัวมาจอดลงยังหน้าโรงแรมชื่อดังใจกลางเมืองกรุงซึ่งเป็นสถานที่จัดงานประมูลเครื่องเพชรร่างสูงในชุดสูทสีเทาเข้มเข้ารูปเปิดประตูลงจากรถด้วยท่าทางสง่าผ่าเผยก่อนเดินอ้อมไปเปิดประตูรถอีกฝั่ง"ขอบคุณค่ะ" เอวาในชุดเดรสเปิดไหล่แขนพองสีเทาอ่อนยาวเสมอเข่าผ่าข้างเล็กน้อยโชว์เรียวขาขาวเนียนเรียบหรูดูดีก้าวลงจากรถพร้อมระบายยิ้มหวานให้ชายหนุ่มเชิงขอบคุณ "พร้อมไหม" ชายหนุ่มระบายยิ้มบาง ๆ พร้อมยกแขนขึ้นให้อีกคนคล้อง มือเรียวสอดเข้ามาคล้องแขนแกร่งอย่างว่าง่ายพยักหน้าแทนคำตอบว่าเธอพร้อมแล้วจากนั้นทั้งสองก็เดินควงคู่เข้าไปในงานทันทีที่ภาคินกับเอวาย่างกรายเข้ามาในงานทุกสายตาก็มองมายังทั้งสอง ก่อนเสียงซุบซิบจะเริ่มดังขึ้นทุกคนต่างให้ความสนใจกับผู้หญิงหน้าตาสะสวยข้างกายนักธุรกิจหนุ่มชื่อดังเพราะเขาไม่เคยควงผู้หญิงออกงานเลยสักครั้ง กล้องจากนักข่าวหลายสำนักก็กดชัตเตอร์รูปของสองหนุ่มสาวระรัวก่อนจะมีนักข่าวสองสามคนเดินเข้ามาสัมภาษณ์ "สวัสดีค่ะคุณภาคิน""สวัสดีครับ" ภาคินตอบกลับด้วยใบหน้ายิ้มแย้มก่อนปรายตามองสี
แสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านม่านหน้าต่างกระจกเข้ามากระทบเปลือกตาบางของร่างสูงที่นอนกอดลูกบนเตียงคิงไซส์ให้รู้สึกตัวตื่นในช่วงสาย ๆ ของวันใหม่ใบหน้าหล่อเหลาระบายยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาก็ได้เจอหน้าลูกเมียเป็นอันดับแรกเขาหยัดกายลุกขึ้นนั่งก่อนโน้มไปจูบหน้าผากบุตรชายที่นอนข้าง ๆ อย่างแผ่วเบาแล้วเลื่อนไปจูบหน้าผากบุตรสาวต่อจากนั้นก็ลงจากเตียงเดินอ้อมไปริมเตียงอีกฝั่งที่แม่สองแฝดนอนอยู่โน้มลงจูบหน้าผากมนเบา ๆ "ผมรักคุณกับลูกนะ" ดวงตาคมกริบไล่มองใบหน้าสามคนแม่ลูกที่นอนหลับบนเตียงด้วยความอิ่มเอมใจ ก่อนละสายตาออกแล้วจัดการอาบน้ำแต่งตัวหยิบโน้ตบุ๊คเดินลงมานั่งทำงานที่ห้องนั่งเล่นปล่อยให้เมียกับลูกนอนต่อโดยไม่คิดจะปลุกเพราะเมื่อคืนทั้งสามคนนอนดึกเพราะมัวแต่พูดคุยหยอกล้อกับเขาอยู่"คุณน้าจะไปไหนครับ" ภาคินเปล่งเสียงถามขึ้นเมื่อเหลือบสายตาาไปเห็นมารดาของหญิงสาวกำลังเดินถือตะกร้าผ่านห้องนั่งเล่นไป ดวงเดือนหยุดชะงักหันไปตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มกว่าที่ผ่านมา "ว่าจะออกไปจ่ายตลาดหน่อยนะ" ทำคนฟังอย่างภาคินแปลกใจไม่น้อยกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของดวงเดือนทั้งที่ที่ผ่านมาเธอมักจะแยกเขี้ยวใส่เขาตลอดบาง
วันต่อมา"มามี๊คะเมื่อไรแด๊ดดี๊จะกลับมา อลินคิดถึงแด๊ดดี๊แล้วค่ะ" เสียงของอลินดาดังขึ้นทำลายความเงียบขณะที่ทุกคนกำลังนั่งทานอาหารอยู่ "อีกสองวันแด๊ดดี๊ก็จะกลับแล้วค่ะ อดทนอีกหน่อยนะคะ" เอวาวางช้อนลงเอื้อมมือไปลูบศรีษะเล็กทุยอย่างเอ็นดูเธอเองก็คิดถึงชายหนุ่มมากเหมือนกันไม่รู้ทำไมถึงคิดถึงมากขนาดนี้ "อลันก็คิดถึงแด๊ดดี๊ครับ" อลันพูดเสริมอีกเสียงพร้อมทำหน้าเหงาหงอยจนคนเป็นแม่ต้องเลื่อนไปลูบศีรษะปลอบประโลม "เดี๋ยวแด๊ดดี๊ก็กลับมาแล้วครับ""ครับ ค่ะ" สองแฝดพยักหน้ารับรู้แล้วก้มหน้าก้มตาทานอาหารต่อเมื่อเสร็จก็ขอมารดาขึ้นไปนอนดูการ์ตูนบนห้องนอน ส่วนเอวาก็ช่วยมารดาเก็บจานล้างจากนั้นก็มานั่งคุยกันต่อที่โซฟา"แม่ว่าลูกดูมีน้ำมีนวลขึ้นนะ" ดวงเดือนไล่สายตามองบุตรสาวตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าก่อนพูดลอย ๆ เพราะดูบุตรสาวมีน้ำมีนวลอวบอิ่มขึ้นกว่าเดิมมาก "สงสัยช่วงนี้คงเจริญอาหารค่ะ" คนโดนทักตอบอย่างไม่ใส่ใจมากนัก ดวงเดือนไม่ได้ซักไซร้อะไรต่อพูดคุยเรื่องอีกแทนผ่านไปครึ่งชั่วโมงเธอจึงขอแยกตัวออกไปข้างนอกเพราะมีนัดกับเพื่อน ๆ"เฮ้อ" เอวาถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เอนกายพิงพนักโซฟาแล้วค่อย ๆ หลับตาลงด้วยสมองหนัก