“ ไม่สนุกเลยนะคุณหนู....” รณภพทำน้ำเสียงออกจะติดประชดเล็กน้อย เดินเข้าไปใกล้หญิงสาวจอมแสบภัสสรมีสีหน้ากังวลเล็กน้อยก็ยิ่งทำให้รณภพไม่สามารถหยุดแกล้งคนตรงหน้าได้ปากเก่งดีนักนะ คิดจะทำบ้าอะไรของนายผู้ชายเย็นชาแบบนี้จะทำอะไรผู้หญิงได้ ....ภัสสรคิดในใจที่เธอสัมผัสได้คือรณภพเป็นสุภาพบุรุษมากพอที่จะไม่ล่วงเกินผู้หญิง
“ แหม แหม แหม อยากใกล้ฉันขนาดนั้นเลยหรอจ้ะ พ่อบอดี้การ์ดอารมณ์ร้าย ” ภัสสรเมื่อแปรเปลี่ยนความตกใจรับมือกับผู้ชายตรงหน้าได้เธอก็ไม่ปล่อยโอกาสให้ผ่านไปแน่ๆ แขนเรียววาดโอบรอบคอรวดเร็วสบสายตาหวานยิ้มให้เขาอย่างจงใจ นิ้วลากผ่านไหล่กว้างเบาๆอย่างเย้ายวน.......อีกครั้งที่รณภพตั้งรับมือกับสาวตรงหน้า เขาประหม่าไปหน่อย .....ร้ายใช่เล่นที่ไหนล่ะใยตัวแสบหน๊อยแหน่ะ ยังมาลูบไล้สัมผัสเขาอีก “ นี่จะทำอะไร ” “ ก้แหม่ คนหล่อเข้ามายั่วทั้งที จะทำอะไรดีน้า...ฉันรู้ว่า...นายหน่ะไม่ทำอะไรฉันหรอกหึๆ ” เธอหัวเราะลำพองอย่างรู้ทัน “ อย่าแน่ใจให้มันมาก ผมอดอยากมานาน ถ้าเกิดความต้องการ ต่อให้ไม่สวยหยดหยาด .......มันก็ไม่แน่ ” “ ปากร้ายนักนะ ” หญิงสาวที่โอบรอบคอรณภพอยู่นั้นทำตาเขียวปั๊ดใส่เขาทันที คนบ้า พูดจาดีๆยังมากวนประสาท “ ชิมไหมล่ะว่าร้ายจริงหรือเปล่า ” เขายักคิ้วใส่อย่างกวนๆ ภัสสรใจเต้นระรัว ยังมีหน้ามายั่วเธออีก มีความปลื้มอยู่ในใจด้วยแล้วถ้าจับปล้ำขึ้นมาอย่ามาโวยวายนะเว้ย ภัสสรเผลอคิดในใจก็เธอเป็นผู้หญิงที่มั่นใจในบางครั้งเวลาที่อยากเอาชนะ ความดื้อรั้นทำให้หล่อนกล้าทุกอย่างนั่นแหล่ะ “ ให้จริงหรองั้นจูบนะ ” “ เฮ้ย นี่ผู้หญิงทุกวันนี้หื่นกันขนาดนี้เลยรึไง ไม่กลัวเลยหรอ!!! ” รณภพโวยวายเสียงดังพยายามแกะมือหญิงสาวที่กอดคอเขาเป็นเหมือนปลาหมึกติดหนึ๊บไม่ยอมปล่อย ผู้หญิงทุกวันนี้นอกจากใยคนนี้แล้วมันยังมีใครอีกไหม กล้าไม่กลัวเสียตัวเลยนะแม่คุณเอ้ย.... “ ก๊อกๆๆ ใยน้องพี่เข้าไปนะ....แกร๊ก.......เห้ย ฟึ่บ ผลั๊ก.../กรี๊ด ” เสียงบุคคลที่สามดังขึ้นตามด้วยเสียงเปิดประตูเข้ามาอย่างไม่รอคำตอบของคนด้านนอก ตามด้วยแรงฉุดกระชากดึงรณภพออกจากเธอแล้วหมัดหนักๆก็ซัดเข้าไปที่ปากของรณภพ เสียงกรี๊ดของภัสสรทำให้กฤษที่อยู่หน้าห้องกับลูกน้องอีกหนึ่งคนวิ่งตามเข้ามาอย่างรวดเร็ว .......... ........... “ แกคิดว่าจะหนีฉันพ้นหรอ......ไอ้สิน..........ในเวลานี้ลูกสาวแกฉันยังหาไม่เจอ สาบานได้เลยว่าสิ่งที่ลูกสาวตัวดีของแกกับเพื่อนของมันทำไว้กับฉัน มันต้องชดใช้สิบเท่า ” เสี่ยชัย ที่กำลังคาดโทษหญิงสาวที่เขาเกือบได้ตัวมาแล้วแต่ดันมีมารมาขัดความสุข เหตุการณ์วันนั้นมันทำให้เสี่ยชัยรู้สึกเสียหน้า และอาย เพราะฝั่งนั้นเกือบฆ่าเขาสายตาดุจนน่ากลัวเขายังจำติดตา แต่ของสิ่งนั้นมันเป็นสิ่งที่เขาควรจะได้ ไม่ใช่มีให้หมามาคาบไป เกือบเดือนแล้วที่ต้องตามหาหญิงสาวมาลงโทษให้สมใจแต่ยังไร้วี่แวว ทั้งๆที่อยู่ในประเทศไทยแท้ๆ แต่ทำไมไม่เจอตัวสักทีว่ะ “ สะ เสี่ย ผมไหว้หล่ะ เสี่ยอย่าทำอะไรลูกผมเลยผมไม่อยากให้ลูกสาวกับลูกชายของผมต้องเดือดร้อน ” ชายวัยกลางคน แน่นอนว่าเขาเป็นคนที่มินตราและรณภพตามหาวุ่นวายและห่วงอย่างสุดชีวิต “ หมดเวลาให้แกแล้ว เอาปืนมา ” “ สะเสี่ย....” " ปังๆๆๆๆ" “ อืม มินอ่า มินครับ อ่า ” “ พะพี่วิชขา ” บทเพลงแห่งความปรารถนาบรรเลงหลายต่อหลายครั้งเสียงหวานครางสนั่นทั้งชายหญิงความสุขทางกายและทางใจที่เพิ่มขึ้นมาทุกวันภวิชไม่เคยอิ่มเอมสักครั้งตั้งแต่สัมผัสเธอ ร่างบอบบาง ที่จับแน่นไปทุกสัดส่วนร่องรอยที่ถูกประดับสร้างไว้บนกายของเธอ เขามองมันท่ามกลางแสงไฟสลัวที่เธอควบคุมเกมรักที่เขาสอน “ เก่งขึ้นทุกวันแบบนี้....จะให้หนีไปไหนได้ ” “ เพี้ยะ! นี่แหน่ะคนบ้า ” เธอฟาดไปลำแขนแกร่งเบาๆ และถูกเขาลงโทษด้วยการขยับกายเข้าหาพร้อมกับก้มดูดดึงปทุมถันอันงดงามเบื้องหน้า “ อ๊า ” เสียงหวานๆ หลุดครางออกมาทำให้ภวิชอมยิ้มนิดๆก่อนจะเพิ่มความลึกสัมผัสเธอมากขึ้นจนเธอขนลุกด้วยความเสียวซ่าน “ อีกนิดนะคนสวย ” เขาส่งความสุขให้เธอหลายต่อหลายครั้ง “ อืม อ๊ะพี่วิชทำอะไรค่ะ ” ในขณะที่เธอนั่งอยู่บนตักแกร่งของเขายามเขาสัมผัสเธอทั้งจูบทั้งความลึกซึ้งทำให้สติหลุดลอยกลางอากาศมันเคว้งคว้างแต่อ่อนหวานมือแกร่งลูบไล้ทั่วร่างกายของเธอจังหวะรักเริ่มลดลงเมื่อเธอสัมผัสได้ถึงฝ่ามือหนาที่รวบมือน้อยๆของเธอ ในขณะที่ริมฝีปากร้อนผ่าวของเขาก็ยังบรรเลงจูบเธอไม่ห่างบางอย่างที่นิ้วนางด้านซ้ายสัมผัสได้ทำให้มินตราถามออกไป “ ห้ามถอดนะได้ยินไหมครับ ” เขายอมถอนจูบมองหญิงสาวที่นั่งนิ่งมองหน้าเขาน้ำตารื้นคลอหน่วย “ ร้องไห้ทำไมครับคนสวย หืม ” “ ฮือๆ ” เธอโผเข้ากอดเขาอย่างรู้สึกอบอุ่นปลอดภัยใครจะว่าเธอใจง่ายก็ชั่งประไรตอนนี้ดีใจที่วันนี้ได้เจอเขาก็พอ “ มินอย่าขยับสิครับ เดี๋ยวพี่ก็ทนไม่ไหวหรอก ” น้ำเสียงเขาเย้าแหย่นิดๆเมื่อหญิงสาวขยับตัวบนกายของเขาที่ยังเชื่อมต่อกับเธอ “ บ้าฮือๆหื่นตลอดเลย ” ร้องไห้หนักกว่าเดิม งับหูเขาอย่างหมั่นเขี้ยวเบาๆ “ อ่า เมียโหดจริงโอ๋ๆ ไม่ร้องน้า.....” เขาใช้หัวแม่มือไล้น้ำตาที่แก้มหญิงสาวแล้วโอบกอดเธออย่างอ่อนโยนความอบอุ่นเข้าแทรกซึมหัวใจคนเจ้าเล่ห์จะหมดไฟก็คราวนี้ แต่ช้าก่อน “ ให้รางวัลพี่หน่อยนะ ขอพี่นะครับไม่ไหวแล้ว ” มินตราไม่ได้ตอบอะไรแต่เพียงแค่เขารู้ถึงการพยักหน้าของหล่อนนั่นหมายถึงการอนุญาติซึ่งเขาไม่รอช้าเลยที่จะปลดปล่อยความต้องการของเขาและเธอที่ยังไม่สำราญอิ่มหนำสักทีมินตราค่อยๆลืมตาขึ้นมาในเช้าอีกหนึ่งวัน คุณหญิงมณีจึงตรงเข้าไปกอดลูกสาวเอาไว้แน่น “ มินตื่นแล้วหรอลูกเป็นยังไงบ้างค่อยๆลุกนะลูก ” “ มินรู้สึกเจ็บท้องค่ะแม่ แล้วลูกมินหล่ะค่ะ แม่ ลูกมินยังอยู่ใช่ไหมคะ ”มินตราเริ่มผวาเมื่อเธอสัมผัสหน้าท้องเธอจำได้ว่าเมื่อวานเธอมีอาการตกเลือดทำไมเธอเจ็บท้องแล้วความฝันก่อนหน้านั้นที่หนุ่มน้อยเดินหายไปจากเธอคืออะไร “ มินใจเย็นๆนะลูก ” “ ลูกมินยังอยู่ใช่ไหมคะ ลูกของหนู ” “ เขาไม่อยู่แล้วลูก หนูเสียเลือดมากคุณหมอต้องขูดมดลูกเพื่อช่วยชีวิตมินไว้ ” “ ไม่จริงอ่ะ แม่โกหกใช่ไหม ลูกหนูกับพี่วิช แม่โกหกใช่ไหม ฮือๆ แล้วพี่วิชหล่ะคะแม่ พี่วิชเขาปลอดภัยใช่ไหมคะแม่ ใช่ไหมฮือๆ ” “ ใจเย็นก่อนนะลูก คุณวิชเขาปลอดภัยหนูอยากไปหาเขาไหม ” “ จริงนะคะ เขาปลอดภัยจริงนะคะ ” ถึงแม้เธอจะเศร้าใจเรื่องลูกแต่ ภวิชปลอดภัยความหวังเธอก็ยังไม่โดนพังหมดซะทุกอย่าง ผู้เป็นแม่เมื่อเห็นน้ำตาของลูกก็อดไม่ได้ที่จะร้องไห้ตามเธอสงสารลูกสาวคนเดียวอย่างจับใจแต่เมื่อโชคชะตาให้ลูกเธอเจอแบบนี้ เธอคงทำได้เพียงยืนอยู่ข้างๆเธอไม่ตอบอะไรมากนอกจากพยักหน้า มินตราถูกพยุงให้นั่งรถเข็นแ
ณ โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งที่ภัสสรใช้เวลาพอสมควรกว่าจะ มาถึง “ ถึงแล้ว ลงมาสิ ” “ เรามาทำอะไรกันที่นี่หรอคะ ” “ ฉันคงพาเธอมานั่งรถเล่นมั้งจะไปไหมเร็วๆเข้า ” “ อ๋อค่ะๆ ” มินตราปลดสายเข็มขัดนิรภัยออกจากตัวแล้วรีบลงจากรถเมื่อเห็นว่าสาวน้อยที่พามาเริ่มหงุดหงิดแต่เธอก็ไม่เคยคิดโกรธภัสสรเลยเธอกลับชอบเพราะภัสสรซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเธอเองมินตราก้าวเท้าเข้ามาในโรงพยาบาลด้วยความรู้สึกหลากหลายเธอสงสัย เธอกังวลหรือเธอกำลังกลัวกันแน่ ภัสสรสรเดินนำมินตราไปจนหยุดที่หน้าห้องพักห้องหนึ่ง “ แกร๊ก ” “ ถึงแล้วเข้าไปสิ ” ภัสสรยืนพิงประตู เบี่ยงหลบทางให้มินตราที่ทำท่าชะเง้อชะแง้มองดู มินตรากล้าๆกลัวๆเดินเข้าไปในห้องเธออยากพบภวิชนะแล้วภัสสรพาเธอมาเยี่ยมใครกัน มินตราเดินใกล้เข้ามายังเตียงผู้ป่วยก็พบกับทั้งพ่อแม่ภวัตต์และรฏาในห้อง เท่านั้นยังไม่พอทุกคนหันมามองเธอเป็นตาเดียวคำพูดต่อมาของภวัตต์ทำให้มินตราก้าวขาไม่ออก “ วิช มินมาหา นายลืมตามาดูเธอหน่อยสิฉันรู้ว่านายคิดถึงเขา ” เปลือกตาภวิชที่ขยุบขยิบเหมือนกับได้ยินสิ่งที่ภวัตต์บอกแต่ปฏิกิริยาไม่มีการตอบสนองที่ทำให้รู้ว่าเขาฟื้น มินตรามอ
“ พี่แหวน พี่มองหาใครหรอค่ะ ” “ อ้าวคุณมิน เปล่าค่ะ พี่แค่กำลังมองหารถคันนึงหน่ะค่ะ จะชอบมาจอดหน้าบ้านเราเป็นเวลานานๆ แต่สองสามวันมานี่ไม่เห็นแล้วหล่ะคะ ไม่รู้ว่าพวกโรคจิตหรือเปล่านะคะ จอดรถหน้าบ้านแต่ไม่มีคนลงจากรถเลย ” มินตรามองไปยังหน้าบ้านที่มีต้นไม้ใหญ่อยู่ตามสายตาสาวใช้ที่บอกไป “ พี่แหวนคิดมากไปหรือเปล่าคะเขาอาจจะเป็นญาติฝั่งตรงข้ามนะคะ ” “ จริงๆนะคะคุณมิน ” “ ชั่งเถอะค่ะ ” “ อะๆ นั่นไงคะรถคันนั้นไงคะคุณมิน ” “ หืม ” มินตราชะงักเท้าที่เธอเพิ่งจะหันหลังกลับเข้าบ้านรถหรูหราที่ หน้าตาคุ้นเคย แล่นมาจอดหน้าบ้านตามคำพูดของสาวใช้มินตราไม่รอให้สาวใช้ตรงไปเปิดประตูเธอเลือกก้าวขาไปหาเอง “ แกร๊ก ” เสียงเปิดประตูรั้วหน้าบ้านและเธอก็ได้เห็นร่างสง่างามสมส่วนของสายชลที่ก้าวลงจากรถเดินตรงมาหาเธอ “ สวัสดีครับคุณมิน ” “ สวัสดีค่ะคุณสายชล ” “ คุณมินสบายดีไหมครับ ” “ ก็อย่างที
ตกกลางคืนภวิชเริ่มมีสติหลังจากดื่มน้ำเมาแล้วยังทะเลาะอย่างรุนแรงกับน้องสาวสุดที่รักอีก เขาอดห่วงมินตราไม่ได้จริงๆจึงต้องหวนกลับมาที่โรงพยาบาลอีกครั้งเพื่อมาหาเธอ คุณหญิงมณีที่อยู่ภายในห้องแต่ทำไมในห้องถึงมีอดีตเพื่อนรักอย่างโทนี่อยู่ด้วยเขาเอานิ้วมือเรียวแตะที่กระจกเพื่อสัมผัสใบหน้า มินตราผ่านอากาศที่หลังจากนี้เขาจะไม่มีสิทธิ์สัมผัสชิดใกล้กับเธออีกแล้ว “ มินพี่ไม่รู้ว่าลูกจะได้อยู่กับพวกเราไหม แต่ถ้าหากลูกได้อยู่ บอกรักเขาแทนพี่ด้วยนะมิน ” น้ำตาไหลลงอีกครั้งนี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้ใกล้ชิดกับเธอ “ ไอ้เสี่ยชัย!!! ฉันไม่ปล่อยแกไว้ให้แกทำร้ายลูกกับเมียฉันซ้ำสองแน่!! ” เขาทิ้งความอ่อนโยนครั้งสุดท้ายไว้ให้กับผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาและแม่ของลูกเขาก่อนจะเปลี่ยนสายตาเป็นแข็งกร้าวและข่มเสียงพูดถึงคนที่ทำร้ายดวงใจของเขา ด้วยความแค้นสุมอก มีใครเคยบอกไหมว่าอย่าให้คนอย่างเขาแค้น เพราะนั่นหมายถึงแค้นฝั่งหุ่นทั้งเป็นและตาย เขาจะไม่ยอมให้คนที่เขารักเป็นอันตรายไปอีกแล้วมันมากไปแล้วที่ผ่านมา
ภวิชที่ทำแผลเสร็จตอนนี้เขาพันแผลที่หัวไหล่แล้วเรียบร้อย เขาก็รีบตรงมายังหน้าห้องฉุกเฉินทันที เป็นเวลาที่หมอออกมาจากห้องผ่าตัด “ ภรรยาผมเป็นยังไงบ้างครับ ” “ ตอนนี้หมอทำการผ่าตัดนำกระสุนออกมาแล้วนะครับแต่อาการเธอตอนนี้ยัง...” “ เกิดอะไรขึ้นครับหมอ คุณพูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง ” “ เอ่อ คือหมอคิดว่าคุณคงทำใจไว้สักนิดนะครับ ” “ หมายความว่าไงคะหมอ ” รฏาเริ่มใจคอไม่ดี “ เธอมีอาการตกเลือดหน่ะครับ คุณต้องทำใจไว้ส่วนหนึ่งด้วยนะครับเธออาจสูญเสียเด็กในท้อง ” “ เด็กในท้อง หมายถึง ละ ลูกหน่ะหรอ ” ภวิชพูดจาติดขัดเขาพยายามเรียบเรียงสิ่งที่ได้ยิน สายชล ภวัตต์ รฏา รวมถึง กฤษที่อยู่บริเวณนั้น ทุกคนต่างตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน คนที่ตกใจที่สุดคงไม่พ้นภวิช “ เฮ้ย! วิช ” ภวัตต์รีบเข้ามาพยุงน้องชายที่เข่าอ่อนลงทันทีที่หมอพูดจบ มินตราท้องหรอ ที่สาวน้อยเขาเพลียบ่อยๆตอนนั้นที่เขาสงสัยว่าทำไมเธอถึงเหนื่อยง่ายๆ เพราะเธอท้องงั้นหรอ แล้วทำไม ทำไมมินถึงใจร้ายไม่ยอมบอกเขาไม่ยอมให้เขาทำหน้าที่พ่อของลูกบ้าง ภวิชเหมือนคนหูอื้อไม่ได้
- แต่งงานกันนะครับ- ทันทีที่เพลงเล่นจบลงภวิชก็ดึงมือทั้งสองของมินตรามากุมไว้ในขณะที่เขายังคงคล้องแซกโซโฟนอยู่เขาใช้นิ้วมือปาดน้ำตาของคนสวยที่เปื้อนตรงแก้มใสอย่างอ่อนโยนแววตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความหมายที่ลึกซึ้งเขาย่อตัวไปหยิบกล่องแหวนขึ้นมาแล้วมองกล่องแหวนในมือภาวนาขอให้มินตราตอบรับเขา “ ว่ายังไงครับ แต่งงานกับพี่ได้ไหม พี่จะทำให้มินมีความสุขที่สุด ” “ คุณวิชคือมิน.....” “ ว่ายังไงครับ ” “ มิน ไม่........ ” “ ฟุ้บ ปังๆๆๆ ” เสียงปืนที่ดังขึ้นหลายนัดทำให้ความโรแมนติกทุกๆ อย่างหมดสิ้นลง เสียงระเบิดที่ดังขึ้นท้ายเรือทำให้มินตราตกใจ ภวิชคว้าดึงมินตราเข้ามากอดเขาหันมองซ้ายขวา สายชลที่คอยช่วยเหลือควบคุมระบบไฟอยู่บนสุดของเรือในห้องกัปตัน ลูกน้องบางส่วนที่กระจายคอยดูอยู่รอบๆ เขาไม่ได้บอกมินตราเรื่องนี้เพราะกลัวเธอจะตกใจ แต่สุดท้ายก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้ “ วิช ” “ วัตต์นายรีบพามินลงไปจากเรือลำนี้ที ฉันจะดูทางนี้ให้ ” “ แล้วคุณหล่ะคะวิช ” รฏาเป็นฝ่ายถาม สมองมินตราสับสนไปไหม ว่าเกิดอะไรขึ้น “ ผมจะดูต้นทางให้รีบลง