มาเฟียหนุ่มอายุเพียง 21 ปี เขาเรียนอยู่ปี 4 วิศวะมหาลัยชื่อดัง เป็นเจ้าของคลับตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ ผับนี้ก็ได้จากบารมีพ่อที่เป็นมาเฟียของเขานั้นแหละ มันไม่ยากที่จะเปิดคลับตามใจลูกชายเพียงคนเดียวของเขา แต่ตอนนี้เขาต้องมารับภาระที่ใหญ่หลวงของพ่อ โดยการดูแลกิจการสีเทาทั้งหมด โชคยังดีที่พ่อสอนเขาให้แข็งแกร่งตั้งแต่เด็กๆ ไม่งั้นก็คงทำเรื่องที่มาเฟียเขาทำกันไม่ได้ มาร์คัสบอกกับลูกเขาว่า จะไปตามหาเรื่องที่มันค้างคาใจอะไรบางอย่างจึงฝากกิจการให้เขาดูแลเอาไว้ชั่วคราว แต่ในระหว่างที่เขากำลังทำเรื่องผิดกฎหมาย หญิงสาวใบหน้าสวยกับโผล่มากลางวงพอดี และดูเหมือนว่าถ้าจะปล่อยเธอไป ถ้าเธอไปปากสว่างเขาก็คงต้องเกมแน่ๆ “ชะ...ช่วยด้วยค่ะ ฉันติดอยู่ตรงนี้” หนุ่มวัยฉกรรจ์จำนวนหลายนายรวมทั้งเขา มองไปทางต้นเสียง “ตัวอะไรวะนั่น! พวกมึงไปดูดิ” ...... “ธะ เธอ....เข้ามาได้ไง?” “ถามได้ฉันก็ลงมาจากเครื่องร่อนของฉันนะสิ ก็เห็นๆ อยู่” เธอตอบอย่างหงุดหงิด “นาย.พวกนายทำอะไรกันน่ะ?” เธอเขย่งเท้ามองไปด้านหลังชายหนุ่มหน้าคมอย่างนึกสงสัย
View Moreณ คฤหาสน์หรูชานเมือง
“เห้ย...พวกมึงรีบขนเร็วๆ หน่อย” มาร์ตินออกคำสั่งกับลูกน้องที่กำลังขนอาวุธเถื่อนไปส่งที่ท่าเรืออยู่หลายสิบคน
บางทีเวลากลางวัน ตำรวจก็ไม่ค่อยกวนเท่าเวลากลางคืน เขาจึงต้องเร่งมือ เพื่อจะไปส่งของให้ทันก่อนที่จะพบค่ำ
“อีธานมึงช่วยดูความเรียบร้อยให้กูด้วย”
“ครับๆ นาย”
มาร์ติน ลูเธอร์ มาเฟียหนุ่ม วัย 21 ปี สัญชาติสเปนลูกครึ่งไทย ที่รับช่วงต่อจากรุ่นพ่อทั้งที่อายุยังน้อยเขาเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูลที่ต้องรับผิดชอบงานต่อจากพ่อที่วางมือจากกิจการทั้งหลายเอาไว้ชั่วคราวเพื่อตามหาอะไรบางอย่างอย่างจริงจัง
อีธานลูกน้องคนสนิทอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับเขา อีธานถูกเลี้ยงมาคู่กับมาร์ตินในบ้านหลังเดียวกัน
มาร์ตินมีแม่นมชื่อแอนนา ซึ่งก็คือแม่ของอีธาน แอนนากับมาร์ค เป็นลูกน้องที่ทำงานกับพ่อของมาร์ตินมานาน
มาร์ตินกินนมจากอกของเธอตั้งแต่ออกมาจากโรงพยาบาล และมีความผูกพันกันมาก
มาร์ตินไม่เคยเจอแม่ของเขาตั้งแต่แบเบาะ เขาได้รับความรักจากแอนนา และอีธานที่คอยดูแลตั้งแต่เด็กๆ
อีธานเป็นทั้งเพื่อนเล่นและพี่ชาย แถมตอนนี้ยังรับหน้าที่เป็นลูกน้องคนสนิท เวลาอยู่ต่อหน้าลูกน้องเขาจะรับบทคอยเชื่อฟังเจ้านายน้อยเป็นอย่างดี แต่หลังจากนั้นก็แทบจะตบหัวเป็นเพื่อนเล่นกันได้เลยล่ะ
ย้อนไปเมื่อปีก่อน
“พ่อครับ...ผมต้องเรียนมหาลัยต่อคงรับช่วงต่อกับงานของพ่อไม่ได้หรอกนะครับ”
“นายเป็นลูกมาเฟียอย่างฉันมีเหรอจะทำไม่ได้” มาร์คัสพูดออกมาด้วยความมั่นใจในสายเลือดมาเฟียของตัวเองเป็นอย่างมาก เพราะพ่อของเขาก็สอนมาให้เขาแข็งแกร่งเช่นกัน และเขาก็ทำมันได้ดี มาร์ตินก็คงไม่ต่างอะไรจากเขา
“นายก็ลองทำดูก่อน ก่อนที่จะปฏิเสธ แยกให้ออกระหว่างเรียนกับงานก็เท่านั้น”
“แล้วพ่อจะไปไหนเหรอครับ?”
“ฉันจะไปตามหาอะไรบางอย่าง ที่มันติดค้างในใจฉันมาหลายปี” มาเฟียวัย 40 ต้นๆ บอกกับลูกชายที่ยืนทำหน้าสงสัย
“แต่....พ่อครับ”
“แก...ไม่อยากรู้เรื่องแม่ของแกแล้วหรือไง?”
“ผมไม่....” ไม่ทันที่เขาจะตอบพ่อก็รีบตัดบท
“เอาเป็นว่าฉันฝากแกแค่ช่วง 1-2 ปี นี้เท่านั้นแหละ ให้แกดูแลแทนฉันหน่อย...แล้วฉันจะรีบกลับมา...หวังว่าแกจะทำได้นะ?”
มาร์คัสมาเฟียหนุ่มที่พลาดท่ามีลูกตั้งแต่อายุ 18 เขาทำผู้หญิงคนไทยคนนึงท้อง และเธอก็หนีออกจากโรงพยาบาลไปพร้อมลูกแฝดอีก 1 คนของเขา
ตอนนั้นเขาจะรับผิดชอบเธอทุกอย่างแต่เธอไม่ยอมฟัง และแอบหนีเขาไปจนได้ ด้วยความปากหมาของตัวเองเป็นเหตุ
วันนั้นเขาประกาศต่อหน้าเพื่อน ว่าจะไม่มีเมียให้มาปวดหัว ชีวิตนี้ขอเป็นเพียงหนุ่มเจ้าสำราญเท่านั้น
เธอคนนั้นที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเขาอยู่หลายครั้ง เข้ามาได้ยินในสิ่งที่เขาพูดโดยบังเอิญ เธอคิดว่าคนอย่างเขาคงไม่จริงจังกับใครตามที่ปากเขาพูดไว้แน่ๆ เธอเลยจำใจจากเขาไปทั้งที่ยังรักเขาอยู่มาก แต่ก็กลัวว่าถ้าอยู่ก็คงจะเจ็บไปมากกว่านี้ และอีกอย่างเธออยากมีเพียงแค่รักเดียว ไม่อยากเป็นน้อยเป็นหลวงอะไรทั้งนั้น
มาร์คัสย้ายมาตั้งรกรากและขนถ่ายอาวุธที่ประเทศบ้านเกิดของแม่มาร์ติน ไม่ได้ตามหาเธอเพราะเดี๋ยวจะเสียเหลี่ยมมาเฟีย ถ้าจะเจอก็อยากแค่บังเอิญเจอเธอเท่านั้น แต่ตอนนี้เหมือนข่าวของเธอเข้าหูมาว่าเธอไม่ได้กลับมาที่นี่เขาเลยจำเป็นต้องไปหาเธอที่ประเทศอื่น
“รู้สึกตัวช้าไปหรือเปล่าครับพ่อ ตอนที่ผมต้องการแม่ทำไมไม่ยอมไปตาม? จะไปอะไรตอนนี้”
มาร์ตินพูดออกมาอย่างหงุดหงิด แต่ก็พยายามข่มอารมณ์เอาไว้ ไม่อยากจะก้าวร้าวพ่อที่ให้กำเนิดเขาไปมากกว่านี้
“ก็ฉัน.....” เขาถึงขั้นชะงัก...มันเป็นปัญหาโลกแตกที่เขาก็อธิบายกับลูกชายของเขาไม่ได้
ตอนนั้นผู้เป็นพ่อบอกกับเขาไว้แค่ว่าจะไปตามหาแม่มาให้ และก็หายจากวงโคจรของชีวิตเขา ปล่อยให้เขาต้องคุมกิจการเอง ไม่ว่าจะเป็น ผับ บาร์ คาสิโน ค้าอาวุธ และอื่นๆ เขาต้องดูแลมันทั้งหมด
มาร์ตินทำมันทุกอย่างได้ดี ตอนเรียนเขาเป็นแค่นักศึกษาน้องใหม่ทรงแบดบอย ที่มีอีธานเดินตามอยู่ไม่ห่าง มีมาร์ตินที่ไหนก็จะเจออีธานที่นั่น เรียกว่าตัวติดกันยังกับฝาแฝดกันเลยก็ว่าได้
ใบหน้าที่หล่อเหล่าของทั้งคู่ทำให้เดินไปที่ไหนก็เป็นจุดสนใจ แต่ก็น่าเกรงขามในเวลาเดียวกัน
เขาทั้งคู่เป็นที่รักในหมู่เพื่อนฝูง เพราะความเป็นกันเองเฮไหนเฮนั่น ไม่ว่าเพื่อนในกลุ่มจะมีเรื่องกับใคร มาร์ตินกับอีธานก็ไม่เคยเกี่ยง เขามักจะร่วมวงชกต่อยด้วยเสมอโดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้ลูกน้อง เพราะต่างก็มีฝีมือที่ซ้อมกันมาตั้งแต่เด็กๆ ด้วยกันทั้งคู่
ตอนอยู่มหาลัยเขาก็รับบทเป็นแค่หนุ่มวิศวะสายลุย ทรงแบด เก็บบทมาเฟียมาใช้ในเวลางานเท่านั้น เวลาเลิกเรียนพวกเขาจะไปสิงสถิตกันอยู่คลับของมาร์ติน
@ ลูธคลับ
คลับที่ด้านในตกแต่งอย่างหรูหรา มีทั้งโซนหน้าเวทีที่มีนักร้องเต็มวง และโซน วีไอพีที่อยู่ด้านบนมองเห็นด้านล่างได้อย่างชัดเจน โซนนี้สำหรับนักดื่มที่ไม่ชอบผู้คนพลุกพล่านจนเกินไปและชอบความเป็นส่วนตัว ห้องทำงานของมาร์ตินอยู่ที่ชั้น 3 ของคลับ และเขาก็มีห้องเชือดสำหรับสาวๆ ที่ตกหลุมพรางในความหล่อเหลาของเขา เรียกได้ว่าถ้าคิดอยากก็มีมาให้กินแทบทุกคืน
ถึงหน้าตาจะดีและชื่อที่แปลได้ว่าเป็นนักบุญ แต่นิสัยก็ไม่ได้ดีสมกับชื่อ และหน้าตาเลยสักนิด
มาร์ตินดูภายนอกเขาจะดูนิ่ง แต่จริงๆ แล้ว อย่าได้สบตาเขาเลยล่ะ ดาเมจแรงมาก เพราะสายตาเชิญชวนเชิงพิฆาตดึงดูดสาวๆ ให้ใหลหลง
เห็นเขานิ่งแบบนี้แต่แท้จริงแล้ว ทั้งเจ้าชู้ ทรงเสน่ห์ เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว และขี้XXX เป็นที่สุด ทับให้ร้อง ท้องไม่รับ เป็นฉายาของเขา และมันเป็นวลีที่เขาใช้พูดกับเพื่อนอยู่บ่อยๆ แต่คนอย่างเขามีหรือจะพลาด เขาพกเครื่องป้องกันไซส์พิเศษตลอดเวลา
และวันนี้เขาก็เหมือนจะได้ใช้งานมัน ในเมื่อมองไปทางเก้านาฬิกาเขาเจอเข้ากับสาวสวยหุ่นเซ็กซี่ หน้าอกกลมโตจนจะล้นขอบบราเซียลายลูกไม้ที่โผล่พ้นขอบเสื้อออกมาให้เห็นเด่นเป็นสง่า กับบั้นท้ายดินระเบิดที่อยู่ในกระโปรงตัวจิ๋ว แถมยังเต้นยั่วยวนจิกตามองมาทางเขาอยู่อย่างนึกอยากจะกลืนกิน
“กูว่าวันนี้มึงได้อีกแล้วว่ะ” อีธานที่นั่งเป็นเพื่อนดื่ม และบอดี้การ์ดให้นายน้อยเอ่ยขึ้น
“กูก็ว่าเขามองมึงนะ” โจอี้เพื่อนร่วมรุ่นที่มานั่งดื่มกับเขาด้วยในวันนี้ยืนยันอีก 1 เสียง
“นี่พวกไอ้แม็ก มันยังไม่มากันอีกเหรอวะ?” เขาละสายตาจากหญิงสาว และ ตัดบท เบี่ยงเบนความสนใจโดยการถามหาเพื่อนอีกคนนึงแทน
“ไอ้ติน มึงไม่สนใจจริงๆ เหรอวะ?” โจอี้ถามเขามาอีกครั้งที่เห็นเขาพูดเปลี่ยนเรื่อง
“มึงเคยเห็นหน้าหรือเปล่าวะ? ไอ้อีธาน” เขาถามถึงหญิงสาวอีกครั้ง เพราะไม่อยากจะเยใครซ้ำๆ สำหรับเขามันน่าเบื่อเกินไป
“มาใหม่...กูว่า 3 ต่อ 3 ลงตัวพอดี มึงเอาตัวท็อปที่จ้องจะกินมึงอยู่ไปไอ้ติน” อีธานพูดขึ้นอย่างนึกสนใจสาวสวยหนึ่งในนั้น
“เออ...ดิว” เขาพูดพร้อมยกแก้วเหล้าหันไปหาเธอที่นั่งอยู่ไม่ไกลมาก ไม่นานทั้งสามสาวก็เดินตรงมานั่งร่วมโต๊ะกันกับพวกเขา
“กูละทึ่งในความพราวของมึงจริงๆ แค่ยกแก้วผู้หญิงก็เดินมาหาแล้ว...ร้ายนะ คร้าบบบ”โจอี้เอ่ยมาอย่างหยอกล้อ
ค่ำคืนนี้สาวน้อยทั้งสามเหมือนได้ปลดปล่อย พวกเธอออกลีลาโยกย้ายส่ายสะโพกกันอย่างสนุกสนาน และเหมือนว่าแค่ค็อกเทลแก้วเดียวมันคงจะไม่พอสำหรับพวกเธอซะแล้วสิ “พี่คะ...ขอค็อกเทลแบบนี้เพิ่มหน่อยค่ะ” อาริสหันไปบอกพนักงานเสิร์ฟ ก่อนที่จะหันมาโยกตัวให้เข้าจังหวะเพลงอย่างสนุก แอลกอฮอล์เริ่มเข้าสู่ร่างสาวในปริมาณมาก เกินกว่าเด็กหัดดื่มใหม่ๆ อย่างพวกเธอจะต้านทานไหว การทรงตัวจึงเริ่มเซไปมา อาริสยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่มติดๆ กัน และเธอก็สั่งพนักงานมาเสิร์ฟให้เธออย่างไม่พัก “อาริส แกขับรถนะ ดื่ม เบาๆ หน่อย” “ก็มันอร่อยแล้วมันก็เริ่มสนุกแล้วหนิ” เสียงหวานเริ่มอ้อแอ้ จนเพื่อนต้องคอยเตือน “ถ้าแกไม่ไหว...แกห้ามขับนะ กลับแท็กซี่เท่านั้น” โรสพูดเชิงบังคับ “แล้วรถของพี่บรู๊คล่ะ?” ลูน่าถาม “ก็จอดไว้ก่อนพรุ่งนี้ค่อยมาเอาเถอะยัยลูน่า...ดูอาริสสิ มันสั่งเหล้าเพิ่มไม่หยุดเลยนะ” “อื้มม...แท็กซี่ก็แท็กซี่ งั้นวันนี้เต็มที่เลยค่า....” อาริสหันมาตอบพร้อมกอดคอเพื่อนทั้งสองโยกไปตามจังหวะเพลง ตอนนี้บนเวทีเล่นเพลงเร็วอย่างมันส์ และนักดนตรีก็ส่งสาย
@ ลูธคลับ ตอนนี้ทางสะดวกอาริสขับรถสปอร์ตหรูออกจากตัวบ้านโดยเร็ว เสียงเครื่องยนต์สปอร์ตคำรามต่ำ ๆ ขณะอาริสขับเข้ามายังลานจอดรถหน้าคลับแสงไฟสะท้อนตัวถังสีดำเป็นมันวาวเพิ่มความดุดันให้กับตัวรถจนมีแต่คนจ้องมอง พนักงานโบกรถรีบพาไปยังโซนด้านหน้าพื้นที่ที่สงวนไว้สำหรับรถสปอร์ตเท่านั้น เมื่อทั้งสามสาวก้าวลงจากรถ ก็มีสายตานับหลายสิบคู่มองกันเป็นตาเดียว ก็จะไม่ให้มองได้ไงล่ะ รถที่ว่าทั้งเท่ห์ทั้งหรูดึงดูดสายตาให้คนมองแล้วไม่เพียงเท่านั้น ร่างบางที่กำลังก้าวลงจากรถ ยังแสนจะสวยเปรี้ยวดึงดูดสายตาคมของผู้ชายทั้งหลายให้มองอย่างเชื่อมหวาน พร้อมที่จะเข้ามาเกี่ยวความสัมพันธ์ทั้งเธอ และเพื่อนต่างเป็นจุดสนใจในค่ำคืนนี้ เธอทั้งสามจัดแจงชุดที่สวมใส่ให้เข้าที่ก่อนที่จะเดินตรงไปที่ประตูทางเข้าของคลับด้วยความมาดมั่น “ขอดูบัตรประชาชนด้วยครับ” การ์ดของร้านพูดขึ้น เขามองพวกเธออย่างพิจารณาก่อนที่จะก้มมองบัตรประชาชนอีกที “น้องครับอายุไม่ถึง 20 เข้าไม่ได้นะครับ” “อะไรนะคะ” อาริสถามอย่างสงสัย “ก็หนูอายุ 18 ปีบริบูรณ์กันแล้วนะคะ”
ณ คฤหาสน์ ตระกูล ปัจจวาณิชสามสาววัยใสที่พึ่งจะอายุครบ 18 ปี บริบูรณ์ กลับมานอนรวมตัวกันในห้องนอน เพราะเมื่อเช้าพึ่งจะไปทำบัตรประชาชนใบใหม่กันมาหมาดๆ“พวกแก ฉันดีใจจังที่ได้เรียนที่เดียวกับพวกแกอีก” อาริสพูดกับเพื่อนสาวที่สนิทกันมาตั้งแต่สมัยมัธยม ทั้งสองคนของเธอ นั่นก็คือ ลูน่า กับ โรสเมื่อคืนพวกเธอค้างกันอยู่ที่นี่ เพราะนอนฟังเรื่องผีสุดสยองทางช่องรายการวิทยุจนอาริสไม่กล้าที่จะนอนคนเดียว“ฮือ...เรื่องนี้น่ากลัวเป็นบ้า พวกแกต้องนอนกับฉันนะ”เธอทั้งสามมองออกไปนอกหน้าต่างที่มีเงาสะท้อนของต้นไม้ใหญ่กับลมที่พัดผ่าน ก็เกิดอาการสยองพลางมองไปที่นาฬิกาเวลาตอนนี้เกือบจะเที่ยงคืนอยู่แล้วมันไม่ดีแน่ถ้าจะต้องกลับบ้านตอนนี้ ถึงบ้านจะอยู่ใกล้กันแค่นี้ก็ตาม อีกอย่างพ่อกับแม่พวกเธอก็ไม่เคยว่า เพราะรู้ว่ามาอยู่ที่บ้านของอาริสที่อยู่ระแวกเดียวกันก็น่าจะปลอดภัย และพวกเขาก็ทำงานจนไม่มีเวลาสนใจลูกอย่างพวกเธอด้วยเช่นกัน“นอนก็นอน ฉันไม่กล้าเดินกลับ” โรสพูด“ฉันก็เหมือนกัน” ลูน่ารีบตอบอาริส ปัจจวาณิช เธอเป็นเด็กสาวที่พึ่งจะผ่านช่วงมัธยมปลายมาหมาดๆ และก็กำลังจะเข้าสู่รั้วมหาลัยชื่อดังในคณะนิเทศฯ พร้อมกับ
เธอทั้ง 3 เดินเข้ามานั่งรวมกับพวกเขาในโต๊ะวีไอพี ไม่ผิดโผที่ตัวท็อปอย่างเธอจะเล็งตัวจี๊ดอย่างไอ้มาร์ตินเอาไว้ “มานี่...” อีธานเกี่ยวเอว 1 ในหญิงสาวที่เขาหมายปองเอาไว้อย่างเกรี้ยวกราด “ว้าย...” เธอล้มลงไปที่ตักแกร่งของอีธานที่รองรับก้นกลมเด้งของเธอ “ใจร้อนจัง...” หญิงสาวพูดในขณะที่หน้าของเขากับเธอเกือบจะชิดติดกัน อีธานได้แต่ยกยิ้มมุมปาก ผิดกับมาร์ตินที่ยังนั่งทำหน้านิ่ง “พี่ชื่ออะไรคะ?” หญิงสาวแสนสวยเอ่ยถาม “มาร์ติน” “ชื่อเพราะจัง...ส่วนเราชื่อเคสนะ” ร่างบางเข้าไปกระแซถามแต่เขาก็ยังจะทำนิ่งสนใจแต่แก้วเหล้าในมือ จนอีธานต้องเป็นฝ่ายเริ่มสนธนากับหญิงสาวข้างกายแทน เพราะกลัวว่าทั้งโต๊ะจะเงียบไป “เธอละชื่ออะไร?” “โอลีนค่ะ” “เราอีธาน...จำชื่อเราไว้ จะได้ครางถูก” โจอี้นั่งอึ้งกับหญิงสาวอีกคนที่ลงมานั่งข้างๆ และกำลังมองไอ้เพื่อนสองคนตรงหน้า ที่อีกคนเอาแต่นิ่ง และอีกคนก็รุกจนเกินเหตุ “ทำไมไอ้ตินมันเงียบจังวะ เอ็กซ์ซะขนาดนั้นมันยังนิ่ง” โจอี้ขยับเข้ามาถามอีธาน “เดี๋ยวมึงคอยดู...เห็นมันนิ่งๆ แบบ
ณ คฤหาสน์หรูชานเมือง“เห้ย...พวกมึงรีบขนเร็วๆ หน่อย” มาร์ตินออกคำสั่งกับลูกน้องที่กำลังขนอาวุธเถื่อนไปส่งที่ท่าเรืออยู่หลายสิบคนบางทีเวลากลางวัน ตำรวจก็ไม่ค่อยกวนเท่าเวลากลางคืน เขาจึงต้องเร่งมือ เพื่อจะไปส่งของให้ทันก่อนที่จะพบค่ำ“อีธานมึงช่วยดูความเรียบร้อยให้กูด้วย”“ครับๆ นาย”มาร์ติน ลูเธอร์ มาเฟียหนุ่ม วัย 21 ปี สัญชาติสเปนลูกครึ่งไทย ที่รับช่วงต่อจากรุ่นพ่อทั้งที่อายุยังน้อยเขาเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูลที่ต้องรับผิดชอบงานต่อจากพ่อที่วางมือจากกิจการทั้งหลายเอาไว้ชั่วคราวเพื่อตามหาอะไรบางอย่างอย่างจริงจังอีธานลูกน้องคนสนิทอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับเขา อีธานถูกเลี้ยงมาคู่กับมาร์ตินในบ้านหลังเดียวกันมาร์ตินมีแม่นมชื่อแอนนา ซึ่งก็คือแม่ของอีธาน แอนนากับมาร์ค เป็นลูกน้องที่ทำงานกับพ่อของมาร์ตินมานานมาร์ตินกินนมจากอกของเธอตั้งแต่ออกมาจากโรงพยาบาล และมีความผูกพันกันมากมาร์ตินไม่เคยเจอแม่ของเขาตั้งแต่แบเบาะ เขาได้รับความรักจากแอนนา และอีธานที่คอยดูแลตั้งแต่เด็กๆอีธานเป็นทั้งเพื่อนเล่นและพี่ชาย แถมตอนนี้ยังรับหน้าที่เป็นลูกน้องคนสนิท เวลาอยู่ต่อหน้าลูกน้องเขาจะรับบทคอยเชื่อฟั
Comments