มาเฟียหนุ่มอายุเพียง 21 ปี เขาเรียนอยู่ปี 4 วิศวะมหาลัยชื่อดัง เป็นเจ้าของคลับตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ ผับนี้ก็ได้จากบารมีพ่อที่เป็นมาเฟียของเขานั้นแหละ มันไม่ยากที่จะเปิดคลับตามใจลูกชายเพียงคนเดียวของเขา แต่ตอนนี้เขาต้องมารับภาระที่ใหญ่หลวงของพ่อ โดยการดูแลกิจการสีเทาทั้งหมด โชคยังดีที่พ่อสอนเขาให้แข็งแกร่งตั้งแต่เด็กๆ ไม่งั้นก็คงทำเรื่องที่มาเฟียเขาทำกันไม่ได้ มาร์คัสบอกกับลูกเขาว่า จะไปตามหาเรื่องที่มันค้างคาใจอะไรบางอย่างจึงฝากกิจการให้เขาดูแลเอาไว้ชั่วคราว แต่ในระหว่างที่เขากำลังทำเรื่องผิดกฎหมาย หญิงสาวใบหน้าสวยกับโผล่มากลางวงพอดี และดูเหมือนว่าถ้าจะปล่อยเธอไป ถ้าเธอไปปากสว่างเขาก็คงต้องเกมแน่ๆ “ชะ...ช่วยด้วยค่ะ ฉันติดอยู่ตรงนี้” หนุ่มวัยฉกรรจ์จำนวนหลายนายรวมทั้งเขา มองไปทางต้นเสียง “ตัวอะไรวะนั่น! พวกมึงไปดูดิ” ...... “ธะ เธอ....เข้ามาได้ไง?” “ถามได้ฉันก็ลงมาจากเครื่องร่อนของฉันนะสิ ก็เห็นๆ อยู่” เธอตอบอย่างหงุดหงิด “นาย.พวกนายทำอะไรกันน่ะ?” เธอเขย่งเท้ามองไปด้านหลังชายหนุ่มหน้าคมอย่างนึกสงสัย
View Moreณ คฤหาสน์หรูชานเมือง
“เห้ย...พวกมึงรีบขนเร็วๆ หน่อย” มาร์ตินออกคำสั่งกับลูกน้องที่กำลังขนอาวุธเถื่อนไปส่งที่ท่าเรืออยู่หลายสิบคน
บางทีเวลากลางวัน ตำรวจก็ไม่ค่อยกวนเท่าเวลากลางคืน เขาจึงต้องเร่งมือ เพื่อจะไปส่งของให้ทันก่อนที่จะพบค่ำ
“อีธานมึงช่วยดูความเรียบร้อยให้กูด้วย”
“ครับๆ นาย”
มาร์ติน ลูเธอร์ มาเฟียหนุ่ม วัย 21 ปี สัญชาติสเปนลูกครึ่งไทย ที่รับช่วงต่อจากรุ่นพ่อทั้งที่อายุยังน้อยเขาเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูลที่ต้องรับผิดชอบงานต่อจากพ่อที่วางมือจากกิจการทั้งหลายเอาไว้ชั่วคราวเพื่อตามหาอะไรบางอย่างอย่างจริงจัง
อีธานลูกน้องคนสนิทอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับเขา อีธานถูกเลี้ยงมาคู่กับมาร์ตินในบ้านหลังเดียวกัน
มาร์ตินมีแม่นมชื่อแอนนา ซึ่งก็คือแม่ของอีธาน แอนนากับมาร์ค เป็นลูกน้องที่ทำงานกับพ่อของมาร์ตินมานาน
มาร์ตินกินนมจากอกของเธอตั้งแต่ออกมาจากโรงพยาบาล และมีความผูกพันกันมาก
มาร์ตินไม่เคยเจอแม่ของเขาตั้งแต่แบเบาะ เขาได้รับความรักจากแอนนา และอีธานที่คอยดูแลตั้งแต่เด็กๆ
อีธานเป็นทั้งเพื่อนเล่นและพี่ชาย แถมตอนนี้ยังรับหน้าที่เป็นลูกน้องคนสนิท เวลาอยู่ต่อหน้าลูกน้องเขาจะรับบทคอยเชื่อฟังเจ้านายน้อยเป็นอย่างดี แต่หลังจากนั้นก็แทบจะตบหัวเป็นเพื่อนเล่นกันได้เลยล่ะ
ย้อนไปเมื่อปีก่อน
“พ่อครับ...ผมต้องเรียนมหาลัยต่อคงรับช่วงต่อกับงานของพ่อไม่ได้หรอกนะครับ”
“นายเป็นลูกมาเฟียอย่างฉันมีเหรอจะทำไม่ได้” มาร์คัสพูดออกมาด้วยความมั่นใจในสายเลือดมาเฟียของตัวเองเป็นอย่างมาก เพราะพ่อของเขาก็สอนมาให้เขาแข็งแกร่งเช่นกัน และเขาก็ทำมันได้ดี มาร์ตินก็คงไม่ต่างอะไรจากเขา
“นายก็ลองทำดูก่อน ก่อนที่จะปฏิเสธ แยกให้ออกระหว่างเรียนกับงานก็เท่านั้น”
“แล้วพ่อจะไปไหนเหรอครับ?”
“ฉันจะไปตามหาอะไรบางอย่าง ที่มันติดค้างในใจฉันมาหลายปี” มาเฟียวัย 40 ต้นๆ บอกกับลูกชายที่ยืนทำหน้าสงสัย
“แต่....พ่อครับ”
“แก...ไม่อยากรู้เรื่องแม่ของแกแล้วหรือไง?”
“ผมไม่....” ไม่ทันที่เขาจะตอบพ่อก็รีบตัดบท
“เอาเป็นว่าฉันฝากแกแค่ช่วง 1-2 ปี นี้เท่านั้นแหละ ให้แกดูแลแทนฉันหน่อย...แล้วฉันจะรีบกลับมา...หวังว่าแกจะทำได้นะ?”
มาร์คัสมาเฟียหนุ่มที่พลาดท่ามีลูกตั้งแต่อายุ 18 เขาทำผู้หญิงคนไทยคนนึงท้อง และเธอก็หนีออกจากโรงพยาบาลไปพร้อมลูกแฝดอีก 1 คนของเขา
ตอนนั้นเขาจะรับผิดชอบเธอทุกอย่างแต่เธอไม่ยอมฟัง และแอบหนีเขาไปจนได้ ด้วยความปากหมาของตัวเองเป็นเหตุ
วันนั้นเขาประกาศต่อหน้าเพื่อน ว่าจะไม่มีเมียให้มาปวดหัว ชีวิตนี้ขอเป็นเพียงหนุ่มเจ้าสำราญเท่านั้น
เธอคนนั้นที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเขาอยู่หลายครั้ง เข้ามาได้ยินในสิ่งที่เขาพูดโดยบังเอิญ เธอคิดว่าคนอย่างเขาคงไม่จริงจังกับใครตามที่ปากเขาพูดไว้แน่ๆ เธอเลยจำใจจากเขาไปทั้งที่ยังรักเขาอยู่มาก แต่ก็กลัวว่าถ้าอยู่ก็คงจะเจ็บไปมากกว่านี้ และอีกอย่างเธออยากมีเพียงแค่รักเดียว ไม่อยากเป็นน้อยเป็นหลวงอะไรทั้งนั้น
มาร์คัสย้ายมาตั้งรกรากและขนถ่ายอาวุธที่ประเทศบ้านเกิดของแม่มาร์ติน ไม่ได้ตามหาเธอเพราะเดี๋ยวจะเสียเหลี่ยมมาเฟีย ถ้าจะเจอก็อยากแค่บังเอิญเจอเธอเท่านั้น แต่ตอนนี้เหมือนข่าวของเธอเข้าหูมาว่าเธอไม่ได้กลับมาที่นี่เขาเลยจำเป็นต้องไปหาเธอที่ประเทศอื่น
“รู้สึกตัวช้าไปหรือเปล่าครับพ่อ ตอนที่ผมต้องการแม่ทำไมไม่ยอมไปตาม? จะไปอะไรตอนนี้”
มาร์ตินพูดออกมาอย่างหงุดหงิด แต่ก็พยายามข่มอารมณ์เอาไว้ ไม่อยากจะก้าวร้าวพ่อที่ให้กำเนิดเขาไปมากกว่านี้
“ก็ฉัน.....” เขาถึงขั้นชะงัก...มันเป็นปัญหาโลกแตกที่เขาก็อธิบายกับลูกชายของเขาไม่ได้
ตอนนั้นผู้เป็นพ่อบอกกับเขาไว้แค่ว่าจะไปตามหาแม่มาให้ และก็หายจากวงโคจรของชีวิตเขา ปล่อยให้เขาต้องคุมกิจการเอง ไม่ว่าจะเป็น ผับ บาร์ คาสิโน ค้าอาวุธ และอื่นๆ เขาต้องดูแลมันทั้งหมด
มาร์ตินทำมันทุกอย่างได้ดี ตอนเรียนเขาเป็นแค่นักศึกษาน้องใหม่ทรงแบดบอย ที่มีอีธานเดินตามอยู่ไม่ห่าง มีมาร์ตินที่ไหนก็จะเจออีธานที่นั่น เรียกว่าตัวติดกันยังกับฝาแฝดกันเลยก็ว่าได้
ใบหน้าที่หล่อเหล่าของทั้งคู่ทำให้เดินไปที่ไหนก็เป็นจุดสนใจ แต่ก็น่าเกรงขามในเวลาเดียวกัน
เขาทั้งคู่เป็นที่รักในหมู่เพื่อนฝูง เพราะความเป็นกันเองเฮไหนเฮนั่น ไม่ว่าเพื่อนในกลุ่มจะมีเรื่องกับใคร มาร์ตินกับอีธานก็ไม่เคยเกี่ยง เขามักจะร่วมวงชกต่อยด้วยเสมอโดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้ลูกน้อง เพราะต่างก็มีฝีมือที่ซ้อมกันมาตั้งแต่เด็กๆ ด้วยกันทั้งคู่
ตอนอยู่มหาลัยเขาก็รับบทเป็นแค่หนุ่มวิศวะสายลุย ทรงแบด เก็บบทมาเฟียมาใช้ในเวลางานเท่านั้น เวลาเลิกเรียนพวกเขาจะไปสิงสถิตกันอยู่คลับของมาร์ติน
@ ลูธคลับ
คลับที่ด้านในตกแต่งอย่างหรูหรา มีทั้งโซนหน้าเวทีที่มีนักร้องเต็มวง และโซน วีไอพีที่อยู่ด้านบนมองเห็นด้านล่างได้อย่างชัดเจน โซนนี้สำหรับนักดื่มที่ไม่ชอบผู้คนพลุกพล่านจนเกินไปและชอบความเป็นส่วนตัว ห้องทำงานของมาร์ตินอยู่ที่ชั้น 3 ของคลับ และเขาก็มีห้องเชือดสำหรับสาวๆ ที่ตกหลุมพรางในความหล่อเหลาของเขา เรียกได้ว่าถ้าคิดอยากก็มีมาให้กินแทบทุกคืน
ถึงหน้าตาจะดีและชื่อที่แปลได้ว่าเป็นนักบุญ แต่นิสัยก็ไม่ได้ดีสมกับชื่อ และหน้าตาเลยสักนิด
มาร์ตินดูภายนอกเขาจะดูนิ่ง แต่จริงๆ แล้ว อย่าได้สบตาเขาเลยล่ะ ดาเมจแรงมาก เพราะสายตาเชิญชวนเชิงพิฆาตดึงดูดสาวๆ ให้ใหลหลง
เห็นเขานิ่งแบบนี้แต่แท้จริงแล้ว ทั้งเจ้าชู้ ทรงเสน่ห์ เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว และขี้XXX เป็นที่สุด ทับให้ร้อง ท้องไม่รับ เป็นฉายาของเขา และมันเป็นวลีที่เขาใช้พูดกับเพื่อนอยู่บ่อยๆ แต่คนอย่างเขามีหรือจะพลาด เขาพกเครื่องป้องกันไซส์พิเศษตลอดเวลา
และวันนี้เขาก็เหมือนจะได้ใช้งานมัน ในเมื่อมองไปทางเก้านาฬิกาเขาเจอเข้ากับสาวสวยหุ่นเซ็กซี่ หน้าอกกลมโตจนจะล้นขอบบราเซียลายลูกไม้ที่โผล่พ้นขอบเสื้อออกมาให้เห็นเด่นเป็นสง่า กับบั้นท้ายดินระเบิดที่อยู่ในกระโปรงตัวจิ๋ว แถมยังเต้นยั่วยวนจิกตามองมาทางเขาอยู่อย่างนึกอยากจะกลืนกิน
“กูว่าวันนี้มึงได้อีกแล้วว่ะ” อีธานที่นั่งเป็นเพื่อนดื่ม และบอดี้การ์ดให้นายน้อยเอ่ยขึ้น
“กูก็ว่าเขามองมึงนะ” โจอี้เพื่อนร่วมรุ่นที่มานั่งดื่มกับเขาด้วยในวันนี้ยืนยันอีก 1 เสียง
“นี่พวกไอ้แม็ก มันยังไม่มากันอีกเหรอวะ?” เขาละสายตาจากหญิงสาว และ ตัดบท เบี่ยงเบนความสนใจโดยการถามหาเพื่อนอีกคนนึงแทน
“ไอ้ติน มึงไม่สนใจจริงๆ เหรอวะ?” โจอี้ถามเขามาอีกครั้งที่เห็นเขาพูดเปลี่ยนเรื่อง
“มึงเคยเห็นหน้าหรือเปล่าวะ? ไอ้อีธาน” เขาถามถึงหญิงสาวอีกครั้ง เพราะไม่อยากจะเยใครซ้ำๆ สำหรับเขามันน่าเบื่อเกินไป
“มาใหม่...กูว่า 3 ต่อ 3 ลงตัวพอดี มึงเอาตัวท็อปที่จ้องจะกินมึงอยู่ไปไอ้ติน” อีธานพูดขึ้นอย่างนึกสนใจสาวสวยหนึ่งในนั้น
“เออ...ดิว” เขาพูดพร้อมยกแก้วเหล้าหันไปหาเธอที่นั่งอยู่ไม่ไกลมาก ไม่นานทั้งสามสาวก็เดินตรงมานั่งร่วมโต๊ะกันกับพวกเขา
“กูละทึ่งในความพราวของมึงจริงๆ แค่ยกแก้วผู้หญิงก็เดินมาหาแล้ว...ร้ายนะ คร้าบบบ”โจอี้เอ่ยมาอย่างหยอกล้อ
@คฤหาสน์ ตระกูลลูเธอร์ มาร์ตินวางเธอลงที่เตียงอย่างอ่อนโยน ก่อนที่จะปัดผมที่ปกปิดใบหน้าสวย เขาประคองคนเมาขึ้นมาจูบอย่างปลอบประโลม พลางใช้ลิ้นหนาชิมรสหวานในปากของเธอ คนเมาที่พอได้สติ มองหน้าเขาอย่างชอบใจ ด้วยที่คุ้นกับรสสัมผัสจูบ “พี่ติน” “ไม่เรียกพี่มาเฟียแล้วเหรอ” “อาริส...” เขาไม่รอให้เธอพูดอะไรต่อ ยังบรรจงจูบ ดูดปากแลกลิ้นเธออยู่แบบนั้นอยู่นานสองนานจนเธอเริ่มเกิดอารมณ์ เธอถอดเสื้อของเขาออก พร้อมลูบไล้ไปที่กล้ามหน้าท้อง และจุดกลางกาย “รีบเหรอ” เสียงทุ้มหนาเอ่ยถามส่อสายตาเชิญชวน “จะให้รออะไรล่ะคะ” เธอผลักเขาลงไปกับเตียง ก่อนที่จะเป็นฝ่ายขึ้นคร่อมเขาแทน “ทำไมเมาแล้วร้อนแรงจัง?” “ก็หน้าพี่มันยั่วอาริสหนิคะ” “พี่ยั่วเราตรงไหน” เขาพูดพร้อมถอดกางเกงยีนต์ของเขาออกให้เหลือเพียงร่างกายที่ล่อนจ้อน อาริสมองกลางกายที่เธอนั่งทับอยู่ เพราะมันเริ่มจะตื่นตัว ทั้งๆ ที่เธอยังไม่ได้ทำอะไรเขาเลยสักนิด “พี่ถอดหมดแล้ว...เราไม่คิดจะถอดหรือไง?” “พี่ก็ถอดให้อาริสสิคะ...อาริสถอดไม่ไหว
“วันนี้เราจะไปไหนกันดีจ๊ะเพื่อนสาว” เสียงใสเอ่ยถามเพื่อนๆ หลังจากเรียนวิชาสุดท้ายจบ “ฉันหูฝาดหรือเปล่าวะแก...” ลูน่าพูดมาด้วยความสงสัย เพราะไม่ได้ยินเสียงเพื่อนจอมแสบของเธอแบบนี้มานานแล้ว “ไม่รู้ล่ะ! วันนี้ฉันว่างพวกแกทำตัวให้ว่างด้วย ห้ามมีใครมีนัดที่ไหน หรือถ้ามีก็ยกเลิกซะ” “แกจะชวนพวกฉันไปไหน?” “ไปเที่ยวคลับ...วันนี้ฉันจะ ดื่ม จะแดนซ์ให้สุดเหวี่ยงไปเลย” อาริสพูดพร้อมลุกขึ้นเต้นออกอาการดีใจสุดฤทธิ์ “แล้วว่าที่สามีแกให้ไปเหรอ?” “วันนี้พี่ตินกลับดึก...ฉันก็เป็นอิสระ” “แกจะไปที่ไหน” ลูน่าถาม “คลับที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ลูธคลับ” “ยัยโรส กรุณาทำตัวให้ว่างด้วย ยกเลิกนัดพี่เจมส์ 1 วัน” อาริสหันไปตวัดสายตามองเพื่อนสาวที่กำลังพิมพ์ตอบแชทกับผู้ของนางอยู่ “ได้อยู่แล้วเพื่อนสบายมาก...ไหนๆ วันนี้เพื่อนรักได้ออกจากกรงทองเสียทีฉันจะไม่ว่างได้ไงล่ะ” โรสพูดพร้อมกอดคอเพื่อนรักอย่างดีใจ พวกเธอไม่ได้เที่ยวด้วยกันนานแล้วตั้งแต่ยัยเพื่อนตัวดีเข้าพิธีหมั้น “เสียดายว่ะ...ที่วันนั้นเรานัดกันไปบาร์โฮส
รถสปอร์ตคำรามเบาลง เมื่อเข้ามาจอดที่หน้าคณะนิเทศ “จุ๊บ!” “พี่ตินพอได้แล้ว...จะจูบอะไรนักหนา” เธอต้องผละกอดออกเพราะเขาหอมเธอไม่หยุด ทั้งที่ทำเรื่องอย่างว่ามาตลอดทั้งคืน คนอะไรก็ไม่รู้หื่นกับฉันไม่เลิก ตอนนี้เราย้ายมาอยู่ที่คอนโดที่เขาซื้อเอาไว้ ก็ไอ้ห้องแห่งความลับ ที่มันไม่ค่อยลับเท่าไรนั่นแหละค่ะ บางทีฉันก็งองแงขอกลับไปนอนที่บ้านฉันบ้าง แต่เขาก็ไม่ยอมยังจะตามฉันไปทุกที่ หมดกันชีวิตในรั้วมหาลัยที่ฉันคิดเอาไว้ว่ามันจะสนุก และเป็นอิสระ อุตส่าห์หนีจากพี่ชายจอมเผด็จการที่ชอบตั้งกฏกับฉันไป ซะทุกอย่างแล้วนะ ตอนนี้ฉันต้องมาเจอว่าที่สามีในอนาคตที่พยายามทำตัวติดกับฉันแจ นี่ถ้าขึ้นไปนั่งเรียนกับฉันได้คงขึ้นไปแล้วละมั้ง ฉันต้องการอิสระบ้าง แต่ทำไม! มันไม่เคยได้อย่างที่ฉันคิดเลยนะ แต่มันก็ดีที่มีเขานะคะ เขาดูแลฉันดีทุกอย่างวันไหนที่ไม่ได้เจอก็จะเหงาแบบบอกไม่ถูกเลยจริงๆ เอาเป็นว่าฉันโชคดีที่ผู้ชายคนนี้ยอมหยุดเจ้าชู้เพราะฉันก็แล้วกัน เขาพูดเรื่องแต่งงานทุกวันจนฉันก็เริ่มรำคาญ บางทีฉันไม่ตอบก็อยากจะทำให้ฉันท้องซะ
มาร์ตินช่วยงานพ่อของเขาบ้างเป็นบางครั้ง และไปส่งเธอทุกเช้า และไปรับเธอทุกเย็น“ยังไงครับลูกพี่...เรียนจบแต่คนไม่จบเหรอครับ?” เจมส์พูดมาอย่างล้อเลียนที่เห็นรุ่นพี่จบ แล้วยังมานั่งที่ใต้ตึกคณะอยู่“กูมาเฝ้าเมียกู...และกูก็จะมาบอกมึงว่าให้ช่วยส่องให้กูด้วย อย่าให้ใครมายุ่งกับเธอเด็ดขาด ไม่งั้นกูจะเล่นมึง”“อ้าว! แล้วผมเกี่ยวอะไรด้วย”“บิ๊กไบค์คันใหม่ล่าสุด 1 คัน มึงพอใจไหม?”“ได้เลยครับ...ผมจะกันท่าให้อย่างดี”“เออ”มาร์ตินขับรถสปอร์ตไปรับเธอที่หน้าคณะเมื่อดูเวลาที่ข้อมือ“ทำไมวันนี้มาเร็วจัง”“พี่นั่งอยู่ที่ตึกวิศวะ...ไม่ได้ไปไหน” วันหมั้น “ดีใจไหมที่ได้หมั้นกับพี่” มาร์ตินกระซิบถามทั้งที่พึ่งจะจบพิธีหมั้นช่วงเช้า“ดีใจสิคะ”เขายืนสวมกอดเธอไว้แน่น ทั้งที่อยู่ในห้องนอนของเขา“ถ้าพี่ไปทำงานแล้วห้ามให้ใครมาจีบนะ”“รู้แล้วค่า...ที่รัก”“แล้วก็รีบเรียนให้จบเราจะได้แต่งงานกันสักที”“จะแต่งเลยเหรอ อาริสขอเที่ยวก่อนไม่ได้หรือไง? สักอีก 2 ปีค่อยแต่ง”“ไม่ได้พี่อยากมีลูกแล้ว”“แต่อาริสอยากเที่ยวก่อนหนิ”“แต่งแล้วก็เที่ยวได้”“โหย...อยากเที่ยวแบบโสดๆ”“โสดบ้าอะไร...พูดอะไรเกรงใจแหวนในมือหน่อยนะ”
3 เดือนต่อมา“ไงครับ...รักกันจนได้เนอะ”“หวานแหวว”เสียงเพื่อนที่เดินเข้ามาใหม่เอ่ยแซวที่เห็นทั้งคู่นั่งอยู่ด้วยกัน“เออ! ไอ้ติน วันนี้แม่กูบอกว่าให้ไปกินข้าวที่บ้าน”“มีอะไรวะ”“กูก็ไม่รู้”“อาริสไปกับพี่ไหม?”“พี่ตินไปเถอะค่ะ...ช่วงนี้อาริสต้องกลับบ้าน เพราะแม่กับพ่อกลับมาแล้ว”“เหรอครับ”ณ คฤหาสน์ ตระกูล ลูเธอร์หลังจากเลิกเรียน รถสปอร์ตหรูได้ขับเข้ามาจอดด้วยมีอีธานเป็นคนขับมาร์ตินเดินเข้าไปในตัวบ้าน“แม่นมครับ”“มาแล้วเหรอคะคุณหนู”หญิงวัยกลางคนวิ่งเข้ามาหาเขาด้วยท่าทางที่ดีใจ“มีอะไรเหรอครับแม่นม?”“มาทางนี้ค่ะ...”แอนนาเดินนำมาร์ตินมายังห้องอาหาร บนโต๊ะอาหารมีพ่อของเขานั่งหันหลังอยู่กับผู้หญิงอีกคน และดูจะรุ่นราวคราวเดียวกันกับพ่อของเขา“กลับมาแล้วเหรอครับพ่อ...งั้นผมก็สบายแล้วดิ”“มานั่งตรงนี้” มาร์คัสสั่งให้ลูกชายมานั่งข้างๆเขาจ้องมองใบหน้าผู้หญิงอีกคนอย่างแปลกใจ ที่ตอนนี้ในตาของเธอคลอไปด้วยน้ำตา“นี่ลูกของเราใช่ไหม?”“ใช่”“นี่แม่แก” มาร์คัสพูดกับลูกชายห้วนๆ สไตล์ลูกผู้ชายมาร์ตินมองเธอด้วยความตกใจ เขาไม่นึกว่าจะได้เจอแม่ของเขาจริงๆ“มาร์ติน แม่ขอโทษ” เธอลุกขึ้นมาจากเก้าอี
หลังเลิกเรียนมาร์ติน รีบแยกตัวออกจากเพื่อน มาที่ห้างดัง ที่แฟนของไอ้เจมส์มันส่งข่าวมาว่าอาริสจะมาดูหนังกับสิงห์ที่นี่เขารีบเดินไปที่ชั้นของโรงหนัง และก็เห็นทั้งคู่กำลังเลือกหนังกันอย่างกระหนุงกระหนิงมาร์ตินยืนแอบมองอยู่ห่างๆ เขาออกอาการโมโห ที่ไอ้สิงห์มันเข้าใกล้เธอได้ขนาดนั้น“ยัยเด็กบ้า!!!” มาร์ตินถึงขั้นสบถให้กับคนที่เข้าใจเขาผิดตอนนี้เธอเดินแยกออกไปที่ห้องน้ำ และมันก็เป็นจังหวะดีที่เขาจะเข้าหาเธอได้“อาริสขอเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ”“ให้พี่ไปเป็นเพื่อนไหม?”“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ...แค่นี้เอง” เธอหันไปบอกกับสิงห์ก่อนที่จะแยกตัวเดินออกไปที่ห้องน้ำ“หึ! มีความสุขดีหนิ?”หลังจากที่อาริสทำธุระเสร็จ เธอเดินออกจากห้องน้ำ ตรงทางเดินมีเขายืนดักรอเธออยู่เธอพยายามรีบก้าวเท้าเดินหนี แต่คนตัวสูงก็จับตัวเธอเอาไว้“เขาลากเธอไปที่ลานจอดรถ”“ปล่อยฉันนะ” เธอร้องจนเขาต้องเอามือปิดปากร่างบางโดนกดให้นอนราบไปที่หน้ากระโปรงรถ พร้อมกับคนด้านบนที่โน้มใบหน้าเข้ามาใกล้“หยุดนะที่นี่มันไม่เหมาะ...พี่จะทำอะไร?”“แล้วที่ไหนเหมาะ...เธอช่วยบอกหน่อย?”“ปล่อย...ฉันไม่ไปไหนทั้งนั้น ฉันจะเข้าไปดูหนังจะถึงเวลาแล้ว”“ใครบอ
Comments