ถ้าแนะนำตัวพร้อมเรื่องเฮงซวยทั้งหมดในชีวิต
ชีวิตฉันคงเหมือนนางเอกในละครน้ำเน่า
แต่ชีวิตฉันมันเป็นแบบนั้นจริงๆนะ และฉันก็อยากจะป่าวประกาศให้คนทั้งโลกรู้ ถึงความจอมปลอมของคนหน้าใหญ่ใจถึงพวกคุณหญิงคุณนาย ที่ทำตัวเองดูดีตีกระบังออกงานสังคม แต่หนี้ถมแทบจะท่วมหัว
ถมจนให้นังชมพูพิงค์คนนี้มารับกรรม เห็นชื่อแบบนี้ชีวิตฉันไม่ได้หวานแหววโรยด้วยกลีบกุหลาบ มันมีแต่ขวากหนาม และเรื่องเฮงซวยตั้งแต่ฉันเกิด
ฉันเป็นลูกคนใช้ในบ้านเอกอัครราชทูตประจำกรุงแคนเซล (ประเทศxx) ที่ถูกคุณหญิงผกาชุบเลี้ยงตั้งแต่เด็ก เนื่องจากแม่ฉันมีเหตุผลจำเป็นต้องใช้เงิน
พ่อป่วย ควายที่บ้านนอกตาย ยายเป็นอัมพาต ชนิดที่ว่า..ฉันเกิดมาทุกอย่างแย่ลงปุบปับ เหมือนนรกส่งมาจองล้างจองผลาญแม่
จนแม่ฉันขายฉันมาเป็นลูกบุญธรรมคนอื่น อยู่สุขสบายเป็นลูกคุณหนู ซึ่งแรกๆทุกคนก็ดีกับฉัน พาออกงานสังคัง เอ้ย! สังคมเป็นทางการ ว่าฉันคือลูกสาวเอกอัครราชทูตที่แตกสาวพร้อมจะออกเรือนแล้ว!
ใช่...การออกงานสังคมที่ว่า คุณหญิงแม่แค่ต้องการให้ฉันไปจับผู้ชายในงาน ลูกไฮโซ ลูกเจ้าของธุรกิจพวกอสังหาริมทรัพย์ ใครก็ได้ที่รวยมหาศาลพอที่จะใช้หนี้สี่สิบล้านให้ท่านได้
แต่เรื่องอะไรฉันจะยอมให้คนดีๆพวกนั้นมารับกรรมที่ไม่ได้ก่อ ทุกคนที่คุณหญิงแม่ทาบทามและดันหลังฉันกระโจนหาเขา เขายังหนุ่มยังแน่นยังเอ๊าะๆกันทั้งนั้น
ฉันจึงยอมดิสเครดิตตัวเอง บอกว่าเป็นผู้หญิงเละเทะสำมะเลเทเมา เน่ายิ่งกว่าน้ำในคลองแสนแสบ เพื่อให้ตัวเองรอด และทุกคนรอดวินๆ
ยกตัวอย่างเช่น..
'ฮึกๆ พี่เหม...อย่าบอกใครนะคะ พิงค์ไม่ใช่ลูกแท้ๆของคุณหญิงแม่หรอกค่ะ พิงค์เป็นลูกคนใช้ และพิงค์ก็เคยถูกคุณหญิงเรียกไปบำเรอสามีตัวเอง ฮือๆ มันทุเรศมากๆ' พิงค์เกลียดตัวเอง'
ใครได้ยินแบบนี้ก็หน้าถอดสีทั้งนั้น แม้กระทั่งอีกสองสามคนที่คุณหญิงแม่ยัดเยียดให้
มีพี่เต้ พี่พัท พี่ดล ฉันบอกทุกคน แต่พี่ๆไม่ได้ขยาดฉันหรือผลักไสไล่ส่ง ทุกคนสงสาร...อยากให้ฉันหลุดจากวงจรอุบาทว์นี้มากกว่า
แต่ฉันไม่ได้ขอเงินพี่ๆหรือยืมเขามาใช้หนี้หรอกนะ ฉันแค่อยากเอาตัวรอดจากการคลุมถุงชน ที่คุณหญิงแม่เห็นฉันเป็นผักเป็นปลาเอาไปใช้หนี้นอกระบบ และหลอกคนอื่น
"รอดแล้วแก เฮ้อ พี่เหม พี่เต้ พี่พัท พี่ดล ทุกคนเซย์กู๊ดบายฉันแล้ว^^"
และตอนนี้ฉันก็วางกระเป๋าชาแนลบอยลงบนโต๊ะม้าหินอ่อนใต้ต้นมะยม ก่อนจะหยิบลูกมันที่หล่นเป่าฝุ่น ฟู่วๆ แล้วยัดเข้าปาก
อ๊ายยยยย~ เปรี้ยวจี๊ดน้ำตาเล็ดเลย><
"อี๋~ดีแล้วที่หนุ่มๆพวกนั้นเซย์กู๊ดบาย แกทำตัวไม่เหมือนลูกคุณหนูเลย กินไปได้ยังไงเนี่ย สกปรก-.,-"
พู่กันเบะปากใส่ฉัน และเขี่ยลูกมะยมที่เหลือบนโต๊ะทิ้งทันที ก่อนที่ฉันจะรีบจับมือเธอไว้ เพราะฉันจะกินต่อ
จะบอกอะไรให้...พู่กันคือเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของฉัน ย้ำชัดๆนะ..ว่าคนเดียว
ก่อนหน้านี้ปีหนึ่งสองสาม..ก็มีมากล้นโต๊ะอยู่นั่นแหละ แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครจริงใจกับฉันเลย จนเวลามันดีดคนพวกนั้นออกไปทีละคนสองคน เพราะรู้ความจริงและรับไม่ได้ที่ฉันเป็นลูกคนใช้
มีแต่พู่กันคนเดียวเข้าใจ และไม่เคยทิ้งฉันไปไหนเลย
พู่กันเป็นคนสวยหมวยอินเตอร์ ขาว อึ๋ม ตาชั้นเดียวแต่บางวันก็สองชั้นนะ..เพราะเธอติดสติ๊กเกอร์ เอาเถอะแบบไหนก็สวย เพื่อนฉันสวยที่สุด
"ว่าแต่แกไปทำอีท่าไหน หนุ่มไฮโซพวกนั้นถึงลาขาด ไม่เอาแกเป็นเมีย"
"ฉันบอกว่าฉันโดนบังคับ ให้บำเรอพ่อบุญธรรม ^^"
พูกันที่กำลังก้มเปิดกระเป๋าเงยขึ้นมองฉัน และตาเบิกกว้างเท่าไข่ห่าน เมื่อเห็นฉันพูดเรื่องนี้หน้าระรื่น
"ห๊ะ? แกจะบ้าเหรอ? แกพูดแบบนั้นได้ไง ไม่ใช่แกคนเดียวนะที่เสีย พ่อบุญธรรมแกก็เสียด้วย"
ฉันชะงัก..และหยุดเคี้ยวลูกมะยมทันที ก่อนที่จะหัวเราะหึ!ออกมา
ที่บ้านหลังนั้นไม่มีใครดีสักคน ปลอมเปลือกกันทั้งนั้น พ่อบุญธรรมถ้าไม่อยู่เมืองนอกเมืองนา ป่านนี้คงจับฉันเป็นเมียอีกคนไปแล้ว
"ปล่อยไป เขาก็ไม่ใช่คนดีอยู่แล้ว ฉันต้องเอาตัวรอดจากบ้านเฮงซวยนี้ให้ได้ ตอนนี้ก็ปีสี่เทอมสุดท้าย...ฉันคิดว่าเรียนจบฉันจะพาแม่หนี และทุกอย่างจะจบ!"
พู่กันเริ่มกุมขมับนวดเบาๆกับความคิดฉัน ซึ่งฉันคิดว่ามันน่าจะเข้าท่า..และโอเคที่สุดแล้ว
ก็หนี้พวกนั้นคุณหญิงแม่เป็นคนก่อ เล่นการพนัน โลภมาก ทำไมฉันต้องแต่งงานจับผู้ชายมาใช้หนี้ให้ท่านด้วย รู้ว่ามีบุญคุณกับฉัน..แต่ฉันขอตอบแทนด้วยวิธีอื่นเถอะ
ให้ฉันไปร่วมหอลงโลงกับคนที่ฉันไม่ได้รัก ฉันทำไม่ได้หรอก
"แกคิดว่าแกจะหนีรอดเหรอ? แกเคยบอกฉันฉันจำได้! ถึงหนุ่มๆไฮโซไม่เอาแก ก็มีเจ้าหนี้แก่ๆของแม่แกรอเครมแกอยู่"
!!!
พอได้ยินพู่กันพูดถึงสิ่งที่ฉันกลัว..และอยากลบมันทิ้งออกจากหัว ฉันก็หลับตาลงควบคุมอารมณ์เดือดปุดๆของตัวเอง
นี่ล่ะคือสาเหตุ..ที่ฉันอยากเรียนจบเร็วๆและรีบหนี เพราะถ้าคุณหญิงแม่จนมุม..ท่านก็จะเอาฉันขัดดอกให้ได้ ไม่ว่าหนุ่มเล็กหนุ่มใหญ่ท่านไม่เคยสน
ขอแค่ท่านหลุดพ้นจากหนี้สี่สิบล้านก็พอ
"นี่ไงแก..เรียนจบ ฉันต้องรีบหนี"
"รีบ? ก็ใช่..แต่แกคุยกับแม่แท้ๆแกรึยัง? การหนีพวกมีอิทธิพลทั้งด้านมืดอย่างเจ้าหนี้แก และด้านขาวอย่างพ่อเอกอัครราชทูต ฉันว่ามันต้องวางแผนต้องรอบคอบนะ ไม่งั้นแกถึงทางตันแน่ๆอ่ะ แต่ละคนธรรมดาที่ไหน"
ฉันมองหน้าพู่กันทันที วันนี้ฉันอุตส่าห์โล่งและมาบอกข่าวดีกับเธอแท้ๆ แต่พู่กันดันหาปริศนาให้ฉันแก้อีก
ถ้าฉันหนีไม่ทันจะทำยังไง? โอ้ย..ต้องเป็นเมียคนแก่คราวพ่อ หนักกว่าพี่ๆที่ฉันดิสเครดิตตัวเองอีกเหรอ?
อ้วกแตก!
"ฉันค่อยคิดไม่ได้เหรอ? แค่แผนหนีไฮโซหนุ่มๆฉันก็เสียไม่รู้จะเสียยังไงแล้วTT"
"เฮ้อ แกมีเวลาสามเดือนเองนะที่แกจะเรียนจบ ถ้าแกไม่รอบคอบและมีแผนวางไว้เนิ่นๆ แกคิดเหรอว่าจะปลอดภัย? ไหนจะหนีเจ้าพ่อปล่อยเงินกู้ ไหนจะแม่บุญธรรมแกอีก เขาเลี้ยงแกมาตั้งนาน.แค่มองตาก็รู้แล้วมั้งว่าแกจะไปไหน-_-"
ฉันคายเม็ดมะยมทิ้ง และนั่งนิ่งฉุกคิดตาม มันก็จริงอย่างที่พู่กันพูด ฉันควรวางแผนเนิ่นๆ ว่าจะหนีไปที่ไหน? ไปยังไง? ใช้เงินเท่าไหร่?
สามเดือนนี้ฉันจะได้เตรียมตัวไว้ และถลุงตังค์คุณหญิงแม่ให้ได้มากที่สุด
หลังจากคุยกับพู่กันและกลับมาเครียดอีก เข้าเรียนคลาสบ่ายฉันก็มีเหตุสุดวิสัยต้องรีบกลับบ้าน เพราะอยู่ๆแม่แท้ๆก็โทรมาร้องไห้กับฉัน บอกว่ามีชายฉกรรจ์บุกเข้าไปในบ้าน
และทำลายข้าวของทิ้งหลายอย่าง แถมข่มขู่ท่านด้วย
(คุณหนูคะตอนนี้คุณหญิงไม่อยู่ ที่บ้านไม่มีใครอยู่เลย ไม่รู้จะทำยังไงดี นมกลัวของพังมากๆค่ะ เขาบอกบ้านหลังนี้เป็นของเขา และเขาต้องการเจอตัวคุณหนูด้วย)
ไม่ว่าฉันจะกำชับแม่แค่ไหน ว่าอย่าเรียกฉันว่าคุณหนูๆ..ท่านก็ไม่เคยฟัง หลังจากคุณหญิงผการับฉันมาเลี้ยง..แม่แท้ๆฉันก็พูดจาห่างเหินมาก สายตาที่มองฉันก็เหมือนกัน มองเหมือนฉันสูงส่งและไม่ใช่ลูกสาวท่านอีกแล้ว
แต่ช่างเถอะ เรื่องนั้นไม่สำคัญ ที่สำคัญคือคนที่บุกเข้าไปในบ้าน..ต้องการเจอฉันทำไม!?!
"เขาบอกมั้ยคะว่าต้องการเจอหนูทำไม?" ฉันถามปลายสาย และรีบเปิดประตูขึ้นรถสตาร์ท
(มะ..ไม่บอกค่ะ แต่เขาใช้ปืนขู่มู่ทู่ และเตะมู่ทู่ด้วยค่ะ)
เตะมู่ทู่?! O_O
กรี๊ดดด ทำไมต้องเตะหมาฉันด้วย!!! >[]<
"เฮ้ย! พวกมึงโทรหาช่างกระจกสิวะ!"เฮ้อออออ!..เป็นแบบนี้ไม่รู้กี่ร้อยครั้งที่บ้านเรากระจกพัง คุณอิฐเขาก็แก้ปัญหาด้วยวิธีเดิมๆของเขา คือใช้ลูกน้องเรียกช่าง! เขาไม่เคยห้ามลีอองเรื่องเล่นปืนเลยสักครั้ง จนนานเข้าๆลูกชายตัวแสบสอยแจกันบ้างล่ะ สอยถ้วยน้ำชาพ่ออัฐแตกบ้างล่ะแต่ก็เป็นเช่นเดิม..คือคุณอิฐไม่ดุลีอองเลย ต่อให้ของที่พังมันจะมูลค่ามหาศาลและแตกไปต่อหน้าต่อตาเขาก็ตาม เขาก็จะเพิกเฉย! ซึ่งแตกต่างจากลิลินมากเลย..รายนั้นถูกดุแทบทุกเรื่องปกติพ่อต้องสปอยลูกสาวไม่ก็ตามใจมากๆใช่มั้ย แต่บ้านนี้ไม่!!...คุณอิฐเขาไม่เคยใจดีกับลิลินเลย มันต่างจากลีอองลิบลับโดยเฉพาะเรื่องติณห์ที่ฉันหว่านล้อมทุกวัน ลูกสาวเราแปดขวบและติณห์ก็โตมาหล่อนิสัยดีมาก! คุณอิฐเขาก็ยังไม่ยอมให้ลูกไปสนิทกับติณห์ แถมยังดุทุกครั้งที่ลิลินพูดถึงนี่ขนาดเป็นลูกชายเพื่อนสนิทซีอีโอสายการบินเวลฟายนะ ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นตาสีตาสาล่ะ?...หึ! ฉันว่าชาติหน้าตอนบ่ายๆก็ไม่ได้ย่างกรายเข้ามาในชีวิตลูกสาวเขาหรอกจนหลังจากที่ถูกห้าม ลิลินก็ตึงตังกลับขึ้นไปบนบ้าน และเดินลงมาพร้อมกระเป๋าเป้หนึงใบ...ไปหยุดที่พี่ชะเอม"ป้าเอมคะ ไปส่งลินที่บ้านพี่ติณห
ทั้งโรงพยาบาลเวลานี้ตีสองย่างตีสาม คงจะมีแค่ฉันคนเดียวสินะทีี่แหกปากโวยวาย และใช่ลูกน้องคุณอิฐก็เดินนำแหวกทางให้ เพื่อจะได้เคลียร์ทางส่งฉันให้ถึงห้องคลอดเร็วที่สุดจะว่าเวอร์วังก็ว่าไปเถอะฉันไม่เถียง เพราะเสียงรองเท้าตึกๆที่วิ่งตามเป็นขบวนตอนนี้มันมีความหมายกับฉันเหลือเกิน ฉันรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะคลอดทายาทของตระกูลมาเฟียหรือหัวหน้าใหญ่ของพวกเขายังไงอย่างงั้น!เพราะทุกคนเดินไปมองทางไปเคร่งเครียดมาก และหนำซ้ำไม่พอ..ยังกางแขนกั้นคนอื่นไม่ให้มองมาที่ฉันอีกมันเป็นธรรมเนียมต้อนรับผู้สืบทอดตำแหน่งเหรอ?! ทำไมแห่กันมาทั้งบ้านและเวอร์กันขนาดนี้! ฉันรู้สึกว่าตัวเองสำคัญก็จริง แต่ใจฉันก็กลัวว่าตัวเองจะรบกวนคนไข้คนอื่นด้วย"คุณพิงค์ถึงห้องคลอดแล้วครับนาย!"เมื่อถึงประตูห้องคลอด..ลูกน้องฝั่งซ้ายก็โทรรายงานคุณอิฐทันที ที่ตอนนี้เขาไปเคลียร์งานที่บ่อนตั้งแต่เย็นและยังไม่กลับซึ่งฉันที่ปวดท้องยิ่งได้ยินและยิ่งโมโหมาก เขารู้ทั้งรู้ว่าฉันใกล้คลอดนะ! แต่ทำไมไม่มาดูแลฉันด้วยตัวเอง จะส่งลูกน้องมาเป็นขบวนแบบนี้ทำไม! เขาเป็นพ่อลูกสองแล้วยังคิดไม่ได้อีกเหรอ?!แต่ดีนะที่พี่หลินพี่ชะเอมช่วยดูลิลินให้ ไม่อย่า
รู้ไหมว่าการหลอกสามีมันยากกว่าลอกข้อสอบไฟนอลอีก ฉันกลัวคุณอิฐเขาเตะตัดขาเรื่องติณห์มาก ยิ่งได้ยินเขาห้ามลิลินเรื่องบอกรักแบบนั้นฉันยิ่งกลัวอะไรก็ไม่รู้ก็แค่เด็กบอกรักกัน ทำไมเขาต้องห้ามลูกจริงจังเบอร์นั้นด้วย!!!"ลิลิน หลังจากนี้หนูไม่ต้องคุยเรื่องพี่ติณห์กับปาป๊านะลูก เพราะปาป๊าอาจจะห้ามหนูไม่ให้เจอพี่ติณห์อีก ""ค่ะ ได้เยยๆ" ลิลินรับคำทันทีซึ่งมันดีมาก และแบบนี้ล่ะเข้าแผนการ เชื่อแม่แล้วจะได้ดีทุกคน!หลังจากวันนั้นที่ฉันกำชับลูก ฉันก็คอยหลบหลีกคุณอิฐพาลิลินไปเที่ยวเล่นบ้านพี่เต้บ่อยๆ แถมอ้างกับหมอน้ำแข็งว่าลิลินแค่อยากมาหาอันติงเท่านั้น ไม่ก็เราขับรถผ่านๆเลยแวะมาทักทายซึ่งหมอน้ำแข็งก็ไม่ว่าอะไร จนระหว่างที่ทิ้งลูกให้เล่นกับตุ๊กตาในกรงใหญ่ๆ เราสองคนก็มีเวลาคุยกันมากขึ้น "ลิลินไหวพริบดีนะคะ คิดไว้รึยังว่าจะให้เธอเรียนอะไร?"เอ่อ...ลูกเพิ่งสองขวบกว่าๆฉันต้องคิดเรื่องเรียนให้ลูกแล้วจริงดิไม่ทันตั้งตัวเลยนะเนี่ย เพราะก่อนหน้านี้ไม่กี่ปี ฉันเพิ่งเรียนจบเอง-_-"ยังเลยค่ะ คงต้องรอดูไปก่อน^^""อืม งั้นตอนนี้ก็สังเกตลิลินเลยนะคะ สังเกตว่าชอบอะไร หรือสนใจอะไรเป็นพิเศษ จากนั้นค่อยหาอุปกรณ์ข
"รูดกันเป็นว่าเล่นเลยเว้ย-_-""อะไรวะ? " ผมขมวดคิ้วถามไอ้เต้ เมื่อมันหยิบโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนจากเสื้อสูทตัวเองออกมา ก่อนที่มันจะส่ายหน้า แล้วเปิดข้อความเลื่อนผ่านๆให้ผมกับไอ้พีมดู"เมียกูถึงห้างไม่ถึงสิบนาทีรูดไปแล้วหกแสน" "อย่างมึง ขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอกกูรู้^^" จริงของไอ้พีม อย่างไอ้เต้หกสิบล้านยังจ่ายได้สบายๆแค่หกแสนมันจะบ่นอะไรนักหนาวะ"มึงให้เมียไปแล้ว อย่าบ่นสิวะ" ผมบอก..ก่อนจะจิบไวน์ขวดละล้านของมันพอหอมปากหอมคอ"ถ้าเมียรูดซื้อของตัวเองกูไม่บ่นเลย แต่นี่ของติณห์ทั้งนั้น! มันเกินเด็กไปว่ะ ""เดี๋ยวโตขึ้นก็บริหารสายการบินต่อ มึงก็ไปพักผ่อนไงวะ แล้วนี่อันติงไปไหนล่ะ?ทำไมไม่ไปช็อปกับแม่^^"ไอ้พีมถาม เพราะปกติไอ้เต้จะเป็นคนเลี้ยงลูกสาวคนเล็กในห้องทำงานนี้"แม่กูพาไปสวนสัตว์ ตอนแรกก็วางแผนจะพาไปทั้งพี่ทั้งน้อง แต่ลูกชายกูไม่ยอม..บอกว่าเหม็นและสกปรก กูเลี้ยงลูกผิดรึป่าววะเนี่ย!-_- "ผมกับไอ้พีมมองหน้ากันทันที เมื่อไอ้เต้มันบ่นและถอนหายใจอย่างหัวเสีย เพราะนานทีผมจะเห็นมันโหมดนี้ จนไอ้พีมมันพูดขึ้นมาว่า"ลูกมึงเกิดมาเป็นคุณชาย และเป็นหลานชายคนแรกของสองตระกูลที่ร่ำรวยติดอันดับ มึงจะก
เอายังไงดี เพราะเสียงคุณสามีระดับไม่คงที่เลย เขาคงเต้นอยู่แน่ๆ หรือไม่ก็...อุ้มลิลินเต้นด้วย!!เพราะเมื่อกี้ฉันได้ยินกับหูตัวเอง รู้สึกว่าเขาจะถามลูกเรื่องเต้นมั้ยอะไรสักอย่าง?! มันต้องใช่แน่ๆเลย'อาบน้ำๆ อาบน้ำๆ กันเถอะ~อาบน้ำแล้วสบายตัว~ 'แหม..อินโทรก็มา ถ้าแรปด้วยนี่ฮาเลยนะ แต่น่ารักดี.. ฉันชอบคุณอิฐโหมดนี้จังและฉันไม่อยากเข้าไปขัดจังหวะเลยด้วยซ้ำ อยากให้เขาเล่นกับลูกบ่อยๆร้องเพลงให้ฟังเรื่อยๆแบบนี้ ถึงเขาต้องแอบทำในที่ลับตาคนก็เถอะและลิลินต้องเข้าใจนะลูก ปาป๊าของลูกเป็นมาเฟีย! เขาต้องคีพลุค! ส่วนหนูก็ยอมๆหรือไม่ก็ทนปาป๊าเขาร้องเพลงไปก่อน โตแล้วค่อยไปฟังพี่ติณห์ร้องแทนคำก็ติณห์สองคำก็ติณห์ ไอ้แผนจับติณห์ใส่กระด้งมันไม่เคยหลุดออกจากหัวฉันเลย ที่ผ่านมาฉันเลี้ยงลูกทะนุถนอมสุดๆ ทั้งทาครีมถนอมผิวทั้งทำสปาเด็ก เพราะมีเรื่องนึงอยู่ในหัวตลอดเวลาใช่ค่ะ..ลิลินต้องสวย ต้องเก่ง ต้องเป็นที่หมายตาของติณห์ และโตไปเธอต้องเป็นผู้หญิงเพอร์เฟคจนติณห์ต้องตามจีบ หรือไม่พี่เต้กับหมอน้ำแข็งต้องเห็นดีเห็นงามจับหมั้นหมายกันไว้แต่เนิ่นๆโอ้ยถ้าเป็นแบบนั้นชีวิตลูกสาวฉันคงจะดีมาก แต่ทั้งหมดที่ฉันคิดแล
หลังจากถ่ายรูปเสร็จ ฉันคุยกับวิสัญญีแพทย์ไม่กี่คำก็เผลอหลับไปก่อนที่จะตื่นขึ้นมาในเช้าตรู่ที่แสนสดใส และเห็นเพื่อนสนิทพ่อๆพี่ๆบอดิการ์ดของฉันยืนเต็มห้องไปหมด"น่ารักที่สุดเลยลิลินของอา""ไหนขอปู่อุ้มหน่อย""ดีๆนะพ่อ พ่อมือหนัก" เมื่อตื่นและปรับสายตาเข้ากับแสงจ้าๆในห้อง ฉันก็เห็นพ่อสามีกำลังอุ้มหลานอยู่จนฉันต้องหันไปมองหน้าสามีทันทีเพราะตอนนี้เขานั่งข้างๆเตียงและกำลังทำหน้าแปลกๆ เหมือนคน..กำลังจะร้องไห้"มึงมองๆหลาน แล้วหน้าเหมือนใครไอัรัฐ" พ่ออัฐถามยิ้มๆ ก่อนที่จะหันมามองที่คุณอิฐแวบนึง จนฉันต้องรีบทำตาปรือ เพื่อแอบดูปฏิกิริยาของเขาฉันอยากให้คุณอิฐเขาเลิกอคติกับพ่อเขาได้แล้ว พ่อลูกกัน..ยังไงๆก็ตัดกันไม่ขาด ถึงจะไม่ได้เลี้ยงดูมาก็ตามแต่สายสัมพันธ์ทางสายเลือดก็ยังอยู่"เหมือนกู""เหมือนกูต่างหาก" พ่ออัฐเถียงและเดินเข้าไปมองหน้าลิลินข้างๆลุงรัฐจนพู่กันพูดขึ้นมาว่า.."เหมือนพู่กันค่ะ น่ารักจิ้มลิ้มเหมือนพู่กันที่สุด^^""ถ้าน่ารักจิ้มลิ้มคงเหมือนพิงค์ ไม่เหมือนเธอหรอก""เอ๊ะ พี่อิฐ!>[]เถียงกันจนได้ ขนาดลิลินหลับอยู่ก็ไม่สนใจ แต่เมื่อพ่ออัฐท่านหันมาเห็นฉันลืมตาขึ้นเท่านั้นแหละ ท่านก