แบล็คเกอร์ ลูกชายมาเฟียผู้หล่อเหลาและแสนจะเย่อหยิ่ง ในชีวิตไม่สนใจผู้หญิงคนไหนเลย แต่...ใครเลยจะรู้ว่า เขาหมายตาจับจองเธอไว้ตั้งแต่ 15 ปีที่แล้ว ด้วยแหวนประจำตระกูล กับคำพูดทิ้งท้ายไว้ให้เธอ "อีก 10 ปีข้างหน้า ฉันจะไปทวงค่าเช่าและแหวนวงนี้กับเธอ ด้วยตัวฉันเอง"
View More15 ปีที่แล้ว
รถสปอร์ตสีดำทมิฬวิ่งมาจอดหน้าคฤหาสถ์หรูใหญ่โตมโหฬาร ด้านหน้าคฤหาสถ์มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่ใหญ่กว่าสระว่ายน้ำธรรมดาปกติ รอบสระมีผู้คนแต่งตัวหรูหรา ถือแก้วไวน์ บ้างก็ยืนสนทนา บ้างก็ยืนดื่มเครื่องดื่มกันมากมายหลายสิบคน งานเลี้ยงรวมตัวของเหล่าเจ้าพ่อ มาเฟีย เจ้าของงานในวันนี้ก็คือหัวหน้ามาเฟีย เจ้าของคฤหาสถ์หลังงามแห่งนี้ เมื่อรถหรูจอดสนิทด้านหน้าของงาน บอดี้การ์ดชุดดำทำหน้าที่เปิดประตูด้านหลังคนขับเพื่อต้อนรับแขกผู้มาเยือนใหม่ มาเฟียวัยกลางคนที่ยังดูหล่อ สมาร์ท มาดขรึมก้าวลงจากรถเป็นคนแรก ตามด้วยหญิงวัยกลางคนที่มองดูแล้วยังสาว ราวๆอายุ 20 ต้นๆ แต่ความจริงแล้วเธออายุ เข้าเลข 4 แล้าวต่างหาก เธอก้าวลงจากรถหรู มือข้างหนึ่งจูงมือเด็กน้อยผมสีน้ำตาลอ่อนคาราเมลเป็นลอนคลื่นเล็กๆยาวประบ่า ผิวขาวใส หน้าตาจิ้มลิ้มน่ารัก ปากอมชมพู อายุราวๆ 10 ขวบ ทั้งสามคนก้าวเดินเข้ามามนงานพร้อมกันท่ามกลางสายตาหลายคู่ที่จับจ้องมองมาที่ทั้งสามราวกับว่าพวกเขาหลุดออกมาจากภาพวาดในนิยายที่สมบูรณ์แบบไม่มีที่ติ "อ้าว สวัสดีครับคุณวินเนอร์ คุณเซริน และน้องวินเซ่" หัวหน้ามาเฟียหนุ่มใหญ่วัยกลางคนเจ้าของงานเลี้ยง และเจ้าของคฤหาสถ์ เดินเข้ามาทักทายแขกผู้มาใหม่ทั้งสาม เขาก้มลงทักทายเด็กน้อยที่เข้ามาพร้อมกับพ่อแม่ของเธอเพียงเล็กน้อยด้วยความเอ็นดู และหันไปคุยกับวินเนอร์และเซรินต่อ "ตามสบายเลยนะวันนี้ มีแต่คนกันเอง ผู้ร่วมธุรกิจของเรากันทั้งนั้น" "ค่ะ" เซรินตอบรับคำด้วยรอยยิ้มหวาน เธอเป็นผู้ตอบรับคำแทนสามีของเธอเพราะรู้ว่าสามีของเธอคงไม่ตอบแน่นอน "วินซ์ (ออกเสียงว่า วิ๊นซ์) ขอไปเดินเล่นแถวนี้นะคะหม่ามี๊" เด็กน้อยเลือกที่จะอยู่ด้านนอกบริเวณสระว่ายน้ำดีกว่า เธอไม่อยากเข้าไปในงานด้านในที่มีแต่ผู้ใหญ่มาดขรึม หน้าตาดุๆ และวางมาดเยอะๆของเหล่ามาเฟียรุ่นลุงๆ "แล้วไม่เข้าไปไปสวัสดีพวกลุงเจค ลุงมังกรและลุงคาร์โก้เหรอลูก" เซรินเอ่ยถามลูกสาว เพราะพวกลุงๆที่เธอพูดถึงเป็นลุงคนโปรดของวินเซ่ก็มาในงานนี้ด้วย "เดี๋ยวค่อยเข้าไปสวัสดีทีหลังค่ะ หม่ามี๊กับป๊าเข้าไปก่อนเลยค่ะ" "อยู่แถวนี้ ห้ามไปไหนไกล" วินเนอร์บอกลูกสาวห้วนตามสไตล์คนพูดน้อยแบบเขา แต่ยังห่วงลูกสาวคนเดียวของตัวเอง "ค่าาาาา" เด็กน้อยรับคำเสียงยาวให้กับความห่วงใยเกินเหตุของพ่อกับแม่ เมื่อคนทั้งสองเข้าไปในงาน วินเซ่ก็เดินมานั่งข้างๆสระว่ายน้ำ เอาเท้าเล็กๆจุ่มน้ำเล่นแกว่งไปมาอยู่สักพัก จ๋อม! เสียงวัตถุบางอย่างล่วงหล่นลงไปในสระว่ายน้ำ เด็กสาวชะโงกหน้าลงไปดูตามเสียงวัตถุนั้น มันคือแหวนที่แม่ของเธอให้เธอไว้ เธอร้อยใส่สร้อยห้อยคอไว้ตลอดเป็นเหมือนเครื่องรางประจำตัวให้เธอรู้สึกว่าแม่ของเธออยู่ข้างๆเธอตลอดเวลาให้อุ่นใจ "แหวน!! ขาดไปได้ยังไงเนี่ย" เด็กน้อยอุทานด้วยความตกใจ แหวนของเธอล่วงลงสระว่ายน้ำไม่พอ ยังล่วงลงไปพอเหมาะพอเจาะลงรูระบายน้ำออกที่อยู่ก้นสระพอดิบพอดีเสีย ด้วย "น้าพายุ ช่วยวินซ์ด้วย แหวนวินซ์ตกลงรูสระว่ายน้ำอ่ะ เอาให้วินซ์หน่อยได้ไหม" เด็กน้อยหันไปบอกลูกน้องคนสนิทของพ่อที่ยืนเฝ้าอยู่แถวนั้นพอดี "ไหนครับคุณหนู" วินเซ่ชี้นิ้วเล็กๆไปยังรูก้นสระที่แหวนตกลงไป "โห มันลงไปในรูระบายน้ำแล้วมั้งครับ เอาออกมาไม่ได้ครับ ถ้าจะเอาออกคือต้องรื้อสระเลยครับคุณหนู" พายุอธิบายให้คุณหนูของเขาฟัง หวังว่าคุณหนูจะเข้าใจและล้มเลิกความตั้งใจที่จะเอาแหวนวงนั้นขึ้นมา "แต่มันคือแหวนสำคัญของหนูนะ ฮืออออ น้าพายุไปบอกป๊าให้รื้อสระเอาแหวนให้วินซ์เดี๋ยวนี้!" เด็กน้อยเริ่มร้องไห้ งอแง เอาแต่ใจ จะให้รื้อเพื่อเอาแหวนของตัวเองขึ้นมาให้ได้ "คุณหนู..." "เกิดอะไรขึ้น!" ยังไม่ทันที่พายุจะได้ตอบและทำตามคำสั่งของคุณหนู ก็มีเสียงทุ้มนุ่มดังขึ้น เจ้าของเสียงทุ้มนุ่มใบหน้าหล่อ สูงโปร่ง อยู่ในชุดสูทสีดำขลับ ดำทั้งตัว ทั้งเสื้อเชิ้ตข้างใน เสื้อสูทข้างนอกและเน็กไทด์ก็ยังเป็นสีดำ ผมสีดำตัดกับสีผิวขาวเซ็ตขึ้นแบบไม่ตั้งใจเปิดหน้าผากข้างหนึ่ง จมูกโด่งปสกได้รูปรับกับใบหหน้าหล่อสไตล์ไอดอลเกาหลี อายุราวๆ 20ปี เห็นจะได้ "คุณแบล็ค! เอ่อ ... พอดีว่าคุณหนูของผมทำแหวนสำคัญตกลงไปในรูระบายน้ำก้นสระครับ ถ้าจะเอาขึ้นก็คงต้องรื้อทั้งสระเลยครับ" พายุอธิบายบอกผู้เข้ามาใหม่ "ใครอนุญาตให้รื้อ!" เขาหันไปทางเด็กน้อยที่กำลังยืนมองลงไปในสระด้วยน้ำตาไหลอาบแก้ม เด็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดของเขาก็หันขวับมาหาเขาทันที "มันสำคัญสำหรับวินซ์นะ" "สำคัญยังไง?" เขาถามกลับทันควัน "มันคือแหวนของแม่หนูที่ให้ไว้ มันคือเครื่องรางสำคัญในชีวิตหนู" "สำคัญมาก ทำไมไม่กระโดดลงไปเอาเองล่ะ" "เอ๊ะ!! มันลงรูไปแล้วค่ะ ถึงลงไปเอาก็ไม่ได้อยู่ดี ต้องรื้อสระค่ะ" "ไม่ให้รื้อ!!" เขาตอบเสียงแข็ง "ฮืออออ แล้วจะเอาแหวนได้ยังไงล่ะ ถ้าไม่มีเครื่องรางต้องใช้ชีวิตลำบากแน่ๆเลย ฮืออออ" เด็กน้อยบ่นพึมพำพร้อมกับร้องไห้ ส่งสายตาอาลัยอาวรณ์ไปที่ก้นสระ มือน้อยๆก้มหยิบสร้อยคอที่เคยร้อยแหวนไว้ขึ้นมาจากพื้นมาถือไว้ ในขณะที่เด็กน้อยกำลังก้มมองดูสร้อยคอด้วยน้ำตาอาบแก้มนั้น มือหนาก็ยื่นมือที่กำอยู่มาตรงหน้าเด็กตัวเล็ก เธอเงยหน้าขึ้นมองกำปั้นนั้นพร้อมกับสลับมองหน้าหล่อไปมา เธอทำหน้าแปลกใจปนสงสัย แต่มือน้อยๆก็ยื่นไปแบรองรับอะไรบางอย่างใต้กำปั้นนั้นโดยอัตโนมัติ วัตถุบางอย่างล่วงหล่นลงบนมือน้อย วัตถุนั้นต้องแสงเล่นกับไฟระยิบระยับกระทบสายตาของเธอ แหวน...แหวนวงใหญ่สีเงินเงาวับ ที่ออกแบบสไตล์เรียบหรู กลางวงแหวนมีพลอยสีนิล 'แบล็ก ลา บรา ดอ ไลท์' เม็ดกลมฝังอยู่บนตัวแหวน ด้านในของแหวนสลักตัวอักษรภาษาอังกฤษตัวเล็กๆอยู่ห้าตัว BNM BK สามตัวแรกเว้นระยะห่างจากสองตัวท้ายเพียงเล็กน้อยให้พอรู้ว่ามันคือตัวอักษรคนละชุดกัน แต่หมายถึงอะไรเธอไม่รู้ เพราะมันไม่สามารถอ่านรวมเป็นคำหรือเป็นประโยคได้ "ให้วินซ์ทำไมคะ นี่มันไม่ใช่แหวนของวินซ์" "เอาไปแทนวงที่ล่วงไป ต้องการเครื่องรางไม่ใช่เหรอ แล้วก็เลิกทำตัวเป็นเด็กขี้แย เป็นลูกมาเฟียซะเปล่า" "วินซ์แค่ 10 ขวบเอง จะให้รีบทำตัวโตไปไหน แช้วแหวนวงนี้วินซ์ไม่ได้ขอซะหน่อย" "เอาไป จะได้ไม่ต้องรื้อสระบ้านฉัน อีกอย่างไม่ได้ให้เลย ให้เช่า!!" "ห๊ะ? เช่าเหรอ วินซ์ไม่มีเงินจ่ายหรอกค่ะ เอาคืนไป" เธอยื่นแหวนคืนให้เขา แต่เขาไม่ยอมเอามือออกมารับ กลับเอาสองมือล้วงกระเป๋ายืนเต๊ะท่าต่อไปแล้วพูดขึ้นว่า "ไม่มีจ่ายค่าเช่าตอนนี้ แล้วตอนนี้มึเงินจ่ายค่ารื้อสระว่ายน้ำของฉันเหรอ อย่าบอกนะว่าจะรื้อออกฟรีๆ" "ไม่ใช่นะ! วินซ์ไม่มีตอนนี้ แต่โตขึ้นต้องมีแน่ๆ จะเก็บเงินเอามาจ่ายค่าเสียหายให้ค่ะ" เขามองเด็กน้อยบอกกับเขาด้วยท่าทางจริงจังคล้ายเป็นคำมั่นสัญญา รอยยิ้มผุดขึ้นมุมปากขณะที่มองดูเด็กน้อยที่กำลังพูดเจื้อยแจ้วท่าทางกระตือรื้อร้น "เอาไปแทนเครื่องรางอันเก่า พกติดตัวไว้ตลอด อีก 10 ปีข้างหน้า ฉันจะไปทวงค่าเช้าและแหวนวงนี้กับเธอ ด้วยตัวฉันเอง" เขาพูดด้วยรอยยิ้มเท่ห์จบแล้วก็เดินกลับเข้าไปในคฤหาสถ์ ทิ้งให้เด็กน้อยยืน งง ก้มมองแหวนในมือและคำพูดที่ยังก้องอยู่ในหู ฝังอยู่ในหัวใจ... "แบล็ค! แหวนตระกูลหายไปไหน ทำไมไม่ใส่ไว้" แม่ของเขาถามขึ้น เมื่อเห็นลูกชายเดินเข้ามาในงานร่วมวงที่พ่อกับแม่ของเขาพูดคุยอยู่กับกลุ่มของลุงวินเนอร์ ป้าเซริน ลุงเจคอร์ป ลุงมังกร และลุงคาร์โก้ ครบแก็งค์รุ่นลุงทุกคน "ตอนแรกก็ใส่ไว้ตลอด จนกระทั่งเมื่อกี้..." เขาหยุดพูดไว้แค่นั้น พร้อมกับเบนสายตาไปยังเด็กผู้หญิงตัวเล็กในชุดกระโปรงสีขาวน่ารักที่กำลังจะเดินเข้ามาในงาน "ตาแบล็ค ทำไมแหวนไปอยู่ที่คอน้อง หรือว่า..." เฝแม่ของเขาค้างไว้แค่นั้น หันไปสบตากับลูกชาย สลับไปสายตาสามี และเหมือนจะเข้าใจตรงกัน สายตาทั้งสองจึงค่อยๆย้ายไปสบยังสายตาเย็นชาของวินเนอร์ รวมไปถึงเซริน "เห็นทีคราวนี้ผมต้องขอคุยตกลงกับคุณวินเนอร์และคุณเซรินแล้วล่ะครับ" วินเนอร์และเซรินก็พอจะเข้าใจและเดาสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี พวกเขาไม่ได้ปิดกั้นอะไร เพราะเป็นลูกคนเดียวจึงให้อิสระทางความคิดมาตั้งแต่เล็กๆ "ต้องผ่านด่านฉันด้วยนะ" "นั่นหลานสาวคนแรกของพวกฉันเลยเชียวนะ" เจคอร์ป คาร์โก้ และมังกรพูดขัดขึ้น "555 โอเคครับ สงสัยงานนี้เจ้าแบล็คต้องลำบากแล้วแหละ" ประโยคสุดท้ายเรียกรอยยิ้มให้กับคนในวงสนทนาได้เกือบทุกคน ยกเว้น...วินเนอร์ ที่ยังนั่งทำหน้านิ่งขรึม แต่ใช่ว่าเขาจะไม่ยินดียินร้ายกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขาก็มีความรู้สึก หวง รัก ลูกสาวคนเดียวของเขาเหมือนคนอื่นๆ เพียงแค่เขาไม่ได้แสดงออกมาพร่ำเพื่อแค่นั้นเอง....พิเศษ 3 รักได้ไหม บอกพี่ที เช้ามืดของอีกวัน นัตตี้งัวเงียตื่นขึ้นมา รู้สึกเหมือนมีอะไรกดทับที่บริเวณหน้าท้อง นัตตี้ค่อยๆลืมตาตื่นขึ้น แผงขนตาหนากระพริบถี่เพื่อปรับแสงภายในห้อง เธอก้มลงมองหน้าท้องว่าสิ่งที่กดทับหนักๆนั้นคืออะไร ท่อนแขนแกล่งพาดทับกอดเอวเธอไว้อย่างหลวมๆ นัตตี้หยิบนาฬิกาจากมือถือขึ้นมามอง เป็นเวลา หกโมงเช้า เธอค่อยๆหันไปเขย่าตัวคนที่หลับพริ้มสนิทไม่รู้เรื่องให้ตื่น เพื่อไปทำหน้าที่ของตัวเอง “พี่โท ตื่นได้แล้ว เดี๋ยวนายตื่นจะถามหา” นัตตี้ปลุกคนร่างโตที่นอนหลับพริ้ม “อื้อ ไม่ตื่นหรอก นายน่าจะเพิ่งได้นอนเหมือนเราเนี่ยแหละ” ไม้โทงัวเงียพูด และจะหลับต่ออีกรอบ แต่โดนมือบางฟาดปลุกไปที่ไหล่แกร่งเสียงดัง จนทำให้ชายหนุ่มต้องสะดุ้งตื่นอย่างเต็มตา “ทำไมตื่นเช้า ไม่ง่วงเหรอ” “ไม่ง่วง ตื่นได้แล้ว” นัตตี้บอกก่อนยันตัวลุกขึ้น มองหาเสื้อผ้าเพื่อเอามาสวมใส่แต่กลับโดนท่อนแขนแกร่งคว้าหมับรอบเอวบางให้ล้มลงนอนเหมือนเดิม “นอนต่ออีกหน่อย เจ้านายไม่ว่าอะไรหรอก เจ้านายรู้” ไม้โทบอกนัตตี้ จนเธอใจอ่อนยอมล้มตัวลงนอนอีกรอบ แต่ไม่ได้
พิเศษ 2 กินได้เลย ฉันอนุญาต “อยากกิน แล้วทำไมไม่กินล่ะ” ไม้โทเอ่ยแค่นั้น ก่อนจะจับใบหน้าหวานเกินผู้ชายทั่วไปของนัตตี้ให้แหงนขึ้นมารับริมฝีปากหยักได้รูปที่ทาบทับลงบนริมฝีปากนุ่มมีลิปสติกสีอ่อนทาไว้ นัตตี้เบิกตากว้างเพียงชั่วครู่ให้กับการกระทำของชายหนุ่มที่เธอไม่คาดคิดมาก่อนว่าเขาจะทำกับเธอ นัตตี้เริ่มหายใจติดขัดไม่ทั่วท้องเมื่อริมฝีปากหยักบดขยี้ริมฝีปากเธออย่างรุนแรง ก่อนจะเริ่มสอดแทรกลิ้นอุ่นที่มีกลิ่นจางๆของบุหรี่เข้ามาผสมผสานกับกลิ่นแอลกอฮอล์ ตวัดควานหาความหวานในโพรงปาก “อื้อออ” “จะกินหรือไม่กิน” ไม้โทถามขึ้นเมื่อถอนริมฝีปาก ปล่อยให้ปากบางได้รับอิสระ “กินได้จริงๆเหรอ” นัตตี้ถามเพื่อความแน่ใจ กลัวทำทำไปแล้วเขาเกิดเปลี่ยนใจไม่ทำ เธอจะค้างคามากกว่านี้ “ไม่กินฉันจะไปนอนข้างนอกแล้ว” ไม้โททำท่าจะเดินออกไป แต่โดนนัตตี้ดึงรั้งขอบกางเกงเอาไว้เสียก่อน “กะ...กิน ค่ะ” นัตตี้พูดค่ะกับเขาเป็นครั้งแรก คำตอบของเธอทำรอยยิ้มผุดขึ้นบนมุมปากหนาทันที ริมฝีปากหยักทาบทับบดขยี้ริมฝีปากบางนั้นอีกครั้ง ก่อนค่อยๆเลื่
พิเศษ 1 อยากจับไหม? อยากกินมากกว่า... นัตตี้ หรือ นาที ลูกน้องคนสนิทของแบล็คเกอร์ นัตตี้เป็นสาวประเภทสองที่แต่งตัวดูดี ไม่ได้แต่งตัวเป็นสาวจ๋าเหมือนสาวประเภทสองทั่วๆไป ที่สวยเหมือนผู้หญิงจนแยกไม่ออก นัตตี้มีรูปร่างสูงโปร่ง ค่อนข้างไปทางบอบบางกว่าชายปกติทั่วไป ผิวขาวใส ทรงผมรากไทรประบ่าไม่แมนเกินไปและไม่ยาวจนออกสาวมากนัก แต่เรื่องการแต่งหน้านัตตี้จัดเต็ม เพราะเธอชอบดูแลตัวเองให้สวยดูดี ดูแพงอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากเป็นบอดี้การ์ดให้นายหญิง แม้ว่าจะเป็นการดูแลอยู่ห่างๆก็เถอะ แต่เธอก็ต้องพร้อมอยู่ทุกสถานการณ์ จึงต้องแต่งตัวให้ดูทะมัดทะแมง เสื้อเชิ้ตขาวสวมทับด้วยสูทสีชมพูอ่อน กางเกงรัดรูปสีขาวดูดี นัตตี้เป็นสาวประเภทสองที่ทั้งเก่งศิลปะป้องกันตัวและเก่งด้านไอทีพอสมควร เธอมีหน้าที่ติดตามดูแลวินเซ่อยู่ห่างๆตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมาจากแบล็คเกอร์ คอยรายงานเรื่องราวของวินเซ่ตอนที่ไม่ได้อยู่กับแบล็ค แต่ดูเหมือนว่าจะดูแลห่างๆได้ไม่นาน บางสถานการณ์ก็ต้องยื่นมือเข้าไปช่วยจนเธอเองรู้สึกอึดอัด อยากจะแสดงและติดตามอย่างเปิดเผยให้รู้แล้วรู้รอดไป จนแล้วจนรอดเธอก็ตัดสินใจแสดงตัวก
Special Bom Bay 3 ปีต่อมา... เตาะแตะ เตาะแตะ เด็กชายฝาแฝดวัย 3 ขวบ สองคน ในชุดไดโนเสาร์สีเขียวมีฮู้ด เดินเล่นเตาะแตะ อยู่บนถนนแข่งรถ ในสนามแข่งรถของมิวนิค โดยมีสายตาอบอุ่น สองคู่มองดูด้วยความเอ็นดู “ปีนี้ บอม กับ เบย์ ก็ 3 ขวบแล้ว เมื่อไรมึงจะมีเป็นของตัวเอง มาแย่งกูเลี้ยงลูกอยู่เนี่ยแหละ” แบล็คเกอร์เอ่ยขึ้นกับเพื่อนท่ามกลางความเงียบ “อย่ามาหวง กูแค่มาเล่นด้วยเป็นครั้งคราว ทำบ่น” มิวนิคตอบกลับ “ครั้งละหลายวัน บางทีก็เอากลับบ้านด้วย และมาทุกวัน แทบจะย้ายมาอยู่บ้านกูแล้ว” แบล็คตอบอย่างกวนๆ “ก็เมียมึงชวนเมียกู กูไม่ได้อยากมาสักหน่อย” “สาบาน!” แบล็คเกอร์ถามห้วนๆ อย่างไม่จริงจัง เขารู้ดีว่าเพื่อนของเขาน่าจะติดหลานชาย เจ้าก้อนทั้งสองของเขาแน่นอน “ไม่! กูจะตายฟรี” มิวนิคตอบ แล้วเดินออกไปยังรถแข่งคันโปรดที่จอดไม่กลางสนามแข่ง เพื่อเช็คสภาพ เตรียมจะเอาไว้ลงแข่งในค่ำคืนนี้ แบล็คเกอร์ยิ้มๆ แล้วส่ายหัวให้กับความฟอร์มเยอะของเพื่อน ที่ไม่ยอมรับความจริงว่าตัวเองเห่อหลานขนาดไหน เขาเดินตามมิวนิคลงมาเช็ครถ ปล่อยให้ลูกชายทั้งสองเดินเล่นไปเรื่อยๆ “ป๊ะๆ นุงๆ” เสียงอ้อแอ้ร้องเรียกป
แผนการสุดท้ายสำเร็จ... “อื้อออ~” วินเซ่ขยับตัวรู้สึกตื่น เมื่อรับรู้ความหนาวจากเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำ วินเซ่พลิกตัวไปเมื่อ แขนเรียวควานหาคนข้างๆ แต่ก็พบแต่ความว่างเปล่า ทันทีที่สติกลับมาเกือบเต็มที่ เปลือกตาบางค่อยๆ ลืมขึ้นปรับแสงจากด้านนอก “ไปไหนของเขานะ หรือไปทำงานแล้ว” วินเซ่ลุกขึ้นจากเตียง เตรียมตัวลงไปด้านล่าง เพื่อหายากินก่อนแล้วค่อยหาอาหารกินจากด้านล่าง วินเซ่เหลือบไปเห็นแก้วน้ำเปล่าและยาคุมฉุกเฉินวางอยู่ หญิงสาวนึกแปลกใจที่เขาเตรียมยาไว้ให้เธอ โดยที่เธอไม่ต้องบอกกล่าว ร่างบางกินยานั้นเรียบร้อยจึงจัดแจงทำธุระส่วนตัวแล้วลงไปด้านล่าง ด้านล่างของคฤหาสถ์ใหญ่ ค่อนข้างเงียบไร้ผู้คน เธอเห็นเพียงแค่แม่บ้านที่กำลังจัดเตรียมอาหารไว้ให้เธอเท่านั้น “เอ่อ...” วินเซ่อยากจะเอ่ยถามแม่บ้าน เมื่อกำลังเดินลงมาจากชั้น “นายหญิง ตื่นแล้วเหรอคะ ป้าเตรียมอาหารให้เสร็จพอดีเลย” ป้าแข ป้าแม่บ้านของตระกูลบูรณิมาเอ่ยหขึ้นกับนายหญิงคนใหม่ของบ้านนี้ “เขาไปไหนกันหมดอ่ะคะป้า” วินเซ่เอ่ยถามป้า เมื่อหย่อนก้นนั่งลงบนเก้าอี้ที่ป้าจัดเตรียมไว้ให้ “คุณหนูแบล็คไปข้างนอกค่ะ สั่งป้าไว้ให้ดูแลนายห
จุดจบ...(ต่อ) หมอภูทำแผลให้แบล็คเกอร์แบบไวที่สุด เพื่อเขาจะได้เข้าพิธีสุดท้ายของการแต่งงานให้เสร็จครบทุกขั้นตอนนั้นก็คือ การส่งตัวบ่าวสาวเข้าเรือนหอ “ลุงหมอครับ” แบล็คเกอร์เอ่ยเรียกหมอที่ทำแผลให้เขา “ว่าไง เจ็บเหรอ” หมอภูถามเขา ในขณะที่ยังก้มหน้าก้มตาทำแผลให้ชายหนุ่มรุ่นหลาน “ไม่เจ็บครับ ผมมีเรื่องอยากให้ช่วย” หมอภูหยุดทำแผล แล้วเงยหน้าขึ้นถามเขา ถึงเรื่องจะให้ช่วย “จะให้ช่วยอะไร” “ลุงหมอพอจะช่วยทำยาให้ผมสักตัวได้ไหมครับ” แบล็คตัดสินใจบอกความต้องการของตัวเองไป “ฉันเป็นหมอ ไม่ใช่คนผลิตยาบ้า” หมอภูพูดด้วยรอยยิ้มมุมปาก แล้วก้มลังไปพันแผลต่อ “ผมรู้ว่าลุงมีโกดังผลิตยา ถึงจะไม่ใช่ยาบ้าหรือยาเสพติด แต่ลุงก็เป็นคนคิดค้นยาได้หลายตัว ผมอยากให้ลุงทำยาตัวหนึ่งให้ผมเท่านั้น” หมอภูละสายตาจากแผลขึ้นมาสบตากับแบล็คแวบหนึ่ง ก่อนก้มลงไปทำแผลต่อ แล้วเอ่ยปากให้เขาบอกสิ่งที่เขาต้องการมา ภายในห้องนอนกว้างขวาง ที่ตกแต่งสีขาวโทนสีชมพูไว้สำหรับทำพิธีเข้าหอ บนเตียงสีขาวมีกลีบกุหลาบที่จัดเป็นรูปหัวใจอยู่กลางเตียง เมื่อพิธีเสร็จสิ้น ภายในห้องทั้งห้องก็เหลือแค่เพียงเธอและเขาเท่านั้น “พี่แบล
จุดจบ... คฤหาสถ์สีขาวนวลสุดหรูหราใหญ่โตมโหฬารสไตล์ยุโรป ด้านหน้าคฤหาสถ์มีสระว่ายน้ำสระเก่าที่เคยอยู่แบบนี้เมื่อ 15 ปีก่อน มีลานด้านหน้ากว้างขวางที่เคยเงียบสงบ แต่บัดนี้ ถูกจัดให้เป็นสถานที่ทำพิธีแต่งงานอย่างครึกครื้นหรูหรา ตรีมสีขาวเหลืองอ่อนพาสเทลสีที่เจ้าสาวชอบ เพราะหากจัดตามสีที่เจ้าบ่าวชอบ บรรยากาศในงานคนน่าจะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นงานขาวดำไปเสียก่อน แขกเหรื่อผู้มาร่วมงาน ก็ยิ้มแย้มแจ่มใสร่วมยินดีกับคู่บ่าวสาวอย่างชื่นมื่น ภายในงานหลังจากพิธีเสร็จสิ้นหมดทุกอย่างแล้ว เหลือเพียงพิธีสุดท้ายคือส่งตัวบ่าวสาวเข้าหอ แขกเหรื่อกลับไปจนเกือบหมดแล้ว เหลือเพียงแต่บุคคลที่สนิท และสำคัญทั้งสองครอบครัวเท่านั้น พิธีดำเนินไปจนเกือบจะราบรื่น หากไม่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น ที่มีแขกกลุ่มสุดท้ายเข้ามาร่วมยินดีเกือบ 50 คน “จะชิงมีความสุขโดยไม่สนใจว่าทำอะไรกับลูกสาวกูบ้างเลยหรือไง” เสียงแหบใหญ่ของชายวัยกลางคนดังขึ้น เมื่อขับรถเข้ามาจอดยังลานกว้างที่เป็นสถานที่จัดงานแต่ง วิชัย มาเฟียอีกกลุ่มที่ทำธุรกิจกับทั้งพ่อแบล็คเกอร์และวินเนอร์พ่อของวินเซ่ และเขายังเป็นพ่อของกันตา ผู้หญิงที่ตายด้วยน้ำมือขอ
แผนการเมื่อ 15 ปี สำเร็จสักที... ร่างบางถูกคลุมด้วยเสื้อเชิ้ตสีดำ นั่งบนตักของแบล็คเกอร์ที่เปลือยท่อนบนเพราะเอาเสื้อของตัวเองคลุมให้คนตัวเล็ก อยู่บนเบาะด้านหลังคนขับ ท่อนแขนแกร่งประคองกอดอย่างทะนุถนอม เขากลัวจะเสียเธอไปเหลือเกิน “กลับบ้านเล็กหรือคอนโดครับนาย” ไม้โทถามขึ้นแล้วมองเจ้านายผ่านกระจกมองหลัง “บ้านเล็ก” เขาตอบ “พี่แบล็ค!!” วินเซ่ที่กำลังซบอยู่ที่ซอกคอใหญ่ ดันตัวลุกขึ้น ร้องเรียกเขาจนเขาสะดุ้งตกใจ กระชับอ้อมแขนอย่างอัตโนมัติ “มีอะไร เจ็บตรงไหนคะ?” เขารีบถามอย่างห่วงใย “พี่นัตตี้ล่ะคะ ไปช่วยพี่นัตตี้ก่อน พี่นัตตี้โดนยิงเพราะวินซ์” ร่างบางเริ่มน้ำตาคลอเบ้า เป็นห่วงนัตตี้และโทษตัวเองอยู่ตลอดเวลา ที่นัตตี้โดนยิงก็เพราะความดื้อของเธอที่จะมาเที่ยวที่คลับนี้ให้ได้ และเพราะนัตตี้ปกป้องเธอจึงถูกยิง “นัตตี้ปลอดภัยแล้ว ไม่ต้องห่วง” เขาใช้มือหนาลูบหัวคนบนตักอย่างปลอบประโลม เขาเองก็รู้สึกผิดที่ผ่านมาไม่ทำอะไรกันตาจนวินเซ่ต้องเจอทุกสิ่งทุกอย่างสารพัด มาครั้งนี้ที่หนักสุดจนเขาไม่อาจปล่อยไปได้อีก นัตตี้ที่อยู่กับเขามานาน เป็นลูกน้องที่ซื่อสัตย์ และรักเจ้านาย นัตตี้เป็นคนเก่ง
มีความสุขเถอะนะ...กันตา...(ต่อ) ลูกน้องของกันตาจับหญิงสาวทั้งสองไว้เตรียมพาขึ้นรถ ไปที่ไหนสักทีหนึ่ง ระหว่างยื้อยุดฉุดกระชากกันอยู่นั้น นัตตี้ก็วิ่งเข้ามาพอดี พร้อมกับตะโดนออกมาด้วยเสียงตวาดกร้าวเป็นเสียงผู้ชายแมนๆ “เห้ย!! พวกมึงจะทำอะไร!!” ทุกสายตาหันไปมองเป็นตาเดียว เมื่อได้ยินเสียงและเห็นนัตตี้วิ่งเข้ามา “จัดการมัน! ที่เหลือจับตัวอีสองตัวนี่ไป” กันตาสั่งลูกน้องแล้วตัวเองขึ้นรถออกนำไป ปัง! เสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด เรียกสายตาของวินเซ่และแฟร์รี้ให้หันไปมอง ตาของวินเซ่เบิกกว้างด้วยความตกใจ เมื่อเห็นภาพคนที่ล้มลงไปกองกับพื้นคือพี่นัตตี้ที่ถือปืนค้างไว้กำลังจะเตรียมยิง แต่โดนยิงเข้าที่หน้าท้องจนล้มลงเสียก่อน “ม่ายยยยย!!! พี่นัตตี้!!!” วินเซ่ดิ้นจะให้หลุดจากการเกาะกุมของพวกชายฉกรรจ์ แต่แรงของเธอไม่สามารถสู้ได้ วินเซ่หน้าแดงไหลอาบแก้ม มีแฟร์รี่ร้องไห้อยู่ข้างๆ เธอเป็นห่วงนัตตี้ ที่นัตตี้เป็นแบบนี้ก็เพราะความดื้อรั้นของเธอ “ฮึกๆ พะ...พี่ตา ช่วยพาพี่นัตตี้ไปหาหมอก่อนนะ วินซ์ขอร้อง...ฮือออ” วินเซ่ขอร้องกันตา จะจับเธอไปทำอะไรก็ได้ แต่อยากให้ช่วยนัตตี้ให้ถึงมือหมอก่อน แต่ดูเห
Comments