ตอนที่ 1 เข้าใจผิด
“ ขอโทษนะคะผู้จัดการที่เพลงมาสายต่อไปจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกแล้วค่ะ “
เสียงเด็กสาวเอ่ยพูดกับผู้จัดการของเธอ เพราะหลังจากที่เธอเข้ามาถึงยังห้องพักพนักงานเธอก็ขอโทษขอโพยผู้จัดการของเธอไปทันที
เพราะนี่ก็เป็นเวลา 2 ทุ่มตรงแล้วคนอื่นๆเขามาทำงานกันเป็นชั่วโมงแล้ว ส่วนเธอเพิ่งจะได้ย่างก้าวเข้ามาเธอรู้สึกผิดมากเหลือเกิน
เพลงขวัญ หรือ พิมพ์ลดา เด็กสาววัยมหาลัยอายุ 20 ปี ผู้ซึ่งมีใบหน้าสวยหวานน่ารักจิ้มลิ้ม ปากนิดจมูกหน่อยดวงตากลมโตผิวขาวถึงขาวจัด ผมยาวสลวยดัดลอนทรวดทรงองค์เอวเล็กกะทัดรัดบ่งบอกว่าเธอนั้นดูแลสุขภาพเป็นอย่างดี
“ หึ เพิ่งจะมาทำงานได้แค่ 2 วันเองนะเพลงขวัญ เธอก็มาสายแล้วเธอคิดว่าฉันควรจะทำยังไงกับเธอดี “
และนี่ก็เป็นเสียงของผู้จัดการสาวที่ควบคุมดูแลผับแห่งนี้นั่นก็คือแขไข เธอทำงานที่นี่มา 10 กว่าปีเต็มแล้วโดยการบริหารทุกสิ่งอย่าง คอยดูแลผับภายใต้คำสั่งของผู้เป็นเจ้านายและเป็นเจ้าของผับอย่างซันเดย์
“ ขอโทษจริงๆค่ะผู้จัดการ ต่อไปเพลงจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก “
ยกมือขอโทษด้วยความไม่ได้ตั้งใจ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างมันคือเหตุสุดวิสัยจริงๆ เธอไม่ได้ตั้งใจที่จะมาทำงานสายถ้านาฬิกามันปลุกตรงตามเวลาเธอก็คงไม่ต้องมาช้าแบบนี้
และเมื่อคนเป็นผู้จัดการอย่างแขไขเห็นแบบนั้นก็รู้สึกเห็นใจเพราะเธอก็ไม่ได้ใจร้ายถึงขนาดที่จะลงโทษอะไรขนาดนั้น แต่ในเมื่อมาช้าก็เท่ากับว่าต้องโดนหักเงินเดือน เพื่อที่จะได้ไม่เป็นเยี่ยงอย่างแก่พนักงานคนอื่นๆ
“ เอาล่ะเอาล่ะไหนๆก็สายแล้วนิ ไปๆ ไปเปลี่ยนชุด ในเมื่อเธอมาสายก็เท่ากับว่าวันนี้เธอจะต้องกลับช้ากว่าคนอื่น เธอโอเคไหมล่ะเพราะถ้าเธอไม่โอเคเธอก็จะต้องถูกหักเงินเดือน เพื่อที่จะได้ไม่เป็นเยี่ยงอย่างให้กับพนักงานคนอื่นๆ “
จบประโยคของคนเป็นผู้จัดการเด็กสาวก็คิดตามทันที เธอจะเลือกอะไรระหว่างกลับบ้านช้ากับถูกหักเงินเดือน ถ้ากลับบ้านช้าแล้วไม่มีรถเธอจะกลับยังไง และถ้าเธอถูกหักเงินเดือนเธอจะพอกินพอใช้หรือเปล่า
เอาไงดีล่ะยัยเพลงแกควรจะเลือกอะไร กลับบ้านช้าถ้าไม่มีรถแกก็กลับไม่ได้ แต่ถ้าแกเลือกที่จะโดนหักเงินเดือนก็เท่ากับว่าเงินที่ได้ก็จะน้อยลง
แค่ลำพังทุกวันนี้ก็แทบจะไม่พอกินพอใช้อยู่แล้ว แล้วแบบนี้ฉันควรจะเลือกอะไร เพลงขวัญควรจะเลือกอะไร หัวจะปวดแต่ละมื้อแต่ละเดย์
“ ตกลงค่ะผู้จัดการเพลงเลิกงานช้ากว่าคนอื่นก็ได้ค่ะ สบายมากหายห่วงขอแค่ไม่ถูกหักเงินเดือนก็พอ “
และสุดท้ายเด็กสาวก็เลือกที่จะกลับบ้านช้าแทนการที่จะถูกหักเงินเดือน เพราะเธอกลัวว่าถ้าเงินออกแล้วจะไม่พอใช้ ลำพังแค่ค่า ยาของผู้เป็นยายก็ยังพอทน นี่ยังมามีแม่ของเธออีกคนที่ชอบไถเงิน
“ ดี ฉันก็ไม่อยากหักเงินเดือนของใครและฉันก็ไม่คิดจะใจร้ายหรอกไปๆไปทำงานได้แล้ว “
พูดจบต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันไปทำงานโดยที่เพลงขวัญก็ทำงานของเธอได้เป็นอย่างดีไม่มีขาดตกบกพร่อง
เวลาล่วงเลยผ่านไปจนกระทั่งถึงเที่ยงคืนเพลงขวัญทำการเก็บกวาดเช็ดถู เพราะวันนี้เธอต้องเลิกงานช้ากว่าคนอื่นๆเนื่องด้วยเหตุผลที่ว่าเธอไม่อยากถูกหักเงินเดือน
มันจึงเป็นที่มาว่าทำไมตอนนี้บรรยากาศรอบๆร้านถึงดูเงียบเหงาและเงียบสงบ เพราะตอนนี้มีเพียงแค่เธอกับบอดี้การ์ดที่คอยควบคลุมดูแลผับแห่งนี้อยู่กันแค่ไม่กี่คน
“ อ้าวคุณเพลงขวัญยังไม่กลับอีกหรอครับแล้วนี่คุณกระเพราไปไหนแล้ว “
เสียงโดมบอดี้การ์ดมือขวาของซันเดย์ผู้เป็นเจ้านายของเธอเอ่ยถามกับเด็กสาว เพราะเห็นว่านี่ก็เป็นเวลาเลิกงานแล้วแต่เธอคนนี้ยังไม่มีวี่แววที่จะกลับ หนำซ้ำยังคงทำงานและยังคงปัดกวาดเช็ดถูอยู่เลย
“ อ๋อพอดีว่าวันนี้เพลงมาสายค่ะก็เลยทำงานล่วงเวลาเพื่อชดเชยเพลงไม่อยากถูกหักเงินเดือน ส่วนยัยเพาลากลับบ้านตั้งแต่ช่วงหัวค่ำแล้วค่ะ เห็นบอกว่าปวดหัว “
เด็กสาวทำการบอกจุดประสงค์ที่เธอมายืนอยู่ตรงนี้ เพราะเธอต้องการที่จะทำงานล่วงเวลาแทนการที่จะถูกหักเงินเดือน ส่วนเพื่อนของเธออย่างกะเพราได้ลากลับบ้านไปตั้งแต่หัวค่ำ เหตุเป็นเพราะว่ารู้สึกปวดหัวเหมือนจะไม่ค่อยสบาย
และเมื่อโดมได้ยินอย่างนั้นเขาก็คิดว่าดีเลย เขากำลังที่จะขึ้นเอาเครื่องดื่มไปเสิร์ฟให้แก่แขก แต่เป็นเพราะเขาจะต้องขับรถไปรับสาวที่ได้ติดต่อเอาไว้ก่อนหน้านี้
เขาคิดว่าถ้ามันมีคนเอาเครื่องดื่มเข้าไปเสิร์ฟแทน ตัวเขาเองก็จะได้มีเวลาไปรับสาวคนนั้นซึ่งจะได้ย่นระยะเวลา และเพื่อไม่ให้คนที่อยู่ด้านบนต้องรอนาน
“ ถ้าไม่เป็นการรบกวนจนเกินไปงั้นผมวานให้คุณเพลงขวัญเอาเครื่องดื่มไปเสิร์ฟให้ห้อง 69 หน่อยได้ไหมครับ พอดีว่าผมมีธุระต้องไปทำแต่จะรีบไปรีบกลับมา “
“ อุ้ยยย ได้สิคะไม่รบกวนเลยค่ะเพลงยินดี ว่าแต่ไหนละคะเครื่องดื่ม เดี๋ยวเพลงเอาไปเสิร์ฟให้เอง “
จบประโยคของคนเป็นบอดี้การ์ดหญิงสาวก็ตอบตกลงทันทีเพราะเธอคิดว่าเรื่องแค่นี้สบายมากหายห่วง เธอเองก็เป็นเด็กเสิร์ฟและถ้าจะต้องไปเสิร์ฟให้ลูกค้าก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร
และเมื่อบอดี้การ์ดมือขวาได้ยินแบบนั้นเขาก็ยิ้มดีใจ เพราะเขาจะได้เอาเวลาตรงนี้ไปรับสาว N ที่เขานัดเอาไว้ให้ห้อง 69 ก่อนหน้านี้
“ อยู่ตรงบาร์เลยครับผมเตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ฝากด้วยนะครับคุณเพลงขวัญเดี๋ยวผมจะรีบไปรีบมา “
“ ได้ค่ะ “
สุดท้ายทั้งสองก็ทำการแยกย้ายกันไปคนละทิศคนละทาง โดยที่เพลงขวัญก็เอาเครื่องดื่มไปเสิร์ฟให้กับห้องที่ได้รับมอบหมายเอาไว้ ส่วนโดมก็ไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อ
สองขาเรียวทำการก้าวขึ้นมายังชั้น 3 ของชั้น VVIP ก่อนที่จะมาหยุดยืนอยู่หน้าห้อง 69 ที่เธอได้รับมอบหมาย มือเรียวยกขึ้นมาเคาะอย่างอัตโนมัติก่อนที่จะรอให้ใครคนนึงมาเปิด
และไม่นานประตูก็ถูกเปิดออกโดยฝีมือของผู้ชายตัวโตร่างกายกำยำบึกบึน ทั้งเนื้อทั้งตัวมีแค่ผ้าขนหนูพันเอาไว้รอบเอวอย่างหมิ่นเมย์
และนั่นก็ทำให้คนตัวเล็กถึงกับต้องกลืนน้ำลายลงคอ ทรวดทรงองค์เอวสมบูรณ์ร่างกายกำยำ กล้ามหน้าท้องและกล้ามแขนขึ้นเป็นมัดๆบ่งบอกเลยว่าเขาดูแลสุขภาพมาดีมากๆ
ไรขนอ่อนๆที่มันโผล่พ้นมาบนผ้าขนหนูช่างเป็นอะไรที่น่ามองน่าหลงไหลในยามที่พบเห็น
“ สวัสดีค่ะ ฉ้นเอาเครื่องดื่มมา…….ว้ายยย “
“ มาเร็วทันใจดีนะ กำลังเงี่ยนอยู่พอดีเลย สวยใช้ได้เลยวะ “
🌷คุย🌷
กรี๊ดดด อะไรอ่าาา ใครดึงยัยเพลงขวัญเข้าไปในห้อง ลูกค้าคนไหน ? ใครคือลูกค้า ? มาทายกัน
เปิดเรื่องมาก็อุอิแล้วววว 😂😂😂 แซ่บขนาดนี้ไม่กดเข้าชั้นได้ยังไงก่อน คอมเม้น กันมาหน่อย มาทายกันสิว่าใครเอ่ย อิอิ
ตอนที่ 49 The end เวลาล่วงเลยผ่านไปไวเหมือนโกหกจนกระทั่งตอนนี้เพลงขวัญและกระเพราก็ได้เรียนจบตามแบบฉบับสมบูรณ์ สองร่างหญิงสาวยืนอยู่ในชุดครุยเพราะวันนี้เป็นวันที่พวกเธอจะต้องรับปริญญาเพื่อแสดงให้รู้ว่าพวกเธอนั้นได้เรียนจบกันแบบสมบูรณ์“ เฮ้อออ ในที่สุดก็เรียนจบสักทีนะแกเหนื่อยเป็นบ้าเลย “ (กระเพรา)“ ใช่กว่าจะผ่านมาได้โคตรจะเหนื่อยเลย “ (เพลงขวัญ)และทั้งสองก็พยักหน้าเห็นด้วยเพราะที่ผ่านมาพวกเธอรู้สึกเหนื่อยมากเหลือเกินกว่าจะเรียนจบมาแต่ละทีช่างเป็นอะไรที่ยากเย็นแสนเข็ญเหลือเกินและในขณะที่สองสาวกำลังพูดคุยกันไปเรื่อยเปื่อยชมนกชมไม้ถ่ายรูปลงโซเชียลไปเรื่อยเธอก็ได้ยินเสียงเพื่อนๆที่อยู่บริเวณแถวนั้นกรี๊ดกร๊าดออกมา มันจึงทำให้ทั้งสองสาวต้องหันหลังกลับไปมองและภาพตรงหน้าก็ทำให้เธอถึงกับอ้าปากค้างไปเลย “ นี่มัน นี่มันอะไรกันเนี่ย “ (กระเพรา)“ OMG เล่นใหญ่อะไรเบอร์นี้ “ เพลงขวัญ)และใช่ภาพตรงหน้าที่พวกเธอตกตะลึงก็ไม่ใช่อะไรเพราะนั่นมันก็คือแฟนๆของพวกเธอนั่นเอง พวกเขาสองคนพี่น้องมาในลุคโคตรเท่เรียกได้ว่าดารานายแบบชิดซ้ายไปเลย ในมือถือช่อดอกไม้ช่อโตมาด้วยคนละช่อ ยังไม่วายที่จะมีเหล่าบอดี
ตอนที่ 48 ลงโทษเด็กขี้แกล้ง“ จะดีหรอฉันเกรงใจนะ ฉันอยากกินกระเพาะปลาเยาวราช ขนมจีบยายนิด แซลมอนดองคุณเอ๋ บัวลอยไข่หวานป้าจุก ลูกชิ้นปลาระเบิดข้างเซเว่น อืมแล้วก็เอาอะไรอีกดีนะ อ๋อ แล้วก็น้ำเก๊กฮวยลุงดำ แค่นี้แหละที่อยากกินพอจะทำให้ฉันได้ไหมล่ะนี่ฉันเกรงใจคุณจริงๆนะ “ จบประโยคของเด็กสาวคนตัวโตก็ถึงกับอ้าปากค้างไปเลยเพราะเขาไม่คิดว่าเธอจะอยากกินมากขนาดนี้ ทั้งๆที่บอกว่าเกรงใจแต่เธอก็เลือกสั่งรายการมาซะยาวเหยียด โอ้โหยัยตัวแสบนี่คือรายการที่บอกว่าเกรงใจหรอวะนี่ขนาดบอกว่าเกรงใจยังสั่งรายละเอียดมาซะยาวเหยียด และถ้าไม่เกรงใจมันจะขนาดไหน แล้วแบบนี้กูจะไปหาที่ไหนทันวะ กระเพาะปลาเยาวราชพอได้อยู่แหละแต่แม่งก็โคตรไกลหนำซ้ำคนก็เยอะ ขนมจีบยายนิดนี่ก็ไม่ต้องให้พูดถึงคนเยอะเหมือนกันที่สำคัญร้านปิด 4 ทุ่มนี่ปาเข้าไป 2 ทุ่มครึ่งแล้วกูจะไปทันไหมวะเนี่ย แซลมอนคุณเอ๋ก็อยู่ห่างเป็นโยดเลย บัวลอยป้าจุกนี่ก็ทำช้าอย่างกับเต่าคนเยอะก็จริงแต่ปั้นโคตรจะนาน ลูกชิ้นปลาระเบิดข้างเซเว่นนี่ดีขึ้นมาหน่อยเพราะอยู่ใกล้ๆแค่นี้สุดท้ายน้ำเก๊กฮวยลุงดำนี่สิตัวปัญหา กูอยากจะบ้าลุงดำขายแต่กลางวันไม่ขายกลางคืนแล้วกูจะต้องไ
ตอนที่ 47 แกล้งให้เข็ด “ จะไม่คุ้นได้ยังไงก็ฉันนี่แหละคนที่คุณด่าว่าเป็นมนุษย์สี่ตาแต่งตัวเหมือนป้าเฉิ่มเชย เป็นไงชัดเจนพอไหมจำได้บ้างหรือยัง “ หญิงสาวทำการไขปริศนาในสิ่งที่คนตัวโตข้องใจเพราะเธอก็คือผู้หญิงที่เขาเคยด่าเคยว่าเมื่อครั้งเจอกันในอดีต ก่อนที่คนตัวโตจะเบิกตากว้างด้วยความตกใจ พลันหัวสมองก็นึกไปถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้นย้อนกลับไปเมื่อเจอกันครั้งแรกพรึ่บ“ เฮ้ยอะไรวะ เดินประสาอะไรไม่ดูตาม้าตาเรือไม่เห็นหรือไงว่าฉันเดินมา “ เสียงชายหนุ่มสูงใหญ่ตัวโตเอ่ยพูดกับเด็กสาว ในขณะที่เขาก็กำลังจะเดินเข้ามาในผับแห่งนี้ แต่อยู่ๆก็มีแม่สาวที่ไหนไม่รู้มาเดินชนซะก่อน สภาพการแต่งตัวก็เหมือนป้าเชยๆไม่ได้มีความหวือหวาอะไร ก่อนที่ความโกรธจะเข้าครอบงำ“ ขะ ขอ ขอโทษค่ะ พอดีว่าฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ “ “ หึ เออ ก็ไม่แปลกหรอกหน้าตาก็ไม่ดีแถมยังมีถึง 4 ตาอีก ซุ่มซ่ามชะมัดหน้าหงุดหงิด “พูดจบคนตัวโตก็รีบจัดการสาวเท้าเข้าผับของเขาไปทันทีเพราะเขาไม่อยากมานั่งเสวนาพาทีกับผู้หญิงเฉิ่มเชย นอกจากเธอจะมีถึง 4 ตาแล้วเธอยังไม่มีอะไรเป็นจุดสนใจอีก เรียกได้ว่าเธอเป็นผู้หญิงคนเดียวที่เขาไม่คิดจะมองกลับมาปัจจุบัน
ตอนที่ 46 มนุษย์ป้าวันนั้นดันมาเป็นเมียวันนี้ 2 สัปดาห์ผ่านไป “ หมดทุกข์หมดโศกสักทีนะลูกนะ ทำจิตใจให้สบายแม่คนนี้จะอยู่เคียงข้างหนูเสมอ “ เสียงกานดาเอ่ยพูดกับว่าที่ลูกสะใภ้ก่อนที่เธอจะกอดตอบเด็กสาว ก็หลังจากที่เพลงขวัญทำใจเรื่องแม่ของเธอได้แล้วคนตัวโตก็พาเธอไปไหว้หลุมศพของแม่เธอทันที ก่อนที่จะช่วยกันรักษาสภาพจิตใจ โดยก่อนหน้านี้ทุกสิ่งทุกอย่างผู้เป็นยายก็ได้ทำการเล่าให้เพลงขวัญฟังทั้งหมด “ ขอบคุณนะคะคุณแม่กานดาตอนนี้เพลงโอเคมากๆแล้วค่ะ ไม่ได้เป็นอะไรแล้ว “ “ ดีมากลูกทำจิตใจให้สบายนะแม่หนูที่อยู่บนฟ้าเขาจะได้หมดห่วง ไปๆเราไปกินข้าวกันดีกว่าแม่ทำกับข้าวไว้ตั้งเยอะเลย “ “ ค่ะ “ และกานดาก็พาว่าที่ลูกสะใภ้ของเธอเข้าไปในห้องอาหารเพราะเธอได้เตรียมทุกอย่างเอาไว้หมดแล้ว โดยที่ทั้งโต๊ะมีแต่ของชอบของเพลงขวัญทั้งนั้นเลย ทิ้งให้ซีนายยืนเอ๋อเพราะเขาดูเหมือนว่ากำลังเป็นส่วนเกิน“ อะไรวะกูเป็นลูกชายแท้ๆแม่ไม่ชวนกับไปชวนยัยตัวแสบแค่คนเดียว ไม่ยุติธรรมเลยนี่หว่า เชอะ แม่นะแม่พอมีลูกสะใภ้เข้าหน่อยก็ลืมลูกชายคนนี้เลย นี่ขนาดยังไม่ได้แต่งเข้ามาอย่างเป็นทางการยังขนาดนี้ถ้าแต่งเข้ามาแล้วจะขนาดไหนวะ “
ตอนที่ 45 แม่ที่ไม่ใช่แม่ “ ปล่อยกูปล่อยกูออกไปเดี๋ยวนี้ พี่ตื่น พี่ตื่นสิ “ เสียงพิมลตระโกนดังลั่นในห้องเงียบสงบแห่งหนึ่งก่อนที่จะหันไปพูดกับผู้เป็นสามี ก็หลังจากที่ซีนายจัดการกับเค้กหรือเครที่เรียบร้อยแล้วเขาก็ให้ลูกน้องของเฮียเขาไปจับตัวพิมลแม่ของเพลงขวัญมาขังไว้ทันที เขาไม่รู้ว่าเธอทำไปเพื่ออะไรแต่การที่ขายลูกให้กับใครแบบนี้มันไม่สมควรกับการที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่คน“ แม่ “ และนี่ก็เป็นเสียงของเพลงขวัญหลังจากที่คนตัวโตจัดการทุกสิ่งอย่างเรียบร้อยเขาก็พาเธอมาที่นี่ที่ห้องแห่งนี้ ภาพตรงหน้ามันทำให้เธอถึงกับน้ำตาตกในเพราะคนที่อยู่บนเก้าอี้มันก็คือแม่ของเธอนั่นเอง ข้างกายมีพ่อเลี้ยงของเธอที่ไม่ได้สติด้วยอีกคนก่อนที่น้ำตาสีใสจะไหลออกมาภาพความจำก่อนหน้านี้มันยังติดตาต้องใจเธออยู่เลย ภาพที่แม่ของเธอยกเธอให้กับใครก็ไม่รู้ถ้าไม่ติดว่าเขาคนนั้นคือซันเดย์พี่ชายของแฟนเธอป่านนี้เธอก็คงไม่เหลือชิ้นดีแล้ว “ อีเพลงขวัญมึงสั่งให้ผัวมึงปล่อยกูกับพ่อของมึงเดี๋ยวนี้ กูเป็นแม่มึงนะอีลูกชั่วมึงจะมาทำกับกูแบบนี้ไม่ได้ “ ความอึดอัดที่ตัวเองโดนมัดไว้กับเก้าอี้บวกกับผัวใหม่โดนซ้อมปางตายพิมลก็ทำการบอกให้ล
ตอนที่ 44 บทลงโทษของเครที่ กาสิโนประเทศเพื่อนบ้าน “ เฮียให้ผมมาหาทำไมเนี่ยแทนที่จะช่วยกันออกตามหาเพลงขวัญจะให้ผมบินมาหาเฮียถึงที่นี่เพื่อ “ เสียงคนตัวโตเอ่ยพูดกับพี่ชายหลังจากที่เขาวางสายจากซันเดย์เสร็จเขาก็จองเที่ยวบินเพื่อที่จะมาหาพี่ชายของเขาทันที แต่ด้วยความไม่เข้าใจมันจึงทำให้เขาอยากรู้ว่าเฮียของเขาจะให้เขาบินมาหาด้วยเหตุอันใด แทนที่จะช่วยกันตามหาคนรักของเขาแต่กลับกลายเป็นว่าต้องมาเสียเวลาตรงนี้ และเมื่อซันเดน์ได้ยินแบบนั้นเขาก็แสยะยิ้มมุมปากน้องชายของเขาเดินเข้ามายังไม่ทันไร ยังไม่ทันได้ดูรอบๆห้อง อยู่ๆก็จะมาหัวเสียใส่เขาซะแล้ว ช่างสมกับการเป็นน้องชายของเขาจริงๆอารมณ์ร้อนเลือดเย็นเหมือนเขาไม่มีผิด “ ก่อนที่มึงจะพูดมึงช่วยมองไปรอบๆห้องก่อนได้ไหม “ และเมื่อผู้เป็นพี่ชายพูดจบคนตัวโตก็หันมองรอบๆห้องตามที่พี่ชายของเขาพูดทันที ก่อนที่ดวงตาจะเบิกกว้างด้วยความตกใจเพราะในห้องนี้มันไม่ได้มีแค่พี่ชายของเขาและบอดี้การ์ดเท่านั้น “ อะไร เฮ้ย พะ เพลงขวัญ เพลงขวัญจริงๆด้วย เธอจริงๆด้วยเธอหายไปไหนมา แล้วทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ “ โอ๊ยเพิ่งจะเห็นฉันหรือยังไงยะ นั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้ตั้งนานนั่