“มิเป็นไรขอรับ ถือซะว่าจวนนี้เป็นจวนของตัวเองเลยนะซีเยว่”
“เจ้าค่ะ” นางเลือกที่จะตอบรับไปก่อนแม้จะรู้สึกว่าคำพูดของเขามันดูแปลกๆ คล้ายเชิญชวน
เมื่อคนตระกูลอวี้เดินจากไปรอยยิ้มอ่อนโยนเมื่อครู่ก็เลือนหายเหลือเพียงรอยยิ้มการค้า[1]
“ยินดีด้วยเฟยฉี” เสียงทุ้มของบุรุษผู้หนึ่งทำให้เขาหันกลับมาสนใจ
“คารวะแม่ทัพอุดร ขอบคุณนะขอรับที่ท่านมาร่วมยินดีกับข้า” แม้จะไม่อยากเชิญแต่ทว่าเพื่อจุดประสงค์บางอย่างของรัชทายาทเขาจึงจำเป็นต้องเชิญมา
“ท่านหยางกั๋วกงกับฮูหยินไม่มาด้วยหรือ”
“ท่านพ่อท่านแม่กลับ
เหตุใดคนจากเมืองหลวงถึงได้ดูดีเช่นนี้ สตรีหรือก็งดงาม บุรุษก็รูปงามไร้ที่ติ “ที่นั่งของพวกข้าอยู่ตรงไหนหรือเจ้าคะ” อวี้ลู่เสียนกล่าวถามเสียงเรียบ “ขออภัยเจ้าค่ะ ข้าจะพาไปเดี๋ยวนี้” บุตรสาวเจ้าของจวนกล่าวจบจึงเดินนำหน้าไป “รู้สึกว่าท่านจะเป็นที่ชื่นชอบของสตรีไม่น้อยเลยนะเจ้าคะ” อวี้ลู่เสียนเอ่ยถามชายคนรักเสียงเบา “เรื่องนี้ข้าห้ามพวกนางไม่ได้ แต่เจ้าได้โปรดจงมั่นใจ ข้าโจวเลี่ยงรุ่ยผู้นี้ไม่มีทางเปลี่ยนใจไปจากเจ้า” “ลองท่านเปลี่ยนใจสิเจ้าคะ ได้เห็นดีกันแน่” แทนที่ผู้ตรวจการหนุ่มจะไม่ชอบใจกับคำข่มขู่จากสตรี เขากลับยิ้มรับและมองสตรีข้างกายด้วยสายตาเอ็นดู
“หมั้นหมายกับพี่ เมื่อเรื่องที่หนานโจวเสร็จสิ้น นั่นคือคำขอจากพี่” ‘เล่นแบบนี้เลยหรือ’ “ว่าอย่างไร เจ้าตกลงหรือไม่” “ก็ได้เจ้าค่ะ แต่หากในวันหน้าท่านถูกใจสตรีอื่นอยากรับเข้าเรือนหลัง ท่านต้องยอมให้ข้าถอนหมั้นหรือหย่า...” นางกล่าวยังไม่ทันจบ ริมฝีปากของเขาก็ทาบทับลงบนริมฝีปากนาง ลิ้นร้อนบุกรุกโพรงปากนุ่มอย่างอุกอาจ ก่อนจะปิดท้ายด้วยการดูดดึงปากนางอย่างแรงราวกับกำลังระบายโทสะ ดวงตาเมล็ดซิ่งเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อถูกจุมพิตอย่างเร่าร้อนเช่นนี้ หัวใจดวงน้อยเต้นรัวอย่างบ้าคลั่ง พลันเข้าใจได้ในทันทีว่านางเอกในนิยายพวกนั้นรู้สึกเช่นไรยามถูกบุรุษจุมพิต 
15 พี่เปลี่ยนใจแล้ว อวี้ซีเยว่ได้แต่ชอกช้ำระกำใจเมื่อนางขอไปนอนที่ห้องของพี่สาวแล้วถูกปฏิเสธ เพราะอีกฝ่ายเห็นบุรุษสำคัญกว่า เพียงแค่คล้อยหลังนางไปอาบน้ำแค่ชั่วครู่พี่รองก็เปลี่ยนไป เอาแต่เฝ้าดูแลเหล่าบุรุษที่ร่ำสุราจนเมามาย ทิ้งให้น้องเล็กอย่างนางเดินคอ
“หากเปลี่ยนจากลู่เสียนเป็นซีเยว่เล่า เจ้าจะยินยอมง่ายดายถึงเพียงนี้หรือไม่” คำถามของสหายพี่ชายทำให้อวี้ซีเยว่ที่กำลังยกน้ำชาขึ้นจิบแทบสำลัก “ก็ต้องดูว่าน้องเขยข้าเป็นใคร มีนิสัยเช่นไร เขาดีต่อน้องสาวข้าหรือไม่ และสามารถแต่งเข้าตระกูลข้าได้หรือไม่” การรับปากว่าจะแต่งสตรีเพียงคนเดียวเป็นฮูหยินสำหรับเขาเป็นเรื่องเพ้อฝัน “หากเป็นข้าคุณชายหยางผู้นี้เล่า” “แค่กๆ” คราวนี้อวี้ซีเยว่สำลักน้ำชาจริงๆ “ใจเย็นๆ ซีเยว่” อวี้ลู่เสียนที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ช่วยลูบหลังให้น้องน้อย “ขอบ...คุณ เจ้าค่ะ” “ดูเหมือนเป็นซีเยว่เอ
“เหตุใดเจ้าถึงถีบพี่ตกเตียงเช่นนี้” ใบหน้าไร้ที่ตินั่นยุ่งเหยิงราวกับกำลังไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกเช่นใดดีระหว่างมึนงงกับไม่พอใจ จะให้เขาพอใจได้อย่างไร ในเมื่อนี่เป็นครั้งแรกที่เขาถูกสตรีถีบตกเตียงเช่นนี้ พระจันทร์แสนซุกซนของเขาช่างไม่เหมือนใครจริงๆ แต่เพราะนางเป็นเช่นนี้ เขาถึงได้หลงใหลมิใช่หรือ “ขออภัยเจ้าค่ะ ข้าเพียงตกใจ ก็ใครใช้ให้ท่านขึ้นมานอนเตียงสตรีที่ยังไม่ได้ปักปิ่นล่ะเจ้าคะ ข้านั้นเป็นเพียงแม่นางน้อยที่ไร้เดียงสาจึงตกใจอยู่บ้างที่มีบุรุษมาอยู่บนเตียง” อวี้ซีเยว่หลุบตาลงเล็กน้อย ริมฝีปากเม้มเข้าหากันราวกับกำลังไม่ได้รับความเป็นธรรม “พี่ขอโทษ ที่ทำเจ้าตกใจ” เขากล่าวพลางลุกยืนขึ้น มือใหญ่ปัดอาภรณ์อย่างลวกๆ ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้นาง “ข้าก็ต้องขอโทษ
“ตามแต่ท่านต้องการเจ้าค่ะ แต่ขอยกเว้นชีวิตและเงินทองเจ้าค่ะ ข้าค่อนข้างยากจน ทุกวันนี้อยู่ดีกินดีเพราะบิดามารดา” นางกล่าวจบก็กลับมานั่งตัวตรงพร้อมกับหลุบตาลงเล็กน้อยให้ดูน่าเอ็นดูกึ่งน่าสงสาร “ท่านผู้ตรวจการโจว เย็นนี้ท่านพอจะมีเวลาว่างหรือไม่ขอรับ” เมื่อมีคนเสนอค่าตอบแทนให้ คุณชายหยางเช่นเขามีหรือจะไม่รับไว้ ในเมื่อค่าตอบแทนที่เขาต้องการมันช่างหอมหวานยิ่ง... “ข้าไม่ได้มีงานสำคัญใด ท่านมีอันใดหรือไม่” ขุนนางหนุ่มเอ่ยถามบุรุษผู้ที่มีอายุน้อยกว่า “เย็นนี้ข้าอยากจะเชิญท่านมารับมื้อเย็นที่จวนที่พวกข้าพักอาศัย อาจจะมีการจิบสุราบ้างเล็กน้อยเพื่อสร้างความคุ้นเคยกัน” หยางเฟยฉีกล่าวจบก็เหลือบมองสหายตน&nb