LOGIN"คุณแมน"
"ค้าบ~" “ทำไมต้องตามไปส่องโซเชียลของดีกันด้วย” “หา? อะไร ใครส่องไม่มี๊” แมนรีบเบือนหน้าหนี เสียงสูงปรี๊ดปากพูดปฏิเสธแต่หางตาแอบเหลือบมองโทรศัพท์ในมือที่ยังเปิดหน้าจอค้างอยู่พอดี เขารีบกดล็อกหน้าจอที่เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ “อย่ามาทำไขสือ อย่าคิดว่าท้องอยู่แล้วผมจะไม่กล้าขัดใจนะ” อีกฝ่ายเอ่ยเสียงนิ่งท่าทางรู้ทันจนคนโดนจับได้ต้องเกาหัวแกรกๆ เรียกหาตัวช่วย “ดี ไอ้ดี มานี่หน่อย” “อะไร” “ลูกคนโตของมึงบ่นกูอ่า” “ด่ามันเลยลูก พ่อทำกับข้าวให้น้องแฝดก่อน ลูกจะกินอะไรมั้ย” “ไม่เป็นไรครับ ผมกินกับดีกันมาแล้ว” “กินกันมาแล้ว?” คนเป็นแม่ตาโตทวนคำตอบท่าทีตกใจเหมือนลูกเดินมาบอกว่าท้องแล้ว “พูดอะไรของคุณเนี่ย” วันส่ายหน้าเบา ๆ “คิดดีไม่ได้เลอ” “คุณไม่เคยคิดอะไรธรรมดาอยู่แล้ว แล้วนี่เป็นไง ในท้อง” แมนลูบท้องที่ยังแบนราบอยู่พลางชูนิ้วโป้งให้ลูกคนโต “ชิลมาก ท้องที่ห้า คนที่หก ไอเลิฟมายจ้อปมาก” “งานของคุณคือการผลิตทายาทสินะ” “ช่าย” “ไหนบอกมาสิ ตามส่องเพื่อนผมทำไม” วันเอ่ยเสียงนิ่งแต่ตาเหลือบไปมองโทรศัพท์ในมือแม่ที่ยังเปิดหน้าโปรไฟล์ใครบางคนอยู่ “ก็ตัวเองไม่เล่าให้ฟังอ้ะ”แมนทำเสียงออดอ้อนแบบไม่ได้รู้สึกผิดสักนิด พ่อดีที่นั่งพิงพนักโซฟาอยู่ข้าง ๆ แค่หัวเราะในลำคอเบา ๆ “ครอบครัวเราพูดกันรู้เรื่องมากมั้ง ก็อยู่ด้วยกันทุกวันอยู่แล้ว ทำอะไรด้วยกันตลอด ถ้ามันทำแล้วก็ไม่ต้องพูดก็ได้” วันพูดขึ้นพลางหยิบแก้วน้ำดื่ม แม่แมนหันมามองลูกชายอีกครั้ง “รักเค้าป้ะ?” “ไม่รัก” วันตอบทันควัน สีหน้าเรียบแต่หูแดง “อะไรอ้ะ~” “อ้ะนี่ บ่นอยากกินไม่ใช่เหรอ” “อุ๊! ช็อกโกแลตราคาแพงสุดหรู ที่ห้างอันดับหนึ่งของประเทศ!”แมนทำเสียงตื่นเต้นเหมือนเจอขุมทรัพย์ วันเงยหน้าขึ้นเอ่ยเสียงเรียบ “ซื้อในเซเว่น” แต่คนขี้มโนไม่ฟังยัดขนมใส่ปากเคี้ยวตุ้ยๆ ตาเป็นประกาย “งั่มม~ อื้ม อาโหร่ย!” กัดคำแรกเข้าไปแล้วหลับตาพริ้มอย่างฟิน “ดี~ ลูกชายคนโตของกูซื้อของมาให้กูด้วยแหละ” แมนหัวเราะชอบใจ ส่วนดีแค่ส่ายหัวพลางยิ้มมุมปาก เสียงหัวเราะเล็ก ๆ ของทั้งบ้านดังคลอกับเสียงทีวีในเย็นวันนั้น “หึหึ”เสียงหัวเราะในลำคอของดีดังขึ้นมองรอบบ้านด้วยความสุขจากภายใน “คุณดีขำอาราย~” เจ้าแฝดที่นั่งโต๊ะเตี้ยมองพ่อพลางเอียงคอถาม เสียงใส ๆ แบบเด็กอยากรู้อยากเห็นสุด ๆ “ขำแม่ลูกปากแข็ง” ดีตอบพร้อมรอยยิ้มกวน ๆ หันไปมองทางแม่แมนที่ทำทีเป็นไม่สนใจแต่แก้มเริ่มขึ้นสี “ปาก” แฝดคนพี่ทวนคำอย่างใสซื่อ “แข็ง” แฝดคนน้องต่อให้ทันที “ปากนายแข็งไหม ไฟฟ์?” “ไม่นะ นิ่มมาก~” เจ้าไฟฟ์ตอบพลางยิ้มกว้างอย่างภูมิใจ “ของเราก็นิ่ม~” ฝาแฝดอีกคนรีบเสริมเสียงใส พ่อดีหัวเราะหึหึอีกครั้ง ก่อนจะเอียงหน้าไปฟัดแก้มลูกทีละคน “ของคุณดีนิ่มมั้ย” “ฟอด ฟอด” เสียงหอมแก้มดังชัดสองที ดียิ้มมกว้างถามสองแฝดที่หัวเราะลั่น “นิ่มไหม” “อืม…นิ่มนะ” “ช่าย~ นิ่ม ๆ แต่มีหนวดคัน ๆ!” เด็กแฝดสองคนพูดพร้อมกัน เสียงหัวเราะทั้งโต๊ะดังขึ้นทันที แมนนั่งหัวเราะจนตัวโยก วันมองพ่อแม่กับน้อง ๆ แล้วส่ายหัวเบา ๆ แต่ริมฝีปากก็แอบยิ้มตามบ้านนี้…คงไม่มีวันเงียบจริง ๆ สักวันเดียว ดีเดินดูลูกกินข้าวแต่จู่ ๆ บ้านที่กำลังสงบก็ดังขึ้นอีก “ปัง!” ตามด้วยเสียงแมนหวีดร้องเสียงหลง “ห๊าาาาา! ” “อะไรอีก” ดีโผล่หน้าออกมาถามแม่ของลูก “อารายอี๊กกก~” เจ้าแฝดสองคนเงยหน้าออกมาจากโต๊ะพูดตามพ่อทันที เสียงประสานอย่างกับคอรัส แมนชี้ไปทางลูกชายคนโต “ดี๊ดดดด! ลูกชายคนโตของมึงจะไปอยู่คอนโด!” “ไปเลยลูก ตามใจแม่มาก เดี๋ยวนิสัยเสียกว่านี้อีก” พ่อดีตอบหน้าตาย “ไอ้ดี๊!” “อย่าเสียงดัง เดี๋ยวน้องตกใจ” วันปรามคนแม่แต่ยิ้มมุมปาก วันยืนพิงกรอบประตู “ผมจะทยอยขนของไปนะ ช่วงจะขึ้นมหาลัยคงได้นอนที่คอนโดบ่อยขึ้น... อยากอ่านหนังสือเงียบ ๆ” “เงียบแน่เหรอ?” แม่ถามเสียงยานคาง “ทำไม?” “อยากอยู่กับใครหรือเปล่า สองคน สองต่อสอง บรรยากาศสลัว ๆ แล้วก็...” “ผมไม่ใช่คุณสองคนนะที่ปั๊มลูกเป็นงานหลัก”"แมนทำหน้าดีๆ หน่อยลูกชายคนแรกของเรากำลังจะแต่งงานนะ"พ่อของลูกชายทั้งเจ็ดบีบแก้มคนหน้าบึ้งเบะปากมองชายหนุ่มร่างสูงในชุดเจ้าบ่าวลูบผมลูกชายด้วยท่าทางหมั่นไส้เต็มขั้น"แต่งได้ก็เลิกได้คิดว่าโรแมนติกมากมั้งถ่อมาไกลถึงทะเลลมก็แรงมีแต่กลิ่นเกลือใครมันเป็นคนเลือกสถาณที่เนี่ย สิ้นคิดชะมัด" แมนบ่นอุบสะบัดหน้าให้หลุดพ้นเงื้อมมือพ่อของลูก"พี่วันไงพี่วันชอบทะเล" ทูถือไอติมยื่นให้แม่กับพ่อพลางตอบคำถามตัวแม่ แมนหุบปากฉับย่นจมูกอย่างขัดใจแต่แอบเนียนงับไอศกรีมผัวเพราะอยากชิม"อ้าวไม่ใช่หมอนั่นเลือกเรอะ""เรียกลูกเขยให้มันเหมือนชาวบ้านหน่อย""เช๊อะ...ทะเลก็สวยดีดูพระอาทิตย์ตกดินนั่นสิ""เปลี่ยนสีเป็นกิ้งก่าเลยนะ" ดีว่าให้เมียตัวร้ายที่เดินไปสมทบกับปู่ย่าตายายเพื่อหาเหล้าฟรีดื่มแสงสุดท้ายของวันทอดตัวเหนือผิวน้ำ กลืนเข้ากับท้องฟ้าสีทองอ่อนจนแทบมองไม่ออกว่าทะเลเริ่มตรงที่ใดลมเย็นพัดผ่านกลิ่นเค็มจาง ๆ กับกลิ่นดอกลิลลี่ขาวที่ประดับเรียงรายตลอดทางเดิน ผืนผ้าสีงาช้างพลิ้วเบาอยู่เหนือพื้นทราย ทุกอย่างดูเรียบหรูมีรสนิยมบ่งบอกตัวตนความเป็นคนรวยของทั้งสองตระกูลได้เป็นอย่างดีเสียงคลื่นซัดเข้าหาฝั่งเป็นจังหวะ
วันนี้ตัวแม่หมกมุ่นอย่างหนักกับคำว่ารักของลูกเขย เหมือนคนขี้อิจฉาผสมปนเปกับความไร้เดียงสาบวกกับความร้ายเดียงสาของแมนทำให้คนดีถามเมียขึ้น “มึงอายุเท่าไหร่นะไอ้แมน” “เอ่อ..น้องวันอายุเท่าไหร่น้า อ่าา..อื้มม?” เมียไม่เคยจำอะไรเกี่ยวกับตัวเลขได้ ไม่ว่าจะเลขอะไรยิ่งมีลูกเยอะก็จำวันเกิดสลับมั่วไปหมดแทบจะเป่าเค้กทุกเดือน “มึงแก่แล้ว” “เออแล้วไงตูดแก่ๆ จะมาเอาอะไรกับกู” “วุ่นวายไปหมดตั้งแต่เด็กยันแก่ กูไม่รู้ รักไหมไม่รู้แต่จะเอาถอดกางเกงเดี๋ยวนี้!” “เจ้าเซเว่นอายุเท่าไหร่นะ?” “ถามทำไมอี้กมึงเป็นโรคความจำเสื่อมเร๊อะ!” “ก็กูสงสัยไอ้เด็กนั่นมันพูดออกมาด้วยความรู้สึกแบบไหน มันรู้สึกยังไงตอนพูดออกมา มันพูดจริงไหมหรือโกหกเก่ง แต่น้องวันบอกว่ามันดี โอยปวดหัว” “ทีเรื่องตัวเองไม่เห็นมึงจะคิดอะไรท้อง..แพ้ท้อง..แม่ด่า..พ่อไม่คุยด้วยไม่เห็นมึงจะเป็นอะไร” “ลูกรักของข้า น้องวันของข้า มหาสมบัติของข้า” “มึงบ้าไปแล้วไอ้แมน” “มึงสิบ้ากามถอดกางเกงกู” “สาดน้ำใส่สักทีสองทีมึงก็กลับมาร่าเริงเหมือนคนบ้าได้แล้ว” “กูไม่มีแรงมึงตอกมาเลยกูรับบทคนโดนข่มขืนเอง” “เอาหมอนปิดหน้ามึงไว้ได้มั้ยไม่อยากฟังมึงบ่
ตึกดึกคืนนั้น เงาดำตะคุ่มๆ คืบคลานเข้ามายังหน้าห้องหนึ่งซึ่งปิดป้ายเตือนไว้ยาวเหยียด ห้องที่ชื่อ Daddy ฝรั่งจ๋ามาแต่ไกล บรรทัดต่อมาเตือนว่าให้เคาะห้องตามลำดับการเกิดพ่อจะได้รู้ว่าใครจะมาหาเรื่องอะไร คนที่รู้ว่าลูกแต่ละคนจะมีเรื่องคุยแบบไหนมาหาเพราะอะไรนี่มันช่างเป็นสุดยอดคุณพ่อเสียจริง แต่ร่างตรงหน้าประตูไม่ได้เคาะมันแต่อย่างใดกลับบิดเปิดเข้ามาแผ่วเบาคืบคลานขึ้นมาบนเตียงกว้างคลานคล่อมร่างกำยำไร้อาภรช่วงบนปกปิดอวดกล้ามเนื้อแน่นหายใจเป็นจังหวะสม่ำเสมอ คุณพ่อเพียงหนึ่งเดียวในบ้านนอนหลับสนิทโดยไม่รู้เลยว่ามีภัยคุกคาามคืบคลานคล่อมร่างตนเองและจ้องเขม็งมายังวงหน้าหล่อเหลายามนิทรา สิ่งนั้นเปล่งเสียงท่ามกลางความมืดออกมาว่า! “ไอ้ดี” “..ว่า” ไม่ต้องลืมตาขึ้นมามองก็รู้ว่าใครที่เข้ามาห้องคนอื่นโดยพละการคลานขึ้นเตียงมาตัวขาวโพลน คนที่ไร้มารยาทที่สุดในบ้านและคาดหวังว่ามันจะดีไปกว่านี้ไม่ได้ อีเมียตัวดี “มึงรักกูมั้ย?” คำถามที่มาพร้อมความรู้สึกหยาบกร้านแสบสันไร้ความอ่อนโยนเหมือนกระดาษทรายเบอร์ 88 ทำเอาคนตัวโตขนลุกซู่จนต้องท้าวแขนผงกตัวขึ้นมาเปิดไฟหัวเตียงด้วยใบหน้านิ่งสนิทหรี่ตามองคนร่างควาย
ตอนแนะนำตัวกับครอบครัววันครั้งแรก ดีกันคิดว่าคงเป็นแค่ทักทายธรรมดาแต่ไม่… มันคือการเจอกองทัพทั้งเจ็ด…อย่างกับสโนว์ไวท์แน่ะเขายืนหน้าประตูบ้าน ยิ้มสุภาพเหมือนคนดูมีมารยาท ทันใดนั้น ฝูงน้อง ๆ ก็กรูเข้ามาเหมือนเจอดารา“สวัสดีพี่ดีกัน!”“หวัดดีพี่ดีกัน!”“หวัดดีจ้าพี่ดี~!”“เฮลโหลวพี่กันดี เอ้ย ดีกัน!”“ไงพี่กัน!”“โย่วพี่ดีกัน!”เสียงทักดังรัวเหมือนยิงปืนกล“สวัสดีน้องๆ”ใช่ครับแฟนผมมีน้องพ่อแม่เดียวกันมากถึงหกคนรวมแฟนผมเป็นเจ็ดคน…เขากวาดตามองแถวเด็กที่ยืนเป็นระบบระเบียบกว่าทหารเกณฑ์ลูกดกขนาดนี้นี่คือบ้านหรือเครื่องถ่ายเอกสาร?“ลูกดกมาก…” ดีกันกระแอมห่างกันปี สองปี สามปี สูงไล่เลี่ยกันหมด…หน้าตาดีทั้งบ้าน เพราะพ่อแม่หน้าตาดีมากด้วย“ใครให้อินดีกว่านี้มั้ย…ตั้งใจปั๊มลูกอย่างมีระบบมากเลยนี่นา~”น้องซิกยกมือทันที “พ่อบอกว่าอยากครบสิบ!!”ดีกันช็อกจนแทบหยุดหายใจวันตบบ่าเขาเบา ๆดีกันหันมองคนข้างตัวช้า ๆ“…วันอยากมีลูกกับฉันแบบนี้ไหม”วันชะงักเแต่น้องๆ หัวเราะกร๊าก"อยู่บ้านกันหมดเลยเหรอ" ดีกันกวาดตามองรอบบ้านใหญ่ที่เต็มไปด้วยรองเท้ากองหน้าประตู เหมือนทุกคนในจังหวัดนัดกันมาที่นี่"ช่าย นี่
(วัน) หลายปีผ่านไปครอบครัวของผมใหญ่ขึ้นเพราะน้องๆ โตขึ้นเรียนชั้นสูงขึ้นแยกย้ายกันเรียนในสายที่ชอบแต่ไม่ไกลบ้านนัก ผมอยู่คอนโดลำพัง แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ลำพังเสียทีเดียว ก็คุณแมนไปอ้อนคุณยายให้ซื้ออีกห้องชั้นล่างสุดน่ะสิไม่รู้มีแผนอะไรชอบไปตีสนิทกับยามและแม่บ้าน ก็คงเล่นเป็นสายลับเหมือนเดิมเกิดเป็นลูกคนอย่างพ่อกับแม่ไม่ง่ายเลยนะเหมือนเป็นเพื่อนที่โตมาด้วยกัน หลายครั้งก็อยากจะดุด่าให้สำนึกจริงจังสักทีว่าทำไมไม่ใช้ชีวิตให้ดีกว่านี้ แต่พอโตขึ้นก็นึกขอบคุณที่เขาไม่ตามกระแสยังคงความเป็นตัวของตัวเองแบบมนุษย์ที่มีความแตกต่างได้แทบจะร้อยเปอร์เซ็นที่รู้สึกแบบนั้นเพราะส่วนหนึ่งเห็นครอบครัวคนรักอย่างดีกันเคร่งครัดกับการใช้ชีวิตมากไปหน่อย ยามอยู่ห่างกันคนตัวโตทำท่าจะเป็นจะตายเพราะงานที่บ้านชวนให้อึดอัด พอกลับมาเจอก็อ้อนอยากกอดตลอดเวลาเหมือนเด็กๆ ทำให้รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นบ้านให้ดีกันคอยพักพิงไปเสียแล้ว“เหนื่อยจังไม่อยากทำงานแล้ว”คนตัวสูงรูดเนคไทออกจากลำคอแกร่ง นักบาสคนเก่งกลายร่างเป็นนนักธุรกิจหนุ่มขึ้นทุกวัน ใกล้เรียนจบมหาวิทยาลัยเพื่อนคนอื่นมีแพลนเรียนต่อต่างประเทศเริ่มธุรกิจอย่างที่อยากทำ
เสียงวันสวนกลับทันที พ่อแม่เงียบไปสามวินาทีก่อนระเบิดหัวเราะออกมาพร้อมกัน“อู้วว เสียดสีเหลือเกิ๊น” แมนยกมือกุมอกแสร้งทำสีหน้าเจ็บปวดพลางเอนพิงโซฟา “ไปนอนด้วยได้มั้ย เดี๋ยวเหงา”“ไม่เอาอ้ะ” วันพูดเสียงเนือยตัดบททันควัน “ให้อยู่กับคุณ เอาน้องห้าคนไปอยู่ด้วยดีกว่า”“อะไรอ้ะ~” แม่ทำเสียงสูงทันที ส่วนเจ้าแฝดเริ่มหัวเราะคิกคัก“ผมไปอาบน้ำนอนละ อย่าเสียงดังนะ เดี๋ยวน้องเลียนแบบ” วันพูดก่อนเดินขึ้นห้องไป“อะไรอ้าาาา~”เสียงแม่แมนลากยาวตามหลัง ส่วนพ่อดีก็หัวเราะหึในลำคอเบา ๆ เหมือนจะบอกว่าบ้านนี้…เงียบได้สักวันคงปาฏิหาริย์แล้วล่ะ“มึงดูลูกสิ”แมนทำหน้ายู่ชี้นิ้วไปทางห้องลูกชายคนโตแตสามีเพียงยิ้มให้พลางเทน้ำส้มลงแก้ววางลงตรงหน้าคนท้อง “ดูทำไม ลูกจะเรียนจบมอหกแล้ว โตมาอย่างมีคุณภาพ อาจจะกดดันตัวเองมากไปหน่อย แต่ก็ผ่านมาได้โดยไม่ทะเลาะกัน”“ใครจะกล้าทะเลาะด้วยวะ ดุจะตาย” แม่แมนหัวเราะในลำคอ นึกถึงสายตาคม ๆ ของลูกชายที่เหมือนแม่ตัวเองไม่มีผิดดีหัวเราะเบา ๆ “ดีจริง ๆ มีลูกคนแรกมากำราบความดื้อด้านของตัวเองอีกที”“นี่กูคิดถูกไหมเนี่ย ที่ปล่อยให้มีลูกมากขนาดนี้” แมนพูดพร้อมยกแก้วน้ำส้มขึ้นจิบเหล







![นายบำเรอของมาเฟีย [Mpreg]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)