คีย์จะทำยังไงเมื่ออยู่ๆก็มีเด็กน้อยที่ไหนก็ไม่รู้วิ่งมาเกาะขาแล้วเรียกเขาว่าปะป๊า ทั้งๆที่ตัวเขานั้นก็ไม่มีแฟนหรือมีภรรยา ว่าแต่เด็กคนนี้เป็นลูกเต้าเหล่าใครกันเนี่ย ทำไมถึงมาเรียกเขาว่าปะป๊าแบบนี้
View Moreบทนำ
"พี่คีย์ เขาคนนี้เป็นใคร...ทำไม ทำไมพี่คีย์ถึงมายืนกอดกับเขา"เสียงใสเอ่ยถามแฟนหนุ่มรุ่นน้องที่มักจะให้ตัวเขาเอ่ยเรียกว่าพี่อยู่เป็นประจำด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ พลางนัยน์ตากลมโตก็จ้องมองภาพของชายหนุ่มตัวสูงที่เป็นคนรักของตัวเองยืนกอดกลมเกลียวกับผู้หญิงคนอื่นอยู่ภายในห้องพักของพวกเขาทั้งสองที่ใช้อาศัยอยู่ด้วยกันมานานเกือบจะสามปีพลันในหัวก็เกิดคำถามขึ้นว่า
นี้มันเรื่องบ้าอะไรกัน ทำไมเขาถึงได้เปิดประตูห้องมาเจอแฟนของเขาที่คบกันมานานนับสามปียืนกอดกับผู้หญิงคนอื่นอยู่ภายในห้องพักของพวกเขา
"นลิน พี่ต้องกลับไปที่ญี่ปุ่นแล้วนะ"เสียงทุ้มเข้มของแฟนหนุ่มที่เด็กกว่าหนึ่งปีเอ่ยพึมพำขึ้นมาเสียงเบา พลางใบหน้าหล่อเหล่าก็ก้มมองพื้นห้องไม่ได้ชายตาขึ้นมาจ้องมองคนที่ขึ้นชื่อว่าแฟนอย่างนลินเลยว่าตอนนี้ใบหน้าสวยนั้นได้อาบไปด้วยน้ำสีใสแล้ว
"กลับไปกับเขาคนนี้น่ะหรอ กลับไปกับผู้หญิงคนนี้น่ะหรอพี่คีย์"นรินทร์เอ่ยถามคนรักขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาพลางในใจก็พยายามข่มอารมณ์ที่กำลังคุกรุ่นและความเสียใจที่เริ่มจะปะทุขึ้นไว้ภายในใจ
"ครับพี่ต้องกลับไปกับเขา"คีย์ยังคงเอ่ยตอบนลินโดยที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองหรือสบตา เขายังคงก้มหน้าไม่เอ่ยพูดหรืออธิบายอะไรออกมา เขายังคงยืนยันคำเดิมว่าตัวเขานั้นต้องกลับไปที่ญี่ปุ่นกับหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างกายของเขาในตอนนี้
"แล้วลินล่ะพี่คีย์ แล้วลินล่ะ"นลินเอ่ยถามพึมพำออกมาพลางก้มหน้ามองพื้นปล่อยให้น้ำสีใสที่ไหลออกอาบแก้มนวลทั้งสองข้างหยดลงพื้นห้องอย่างไม่คิดจะอาย พลันในมือบางก็กำแท่งบางอย่างเอาไว้แน่นจนแทบจะหักคามือ
แล้วลินล่ะคีย์ แล้วลินกับลูกในท้องล่ะ?
เลิกบ้าได้แล้วนลิน เขาไม่สนใจแกกับลูกในท้องของแกหรอก เลิกบ้าได้แล้ว
"ขอโทษนลิน คีย์ขอโทษ คีย์ต้องไปแล้ว"หลังเอ่ยขอโทษในวันนั้นชายหนุ่มที่ชื่อคีย์ หรือ นายฐิระเชษฐ์ ฮายาโตะ ก็หายออกไปจากชีวิตของนลินเหลือไว้เพียงข้าวของภายในห้องและอีกหนึ่งชีวิตที่อาศัยอยู่ภายในท้องน้อยๆของ นรินทร์ ณ อนพัช
.
.
.
.
6ปีต่อมา
เวลา07:11นาที
"เฮือกกก! ฝันถึงเขาอีกแล้วหรอเนี่ยยย"ร่างบางที่สะดุ้งตื่นขึ้นมาในตอนเช้าด้วยความฝันเดิมๆที่เขามักจะฝันถึง เป็นต้องดันตัวลุกขึ้นนั่งพลางยกมือบางทั้งสองข้างขึ้นมาลูบใบหน้าตัวเองที่ตอนนี้เปียกชื้นไปด้วยน้ำสีใส
"ช่วงนี้รู้สึกว่าจะฝันถึงเขาถี่ขึ้นมั้ยนะ"ร่างบางบ่นพึมพำกับตัวเองเสียงเบา ก่อนที่ใบหน้าหวานจะเงยหน้ามองไปยังบานประตูห้องนอนเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูดังขึ้น
แกร๊ก
"ป๊าตื่นแล้วหรอครับ"เสียงใสของเด็กน้อยเอ่ยถามผู้ใหญ่ที่ตัวเขาเรียกว่าป๊าขึ้น พร้อมกับสองขาสั้นก้าวเดินเข้ามาใกล้กับเตียงนอนหลังใหญ่
"ครับป๊าตื่นแล้ว คิรินตื่นนานยังครับ"นลินเอ่ยตอบเด็กตัวน้อยพลางเอ่ยถามกลับในทันทีว่าเด็กน้อยนั้นตื่นนานหรือยัง
"คิรินตื่นได้สักพักแล้วฮะ แต่คิรินไม่เห็นป๊าลงมาข้างล่างสักทีก็เลยขึ้นมาตามฮะ"เด็กตัวน้อยเอ่ยตอบพลางปีนขึ้นมาบนเตียงนอนนุ่ม ก่อนที่จะคลานเข่าไปนั่งบนตักบางแล้วเงยหน้าถาม
"นลินๆๆ นลินฝันถึงปะป๊าอีกแล้วหรอฮะ"เด็กตัวน้อยเอ่ยถามผู้เป็นมารดาขึ้นเสียงใส ซึ่งนลินที่เห็นลูกน้อยเอ่ยถามแบบนั้นก็พลางมีสีหน้าลำบากใจ เพราะเขาไม่อยากให้ลูกน้อยของเขารู้ว่าเขานั้นฝันถึงผู้เป็นพ่อของเด็กตัวน้อยที่นั่งอยู่บนตักของเขาสักเท่าไหร่
"เปล่าครับ ป๊าไม่ได้ฝัน"นลินเอ่ยโกหกออกไปเสียงเบาพลางเบือนหน้าหลบสายตาดวงน้อยที่มองมาที่เขาไม่วางตา
"นลินโกหกคิรินอีกแล้ว เวลานลินฝันถึงปะป๊าทีไรนลินมักจะร้องไห้และตอนนี้ใบหน้าของนลินก็มีแต่รอยคาบน้ำตา"เสียงเด็กน้อยเอ่ยพูดขึ้นเจือแจ๋ว ซึ่งคำพูดของเด็กตัวน้อยทำให้นลินกระอักกะอวมไม่น้อยและไม่รู้จะเอ่ยโกหกยังไงต่อ จึงทำได้เพียงแค่คิดในใจและเปลี่ยนเรื่องพูดคุย
จะฉลาดเกินไปแล้วนะคิริน
"อ่าาาป๊าว่าเราเลิกพูดถึงปะป๊าดีกว่า ว่าแต่หม่าม๊ายิ้มหวานมาหรือยังเอ๋ย"นลินเอ่ยพูดเปลี่ยนเรื่องพลางเอ่ยถามลูกชายตัวน้อยที่ลงไปข้างล่างมาแล้ว ว่าเห็นเพื่อนสาวคนสนิทของเขามาที่ร้านหรือยัง
"ยิ้มหวานมาแล้ว ตอนนี้กำลังดูร้านอยู่ข้างล่าง"คิรินเอ่ยตอบผู้เป็นมารดาที่ชอบเรียกตัวเองมาป๊าและชอบให้เขาเรียกคุณน้ายิ้มหวานว่าหม่าม๊า เพราะกลัวว่าคิรินนั้นจะโดนเพื่อนๆที่โรงเรียนล้อว่าคิรินนั้นไม่มีพ่อ นลินจึงชอบแทนตัวเองว่าป๊าอยู่บ่อยๆและเรียกคุณน้ายิ้มหวานว่าหม่าม๊าเวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่น
คิรินไม่เข้าใจหม่ามี้เลยว่าทำไมต้องกลัวคนอื่นล้อคิรินว่าไม่พ่อด้วย
ก็ในเมื่อคิรินมีคุณพ่อ แค่คุณพ่อของคิรินไปทำงานอยู่ที่ไกลแสนไกลแค่นั้นเอง
"คิรินลงไปรอข้างล่างนะฮะหม่ามี้"
"ครับลูก"
ณ.ตระกูลNTเวลา16:12นาที"นลินน้องหยุดนะ!"น้ำเสียงหวานเอ่ยห้ามลูกชายคนโตของตัวเองขึ้นเสียงดุพลางนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนที่ลูกชายก็ได้จากตนไปจ้องมองนรินทร์ที่กำลังก้าวเดินเร็วๆตรงไปทางประตูบ้านใหญ่ด้วยแววตานิ่งสงบเกินที่จะมีใครคาดเดาได้ นลินที่ได้ยินน้ำเสียงดุดันของนิวตัลผู้เป็นมารดาก็หันกลับมาจ้องมองใบหน้าของผู้เป็นแม่ที่ยังคงดูอ่อนวัย เกินกว่าที่จะเหมือนคนวัย51ย่าง52ด้วยแววตาแสดงความเศร้าหมองให้มารดาเห็นอย่างได้ชัด"น้องจะไปหาไอ้หมอนั้นใช่มั้ย"ใบหน้าเรียบนิ่งจ้องมองลูกชายนิ่งๆพลางเอ่ยถามลูกชายอย่างตรงๆและคำตอบที่ได้ก็เป็นอย่างที่นิวตัลคาดเดาไว้จริงๆ เมื่อลูกชายคนโตของเขานั้นยืนกำมือนิ่งๆเม้มปากเข้าหากันแน่นแล้วพยักหน้าตอบกลับมาเล็กน้อยโดยที่ไม่ได้เอ่ยอะไรตอบเขากลับมาเลย"....""เฮ่อออมี้ต้องทำยังไงกับน้องดี น้องถึงจะเลิกยุ่งกับหมอนั้นให้มี้"นิวตัลถอนหายใจทิ้งออกมาเฮือกใหญ่ สองขาเรียวก้าวเดินตรงเข้าไปหาลูกชายคนโตที่ยืนก้มหน้าอยู่กลับ
หลังจากที่นรินทร์ได้รับรู้ถึงเหตุผลทั้งหมดที่ฐิระเชษฐ์ทิ้งตัวเองไปอย่างไม่เต็มใจที่จะทำนั้นนลินก็ไม่ได้เอ่ยพูดอะไรขึ้นมาอีกเลย นลินและคีย์ที่ไม่มีใครเอ่ยอะไรขึ้นมาอีกก็นอนกอดกันกลมเกลียวอยู่บนเตียงนอนนุ่มในสภาพไร้อาภรณ์แบบนี้อยู่อีกสักพักใหญ่ๆ โดยที่ไม่มีใครเอ่ยพูดอะไรแทรกขึ้นมาทำลายบรรยากาศอันเงียบสงบ ก่อนที่จะเป็นคนตัวเล็กเจ้าของห้องที่เป็นฝ่ายดันคนตัวสูงที่นอนกอดเกี่ยวตัวเขาแน่นไม่ยอมปล่อยอย่างกับปลิงให้ออกห่างแล้วดันตัวลุกขึ้นจากเตียงนอนอย่างทุลักทุเล เพราะเมื่อยามที่นลินขยับตัวก็เจ็บเสียดที่ช่องทางรักอันบวมช้ำจากการผ่านศึกอันเร่าร้อนเมื่อคืนมาสดๆในทุกครั้งที่ขยับตัว"นลินไหวมั้ย"เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเต็มไปด้วยความห่วงใยพร้อมกับดันกายลุกขึ้นจากเตียงนอนหลังใหญ่แล้วสาวเท้าเดินตามกายขาวเนียนที่เดินตรงไปยังทางห้องน้ำเพื่อหวังจะชำระล้างร่างกาย"ไหว หะ เห้ย! คีย์! เดี๋ยวตก"เสียงใสเอ่ยตอบพร้อมกับที่ขาเรียวทั้งสองข้างก้าวเดินช้าๆไปทางประตูห้องน้ำ คีย์ที่เห็นอย่างนั้นก็ก้าวเดินเร็วๆไปช้อนอุ้มร่างบางขึ้นมาไว้ในอ้อมอก จนนลินที่อยู่ๆก็โดนคนตัวสูงช้อนอุ้ม
ณ.ร้านK.linเบเกอรี่เวลา 06:51นาทีดวงอาทิตย์ค่อยๆเคลื่อนตัวพ้นจากขอบฟ้าขึ้นมาสาดส่องแสงสว่างทั่วผืนฟ้าทำให้ฐิระเชษฐ์ที่นอนหลับลึกอยู่ในห้วงนิทราต้องรู้สึกตัวลืมตาตื่นจากห้วงนิทรา เมื่อโดนแสงสว่างจ้าของดวงตะวันสาดส่องผ่านรอยแย้มของผ้าม่านมากระทบที่เปลือกตาที่ปิดสนิทของเขา คีย์ที่เปิดเปลือกตาตื่นจำต้องกะพริบตาถี่สองสามที่เพื่อปรับโฟกัสในการเหลียวมอง ก่อนที่ใบหน้าหล่อตี๋จะก้มมองกายบางของนรินทร์ที่นอนซุกตัวในอ้อมกอดของเขาโดยไร้อาภรณ์ปกปิดร่างกายขาวผ่องฐิระเชษฐ์นอนจ้องมองคนตัวเล็กที่หลับซุกอกตัวเองอยู่นั้น ก็คลี่รอยยิ้มบางๆออกมาพลางมือก็ยกขึ้นมาเกลี่ยเส้นผมนุ่มที่หล่นมาปกคลุมใบหน้าสวยอย่างเบามือ เพราะกลัวว่าจะไปกวนเวลานอนอันแสนสุขของร่างบาง แต่ไม่ว่าคีย์จะสัมผัสอย่างเบามือแค่ไหนก็ทำให้ร่างบางที่นอนหลับอยู่นั้นลืมตาตื่นขึ้นจากห้วงนิทรามาจ้องมองคนตัวสูงที่นอนเคียงข้างกันอยู่ดี อาจจะเพราะนลินกลายเป็นตื่นง่ายตั้งแต่คลอดคิรินออกมาเลยทำให้เขารู้สึกตัวตื่นเร็วแค่มีเสียงดังน้อยๆหรือมีใครมาสัมผัสตัวเขานรินทร์ก็จะรู้สึกตัวในทันที
"งั้นก็อย่าหยุดซิครับ พี่คีย์....กอดลินหน่อยครับ กอดลินแน่นๆให้ลินหายคิดถึงพี่คีย์หน่อย คิดถึง ลินคิดถึงพี่คีย์"สิ้นประโยคของคนตัวเล็กที่นั่งทอดกายอยู่บนหน้าท้องแกร่งที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม เหมือนเป็นประกายไฟให้คนตัวสูงเมื่อได้ยินคนตัวเล็กเอื้อนเอ่ยบอกว่าคิดถึงนั้นจะเป็นชนวนให้ฐิระเชษฐ์พลิกกายดันให้เแผ่นหลังเนียนได้สัมผัสกับที่นอนนุ่มแล้วเปลี่ยนสลับตำแหน่งเป็นคีย์ขึ้นมาคร่อมกายของนลินแทน"หลังจากเริ่มแล้วมาร้องให้คีย์หยุดก็ไม่ทันแล้วนะครับคนสวย คีย์เคยเตือนลินตั้งแต่คบกันแล้วใช่มั้ยครับว่าถ้าขึ้นมาคร่อมกันอีกคีย์จะไม่ปล่อยไป""ลินเคยบอกให้คีย์หยุดด้วยหรอ ไม่เห็นจำได้เลย"คนใต้ร่างเอียงคอเล็กน้อยพลางเอ่ยถามคนด้านบนด้วยแววตาใสซื่อ ซึ่งฐิระเชษฐ์ที่ได้ยินคำถามของคนพี่ก็พลันแค้นหัวเราะเบาๆในลำคอกับการยั่วยวนตาใสของนลิน ก่อนที่จะเอ่ยขึ้นอย่างยิ้มๆ"แก้ไม่หายจริงๆซินะ ไอ้อาการยั่วยวนกันตาใสแบบนี้เนี่ย"เอ่ยจบคีย์ก็โน้มใบหน้าลงมาประกบริมฝีปากได้รูปลงที่อวัยวะเดียวกันอย่างนุ่มนวลฐิระเชษฐ์ขยับบดเบียดริมฝีปากของตัวเองเข้าหาริมฝีปากของนลินอย่างแผ่วเบ
บนห้อง"แก๊งฮายาโตะเป็นแก๊งของคุณพ่อพี่เองและตอนนี้พี่ก็เป็นคนดำรงตำแหน่งแทนท่านอยู่ครับ"เสียงทุ้มเอ่ยบอกความจริงทุกอย่างให้คนตัวเล็กได้รับรู้ นัยน์ตาสีดำจ้องมองดวงตาสวยของคนตรงหน้าที่ในตอนนี้ได้เบิกตากว้างแสดงสีหน้าอึ้งตกใจกับสิ่งที่เขาได้ยิน"พะ พี่ คีย์ พะ พูดเรื่องจริงหรอ"เสียงใสเอ่ยถามฐิระเชษฐ์ด้วยน้ำเสียงติดขัด นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนยังคงเบิกกว้างจ้องมองคนตัวสูงที่อายุน้อยกว่าตนเองอย่างอึ้งๆ เพราะเขานั้นไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่คีย์บอกก่อนหน้านี้เลย แต่สายตาคมที่แสดงถึงความจริงจังส่งมาให้เขาในตอนนี้นั้นมันไม่มีความล้อเล่นเลยสักนิด"คีย์ไม่เคยโกหกครับ"เสียงทุ้มเอ่ยย้ำขึ้นอีกครั้งถึงสิ่งที่ตัวเองเอ่ยบอกไปเมื่อกี้ว่าตัวเขานั้นไม่ได้เอ่ยโกหกแม้แต่น้อย พร้อมกับมือหนาเอื้อมไปประคองใบหน้าสวยของคนตัวเล็กเจ้าของห้องอย่างแผ่วเบาแล้วเอ่ยถามว่าคนตัวเล็กขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่ม"โกรธพี่มั้ยที่พี่ไม่เคยบอกอะไรเกี่ยวกับครอบครัวของพี่เลยตอนที่เราคบกัน""ลินไม่โกรธ...เพราะลินเองก็ไม่เคยเล่าเรื่องครอบครัวของลินให้พี่คีย์ฟังเลยเหมือนกัน"นรินทร์ตอบฐ
"คีย์ขอโทษ ทั้งๆคีย์ก็รู้ว่าลินเมาแท้ๆคีย์ก็ยังฉวยโอกาสตอนที่ลินไม่มีสติ"เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแหบพร่าพลางใบหน้าคมก้มลงซุกเข้าที่ลาดไหล่เล็กของคนตรงหน้าพร้อมกับที่ลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดลงที่กายบาง แต่แล้วฐิระเชษฐ์ต้องผล่ะใบหน้าหล่อออกจากไหล่บางมาสบนัยน์ตาสวยเมื่อน้ำเสียงทุ้มนุ่มหวานเอ่ยพูดขึ้นแผ่วเบา"แล้วคีย์รู้ได้ยังไงว่าลินไม่มีสติ ลินมีสติคีย์ ลินไม่ได้เมาจนไม่มีสติขนาดนั้น""ลิน...."เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นน้ำเสียงขาดหายดวงตาคมจ้องมองนัยน์ตาสวยด้วยแววตาวูบไหว ก่อนที่จะเลี่ยงสายตามองไปทางอื่นเพราะเขายังไม่อยากที่จะล่วงเกินคนตัวเล็กที่มีสติไม่เต็มร้อยในตอนนี้ เขาไม่อยากให้มีอะไรผิดพลาดในการกลับมาครั้งนี้ของเขา เขาอยากให้คนตัวเล็กกลับมาหาเขาด้วยความรักและความเต็มใจเขาไม่อยากทำอะไรให้นลินเสียใจและผิดหวังในตัวเขาอีก"ทำไมถึงทิ้งลินไป....ทำไมพี่คีย์ถึงทิ้งลินไปแบบไม่อธิบายอะไรเลย"ริมฝีปากได้รูปเอ่ยถามคนตัวสูงตรงหน้าที่เงียบไปนานถึงความสงสัยที่เขากักเก็บมานานนับ6ปีว่าเหตุใดคนตัวสูงตรงหน้านี้ถึงทิ้งเขาไปทั้งที่ไม่อธิบายอะไรให้เขาเข้าใจเลยสักนิด
ณ.ร้านK.linเบเกอรี่เวลา22:48นาทีตกเย็นแสงสีส้มของพระอาทิตย์แพร่กระจ่ายทั่วผืนนภาดวงตะวันเริ่มเคลื่อนตัวเข้าหาขอบฟ้าก่อนที่จะค่อยๆลับหายไปและย้อมท้องนภากลายเป็นสีดำมืด นลินที่วันนี้หยุดเปิดบริการร้านเบเกอรี่หนึ่งวันนั่งเหม่อมองแก้วน้ำสีอำพันในมือพลางมือบางหมุนควงแก้วสวยในมือที่ข้างในบรรจุน้ำสีทองอย่างช้าๆ ก่อนที่จะยกแก้วใบนั้นขึ้นจะลดริมฝีปากสวยแล้วสาดน้ำเมาภายในแก้วลงลำคอระหงส์ทีเดียวหมดแก้ว"แกมันน่าสมเพชจริงๆนลิน แค่เขากลับเข้ามาในชีวิตแก แกก็ใจอ่อนให้เขาแล้ว..."ริมฝีปากสวยบ่นพึมพำกับตัวเองเสียงเบาพลางมือบางก็เอื้อมไปคว้าขวดน้ำเมาสีอำพันมาเทใส่แก้วใบเดิมแล้วกระดกขึ้นดื่มหมดในอีกครั้งอย่างกับว่ามันเป็นน้ำเปล่าเสียอย่างนั้นก๊อก ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูกระจกของร้านดังขึ้นเรียกความสนใจให้ร่างบางที่กำลังเมาได้ที่หันไปดู นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนจ้องมองไปยังต้นเสียงก็พบกับร่างสูงที่เขาคุ้นตาเป็นอย่างดียืนอยู่อีกฟากฝั่งของประตู นรินทร์ที่เห็นว่าเป็นใครก็ดันตัว
ด้านนรินทร์"หม่ามี้ฮะเราจะไม่กลับไปค้างที่ร้านขนมแล้วหรอฮะ"เด็กน้อยวัย5ขวบเศษๆเอ่ยถามผู้เป็นมารดาด้วยน้ำเสียงและสีหน้าเศร้าหมองเล็กน้อย นัยน์ตาบริสุทธิ์จ้องมองผู้เป็นแม่อย่างต้องการคำตอบ เพราะตั้งแต่วันนั้นวันที่ผู้เป็นพ่อสัญญากับคิรินว่าจะโทรมาเล่านิทานให้ฟังเช้าวันถัดมาคุณตาคุณยายก็เดินทางมารับเด็กน้อยกับผู้เป็นแม่ของเขามาค้างที่บ้านใหญ่ทันที จนในตอนนี้เวลาก็ผ่านมาเป็นอาทิตย์แล้วที่เด็กน้อยนามว่าคิรินกับผู้เป็นแม่อย่างนลินมานอนค้างที่บ้านใหญ่ตระกูลNT"กลับครับ แต่ยังไม่ใช่วันนี้นะ น้องคิรินเป็นเด็กดีใช่มั้ยครับถ้างั้นน้องต้องไม่ดื้อนะครับ"น้ำเสียงทุ้มหวานเอ่ยกับลูกชายตัวน้อยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนพลางใบหน้าหวานก็คลี่ยิ้มส่งให้ลูกชายบางๆ แต่แล้วใบหน้าหวานที่คลี่ยิ้มก็ต้องหุบลงแล้วหันไปด้านหลังของตัวเองเมื่อได้ยินเสียงผู้ที่ให้กำเนิดตนเองดังขึ้นอยู่ด้านหลัง"น้องจะกลับไปที่ร้านวันไหน มี้จะให้คนไปคุ้มกัน"เสียงใสของร่างบางวัยกลางคนเอ่ยถามขึ้นจากด้านหลังของสองแม่ลูกที่นั่งคุยกันอยู่ห้องโถง นลินที่ได้ยินเสียงของผู้เป็นแม่ก็หันไปมอง ก่อนที่จะหันกลับมามอ
ณ.โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งแกร๊ก"คีย์เราจะไปไหนน่ะ คีย์หยุดนะพี่บอกให้หยุด คีย์จะถอดสายน้ำเกลือออกเองแบบนี้ไม่ได้นะ คีย์พี่บอกให้เราหยุดไง"คานะเอ่ยพูดกับน้องชายด้วยน้ำเสียงและสีหน้าตื่นตระหนก เมื่อเจ้าตัวเปิดประตูห้องเข้ามาเจอน้องชายกำลังจะถอดสายน้ำเกลือออกจากแขนตัวเอง จนหล่อนต้องรีบวิ่งเข้ามาห้ามอย่างรวดเร็ว ด้านเรียวตะที่นั่งก้มดูมือถือและคุยกับคีย์อยู่ดีๆ ก็มีสีหน้าตื่นตระหนกไม่ต่างกับหญิงสาว"เห้ย!ไอ้คีย์มึงเป็นบ้าไปแล้วหรือไงวะ"เรียวตะที่พึ่งจะเงยหน้าจากมือถือและหันไปเห็นว่าเพื่อนสนิทของตัวเองกำลังถอดสายน้ำเกลือออกก็ร้องถามขึ้นอย่างงตกอกตกใจพร้อมกับพุ่งตัวไปจับแขนของฐิระเชษฐ์ล็อกไว้ ส่วนคีย์ที่โดนเรียวตะจับล็อกตัวไว้ก็ร้องโวยวายขึ้น"ปล่อยนะโว้ยยยยยกูบอกให้ปล่อยไง!!!"เสียงทุ้มร้องตะโกนขึ้นพร้อมกับพยายามสะบัดตัวออกจากการจับ
Comments