Share

วนลูป

last update Last Updated: 2025-11-24 20:17:13

วันหยุดเสาร์อาทิตย์คือวันครอบครัวของบ้านเรา

สำหรับเด็กวัยรุ่นกำลังขึ้นชั้นมัธยมปัจจุบันไม่มีใครรู้สึกมีความสุขกับการอยู่รวมกับครอบครัวใหญ่เป็นหมู่คณะแสนจะวุ่นวายในที่สาธารณะอีกแล้ว

การเดินคนเดียวหรือเดินกับเพื่อนแค่สองคนกลายเป็นที่นิยมในสมัยนี้ แต่พ่อกับแม่ก็พามาเพื่อสปอนเซอร์หลัก

การสร้างภาพลงโซเชียวให้ปู่ย่าตายายเห็นและพาหลานไปหาที่บ้านคืองานของเรา

วันนี้ไปเดินเล่นห้างพ่อกับแม่ชอบเถียงกันจนอยากกลับบ้าน ลูกคนโตอย่างวันจึงเดินห่างๆ พวกเขาแก้ปัญหาด้วยการแบ่งกันเป็นสองทีม ถึงจะตกลงแบบนั้นก็ต้องมาจับไม้สั้นไม้ยาวอีกทีว่าใครจะไปกับลูกคนกลางและใครจะไปกับลูกคนเล็ก

วันนี้แปลกนิดหน่อยที่ไม่เกี่ยงกัน ดูเหมือนว่าพ่อดีต้องไปกับน้องทรีน้องคนสุดท้อง น้องๆ เป็นเด็กน่ารักว่าง่าย..เฉพาะตอนที่อยู่กับพี่ชายคนโตแต่ตอนอยู่กับพ่อแม่จะกลายเป็นคนละเรื่อง

“คุณดีน้องทรีไม่อยากเดิน”

“ทำไมไม่อยากเดินพึ่งซื้อรองเท้าใหม่ให้เอง”

“น้องไม่อยากให้รองเท้าเปื้อน”

“แต่พ่อถือตุ๊กตาหมีตัวเบ้อเริ่มให้หนูอยู่ หนูเดิน..”

กึก..แง๊งงงงงงง!!

นั่นไงแยกกันไม่เท่าไหร่เสียงน้องสุดท้องสุดที่รักที่อยู่ถัดจากแผนกของเล่นพวกหุ่นยนต์ก็ร้องลั่นห้างหรู อยู่กับแม่แมนยังไม่เท่านี้เลยเพราะแม่พูดจาหวานกว่าหน้ายิ้มมากกว่าแต่พ่อน่ะหน้าดุอย่างกับโจร โอ๋ลูกก็ไม่เก่งทำได้แค่ซื้อของให้

"หึหึหึ"

เสียงแม่หัวเราะอารมณ์ดีแกะขนมให้น้องทูนั่งกินกันตรงนั้นเลยยังไม่จ่ายเงินด้วย วันเดินไปหาพนักงานจัดของ กระตุกชายเสื้อพี่ตัวสูงชี้ให้ดูหัวขโมยแม่ลูกที่แกะขนมเป็นกองโดยไม่พูดอะไร พนักงานเดินลิ่วไปหาสองหัวขโมยแล้วบ่นให้ชุดใหญ่

..ก็อาย

แต่ชิน..

บอกแล้วไงว่าวันครอบครัวไม่ได้สนุกขนาดนั้น

"น้องทรีหยุดก่อนอย่าวิ่งไปทางบันไดเลื่อนเดี๋ยวกลิ้งตก หยุดดดด!"

พ่อดีหอบตุ๊กตาตัวใหญ่กว่าตัวน้องมาสองตัวกับถุงเสื้อผ้าของเล่นของน้องสาวเต็มมืออีกข้าง วิ่งไล่เด็กผู้หญิงในชุดเจ้าหญิงแฟรี่สีฟ้าติดกิ๊ฟตัวการ์ตูนเต็มหัวรองเท้าติดระบายสีขาวถูกเปลี่ยนเป็นรองเท้ารูปเท้าสัตว์ขนฟูใหญ่ๆ ที่พ่อดีพึ่งซื้อให้ วันแต่งตัวให้น้องๆ เองแต่งแบบไหนน้องก็ชอบ อาจจะคิดจริงๆ ว่่่่วันเป็นแม่ก็เลยไม่เคยดื้อ

วันโตแล้วมีเงินฝากและทรัพย์สมบัติที่จะได้หลังบรรลุนิติภาวะ จะซื้ออะไรก็ได้อย่างที่ลูกคนรวยทำแต่ไม่อยากซื้ออะไรเลย

พ่อกับแม่ทำให้กลัวการใช้ชีวิตที่ไม่มีแบบแผนไม่คิดหน้าคิดหลัง ไร้จุดหมาย เป็นบุคคลากรที่ไม่มีคุณภาพ ทำให้คนอื่นเดือดร้อน..

มันน่าอาย

พ่อดีหอบหิ้วเอวน้องทรีห้อยต่องแต่งรวมกับถุงช็อปปิ้งใบโตหลายใบแขนอีกข้างหอบตุ๊กตาตัวใหญ่สามตัวมัดติดหลังมาตัวนึง หัวฟูหน้ายุ่งเดินลงมาจากบันไดเลื่อนสวนกับผมและแม่ที่จะขึ้นไปชั้นข้างบน

มาถึงห้างได้ชั่วโมงเดียวสภาพเหมือนหลุดมาจากสงคราม เจ้าทูโบกมือให้พ่อแต่พ่อมีสีหน้าเหมือนคนใกล้ตายเต็มที แม่ยักคิ้วเลียไอติมใส่หน้าพ่อตอนบันไดเลื่อนสวนกันพ่อจ้องแม่เขม็งหน้าตาน่ากลัวไม่เข้ากับตุ๊กตาสีฟ้าสีชมพูฟูนุ่มนั่นสักนิด

ถึงว่าทำไมต้องแย่งกันดูลูก มันแตกต่างกันแบบนี้นี่เอง แม่ได้ถือของเด็กเล่นผู้ชายถือกล่องโมเดลหุ่นยนต์มือนึงถือไอติมกินมือหนึ่งส่วนน้องทูอยู่บนคอ ขี่คอแม่กินไอติมท่าทางภูมิใจนักหนา แต่พ่อมีกิ๊ฟติดผมเต็มหัวมีสติ๊กเกอร์ติดเต็มสองแขน หอบหิ้วตุ๊กตาสีหวานกล่องขนมหวาน ..

บางทีก็สงสารพ่อนะ

แต่อายมากกว่า

พ่อเอาของไปเก็บที่รถ แม่จะไปเล่นเกมกับน้องผมจึงเดินไปร้านขายหนังสือ ได้ยินเสียงน้องทรีร้องดังลั่นอีกแล้ว พ่อคงกลับเข้ามาอีกหน แม่เล่นกับน้้องทูท่าทางสนุกกว่าเด็กเสียอีก

ผมไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมบ้านเราไม่เหมือนบ้านอื่น ไม่เดินเล่นเงียบๆ เลิกเถียงกันเสียงดังเหมือนครอบครัวคนอื่นตอนอยู่นอกบ้าน ทำไมบ้านเราดูวุ่นวายจัง

ถ้าโตขึ้นผมไม่อยากมีครอบครัวแบบนี้

เด็กเล็กกับพ่อแม่เด็กที่เสียงดังจ้าละหวั่นดูวุ่นวายสุดๆ บ้านเราน่าจะเป็นที่เอือมระอากับผู้คนที่พบเห็น

ไม่อยากเป็นแบบนี้

ถ้าผมโตขึ้นจะมีครอบครัวที่ดีกว่านี้..

“คุณครับ..”

มัวเหม่อมากไปหน่อยมีคนเดินตามมาสะกิดจึงรู้ตัว เด็กผู้ชายตัวสูงยืนหลังตั้งตรงผิวพรรณดีถือกระเป๋าใส่หนังสือหนังแท้ยี่ห้อดัง เสื้อเชิ้ตรีดเรียบเนี้ยบทั้งตัว ที่กระเป๋าเสื้อเชิ้ตก็แบรนด์เนม รองเท้าก็แบรนด์เนม ดูยังไงก็ไม่น่าจะใช่เด็กโต

วันเหลือบเห็นป้ายโรงเรียนกวดวิชาเตรียมสอบเข้ามัธยมปีที่หนึ่งในกระเป๋ายิ่งทำให้สงสัย

“หือ?”

“ทำของตกใช่ไหมครับ?” ผู้ชายที่เหมือนตู้แบรนด์เนมเคลื่อนที่นั่น ยื่นกระเป๋าเงินใบเล็กที่คุณย่าซื้อให้ คืนให้

ข้างในมีบัตรกดเงินกับเงินสดที่คุณปู่ให้เมื่อวานตอนแวะมาหาที่โรงเรียน ให้มาเยอะแต่ใส่มาแค่ห้าพัน มีบัตรสมาชิกที่รูดของห้างนี่ด้วย

เป็นเด็กดีจังไม่เก็บของคนอื่นไปใช้ด้วย

แววตาอ่อนโยนอบอุ่นไม่เสียงดังวางตัวดี อยากเห็็นหน้าพ่อแม่จังว่าเป็นคนแบบไหน

“อือ ขอบคุณ”

“คุณจะขึ้นมอหนึ่งเหรออ่านนั่นเหมือนกัน”

ผู้ชายคนนั้นชวนคุยเหมือนกับอยากทำความรู้จักชี้มาที่หนังสือเตรียมสอบมอหนึ่งเหมือนกัน ถ้าไม่ห่วงน้องคงได้มาติวหนังสือแถวห้างนี่เหมือนกันเพราะคุณย่าก็ทำธุรกิจแถวห้างนี้

“อืม ใช่”

“เราก็ไม่อยากมาเรียนพิเศษหรอกแต่ก็ต้องสอบเข้านี่เนอะถ้าได้คะแนนสูงก็สบาย เราจะเข้ามัธยมอินเตอร์xxx คุณจะเรียนที่ไหนเหรอ”

“…ที่นั่นเหมือนกัน”

“ดีจัง มาแลกคอนแทคกันไหมคุณน่าจะเก่งกว่าเรา คุณชื่ออเไรเหรอ?”

เด็กผู้ชายคนนั้นหยิบโทรศัพท์โลโก้ดังที่สุดในประเทศออกมา ว่ากันว่าเป็นยี่ห้อที่ดูมีคลาสที่สุดในโลกและเป็นรุ่นที่พึ่งออกมาใหม่เดือนนี้ราคาแปดหมื่นกว่าบาท..นี่เด็กประถมสมัยนี้ใช้ของรวมกันทั้งตัวราคาขนาดนี้เลยเหรอ ..พ่อแม่ทำงานอะไรเนี่ย?

“เรา..ชื่อวัน”

“เราชื่อดีกัน”

…ดีอีกแล้วเหรอ..

จะมีคนชื่อดีที่ดีจริงๆ บ้างไหมนะ ระหว่างบวกลบคูณหารราคาของของคนที่เดินข้างกันมาในร้านหนังสือก็มีผู้ชายตัวโตหน้าหล่อเหมือนนายแบบกับคนตัวเล็กน่ารักมาก ใส่สูทนั่งจิบเครื่องดื่มในคาเฟ่หรูราคาเครื่องดื่มแพงหูฉีก โบกมือมาให้

“นั่นพ่อกับแม่นายเหรอ?”

“ใช่ครับ”

“ที่บ้านนาย..ทำอะไร”

“บ้านเราทำธุรกิจนำเข้าน่ะ พวกของแบรนเนมด์”

โห เท่ชะมัดถึงว่าแต่งตัวดูดีมีสง่าเชียว ดูแพงทั้งบ้านเลยแฮะ พ่อแม่ก็..ดูผู้ดีสุดๆ ดูเหมาะสม ดูมีมารยาท ดูยังไงก็ผู้ดีชั้นสูง แล้วทำไม..พ่อแม่ผมต้อง..

..

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พ่อกะแม่หยุดดิ๊! หยุดทะเลาะกันสักที เลี้ยงน้องไม่ไหวแล้ว!(mp   ขอบคุณ

    "แมนทำหน้าดีๆ หน่อยลูกชายคนแรกของเรากำลังจะแต่งงานนะ"พ่อของลูกชายทั้งเจ็ดบีบแก้มคนหน้าบึ้งเบะปากมองชายหนุ่มร่างสูงในชุดเจ้าบ่าวลูบผมลูกชายด้วยท่าทางหมั่นไส้เต็มขั้น"แต่งได้ก็เลิกได้คิดว่าโรแมนติกมากมั้งถ่อมาไกลถึงทะเลลมก็แรงมีแต่กลิ่นเกลือใครมันเป็นคนเลือกสถาณที่เนี่ย สิ้นคิดชะมัด" แมนบ่นอุบสะบัดหน้าให้หลุดพ้นเงื้อมมือพ่อของลูก"พี่วันไงพี่วันชอบทะเล" ทูถือไอติมยื่นให้แม่กับพ่อพลางตอบคำถามตัวแม่ แมนหุบปากฉับย่นจมูกอย่างขัดใจแต่แอบเนียนงับไอศกรีมผัวเพราะอยากชิม"อ้าวไม่ใช่หมอนั่นเลือกเรอะ""เรียกลูกเขยให้มันเหมือนชาวบ้านหน่อย""เช๊อะ...ทะเลก็สวยดีดูพระอาทิตย์ตกดินนั่นสิ""เปลี่ยนสีเป็นกิ้งก่าเลยนะ" ดีว่าให้เมียตัวร้ายที่เดินไปสมทบกับปู่ย่าตายายเพื่อหาเหล้าฟรีดื่มแสงสุดท้ายของวันทอดตัวเหนือผิวน้ำ กลืนเข้ากับท้องฟ้าสีทองอ่อนจนแทบมองไม่ออกว่าทะเลเริ่มตรงที่ใดลมเย็นพัดผ่านกลิ่นเค็มจาง ๆ กับกลิ่นดอกลิลลี่ขาวที่ประดับเรียงรายตลอดทางเดิน ผืนผ้าสีงาช้างพลิ้วเบาอยู่เหนือพื้นทราย ทุกอย่างดูเรียบหรูมีรสนิยมบ่งบอกตัวตนความเป็นคนรวยของทั้งสองตระกูลได้เป็นอย่างดีเสียงคลื่นซัดเข้าหาฝั่งเป็นจังหวะ

  • พ่อกะแม่หยุดดิ๊! หยุดทะเลาะกันสักที เลี้ยงน้องไม่ไหวแล้ว!(mp   มึงรักกูมั้ยบ18+

    วันนี้ตัวแม่หมกมุ่นอย่างหนักกับคำว่ารักของลูกเขย เหมือนคนขี้อิจฉาผสมปนเปกับความไร้เดียงสาบวกกับความร้ายเดียงสาของแมนทำให้คนดีถามเมียขึ้น “มึงอายุเท่าไหร่นะไอ้แมน” “เอ่อ..น้องวันอายุเท่าไหร่น้า อ่าา..อื้มม?” เมียไม่เคยจำอะไรเกี่ยวกับตัวเลขได้ ไม่ว่าจะเลขอะไรยิ่งมีลูกเยอะก็จำวันเกิดสลับมั่วไปหมดแทบจะเป่าเค้กทุกเดือน “มึงแก่แล้ว” “เออแล้วไงตูดแก่ๆ จะมาเอาอะไรกับกู” “วุ่นวายไปหมดตั้งแต่เด็กยันแก่ กูไม่รู้ รักไหมไม่รู้แต่จะเอาถอดกางเกงเดี๋ยวนี้!” “เจ้าเซเว่นอายุเท่าไหร่นะ?” “ถามทำไมอี้กมึงเป็นโรคความจำเสื่อมเร๊อะ!” “ก็กูสงสัยไอ้เด็กนั่นมันพูดออกมาด้วยความรู้สึกแบบไหน มันรู้สึกยังไงตอนพูดออกมา มันพูดจริงไหมหรือโกหกเก่ง แต่น้องวันบอกว่ามันดี โอยปวดหัว” “ทีเรื่องตัวเองไม่เห็นมึงจะคิดอะไรท้อง..แพ้ท้อง..แม่ด่า..พ่อไม่คุยด้วยไม่เห็นมึงจะเป็นอะไร” “ลูกรักของข้า น้องวันของข้า มหาสมบัติของข้า” “มึงบ้าไปแล้วไอ้แมน” “มึงสิบ้ากามถอดกางเกงกู” “สาดน้ำใส่สักทีสองทีมึงก็กลับมาร่าเริงเหมือนคนบ้าได้แล้ว” “กูไม่มีแรงมึงตอกมาเลยกูรับบทคนโดนข่มขืนเอง” “เอาหมอนปิดหน้ามึงไว้ได้มั้ยไม่อยากฟังมึงบ่

  • พ่อกะแม่หยุดดิ๊! หยุดทะเลาะกันสักที เลี้ยงน้องไม่ไหวแล้ว!(mp   รักกูมั้ย

    ตึกดึกคืนนั้น เงาดำตะคุ่มๆ คืบคลานเข้ามายังหน้าห้องหนึ่งซึ่งปิดป้ายเตือนไว้ยาวเหยียด ห้องที่ชื่อ Daddy ฝรั่งจ๋ามาแต่ไกล บรรทัดต่อมาเตือนว่าให้เคาะห้องตามลำดับการเกิดพ่อจะได้รู้ว่าใครจะมาหาเรื่องอะไร คนที่รู้ว่าลูกแต่ละคนจะมีเรื่องคุยแบบไหนมาหาเพราะอะไรนี่มันช่างเป็นสุดยอดคุณพ่อเสียจริง แต่ร่างตรงหน้าประตูไม่ได้เคาะมันแต่อย่างใดกลับบิดเปิดเข้ามาแผ่วเบาคืบคลานขึ้นมาบนเตียงกว้างคลานคล่อมร่างกำยำไร้อาภรช่วงบนปกปิดอวดกล้ามเนื้อแน่นหายใจเป็นจังหวะสม่ำเสมอ คุณพ่อเพียงหนึ่งเดียวในบ้านนอนหลับสนิทโดยไม่รู้เลยว่ามีภัยคุกคาามคืบคลานคล่อมร่างตนเองและจ้องเขม็งมายังวงหน้าหล่อเหลายามนิทรา สิ่งนั้นเปล่งเสียงท่ามกลางความมืดออกมาว่า! “ไอ้ดี” “..ว่า” ไม่ต้องลืมตาขึ้นมามองก็รู้ว่าใครที่เข้ามาห้องคนอื่นโดยพละการคลานขึ้นเตียงมาตัวขาวโพลน คนที่ไร้มารยาทที่สุดในบ้านและคาดหวังว่ามันจะดีไปกว่านี้ไม่ได้ อีเมียตัวดี “มึงรักกูมั้ย?” คำถามที่มาพร้อมความรู้สึกหยาบกร้านแสบสันไร้ความอ่อนโยนเหมือนกระดาษทรายเบอร์ 88 ทำเอาคนตัวโตขนลุกซู่จนต้องท้าวแขนผงกตัวขึ้นมาเปิดไฟหัวเตียงด้วยใบหน้านิ่งสนิทหรี่ตามองคนร่างควาย

  • พ่อกะแม่หยุดดิ๊! หยุดทะเลาะกันสักที เลี้ยงน้องไม่ไหวแล้ว!(mp   คุณแมน

    ตอนแนะนำตัวกับครอบครัววันครั้งแรก ดีกันคิดว่าคงเป็นแค่ทักทายธรรมดาแต่ไม่… มันคือการเจอกองทัพทั้งเจ็ด…อย่างกับสโนว์ไวท์แน่ะเขายืนหน้าประตูบ้าน ยิ้มสุภาพเหมือนคนดูมีมารยาท ทันใดนั้น ฝูงน้อง ๆ ก็กรูเข้ามาเหมือนเจอดารา“สวัสดีพี่ดีกัน!”“หวัดดีพี่ดีกัน!”“หวัดดีจ้าพี่ดี~!”“เฮลโหลวพี่กันดี เอ้ย ดีกัน!”“ไงพี่กัน!”“โย่วพี่ดีกัน!”เสียงทักดังรัวเหมือนยิงปืนกล“สวัสดีน้องๆ”ใช่ครับแฟนผมมีน้องพ่อแม่เดียวกันมากถึงหกคนรวมแฟนผมเป็นเจ็ดคน…เขากวาดตามองแถวเด็กที่ยืนเป็นระบบระเบียบกว่าทหารเกณฑ์ลูกดกขนาดนี้นี่คือบ้านหรือเครื่องถ่ายเอกสาร?“ลูกดกมาก…” ดีกันกระแอมห่างกันปี สองปี สามปี สูงไล่เลี่ยกันหมด…หน้าตาดีทั้งบ้าน เพราะพ่อแม่หน้าตาดีมากด้วย“ใครให้อินดีกว่านี้มั้ย…ตั้งใจปั๊มลูกอย่างมีระบบมากเลยนี่นา~”น้องซิกยกมือทันที “พ่อบอกว่าอยากครบสิบ!!”ดีกันช็อกจนแทบหยุดหายใจวันตบบ่าเขาเบา ๆดีกันหันมองคนข้างตัวช้า ๆ“…วันอยากมีลูกกับฉันแบบนี้ไหม”วันชะงักเแต่น้องๆ หัวเราะกร๊าก"อยู่บ้านกันหมดเลยเหรอ" ดีกันกวาดตามองรอบบ้านใหญ่ที่เต็มไปด้วยรองเท้ากองหน้าประตู เหมือนทุกคนในจังหวัดนัดกันมาที่นี่"ช่าย นี่

  • พ่อกะแม่หยุดดิ๊! หยุดทะเลาะกันสักที เลี้ยงน้องไม่ไหวแล้ว!(mp   อยากเจอพ่อแม่

    (วัน) หลายปีผ่านไปครอบครัวของผมใหญ่ขึ้นเพราะน้องๆ โตขึ้นเรียนชั้นสูงขึ้นแยกย้ายกันเรียนในสายที่ชอบแต่ไม่ไกลบ้านนัก ผมอยู่คอนโดลำพัง แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ลำพังเสียทีเดียว ก็คุณแมนไปอ้อนคุณยายให้ซื้ออีกห้องชั้นล่างสุดน่ะสิไม่รู้มีแผนอะไรชอบไปตีสนิทกับยามและแม่บ้าน ก็คงเล่นเป็นสายลับเหมือนเดิมเกิดเป็นลูกคนอย่างพ่อกับแม่ไม่ง่ายเลยนะเหมือนเป็นเพื่อนที่โตมาด้วยกัน หลายครั้งก็อยากจะดุด่าให้สำนึกจริงจังสักทีว่าทำไมไม่ใช้ชีวิตให้ดีกว่านี้ แต่พอโตขึ้นก็นึกขอบคุณที่เขาไม่ตามกระแสยังคงความเป็นตัวของตัวเองแบบมนุษย์ที่มีความแตกต่างได้แทบจะร้อยเปอร์เซ็นที่รู้สึกแบบนั้นเพราะส่วนหนึ่งเห็นครอบครัวคนรักอย่างดีกันเคร่งครัดกับการใช้ชีวิตมากไปหน่อย ยามอยู่ห่างกันคนตัวโตทำท่าจะเป็นจะตายเพราะงานที่บ้านชวนให้อึดอัด พอกลับมาเจอก็อ้อนอยากกอดตลอดเวลาเหมือนเด็กๆ ทำให้รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นบ้านให้ดีกันคอยพักพิงไปเสียแล้ว“เหนื่อยจังไม่อยากทำงานแล้ว”คนตัวสูงรูดเนคไทออกจากลำคอแกร่ง นักบาสคนเก่งกลายร่างเป็นนนักธุรกิจหนุ่มขึ้นทุกวัน ใกล้เรียนจบมหาวิทยาลัยเพื่อนคนอื่นมีแพลนเรียนต่อต่างประเทศเริ่มธุรกิจอย่างที่อยากทำ

  • พ่อกะแม่หยุดดิ๊! หยุดทะเลาะกันสักที เลี้ยงน้องไม่ไหวแล้ว!(mp   วันจะไปอยู่คอนโด

    เสียงวันสวนกลับทันที พ่อแม่เงียบไปสามวินาทีก่อนระเบิดหัวเราะออกมาพร้อมกัน“อู้วว เสียดสีเหลือเกิ๊น” แมนยกมือกุมอกแสร้งทำสีหน้าเจ็บปวดพลางเอนพิงโซฟา “ไปนอนด้วยได้มั้ย เดี๋ยวเหงา”“ไม่เอาอ้ะ” วันพูดเสียงเนือยตัดบททันควัน “ให้อยู่กับคุณ เอาน้องห้าคนไปอยู่ด้วยดีกว่า”“อะไรอ้ะ~” แม่ทำเสียงสูงทันที ส่วนเจ้าแฝดเริ่มหัวเราะคิกคัก“ผมไปอาบน้ำนอนละ อย่าเสียงดังนะ เดี๋ยวน้องเลียนแบบ” วันพูดก่อนเดินขึ้นห้องไป“อะไรอ้าาาา~”เสียงแม่แมนลากยาวตามหลัง ส่วนพ่อดีก็หัวเราะหึในลำคอเบา ๆ เหมือนจะบอกว่าบ้านนี้…เงียบได้สักวันคงปาฏิหาริย์แล้วล่ะ“มึงดูลูกสิ”แมนทำหน้ายู่ชี้นิ้วไปทางห้องลูกชายคนโตแตสามีเพียงยิ้มให้พลางเทน้ำส้มลงแก้ววางลงตรงหน้าคนท้อง “ดูทำไม ลูกจะเรียนจบมอหกแล้ว โตมาอย่างมีคุณภาพ อาจจะกดดันตัวเองมากไปหน่อย แต่ก็ผ่านมาได้โดยไม่ทะเลาะกัน”“ใครจะกล้าทะเลาะด้วยวะ ดุจะตาย” แม่แมนหัวเราะในลำคอ นึกถึงสายตาคม ๆ ของลูกชายที่เหมือนแม่ตัวเองไม่มีผิดดีหัวเราะเบา ๆ “ดีจริง ๆ มีลูกคนแรกมากำราบความดื้อด้านของตัวเองอีกที”“นี่กูคิดถูกไหมเนี่ย ที่ปล่อยให้มีลูกมากขนาดนี้” แมนพูดพร้อมยกแก้วน้ำส้มขึ้นจิบเหล

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status