อยากได้ผู้หญิงตัวเล็กเป็นเมียเว้ย ไม่ใช่ได้ผู้ชายตัวเท่าควายมาเป็นผัวแบบนี้
View Moreสองปีผ่านไป ชัตเตอร์ที่ยังคงต้องทำงานและเลี้ยงลูกไปด้วยจึงทำให้เหนื่อยขึ้นมากทั้งยังจะมีเรื่องของน้ำนมที่เขาไม่สามารถผลิตได้จนต้องหาซื้อน้ำนมและนมผงให้ลูกทั้งสองคนของเขา จนตอนนี้ลูกเขาอายุได้หนึ่งขวบกว่าแล้วก็เริ่มที่จะเดินได้และกินข้าวได้เองถึงจะไม่ค่อยตรงปากก็ตามแต่เขาก็มองว่ามันเป็นอะไรที่น่ารักเหลือเกิน ทว่ายังไม่ทันที่เขาจะได้นั่งชมความน่ารักของลูกชายทั้งสองคนที่มีเพศรองเป็นอัลฟ่าและโอเมก้าได้นานนักก็มีเสียงเคาะประตูดังเข้ามาทำให้เขาต้องลุกขึ้นเดินไปเปิดประตู และดันเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ทิศเหนือลูกชายคนโตที่มีเพศรองเป็นโอเมก้าร้องไห้งอแงขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุจนเขาต้องเดินกลับไปอุ้มเด็กน้อยเอาไว้ในอ้อมแขน ทางด้านร่างสูงของอัลฟ่าหนุ่มอย่างต้นลมที่กว่าผู้เป็นแม่จะทำใจยอมรับได้ก็เป็นในตอนที่สภาพเขาดูย่ำแย่ราวกับซากศพที่เดินได้ ท่านจึงจำต้องบอกว่าชัตเตอร์อยู่ที่ไหน แต่พอไปยังห้องพักที่คุณแม่บอกก็ได้รู้ว่าชายหนุ่มไม่ได้อยู่ที่นั่นมาเกือบสองปีแล้ว เหมือนอยู่แค่ไม่เกินสามเดือนก็ย้ายออกไป จนเขาได้นึกถึงน้องชายของอีกฝ่ายที่น่าจะมาด้วยกันและต้องเรียนอยู่ที่ไหนสัก
หกเดือนผ่านไป ต้นลมที่พยายามตามหาชัตเตอร์มาเกือบครึ่งปีแล้วก็ยังไม่พบ ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายหายตัวไปไหนทั้งพี่และน้อง ไหนว่ารักบ้านกันมากแต่ทำไมถึงทิ้งไปได้กันล่ะ เขาได้แต่เก็บตัวอยู่ในบาร์เพื่อหวังว่าชายหนุ่มจะกลับมาหาเขาหรืออาจจะติดต่อหาปลายฟ้าบ้างก็ได้แต่หวังไม่มีวี่แววเลยด้วยซ้ำ “ฮัลโหลครับแม่” เขาจำต้องกดรับของผู้เป็นแม่อย่างจำใจ เพราะเขาคิดว่าแม่ต้องมีเกี่ยวในเรื่องนี้อย่างแน่นอน [เมื่อไหร่แกจะยอมแต่งงานกับหนูแทนใจสักที] เธอว่าด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ทั้งที่เธอสามารถไล่เด็กนั่นออกจากชีวิตลูกชายเธอได้แล้วแต่ทำไมมันยังไม่เป็นไปตามที่เธอหวังไว้สักที “ผมจะไม่มีวันแต่งงานกับใครทั้งนั้นถ้าไม่ใช่เตอร์” เขาว่าเสียงแข็งพร้อมกับปาโทรศัพท์ลงพื้นด้วยความเกรี้ยวกราดจากที่เป็นคนใจเย็นก็เริ่มที่จะไม่มีใครเข้าหน้าติด “ว้าว ถ้าแม่ได้มาเห็นอะไรแบบนี้คงช็อกจนต้องเข้าแอดมิดแน่นอน” ต้นหนาวที่เดินเข้ามาในห้องทำงานของพี่ชายว่าขึ้น “เมื่อไหร่แม่จะเลิกบงการชีวิตฉันสักที” เขาพูดขึ้นอย่างเหนื่อยใจสองมือปิดหน้าเพื่อสงบสติอารมณ์ของตัวเองที่เริ่มไม่คงที่ “ถ้าพี่คบโอเมก้า แม่คงไม่ทำถึงขนาดนี้”
ร่างสูงที่พาคนตัวเล็กขึ้นมาชั้นบนก็พาอีกฝ่ายมาหยุดยืนที่โต๊ะทำงานของเขาก่อนที่เขาจะนั่งลงและดึงคนตัวเล็กกว่าให้นั่งลงบนตักของเขา “ไม่หนักหรือไงครับ?” “นั่งดูผมทำงานเงียบๆ ครับแล้วผมจะไม่หนัก” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นมาก่อนจะหอมแก้มซ้ายขวาของชัตเตอร์เต็มรัก “กินข้าวมาหรือยังครับ? ให้เตอร์สั่งอะไรขึ้นมาให้กินไหม?” ร่างเล็กยังคงหาเรื่องพูดกับร่างสูงใหญ่ต่อ เพราะหลังจากวันนี้ไปเขาจะย้ายไปอยู่กับน้องที่เชียงใหม่พร้อมกับหางานทำที่นั่นไปด้วย “หิวครับ แต่พี่ขอกินเตอร์ก่อนกินข้าวได้ไหม” อัลฟ่าหนุ่มกระซิบข้างหูด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ก่อนที่มือของเขาจะเริ่มทำการถอดเสื้อผ้าของอีกฝ่ายออกจนหมดเผยให้เห็นร่างกายอันเปลือยเปล่าปรากฏต่อสายตาของเขา “เราเข้าไปในห้องกันเถอะครับ” เบต้าหนุ่มที่กลัวจะมีใครเข้ามาจึงว่าขึ้นพร้อมกับเดินเข้าไปในห้องพร้อมร่างสูงใหญ่ที่เดินตามมา ร่างสองร่างต่างช่วยกันเติมเต็มความสุขให้กันและกันจนเวลาผ่านไปหลายชั่วโมงอัลฟ่าหนุ่มถึงได้ปล่อยให้คนน้องเป็นอิสระ “พี่ลม ไม่เคยที่จะทำผมเบาๆ บ้างเลย” ร่างเล็กได้แต่บ่นงึมงำที่หน้ากระจกที่เห็นสภาพตัวเองที่มีรอย
ชัตเตอร์ Talk ตอนนี้เรื่องผมกับพี่ต้นลมเหมือนกำลังจะไปได้ดีเหมือนที่ใครหลายๆ คนเห็น แต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่แบบนั้นเลยครับ เพราะถึงพี่ลมจะซ่อนผมไว้จากแม่เขาได้และยังไม่ได้มีการแนะนำผมอย่างเป็นทางการให้ใครรู้จักเพราะเรายังไม่ได้ตกลงคบกัน ทว่าไม่กี่สัปดาห์ต่อมาคุณหญิงแม่ของพี่ลมก็ได้ทำการนัดผมมายังร้านอาหารแห่งหนึ่งโดยที่ผมไม่ได้บอกคนพี่แต่อย่างใด “เธอต้องการเงินเท่าไหร่ถึงจะยอมเลิกกับลูกชายฉัน” เธอพูดเข้าตรงประเด็นจนผมไม่รู้ว่าจะต้องตอบอะไรออกมา ราวกับคนที่กำลังหาเสียงของตัวเองไม่เจอผมทำแค่นั่งเงียบๆ อยู่ตรงนั้น “ลูกชายฉันควรจะได้แต่งงานกับคนดี” แล้วผมมันไม่ดีตรงไหนครับ วัดผมก็เข้า เหล้าผมก็ไม่ดื่ม เหลือแค่ต้องไปบวชเป็นพระแล้วล่ะครับ “ไม่ใช่ว่าฉันอยากจะดูถูกเธอ แต่ลูกฉันควรจะได้คบกับคนที่สามารถมีลูกได้” ตอนนี้ก็กำลังดูถูกผมอยู่ไม่ใช่หรือไงกันน่ะ ทว่าผมก็ทำได้แค่เงียบและยิ้มรับทุกคำพูด แต่ผมก็คงจะเถียงอะไรด้วยไม่ได้เพราะที่ท่านพูดมามันถูกทุกอย่าง ผมไม่สามารถมีลูกให้อีกฝ่ายได้ด้วยซ้ำ ยังไงจุดสิ้นสุดของคำว่าครอบครัวก็คือการมีลูกอยู่ดี “ผมไม่ต้
ชัตเตอร์ที่ตื่นขึ้นมาเป็นเวลาเกือบเข้างานแล้วได้แต่ตาลีตาเหลือกควานหาเสื้อผ้าของตัวเองมาใส่เพื่อจะกลับบ้าน “จะไปไหนครับ?” ร่างสูงที่ตื่นขึ้นเพราะไม่ได้กอดอีกฝ่ายก็ถามด้วยน้ำเสียงงัวเงีย “กลับบ้านครับ ถ้าใครเห็นผมขึ้นมาจะทำยังไงครับ” ร่างเล็กพูดขึ้นอย่างลนลานเพราะวันนี้เป็นวันหยุดของเขา เขาไม่ควรที่จะมาโผล่ที่นี่ “หิวข้าวไหมครับ!?” ร่างสูงยังคงถามราวกับไม่ทุกข์ร้อนถ้ามีใครมาเจอเขา มันใช่เวลามาถามเรื่องพวกนี้ไหมเนี่ย!! “ไปกินข้าวกันเถอะครับ” เขาพูดเองเสร็จสรรพก่อนจะเดินไปหาเสื้อผ้าในตู้มาให้คนตัวเล็กกว่าสวมใส่ ชัตเตอร์รับไปแต่โดยดีก่อนจะวิ่งหายเข้าไปในห้องน้ำและออกมาด้วยชุดของอัลฟ่าหนุ่ม ทว่าเมื่อทั้งสองลงมาถึงด้านล่าง ร่างเล็กก็ต้องหยุดชะงักไปเมื่อเห็นคนตัวสูงเอาแต่ยืนนิ่งจ้องมองไปทางผู้หญิงวัยกลางคนที่มีสีหน้าบ่งบอกถึงความไม่พอใจ “ข้างหลังแกคือใครต้นลม” ผู้เป็นแม่ว่าเสียงแข็ง อัลฟ่าหนุ่มได้แต่จับข้อมือของคนน้องเอาไว้แล้วใช้ร่างของตัวเองบังอีกฝ่ายไว้จนมิด “แม่มาทำอะไรที่นี่ครับ!?” เขายังคงพูดด้วยความใจเย็นสีหน้าไม่ได้แสดงถึงความตกใจแต่อย่างใด
ร่างสูงใหญ่ที่เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยชุดคลุมอาบน้ำสีกรมเข้มเดินตรงมาหาร่างโปร่งที่กำลังนั่งเหม่ออยู่ที่เดย์เบด เขาโน้มหน้าเข้าไปใกล้ร่างโปร่ง “คิดอะไรอยู่ครับ” เป็นคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบเพราะตอนนี้ริมฝีปากเขาได้ครอบครองปากหยักได้รูปเอาไว้แล้ว พลางมือก็ค่อยๆ แกะกระดุมเสื้อเชิ้ตออกทีละเม็ด ชัตเตอร์ที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวก็สะดุ้งเล็กน้อยก่อนที่จะจูบตอบร่างสูงอย่างเร่าร้อนเช่นกัน แต่เหมือนว่าเขาจะเริ่มหายใจไม่ออกถ้าต้องจูบนานกว่านี้ “อื้อ” เขาส่งเสียงท้วงอยู่ในลำคอเป็นการบอกร่างสูงว่าเขาเริ่มหายใจไม่ออก ต้นลมได้แต่ถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่งสายตายังคงจ้องมองร่างโปร่งด้วยความต้องการที่มีมากจนปิดไม่มิด “ไม่เจอกันตั้งหลายวันเตอร์คิดถึงผมหรือเปล่า” เขาที่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังถามคำถามไร้สาระก็ได้แต่ยิ้มเย้ยหยันตัวเอง นี่เขากำลังคาดหวังอะไรอยู่ อยากได้ยินคำว่าคิดถึงหรือยังไงกัน ชัตเตอร์ที่ได้ยินคำถามของอีกฝ่ายที่เป็นคำถามทั่วไป แต่เขาไม่รู้ว่าควรจะตอบว่าอะไรถึงจะดีที่สุด เขาได้แต่สบตากับร่างสูงไม่พูดอะไรออกมา “ช่างเถอะครับ” เขาที่ตั้งใจจะกดอีกฝ่ายให้จมเตียงก็ต้องเปลี่ยนคว
Comments