แล้วหลังจากนั้นก็คงหนีไม่พ้นคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ที่ต้องมาอดหลับอดนอนและเสียสละเพื่อให้ลูกน้อยได้เติบโต กลางดึกของคืนหนึ่งที่บ้านของจิรกิตติ์ “ แอ~ “ สองร่างที่เพิ่งจะได้ล้มตัวลงนอนงัวเงียตื่นขึ้นเพราะได้ยินเสียงทารกน้อยร้องไห้ จิรกิตติ์รีบยกมือจับหัวไหล่ของภรรยาไว้ “ เดี๋ยวอาดูเอง เจนนอนเถอะ “ เมื่อจิรกิตติ์ลุกไปพลอยเจนก็นอนลงแล้วมองดูเขากับลูก “ หิวนมใช่ไหมครับ น้องแจมของพ่อ “ เจตอุ้มลูกขึ้นมาโยกเยก แล้วจับขวดนมขึ้นมาป้อนลูก พลอยเจนมองภาพอันอบอุ่นนั้นด้วยรอยยิ้ม เธอได้เปรียบแบบที่แม่บอกจริงๆ เพราะเวลาลูกร้องตอนกลางคืน จิรกิตติ์ไม่เคยยอมให้เธอลุกเลย เขาดูแลเธอกับลูกได้ดีมาก เธอคิดพร้อมกับเผลอหลับไปเพราะความเหนื่อยเพลีย “ หลับสนิททั้งพ่อทั้งลูกเลย “ พลอยเจนเดินมาดูลูกที่เปล แล้วหันไปมองคนบนเตียงขาของเธอเดินมานั่งข้างร่างของคนบนเตียง เพื่อเช็ดผมเผ้าเนื่องจากเธอเพิ่งจะอาบน้ำมาใหม่ๆ “ อาเจต “ หญิงสาวเรียกชื่อคนข้างหลังเสียงดัง เนื่องจากว่าเขาลุกมากอดเธอไว้ “ หอมจัง “ จิรกิตติ์สูดดมไปตามซอกคอขาวของคนตรงหน้า ทำเอาพลอยเจนต้องรีบหดคอเข้าเพราะเริ่มจั๊กจี้ “ อาเจต !!” หญิงสาวหั
18.45 น “ ไปไหนมา อาตื่นมาก็หาเจนไม่เจอแล้ว “ เจตเดินหัวเสียออกมาดักเมียที่กำลังจะเดินเข้าบ้าน “ พอดีมุกโทรมาบอกว่าที่ร้านมีปัญหานิดหน่อยนะคะ เจนเลยไปดู “ จิรกิตติ์มองดูท่าทีหอบเหนื่อยของเมีย เธอคงจะเหนื่อยจริงๆ “ แล้วเป็นยังไงบ้าง “ “ ไม่มีอะไรแล้วละค่ะ พวกน้องๆ เขาจัดการกันได้ “ “ ครับ งั้นเข้าไปพักในบ้านก่อนเถอะ “ เขาเข้าไปจูงมือเธอพาเดินเข้ามาในบ้าน “ ทำไมมืดจังล่ะคะ “ พลอยเจนมองเข้ามาในบ้านที่เขาไม่ยอมเปิดไฟแต่มีแสงจากไฟดวงเล็กที่ประดับไว้ตามฝาบ้านแทน เธอหันไปถามเขาแต่เขากลับไม่ตอบแล้วเปลี่ยนมาอุ้มเธอไปนั่งตรงที่เขาเตรียมไว้ให้ “ ว้าย จะทำอะไรคะ “ หญิงสาวร้องด้วยความตกใจไม่นานร่างของเธอก็มานั่งที่โต๊ะดินเนอร์ที่เขาจัดไว้ “ นี้คือ? “ เธอถามคนที่กำลังเดินไปนั่งตรงข้ามกัน “ ดินเนอร์ใต้แสงเทียนของเราไง แล้วดูนี่น่า “ เขาหยิบรีโมทขึ้นเปิดโปรเจคเตอร์ให้สายใส่กำแพง พร้อมกับเปิดหนังที่คิดว่าหญิงสาวคงจะชอบ เห็นแบบนั้นพลอยเจนก็เผยยิ้มออกมาอย่างปิดไม่มิด “ เรามาดินเนอร์แล้วก็ดูหนังไปพร้อมๆ กันดีกว่า “ เขากล่าวพร้อมยื่นมือไปกุมมือเธอ “ เป็นยังไงบ้าง อาจัดให้ถูกใจ
“ สองเดือนแล้ว จ้ำม่ำจังเลยลูก สงสัยนมแม่เจนคงจะมีโปรตีนสูงแน่ๆ พ่ออุ้มแทบไม่ไหวแล้วเนี้ย! “ จิรกิตติ์ที่กลับมาจากทำงาน ทุกวันเขาจะแวะมาที่ห้องของลูกก่อนเป็นอันดับแรกแล้วก็จะมาหยอกเล่นกอดรัดฟัดเวี่ยงอย่างกลับกลัวลูกไม่รัก จนเมียที่ผ่านมาเห็นก็แอบมองด้วยความน้อยใจนิดๆ ที่เขาเอาแต่สนใจลูก “ นอนเล่นรอพ่อก่อนน่า เดี๋ยวพ่ออาบน้ำแล้วจะรีบมาเล่นด้วย “ เจตวางลูกน้อยไว้บนเปลเด็ก เมื่อหันหลังจะเดินออกจากห้องก็เจอเมียยืนมองอยู่ที่ประตู “ อ้าวเจน มาตั้งแต่เมื่อไหร่ พอดีเลยช่วยเล่นกับลูกแทนหน่อยนะ อาจะไปอาบน้ำก่อน วันนี้ร้อนเหงื่อออกเยอะเลย “ เขากำลังจะเดินผ่านเธอออกไป “ เดี๋ยว คุณไม่ได้ลืมอะไรใช่มั้ย “ จิรกิตติ์หันมาจ้องแววตาใสแป๋วของเมีย แต่เขาที่วุ่นวายมาทั้งวันจึงหัวไม่ค่อยจะวิ่ง เลยคิดไม่ออกว่าเมียหมายถึงอะไร “ ก็ไม่ลืมอะไรแล้วนี่ เดี๋ยวอามานะ “ สิ้นคำพูดเขาก็เดินหายไป เล่นเอาพลอยเจนหน้าบูดบึ้งรีบเดินมาอุ้มลูกน้อย “ พ่อของลูกสักจะเกินไปแล้วนะน้องแจม หอมลูกแต่ไม่หอมแม่ได้ยังไง หลายวันแล้วน่า “ “ อ่า แหย “ ตัวเล็กก็ยกมือยกเท้าทำหน้าทะเล้นเหมือนจะพูดอะไรกับแม่ แต่แค่ยังพูดไม่ได้
พลอยเจนเดินลงมาแล้วยื่นเอกสารให้กับสามีของเธอ “ ขอบคุณครับ “ เมื่อเขารับเอาเธอก็อุ้มลูกหนีกลับขึ้นชั้นบนโดยไม่สนใจเขาที่ยิ้มให้ จิรกิตติ์ก็ไม่ทันจะได้สังเกตอะไรเพราะต้องรีบคุยงานด่วนกับลูกน้อง เมื่อเสร็จงานคนอื่นกลับกันไปหมด เขาที่เห็นว่าลูกเมียดูเงียบๆ ไป จึงได้เดินขึ้นไปตามหา “ เจน น้องแจมหลับแล้วเหรอ? “ เขาเดินมาดูเมียที่ห้อง เมียก็พยักหน้าให้กับคำถามของเขา เจตเห็นสีหน้าท่าทางของเมียแบบนั้นเขาจึงรู้สึกแปลกๆ รีบเดินเข้าไปนั่งข้างเธอบนเตียง มือหนาเอื้อมไปกอดรัดเอวบาง แต่หญิงสาวกลับสะบัดออก “ เป็นอะไรเจน? “ เขาถามกับเธอด้วยสีหน้าเป็นกังวล แต่พลอยเจนก็เอาแต่เงียบไม่ยอมตอบในสิ่งที่เขาถาม เอาแต่จ้องชายตรงหน้าด้วยแววตาเศร้าสร้อย ‘ พ่อกับแม่สมัยหนุ่มๆ สาวๆ เหรอ? แล้วผู้หญิงที่ยืนข้างอาเจตคนนั้น เดี๋ยว! ทำไม…. ‘ พอรู้สึกเอะใจกับรูปภาพที่เจอเธอจึงอุ้มลูกสาวขึ้นวางไว้บนเตียง ‘ นอนเล่นรอแม่ไปก่อนนะลูก ‘ เธอนั่งลงที่เตียงแล้วเปิดดูอัลบั้มในมืออีกรอบ // คู่รักสองคู่ถ่ายภาพร่วมกัน // นั่นคือคำอธิบายที่ถูกเขียนไว้ใต้ภาพๆ นั้น เมื่อเปิดไปที่หน้าถัดไป ก็มีแต่รูปทีเผลอของผู้หญิงที่หน้
“ เจนเป็นอะไรไป ร้องไห้ทำไม “ จิรกิตติ์ที่นั่งมองหน้าเมียได้สักพักแล้วเห็นเธอนิ่งไปแล้วอยู่ๆ ก็น้ำตานองหน้า เขาจึงรีบถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงและกังวลใจ มือใหญ่จะเอื้อมไปปาดน้ำตาให้เธอ แต่พลอยเจนก็ปัดออก มือของหญิงสาวจับเอาอัลบั้มรูปอันนั้นขึ้นมาให้เขาเห็น “ นี้มันคืออะไร “ จิรกิตติ์ได้แต่นิ่งอึ้ง เพราะสิ่งที่เขาพยายามซ่อนจากเธอ ดันมาอยู่ในมือของเธอเสียได้ “ ทำไมไม่มีใครคิดจะบอกเจน ! ว่าเจนหน้าเหมือนผู้หญิงที่ชื่อพราวของคุณ! “ พลอยเจนเริ่มโวยวายใส่ เธอรีบลุกยืน “ เจน!! เจนเปิดดูแล้วเหรอ “ เจตก็ลุกยืนข้างเธอ “ ก็เอ้อน่ะสิ แล้วก็รู้แล้วด้วยว่าคุณไม่มีวันที่จะลืมรักแรกของคุณได้ อึก แถมคุณยังคิดว่าเจนเป็นเขา ผู้หญิงที่ชื่อพราวคนนั้น “ จิรกิตติ์พยายามจะขยับเข้าใกล้เธอ แต่คนที่กำลังเสียใจและผิดหวังก็ไม่อยากจะอยู่ใกล้ เธอรีบผลักเขาออกเมื่อเห็นเขาเดินมาใกล้ “ คุณรักเจน!เพราะว่าเจนหน้าเหมือนคนที่ชื่อพราวใช่มั้ย! นั่นใช่มั้ยคือเหตุผลของความรักของคุณ ! “ หญิงสาวเดินเข้าไปทุบตีที่อกของเขาหวังให้เขาตอบว่ามันไม่จริง “ ตอบมาสิ! ตอบมาว่าคุณรักเจนเพราะเจนเหมือนเธอคนนั้นใช่มั้ย! ตอบ!!! “ เธออ
เจระวีคาเฟ่ “ สวัสดีค่ะพี่เจน วันนี้พาหลานมาด้วยเหรอ “ เมื่อพลอยเจนเดินเข้ามาในร้านมุกดากับชัยโยก็เดินเข้ามาดูหน้าเจ้าของร้านตัวน้อย “ ขอมุกอุ้มบ้างได้มั้ยคะ “ พลอยเจนมองซ้ายขวาเห็นว่าในร้านยังไม่มีลูกค้า จึงยอมส่งน้องแจมมี่ให้พนักงานไปหยอกล้อ “ งั้นพี่ฝากแป๊บหนึ่งนะ พี่ขอไปนั่งพักก่อน ถ้ามีลูกค้าเข้าก็เอาน้องไปส่งพี่ในห้องเข้าใจมั้ย “ มุกพยักหน้ารับ พลอยเจนจึงเดินเข้ามานั่งที่โซฟาในห้องประจำของเธอ ใบหน้าปรากฏมีความกังวลเนื่องจากเธอคิดหนักและเสียใจ มือเล็กยกขึ้นจับบริเวณขมับของตนเอง แล้วบ่นพึมพำคนเดียว “ นี้คงจะเป็นต้นเหตุที่พ่อเคยห้ามคุณไม่ให้ชอบเจนสินะ ถ้าเจนไม่ไปบังเอิญหน้าเหมือนคุณพราว เจนก็คงจะเป็นได้แค่คนที่แอบรักคุณข้างเดียวใช่มั้ย อึก “ ว่าแล้วมันก็เสียใจน้อยใจ ทำไมเธอถึงต้องไปหน้าเหมือนคนรักเก่าของเขาด้วย นี่เธอแค่เข้าไปเป็นตัวแทนของพราวผู้หญิงที่นายจิรกิตติ์รักปานดวงใจคนนั้นใช่มั้ย เขาคงไม่เคยเห็นเธอเป็นพลอยเจนละสิท่า ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูทำให้คนที่ร้องไห้อยู่รีบหันไปมอง ก็เห็นว่าเป็นจีนเน่ที่กำลังยืนจ้องมองมาที่เธอ “ ยัยจีน “ คนมาใหม่เดินมานั่งข้างๆ เพื่อน จีน
“ พี่เจน มุกกับพี่ชัยกลับก่อนนะคะ “ เมื่อถึงเวลาเลิกงานมุกดาก็เดินเข้ามาลาพลอยเจนในห้องพัก “ จ้ะ “ พลอยเจนที่กำลังนั่งจ้องลูกสาวหลับอยู่จึงได้เงยหน้าขึ้นหันไปพยักหน้าให้คนข้างนอก “ ว่าแต่พี่เจนจะกลับกี่โมงคะ มันจะดึกแล้วนะ “ มุกดาถามเธอมาด้วยความเป็นห่วง แต่พลอยเจนก็ไม่รู้เหมือนกันเพราะเธอยังไม่ทันได้คิดไว้ “ อีกสักแป๊บเนี้ยแหละ “ ถึงอย่างนั้นเธอก็ตอบส่งๆ ออกมาเพื่อไม่ให้มุกดาต้องห่วง มุกดาจึงส่งยิ้มตอบแล้วหันหลังไปเจอเข้ากับคุณจ๊ะจ๋า ที่กำลังเดินมาทางนี้ “ สวัสดีค่ะ “ มุกพนมมือไหว้ตามมารยาทจากนั้นจึงก้มหน้าแล้วเดินออกไป ส่วนจ๊ะจ๋าก็มุ่งหน้าเดินเข้ามาในห้องที่ลูกกับหลานสาวอยู่ “ แม่ “ พลอยเจนที่เห็นแม่เดินเข้ามานั่งตรงข้ามกับเธอ ก็สะดุ้งตกใจเล็กน้อย ส่วนคนเป็นมารดาก็มองไปที่คนตัวน้อยที่กำลังนอนหลับอยู่บนโซฟาตัวเดียวกับที่ลูกสาวนั่งอยู่ “ อาเจตบอกให้แม่มานี่เหรอคะ “ จ๊ะจ๋ารีบละสายตาจากหลานแล้วเงยหน้าขึ้นมองพลอยเจน “ แล้วเจนเป็นอะไรถึงได้หอบลูกหนีมาแบบนี้ล่ะ “ “ เจนว่าแม่คงจะรู้จากอาเจตแล้วนะคะ “ สองแม่ลูกจ้องตากัน พลอยเจนน้ำตาซึมเพราะเกิดอาการน้อยใจ ทั้งที่พ่อแม่ก็น
“ เจน! เดี๋ยว!เจน “ จิรกิตติ์มาถึงร้านในตอนที่พลอยเจนกำลังจะปิดประตูพอดี เขาจึงรีบวิ่งเข้ามาเอามือจับประตูไว้ “ มาทำไม “ เธอถามเขาเสียงแข็ง “ อาเป็นห่วง กลับไปนอนที่บ้านเราเถอะนะเจน นี่เจนเกลียดอาขนาดถึงขั้นพาลูกออกมานอนข้างนอกแบบนี้เลยเหรอ “ “ เจนไม่อยากเห็นหน้าคุณ เพราะเจนรู้สึกว่าสายตาของคุณไม่ได้มองเจนเป็นพลอยเจนอีกแล้ว แต่คุณมองเจนเป็นคนอื่น “ เจระวีตะคอกเสียงดังใส่หน้าเขา จนจิรกิตติ์ก็ได้แต่หงอยเหงา ที่โดนดุ “ เจน อารักเจนในแบบที่เจนเป็นนะ แล้วก็เป็นห่วงมากด้วย ฟังกันก่อนได้มั้ย “ “ ไม่ฟัง ถ้าเจนไม่บังเอิญไปหน้าเหมือนคนที่ชื่อพราว คุณก็จะรักเจนอย่างนั้นสิ “ คำถามนี้ทำเอาเขายืนเงียบอีกรอบ “ คุณก็ตอบเจนไม่ได้! “ มือเล็กดึงประตูสุดแรงเพื่อจะปิดมัน แต่เขาก็ยังดันไว้ “ แต่เจนก็คือเจนนะ ถ้าเจนไม่หน้าเหมือนพราวอาก็ไม่รู้หรอกว่ามันจะเป็นยังไง แต่อาก็รักเด็กหัวดื้อคนนี้จนมาถึงตอนนี้แล้วไง เรามีลูกด้วยกันแล้วนะพลอยเจน “ หญิงสาวจ้องตาเขาแล้วแสยะยิ้ม “ หือ ปล่อย! “ มือของเธอออกแรงดึงประตูอีกรอบพลันยกขาขึ้นตีนถีบยอดอกของสามีจนเขาล้มหงายหลัง แล้วเธอจึงปิดประตูได้ “ เจน!
“ เป็นยังไงบ้าง เจต พราว “ แสงรวี รุ่นพี่ของเจตและพราวซึ่งมีอายุห่างกัน 5 ปี ทั้งสามสนิทสนมกันมากเนื่องจากบ้านอยู่ไม่ไกลกันนัก แถมแสงรวีก็คอยมาช่วยสอนหนังสือให้น้องทั้งสอง ทำให้ทั้งสามสนิทกันมากเป็นพิเศษ “ อ้าวพี่แสงมาได้ยังไงครับ “ เจตเดินเข้ามาทักพร้อมรับของฝากจากมือพี่ชาย “ พอดีพี่พาพี่จ๊ะจ๋าไปหาหมอมานะ เลยมาแวะดูเราสองคน “ “ พี่จ๊ะจ๋าเป็นอะไรคะ หรือว่าจะคลอดแล้วเหรอ “ พราวฟ้ารีบวิ่งออกมาช่วยประคองคนท้องมานั่งในบ้าน แววตาของพราวนั้นสดใสดีใจที่จะได้เห็นหน้าหลาน ในขณะที่เจระวีเองก็มองพ่อแม่วัยหนุ่มสาวด้วยความชอบใจ “ ยังหรอก เพิ่งจะแปดเดือนกว่าๆ เอง “ จ๊ะจ๋ายิ้มตอบน้องสาว พราวฟ้าก็มีท่าทีร่าเริงแล้วถามกับพี่สาวพี่ชายออกมา “ แล้วพวกพี่สองคนได้ตั้งชื่อหลานไว้หรือยังคะ “ จ๊ะจ๋าเงยหน้ามองแสงรวีแล้วหันมาส่ายหน้าให้คนถาม “ ยังเลยจ้ะ พอดีพวกพี่ยังไม่รู้เพศลูกกัน เลยยังไม่รู้ว่าควรจะตั้งชื่อว่าอะไรดี “ จ๊ะจ๋าบอกมือก็ลูบท้องของตัวเอง จนเจระวีที่มองอยู่ก็รู้สึกดีซาบซึ้งแปลกๆ และเหมือนว่ามันจะเป็นความรู้สึกที่พราวเป็นในตอนนั้นด้วย “ หลานคงจะโชคดีมากที่ได้เกิดมาเป็นลูกของพวกพี่
“ อือ “ เจระวีรู้สึกตัวขึ้นบนเตียง ไม่ทันที่เธอจะได้นึกคิดหรือสังเกตอะไรร่างของเธอก็ลุกจากเตียงไปอย่างกระฉับกระเฉง เหมือนกับว่าเธอควบคุมตัวเองไม่ได้ เจระวียืนมองภาพของตัวเองตอนนี้ในกระจก ก็เห็นว่าเธอใส่ชุดนักเรียนอยู่ พร้อมกับความรู้สึกที่ว่านี้คือตัวเธอแต่ก็ไม่ใช่เธอ ‘ นี่มันอะไร เรามาอยู่ในชุดนี้ได้ยังไง แล้วที่นี้มันที่ไหน ไม่ใช่บ้านเรานี่ ‘ เจระวีสงสัย แต่ร่างกายก็ไม่ได้ขยับตามท่าทีที่เธอต้องการ เหมือนกับว่าเธอควบคุมไม่มันได้ แค่ปล่อยให้มันเป็นไปตามที่มันควรจะเป็น “ อีพราว! มึงลงมานี้เดี๋ยวนี้ “ เสียงตะโกนร้องขึ้นมาจากด้านล่างทำให้เจระวีตกใจ พราวเหรอ? หมายความว่าไง เจระวีได้แต่นึกคิดในระหว่างนั้นร่างกายนี้ของเธอก็รีบวิ่งลงไปข้างล่าง “ พ่อ มีอะไรจ๊ะ “ ร่างกายพูดคุยกับคนตรงหน้าโดยที่เจระวีไม่ได้ควบคุมอะไร เธอได้แต่จ้องมองชายแก่ที่ดูเหมือนว่าจะเมามาย มองมาทางนี้ด้วยความโกรธ เพียะ! ฝ่ามือใหญ่ตบมาที่หน้าของหญิงสาว เจระวีปวดแสบปวดร้อนรู้สึกเจ็บไปกับร่างนี้ด้วย แต่เธอก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงควบคุมร่างกายนี้ไม่ได้ ไม่งั้นตาแก่ตรงหน้าคงได้เจอกันสักตั้ง เจระวีได้แต่โมโหแล้วมองเห
บ้านรุณรวี “ อ้าว นี่แม่ยังไม่นอนเหรอคะ “ พลอยเจนเดินเข้ามาในบ้านเห็นแม่นั่งชะเง้อคอรออยู่ จึงได้เดินเข้าไปนั่งด้วย “ แล้วน้องแจมหลับแล้วเหรอแม่ “ จ๊ะจ๋าพยักหน้าให้คำถามของลูก “ ใช่ หลับไปตั้งแต่หัวเย็นคุณตาเขานอนเฝ้าอยู่บนห้องนู้น แม่มีเรื่องจะคุยกับเจน ช่วงนี้เจนได้ไปหาเจตที่โรงพยาบาลบ้างมั้ย “ พลอยเจนได้ฟังแบบนั้นเธอก็ถอนหายใจแรง “ ที่ผ่านมาเจนก็แวะไปหาเขาทุกวัน ยังไม่เห็นว่าเขาจะตื่นขึ้นมาเลย “ คนพูดมีท่าทีเคืองๆ นิดหน่อย เพราะเรื่องก่อนหน้านี้ ที่ว่าจิรกิตติ์เห็นเธอเป็นตัวแทนของพราวฟ้าก็ยังไม่เคลียร์เลย แถมยังจะมามีเรื่องนี้อีก เขาไม่ยอมตื่นขึ้นมาจะได้ปีหนึ่งอยู่แล้ว ใจคอจะปล่อยเธอทำงานหนักแล้วก็เลี้ยงลูกคนเดียวไปจนถึงเมื่อไหร่ “ เจน ลูกคิดอะไรอยู่ หืม? “ หญิงสาวรีบหันไปจ้องหน้าแม่ “ เจนไม่อยากจะรอแล้วค่ะแม่ ไม่รู้ว่ามันจะต้องนานอีกแค่ไหน “ “ ..งั้นแม่จะเล่าอะไรให้ฟังนะ “ จ๊ะจ๋าได้สังเกตลูกสาวมาหลายเดือนแล้วเธอเป็นห่วง สุขภาพจิตใจของลูกวันนี้จึงอยากจะมาเล่าอะไรบ้างอย่างให้ลูกสาวฟัง เผื่อว่ามันจะทำให้พลอยเจนมีกำลังสู้ต่อไป ซึ่งพลอยเจนได้ยินแบบนั้นเธอก็นั่งเงียบจ
“ ว่าอย่างไร คุณประธานบริษัทคนสวย “ เมื่อเห็นคนที่กำลังรอก้าวขาเข้ามาในห้อง เพื่อนๆ ที่รออยู่ก็แซวใหญ่ “ จะให้ว่ายังไงล่ะ ก็เหนื่อยน่ะสิ “ พลอยเจนปลดกระเป๋าสะพายลงแล้วนั่งลงข้างๆ ครีมหอมพร้อมกับถอนหายใจโล่งอกที่วันนี้มันผ่านไปได้สักที มือของเธอก็พลันหยิบกล่องของขวัญออกมาจากกระเป๋า “ ของขวัญเรียนจบสำหรับน้องสาวคนสวยของพี่ค่ะ “ ครีมหอมตาโตแสดงท่าทีดีใจออกมา แล้วรีบรับเอาโดยไม่ลืมเข้าสวมกอดและหอมพลอยเจนเพื่อเป็นการขอบคุณ จนเสี่ยโอมเริ่มไม่พอใจรีบดึงเมียออก “ พอแล้วครีม มันบาดตาบาดใจพี่นะ โอ้ย “ เสี่ยเลยโดนแฟนสาวหันมาหยิกแขนให้ด้วยความหมั่นไส้ แล้วครีมหอมก็หันกลับไปยิ้มให้พลอยเจน มือเล็กยกขึ้นพนมไหว้แนบอกพี่สาว “ ขอบคุณมากๆ นะคะพี่เจน ขนาดงานยุ่งยังมีเวลาหาของขวัญมาให้น้องด้วย “ “ ครีม “ เสี่ยโอมรีบกอดเอวเมียให้ขยับออกมาหาเขา แม้ว่าพลอยเจนจะแต่งงานมีผัวเขาก็ไม่ไว้ใจ ดูสายตามันสิ หยุดแพรวพราวได้สักที่ไหน “ ไว้ครีมจะมาช่วยงานนะคะพี่เจน พรุ่งนี้เลยก็ได้ “ คนฟังขมวดคิ้ว “ แล้วเสี่ยโอมของน้องจะยอมเหรอ “ คนถูกโยงถอนหายใจแรง “ ถ้าครีมต้องการฉันจะขัดอะไรได้ล่ะ ที่สำคัญมึงก็ยังล
9 เดือนต่อมา ที่คาเฟ่เจระวี “ ยินดีด้วยนะครีม เรียนจบสักทีแบบนี้ก็แต่งงานได้แล้วสิ “ จีนเน่เดินเข้ามาทักครีมหอมซึ่งนั่งรออยู่กับเสี่ยโอมในห้องนั่งเล่นประจำของพวกเขาก่อนที่คนอื่นๆ จะเดินตามเข้ามา “ ครีมไม่รีบหรอกค่ะพี่จีน ความจริงยังไม่คิดอยากจะแต่งด้วยซ้ำ “ เสี่ยโอมถึงกับจ้องหน้าเมียด้วยใบหน้าบูดบึ้ง เขาอุตส่าห์รอเธอมาตั้ง 3 ปีเลยนะ ทำไมถึงพูดแบบนี้ “ แล้วนี้ยัยเจ้าของร้านไปไหนแล้วล่ะ “ ไนยะเข้ามานั่งตรงข้ามเสี่ยโอม แล้วถามหาอีกคนที่ควรจะอยู่แต่ไม่อยู่ คนที่นั่งหน้ายุ่งงอนแฟนสาวอยู่จึงได้ตอบ “ วันนี้มันเข้าไปดูงานที่บริษัท บอกว่าตอนนี้กำลังจะออกมา “ ไนยะพยักหน้าเข้าใจในสิ่งที่เสี่ยโอมพูด “ สงสารพี่เจนนะคะ ต้องเลี้ยงทั้งลูกต้องไปบริษัทให้อาเจตแถมยังต้องมาดูแลคาเฟ่อีก พี่เจนเป็นผู้หญิงที่โคตรแกร่งเลย “ ณิหลาเป็นคนพูดขึ้น ทุกคนที่ได้ฟังก็คิดแบบเดียวกับที่ณิหลาคิด “ อืม ครีมว่าถ้าวันไหนว่างครีมมาช่วยงานที่ร้านนี้ให้พี่เจนดีไหม ยังไงทุกวันนี้ครีมก็ยังไม่ได้ทำงานยู่แล้ว “ นางแบบคนสวยของเสี่ยโอมหันหน้าไปถามเขา เสี่ยเองก็มองเมียด้วยแววตานิ่งๆ เมื่อไหร่เธอจะรู้ตัวว่าเขางอนในส
โรงพยาบาล ร่างของพลอยเจนนั่งร้องไห้อยู่กับจีนเน่ ไม่นานพ่อกับแม่ของเธอก็รีบวิ่งเข้ามาหา “ เจน เจนลูก “ จ๊ะจ๋ารีบมานั่งข้างลูกสาวแล้วสวมกอดลูกของเธอเอาไว้ “ แม่ ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ เจนยังไม่ทันได้คืนดีกับเขาเลยนะ ทำไมเขาถึงได้ทำแบบนี้ “ “ ไม่เอาสิเจน ไม่ร้องไห้นะลูก เจตต้องปลอดภัยสิเชื่อแม่ “ จ๊ะจ๋าพยายามจะปลอบใจลูกที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นจนไม่มีแม้เสียง จีนเน่เองก็รีบยื่นมือมากุมมือเพื่อนไว้ “ ใช่เจน มึงตั้งสติก่อนนะ ไนมันเก่งมันต้องช่วยให้อาเจตคืนกลับมาหามึงกับลูกได้แน่ “ สักพักเสี่ยโอมกับหนึ่งเดียวก็วิ่งเข้ามาสมทบหลังจากไปจัดการจับนกน้อยส่งตำรวจ ในอ้อมแขนของเสี่ยโอมก็อุ้มหลานสาวตัวน้อยที่พลอยเจนฝากกับมุกดาไว้ที่ร้านมาด้วย ทารกน้อยก็กำลังร้องไห้เหมือนรับรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น “ เอาน้องแจมมาให้พ่อนะลูก “ แสงรวีเดินเข้าไปอุ้มเอาหลานจากเสี่ยโอม เสี่ยจึงได้เดินมาหาเพื่อนรักของเขา “ ไม่เป็นอะไรนะเจน มึงอย่าเพิ่งคิดอะไรไปไกลเลย อาเจตต้องรอดกลับมา “ “ ใช่ มึงดูจากพวกกูสิทั้งโดนซ้อมโดนแทงโดนปืนเข้าโรงพยาบาลปางตายกันก็ยังกลับมาได้เลย กูเชื่อว่าอาเจตเองก็ต้องเข้มแข็งกลับมาอย
“ แง แอ “ พลอยเจนหาวนอนพยายามโอ๋ลูกนานแล้วแต่ทารกน้อยก็ไม่ยอมเงียบสักที เอาแต่ร้องไห้อย่างเดียว จนแม่แบบเธอที่เห็นก็สงสาร หญิงสาวหันไปมองจิรกิตติ์ซึ่งยื่นมือมาจับที่แขนของลูก ตัวเล็กกลับนิ่งแล้วค่อยๆ หยุดร้องไห้ “ ส่งลูกให้อาเถอะ แล้วเจนก็ไปนอนได้แล้ว “ พลอยเจนที่เห็นว่าลูกคงอยากจะให้พ่ออุ้มมากกว่าเธอ จึงยอมส่งลูกให้เขาเพราะคงไม่มีแม่คนไหมทนเห็นลูกร้องไห้ไม่หยุดแบบนี้ได้หรอก “ ลูกพ่อ ร้องไห้ทำไมครับ ทำแบบนี้ไม่ดีเลย คุณแม่เขาตกใจนะ “ เมื่อลงไปอยู่ในอ้อมแขนของพ่อ ลูกสาวก็เงียบไปนอกจากจะไม่ร้องไห้ยังยิ้มมีความสุขอีก ทำเอาพลอยเจนที่นั่งมองอยู่หมั่นไส้ เขาทำแบบนี้กะจะไม่ให้เธอพาลูกไปจากเขาได้ใช่มั้ย แล้วถ้าวันหนึ่งไม่มีเขาเธอจะต้องทำอย่างไรล่ะ เช้าของวันต่อมา เวลา 05:13น. พลอยเจนตื่นงัวเงียลุกขึ้น เธอมองซ้ายมองขวาก็เห็นว่าลูกสาวกำลังนอนอยู่ในเปลแต่พ่อของลูกเธอไม่รู้ว่าหายไปไหน “ ทำไม เจตต้องกลับไปหานกนะ! “ “ เสียงใคร “ พลอยเจนรู้สึกว่ามีเสียงโวยวายดังอยู่หน้าร้าน เธอจึงลุกแล้วเดินออกไปดู “ คุณกลับไปซะ เราจบกันไปตั้งนานแล้วนี่คุณยังจะกลับมาวุ่นวายอะไรอีก “ “ ไม่!นกไม่กลับ
“ เจน! เดี๋ยว!เจน “ จิรกิตติ์มาถึงร้านในตอนที่พลอยเจนกำลังจะปิดประตูพอดี เขาจึงรีบวิ่งเข้ามาเอามือจับประตูไว้ “ มาทำไม “ เธอถามเขาเสียงแข็ง “ อาเป็นห่วง กลับไปนอนที่บ้านเราเถอะนะเจน นี่เจนเกลียดอาขนาดถึงขั้นพาลูกออกมานอนข้างนอกแบบนี้เลยเหรอ “ “ เจนไม่อยากเห็นหน้าคุณ เพราะเจนรู้สึกว่าสายตาของคุณไม่ได้มองเจนเป็นพลอยเจนอีกแล้ว แต่คุณมองเจนเป็นคนอื่น “ เจระวีตะคอกเสียงดังใส่หน้าเขา จนจิรกิตติ์ก็ได้แต่หงอยเหงา ที่โดนดุ “ เจน อารักเจนในแบบที่เจนเป็นนะ แล้วก็เป็นห่วงมากด้วย ฟังกันก่อนได้มั้ย “ “ ไม่ฟัง ถ้าเจนไม่บังเอิญไปหน้าเหมือนคนที่ชื่อพราว คุณก็จะรักเจนอย่างนั้นสิ “ คำถามนี้ทำเอาเขายืนเงียบอีกรอบ “ คุณก็ตอบเจนไม่ได้! “ มือเล็กดึงประตูสุดแรงเพื่อจะปิดมัน แต่เขาก็ยังดันไว้ “ แต่เจนก็คือเจนนะ ถ้าเจนไม่หน้าเหมือนพราวอาก็ไม่รู้หรอกว่ามันจะเป็นยังไง แต่อาก็รักเด็กหัวดื้อคนนี้จนมาถึงตอนนี้แล้วไง เรามีลูกด้วยกันแล้วนะพลอยเจน “ หญิงสาวจ้องตาเขาแล้วแสยะยิ้ม “ หือ ปล่อย! “ มือของเธอออกแรงดึงประตูอีกรอบพลันยกขาขึ้นตีนถีบยอดอกของสามีจนเขาล้มหงายหลัง แล้วเธอจึงปิดประตูได้ “ เจน!
“ พี่เจน มุกกับพี่ชัยกลับก่อนนะคะ “ เมื่อถึงเวลาเลิกงานมุกดาก็เดินเข้ามาลาพลอยเจนในห้องพัก “ จ้ะ “ พลอยเจนที่กำลังนั่งจ้องลูกสาวหลับอยู่จึงได้เงยหน้าขึ้นหันไปพยักหน้าให้คนข้างนอก “ ว่าแต่พี่เจนจะกลับกี่โมงคะ มันจะดึกแล้วนะ “ มุกดาถามเธอมาด้วยความเป็นห่วง แต่พลอยเจนก็ไม่รู้เหมือนกันเพราะเธอยังไม่ทันได้คิดไว้ “ อีกสักแป๊บเนี้ยแหละ “ ถึงอย่างนั้นเธอก็ตอบส่งๆ ออกมาเพื่อไม่ให้มุกดาต้องห่วง มุกดาจึงส่งยิ้มตอบแล้วหันหลังไปเจอเข้ากับคุณจ๊ะจ๋า ที่กำลังเดินมาทางนี้ “ สวัสดีค่ะ “ มุกพนมมือไหว้ตามมารยาทจากนั้นจึงก้มหน้าแล้วเดินออกไป ส่วนจ๊ะจ๋าก็มุ่งหน้าเดินเข้ามาในห้องที่ลูกกับหลานสาวอยู่ “ แม่ “ พลอยเจนที่เห็นแม่เดินเข้ามานั่งตรงข้ามกับเธอ ก็สะดุ้งตกใจเล็กน้อย ส่วนคนเป็นมารดาก็มองไปที่คนตัวน้อยที่กำลังนอนหลับอยู่บนโซฟาตัวเดียวกับที่ลูกสาวนั่งอยู่ “ อาเจตบอกให้แม่มานี่เหรอคะ “ จ๊ะจ๋ารีบละสายตาจากหลานแล้วเงยหน้าขึ้นมองพลอยเจน “ แล้วเจนเป็นอะไรถึงได้หอบลูกหนีมาแบบนี้ล่ะ “ “ เจนว่าแม่คงจะรู้จากอาเจตแล้วนะคะ “ สองแม่ลูกจ้องตากัน พลอยเจนน้ำตาซึมเพราะเกิดอาการน้อยใจ ทั้งที่พ่อแม่ก็น