ในความเงียบที่หนักอึ้งนั้น พ่อพรายรพีขยับร่างที่เต็มไปด้วยอำนาจ เขาใช้มือหนาใหญ่คว้าข้อมือของมีนา ร่างบางระหงของเธอเหมือนจะปลิวไปตามแรงกระชากอันน้อยนิดของเขา ข้อมือของเธอถูกบีบแน่น แต่เขากลับทำราวกับว่าเป็นเรื่องธรรมดา ขณะที่มีนาต้องถูลู่ถูกังไปตามแรงลาก
ใบหน้าของพ่อพรายรพียังคงนิ่งเฉย ดวงตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและเงียบงัน เส้นกรามของเขาแน่นตึง สายตาที่มองตรงไปข้างหน้าเหมือนกับพายุที่คุกรุ่นอยู่ภายใน
แม้จะไม่ได้เอ่ยคำพูดใดๆ แต่การกระทำของเขาก็ชัดเจนในความดุดัน หน้าตาถมึงทึง บ่งบอกถึงความไม่พอใจและความเดือดดาลที่ปะทุอยู่ลึกๆ เขาลากมีนากลับไปยังที่ที่พวกเขาจากมา กระท่อมที่ซ่อนอยู่ในป่าเขา
ทุกก้าวเดินของเขานั้นหนักแน่นและแน่วแน่ มีนาที่ถูกกระชากไปไม่กล้าขัดขืน สัมผัสได้ถึงความเถื่อนและอำนาจที่แผ่ออกมาจากตัวเขา ร่างกายของเธอสั่นไหวไปกับความกลัวและความรู้สึกที่แปลกประหลาดที่คละคลุ้งอยู่ในใจ
มีนา: (เสียงสั่นเครือ ขณะพยายามบิดข้อมือ) "ฉะ... ฉันเจ็บค่ะ... ปล่อยฉันเถอะ"
พรายรพี: (ลดแรงลงเล็กน้อย แต่ยังคงเสียงแข็ง) "ขอโทษ... แต่บางทีเธอควรรู้ไว้ว่า ฉันไม่ยอมให้ใครมาแตะต้องของของฉัน"
มีนา: (บ่นอุบเสียงแผ่ว) "ฉันไม่ใช่ของของใครนะ..."
พรายรพี: (พูดด้วยน้ำเสียงมั่นคงและแฝงนัยยะ) "ได้เป็นแน่ๆ ไม่ต้องห่วง... เธอจะรู้เองว่าไม่มีใครหนีพ้นฉันได้" เสียงหนักเข้ม
เมื่อมาถึงกระท่อม บรรยากาศก็กลับเข้าสู่ความเงียบงันที่อึดอัด ทั้งสองต่างไม่พูดจากันอีก ราวกับว่าคำพูดใดๆ จะเป็นการจุดไฟที่ยังไม่มอดดับ มีนาก้มหน้าอย่างเงียบๆ ไม่กล้ามองสบตา เธอเริ่มจัดแจงทำอาหารอย่างเชื่องช้า ราวกับว่าทุกการกระทำของเธอกำลังถูกจับจ้อง
พ่อพรายรพีทิ้งตัวลงนั่งอย่างเงียบเชียบ เสียงลมหายใจของเขาดังเบาๆ แต่กลับให้ความรู้สึกหนักอึ้ง มีนารู้สึกถึงสายตาของเขาที่จับจ้องอยู่ แม้จะไม่ได้มองตรงๆ แต่เธอก็สัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่แผ่ออกมาจากเขา
เมื่ออาหารเสร็จเรียบร้อย ทั้งสองนั่งกินกันอย่างเงียบเชียบ ไม่มีคำพูดใดๆ หลุดออกมาจากปากของทั้งคู่ เสียงช้อนที่กระทบกับจานเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ทำลายความเงียบ แต่กลับทำให้บรรยากาศดูอึดอัดยิ่งขึ้น
ในใจของมีนาสับสนและเต็มไปด้วยความกลัว แต่เธอก็ยังคงทำหน้าที่ของตนต่อไป ขณะที่พ่อพรายรพีนั่งกินอย่างไม่แสดงความรู้สึกใดๆ เหมือนกับว่าความเงียบนี้เป็นเพียงอีกวันหนึ่งในชีวิตของเขา แต่ในความเงียบนี้เองที่ทำให้มีนารู้สึกได้ถึงความตึงเครียดและความไม่แน่นอนที่แผ่ซ่านอยู่ในอากาศ
มีนากลับเข้ามาในกระท่อมหลังจากอาบน้ำเสร็จ เธอหยุดนิ่งเมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ของพ่อพรายรพีที่กำลังนอนหลับตาอยู่บนที่นอนที่ปูเรียบร้อย มีนายืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง มองภาพนั้นด้วยความรู้สึกที่ไม่สามารถบรรยายได้ หัวใจเธอสั่นไหวแต่ก็พยายามควบคุมตัวเอง เธอปิดตะเกียงเจ้าพายุอย่างเงียบๆ ให้แสงไฟอ่อนๆ ดับลง ทำให้ภายในกระท่อมเหลือเพียงความมืดและเสียงลมหายใจของทั้งสอง
เธอค่อยๆ ล้มตัวลงนอนข้างๆ ร่างสูงใหญ่ของพ่อพรายรพี
ในเสี้ยววินาทีนั้น มีนารู้สึกเหมือนโลกหยุดหมุนเมื่อพรายรพีที่เธอคิดว่าหลับอยู่ กลับตวัดร่างของเธอเข้ามาในอ้อมแขนอย่างรวดเร็ว ร่างงามของเธอแทบปลิวเข้าไปแนบชิดกับอกกำยำของเขา ลมหายใจของเธอสะดุดเมื่อเขากระหน่ำจูบลงมาอย่างรุนแรง ริมฝีปากของเขาเร่าร้อนและเต็มไปด้วยความเรียกร้องที่เธอไม่เคยสัมผัสมาก่อน จูบของพรายรพีเต็มไปด้วยความเร่าร้อนและเอาแต่ใจ ราวกับว่าเขาต้องการครอบครองทุกอย่างที่เป็นเธอ มีนารู้สึกถึงแรงปรารถนาที่พุ่งพล่านในทุกสัมผัส ริมฝีปากของเขาบดเบียดลงมาอย่างหนักหน่วงจนเธอแทบไม่สามารถต่อต้านได้ หัวใจของเธอเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมาจากอก ร่างกายของเธอสั่นสะท้านในอ้อมกอดของเขา ความร้อนแรงและความดุดันที่เขาปลดปล่อยออกมาทำให้เธอแทบละลายไปกับจูบนั้น รู้สึกเหมือนถูกดูดกลืนเข้าไปในกระแสความรู้สึกที่ไม่มีที่สิ้นสุด
พรายรพีถอนริมฝีปากออกด้วยความเร่าร้อนที่ยังคงเหลือไว้ในอากาศ เขาสบตากับมีนา สายตาของเขาเต็มไปด้วยความสับสนและโกรธเคือง
พรายรพี: (เงยหน้าเล็กน้อยจากจูบแล้วกระซิบข้างหูมีนา เสียงดุดันและเอาแต่ใจ) "ทั้งตัวของเธอ... เป็นของฉันทั้งหมด จำไว้ให้ดี"
เขารู้สึกว่าความปรารถนาที่พุ่งพล่านในใจนั้นไม่ใช่สิ่งที่ควรจะเกิดขึ้น แต่กลับหยุดไม่ได้ มือหนาและร่างใหญ่ของเขากอดรัดเธอแน่นขึ้น ราวกับอยากจะกลืนเธอเข้าไปให้หมด เขาโมโหทั้งเธอและตัวเองที่ต้องการครอบครองเธอมากขึ้นทุกที ความเถื่อนในใจของเขาถูกปลดปล่อยออกมาในความต้องการที่รุนแรง เขาต้องการจะครอบครองเธอทุกอย่าง ทั้งกายและใจจนไม่เหลืออะไรให้ใครอื่นได้สัมผัส.
มีนาดิ้นรนพยายามหลุดออกจากอ้อมกอดอันแข็งแกร่งของพรายรพี แต่ยิ่งเธอดิ้น เขาก็ยิ่งกอดแน่นขึ้น ความพยายามของเธอกลับยิ่งทำให้เขาเพิ่มแรงกดดันลงบนร่างบาง เธอหอบหายใจอย่างแรง พยายามฝืนต่อสู้กับความแข็งแกร่งที่ไม่สามารถต่อกรได้ เขาจับเธอไว้แน่น
พรายรพี: (ขู่เสียงเข้ม ขณะจ้องมองมีนา) "ถ้าไม่นอนนิ่งๆ ฉันจะทำมากกว่าจูบ...
มีนา: (จำยอมหยุดดิ้น ร่างกายเกร็งเล็กน้อย ขณะสบตาพรายรพีอย่างหวาดหวั่น)
พรายรพี: (ขณะที่กอดร่างบางของมีนาแนบแน่น ส่งความอบอุ่นให้กันในคืนหนาว) คิดในใจ "จะตบะแตกวันไหนกันนะ... ยิ่งใกล้เธอมากเท่าไหร่ ยิ่งยากที่จะห้ามใจ"
หลายวันต่อมาในตลาด จ้อยมองตามเจ้านายของตน พ่อพรายรพี เสือใหญ่แห่งขุนเขาแถบนี้ ผู้ที่ใครๆ ต่างยำเกรงและขนานนามว่าเป็นนักรบผู้ดุดัน วันนี้กลับถือตระกร้าในมือข้างหนึ่งและถือดาบในมืออีกข้าง เดินตามสาวน้อยอย่างมีนาต้อยๆ คอยถือของให้เธอ จ้อยอดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าระอาใจ ท่าทางที่แสดงออกนั้นช่างขัดกับภาพลักษณ์อันน่าเกรงขามของเจ้านายยิ่งนัก เขาไม่เข้าใจว่าทำไมชายที่แข็งแกร่งและน่าเกรงขามถึงได้ยอมลดตัวลงมาเดินตามและช่วยถือของให้สาวน้อยเช่นนี้
จ้อย: (ส่ายหน้าอย่างระอาใจ ขณะมองภาพที่เห็น) "หมดกัน หมดกัน... พ่อเสือใหญ่นายกู"
ขณะนั้นพรายรพีหันมาเจอจ้อยที่มุมหนึ่งที่กำลังทำท่าทางส่ายหน้า
พรายรพี: (ส่งสายตาที่มองไปหาจ้อย หน้านิ่งเย็นชาและดุดัน)
จ้อย: (รู้สึกเสียวสันหลัง ขณะสบตาพรายรพี รีบกระโดดหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว) อื๋ยยย ทีกับลูกน้องล่ะน่ากลัวยิ่งกว่าอะไร จ้อยนึกในใจ
บริเวณกระท่อมของพรายรพีนั้นเงียบสงบและห่างไกลจากผู้คน ไม่มีใครกล้าย่างกรายเข้าใกล้ เพราะเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความน่าเกรงขามและความลึกลับของเสือใหญ่แห่งขุนเขา
เมื่ออยู่ด้วยกันสองคนที่กระท่อม พรายรพีมักจะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เขาชอบที่จะวนเวียนอยู่ใกล้ๆ และบางครั้งก็ดึงมีนาเข้าไปในอ้อมแขนของเขาแอบกอดแอบหอมแก้มอย่างหน้าตาเฉยแล้วเดินหนีไป
"อ๊ะ!" มีนาร้องเสียงหลงเมื่อร่างหนาใหญ่ของพรายรพีกระชากเธอเข้ามากอดจากด้านหลัง ร่างบางของเธอสั่นสะท้านขณะที่เขาก้มลงจูบที่ต้นคออย่างแรง สัมผัสของริมฝีปากที่ร้อนผ่าวกับผิวเนียนนุ่มทำให้มีนาตัวเกร็ง และหัวใจเต้นแรง เธอรู้สึกถึงความอบอุ่นและน้ำหนักของร่างกายเขาที่ชิดแนบไปกับเธอ ความรู้สึกระคนระหว่างความตกใจและความปรารถนาที่ถูกกระตุ้นขึ้นทำให้เธอแทบหายใจไม่ออก แต่ก็ไม่อาจต้านทานแรงที่ดึงเธอเข้าสู่อ้อมแขนของเขาได้
การดึงอีกฝ่ายมาจูบตามอำเภอใจ นั่นช่างเอาแต่ใจอย่างเห็นได้ชัด เขาชอบดึงมีนาเข้าสู่อ้อมแขนของเขา และมักจะจูบเธออย่างอุกอาจและเต็มไปด้วยความร้อนแรง และบางครั้งพรายรพีจะยั่วยวนมีนาอย่างนุ่มนวลด้วยจูบที่อ่อนหวานเรียกร้อง
มีนา: (ตวาดลั่น หลังโดนขโมยจูบดูดดื่ม) "คุณทำไมชอบทำแบบนี้นะ!"
พรายรพี: (ตอบกลับเสียงดุดัน ขณะสบตาเธอ) "เธอเป็นของของฉัน ฉันจะทำอะไรก็ได้ตามที่ต้องการ"
(ก้มลงกระซิบข้างใบหูของมีนา เสียงต่ำและดุดัน) "แต่ถ้าเธอยอมเป็นของฉันแต่โดยดี... ฉันอาจจะพิจารณาส่งเธอกลับบ้าน...ดีไหม?"
มีนา: (เงยหน้าขึ้นมองพรายรพี สายตาไหวระริก รู้สึกสับสนและหวั่นไหวกับคำพูดที่ได้ยิน)
(และละล่ำละลักถามด้วยเสียงสั่น) "คะ...คะ คุณจะไม่ทำอะไรฉันถ้าฉันไม่ยอมใช่ไหม?"
พรายรพี: (ตอบเสียงตึงและดุ) "ฉันไม่เคยฝืนใจผู้หญิงคนไหน"
หึ “ไม่ฝืนใจใครหรอก” มีนาคิดในใจ หน้าตาเง้างอด ปากบอกไม่ แต่การกระทำของเขาน่ะสิกลับตรงกันข้าม เมื่อเขาชอบเข้ามาใกล้มากอดจูบลูบคลำเธอตามอำเภอใจเสมอ มีนาพยายามเก็บอาการและกอดอกข่มความรู้สึกขุ่นมัวในใจ เธอรู้สึกเง้างอด แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธความอบอุ่นและความหวั่นไหวที่เกิดขึ้นทุกครั้งที่เขาเข้าใกล้ เธอจึงได้แต่ปล่อยให้ความคิดนั้นวนเวียนในหัว ขณะที่ร่างกายถูกเขาโอบกอดแน่นขึ้นเรื่อยๆ
ดึกคืนนั้น เมื่อมีนาอาบน้ำเสร็จและกลับเข้ามาในกระท่อมที่เงียบสงบ เธอพบว่าที่นอนปูไว้อย่างเรียบร้อย ร่างบางล้มตัวลงนอนอย่างรวดเร็วเพราะอากาศคืนนี้หนาวผิดปกติกว่าทุกคืนที่ผ่านมา ความเย็นแผ่ซ่านทำให้เธอรีบห่มผ้าหนาแน่นขึ้น หวังให้ความอบอุ่นช่วยขับไล่ความหนาวเย็นที่แทรกเข้ามาในกระท่อมแต่ในที่สุด ความเหนื่อยล้าจากวันที่ยาวนานก็เข้ามาครอบงำ มีนาเผลอหลับไปท่ามกลางความหนาวเย็นที่โอบกอดร่างบางของเธอไว้ เสียงลมพัดผ่านหน้าต่างที่ปิดไม่สนิทกลายเป็นดั่งเสียงขับกล่อม และก่อนที่เธอจะรู้ตัว ความอุ่นจากผ้าห่มก็พาเธอเข้าสู่ห้วงนิทราอย่างลึกซึ้งนห้วงความคิดแบบครึ่งหลับครึ่งตื่นของมีนา กลิ่นหอมจากสบู่ที่มีความกลมกล่อมของเปลือกสนผสมกับกลิ่นของส้มเริ่มลอยเข้ามาในโสตประสาท กลิ่นที่เย้ายวนและน่าสนใจนี้ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายและอบอุ่น คล้ายกับการถูกปกคลุมด้วยผ้าห่มอันนุ่มนวลที่มีกลิ่นหอมละมุน เสียงหวานของลมพัดผ่านหน้าต่างและกลิ่นหอมที่แทรกซึมเข้ามาช่วยให้เธอหลับสนิทยิ่งขึ้น ในห้วงความฝันนั้น เธอรู้สึกเหมือนถูกล้อมรอบด้วยความอบอุ่นและความรู้สึกของการถูกดูแลอย่างใกล้ชิด ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนและลึกลับ.
มีนาค่อยๆ ปรือตาขึ้นมาด้วยความยากลำบาก เมื่อความฝันของเธอถูกปลุกเร้าด้วยความร้อนและรัญจวนที่แปลกประหลาด ความรู้สึกนั้นเข้ามาคลุมเธอเหมือนกับลมหายใจร้อนที่คอยกระทบผิวกาย กลิ่นหอมจากสบู่ที่เธอเคยรับรู้ก่อนหน้านี้เริ่มเจือจางลง และแทนที่ด้วยความรู้สึกที่ร้อนแรงและคุ้นเคยมากขึ้น
เมื่อเธอลืมตาขึ้น มีนาเห็นเงามืดที่ล้อมรอบเธอ ในการพร่ามัวของความมืดที่เย็นและยามค่ำคืน ความร้อนที่เธอรู้สึกนั้นทำให้เธอรู้สึกกระวนกระวาย ร่างหนาที่ทาบทับอยู่ใกล้ชิดทำให้เธอรู้สึกถึงความร้อนและการสัมผัสที่หนักหน่วง ความรู้สึกนี้เปลี่ยนจากความนุ่มนวลเป็นความร้อนแรงที่ทำให้หัวใจของเธอเต้นแรง
เมื่อมีนามองไปยังต้นตอของความร้อน เธอพบว่าพรายรพีกำลังนอนข้างๆ เธอ ร่างสูงใหญ่ที่กดทับอยู่ใกล้ๆ กับเธอ กลิ่นสบู่และความรู้สึกของความร้อนที่เขาแผ่ซ่านออกมา ทำให้เธอรู้สึกทั้งตกใจและหวั่นไหว ความรู้สึกนี้มีทั้งความดุเดือดและความอ่อนโยนในเวลาเดียวกัน.
พรายรพีเห็นสาวน้อยในอ้อมกอดลืมตาตื่น อารมณ์ที่ค้างคากลับกระตุ้นให้เขาโน้มหน้าเข้าใกล้ ร่างสูงใหญ่ของเขาเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วและเต็มไปด้วยความร้อนแรง มือของเขายังไม่ห่างจากตัวมีนา เขาดึงเธอเข้ามาใกล้แล้วจูบเธอด้วยความร้อนแรงและอารมณ์ที่ยังค้างอยู่
จูบของพรายรพีเต็มไปด้วยความดุดันและดูดดื่ม เขาใช้ริมฝีปากและลิ้นของเขาในการสำรวจและสอนสาวน้อยที่อยู่ในอ้อมกอดของเขา ร่างกายของเขาเคลื่อนไหวไปตามอารมณ์ที่สูงสุด ขณะที่เขาโอบกอดและเคลื่อนย้ายตัวมีนาอย่างเต็มที่ ความรู้สึกของความร้อนและความเร่าร้อนแผ่ซ่านไปทั่วร่างของเธอ
มีนาไม่สามารถต้านทานได้ถูกทำให้ตกอยู่ในโลกของความรู้สึกที่คุกรุ่นและแสนจะดื่มด่ำ เธอรู้สึกถึงความรุนแรงของจูบแต่ก็รู้สึกถึงความอบอุ่นและความรักที่มาพร้อมกับมัน จนกระทั่งความรู้สึกทั้งหมดกลายเป็นการหลอมรวมที่น่าสับสนแต่ก็เต็มไปด้วยความต้องการ
มีนา: (กลั้นใจส่งเสียงออกมาละล่ำละลัก หอบ) "ยะ... อย่าค่ะ! ไหนว่าจะไม่ฝืนใจไงคะ?"
พ่อพรายรพีที่เต็มไปด้วยอารมณ์และแรงดึงดูดชั่วขณะหนึ่งหยุดชะงัก ร่างสูงใหญ่ของเขาลดความรุนแรงลง และมองดูมีนาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความซับซ้อน และหลังจากนั้นเขาก็ล้มตัวลงนอนข้างๆ มีนา มือของเขายังคงกอดเธอไว้แน่น แต่ครั้งนี้ท่าทีของเขาเปลี่ยนไปเป็นความอ่อนโยน ความเงียบเข้ามาครอบงำบรรยากาศ เขายังคงดึงสาวน้อยไว้ในอ้อมแขน
มีนานอนอยู่ในอ้อมกอดของเขา ความรู้สึกของการถูกกอดแน่นทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย แต่ในขณะเดียวกัน ความเงียบสงบที่เกิดขึ้นหลังจากความร้อนแรงยังคงเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ไม่อาจอธิบายได้ ความรู้สึกนี้ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความสับสนและความอ่อนไหว ที่พ่อพรายรพีพยายามจะค่อยๆ เรียบเรียงในใจของเขา
ทั้งคู่ยังคงนอนอยู่ในความเงียบสงบ ร่างใหญ่ของพรายรพีและร่างบางของมีนาเชื่อมโยงกันอย่างแนบแน่น ในขณะที่พ่อพรายรพีพยายามหาคำตอบให้กับสิ่งที่เขารู้สึกและสื่อสารกับตัวเองถึงความรู้สึกที่แท้จริงของเขา
พรายรพีที่เต็มไปด้วยอารมณ์และความรู้สึกอันรุนแรงในช่วงเวลาแห่งความเงียบสงบ พยายามข่มใจตัวเองให้หลับ เขาคิดในใจด้วยความอึดอัดและสับสน:
“นี่กูจะทนได้สักกี่วันวะ? นี่กูไม่ใช่พระนะเว้ย... กูก็ไม่เคยต้องโดนยั่วขนาดนี้มาก่อน”
คำพูดในใจของเขาแสดงถึงความรู้สึกของการต่อสู้ภายในที่รุนแรง ระหว่างความต้องการที่ดุเดือดและความรู้สึกที่ท้าทายที่มีนาได้กระตุ้นขึ้น ความรู้สึกนี้ทำให้เขารู้สึกถึงความขัดแย้งภายในตัวเอง ที่เต็มไปด้วยความอยากและความอึดอัดที่เขาต้องเผชิญในช่วงเวลานี้
ในห้องที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นเมื่อไอ้อ้วนน้อยของพ่อได้เวลาฝากพี่เลี้ยงไว้แล้ว เขาหันไปหาภรรยาสุดที่รักของเขา พร้อมรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความหมาย “เมื่อไอ้อ้วนของพ่อไปกับพี่เลี้ยงแล้ว พ่อขอเวลาส่วนตัวกับแม่หน่อยนะ”แม่ยิ้มตอบกลับ ขอบตาของเธอเบิกบาน “ได้สิค่ะ พ่อ” น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความรักและความเอื้ออาทร“พ่อคิดว่ามันเป็นเวลาที่เหมาะสมแล้วที่จะใช้เวลากับแม่” เขาพูดต่อ ดวงตาของเขาส่องแสงอ่อนโยน “เราไม่ได้มีเวลาส่วนตัวกันนานแล้ว”“ใช่ค่ะ แม่ก็รู้สึกแบบนั้น” แม่ตอบอย่างอบอุ่น ความรู้สึกที่เก็บไว้ในใจกลับมาร่วมกันอีกครั้ง “มีเรื่องที่พ่ออยากพูดหรือเปล่าคะ?”เขายิ้มกว้างขึ้น “พ่อแค่คิดว่าแม่ยังเป็นคนพิเศษในชีวิตพ่อเสมอ”“แม่ก็รักพ่อมากเหมือนกัน” เธอพูดพร้อมกับยิ้มออกมาพวกเขายิ้มให้กัน ดวงตาเต็มไปด้วยความรักและความเข้าใจ ความรู้สึกของการได้อยู่ด้วยกันในช่วงเวลาที่เงียบสงบนี้ทำให้หัวใจของพวกเขาอบอุ่นยิ่งขึ้น“มาหาเวลาที่จะทำให้แม่รู้สึกดีอีกครั้งดีกว่า” เขาพูดด้วยน้ำเสียงหวานซึ้ง“ฉันจะยังรักเธอเสมอไม่ว่าเธอจะสาวหรือจะแก่ลง” เสียงของเขาเต็มไปด้วยความจริงใจ เมื่อเขาจ้องมองไปที่เธอ ความรู้
เวลาผ่านไปจนมีนาได้คลอดลูกชายตัวน้อย ตอนนี้เขาอายุห้าเดือนแล้ว เด็กน้อยที่มีร่างอ้วนจ้ำม่ำ ทำให้ทุกคนในบ้านรู้สึกอบอุ่นใจเมื่อได้เห็นเขา ขณะที่เขานอนอยู่ในอ้อมแขนของแม่ กำลังดูดนมอย่างมีความสุข เสียงจู๊บๆ ของเขานั้นทำให้มีนารู้สึกมีความสุขและภาคภูมิใจในบทบาทใหม่ของเธอรพีมักจะนั่งอยู่ข้าง ๆ มองดูลูกชายด้วยความรักและความภาคภูมิใจ เขาไม่สามารถละสายตาจากความน่ารักของลูกได้ และรู้สึกได้ถึงความรักที่เพิ่มพูนในครอบครัวนี้“ลูกของเราน่ารักมากเลยนะ” เขาพูดพร้อมรอยยิ้มอบอุ่น ขณะยื่นมือไปลูบหัวลูกชายอย่างเบา ๆ“ใช่ค่ะ ที่รัก เขาทำให้ชีวิตเรามีความหมายมากขึ้น” มีนาตอบกลับพร้อมยิ้มให้กับลูกน้อยในอ้อมแขนของเธอ ความรักในครอบครัวนี้กำลังเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ โดยมีลูกชายเป็นศูนย์กลางของความสุขเด็กชายวัยห้าเดือนนอนอยู่ในอ้อมแขนของแม่ ขณะที่เขาดูดนมจากอกของเธออย่างหิวโหย ริมฝีปากน้อยๆ ของเขาดูดตุ้บๆ เป็นจังหวะ สร้างเสียงนุ่มๆ ที่แสดงถึงความอิ่มเอมและความสุข เด็กน้อยมีใบหน้ากลมอวบอิ่ม ดวงตาหลับสนิทเหมือนกำลังฝันดี ในขณะที่มือเล็กๆ ของเขายังคงจับเสื้อแม่ไว้แน่น แสดงถึงความอบอุ่นและความปลอดภัยทันใดนั้น ร่า
ในบ้านหลังใหญ่ที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและเสียงหัวเราะ รพีและมีนากลับมาจากฮันนีมูนที่น่าจดจำ หลังจากผ่านไปสามเดือน คู่รักหนุ่มสาวยังคงอยู่ในช่วงเวลาแห่งความรักและความสุขที่หวานชื่นเช้าวันหนึ่ง มีนานั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารเช้าขณะที่แสงแดดส่องผ่านหน้าต่าง เธอสวมเสื้อยืดหลวม ๆ และกางเกงขาสั้น รพีก้าวเข้ามาในห้องด้วยรอยยิ้มกว้าง เขาใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้นเผยให้เห็นกล้ามเนื้อที่กระชับและกลิ่นอายของความเป็นชายที่ลอยมา ทำให้มีนารู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้เห็นเขา“วันนี้เราจะทำอะไรดี?” มีนาถามเสียงหวาน ดวงตาของเธอเปล่งประกายด้วยความอยากรู้“ไปเที่ยวที่ทะเลกันไหม?” รพีเสนอต่ออย่างกระตือรือร้น “ฉันอยากให้เธอได้เห็นความงามของทะเลในฤดูร้อน”“ดีเลย! ฉันชอบทะเลมาก” มีนาตอบด้วยความตื่นเต้น ขณะเธอยิ้มกว้าง รู้สึกถึงความสุขที่ได้ใช้เวลาร่วมกันระหว่างที่พวกเขากินอาหารเช้า พูดคุยและหัวเราะด้วยกัน รพีไม่สามารถหยุดมองมีนาได้ เธอสวยงามในทุกมุมมอง จนเขารู้สึกว่าเขาโชคดีมากที่มีเธอในชีวิต“เราจะต้องเตรียมของไปด้วยนะ” รพีพูดอย่างคิดคำนวณ “และฉันจะต้องให้เธอสวมชุดว่ายน้ำใหม่ที่ฉันซื้อให้”มีนาหัวเราะออกมา “จะให้ฉันใ
ที่ชานกระท่อม ท่ามกลางแสงดาวที่ส่องประกายระยิบระยับ รพียืนซ้อนกอดมีนาไว้จากด้านหลัง อ้อมแขนแข็งแรงโอบรัดเธอไว้แนบแน่น เขาโน้มตัวลงจูบเธออย่างดูดดื่มและลึกซึ้ง ราวกับต้องการมอบทุกความรู้สึกที่มีให้เธอในชั่วขณะนี้เมื่อริมฝีปากผละออก รพีค่อย ๆ ใช้มือประคองใบหน้าของมีนาให้ซบลงกับอกกว้างของเขา หัวใจของเขาเต้นหนักแน่นอยู่ข้างหูเธอ สองคนมองดูแสงดาวทอประกายระยิบอยู่บนท้องฟ้ากว้าง ความเงียบสงบของค่ำคืนนี้ห่มคลุมพวกเขาไว้ ราวกับทั้งจักรวาลมีเพียงแค่สองคนนี้พ่อพรายรพีลูบเส้นผมของเธอเบา ๆ พึมพำแผ่ว ๆ ข้างหู "ดาวอาจจะสวย... แต่สำหรับฉันมันสวยน้อยกว่าเธอมาก”"มีนา..." รพีเอ่ยเรียกเสียงนุ่ม แต่น้ำเสียงแฝงไปด้วยความทะเล้น "เธอว่า... มีที่ไหนในป่านี่ที่เรายังไม่ได้เอากันบ้าง?"มีนาหน้าแดงก่ำ แม้จะอยู่ท่ามกลางความมืด เธอหันไปมองเขาอย่างตื่นเต้นและขวยเขิน ก่อนจะยกมือขึ้นตีเบา ๆ บนแขนแข็งแรงที่โอบเธอจากด้านหลัง"พูดอะไรออกมาน่ะ!" เธอตอบพร้อมหัวเราะเขิน ๆรพีหัวเราะแผ่ว ๆ ในคอ โอบกระชับเธอแน่นขึ้น รอยยิ้มซุกซนประดับบนใบหน้า "ฉันหมายถึง... มีที่ไหนที่เรายังไม่ได้ชมวิวสวย ๆ ด้วยกันต่างหาก"มีนาหันมามองรพี
เช้าวันใหม่ในกระท่อมร้อนรักรพีตื่นขึ้นมาในห้องนอนที่อบอุ่น แสงแดดยามเช้าผ่านเข้ามาทางหน้าต่าง ทำให้เขารู้สึกสดชื่นและมีชีวิตชีวา เขาหันไปมองมีนาที่นอนอยู่ข้างๆ เธอหลับใหลอย่างสงบ เส้นผมยาวสลวยกระจายไปบนหมอน ทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงอีกครั้ง ความรู้สึกของความรักที่เขามีให้เธอแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น“น่าเสียดายที่ไม่สามารถอยู่ในอ้อมแขนเธอได้นานกว่านี้” เขากระซิบกับตัวเอง ก่อนที่จะลุกขึ้นไปเตรียมอาหารเช้าง่ายๆ สำหรับทั้งสองคนในครัวเล็กๆ รพีเริ่มทำไข่เบคอนในกระทะ โดยมีเสียงฉ่าและกลิ่นหอมของเบคอนทำให้เขารู้สึกดี การทำอาหารเช้านี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตร่วมกันที่เขาตั้งใจจะมอบให้มีนาเมื่อทุกอย่างพร้อม เขายกกาแฟกลิ่นหอมพร้อมกับจานไข่เบคอนเดินเข้าไปในห้องนอนอีกครั้ง มุมปากของเขายิ้มขึ้นเมื่อเห็นมีนาค่อยๆ ลืมตาขึ้นและยิ้มให้เขา“สวัสดีเช้านี้นะครับที่รัก” รพีทักทายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ขณะที่วางจานอาหารลงบนโต๊ะข้างเตียง“ทำไมถึงทำอาหารเช้าให้ฉัน?” มีนาถามอย่างงัวเงีย ขยับตัวลุกขึ้นมานั่ง“เพราะว่าฉันอยากให้วันของเราเริ่มต้นด้วยความพิเศษ” เขาตอบพลางยิ้ม “วันนี้เราเป็นสามีภรรยากันอย่างเต็มตัวแล้
ภายใต้แสงดาวพราวฟ้าบนหุบเขาที่เงียบสงัด กระท่อมรักที่เคยเป็นสถานที่แห่งความทรงจำกลับมามีชีวิตอีกครั้ง รพี ยืนเด่นอยู่ใต้แสงจันทร์สีเงินงาม ส่องกระทบผิวกายกำยำของเขาจนดูดุดันและทรงพลัง สายลมเย็นพัดโชยมากระทบใบหน้า แต่สิ่งที่ร้อนแรงยิ่งกว่าคือสัมผัสจากมือใหญ่ของเขาที่ค่อย ๆ ลูบไล้ไปตามทรวงอกอวบอิ่มของมีนาเธอเงยหน้าขึ้นมองดวงตาของเขาที่เต็มไปด้วยความต้องการ ความเถื่อนดิบที่แฝงอยู่ในแววตาทำให้เธอไม่อาจหลบสายตาไปได้ รพีลูบไล้มือหนักหน่วงไปตามร่างกายของเธอ ปลายนิ้วไล่จากไหล่ลาดลงมาสู่ส่วนโค้งเว้าที่อกอวบที่เขาหลงใหล เขากดปลายนิ้วกับผิวเนื้อที่นุ่มนวลของเธออย่างแนบแน่น ขณะที่มีนาครางแผ่วอย่างอ่อนโยน"ที่รัก… เธอจำความรู้สึกนี้ได้ไหม?" รพีกระซิบอย่างดุดันข้างหูเธอ ก่อนจะกดริมฝีปากร้อน ๆ ลงบนเนื้ออ่อนที่หน้าอกของเธอ ขบกัดเบา ๆ ทำให้เธอสะดุ้งไหว ร่างกายของมีนาเริ่มตอบสนองต่อความสัมผัสดิบเถื่อนที่เธอคุ้นเคยเสียงครางเบา ๆ ของเธอหลุดออกมา ขณะที่รพีจับร่างเธอแน่นและกดลงกับกำแพงไม้ของกระท่อม ท่ามกลางเสียงใบไม้พลิ้วไหวและเสียงหายใจหนักหน่วง รพีทำให้ค่ำคืนนี้เต็มไปด้วยความเร่าร้อนที่แทรกซึมอยู่ในทุก