“ลูกพี่นะ ปริม ทำไมปริมต้องไป?” ปรเมษฐ์แย้งขึ้นมาด้วยสีหน้าสงสัย มือเปรอะเปื้อนยังคงกำดินสอ หลุบตามองสองมือเรียวที่กอบกุมกันอยู่ ด้วยความรู้สึกเจ็บจุกประหลาด เขามัวแต่ยุ่งอยู่กับงานจนไม่ได้ทำหน้าที่พ่อเลย
“ก็เห็นว่ายุ่งนี่คะ... ปริมว่าง ปริมอยากดูแลคนท้องคนไส้ แม่พุดกับลูกสำคัญที่สุดกับปริมอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วงนะคะ ปริมจะดูแลคุณแม่พุทราอย่างดี”
คำพูดของนัชชาเหมือนยิ่งตอกย้ำ ว่าที่คุณพ่อมือใหม่ไม่รู้ว่าภรรยาฝากท้องที่โรงพยาบาลไหนด้วยซ้ำ พอเลื่อนสายตามองไปยังอีกคนที่มีสีหน้าเรียบเฉย เขารู้ว่าเธอกำลังไม่พอใจ
“เราสองคนน่ะ มีเรื่องอะไรปิดบังพี่อีกหรือเปล่า? อย่ามาประชดพี่นะ ที่พี่ทำงานงก ๆ นี่ก็ตั้งใจจะหาเงินให้ลูก”
“ปริมไม่เคยมีเรื่องปิดบังอะไรใครอยู่แล้ว หมอบอกว่าวันนี้ควรจะไป หมอย้ำว่าสำคัญมาก! ใช่ไหมพุด?” ปลายเสียงบอกคนข้างกายที่ขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะคลายปมตรงหัวคิ้วแล้วเออออตาม
“นั่นสิ... ถ้าแกไม่เตือนฉันคงลืมไปแล้วแน่ ๆ ขอบใจนะเพื่อน อุตส่าห์ดูตารางคนท้องให้ด้วย น่ารักที่สุดเนี่ย ยัยปริม” ว่าแล้วก็บีบแก้มขาวนวลเล่น เหมือนที่หยอกกันอยู่บ่อย ๆ นัชชายิ้มหวานกว้างเต็มวงหน้า ทว่าพอโดนหยิกแก้มเสร็จตวัดหางตามองไปทางสถาปนิกหนุ่ม
“ขอโทษที่แย่งหน้าที่พ่อเลี้ยงนะคะ ปริมแค่หวังดี เห็นอยู่ว่ากำลังยุ่ง ๆ กับเพื่อนร่วมงาน ให้เป็นหน้าที่ของคนว่างงานอย่างปริมแล้วกันค่ะ ตอนนี้ปริมว่างมาก พ่อกับแม่โกรธปริมเพราะปริมทำแบบนี้ในห้องประชุม...” คนพูดก้าวขาไปใกล้ ๆ ร่างบางในชุดทำงานดูดีมีภูมิฐาน เปล่งเสียงดังสุดเสียง “กรี๊ด!”
ต่างคนปิดยกมือขึ้นปิดหูแม้กระทั่งคนกรี๊ดเอง เว้นแค่ปรายลดาที่ยืนหัวเราะเพื่อน เห็นอยู่ว่านัชชาจงใจตะเบ็งเสียงคอแทบแตกใส่หน้าปิ่นแก้ว ก่อนที่เจ้าตัวจะทำหน้าเฉยเมยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“โดนตัดออกจากกองมรดกแล้วค่ะ ปริมแค่แวะมาบอก โตแล้วเนอะจะไปไหนก็ได้นี่ ไปกันดีกว่า พุด...”
“พุด... รอไปพร้อมพี่” ชายหนุ่มแทรกขึ้นมาแล้วเดินไปคว้ามือเรียวไว ๆ แต่ก็ถูกสะบัดออกด้วยสีหน้าดื้อรั้นซึ่งเลือนหายไปในอีกครู่ เป็นรอยยิ้มใส ๆ
“พุดไปกับปริมดีกว่าค่ะ พุดรีบ เดี๋ยวไปไม่ทัน วันนี้อาจารย์หมอมาด้วย พุดมีคำถามตั้งเยอะแยะ พี่ทำงานไปก่อนเถอะ เรื่องลูกเมื่อไรก็ได้” พูดแล้วก็คว้ามือเพื่อนสาว รีบเดินหนีเจ้าของบ้านไป ปรายลดาโมโหอย่างไรยังสำรวมกิริยา ถึงเธออยากจะกรี๊ดใส่หน้าใครสักคนให้ได้อย่างนัชชาสักแค่ไหน
ทางด้านเลขานุการหนุ่มตื่นแต่เช้ามาเคลียร์งานให้เจ้านาย ยังต้องทำหน้าที่ล้างจานแทนแม่บ้าน เพราะมีคนจงใจแกล้งทำรกเลอะเทอะเอาไว้ กองใหญ่เท่าภูเขา
อาหารบำรุงคนท้องมีพนักงานมาส่งของทั้งวัน เขายังต้องคอยไปเปิดประตูรับตั้งแต่ผลไม้ เชอร์รี สตรอว์เบอร์รี ที่คนสั่งเหมือนจะสั่งมาเรื่อย ๆ ทีละเล็กทีละน้อยให้เขาต้องเดินไปบ่อย ๆ ได้อาหารอะไรมาก็ใส่จานเป็นหย่อมแล้วเปลี่ยนจานใหม่ มันจงใจแกล้งกันชัด ๆ!
“ยัยเด็กบ้า! คอยดูเถอะ...”
First Kiss บ้าบอคอแตกอะไร!? ท่าทางแก่แดดอย่างยัยเด็กแรดนี่ น่าจะผ่านมือผู้ชายมาโชกโชนด้วยซ้ำ
บางครั้งเขาได้ยินสองสาวคุยกัน ขนาดปรายลดาที่ผ่านเรื่องอย่างว่ากับสามีมายังมีจริต มียางอาย หากจะต้องพูดเรื่องบนเตียงกับใครต่างจากนัชชา เธอจะแค่หัวเราะแล้วพูดว่า ‘เล่าให้ฟังบ้างดิ’
อลันเป็นคนสุขุมมีสติอยู่เสมอด้วยนิสัยของเขาเองเว้นคราวนี้
ใบหน้าหล่อเหลาบูดบึ้งเพราะอารมณ์โกรธเกรี้ยวอยู่ในห้องครัวตามลำพัง ก่อนที่เสียงประตูบานเลื่อนอัตโนมัติจะดังเตือนว่ามีใครสักคนกำลังจะออกจากบ้าน มันทำให้เขาต้องสะบัดน้ำยาล้างจานจากมือ รีบล้างด้วยน้ำสะอาดไว ๆ วิ่งพรวดพราดออกไป
“นี่! รอก่อน จะไปไหนกันน่ะ?” ตะคอกตามหลังไปติด ๆ สองสาวที่จับจูงมือกันเตรียมออกจากบ้านรับรู้ได้ว่าบางคนคงไม่ปล่อยให้ไปกันตามลำพัง ยิ่งเป็นคนปากไวอย่างนัชชา เสียงแหลมเล็กต่อว่า
“จะไปไหนมันก็เรื่องของฉันกับเพื่อนไหม? นี่คุณ... พุทราไม่ใช่นักโทษ จะมากักตัวอะไรกันตลอดเวลา ผัวก็ไม่ใช่ ผัวเขายังไม่ว่าเลย มันเป็นสิทธิส่วนบุคคลขั้นพื้นฐานนะคะ หัดมีมารยาทบ้าง”
คนถูกด่าทอด้วยท่าทางประชดประชันชุดใหญ่ไฟกะพริบ! กัดฟันกรอด ๆ มองผู้หญิงตัวเล็กที่ปากดีเหลือเกิน ครั้นพอจะอ้าปากเถียง...
“m-a-n-n-e-r แปลว่า มา-ระ-ยาด นะคะคุณฝรั่ง อยู่เมืองไทยมาก็นาน ฟังภาษาไทยเข้าใจไหม? คำว่ามารยาทน่ะ” เสียงหวานสะกดทีละคำทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย ขนาดรอเรือยังออกเสียงควบกล้ำชัดเจน
ฝรั่งที่อยู่เมืองไทยมาสิบปี! แม่ของเขาก็เป็นคนไทยถึงเขาจะถือสัญชาติอเมริกัน ไม่ต่างจากโดนตอกหน้ายับเยิน ชายหนุ่มได้แต่ยืนโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยง กระทั่งหญิงสาวอีกคนวิ่งตามมา
“พี่ซื้อขนม น้ำมาฝากเรากับพ่อเลี้ยง มากินกับพี่ก่อนสิ พุทรา กินก่อนค่อยไป เดี๋ยวพี่จะกลับแล้วนะ” บนวงหน้าสดสวยของสาววัยสี่สิบที่ดูไม่แก่กว่าวัยฉาบด้วยรอยยิ้มที่คงไม่ต่างจากยาพิษ นัชชาเลิกคิ้วขึ้นด้วยสีหน้าสงสัย ปรายลดาชะงักครู่มองหน้ากันครั้งหนึ่ง แล้วก็ถูกเร่งเร้า
“ไปเร็ว... ไปกินขนมกับพี่นะ”
“ค่ะ พี่ปิ่น กินก่อนก็ได้ค่อยไป แก..” มือที่ยังจับกันไว้กระตุกเบา ๆ อีกคนก็กระตุกยิ้มมุมปาก ด้วยความคิดตรงกันว่าหากเข้าบ้านไปตอนนี้ ปรเมษฐ์คงเลิกรากับการทำงาน แล้วมาพาคนท้องไปโรงพยาบาลแทน
เป็นเรื่องปรกติของผู้ใหญ่ในบ้านหลังนี้ แต่ละคนชอบที่จะซื้ออาหารมารับประทานร่วมกัน แม้แต่ปิ่นแก้วเองกับคนบ้านนู้นก็มากันอยู่บ่อย ๆ มีพักหลังมานี้ที่สถานะของเจ้าตัวเปลี่ยนไป
ปรเมษฐ์แสดงท่าทีห่างเหินยังขีดเส้นชัดเจนว่าต้องการเป็นแค่คนรู้จัก ไม่มีแม้กระทั่งคำว่าเพื่อนหลงเหลือ ด้วยความที่เขาไม่อยากให้ภรรยาไม่สบายใจ ยิ่งในเดือนหน้านี้กำลังจะแต่งงาน เริ่มแจกการ์ดเชิญไปบ้างแล้ว
อลันไม่ได้กลับไปทำงานกับเจ้านายเก่าอย่างปรเมษฐ์ เมื่อคุณนายนิตยาไม่ยอม หล่อนรั้งเขาไว้ด้วยคำว่าจะไม่ยกลูกสาวให้คำเดียว เขาจึงต้องลาออกเป็นการถาวรแต่ส่งน้องชายคือเจมส์ไปฝึกงานเลขาฯ แทนชีวิตแต่งงานเรียบง่ายที่มีความสุขในทุก ๆ วัน จะมีทะเลาะกันบ้างเพราะความเอาแต่ใจประสาเด็กสาว หรือเรื่องความขี้หึงของอลันมาถึงจุดหมายปลายทางในช่วงบ่าย ผ่านด่านตรวจคนเข้ามาเมืองมาอย่างง่ายดาย คนเป็นสามีก็ทำหน้าที่ผู้นำครอบครัว เรียกรถแท็กซี่ บอกทางที่จะไปด้วยภาษาท้องถิ่น ช่วยคนขับรถเก็บกระเป๋าใบใหญ่ไว้ข้างหลัง“พี่พูดได้กี่ภาษาอ่ะ? ทำไมปริมไม่เคยถามพี่เลยนะ” เสียงหวานบ่นถามทั้งตัวเองและคนที่ปิดประตูนั่งตามในที่นั่งข้างหลัง“ภาษาไทย... โปรตุเกส สเปน ฝรั่งเศส ภาษาอังกฤษครับที่รัก...”ความสนิทสนมกันเกินไป มีบางอย่างที่ไม่รู้... หญิงสาวชะงักนิ่งไปหลังนับนิ้วจนครบว่าไม่ผิดแน่“ตั้งห้า... ภาษา แล้วปริมเคยว่า...” เธอหน้าตาตะลึงมองเขาที่แค่ยิ้มกับคำดูถูกคราแรกพบหน้ากัน แน่ว่าอลันจำมันได้แม่น!‘เลขาฯ แม่ฉัน คุณแบร์นาร์ด หนุ่มฝรั่งเศสพูดได้ตั้งสี่ภาษา...’“ตอนสักอายุสิบห้า พ่อแม่พี่ไม่ค่อยว่าง พี่กลับมาอยู่บราซิลกับ
“ไม่มีอะไรแล้ว ไม่ต้องร้อง...”สองหนุ่มสาวกอดกันตัวกลม สองหนุ่มบอร์ดี้การ์ดมองหน้ากันก็ตรงไปสะสางเรื่องให้เรียบร้อย เจ้าของห้องที่ใบหน้าลำคอเต็มไปด้วยรอยข่วนไม่ได้หนีหรือมีท่าทีหวาดกลัวอานนท์เป็นคนส่งการ์ดกุญแจห้องให้เธอเดินออกไปเฉย ๆ และแค่มองหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมกอดชายอื่นด้วยแววตาเศร้าหมองจนเธอจากไป-------------------------------เรื่องวุ่นวายทั้งหมดถึงหูคุณนายที่มารออยู่ข้างล่างเพนเฮ้าส์ของนายอานนท์พร้อมกับแบร์นาร์ดนิตยาเพิ่งรู้ว่าลูกสาวมีปัญหากับปิ่นแก้ว ทะเลาะเบาะแว้งกันเป็นเรื่องใหญ่โตจนเกิดการทำร้ายร่างกาย คุณแม่ที่กำลังเกรี้ยวโกรธจึงส่งทนาย โทรบอกพวกพ้องให้จัดการกับคนผิดอย่างถึงที่สุดนัชชาไม่ใช่เด็กที่จะร้องไห้เพราะความกลัว แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจเพราะถูกเลี้ยงดูมาเช่นนั้นวันนี้เธอแค่ทำตัวเป็นเด็กเล็ก ๆ ตั้งแต่อ้อนกอดผู้ชายตัวโต ให้เขาต้องอุ้มขึ้นรถในที่นั่งข้างหลัง ในสายตาของหลายคนรวมถึงพ่อแม่คงไม่ขัดหรือห้ามปราม เพราะคงจะห้ามกันไม่ได้กับการที่คุณหนูของบ้าน โตเป็นสาว ได้ตกหลุมผู้ชายสักคนหัวปักหัวปำเมอร์เซเดสเบนซ์สีดำแล่นฉลิวในความเงียบ มีโอกาสได้นั่งกันตามลำพังข้า
ก็คงจะเดาได้ไม่ยากว่าตัวต้นเหตุยังวนเวียนอยู่แถวนี้ หลังจากที่เขาขับรถมาสมทบกับเจมส์ ยังมีบอร์ดี้การ์ดนอกเครื่องแบบอีกสองคน ตามคำสั่งของคุณนายว่าให้เฝ้าลูกสาวไว้ “พวกสวะน่ะพอได้ ตำรวจต้องการตัวอยู่แล้ว ซัดทอดความผิดไปว่าเก็บกันเอง ขัดผลประโยชน์ แต่คุณนักธุรกิจคนดังคนนั้น ใจเย็น ๆ หน่อย” “อย่างมากก็กลับไปอยู่บราซิล...” พูดจบก็เหน็บอาวุธไว้ด้านหลัง ก่อนลงจากรถยนต์อย่างไม่รอช้า แน่นอนว่าเขาจะใช้มันในยามจำเป็นจริง ๆ เท่านั้น ถุงมือถักทอด้วยเส้นใยโพลีเอสเทอร์บางละเอียด ใช้กับงานที่ป้องกันคราบเหงื่อและรอยนิ้วมือจะทำให้เขาไม่ทิ้งรอยนิ้วมือเอาไว้ถูกสวมทีละข้าง ใบหน้าหล่อเหลานิ่งเฉย ลอบมองซ้ายขวามือกระตุกหมวกแก้ปให้ปกใบหน้าลงมาเล็กน้อย เปลวไฟในดวงตาคู่คมสีฟ้าครามลุกโชน จับจ้องอยู่กับรถยนต์สีดำอีกสองคันถัดไป คนขับนั้นเป็นพี่น้องห่าง ๆ หน้าตา ความสูง และรูปร่างเป็นล่ำสันใกล้เคียงกันกับเขา สองคนข้างหลังที่เพิ่งจะขึ้นรถไปต่างหากคือเป้าหมาย... ------------------------------- สิ่งที่นัชชาไม่ต้องการมากที่สุด คือความเจ
“พี่ให้โอกาสน้องขอโทษน้องสาวพี่แล้วนะคะน้องปริม แต่น้องยังทำปากดี ช่วยไม่ได้”แทนที่นัชชาจะกลัว กลับแค่นหัวเราะ “ฮึ! แกคิดดีแล้วเหรอ? ที่มายุ่งฉันน่ะ”“ไม่ได้ยุ่ง แค่มาเป็นกามเทพ... กับเป็นเพื่อนเจ้าสาว พี่คงต้องขอแสดงความยินดีล่วงหน้า” เสียงหัวเราะดัง ยกมือขึ้นป้องปากด้วยท่าทางเสแสร้ง ความคับแค้นใจสะท้อนขึ้นในแววตากร้าวของนัชชา หยัดกายลุกขึ้นนั่งในท่าเตรียมพร้อมปะทะ!“ฉันว่าแกควรไปพบจิตแพทย์นะนังปิ่น ไม่ก็หัดเข้าวัดเข้าวาซะบ้าง ผู้ชายเขาไม่เอาทำพาลไปทั่ว รับรองได้ว่าแม่ฉันเอาเรื่องแกแน่ ๆ” เสียงขู่ฟ่อหลุดรอดจากไรฟัน หญิงสาวอีกคนก็ขยับก้าวช้า ๆ มาหยุดลงข้างเตียงอย่างท้าทาย“แม่น้องไม่เอาเรื่องพี่หรอก... ดีเสียอีก... พี่มาช่วยให้เรื่องมัน Happy ending พี่ไม่ได้มาฆ่าใคร ไม่ได้ทำร้ายอะไรเราเลยนะ” ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงของปิ่นแก้วแม้กระการแต่งตัวสบาย ๆ เสื้อยืดกางเกงยีน ทุกอย่างเหมือนเป็นเรื่องของคนกันเองตามปากว่าเป็นความสะใจล้วน ๆ ในเมื่อหล่อนอุตส่าห์อยู่เงียบ ๆ แลัวนังเด็กปากดี! ยังไปเอาเรื่องปานทิพย์ที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลยความคิดแค้นของปิ่นแก้วไม่น้อยไปกว่านัชชา ดวงตาคู่สวยคมฟาด
เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาในเชิ้ตสีดำสนิทนั่งตัวเกร็ง มือกุมพวงมาลัยแน่น เครื่องปรับอากาศอุณหภูมิปรกติในรถให้ความรู้สึกเย็นยะเยียบ เขาจึงต้องกดปลายเท้าเหยียบลงอีก เพื่อให้ถึงจุดหมายเร็วขึ้น“ขับช้า ๆ หน่อยสิคุณอลัน จะรีบไปไหนกัน บ้านฉันก็อยู่แค่นี้” ใบหน้าสดสวยของสาววัยสี่สิบห้าละจากแท็บเล็ตในมือ สารถีประจำตัวก็ลดความเร็วลงเล็กน้อย โดยที่ยังไม่ลืมเรื่องสำคัญหลายวันมานี้เขาเหนื่อยหน่ายกับการพูดเรื่องเดิม ๆ คือมาขอลูกสาว เมื่อคุณนายนิตยาทำเป็นไม่สนใจยังให้เหตุผลว่าลูกสาวของหล่อนเด็กเกินจะมีครอบครัว“ลูกปริม... มีเงินใช้หรือเปล่า?”“ปริมหาเงินใช้เอง แต่ถ้าวันไหนไม่มีหรือไม่พอ ผมไม่เคยปล่อยให้เมียลำบาก ผมโอนไวครับ”เมีย ย้ำชัดหนักแน่น คนข้างหลังปิดตาลงเพื่อสะกดกลั้นความโกรธ ก่อนจะเหน็บแนมด้วยถ้อยคำร้ายกาจ“ทรัพย์สมบัติพ่อ ทำไมไม่เอาไปลงทุน จะรอแต่งงานกับผู้หญิงไทยเอากรีนการ์ดค่อยกว้านซื้อที่ดินหรือว่ายังไง?”“ผมจะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร? ผมไม่ได้อยากได้สัญชาติไทย เลิกให้คนไปสืบเรื่องของผมนะครับคุณนาย ที่ดินที่ผมไปดูมาคือเรือนหอของผมกับปริม ผมจะให้เธอเลือกเองว่าอยากได้บ้านแบบไหน”“แบร์นาร์ดบอกฉัน
ความสัมพันธ์อันดีของเขาจบลงที่การปล่อยมือจากสาวร้อนแรงอย่างปิ่นแก้ว ไม่ว่าเป็นใครก็คงจะต้องเสียดายอยู่ อานนท์คิดว่าอดเปรี้ยวไว้กินหวานดีกว่า“รอบนี้แกรับเสื้อมาจากจีนกี่กระสอบอ่ะ? ฉันต้องหุ้นกับแกเท่าไร” พูดไปพร้อม ๆ กับที่จดขยุกขยิกลงในโทรศัพท์ขนาดพอดีมือ สีหน้าจริงจังของนัชชาคงเฉพาะเวลาเรียน และธุรกิจเล็ก ๆ ของเธอกับเพื่อนสาวปรายลดาเป็นคนริเริ่มร้านขายเสื้อผ้าแฟชั่นในคราวแรก สุดท้ายก็ทำคนเดียวไม่ไหว โดยเฉพาะตอนนี้ที่ท้องโตมากจนเห็นได้ชัดว่ามีบางอย่างเคลื่อนไหวไปมา คราวเด็กน้อยในท้องถีบแขนถีบขา อีกไม่ถึงสองเดือนคลอดลูกแล้วคงจะได้ยุ่งวุ่นวายมากกว่านี้“ชุดนอนแขนสั้น กางเกงผ้าฝ้าย แจ็คเก็ตยีน อย่างละสามกระสอบ พวกงานลิขสิทธิ์เก็บไว้ก่อน ล่อซื้อเยอะไม่อยากเสี่ยง ทั้งหมดเท่าไรแกคิดเลย”กองเสื้อผ้าตรงหน้ามีที่ขายไม่ออก ตัวไหนขายดีปรายลดาก็จะสั่งมาอีกเป็นล็อต ๆในห้องพักแบ่งแยกเป็นสัดส่วน ห้องสตูดิโอของคอนโดมิเนียมกลายเป็นที่เก็บเสื้อผ้านับพันตัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต่างคนมีความเห็นตรงกันว่าไม่ควรไปเสียเงินเช่าห้องเก็บเสื้อผ้าย่านประตูน้ำ ด้วยค่าเช่าหลักครึ่งแสนต่อเดือนในเมื่อห้องนี้ก็ไม