ติ้ด! ติ้ด!
เสียงนาฬิกาปลุกส่งเสียงดังขึ้นเมื่อถึงเวลาที่ตั้งไว้ปลุกให้ร่างบางที่นอนหลับอยู่บนเตียงรู้สึกตัวขึ้นมาในช่วงเช้าของอีกวัน เธอมือเล็กยกขึ้นขยี้ตาเบา ๆ ขณะที่เปลือกตาบางยังคงปิดอยู่ ก่อนจะค่อยปรือตาขึ้นช้า ๆ แล้วปรับสายตาให้คุ้นชินกับการเพิ่งตื่นนอน ท่ามกลางแสงแดดยามเช้าที่สาดส่องผ่านผ้าม่านเข้ามา
"ปวดหัวจัง" เธอลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงพลางใช้มือนวดขมับเบา ๆ เพื่อคลายอาการมึน ๆ ลง เมื่อคืนกว่าเธอจะข่มตาให้หลับลงได้ก็ปาเข้าไปตีสองแล้วเพราะมัวคิดมากเรื่องเงินสิบล้าน ตื่นมาเช้านี้เลยทำให้รู้สึกปวดหัวนิดหน่อย
เธอนั่งนวดขมับวนอยู่อย่างนั้นจนรู้สึกดีขึ้นก็พาตัวเองลงจากเตียงเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่ออาบน้ำแต่งตัวไปทำงาน
กริ่ง! กริ่ง!
ขณะที่เสี่ยวหมี่กำลังนั่งแต่งหน้าอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้งกริ่งหน้าห้องก็แผดเสียงดังขึ้น คิ้วสวยขมวดชนกันด้วยความแปลกใจว่าเป็นใครกันที่มาแต่เช้า เธอวางบลัชออนในมือลงแล้วเดินไปเปิดประตู
ทันทีที่ประตูเปิดออกเธอก็ต้องเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นว่าคนที่มาเยือน “คุณ”
"ใช่ผมเอง...เจ้าหนี้ของคุณ!" มาเฟียหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปากใส่คนที่ยืนหน้าเหวออยู่ ก่อนจะเลือนสายตาสำรวจเรือนร่างบางที่อยู่ในชุดคลุมอาบน้ำอย่างถือวิสาสะ
“กรี๊ด! ไอ้โรคจิต” คนถูกจ้องก้มมองตามสายตาคนตรงหน้าด้วยความสงสัย ก่อนเธอจะกรีดออกมาด้วยความไม่พอใจพลางใช้มือรวบชุดคลุมที่ผ่ากลางขึ้นมาจนแทบเห็นของสงวนไว้แน่น ให้ตายเถอะน่าขายหน้าชะมัดไม่รู้ว่าเขาเห็นอะไรไปบ้างหรือยัง
แต่พอคิดอีกทีเขาต่างหากที่ไม่มีมารยาทมารบกวนเธอตั้งแต่เช้า หนำซ้ำยังใช้สายตาแทะโลมเธอเหมือนคนโรคจิตอีก
“คุณมาทำไม แล้วรู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ที่นี่” เธอจ้องหน้าเขานิ่ง ๆ นานนับนาที ก่อนเริ่มถามสิ่งที่สงสัยแทนเพราะไม่อยากอยู่ใกล้คนทุเรศอย่างเขานาน อีกคนไม่ตอบแต่กลับแทรกตัวเขาไปในห้องของเธออย่างถือวิสาสะ
"คุณออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้นะ นิสัยไม่ดีเข้าห้องคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต" เสี่ยวหมี่รีบวิ่งไปขว้างหน้าไว้ไม่ให้เขาเดินเข้าไป
มาเฟียหนุ่มไม่คิดจะหยุดยังเดินต่อไม่สนใจว่าจะชนคนที่ยืนขว้างหน้าหรือ ไม่จนเธอต้องเป็นฝ่ายหลบเอง จากนั้นก็เดินไปนั่งบนโซฟาหน้าตาเฉย
"พูดไม่รู้เรื่องรึไง บอกให้ออกไปจากห้องฉัน!" เสี่ยวหมี่เองก็ยังไม่ลดละจะไล่เขาออกไปให้ได้ เดินไปดึงมือคนที่นั่งหน้าระรื่นสุดแรงหวังลากเขาออกไปให้พ้นห้อง แต่แรงอันน้อยนิดของเธอไม่ได้ทำให้อีกคนขยับเขยื้อนเลยสักนิด
" คุณมีธุระอะไรถึงมาหาฉันถึงที่นี่" เมื่อไม่สามารถทำให้มาเฟียหนุ่มออกจากห้องได้เธอจึงนั่งลงบนโซฟาฝั่งตรงข้าม ยอมคุยกับเขาดี ๆ เสร็จธุระแล้วเขาคงกลับไปเอง
"ไม่มีอะไร ก็แค่มาหาลูกหนี้" เสียงทุ่มต่ำเอ่ยบอกคนตรงหน้าด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง
"ก็คุณบอกเองไม่ใช่เหรอว่าให้เวลา 3วัน"
"ก็ใช่"
"ถ้าจะมากวนประสาทฉันก็เชิญกลับไป ฉันไม่มีเวลาว่างมาเล่นลิ้นกับคุณหรอกนะ"
"ผมยังไม่ได้ให้คุณเล่นลิ้นเลยนะ หรือคุณอยากเล่นผมให้เล่นก็ได้ แต่ต้องเล่นด้วยปากคุณ" มาเฟียหนุ่มเอ่ยอย่างไม่อายใบหน้าเคลือบด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ แววตาทอประกายสื่อออกมาอย่างชัดเจนกับสิ่งที่พูดทำเอาเสี่ยวหมี่ถึงกับปรีดแตกก่นด่าออกไปด้วยความโมโหสุดขีด
"อะ...ไอ้ ๆ ไอ้ทุเรศ ไอ้บ้า ไอ้ลามก!"
"หึหึ" คนถูกด่าไม่ได้รู้สึกรู้สาสักนิดยังมีหน้าหัวเราะออกมาอีก เขาชอบเหลือเกินเวลาได้เห็นหญิงสาวหัวเสีย นั่นยิ่งเหมือนเป็นเชื้อเพลิงกระตุ้นอารมณ์อีกคนได้เป็นอย่างดี
"หัวเราะทำไมฉันด่าคุณอยู่นะ!" เสียงแหลมแหวใส่มาเฟียหนุ่มดังลั่น ดวงตากลมจับจ้องใบหน้าหล่อเหลาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ แต่คนถูกจ้องกลับไม่กลัวสักนิด และไม่คิดจะตอบคำถามเธอด้วย
"ฉันพูดกับคุณอยู่นะ หูหนวกหรือไง" เสียงแหลมแหวใส่มาเฟียหนุ่มดังกว่าเดิมบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าต้องนี้อารมณ์ของเธออยู่เลเวลไหน เขาต้องการจะยั่วประสาทเธอ ๆ และมันก็ได้ผลเพราะตอนนี้เธอโกรธคนที่นั่งตรงหน้าเป็นฟืนเป็นไฟ
"…”
"ได้ จะเอาแบบนี้ใช่ไหม" เมื่ออีกคนไม่ยอมตอบเธอจึงลุกเดินหายเข้าไปในครัว ก่อนจะเดินกลับมาพร้อมกับกะละมังที่มีน้ำใส่อยู่ด้าน
"เฮ้ย ๆ! คุณจะทำอะไร" มาเฟียหนุ่มรีบลุกขึ้นยืนอัตโนมัติเมื่อพอจะเดาได้ว่าหญิงสาวคิดจะทำอะไร ก่อนจะถอยหลังหนี แต่เหมือนจะไม่ทันเสียแล้ว
"สาดน้ำไล่หมาไง" เสี่ยวหมี่ยกยิ้มร้ายออกมาอย่างสะใจ ว่าจบก็สาดน้ำเข้าใส่ร่างสูงเต็ม ๆ จนอีกคนตัวเปียกถึงแม้จะพยายามหลบแล้วก็ตาม
“แม่งเอ้ย!” มาเฟียหนุ่มสบถออกมาอย่างหัวเสียพลางใช้มือปัดน้ำที่เกาะตามตัว และเสื้อผ้าออก ก่อนจะเงยมองหน้าเจ้าของการกระทำด้วยแววตาวาวโรจน์พร้อมกับก้าวเข้าหาเธอหมายจะเอาเรื่อง
“อยากโดนอีกก็เข้ามาแต่ครั้งนี้ไม่ใช่น้ำนะ แต่เป็นกะละมัง” เสี่ยวหมีพูดขู่ไปพลางยกกะละมังใบโตทำท่าปาใส่ร่างสูงที่เดินตรงเข้ามาทำให้อีกคนชะงัก
"ระวังไว้เถอะเพราะหมาบางตัวมันกัดไม่ปล่อย แถมกัดเจ็บด้วยนะ" มาเฟียหนุ่มหนุ่มพูดทิ้งท้ายเอาไว้ก่อนจะเดินออกจากห้องไปด้วยอารมณ์ฉุนเฉี่ยว วันนี้เขาพลาดท่าเธอแต่มีโอกาสเมื่อไรเขาเอาคืนแน่ ๆ ผู้หญิงอะไรแสบชะมัด
"เฮ้อ" เสี่ยวหมี่ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อมาเฟียหนุ่มห้องจากไปแล้ว เธอรีบลงกอนอย่างแน่นหนา ก่อนจะรีบแต่งตัวต่อเพราะเธอเสียเวลากับเขาไปมากแล้วกลัวว่าจะเข้างานสายทำให้ถูกหักเงินเดือนอีก
@ประเทศไทย"พร้อมรึยังครับ" เสียงทุ้มดังขึ้นทำให้เสี่ยวหมี่ที่กำลังนั่งมองตัวเองหน้ากระจกบานใหญ่ระบายยิ้มออกมา ก่อนจะลุกเดินไปหาเจ้าของเสียงที่กำลังเดินเข้ามา "พร้อมแล้วค่ะ""ภูมิใจจังมีเมียสวย โดยเฉพาะวันนี้สวยเป็นพิเศษเลย" มาเฟียหนุ่มไล่สายตามองเมียสาวในชุดเดรสยาวสีขาวประดับประดาด้วยเพชรระยิบระยับอย่างชื่นชม มือหนาเอื้อมไปรั้งเอวคอดเข้ามาแนบชิด แล้วกดจูบบนหน้าผากมนเบา ๆ "พี่ก็หล่อเหมือนกันค่ะ" เสี่ยวหมี่สอดมือเข้าไปกอดเอวหนาหลวม ๆ แหงนหน้าขึ้นมองสามีผู้เป็นที่รักด้วยแววตาสื่อความหมายทั้งสองมองสบตากันนานนับนาที ก่อนมาเฟียหนุ่มจะคลายวงแขนออกจากเอวคอดเปลี่ยนเป็นจับมือเล็กแทน "ลงไปข้างล่างกันเถอะครับ แขกเริ่มทยอยมาแล้ว" ว่าจบเขาก็จูงเมียสาวเดินออกจากห้องพักลงไปยังริมชายหาดซึ่งเป็นสถานที่จัดงานเลี้ยง"ว้าว! สวยจังเลยค่ะ" เสี่ยวหมี่ถึงกับตาลุกวาวด้วยความตื่นเต้นรอบบริเวณงานเลี้ยงถูกจัดด้วยดอกไม้นานาพันสวยงามมากเหมือนอยู่ในสวนดอกไม้ท่ามกลางบรรยากาศตะวันใกล้ลับขอบฟ้าโต๊ะสำหรับแขกวางเรียงรายตามแนวชายหาด และมีซุ้มที่ถูกจัดอย่างหรูหรามีตัวอักษรประดับเป็นคำว่า "เดย์ & เสี่ยวหมี่"งานเลี้ยง
หลายวันต่อมา..ครืด! ครืด!โทรศัพท์เครื่องหรูแผดเสียงดังอย่างต่อเนื่องปลุกให้ร่างบางที่นอนหลับอยู่บนเตียงค่อย ๆ รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา เธอยกมือขยี้เปลือกตาเบา ๆ ไล่อาการงัวเงีย ก่อนเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์บนหัวเตียงมากดรับสายแล้วกรอกน้ำเสียงงัวเงียถามปลายสายทันที "ว่าไงคะพี่เดย์โทรมาปลุกหมี่แต่เช้าเชียว"(พี่มีธุระสำคัญวันนี้ไม่ได้เข้าบริษัทที่รักช่วยดูเอกสารแทนพี่หน่อยนะครับ)"ธุระอะไรคะ"(วันนี้คุณสาธิตลูกค้ารายใหญ่ของบริษัทจะบินมาคุยงานกับพี่ที่จีน พี่เลยต้องไปรับและคอยดูแลเขาครับ)"ได้ค่ะอย่าให้รู้นะว่าออกนอกลู่นอกทาง"(เมียดุขนาดนี้ใครจะกล้าละครับ)"ให้มันจริงเถอะ"(ค่าบบ พี่รักหมี่นะ)"หมี่ก็รักพี่ค่ะ บ๊ายบาย" นิ้วเรียวกดวางสายทันทีเมื่อบอกลาปลายสายจบ ก่อนหยัดกายลุกขึ้นนั่งบิดขี้เกียจไปมาแล้วจึงก้าวลงจากเตียงไปอาบน้ำแต่งตัวเดินทางไปทำงานเหมือนทุกวันที่ผ่านมา@บริษัทนำเข้ารถหรูคาร์ลอฟท์"ทำไมวันนี้ทุกคนมองฉันแปลก ๆ" เสี่ยวหมี่พึมพำด้วยความสงสัยพลางมองสำรวจตัวเองตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าเมื่อพนักงานในบริษัทต่างพากันอมยิ้มเมื่อเธอเดินผ่าน แต่ก็ไม่พบอะไรที่แปลกไปเพราะเธอก็แต่งตัวด้วยชุดเดรสเร
"ปล่อยนะฉันจะไปทำงานต่อ" เสี่ยวหมี่ร้องท้วงด้วยความเคอะเขินเมื่อเห็นสายตาทอประกายหยาดเยิ้มที่แฟนหนุ่มใช้มองเธอพลางยกขึ้นดันอกแกร่งให้ออกห่าง"คุณเป็นถึงเมียเจ้าของบริษัทไม่ต้องทำก็ได้ แค่นั่งชี้นิ้วสั่งยังได้เลย""งั้นหมี่ขอสั่งให้คุณปล่อยหมี่เดี่ยวนี้" สิ้นเสียงแฟนหนุ่มเสี่ยวหมี่ก็ชี้นิ้วสั่งเขาทันที "ผมหมายถึงพนักงานในบริษทไม่ใช่ผม" มาเฟียหนุ่มถึงกับระบายยิ้มออกมากับความฉลาดของแฟนสาว แต่เขาหาได้ปล่อยตามคำสั่งไหมกลับอุ้มเธอเดินไปวางลงบนโต๊ะทำงานพร้อมใช้มือยันขอบโต๊ะกักเธอไว้ในวงแขน"คุณจะทำอะไรปล่อยเลยนะ" ร่างบางร้องท้วงด้วยน้ำเสียงงอน ๆ พร้อมยกมือขึ้นดันอกแกร่งให้ออกห่าง แต่แรงเพียงน้อยนิดของเธอไม่ทำให้ร่างสูงขยับเขยื้อนเลยสักนิด"บอกว่าอย่าไงเดี๋ยวคนอื่นเข้ามาเห็น" เธอร้องห้ามเสียงหลงในตอนที่ร่างสูงแทรกตัวยืนกลางหว่างขาทำให้กระโปรงที่สั้นเหนือเข่าร่อนขึ้นมาจนเห็นแพนตี้สีแดงสด ก่อนใบหน้าคมคายจะโน้มลงซุกไซ้ขบเม้มสูดดมกลิ่นหอมจากลำคอขาว มือหนาค่อย ๆ ลูบไล้ไปตามเรียวขาขาวเนียนทำเอาร่างบางถึงกับขนลุกชูชันรู้สึกม่วนท้องน้อยไปหมดเธอกลืนน้ำลายเหนียว ๆ ลงลำคออึกใหญ่พร้อมถอนหายใจหนัก ๆ ก่
@บริษัทนำเข้ารถหรูคาร์ลอฟท์"มอนิ่งครับที่รัก" เสียงของมาเฟียหนุ่มเอ่ยทักแฟนสาวหลังจากเปิดประตูเข้าห้องทำงานมาแล้วเห็นแฟนสาวนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานของตัวเอง "ก็บอกว่าอย่าเรียกแบบนี้ไงมันเลี่ยน หมี่ไม่ชอบ" คนถูกเรียกตวัดสายตามองค้อนแฟนหนุ่มอย่างไม่ชอบใจเพราะเธอพยายามบอกเขาครั้งเล่าครั้งเล่าว่าให้เรียกเหมือนเมื่อก่อน ถึงแม้ทั้งสองจะคบกันอย่างจริงจังมาเป็นเวลาเดือนกว่า ๆ แล้วก็ตาม แต่เธอก็ยังไม่ชินกับสรรพนามสุดเลี่ยนที่แฟนหนุ่มสรรหามาเรียกเธอไม่ซ้ำแต่ละวัน มาเฟียหนุ่มหาได้เก็บคำพูดของแฟนสาวมาใส่ใจไม่ การได้เย้าแหย่ให้เธองอนเป็นอะไรที่ทำให้เขามีความสุขจริง ๆ เขาระบายยิ้มบาง ๆ พร้อมเดินอ้อมไปสวมกอดแฟนสาวจากด้านหลัง แล้วโน้มลงกระซิบชิดกกหูเล็ก "งั้นเรียกเมียแทน"สิ้นสุดคำพูดเขาก็ฝังจมูกบนแก้มนิ่มของแฟนสาวฟอดใหญ่"ไปทำงานของตัวเองได้แล้ว เดี๋ยวคนอื่นเข้ามาเห็น" เจ้าของแก้มนิ่มเอ็ดแฟนหนุ่มเบา ๆ พร้อมยกมือขึ้นดันหน้าเขาออกห่าง "ขอกอดเมียแบบนี้สักแป๊บได้ไหม เติมพลังก่อนทำงาน" มาเฟียหนุ่มยังตีหน้ามึนเหมือนเดิมหาได้สนใจเสียงพูดแฟนสาวไม่ เกยคางลงบนไหล่มนพร้อมทำตาปริบ ๆ เว้าวอนคนในอ้อมกอดสุดฤทธิ์
"ออกไปคุยกันสะนานเลยมีอะไรกันหรือเปล่าลูก" ทันทีที่ทั้งสองคนเดินเข้ามานั่งลงบนโต๊ะอาหารเสี่ยวหลานก็เปล่งเสียงถามบุตรสาวด้วยความสงสัยมาเฟียหนุ่มกับหญิงสาวมองสบตากันนานนับนาที ก่อนมาเฟียหนุ่มจะเป็นคนเอ่ยขึ้น "ผมมีเรื่องจะบอกคุณป้า กับคุณลุงครับ"สิ้นเสียงมาเฟียหนุ่มประมุขของบ้านกับเสี่ยวหลานก็หันมองหน้ากันระคนสงสัย ก่อนประมุขของบ้านจะหันมองหน้าถามเขา "เรื่องอะไรล่ะ"คนถูกถามสูดลมหายใจเข้าปอดเรียกความกล้าให้ตัวเองพรืดใหญ่ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังแววตาทอประกาย "ผมรักลูกสาวคุณลุง คุณป้าครับ หากผมจะขอคบกับเสี่ยวหมี่คุณลุง คุณป้าคงไม่ว่าอะไรนะครับ""ในสุดก็พูดออกมาสักทีนะคุณเดย์" ประมุขของบ้านเอ่ยด้วยใบหน้ายิ้มแย้มไม่ต่างจากเสี่ยวหลานผู้เป็นภรรยาเลย ทั้งสองพอจะเดาออกนานแล้วว่าเด็กหนุ่มมีใจให้บุตรสาวตัวเอง ทว่ากลับไม่ยอมพูดออกมาสักที"คุณลุง คุณป้ารู้เหรอครับ" ดวงตาคมกริบมองหน้าพ่อแม่ของหญิงสาวอย่างงง ๆ"ป้ากับลุงอาบน้ำร้อนมาก่อนเรานะทำไมจะมองไม่ออก" เสี่ยวหลานเอ่ยด้วยใบเปื้อนยิ้ม ก่อนประมุขของบ้านจะเอ่ยต่อ "ลุงพอจะเดาออกตั้งแต่คุณมาเยี่ยมที่โรงพยาบาลแล้ว เสี่ยวหมี่ไม่เคยมีผู้ชายเข้ามาวนเว
เสี่ยวหมี่ลากมาเฟียหนุ่มมาหยุดใต้ต้นไม้ใหญ่ ก่อนปล่อยมือจากเขาแล้วหันไปมองหน้าเปล่งเสียงถามอย่างไม่เข้าใจ "คุณคิดจะทำอะไรถึงมาตีสนิทกับป๊าม๊าฉัน""ผมไม่ได้จะทำอะไรทั้งนั้นก็แค่ทำความคุ้นชินกับพ่อตาแม่ยาย เพราะในอนาคตผมก็จะมาเป็นลูกเขยท่านแล้ว" มาเฟียหนุ่มไหวไหล่อย่างไม่ใส่ใจมากนักพร้อมกับจ้องหน้าตอบหญิงสาวไปตามความจริงเขาไม่ได้มีแผนอะไรทั้งนั้นที่ทำไปเพราะอยากทำความรู้จัก ทำความสนิทสนมกับครอบครัวผู้หญิงที่เขารักและเลือกจะมาเป็นคู่ชีวิตก็แค่นั้น และเป็นการแสดงความจริงใจหากผู้ใหญ่เห็นชอบด้วยยังไงก็ดีกว่าอยู่แล้ว"ฮืม" คนฟังถึงกับหน้านิ่วคิ้วขมวดเมื่อได้ยินคำพูดทึกทักเอาเองของเขา ทว่าในใจกลับเต้นระรัวไม่เป็นจังหวะ ดวงตากลมเสสายมองไปทางอื่นพยายามตีสีหน้าให้เป็นปกติที่สุดเพราะไม่อยากให้เขารู้ว่าตอนนี้เธอกำลังเสียอาการ ก่อนจะตวัดสายตามองเขาอีกครั้งพร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงห้วน "ฉันบอกแล้วหรือไงว่าจะแต่งงานกับคุณ" มาเฟียหนุ่มหาได้สนใจไม่ว่าหญิงสาวจะพูดอะไรยังคงยิ้มระรื่นพร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปใกล้เธอ แล้วตีเนียนถามไปเพื่อจะได้ผล "แล้วตกลงแต่งไหม" "ไม่ต้องมาตีเนียนเลยนะฉันไม่หลงกลคุณหรอก"