กายสาวกระตุกเฮือกราวหวาดผวาเมื่อยอดดอกบัวงามสัมผัสถึงความร้อนชื้นในโพรงปากนุ่มที่เข้าครอบครองดื่มด่ำราวกำลังหิวกระหายหลังจากฝ่ามือร้อนระอุบรรจงสรรค์สร้างให้ก้อนเนื้อนุ่มกลายเป็นดอกบัวคู่งามชูชันแข่งกันอวดโฉมรอเหล่าภมรมาคลอเคล้า
เสียงหวีดร้องขัดขืนแปรเปลี่ยนเป็นครวญครางกระเส่าด้วยรู้สึกเร่าร้อนไปทั้งกายและใจยามทั้งมือและอุ้งปากที่เต็มไปด้วยธารน้ำอุ่นซ่านสลับสับกันคลึงเคล้าด้วยท่วงทำนองที่สอดประสานกันราวกำลังบรรจงสรรค์สร้างดอกบัวคู่งามให้เป็นงานศิลป์อันตระการตา
แรงขัดขืนค่อยๆ ลดน้อยถอยลงจนแทบมลายหายไปสิ้น ทั้งที่ใจอยากต่อต้านแต่กายกลับไหวสะท้านสั่นระริกไปกับสัมผัสแปลกใหม่จากชายแปลกหน้าชนิดที่หญิงสาวผู้รักนวลสงวนตัวอย่าง สุพิชญา นาฏดิลก ไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นในชีวิตนี้
เรียวแขนอันงดงามผวาเข้ากอดรัดต้นคอแกร่งแน่นอย่างหวาดผวา เพราะเพียงฝ่ามือใหญ่ปลดปล่อยข้อมือน้อยทั้งสองข้างให้หลุดออกจากพันธนาการ เรือนร่างบอบบางก็ถูกผลักให้นอนราบทาบทับลงไปกับเตียงกว้าง ทุกการกระทำช่างรวดเร็วเสียจนหญิงสาวไม่มีโอกาสดึงสติให้กลับมาสมบูรณ์พร้อม เพียงเธอผวาเกาะกอด เรือนกายแข็งแกร่งก็โน้มทาบทับลงมาและเริ่มรุกเร้าอย่างย่ามใจด้วยฝ่ามือใหญ่ที่แสนเร่าร้อน
ใบหน้าคมซบซุกไม่ห่างจากทรวงอกนุ่มหยุ่นยามฝ่ามืออันร้อนระอุทั้งสองข้างกอบกุมดอกบัวคู่งามส่งมอบสัมผัสอันซาบซ่านให้เรือนกายแสนบริสุทธิ์ ท่อนขาแข็งแกร่งขยับเบี่ยงให้เรียวขางามเป็นอิสระเมื่อสัมผัสได้ถึงแรงดิ้นรนให้หลุดพ้นจากพันธนาการ เจ้าพ่อใหญ่ผู้ช่ำชองในท่วงทำนองรักขยับแทรกเข้าระหว่างกลางเรียวขางามทันทีที่เรียวขาข้างหนึ่งตั้งชันขึ้นราวต้องการถีบตัวส่งให้หลุดพ้นจากสัมผัสรัญจวนใจ
ดิเอโก เค เวนนิส เจ้าพ่อใหญ่แห่งคาสิโนอันดับต้นๆ ของโลก ผู้โชกโชนในทุกสนามโดยเฉพาะสนามรัก เขาเปรียบประดุจกระทิงถึกที่คึกคะนองยิ่งได้คู่ประลองที่ถูกใจก็ยิ่งลิงโลดโผดโผน เจ้าพ่อหนุ่มแทบอยากกระโจนเข้าใส่เมื่อร่างน้อยดิ้นทุรนทุรายราวแทบจะขาดใจเมื่อเขารุกไล่ส่งมอบสัมผัสหวามไหวไปทั่วทุกตารางนิ้วบนเรือนร่าง เสียงหวานที่ครวญครางอย่างลืมอายยามถูกกระตุ้นจุดกระสัน เจ้าพ่อหนุ่มก็ยิ่งโรมรันอย่างย่ามใจ
“เป็นอะไรไปล่ะครับ ทำไมไม่ตบผมอีกล่ะครับคนเก่ง” เสียงทุ้มแหบห้าวสั่นพร่ากระซิบชิดกลีบปากอวบอิ่มที่เผยอแย้มระบายความหวามไหวซาบซ่านที่อัดแน่นภายในกาย ดวงตาคู่สีสนิมจับจ้องดวงตาคู่สวยที่เต็มไปด้วยประกายแห่งไฟปรารถนายามปรือตาขึ้นจับจ้องเจ้าของเสียงทุ้ม เจ้าพ่อหนุ่มกระตุกยิ้มอย่างพอใจในผลงาน
“มองผมแบบนี้หมายความว่าไงครับ” เสียงทุ้มกระซิบกระซาบริมใบหู ลมหายใจอุ่นๆ ที่รินรดสร้างความรู้สึกประหลาดล้ำจนหญิงสาวต้องกระถดถอยเบี่ยงศีรษะหนี แต่กลายเป็นเปิดช่องให้คนที่ช่ำชองกว่าฝากฝังปลายจมูกโด่งลงตรงซอกคอกรุ่น ตามติดด้วยริมฝีปากร้อนผ่าวส่งมอบจุมพิตพร่างพรมไปทั่วลำคอระหงและหยุดจุมพิตเนิ่นนานตรงแอ่งชีพจร
กายสาวดิ้นเร่ากับสัมผัสแสนวาบหวามสุดใจนั้นจนไม่อาจสะกดกลั้นอารมณ์ปรารถนาอีกต่อไป หลังจากถูกจุดไฟจนเพลิงพิศวาสลุกโชนจนยากดับได้ ยามนี้หญิงสาวสิ้นไร้ความเขินอายบิดกายแอ่นอกเข้าบดเบียดเสียดสีกับแผงอกแกร่งที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อหนาแน่นราวต้องการให้อาการรุ่มร้อนทุเลาลง แต่ก็เพียงช่วยผ่อนคลายให้เบาบางลงเพียงชั่วขณะ
“คะ...คุณ! ฉะ...ฉัน! อื้อ... ” เสียงหวานออกอาการตะกุกตะกักเมื่อใจหนึ่งอยากให้เขาหยุดการกระทำ แต่อีกใจหนึ่งกลับอยากให้เขาเดินหน้าต่อเพื่อดับเพลิงพิศวาสที่กำลังแผดเผาเธอเสียจนรุ่มร้อนไปทั้งกายและใจ แต่เพียงแค่เขาผละออกห่างเรือนร่างบอบบางก็ผวาเข้าบดเบียดแนบแน่นราวกลัวอีกฝ่ายหลุดลอยหายไป แล้วเธออาจขาดใจตายด้วยความทุกข์ทรมานแสนหวานนี้
“ผมชื่อดิเอโก” เจ้าพ่อหนุ่มกระซิบบอกชื่อของตัวเองราวกับเป็นเรื่องสำคัญเสียเหลือเกินในยามนี้ ทั้งที่เขาควรรุดหน้าต่อไปให้ถึงฝั่งฝันโดยเร็ว ในเมื่ออีกฝ่ายกำลังตกอยู่ในห้วงแห่งไฟปรารถนา แต่ทว่าเขาต้องการให้ทุกช่วงจังหวะดำเนินไปอย่างช้าๆ เพราะเขายังไม่อยากให้ช่วงเวลาแสนหวานนี้จบสิ้นเร็ว
เจ้าพ่อหนุ่มยอมรับว่าตั้งแต่เขามีสัมพันธ์สวาทแนบแน่นกับสาวงามมากหน้าหลายตา ไม่มีคนไหนที่เขารู้สึกติดใจเพียงแค่ได้สัมผัสคลึงเคล้าคลอเคลียเช่นนี้ เขาอยากดื่มด่ำกับความหอมหวานทั่วเรือนร่างให้นานเท่านานมากกว่าสอดประสานให้เป็นหนึ่งเดียว
“คุณดะ...ดิเอโก” สุพิชญาเอ่ยขานนามนั้นด้วยกำลังตกอยู่ในภวังค์แห่งความหวามไหว แม้ใจอยากผลักไสอยากต่อต้านแต่เรือนกายกลับเรียกร้องอยากให้เขาสัมผัสแนบแน่นยิ่งขึ้น
“เรียกผมว่า ดิเอโกที่รัก สิครับยาหยี แล้วผมจะทำให้คุณหายทรมาน” เจ้าพ่อหนุ่มกระซิบสั่งด้วยเสียงสั่นพร่าเมื่อเรือนร่างแสนงดงามตรงหน้าบิดเร่าราวกำลังทุกข์ทรมาน
“ฉะ...ฉัน มะ...ไม่” สุพิชญาส่ายหน้าไปมาราวต้องการสกัดกลั้นอารมณ์ปรารถนาที่กำลังล้นทะลักจนกลายเป็นความทรมานที่แสนหวาน สติส่วนลึกย้ำเตือนให้ต่อต้านและยับยั้งสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นให้จบลง เขาเป็นใครมาจากไหนเธอจะปล่อยให้ไฟราคะมาเผาผลาญจนขาดสามัญสำนึกเช่นนี้ไม่ได้
“ทำไมล่ะครับ หรือคุณอยากให้ผมหยุด” เจ้าพ่อหนุ่มหรี่ตามองอาการกระสับกระส่ายของคนใต้เรือนร่างอย่างพอใจ เขารู้ว่าหญิงสาวพยายามขัดขืนฝืนความรู้สึก แต่คนมากด้วยประสบการณ์อย่างเขาหรือจะยอมให้ง่ายๆ ฝ่ามือใหญ่ผละออกจากดอกบัวตูมที่ตื่นตัวเต็มที่ด้วยฝีมือจิตรกรเอกเช่นเขา ฝ่ามือนั้นค่อยๆ ลากเลื่อนต่ำลงไปตามเอวคอดและเข้าครอบครองลูบไล้ผิวเนียนนุ่มของสะโพกกลมมนแล้วลากไล้ไปวนกระตุ้นจุดที่ไวต่อสัมผัสจนกายสาวไหวสะท้านสั่นระริกกับสัมผัสแสนรัญจวนใจนั้น
“ดิเอโกขา... อย่า!” สุพิชญาพยายามออกปากห้ามแต่กลายเป็นขานนามนั้นด้วยเสียงหวานปนสั่นพร่าอย่างลืมตัวเมื่อเจ้าพ่อหนุ่มรัวปลายนิ้วกระตุ้นจุดกระสันที่ชูชันพลิ้วไหวตอบรับด้วยความหวามไหว
“หืม... เรียกผมว่าไงนะครับ” เจ้าพ่อใหญ่ทอดสายตามองผลงานที่จิตรกรเอกอย่างเขาเฝ้าปั้นแต่งด้วยความพึงพอใจ ยิ่งได้ยินเสียงเอ่ยขานนามเขาราวจะขาดใจทำให้เขามั่นใจว่าเจ้าของเรือนกายแสนงดงามนี้จะยินยอมพร้อมใจไปกับเขามากกว่าจะคิดต่อต้าน
“ดะ...ดิเอโกที่รัก ได้โปรด... ”
“ได้สิครับ ผมตามใจคุณยาหยี” เจ้าพ่อหนุ่มกระซิบตอบรับทันทีที่ได้ยินวาจาออดอ้อนวอนขอนั้นด้วยรู้ทันทีว่าหญิงสาวต้องการให้เขาทำสิ่งใด
“ดิเอโกคะ ฉะ...ฉัน ไม่เคย” สุพิชญาหลุบหลบตายามเอ่ยบอกเขาด้วยเสียงตะกุกตะกักอย่างขัดเขิน มือน้อยเหนี่ยวรั้งต้นคอแกร่งมั่นเมื่อเจ้าพ่อหนุ่มขยับจะถอยห่างเพื่อเตรียมพร้อมปฏิบัติภารกิจตามคำขอ
“ไม่ต้องกลัวนะครับ ผมรู้ว่านี่เป็นครั้งแรกที่คุณรับแขกต่างชาติแบบผม มันไม่ต่างกันหรอกผมรับรองว่าเราจะเข้ากันได้ดี”
“คุณ! ฉันไม่!” สุพิชญาอุทานตาโตเมื่อเจ้าพ่อหนุ่มเข้าใจไปอีกทาง มือน้อยผละออกจากต้นคอแกร่งมาทาบทับแผงอกกว้างพยายามผลักไส เรือนกายหนาแน่นให้ออกห่าง แต่อีกฝ่ายกลับเข้าใจว่าหญิงสาวเกิดอาการหวาดผวากับสิ่งที่จะเกิดขึ้นนับจากวินาทีนี้
“ชู่ว! อย่ากลัวสิครับ”
“ดิเอโกคะ ฉัน อุ๊ย!” สุพิชญาเว้าวอนเมื่อเจ้าพ่อหนุ่มรวบมือน้อยแล้วดึงรั้งต่ำลงไปด้านล่าง ท้ายประโยคหญิงสาวอุทานอย่างตกใจดวงตาที่เบิกกว้างอยู่แล้วยิ่งเบิกกว้างมากขึ้นเมื่อมือน้อยถูกบังคับให้สัมผัสจับต้องชิ้นส่วนของร่างกายที่ผงาดกล้าอวดความยิ่งใหญ่อย่างอหังการ์
“โอ๊ะ! / อุ๊ย!” ดิเอโกแสร้งอุทานเมื่อสุพิชญาดึงรั้งเสื้อเชิ้ตให้หลุดออกจากแขนแกร่ง หญิงสาวพลอยอุทานไปกับเขาด้วย“ขอโทษค่ะ ฉันจะระวังให้มากกว่านี้นะคะ คุณช่วยยกแขนข้างนี้ขึ้นสูงอีกนิดได้ไหมคะ ไหวไหม” ท้ายประโยคถามด้วยความห่วงใยหลังจากที่สั่งให้เขาขยับแขนข้างที่ไม่ได้รับบาดเจ็บขึ้นเพื่อเธอจะได้ถอดเสื้อได้ง่ายขึ้น“ดะ...ได้ครับ” เจ้าพ่อใหญ่เอ่ยตอบเสียงตะกุกตะกักใบหน้าเหยเกเต็มที ดวงตาคู่สนิมหรี่มองหญิงสาวที่ค่อยๆ บรรจงถอดเสื้อ“แล้วกางเกง...”สุพิชญาหน้าแดงซ่านราวลูกตำลึงสุกเมื่อดิเอโกถามค้างเพียงเท่านั้น หญิงสาวหลุบตาต่ำอย่างเขินอายก่อนตวัดสายตาขึ้นมองสบดวงตาสีสนิม ในที่สุดเธอก็กลั้นหายใจกัดฟันตอบออกไป“ฉะ...ฉัน เอ่อ... ฉันช่วยถอดให้ก็ได้ค่ะ”“ขอบคุณนะครับยาหยี เพราะผมเจ็บแบบนี้คุณเลยต้องลำบาก”ดิเอโกบอกพร้อมทอดสายตาอ่อนโยนเป็นการขอบคุณ สุพิชญายิ้มหวานให้ก่อนเอ่ยบอกจากใจจริงเช่นกัน“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แค่คุณยังหายใจอยู่ ฉันก็ดีใจแล้ว เพราะหากคุณเป็นอะไรไปใครจะอนุญาตให้ฉันกลับบ้านล่ะคะ” ท้ายประโยคสัพยอกนั่นทำให้ดิเอโกหลุดหัวเราะออกมากับวาจาค่อนแคะเขา“ยาหยี นี่ผมมีค่าแค่นั้นเองเหรอ” คนตัวโ
“ว่าไงนะ! ดิเอโกถูกยิงบาดเจ็บ แล้วเขาเป็นยังไงบ้าง แล้วคุณกลับมาทำไม... ทำไมไม่อยู่กับเขา” สุพิชญาอุทานดังลั่นห้องเมื่อได้ฟังคำบอกเล่าของบอดี้การ์ดใหญ่ หัวใจสาวสั่นระรัวไปหมด เพราะทั้งกังวลและหวาดกลัวเกี่ยวกับอาการของดิเอโก“เควินคะ เอาเรือออก ฉันจะไปหาเขา พาฉันไปหาดิเอโกที”“ใจเย็นก่อนครับมิส ตั้งสติ หายใจเข้าลึกๆ แล้วฟังครับ” บอดี้การ์ดใหญ่บอกเสียงเข้มเกือบดุหวังเรียกสติหญิงสาวที่บัดนี้ดูท่ากระเจิดกระเจิงเสียแล้ว เมื่อเห็นอีกฝ่ายมีทีท่าสงบลง เขาก็ค่อยๆ บอกเล่าเหตุการณ์ต่อไปตามบทที่ซักซ้อมมาอย่างดี“ดิเอโกบาดเจ็บจริงแต่ว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว และอยู่ในความคุ้มครองของตำรวจ มิสไม่ต้องกังวลครับ และที่ผมกลับมานี่ เป็นเพราะดิเอโกสั่งให้ผมมาคุ้มกันมิส เพราะพวกของเดฟอาจคิดจะรุกรานมาถึงที่นี่ก็ได้”“ต่อสายดิเอโกให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ” สุพิชญาร้องขออย่างน่าสงสารหลังจากฟังคำบอกเล่าของบอดี้การ์ดใหญ่จบ เพียงแค่ได้ยินว่าเขาปลอดภัยเธอก็เบาใจแต่ก็ยังอยากได้ยินเสียงให้แน่ใจอีกครั้งว่าเควินไม่ได้หลอกล่อให้เธอวางใจ“ผมคงทำตามคำขอของมิสไม่ได้ เพราะตอนนี้ทุกอย่างถูกคุมเข้มห้ามใครติดต่อกับดิเ
“หยุดก่อน!” เสียงหวานของสุพิชญาดังมาจากตรงเชิงบันได บอดี้การ์ดหนุ่มที่เดินอยู่ในบริเวณนั้นหยุดชะงักก่อนหันมาทำความเคารพนายหญิง“ครับมิส”“ฉันได้ยินแว่วๆ ว่าใครเป็นอะไร” สุพิชญาถามรัวเร็วเมื่อก้าวเดินเข้าไปใกล้บอดี้การ์ด เหตุเพราะเธอได้ยินบทสนทนาที่ดูเหมือนว่าใครเกิดการปะทะกับใคร ความใจร้อนทำให้เธอตะโกนเรียกเหล่าบอดี้การ์ดไว้เมื่อเห็นว่าพวกเขากำลังจะแยกย้ายกันไปตามจุดต่างๆ“เอ่อ... คือ... ”“ว่าไงคะ” หญิงสาวยิงคำถามจี้ถามติดๆ กันเมื่อพากันเอาแต่อ้ำอึ้ง สุพิชญาเค้นเอาคำตอบด้วยการจ้องเขม็งสายตานิ่งสนิทเป็นการบอกกลายๆ ว่าหากไม่ได้รับคำตอบเธอจะไม่มีวันปล่อยให้ใครเดินจากไปเด็ดขาดหัวหน้าบอดี้การ์ด ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนตัดสินใจบอกกล่าวผู้เป็นนายหญิง“เควินสั่งการมาให้พวกเราคุมเข้มทุกจุด เพราะเกิดการปะทะกับเดฟที่เดอะไนท์ครับมิส”“ปะทะกับเดฟ! ที่เดอะไนท์” สุพิชญาอุทานตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน หัวใจแทบหล่นไปอยู่ตาตุ่ม หญิงสาวร้อนรุ่มไปหมด ในใจลึกๆ ยังปฏิเสธว่าสิ่งที่ได้ยินไม่ใช่เรื่องจริง แต่ทว่า...“ครับมิส เชิญมิสขึ้นไปพักบนห้องดีกว่าครับ ผมจะให้คนไปคุ้มกันความปลอดภัยที่หน้าห้อง”“เดี๋ยว! แล้วดิเ
เมื่อเห็นคนแสนพยศเอาแต่นิ่งเงียบนัยน์ตาหม่นเศร้า เจ้าพ่อใหญ่ก็เลื่อนมือมาจับไหล่กลมกลึงสองข้างก่อนเลื่อนฝ่ามือข้างหนึ่งมาแตะพวงแก้มนุ่มนิ่มแล้วใช้ปลายนิ้วเชยปลายคางให้เธอแหงนเงยใบหน้าขึ้นมองเขา แต่การกระทำนั้นราวเป็นการบังคับกลายๆ ให้เธอต้องสบตาเขาและห้ามเบือนหน้าหลบหนีเด็ดขาดจนกว่าเขาจะพูดจบ“ผมดูแลคุณไม่ดีตรงไหนหรือเปล่ายาหยี คุณถึง...”“ดิเอโกคะ... ฉันยอมรับว่าคุณดูแลฉันดีมาก แต่ฉันก็ไม่ลืมว่าฉันมาอยู่ที่นี่ด้วยความไม่เต็มใจ” พยายามให้เหตุผลหลังจากสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดด้านดิเอโกเมื่อได้ฟังวาจานั้นเจ้าพ่อใหญ่ก็เริ่มเกิดอารมณ์หงุดหงิด เหตุเพราะไม่รู้ว่ากี่ครั้งแล้วที่เขาต้องมาคุยเรื่องนี้กับเธอ“ฟังนะยาหยี! คุณอาจจะคอยย้ำเตือนตัวเองตลอดเวลาว่าคุณมาด้วยความไม่เต็มใจ นั่นมันเป็นเพราะคุณอคติ คุณถึงได้พยายามสร้างกำแพง ยกเหตุผลสารพัดเพียงเพื่อหลอกตัวเองว่าคุณไม่มีความสุขกับสิ่งที่เป็นอยู่ แต่คุณไม่เคยยอมรับตัวเองต่างหากว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นคุณเองก็ไม่ได้ปฏิเสธ กลับกันคุณกลับเต็มใจรับมันด้วยซ้ำ” “ดิเอโก!” ขานนามนั้นอย่างตกตะลึง เพราะสิ่งที่เขาพูดมานั้นมันกระแทกใจเธออย่างจัง“หรือคุณจะบอ
ตลอดช่วงสายของวันนั้นจนเวลาล่วงเลยมาค่อนคืน สุพิชญาเฝ้าคอยดูแลแม่ลูกอ่อนอย่างใกล้ชิด เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีภาวะแทรกซ้อนหลังคลอดเกิดขึ้น หญิงสาวไม่คิดว่าดิเอโกจะใจดีสั่งการให้เคลื่อนย้ายลูกน้องหญิงไปพักที่เรือนใหญ่ซึ่งเป็นที่พักส่วนตัวของเขา ซ้ำดิเอโกเองก็เฝ้าวนเวียนอยู่ใกล้ๆ ไม่คิดปล่อยหญิงสาวไว้ตามลำพังเจ้าพ่อใหญ่สั่งการให้แม่บ้านจัดเตรียมอาหารมาให้เขาและเธอ แม้หญิงสาวจะเอ่ยปากหลายครั้งให้เขาไปพักผ่อนอย่าได้กังวลเกี่ยวกับเธอ แต่ดิเอโกก็หาได้ฟังไม่ เขายังยืนยันอยู่เป็นเพื่อนเธอและคอยสอดส่องสายตามองหาตลอดเวลาที่เธอหายเข้าไปในห้องพัก และยามนี้เวลาก็ล่วงเลยเข้าสู่วันใหม่มาได้ชั่วโมงกว่าแล้วหญิงสาวตั้งใจว่าอีกสักพักเธอก็จะเอนกายพักผ่อนบ้าง ด้วยอาการของแม่หลังคลอดนั้นไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วงแล้ว แต่เมื่อเธอก้าวพ้นประตูห้องออกมาก็พบดิเอโกนอนขดกายอยู่บนโซฟาที่ขนาดไม่พอดีกับร่างกายสูงใหญ่ของเขาสักนิด สุพิชญาส่ายหน้ากับภาพนั้นก่อนเดินเข้าไปหาหวังจะปลุกให้เขากลับเรือนพักไปนอนให้สะดวกสบาย“ดิเอโกคะ ตื่น... ว้าย!!” เสียงหวานหวีดร้องเสียงหลงเมื่ออยู่ๆ ก็ถูกตวัดรวบแขนบิดพ่ายไปด้านหลังเพียงแค่เธอยื
“ฉันต้องการสถานที่และอุปกรณ์เดี๋ยวนี้”“คุณต้องการอะไรบ้างว่ามา”สุพิชญาบอกสิ่งที่ตัวเองต้องการ ดิเอโกหันไปสั่งความลูกน้องทันทีเช่นกัน ยามนี้ไม่มีทีท่าของคนชอบวางอำนาจไม่ยอมเป็นรองเธอให้เห็นสักนิด“รีบไปจัดการตามที่นายหญิงสั่งสิ”“ครับดิเอโก!!”ตลอดระยะเวลาที่สุพิชญาทำคลอดดิเอโกแทบหายใจไม่ทั่วท้อง เจ้าพ่อใหญ่เดินไปมาให้วุ่นวายไปหมด หัวใจแกร่งร้อนรุ่ม เขาแทบอยากพังประตูเข้าไปเสียเดี๋ยวนี้ ความห่วงใย ความพะวงทำเอาเขาว้าวุ่นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แต่เพราะคำสั่งที่แสนเด็ดขาดของคนที่ดูบอบบางอย่างสุพิชญาว่าให้เขาออกมารอด้านนอก ขอไว้เพียงคนงานหญิงที่เธอให้คอยเป็นผู้ช่วยหยิบจับในสิ่งที่ต้องการเท่านั้น“อุ๊แว้! อุ๊แว้!”“พิชชา!” ดิเอโกอุทานขานเรียกชื่อหญิงสาวออกมาแทบเป็นตะโกนเมื่อได้ยินเสียงเด็กร้องดังออกมาจากด้านใน เจ้าพ่อใหญ่แทบกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจเสียงเด็กที่เล็ดลอดออกมานั้นช่างเหมือนเสียงสวรรค์ เขามั่นใจว่าพิชชาปฏิบัติภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว แต่ว่า... เวลาก็ล่วงเลยมาสักระยะแล้วกลับไม่มีใครก้าวออกมาจากห้องสักคน เสียงเด็กก็พลอยเงียบหายไปด้วย“หรือว่าจะเกิดอะไรขึ้น” เจ้าพ่อใหญ่รำพันกับตัวเอง