หวงเหมยหงที่แสดงเป็นนางเอกของเรื่องนี้นั้นเพิ่งจะมองเห็นเหอจิ้งเกาหลังจากที่ผู้กำกับสั่งคัต เธอรีบปรี่เข้าไปเพื่อทักทายเขาทันที
“สวัสดีค่ะคุณเหอ ไม่คิดว่าวันนี้คุณจะมาดูเหมยหงแสดงเลยนะคะ”
หวงเหมยหงได้แต่พูดเข้าข้างตนเอง ทั้งที่ความจริงแล้วเหอจิ้งเกามาดูภาพรวมทั้งหมดของหนังว่าถ่ายทำไปถึงไหนแล้วต่างหาก ยิ่งพอเขาได้ฟังผู้หญิงที่เขาไม่รู้จักตรงหน้าพูดจาเหมือนกับว่าเขาสนใจเธอก็ยิ่งขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ เขาตอบกลับเธอด้วยน้ำเสียงเย็นชาไปถึงกระดูก
“อย่าหลงตัวเองให้มันมากนัก คุณเป็นใครผมยังไม่รู้จักสักนิด แต่กลับมาพูดจาเหมือนตัวเองสวยมากจนผมต้องมาดูคุณเนี่ยนะ ทีหน้าทีหลังรู้จักตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูหัวตัวเองก่อนที่จะเข้ามาทักทายคนอื่นแบบนี้ด้วยก็แล้วกัน และผมของเตือนไว้ก่อนว่าผู้หญิงแบบคุณผมเจอมาเยอะแล้ว ผมรังเกียจคนที่ชอบใช้ทางลัดในการทำงานมากที่สุด หากคุณไม่อยากถูกถอดออกจากบทนางเอกก็รีบไปให้ไกลจากผมซะ!!!”
บรรดาบอดี้การ์ดและเลขาได้แต่มองผู้หญิงไม่เจียมตัวตรงหน้าพวกเขา ตอนนี้ผู้หญิงคนนี้ยังทำเป็นน้ำตาคลออีกต่างหาก นี่เธอคิดว่าการเสแสร้งแบบนี้จะทำให้เจ้านายของพวกเขาใจอ่อนเหรอ ช่างโง่งมจริง ๆ
หวงเหมยหงรออยู่นานก็ไม่เห็นว่าเหอจิ้งเกาจะสนใจท่าทางอ่อนแอของเธอที่แสดงออกให้เขาเห็นสักนิด เธอรู้สึกอับอายคนที่ได้ยินรอบ ๆ จนกลายเป็นความโกรธ จากนั้นเธอจึงสะบัดหน้าจากไปที่ห้องแต่งตัวของตนเองเพื่อทำใจว่าเธอไม่น่าหาเรื่องให้ตัวเองเสียหน้าแบบนี้เลย ทั้งที่หวงเหมยหงรู้จักกิตติศัพท์ของเหอจิ้งเกาดีว่าเขาใจร้ายและเย็นชามากขนาดไหน แต่เธอที่มั่นใจในตัวเองก็ยังกล้าเข้าไปจนไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้วตอนนี้
ฝ่ายผู้กำกับและทีมงานที่เห็นเหตุการณ์ได้แต่สมน้ำหน้าหวงเหมยหงที่ไม่รู้จักเจียมตัว พวกเขารู้ดีว่าเทพองค์นี้เอาใจยากมากขนาดไหน โชคดีที่ฉากเมื่อกี้เขาไม่สั่งให้ผู้กำกับถ่ายทำใหม่ ผู้กำกับยังเคยได้ข่าวว่าเขาชอบมาแอบดูการถ่ายทำเช่นนี้แหละ แต่พอไม่พอใจเมื่อไหร่ก็จะให้ถ่ายทำใหม่จนกว่าเขาจะพอใจ จนผู้กำกับแต่ละคนขยาดเหอจิ้งเกาเอามาก ๆ ความจริงพวกเขาเองก็ไม่อยากทำหนังให้กับค่ายหนังของเหอจิ้งเกาหรอกถ้าไม่ติดว่าเขาเป็นคนที่ชอบทุ่มเงินจำนวนมากให้กับผู้กำกับขอเพียงแค่หนังออกมาดี พวกเขาที่หาสปอนเซอร์ได้แค่เล็กน้อยมีหรือจะกล้าปฏิเสธเหอจิ้งเกาเมื่อเขาขอเข้าร่วมงานด้วยตัวเอง เรื่องนี้ทุกคนในวงการต่างรู้กันดีว่าเขาเป็นคนเช่นไร
ฟู่หยุนชิงไม่ได้สนใจว่าภายในกองเกิดอะไรขึ้น เธอเอาแต่ดูบทต่อไปว่าเธอจะต้องทำสิ่งใดก่อนหมดฉากงานเลี้ยงในวันนี้ เหอจิ้งเกาที่ไม่ได้รับความสนใจจากฟู่หยุนชิงก็โมโหเล็กน้อยที่เธอไม่เข้ามาทักทายเขาเหมือนคนอื่น ๆ จนใจที่เขาเองก็อีโก้สูงไม่ยอมที่จะเข้าไปแนะนำตัวกับเธอเช่นเดียวกัน
เลขาของเหอจิ้งเกาได้แต่มองสลับไปมาระหว่างคนทั้งสอง คนหนึ่งก้มหน้าก้มตาอ่านบทอย่างเอาเป็นเอาตาย อีกคนก็ถลึงตามองว่าเมื่อไหร่สาวน้อยคนนั้นจะหันมามองตนเอง เลขาที่เห็นเจ้านายแปลกไปก็ได้แต่คิดว่านานแค่ไหนแล้วที่เจ้านายของเขาไม่ได้รับความสนใจเช่นนี้ ทำเอาเลขาเกือบหัวเราะออกมาที่เห็นเจ้านายได้แต่อารมณ์เสียหลังจากรอมานานสองนานเธอก็ยังไม่หันมามอง เลขาของเหอจิ้งเกาที่มีครอบครัวแล้วคิดว่าเจ้านายของเขาต้องตกหลุมรักเธอเป็นแน่ในอนาคต แต่เขาก็ไม่มั่นใจเช่นกันว่าจะเป็นจริงตามที่เขาคาดการเอาไว้หรือไม่ เพราะเจ้านายเขาเองบทจะเย็นชาก็เย็นชาปานน้ำแข็ง ผู้หญิงที่ไหนอยากจะเข้าใกล้เจ้านายเขากันเล่า
ฟู่หยุนชิงที่ทำสมาธิกับการอ่านบทไม่รู้เลยว่ามีคนกำลังต้องการทำความรู้จักกับเธอมองอยู่ เธอได้แต่ตั้งใจที่จะแสดงบทบาทให้ดีที่สุดเพื่อสร้างความพอใจให้ผู้กำกับ หากเขามีหนังเรื่องใหม่ เธอจะได้อยู่ในสายตาเขาและได้รับเลือกให้เข้ามาร่วมแสดงด้วยอย่างเช่นในหนังเรื่องนี้
ไม่นานนักทีมงานก็มาเรียกฟู่หยุนชิงให้ไปเติมหน้าก่อนที่จะเริ่มฉากต่อไปในอีกไม่นานนี้แล้ว นี่เป็นเพราะผู้กำกับเห็นใบหน้าฟู่หยุนชิงเริ่มที่จะจางลงจากการออกแรงแสดงบทร่ายรำเมื่อกี้นี้นั่นเอง เขาจึงสั่งให้ทีมงานพาเธอไปแต่งหน้าเพิ่มก่อนที่จะจบฉากของวันนี้ และอีกไม่กี่วันพวกเขาต้องเดินทางไปถ่ายทำฉากสงครามที่เมืองโบราณซึ่งอยู่อีกจังหวัดหนึ่ง เรื่องนี้ผู้เขียนบทได้เพิ่มบทบาทการต่อสู้ในสนามรบก่อนที่แม่ทัพหญิงอวี้หลางจะตายในสงคราม เขาอยากเห็นว่าฟู่หยุนชิงจะแสดงออกมาได้ดีเช่นในวันนี้หรือไม่ ผู้กำกับเองก็อยากเห็นเช่นเดียวกันจึงไม่คัดค้าน
ฉากต่อมาหลังจากทุกคนออกมาเตรียมพร้อมกันแล้ว ผู้กำกับก็สั่งให้เริ่มการแสดงได้ ซึ่งฉากนี้จะเป็นการมอบรางวัลให้กับแม่ทัพอวี้หลางที่แสดงการร่ายรำดาบเป็นที่พอพระทัยของฮ่องเต้ อีกทั้งยังมีขุนนางบางคนขอให้ฮ่องเต้ทรงพระราชทานสมรสให้กับแม่ทัพหญิงเป็นรางวัลอีกด้วย
พอแม่ทัพหญิงอวี้หลางได้ยินดังนั้นก็ขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ เรื่องนี้นางขอให้ฝ่าบาทตัดสินใจให้ก็จริง แต่นางยังไม่รีบที่จะแต่งงานตอนนี้ ในเมื่อนางยังไม่สามารถตอบแทนพระคุณที่ฮ่องเต้เก็บนางมาเลี้ยงได้เลย แม่ทัพอวี้เงยหน้ามองฮ่องเต้อย่างขอความช่วยเหลือ นางยังไม่อยากแต่งงาน หากออกเรือนแล้วนางคงไม่มีโอกาสตอบแทนบุญคุณฝ่าบาทเป็นแน่
นักแสดงที่แสดงเป็นฮ่องเต้รีบต่อบทกับฟู่หยุนชิงทันทีเช่นกัน เขาไม่คิดว่าเธอจะเล่นได้ดีและส่งบทมาให้เขาได้ดีถึงขนาดนี้จริง ๆ มันทำให้เขาแสดงได้ง่ายขึ้นมาก
“ข้ายังไม่คิดที่จะหาคู่ให้นาง ในเมื่อนางเป็นแม่ทัพของแคว้นเรา ก็รอจนกว่านางจะชนะศึกและกลับมาข้าค่อยมอบการแต่งงานที่ดีให้กับนางก็แล้วกัน”
ขุนนางทั้งหลายในฉากมีหรือจะกล้าต่อรองกับฮ่องเต้อีก พวกเขายังอยากรักษาหัวน้อย ๆ ของพวกเขาอยู่ ทุกคนจึงได้แต่ชมเชยฮ่องเต้ว่าทรงมีประปรีชายิ่งนัก
ฉากงานเลี้ยงยังคงดำเนินต่อไปด้วยการแสดงการร่ายรำจากนางเอกอย่างหวงเหมยหง เธอที่ขาดความมั่นใจมากก่อนหน้านี้ทำสมาธิและแสดงบทบาทของตนเองออกมาได้เป็นอย่างดีเท่าที่เธอคิดได้ เพียงแต่ผู้กำกับกลับไม่พอใจนักที่เห็นว่าหวงเหมยหงแสดงได้เพียงนี้เท่านั้น เขาได้แต่คิดว่าเธอช่างแสดงได้แตกต่างกับฟู่หยุนชิงอย่างเทียบกันไม่ติดเลยทีเดียว
“ไม่ว่าลูกสาวหรือลูกชาย ผมก็ชอบทั้งนั้นที่รัก ขอบคุณนะครับที่ยอมเหนื่อยตั้งท้องให้ผมกับลูกได้มีลูกสาวอีกคน”“ใช่ครับ ๆ แม่เก่งที่ซู๊ดเลย หลังจากนี้ผมจะปกป้องน้องสาวเป็นอย่างดีนะครับแม่ไม่ต้องเป็นห่วง เห็นมั้ยครับพ่อ ผมบอกแล้วว่าต้องเป็นน้องสาว ฮิ ฮิ”“ครับผม ลูกชายพ่อเก่งมากเลย เราปล่อยให้แม่นอนพักผ่อนกันก่อนดีกว่า”“ที่รักนอนพักก่อนเถอะนะ รอให้ลูกตื่นก่อนคุณค่อยลุกมาให้นมก็แล้วกัน”“ได้ค่ะ คุณกับลูกก็นอนพักก่อนนะคะ เดี๋ยวพอลูกสาวเราตื่นคงไม่ได้พักผ่อนกันแน่เลย ท่าทางลูกสาวคนจะซนกว่าพี่ชายน่าดู กว่าฉันจะคลอดได้เลยเสียเวลาไปเยอะ”“ฮ่า ฮ่า จริงเหรอที่รัก ไม่ต้องกังวลไป อย่างไรเสี่ยวหมิงน่าจะดูแลน้องได้นะ” เหอจิ้งเกาจูบหน้าผากภรรยาแล้วอุ้มเสี่ยวหมิงหอมแก้มแม่ให้นอนพักผ่อน ส่วนพวกเขาพ่อลูกก็เข้าไปนอนที่เต
หลังหนังจบ เหอจิ้งเกาเห็นว่าภรรยากับลูกชายง่วงมากแล้ว เขาจึงไม่ให้ทั้งสองคนให้สัมภาษณ์นักข่าวหรือพูดคุยกับแฟนคลับ ซึ่งเขาสั่งให้บอดี้การ์ดไปบอกแฟนคลับของฟู่หยุนชิงเอาไว้ก่อน เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่เข้าใจฟู่หยุนชิงผิดสัปดาห์ต่อมา รายได้ของหนังที่ฟู่หยุนชิงแสดงยังขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในบ็อกซ์ออฟฟิศเหมือนเคย ทำให้ผู้กำกับและทีมงานต่างดีใจที่หนังเรื่องนี้คนดูชอบและนักวิจารณ์ยังกล่าวถึงหนังไปในทางบวกแทบทุกคน เหล่าแฟนหนังยังอยากดูภาคสองของเรื่องนี้อีกต่างหาก เสียดายที่ฟู่หยุนชิงต้องหยุดถ่ายทำเพื่อเลี้ยงลูกก่อน ทำให้ผู้กำกับไม่อยากนำคนอื่นมาแสดงแทน เขาตั้งใจจะรอฟู่หยุนชิงคนเดียวห้าเดือนต่อมา ตอนนี้ใกล้กำหนดคลอดของฟู่หยุนชิงเข้าไปทุกที เหอจิ้งเกาที่กลัวภรรยาจะคลอดก่อนกำหนดอีกจึงขอร้องให้ฟู่หยุนชิงไปพักที่ รพ.ก่อนสักสองสามวัน แน่นอนว่าพวกเขาพ่อลูกก็จะไปอยู่เป็นเพื่อนเธอด้วย&n
ก่อนที่เหอจิ้งเกาจะเคลียร์งานเสร็จในเดือนถัดมา ฟู่หยุนชิงก็จำเป็นต้องเข้าร่วมงานเปิดตัวหนังรอบปฐมทัศน์ เหอจิ้งเกาจึงพาเสี่ยวหมิงไปให้กำลังใจและคอยดูแลฟู่หยุนชิงด้วย เพราะตอนนี้ท้องของฟู่หยุนชิงเริ่มขยายใหญ่มากขึ้นเนื่องจากใกล้เข้าสู่เดือนที่สี่ของการตั้งครรภ์แล้ว ระหว่างทางที่กำลังจะไปยังโรงหนังในห้างสรรพสินค้าใหญ่ของเหอจิ้งเกา ฟู่หยุนชิงได้แต่บ่นว่าสามีห่วงมากเกินไป“ความจริงฉันมากับลูกก็ได้นะคะ มันทำให้คุณเสียเวลาทำงานไปด้วยโดยใช่เหตุ”“เฮ้อ ที่รัก ผมจะปล่อยให้คุณกับลูกมากันเองได้ยังไง ในเมื่องานนี้มีคนเข้าร่วมมากมาย หากใครชนท้องคุณเข้าจะทำยังไงล่ะที่รัก เชื่อผมเถอะ รับรองว่าผมไม่กวนตอนคุณอยู่บนเวทีแน่ที่รัก”“ใช่ครับแม่ ให้พ่อพามาดีแล้วครับ ผมเองก็เป็นห่วงเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน เพราะคนน่าจะเยอะมากจริง ๆ นะครับแม่”“เอาล่ะ ๆ ยังไงก็มากันแล้วนี่นะ แม่จะไม่บ่นแล้วก็ได้”
ระหว่างที่ฟู่หยุนชิงกำลังตั้งครรภ์อยู่นั้น เหอจิ้งเกาก็ให้ลูกน้องนำงานมาให้ทำที่บ้าน เพราะเขาอยากดูแลลูกกับภรรยาด้วยตัวเอง กระทั่งสามวันต่อมาที่เป็นวันนัดของหมอเพื่อตรวจครรภ์ของฟู่หยุนชิงมาถึง ทั้งสามคนต่างเตรียมตัวกันตั้งแต่เช้า หลังอาหารเช้าพวกเขาจึงออกจากบ้านเพื่อไปที่ รพ. ระหว่างนั่งรถอยู่นั้น ฟู่หยุนชิงก็คุยกับสามีเรื่องลูกคนที่สอง“คุณคะ ครั้งนี้เรามาลุ้นกันดีไหมคะว่าลูกจะเป็นชายหรือหญิง ฉันไม่อยากรู้ก่อนเหมือนตอนเสี่ยวหมิงน่ะค่ะ ดีไหมลูก”“ได้จ๊ะ ผมตามใจคุณอยู่แล้ว เรารอลุ้นก็สนุกดีเหมือนกันนะ”“ดีครับแม่ ผมอยากลุ้นว่าน้องของผมจะเป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิง อีกตั้งหลายเดือนกว่าที่แม่จะคลอดน้องอ่ะ ยังไงผมจะช่วยแม่ดูแลน้องหลังคลอดนะครับ”“ขอบใจมากจ๊ะลูก แล้วลูกอยากไปโรงเรียนตอนกี่ขวบ แม่เห็นส่วนใหญ่เด็กสามขวบก็เข้าเรียนอนุบาลกันแล้วนะ”
เมื่อพวกเขามาถึงร้านนาฬิกา พนักงานในร้านรีบออกมาต้อนรับฟู่หยุนชิงเช่นกันกับพนักงานร้านก่อนหน้านี้ พวกเขาได้รับข่าวมาก่อนหน้าจากร้านเสื้อผ้าแล้วว่าภรรยาของท่านประธานกับนายน้อยมาเดินเล่นที่นี่ ด้วยการข่าวอันฉับไว ทุกร้านในห้างจึงเตรียมพนักงานเอาไว้ต้อนรับกันแต่แรกแล้ว“ไม่ทราบว่าคุณมีนาฬิกาคู่รักหรือเปล่าคะ? กับนาฬิกาของเด็กขนาดเดียวกับแขนลูกชายของฉัน”“มีทั้งสอบแบบเลยค่ะ เชิญคุณลูกค้าตามดิฉันมาดูนาฬิกาคู่รักก่อนนะคะ พอดีเพิ่งมีคอลเลคชั่นใหม่ออกมาเมื่อสัปดาห์ก่อน เผื่อว่าคุณลูกค้าถูกใจ” ฟู่หยุนชิงพยักหน้ารับคำและเดินตามพนักงานไปพร้อมอาหยงที่อุ้มเหอเสี่ยวหมิงอยู่ ส่วนอาเหว่ยก็เดินตามหลังฟู่หยุนชิงไปไม่ไกลเช่นกัน อาเหว่ยได้แต่คิดว่าตอนนี้ทั้งห้างคงรู้แล้วว่านายหญิงมา ดูจากการบริการที่รวดเร็วและไม่ถามที่มาที่ไปแบบนี้ นับว่าผู้จัดการห้างมีความสามารถไม่น้อยที่แจ้งข่าวให้ร้านต่าง ๆ ทราบภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโม
ระหว่างทางไปยังบริษัท เลขารายงานเรื่องเมื่อวานให้กับเหอจิ้งเกาทราบทุกอย่าง อีกทั้งวันนี้เขาจะไปหาทนายของบริษัทเพื่อให้ทำเรื่องแจ้งความและส่งฟ้องหวงเหมยหงและลี่ลี่อีกครั้งหนึ่ง“คุณทำได้ดีมาก รอสิ้นปีผมจะเพิ่มโบนัสให้กับทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อีกที ถือว่าเป็นรางวัลสำหรับการช่วยรักษาชื่อเสียงภรรยาของผมก็แล้วกัน”“ขอบคุณครับเจ้านาย” เลขากับบอดี้การ์ดที่ช่วยเหลืองานเมื่อวานนี้ไม่คิดว่าพวกเขาจะได้รับรางวัลในการทำงานครั้งนี้ด้วย นับว่าเจ้านายใจดีมากขึ้นตั้งแต่มีครอบครัว พวกเขาที่ได้รับเงินเดือนไม่น้อยต่างก็ดีใจที่เจ้านายมีความสุขและเผื่อแผ่ความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ มาให้พวกเขาเช่นนี้ ฟู่หยุนชิงที่อยู่บ้านกับเหอเสี่ยวหมิงวันนี้ เธอเรียกอาหยงกับอาเหว่ยมาสอบถามเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ที่สามีทำให้เธออยู่เบื้องหลัง เธอแน่ใจว่าเรื่องแบบนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที