ฟ่านรั่วเจี๋ยไม่ต้องบุกไปถึงตำหนักไทเฮาเสี่ยวเชี่ยน เพราะตอนนี้เกิดเรื่องโกลาหลขึ้น พร้อมกลุ่มทหารองครักษ์ที่เข้าไปล้อมตำหนักไทเฮาเพียงไม่นาน จางหมิ่นก็รีบเข้ามารายงานความเป็นไปทันที“ไทเฮาหายตัวไป และพบศพปริศนาไม่มีหัวอยู่ที่ตำหนักเย็นเจ้าค่ะ”“คนทั้งคนหายไปจากวังหลวงได้อย่างไร อีกอย่างคนผู้นั้นเป็นถึงไทเฮา”หยวนซางที่ได้รับมอบหมายงานให้มาช่วยฟ่านรั่วเจี๋ยเดินเข้ามารวมกลุ่ม สีหน้าเขาเครียดจัด แต่ก็แจ้งชัดในสิ่งที่รับรู้มา“เกรงว่าไทเฮาจะจากโลกไปนานแล้ว และมีคนสวมรอยเป็นพระองค์เรื่องนี้คงเกิดขึ้นตั้งแต่องค์หญิงเยี่ยฉีปรากฏตัวที่ต้าหลาง”“กุนซือหยวนซางกล่าวเช่นนี้ ดูเหมือนท่านกำลังโยนความผิดให้องค์-หญิงเยี่ยฉี”หยวนซางเลิกคิ้วขึ้นทั้งสองข้าง ในใจนึกขำที่ฟ่านรั่วเจี๋ยเล่นละครเป็นห่วงพี่สาวต่างมารดา ซึ่งอีกฝ่ายนั้นต่างประสงค์ร้ายต่อฟ่านรั่วเจี๋ยตลอดมา“ข้าพูดตามที่คาดการณ์ไว้ หากองค์หญิงเยี่ยฉีเป็นผู้บริสุทธิ์ นางคงไม่ต้องหวั่นกลัวสิ่งใด”ฟ่านรั่วเจี๋ยนิ่งไปชั่วขณะ พลางคิดทบทวนในหลายๆ สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างที่ได้พบพี่สาวที่นี่ อีกฝ่ายแสดงออกอย่างชัดแจ้งว่าต้องการเป็นพระ-ชายาเอกของมู่ชิง
เมื่อฟ่านรั่วเจี๋ยเข้าไปดูอาการรัชทายาทพร้อมอวิ๋นฟง ทั้งสองคนก็พบกับฮองเฮาเซี่ยเหยียน อีกฝ่ายหายกลัดกลุ้มใจอาการของลูกชายคนโตแล้ว มู่จื้อถิงไม่ได้นอนซมเช่นเดิม เขากินอาหารอ่อนๆ ได้ สีหน้าจึงผ่องใสอีกทั้งกล่าวขอบใจยาของฟ่านรั่วเจี๋ยที่มอบให้“น้องสะใภ้ นึกไม่ถึงว่ากว่าจะได้พบหน้ากัน เจ้าก็เป็นคนช่วยข้าให้หายป่วย เช่นนี้สมควรได้รับการตอบแทน”“รัชทายาท ตามที่ข้าได้ข้อมูลจากฮองเฮาและหมอหลวง แต่เดิมท่านมีโรคประจำตัว พอเป็นไข้หวัดอาการป่วยจึงหนักหนาอยู่สักหน่อย”มู่จื้อถิงเป็นโรคหอบหืดตั้งแต่เด็ก เขาหายใจไม่สะดวกยามอากาศเปลี่ยน พอได้รับเชื้อไข้หวัดจากนางสนมผู้หนึ่งเขาจึงแทบเอาชีวิตไม่รอดและมีรับสั่งจากฮ่องเต้เส้าซือว่า หากหมอหลวงรักษารัชทายาทให้หายไม่ได้ก็ให้ตัดหัวหมอในสำนักการแพทย์วันละคนจนกว่าอาการของรัชทายาทจะดีขึ้น ดังนั้นเหล่าหมอหลวงจึงพยายามช่วยเหลือทุกวิถีทาง พอเห็นว่าฟ่านรั่วเจี๋ยรักษาคนป่วยที่สำนักการแพทย์หาย จึงใช้วิธีเดียวกันนี้กับรัชทายาท สุดท้ายเลยรักษาอาการป่วยของอีกฝ่ายได้ อีกทั้งศีรษะของเหล่าหมอหลวงก็ยังอยู่บนบ่าเช่นเดิม“อย่างไรก็ดี ข้าขอบใจเจ้ามากน้องสะใภ้ เจ้าสมควรได้รับร
ฟ่านรั่วเจี๋ยมาช่วยงานที่สำนักการแพทย์ได้ราวๆ ห้าวันแล้ว ตอนแรกมีคนสงสัยความสามารถของนาง แต่เมื่อเห็นว่านางเชี่ยวชาญเรื่องสมุนไพรอีกทั้งมีตำแหน่งฮูหยินชินอ๋องหนุนหลัง คนที่กล่าวหาว่านางเป็นเพียงหมอตำแยไร้ฝีมือจึงสงบปากสงบคำอีกทั้งยาของนางยังช่วยให้คนที่เป็นไข้หวัดมีอาการดีขึ้นตามลำดับนางคิดค้นสูตรยาที่ปรุงเป็นเม็ดลูกกลอน หมอหลวงที่เคยพบกับฟ่านรั่วเจี๋ยมาก่อนต่างคำนับนางและกล่าวว่านี่คือตำรับยาของชาวฉีเฟิงที่สูญหายไปชื่อเสียงของฟ่านรั่วเจี๋ยถูกบอกต่อกันไปอย่างรวดเร็ว พลอยให้จวนของชินอ๋องมีคนไปคุกเข่าเปล่งเสียงร้องสรรเสริญ แสดงความเคารพไม่ขาดสายในขณะเดียวกันที่นางวุ่นอยู่ในสำนักการแพทย์ อีกทั้งเข้าออกวังหลวงเพื่อดูอาการขององค์รัชทายาทที่บังเอิญถูกหมูกัด ซึ่งยามนี้อาการดีขึ้นมากแล้ว ฟ่านรั่วเจี๋ยต้องเสียน้ำตาเพราะบุรุษที่นางเคารพปรากฏตัวอวิ๋นฟงได้เข้ามาช่วยดูอาการของรัชทายาทตามคำเชิญของมู่ชิงซานและมีการดูแลความปลอดภัยของเขาด้วยองครักษ์หลายนาย การมาของหมอเทวดาช่วยทำให้ฟ่านรั่วเจี๋ยกระจ่างใจต่อสิ่งที่นางเคยสงสัยยามนี้นางได้ทราบอย่างแน่ชัดว่ามารดาของตนไม่ใช่หญิงชั่วล่มเมืองหากเป็นถึงอง
ราชโองการมู่ชิงซานได้รับทราบว่าฟ่านรั่วเจี๋ยออกไปที่สำนักการแพทย์ เขาเกิดความกังวลใจจึงให้หยวนซางออกไปดูแลนาง เมื่อได้ข่าวว่าอวิ๋นฟงปรากฏที่เมืองหลวงเขาก็เบาใจลงตอนนี้เขามาอยู่กับบิดา เป็นสถานที่ลับพร้อมหมอหลวงหลายคนอาการของมู่เส้าซือไม่ได้มีสิ่งใดน่ากังวล เพียงแต่เขาเป็นคนที่สุขภาพไม่สู้ดีมาตั้งแต่ออกไปช่วยลูกชายคนโตที่ติดวงล้อมศัตรู หมอหลวงจึงไม่อยากให้มู่เส้าซืออยู่ใกล้แหล่งที่อาจมีโรคภัยกระจายถึงเขาได้“ซานเอ๋อ...” เสียงเรียกของชายวัยกลางคนดังอย่างแหบแห้ง มู่ชิงซานเข้าไปใกล้ๆ ผู้เป็นบิดา เขาเห็นว่ามู่เส้าซือดูเหนื่อยล้า อีกทั้งผมบนศีรษะขาวโพลนกว่าวัย ช่วงเวลาไม่กี่วัน ชายผู้นี้มีสุขภาพถดถอยลงไปมาก“ตามจริงเจ้าควรจะได้เป็นองค์รัชทายาท และขึ้นครองบัลลังก์ต้าหลาง”“เสด็จพ่ออย่าได้เอ่ยเช่นนั้น ลูกรักชาติบ้านเมืองก็จริง แต่การนั่งบัลลังก์อยู่ท่ามกลางขุนนางที่ชอบประจบสอพลอเป็นเรื่องน่าเบื่อหน่าย”“แต่เจ้ากุมกำลังทหารหลายแสนนาย และยังเป็นที่เกรงกลัวต่อทุกคนแม้แต่พี่ชายเจ้าจะกล่าวสิ่งใดยังถอยให้เจ้าถึงสามส่วน”“ฮ่าๆ เสด็จพ่อ ข้าไม่เคยข่มขู่พี่ใหญ่”“แต่เขาก็มิอาจเทียบรัศมีและบารมีของเจ้
“ข้าคิดไว้แล้วว่าเจ้าต้องมา แต่นึกไม่ถึงว่าจะรวดเร็วเพียงนี้”หญิงสาวคำนับฮองเฮาเซี่ยเหยียน อีกฝ่ายบอกกับฟ่านรั่วเจี๋ยว่าไม่ต้องมากพิธี“ข้างนอกคงกำลังวุ่นวาย เจ้ามาที่นี่ได้รับความสะดวกหรือไม่”“ไม่มีสิ่งใดน่ากังวลฮองเฮา เว้นแต่เหล่าหมอหลวงและสำนักการแพทย์ที่ตอนนี้กำลังช่วยเหลือผู้คน กระนั้นพวกเขายังไม่เข้าใจว่าโรคจากหมูไม่ได้ติดต่อสู่คน”“เจ้าอยากให้ข้าช่วยสิ่งใด รั่วเจี๋ย”“หากฮองเฮาต้องการช่วยเหลือไพร่ฟ้าจริง ย่อมต้องเสียสละ เรื่องนี้พระองค์ทรงทราบดี”ฮองเฮาเซี่ยเหยียนหัวเราะเสียงหยัน นางมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร จุดที่ต้องถูกเปิดโปงเรื่องดำมืดซึ่งเคยก่อไว้ ถึงจะล้างมือไม่ทำสิ่งชั่วร้ายมานานทว่าอดีตที่เคยก่อกรรมสุดท้ายก็ไล่ตามนางทัน“ข้าไม่ได้กลัวจะต้องสิ้นลมหายใจ เพียงแต่ไม่อยากให้ผู้ร้ายตัวจริงลอยนวล”“ฮองเฮาหมายถึงผู้ใด”“รั่วเจี๋ย เจ้าไม่ใช่คนโง่ มารดาเจ้าเป็นถึงองค์หญิงผู้สูงศักดิ์แห่งแคว้นฉีเฟิง เรื่องนี้เจ้าคงรู้จากผู้อื่นแล้ว”ฟ่านรั่วเจี๋ยฟังสิ่งที่ฮองเฮาเซี่ยเหยียนกล่าวโดยไม่ได้เอ่ยตอบ“แต่เดิมข้าให้ซานเอ๋อติดตามเจ้าด้วยอยากชดใช้สิ่งที่ผิดพลาดในอดีตตอนนี้คงถึงเวลาที่ข้าควรตั
สุกรคลั่ง“ฮูหยิน...” จางฉีร้องเสียงหลง พยายามไล่หมูตัวโตท่าทางดุร้ายป่าเถื่อนแต่ไม่เป็นผล มันวิ่งตรงแน่วมาหาฟ่านรั่วเจี๋ยราวกับเห็นเป็นศัตรูคู่อาฆาตองครักษ์สองนายรีบโผนทะยานมาขวางทาง แต่เหมือนจะไม่ทันกาล ด้วยมีหมูอีกหลายตัวบึ่งตรงมาจากทุกทิศทุกทางราวกับมีเป้าหมายเดียวกันคือฟ่านรั่วเจี๋ยจางหมิ่นที่อยู่ห่างออกไปเห็นว่าฟ่านรั่วเจี๋ยตกอยู่ในอันตราย นางโผนทะยานเข้ามาให้ความช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว เมื่อมาถึงจึงเปิดทาง ตั้งใจให้ฟ่านรั่วเจี๋ยหลบที่ร้านขายผ้าซึ่งอยู่ไม่ห่างจากจุดดังกล่าว แต่ไม่ทันได้ไปไกลจากจุดที่รถม้าจอดอยู่ หมูตัวหนึ่งที่ถูกองครักษ์สกัดไม่สำเร็จ กลับดิ้นปัดไปมาแล้วเตรียมโจมตีฟ่านรั่วเจี๋ย มันร้องหวีดเสียงแหลมชวนให้ขนลุกมิน้อยกระบี่อ่อนที่จางหมิ่นซ่อนเอาไว้ที่สายรัดเอวเผยออกมา นางตั้งท่าเตรียมใช้มันสังหารหมูตัวดังกล่าว ยามนั้นฟ่านรั่วเจี๋ยสังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่าง เหล่าหมูซึ่งกรูเข้ามาหานางไม่ได้รับยาสั่ง หากพวกมันกำลังป่วย ดูเหมือนดวงตามองไม่เห็นสิ่งใด และมันต่างได้กลิ่น กลิ่นสมุนไพรบางอย่างจึงทำให้คลั่ง แล้ววิ่งตรงมาหมายทำร้ายนางฟ่านรั่วเจี๋ยคิดได้ว่ากระโปรงของตนเปื้