ตอนที่ 2
ลิ้นกับฟัน
“ปีนี้อายุเท่าไหร่แล้ว”
บารมีถามลูกชายเพื่อต้องการโยงไปถึงเรื่องต่อไปที่เขากำลังจะพูดซึ่งเป็นเรื่องที่ภูริดลก็รู้ดีว่ามันคือเรื่องอะไร
“ 33 ครับ คุณพ่อกำลังจะพูดต่ออีกว่าอายุก็มากแล้วเมื่อไหร่จะหาแฟนสักคนหรือแกอยากให้พ่อยกสมบัติทั้งหมดให้ คุณนารี”
ชายหนุ่มทำท่าทางน้ำเสียงล้อเลียนคนเป็นพ่อด้วยใบหน้าที่บึ้งตึงมองสบตาคนพูดโดยที่ไม่ยอมละสายตาไปไหนต้องการแสดงออกให้รู้ว่าเขาเบื่อเหลือเกินที่จะต้องฟังเรื่องราวเดิม ๆ แบบนี้ทุกวัน
“ลูกก็รู้ว่าพ่อต้องพูดเรื่องนี้ก็แล้วทำไมไม่ทำให้มันสำเร็จ สักทีล่ะพ่อเริ่มคิดแล้วนะหรือความจริงแกไม่ได้ชอบผู้หญิงเหมือนอย่างที่คนอื่นเขาพูดกันพ่อไม่ว่าถ้าแกจะมีรสนิยมทางเพศแบบนั้นแต่ก็ควรจะพูดความจริงไม่ใช่เอาแต่อ้างนู่นอ้างนี่สุดท้ายอย่าหวังไปถึงมีครอบครัวเลยแค่แฟนสักคนก็ยังไม่เคยเห็นแกพามาบ้าน”
ข้าวต้มถูกตักเข้าปากเพียงแค่ไม่กี่คำ ชายหนุ่มก็วางช้อนลงคว้าผ้าข้าง ๆ มาเช็ดปากแสดงให้คนเป็นพ่อรู้ว่าคำพูดของผู้ใหญ่กำลังทำให้เขาไม่มีอารมณ์ที่จะกินข้าวต่อก่อนที่จะยกมือไหว้สวัสดีตอนเช้าและเดินออกจากบ้านไปทำงาน
สิ่งที่เกิดขึ้นแบบนี้มันเกิดขึ้นในเกือบทุกวัน นารีแม่เลี้ยงที่ไม่เคยทำอะไรไม่ดีกับลูกเลี้ยงสักครั้งแต่กลับไม่เคยได้รับการเปิดใจ ได้แต่ยืนมองอยู่ข้าง ๆ เพราะเธอไม่อยากเข้ามามีส่วนรู้เห็นในเรื่องนี้ด้วยเพราะเหตุการณ์เท่าที่เกิดขึ้นตอนนี้เธอกับลูกเลี้ยงก็ไม่เคยมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเลยสักครั้ง
“คุณก็พูดเรื่องนี้กับลูกบ่อยไปไหมคะเขาคงยังไม่เจอคนที่ใช่เราเองก็ไม่ควรจะไปบังคับเขาเรื่องของหัวใจมันบังคับกันไม่ได้หรอกค่ะ”
ลูกชายเดินออกไปแล้วนารีจึงรีบเดินเข้ามายังโต๊ะอาหารเพื่อหวังปลอบใจคนเป็นสามีเพราะเธอรู้มาตลอดว่าบารมีห่วงเรื่องนี้และมีความกังวลจนทำให้ความเครียดของเขานำโรคภัยกลับมาอีกคนเป็นภรรยาจึงรู้สึกเป็นห่วง
“คนอย่างดลถ้าไม่บังคับมันไม่มีทางทำหรอก คุณเองดีกับมันแค่ไหนลูกผมมันเคยมองเห็นไหม ทุกวันนี้มันก็ยังมองว่าคุณมาหลอกผมทั้งที่ตลอดเวลาที่เราแต่งงานกันมาคุณไม่เคยเรียกร้องการจดทะเบียนสมรส เงินทองที่ผมให้คุณก็แค่พอกินพอใช้ไปในแต่ละวัน นารีโลกนี้มันโหดร้ายนักคุณทำตัวเป็นคนดีผมกลัวเหลือเกินว่านึงคุณจะปกป้องตัวเองไม่ได้ถ้าผมจากโลกนี้ไป คุณเองนั่นแหละที่จะลำบากไอ้ดลมันจะให้คุณกินรึหรือก็คงไม่มีทาง”
บารมีตัดสินใจรับนารีเข้ามาเป็นภรรยาหลังจากที่แม่ของ ภูริดลเสียชีวิตไปได้เกือบ 3 ปีทั้งที่ตอนนั้นเขารู้สึกเจ็บปวดตรอมตรมกับการโทษตัวเองที่เป็นสาเหตุทำให้ภรรยาต้องฆ่าตัวตายหนีความทุกข์ไปแบบนั้นเพราะเมื่อครั้งสมัยวัยรุ่นเขาเป็นผู้ชายที่เจ้าชู้และทุกครั้งที่ทะเลาะกับภรรยาก็มักจะใช้ความรุนแรงโดยที่ไม่เคยมองว่าตัวเองเป็นคนผิดแต่เมื่อทุกอย่างสายเกินไปเขาจึงกลับตัวใหม่และนารีก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่เคยเป็นเมียน้อยเขา เธอเป็นเพียงแค่พนักงานในบริษัทที่เขาเคยช่วยเหลือเมื่อครั้งที่ครอบครัวของเธอเดือดร้อนจนแม่ของเธอจากไป เธอจึงกลายเป็นแค่เด็กกำพร้าบารมีจึงตัดสินใจรับเธอเข้ามาเป็นภรรยาอย่างเปิดเผยแต่ไม่มีการจดทะเบียนสมรสและเรื่องนี้ภูริดลก็ไม่เคยรู้ ชายหนุ่มยังเฝ้าคิดแต่ว่าเมื่อไหร่ที่พ่อของเขาจากไปสมบัติบางส่วนก็คงต้องตกเป็นของภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายซึ่งก็คือแม่เลี้ยงของเขานั่นเอง
“จัดการได้เลยนะเดี๋ยวฉันส่งข้อมูลผู้หญิงที่ฉันต้องการไปให้ขอแบบเร็วที่สุด ฉันพร้อมจ่ายไม่อั้นเรื่องสัญญาฉันจะเป็นคนร่างสัญญาไว้เองแกมีหน้าที่แค่หาผู้หญิงมาและนัดวันให้ฉันดูตัวถ้าฉันโอเคก็เป็นอันตกลง”
ภูริดลตัดสินใจโทรศัพท์หาเพื่อนทันทีทุกครั้งที่ต้องเจอบิดาในเวลาของอาหารเช้า เขาไม่เคยได้กินข้าวอย่างมีความสุขเพราะต้องคอยตอบคำถามซ้ำ ๆ ในสิ่งที่เขาเองก็ไม่เคยรู้คำตอบและวันนี้เขาตัดสินใจแล้วว่าเขาจะทำให้บิดาเห็นว่าเขาไม่ใช่ชายรักชายและเขาก็ไม่จำเป็นต้องมีแฟนมากมายก็สามารถหาภรรยาที่ถูกต้องได้
“คุณดาวมาขอพบค่ะ”
เลขาของภูริดลเดินเข้ามาบอกว่าเพื่อนสาวคนสนิทของเจ้านายต้องการขอเข้าพบในเวลานี้เพราะปกติแล้วชายหนุ่มจะไม่ยอมให้ใครเข้าพบถ้าไม่ได้นัดหมายล่วงหน้า
“หวังว่าคงจะเป็นธุระสำคัญเพราะผมก็บอกแล้วว่าไม่ชอบให้คนมาหาโดยที่ไม่ได้นัดหมายมาก่อน”
ดุจดาวลูกสาวคนเดียวของเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เธอเป็นเพื่อนสนิทกับภูริดลมาตั้งแต่สมัยมัธยมและทั้งคู่ก็มาเลิกติดต่อกันอีกครั้งเมื่อหญิงสาวตัดสินใจไปเรียนต่อต่างประเทศความสัมพันธ์ของทั้งคู่ค่อย ๆ ห่างกันไปเรื่อย ๆ เมื่อดุจดาวตัดสินใจแต่งงานกับชาวต่างชาติและความสนิทก็พยายามจะกลับมาอีกครั้งเมื่อดุจดาวต้องหย่าขาดจากสามีและกลับมาอยู่เมืองไทย
“ดลทำไมต้องทำหน้าแบบนั้น เพื่อนจะมาหาเพื่อนบ้างไม่ได้เลยใช่ไหมจะต้องให้นัดหมายยุ่งยากเหมือนกับว่าดาวเป็นลูกค้าหรือว่าตอนนี้ดลเป็นถึงประธานบริษัทดาวมันก็เป็นเพียงแค่เพื่อนสนิทที่ดลลืมแล้ว”
แขกผู้มาหาทำเสียงออดอ้อนพยายามเอาอกเอาใจให้อีกฝ่ายรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นแต่มันก็เปล่าประโยชน์เพราะภูริดลรู้ดีว่าการที่ดูจดาวกลับมาหาเขาครั้งนี้เพราะเธอต้องการอยากได้เข้าเป็นสามีเพื่อกู้หน้าที่ครอบครัวของเธอล้มเหลว หญิงสาวไม่อยากให้บรรดาวงการไฮโซพากันนินทาพ่อแม่ของเธอที่ลูกสาวถูกสามีฟ้องหย่า
“เราเป็นคนแบบนี้แหละถ้าดาวไม่สบายใจก็ไม่ควรมาหาเรานะ”
ชายหนุ่มไม่ต้องการพูดจาให้ความหวังใด ๆ ทั้งสิ้นถึงแม้ตัวเขาเองจะไม่ได้มีความรู้สึกอะไรกับดุจดาวแต่ก็แอบน้อยใจไม่ได้ว่าเมื่อครั้งที่เธอเดินทางไปต่างประเทศเธอไม่เคยคิดจะติดต่อกลับมาภูริดลเคยส่งข้อความไปหาเธอ เธอกลับอ่านแล้วไม่ตอบและครั้งนั้นทำให้ชายหนุ่มยิ่งเกลียดการมีครอบครัวเข้าไปอีกเพราะมันทำให้เขาต้องเสียเพื่อนไป
“ดาวซื้อขนมมาฝากจำได้ว่าดลชอบกินขนมร้านนี้มากแต่ถ้าดลยังไม่ค่อยสะดวกดาวขอตัวกลับก่อนแล้วกัน”
สาวสวยวางกล่องขนมไว้ที่โต๊ะและหันหลังก้าวออกมาจากประตูห้องหวังว่าจะได้ยินเสียงอีกฝ่ายรั้งเธอไว้แต่กลับมีแค่เพียงความเงียบเท่านั้น ดุจดาวรู้สึกหน้าชาเธอพยายามปั้นหน้าทำดีกับชายหนุ่มแต่กลับได้คืนมาเพียงแค่ถ้อยคำพูดจาที่สุดแสนจะทำร้ายน้ำใจ หญิงสาวคิดว่าถ้าเธอมองหาทางเลือกอื่นที่ดีกว่าได้เธอจะไม่มีทางกลับมาง้อเพื่อนสนิทคนนี้อีกเลย
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นและจากชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอทำให้ ภูริดลรู้ได้ทันทีว่ายุทธโทมาต้องเป็นข่าวที่เขาสั่งให้เพื่อนไปจัดการเมื่อเช้านี้แน่
“เย็นนี้แกเตรียมตัวเลยนะผู้หญิงคนนี้เพิ่งเรียนจบมหาวิทยาลัยบริสุทธิ์แน่นอนที่สำคัญสวยและได้เกียรตินิยมอันดับ 1”
ภูริดลอดที่จะขำออกมาไม่ได้เขาไม่เชื่อหรอกว่าจะมีผู้หญิงที่ไหนโปรไฟล์ดีขนาดนั้นตัดสินใจยอมใช้ร่างกายของตัวเองแลกเงินเพราะถ้าเธอเลือกที่จะไปสมัครงานก็คงจะมีแต่คนอ้าแขนรับนอกเสียจากว่าเธอจะเป็นคนรักความสบายไม่ยอมที่จะเหนื่อยกับ การทำงานใด ๆ ทั้งสิ้นจึงคิดว่าการใช้ร่างกายของเธอจะทำให้เธอมีความสุข สร้างเงินได้จำนวนมหาศาลแต่ถ้าเธอเป็นผู้หญิงแบบนั้นจริง ๆ เขาก็คงไม่ตัดสินใจเลือกมาเป็นแม่ของลูก
“คุณ”
ทันทีที่ทั้งสองได้เห็นหน้ากันต่างก็ลุกขึ้นแสดงความตกใจและไม่ยินดีที่จะร่วมงานกันเพราะงานที่ทั้งคู่กำลังจะตกลงมันต้องมีความใกล้ชิดสนิทสนมถึงขั้นเป็นสามีภรรยาอยู่ด้วยกันตลอดเวลาต่างฝ่ายต่างก็คิดว่าคนตรงหน้าคงไม่เหมาะ
“ผู้หญิงอย่างคุณน่ะหรอที่จะยังบริสุทธิ์อยู่”
คำพูดที่ออกจากปากก็เริ่มดูถูกทันทีภูริดลไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเขาถึงพูดอย่างนั้นออกไปทั้งที่ปกติแล้วเขาก็ไม่ใช่คนดูถูกผู้หญิงขนาดนี้แต่เมื่อเห็นหน้าตาน่ารักและดวงตาที่ใสซื่อของคนตรงหน้ามันทำให้เขายิ่งรู้สึกว่าเธอกำลังเล่นละครเพราะคงไม่มีผู้หญิงไร้เดียงสาคนไหนที่กล้ามาเสนอขายตัวแบบนี้
“คุณคิดว่าฉันไม่บริสุทธิ์หรือคุณไม่กล้าพอที่จะจ่ายกันแน่”
พิรฎาเข้าใจว่าภูริดลรู้จำนวนค่าจ้างที่เธอได้บอกกับนายหน้าไว้แล้วแต่ความจริงชายหนุ่มยังไม่ได้ถามสักคำ เขาตั้งใจมาที่นี่เพื่อต้องการดูสินค้าก่อนว่าเขาจะสามารถรับกับราคาที่นายหน้าเสนอได้ไหม
“ดูถูกผมมากไปแล้วมั้งผู้หญิงอย่างคุณจะเรียกราคาเท่าไหร่กัน”
“ 10 ล้านบาทแต่ดูแล้วผู้ชายอย่างคุณคงดีแต่ปาก เงินตั้ง 10 ล้านถึงคุณจะมีก็จริงแต่คงจะมาใช้ซื้อความสุขแบบนี้ไม่ได้หรอกหรือว่าต้องขอคุณพ่อก่อนคะบางทีท่าทางดูเป็นผู้ใหญ่แต่สุดท้ายก็อาจจะเป็นแค่ลูกแหง่ต้องทำอะไรตามคำสั่งคุณพ่อเท่านั้น”
ทุกคนในวงสนทนาต่างหันมามองหญิงสาวด้วยความตกใจเพราะตอนแรกพิรฎาเรียกค่าจ้างในครั้งนี้แค่เพียง 1 ล้านบาทแต่ตอนนี้เธอขึ้นราคาโดยที่ไม่ได้ปรึกษาใครถึง 10 เท่าพร้อมกับคำดูถูกที่จี้ปมด้อยในหัวใจของภูริดล
“ผมตกลงจ้างคุณในราคา 10 ล้านบาท คุณพร้อมที่จะ เซ็นสัญญาเลยไหม วันนี้ผมเตรียมทุกอย่างมาแล้วและหวังว่าคุณจะบริสุทธิ์อย่างที่พูดจริง ๆ ผมทดลองแล้วถ้ามันไม่ใช่ผมจะเรียกค่าเสียหายคืนสิบเท่าทันที”
หญิงสาวจากที่ตั้งใจว่าเธอจะอ่านสัญญาโดยละเอียดแต่อารมณ์นี้เธอต้องการท้าทายเขาว่าเธอเองก็มั่นใจในตัวเองจึงจรดปลายปากกาเซ็นสัญญาทันทีโดยไม่รู้เลยว่านอกจากการเป็นภรรยาแล้วมันยังมีอย่างอื่นซ่อนอยู่ในสัญญาฉบับนั้น
“คุณจะให้ฉันเริ่มงานเมื่อไหร่”
“พรุ่งนี้ทันทีส่วนรายละเอียดที่คุณจะต้องโกหกพ่อผม ผมจะพูดให้คุณฟังในระหว่างที่ผมมารับคุณเข้าไปอยู่ในบ้าน หวังว่าเงิน 10 ล้านของผมจะไม่เสียฟรีจากโปรไฟล์ของคุณนอกจากสวยก็ยังฉลาดคิดว่าคงไม่โง่พอที่จะทำให้แผนของผมไม่สำเร็จ ส่งที่อยู่มาพรุ่งนี้ผมจะไปรับคุณเอง”
ตอนที่ 1ระบายอารมณ์ “คุณคราม ทิพย์ว่าคุณเมามากแล้วนะคะ ขึ้นห้องเถอะค่ะ” ข้าวทิพย์เธอกลัวว่าลูกชายเจ้านายของเธอ จะเมากองอยู่กลางห้องรับแขกแบบนี้ เพราะถ้าเป็นแบบนั้น หากคุณอเนกกลับมาจากงานเลี้ยง ท่านจะต้องไม่พอในเธอแน่ ๆ ที่ยอมให้ลูกชายของเขาดื่มจนเมาแบบนี้ “หยุดเลย! เธอเป็นใครถึงได้มาสั่งฉัน ข้าวทิพย์ถ้าแม่เธอไม่มาเดินขวางทางรถที่แพรขับ พ่อของฉันก็ไม่ต้องเสียเงินปิดคดี และต้องมานั่งรับผิดชอบเธอแบบนี้หรอก” สีหน้าดุดัน และจ้องมองเธอแบบจะกินเลือดกินเนื้อ หญิงสาวไม่เคยได้ยินคำพูดแบบนี้ออกจากปากของครามเลย เพราะปกติแล้ว ชายหนุ่มเป็นคนพูดน้อย แล้วเรื่องที่แพรรำภาคู่หมั้นของเขาขับรถชนแม่เธอ ใคร ๆ ก็รู้ว่าใครเป็นฝ่ายผิด &l
ตอนที่ 8ทะเบียนสมรส เสียงของผู้หญิงที่ดังแทรกเข้ามาก่อนที่ภูเบศจะวางสายทำให้หัวใจของผู้หญิงที่ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองมีตัวตนในชีวิตของเขาไม่สบายใจ ล้านนาพยายามที่จะข่มตาให้หลับลงแต่มันก็ไม่สำเร็จ เธอวางสายจากเจ้านายไปเกือบสองชั่วโมงแล้วแต่ความรู้สึกมันเหมือนทุกอย่างยังคงวนเวียนอยู่ในความคิดของเธอ เสียงรถยนต์มาจอดที่หน้าบ้านและตามมาด้วยเสียงประตูหน้าบ้านเปิดออก หญิงสาวรีบลุกออกจากเตียงนอนมาดูที่หน้าต่างด้วยความตกใจเพราะเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมีใครมาหาเธอ “ไหนคุณว่าจะนอนกับคุณแม่คุณไม่ใช่หรือคะ” หญิงสาวดีใจที่คนที่มาคือผู้ชายที่เธอสุดแสนจะคิดถึงและมีเรื่องค้างคาใจ
ตอนที่ 7มือที่สามที่ไม่ได้รับเชิญ “ไม่ได้พักที่เดิมหรือล้านนาเดี๋ยวนี้พี่ไม่เห็นเธอกลับรถสายเดิม” ดลย์พนักงานรุ่นพี่เดินเข้ามาทักหญิงสาวที่กำลังเดินลงทางบันไดหนีไฟเพราะตอนนี้ที่ลิฟท์มีคนรออยู่หลายคน “อืม ล้านนาย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้วค่ะ นึกอย่างไรคะถึงได้มาเดินลงบันไดหนีไฟแบบนี้” “คนรออีกเพียบเดินออกกำลังกายดีกว่า วัน ๆ ทำงานก็นั่งอยู่แต่กับเก้าอี้จะได้ยืดเส้นยืดสายด้วย” รุ่นพี่ทำงานทำท่าทางประกอบให้รู้ว่าเขาต้องการออกกำลังกายจริง ๆ “ข้างนอกฝนตกแรงแบบนี้ ล้านนาให้พี่ไปส่งไหมหรือไม่ก็ไปลงตรงไหนที่ใกล้ที่พักแล้วค่อยต่อรถไปอีกทีก็ได้ถ้ารออยู่หน้าบริษัทแบบนี้พี่ว
ตอนที่ 6รู้แค่วันนี้ฉันยังมีเธอ “ล้านนาหายไปไหนมา งานที่พี่ให้เธอทำไม่มีอะไรใช่ไหม” ยุพารีบเข้ามาประกบลูกน้องทันทีที่ล้านนามาถึงที่บริษัท “ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ พี่ยุพาสบายใจได้ไม่มีใครรู้ว่าพี่เอางานมาให้หนูทำ” ยุพาค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อยเพราะการที่ลูกน้องของเธอลางานสองวันติดแถมยังเป็นการหายไปพร้อมเจ้านายอีก ยุพาแอบกลัวว่าจะเกี่ยวกับงานที่เธอจ้างให้ทำ การทำงานยังคงเป็นไปอย่างปกติแต่ที่ทุกคนในแผนกกำลังให้ความสนใจคือยุพาถูกท่านรองประธานบริษัทเรียกเข้าไปคุยเกือบชั่วโมงยังไม่ออกมา “ล้านนาจะเกี่ยวกับเราสองคนไหม” ส้มโอ
ตอนที่ 9ความรักชนะทุกอย่าง ล้านนายังคงมีอาการแพ้ท้อง ภูเบศจึงไม่ยอมให้เธอไปทำงานให้นอนพักอยู่ที่บ้าน ส่วนตัวเขาเองรีบเข้าบริษัทอย่างรีบร้อนแต่ไม่ใช่เพราะมีงานเร่งด่วนแต่เขามีธุระสำคัญต้องคุยกับบิดา ประจักษ์ไม่ค่อยได้กลับบ้านเพราะกลับไปทีไรก็ต้องได้มีเรื่องทะเลาะกับราตรีทุกที “คุณพ่อครับผมมีเรื่องสำคัญจะปรึกษา” คนเป็นลูกมองไม่เห็นใครแล้วที่จะช่วยคุยกับมารดาของเขาได้นอกจากบิดาเพียงคนเดียว ภูเบศเล่าเรื่องราวระหว่างเขากับล้านนาให้กับประจักษ์ฟังตั้งแต่เริ่มต้นและสุดท้ายก็จบลงด้วยเรื่องของทรายแก้วอดีตคนรักที่มารดาต้องการจะให้เขาแต่งงานด้วย “ลูกทำไมปล่อยให้ทุกอย่างเลยเถิดมาถึงขั้นนี้แต่ก็ยังดีนะที่ไม่ปล่อยให้ทุกอย่างเกินเลยไปจนเกินแก้ไข” ประจักษ์เข้าใจและพร้อมจะอยู่ข้างเขาแต่ก็อดที่จะตำหนิไม่ได้ที่ภูเบศปล่อยให้ทุกอย่างมาไกลจนล้านนาท้อง “ผมแค่คิดว่ายังไม่พร้อมจะสละชีวิตโสดแต่พอมารู้ว่าผมกำลังจะได้เป็นพ่อคนและล้านนาจะไปจากผม ทุกอย่างรอไม่ได้อีกแล้ว” “ชีวิตคนเรามันสั้นนัก อย่าทำอะไรผิดพลาดแล้วไม่รีบแก้ไขเหมือนพ่อก
ตอนที่ 5สถานะที่ไม่ได้เลือก “คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม” ล้านนายังไม่ยอมลงจากรถเมื่อมาถึงหน้าบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ที่อยู่ส่วนในสุดของหมู่บ้านที่ดูสะอาด สงบน่าอยู่มาก ๆ “บ้านหลังนี้คือบ้านที่คุณต้องอยู่จนกว่าผมจะเบื่อ” ภูเบศลงจากรถมาเปิดประตูให้หญิงสาวที่ยังคงนั่งสับสนทำอะไรไม่ถูก “ลงมาเถอะยังมีอีกหลายอย่างที่เราต้องจัดการภายในวันนี้ให้เสร็จ” เจ้าของบ้านเดินนำเข้าบ้านไปพร้อมกระเป๋าหลายใบในมือที่เป็นข้าวของที่หญิงสาวขนมาจากห้องพักเดิม “คุณให้ฉันมาอยู่ที่บ้านใคร” ล้านนารู้สึกไม่ไว้ใจ “บ้านผม บ้านหลังนี้ผมซื้อไว้ขายแต่ตอนนี้คงไม่ขายแล้ว อย่าเสียเวลาถามอะไรอยู่เลย ลองมองดูว่าขาดเหลืออะไรจะได้พาไปซื้อ ทางร้านจะได้มาส่งวันนี้ทัน” เจ้าของบ้านเดินออกไปขนของในรถมาวางกองรวมกันไว้ในขณะที่คนมาใหม่ก็เดินสำรวจไปรอบ ๆ บ้านหลังนี้เป็นบ้านชั้นเดียวมีเนื้อที่รอบบ้าน ห้องนอนสี่ห้องทำให้ล้านนารู้สึกว่าที่นี่มันใหญ่เกินไปสำหรับการที่เธอต้องอยู่อาศัยเพียงคนเดียว “บ้านมันใหญ่เกินไป ฉันไปอยู่ห้องเช่าเหมือนเดิมดีแล้ว”