“งั้นเหรอ?” ทิโมธีเดินไปรับถ้วยน้ำอุ่น จากนั้นเขาก็ก้าวเข้าไปอีกก้าวและขยับเข้าไปใกล้เซเลน่ามากขึ้นกลิ่นตัวจาง ๆ ของเซเลน่า ประกอบกับน้ำหอมของเธอ มันกระตุ้นทิโมธี“โอ้ พระเจ้า!” มือของเขาสั่นเล็กน้อยตอนที่เขาหยิบถ้วยขึ้นมา ทำให้น้ำจากถ้วยหกใส่หน้าอกของเซเลน่า“อ๊า!” เซเลน่าตะโกนด้วยความตกใจ ถึงแม้ว่าน้ำจะไม่ร้อนมากนัก“ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ...ฉันไม่ได้ตั้งใจ คุณเซเลน่า ให้ฉันช่วยเช็ดให้นะ” ทิโมธีเตรียมการไว้แล้วสำหรับสิ่งนี้ ขณะที่เขากำลังจะเอื้อมมือไปทางเธอ เซเลน่าก็ตะคอกออกมาทันที“ไปให้พ้น! ฉันเช็ดเองได้!” เซเลน่าตกใจกับการกระทำของเขาและถอยห่างจากเขาออกไปสองสามก้าว ทิโมธีพลาดไป มือของเขาอยู่ห่างจากเสื้อของเธออีกเพียงแค่ไม่กี่เซนเซเลน่าหยิบกระดาษทิชชู่ออกมาหลายแผ่นทันทีและซับเบา ๆ ตรงบริเวณที่เปียกบนเสื้อผ้าของเธอทิโมธีผิดหวังมากกับความคิดที่รวดเร็วของเซเลน่า แต่มันก็ไม่ได้ลบความตื่นเต้นของเขาออกขณะที่เธอมีอาการวุ่นวายเลย “คุณเซเลน่า ให้ฉันช่วยนะ” เขาขอร้องอีกครั้ง “ฉันเก่งนะ!”“นายน้อยเดรค คุณกำลังพูดถึงเรื่องอะไร? กรุณาอย่าล้ำเส้น ไม่งั้นฉันโกรธแน่!” สีหน้าของเซเลน่ามืดลงเมื
“ฮ่าฮ่า! คุณเป็นผู้หญิงนะ! คิดว่าฉันที่เป็นผู้ชายจะกลัวไหม ถ้าคนอื่นไม่รู้เรื่องนี้? แล้วใครจะเชื่อว่าคุณไร้เดียงสา? คนอื่นคงพูดว่าคุณเป็นคนที่ล่อลวงฉันมากกว่าเพราะเงินเดือนหนึ่งล้านเหรียญที่คุณได้รับ จริงไหม? ที่นี่ใครมีอำนาจ คุณหรือฉัน?” ทิโมธีหัวเราะและพูดต่อว่า “คุณลองคิดดูนะเซเลน่า เทย์เลอร์ คุณลองคิดให้ดี ฉัน ทิโมธี เดรค อยากได้คุณตอนนี้ และคุณไม่มีทางเลือกนอกจากต้องทำตามที่ฉันพูด!”“ฝันไปเถอะ!” เซเลน่าหน้าซีดมาก เธอไม่คิดว่าทิโมธีจะเลวขนาดนี้“คุณควรคิดให้ดีนะ ถ้าคุณไม่ทำตามที่ฉันบอก ฉันจะยกเลิกสัญญากับตระกูลเทย์เลอร์ ค่าชดเชยเพียงแค่หนึ่งร้อยล้านเอง ไม่ได้เยอะเท่าไหร่ ฉันสามารถจ่ายได้!” ทิโมธียิ้มอย่างเย็นชา “ประการที่สอง ฉันไล่สามีคุณออกไปแล้ว และตอนนี้เขาก็ตกงานแล้ว จะเกิดอะไรขึ้นกับค่าใช้จ่ายของครอบครัวคุณเพราะตอนนี้เขาสูญเสียเงินเดือนยี่สิบล้านเหรียญไปแล้ว?”“ว่าไงนะ?! คุณ...คุณไล่เขาออกเหรอ?!” เซเลน่าตกใจที่ทิโมธีพูดจาไม่ดี นายน้อยเดรคเลวเกินไปแล้ว เธอไม่คิดว่าเขาจะมีแนวซาดิสม์แบบนี้“อย่าใจร้อนนักสิ! ฉันยังพูดไม่จบ!” ทิโมธียิ้มด้วยความมั่นใจ “ลองคิดดูนะ ตอนนี้พวกคุณอา
ทิโมธีหัวเราะเยาะการขัดขืนของเซเลน่า “ฮ่าฮ่า! แล้วทำไมฉันต้องปล่อยคุณไปด้วย ยอมฉันซะเถอะ!” เขาผลักเธอลงบนโต๊ะอย่างแรงพร้อมกับจับเธอไว้"ไปให้พ้นนะ!" ด้วยความกลัวและความตื่นตระหนก เซเลน่าเตะไปที่ระหว่างขาของทิโมธีตอนที่เขาเข้ามาใกล้“อ๊าก!” ทิโมธีร้องตะโกนออกมาอย่างเจ็บปวดและคุกเข่าลงในท่าหมอบเซเลน่าลุกขึ้นทันทีที่ทิโมธีล้มลงไปและจ้องมองเขาขณะที่เธอรีบวิ่งไปที่ประตู “นายน้อยเดรค ไอ้สารเลว! ฉันขอลาออก!” เซเลน่าเปิดประตูแล้วรีบวิ่งออกไปทันที...“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมผู้จัดการเทย์เลอร์ถึงวิ่งออกมาจากห้อง!” พนักงานตกใจที่เห็นเซเลน่ารีบวิ่งออกมาจากห้องทำงานของเธอ“เขาพลาดงั้นเหรอ? ผมของผู้จัดการเทย์เลอร์ดูเหมือนจะยุ่งนิดหน่อย แต่เธอก็เปิดประตูและวิ่งออกไปทันที ดูเหมือนเธอจะเพิ่งร้องไห้ด้วย” เฟลิเซียพูดอย่างแปลกใจ “ดูเหมือนจะไม่ถูกต้องนะ มันไม่ควรเป็นแบบนี้ถ้าหากพวกเขามีความสัมพันธ์กันอย่างลับ ๆ เธอควรจะมีความสุขมากไม่ใช่เหรอ?”"ฉันจะไปรู้ได้ยังไง? ไปดูกันดีกว่า” ซอนย่ากับเฟลิเซียเดินเข้าไปในห้องทำงานของเซเลน่าทันที พวกเธอมองเข้าไปในห้องทำงานและพบนายน้อยเดรคหมอบอยู่บนพื้น เขาเอามือจับส่
“ผมจะไปเอาคำอธิบายจากเขา” เฟนด์กัดฟันพูด“อย่านะ! ที่เรากำลังพูดถึงอยู่นั่นมันตระกูลเดรคนะ!” เซเลน่าตกใจมากเมื่อเห็นท่าทางหุนหันพลันแล่นของเฟนด์ จึงจับมือของเขาไว้ “ที่รัก อย่าไปเลยนะ นั่นตระกูลเดรคนะ มันไม่ใช่คงามคิดที่ดีที่จะไปทำให้พวกเขาขุ่นเคือง นอกจากนั้น เขายังไม่ได้แตะต้องฉันอย่างไม่เหมาะสม ตอนที่เขากอดฉันอย่างแรง แต่ฉันก็หนีหลุดออกมาได้!”“นั่นไม่มีความหมายอะไรกับผม จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณหนีไม่ทัน? ตระกูลเดรคต้องให้คำอธิบายกับผม! เขากล้าดียังไงถึงมาเอาเปรียบคุณ!” เฟนด์กำหมัดแน่นมากหมัดขึ้น เขาหันไปหาเซเลน่าและอุ้มเธอเอาไว้ในอ้อมแขนในท่าเจ้าสาว เดินไปที่รถเมื่อเขาเห็นว่ามือของเธอยังคงจับเขาไว้อยู่“คุณกำลังจะทำอะไร? ฉันขอให้คุณไม่ไปที่นั่น!” เซเลน่าตกใจมากและยังรู้สึกกังวลในขณะที่เขาอุ้มเธอขึ้นราวกับเจ้าหญิง ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้ช่วยลบความกังวลของเธอออกไป เพราะยังไงซะ ตระกูลเดรคก็เป็นตระกูลที่แม้แต่ตระกูลชั้นสูงยังไม่กล้าทำให้ขุ่นเคือง แล้วเฟนด์ไปคนเดียวมันจะสำเร็จเหรอ?“คุณไม่ต้องห่วง ผมไม่ฆ่าพี่ชายของทันย่าหรอกเพราะยังเห็นแก่มิตรภาพของเรา แต่ถ้าหากเขาไม่คุกเข่าและขอโทษ ผมก็จะ
ในตอนนั้นทิโมธีจำได้ว่าจอมพลพ้ายแพ้ให้เขาในการต่อสู้ยังไง ด้วยความรู้สึกผิด เขาจึงพูดออกมาเบา ๆ ว่า “ก็ผมไม่รู้ว่าเฟนด์จะทรงพลังขนาดนั้น! ผมคิดว่าเขาเป็นเพียงหัวหน้าผู้บัญชาการที่ไม่คู่ควรกับความเคารพและคำชื่นชมจากตระกูลของเรา ผมเพิ่งรู้เรื่องนี้ก็ตอนที่จอมพลจากตระกูลเทิร์นเนอร์พ้ายแพ้ให้เขาในการต่อสู้แล้ว และนั่นมันก็หลังจากที่ผมไล่เขาออกไปแล้ว!”“ฮ่าฮ่า! พ่อเคยบอกแกไปนานแล้วนะว่าเขาเก่งพอ ๆ กับราชาแห่งสงครามเลย ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นเพียงราชาแห่งสงครามหนึ่งดาราก็ตาม! ที่สำคัญเขาสนิทกับเทพีแห่งสงคราม แกไม่รู้เหรอ? เทพีแห่งสงครามเต็มใจมาคุยกับพ่อเพราะความสัมพันธ์ของเรากับเฟนด์!” ยิ่งเขาคิดเกี่ยวกับมัน เจมส์ก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเรื่อย ๆ “แล้วไง? พรุ่งนี้ผมจะไปหาเขาและขอให้เขากลับมาทำงานตามปกติ!” ทิโมธีไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเชื่อฟังพ่อของเขาหลังจากที่เขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะคนในตระกูลเดรคหลายคนเล่นมองเขาซะขนาดนี้ และไม่มีใครลุกขึ้นมาปกป้องเขาเลย“ฮ่าฮ่า! คิดถึงนิสัยของเขาสิ! ลูกคิดว่าเขาขาดเงินเหรอถ้าเขาเป็นราชาแห่งสงครามจริง ๆ? ประเทศจะให้เงินบำนาญแก่เขาหลายหมื่นล้านเหรียญเป็นราง
ทิโมธีพยายามหาข้อแก้ตัวสำหรับการกระทำของเขาที่ได้ทำลงไป“ลูกไม่กลัวว่าจะไปทำให้เขาขุ่นเคืองเหรอ? พ่อจะบอกให้นะ ถ้าแกทำให้เขาขุ่นเคืองจริง ๆ พ่อ...พ่อก็ช่วยอะไรแกไม่ได้หรอกนะ!” เจมส์โกรธจัดจนพูดไม่ออก เขามีลูกชายคนเดียวและเขากลายเป็นคนแบบนี้ได้ยังไง“เป็นไปไม่ได้! ล้อเล่นใช่ไหม? เราเป็นถึงตระกูลชนชั้นหนึ่งเลยนะ เรามียอดฝีมือมากมาย! แม้ว่าผมจะยอมรับว่าเฟนด์มีฝีมือดี แต่ผมไม่เชื่อว่าเราจะแพ้ถ้าทุกคนต่อสู้กับเขาทั้งกลุ่ม” ทิโมธีตอบกลับอย่างไม่แยแส เขาไม่เชื่อว่าเฟนด์จะน่ากลัวขนาดนั้นเจมส์เหลือบมองทิโมธีและประกาศออกมาอย่างเย็นชาว่า “โอ้ นั่นก็จริง เรากำลังรอแกอยู่ที่นี่เพราะเราอยากบอกบางอย่างกับลูก พ่อรู้สึกว่าลูกไม่ค่อยสนใจงานเลย ดังนั้นพ่อจึงไปตรวจดูที่เซ้าท์ซิตี้ กรุ๊ปมาและพบว่ามันสูญเสียเงินไปมาก ด้วยเหตุนี้ต่อไปบริษัทเซ้าท์ซิตี้ กรุ๊ปจะให้ทันย่าน้องสาวของลูกดูแลจัดการแทนตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป พ่อคิดว่าลูกน่าจะไปผ่อนคลายและพักผ่อนบ้าง”ทิโมธีสงสัยว่าเขาได้ยินพ่อพูดผิดไปหรือเปล่า และมองไปที่เจมส์อย่างงง ๆ “อะไรนะ? พ่อ ผมได้ยินไม่ผิดใช่ไหม? พ่อเพิ่งพูดว่าเซ้าท์ซิตี้ กรุ๊ป?”ในมุมม
“เขา...เขามันบ้ามาก! เขาหมายความว่าไง 'ลงมือ' ? พ่อ ฟังที่เขาพูดสิ การกระทำของเขาไม่เคารพต่อตระกูลเดรคเลย!” ทิโมธีสูดหายใจเข้าลึก ๆ เมื่อเขาได้ยินสิ่งที่บอดี้การ์ดพูดสิ่งที่เฟนด์พูด บอกตรง ๆ เลยว่าเขากลัว เซเลน่าคงไม่ได้บอกเฟนด์ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในออฟฟิศใช่ไหม?เขานึกขึ้นมาได้ว่าเขายังไม่ได้เอาเปรียบเซเลน่าเลย ไม่สำคัญหรอกว่าเซเลน่าจะเขินหรือว่าเธอมีความตั้งใจจะจัดการกับตระกูลเดรกจริง ๆ เธอคงไม่บอกเฟนด์เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเขาแต่ทิโมธีไม่คิดว่าเฟนด์จะมาตามหาเขา และนั่นมันจะทำให้เกิดปัญหาใหญ่เพราะเหตุนั้น เขาจึงต้องกระตุ้นความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับเฟนด์“เขาทำเกินไป นี่มันเป็นการข่มขูตระกูลเดรคของเรา!” หนึ่งในยอดฝีมือของตระกูลเดรคไม่พอใจ ความสามารถในการต่อสู้ของเขาแข็งแกร่งกว่าสเปคเตอร์เฟซมาก เขาไม่เกรงกลัวจอมพลและสามารถต่อสู้กับราชาแห่งสงครามได้ยอดฝีมือคนนี้เป็นคนแรกที่ลุกขึ้นมาต่อต้านคำขู่ของเฟนด์“ใช่ สิ่งที่ผู้เฒ่ากอร์ดอนพูดมีเหตุผล หมอนั่นชอบทำตัวแบบนี้เสมอ เราควรจะทำให้เขารู้ว่าเขาอยู่ในฐานะไหน!” ทิโมธีรู้สึกโล่งใจที่มีคนอื่นมาแสดงจุดยืนในเรื่องนี้ด้วย และ
เซเลน่าเกรงกลัวนิดหน่อยเมื่อเห็นว่ามีคนมากมายอยู่ตรงหน้าเธอ บอดี้การ์ดส่วนใหญ่ก็อยู่ที่นี่ด้วย ไม่นานก็มีคนอยู่ฝั่งตระกูลเดรคหนึ่งถึงสองร้อยคน เธอจึงเกลี้ยกล่อมเฟนด์ทันทีแต่เฟนด์ยังคงยืนอยู่ที่เดิมและไม่ขยับไปไหน เขาจ้องทิโมธีอย่างเย็นชาและพูดว่า “ทิโมธี มานี่สิ คุกเข่าแล้วขอโทษภรรยาของฉัน คำนับสามครั้งและฉันจะปล่อยทุกอย่างไป ถ้าไม่อย่างนั้น นายจะต้องเสียใจแน่ถ้าฉันลงมือเอง!”“ไอ้บ้า มันจะไม่มากเกินไปหน่อยเหรอ?!” ผู้เฒ่ากอร์ดอนอดทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาเริ่มโมโห ดังนั้นเขาจึงเดินออกมาข้างหน้าสองก้าว มองไปที่เฟนด์แล้วพูดว่า “นี่คือตระกูลเดรคนะ! นายรู้ไหมว่าทิโมธีเป็นใคร? เขาเป็นนายน้อยคนโตของตระกูลเรา! มันก็ไม่อะไรหรอกถ้าจะเรียกชื่อเขาตรง ๆ แต่นายกล้าดียังไงถึงมาสั่งให้คนที่มีเกียรติอย่างเขาคุกเข่าและคำนับให้นาย! นายนี่ช่างอวดดีเสียจริง!”เฟนด์มองชายชราคนนี้อย่างเย็นชาก่อนจะพูดว่า “ฉันกำลังพูดกับทิโมธี กรุณาอย่ามาขัดจังหวะในการพูดคุยของเรา!”“นาย...” ผู้เฒ่ากอร์ดอนโกรธจัดและกำมือแน่น “แน่นอน พวกเขาทั้งหมดบอกว่านายแข็งแกร่ง และในเมื่อนายกล้าแสดงท่าทางอวดดีต่อหน้าพวกเราที่คฤหาสน์ตระกูลเด