ชายวัยกลางคนกลืนน้ำลายอึกและพูดอย่างตะกุกตะกัก “พวกคุณ… ยังมีคำถามอยู่อีกเหรอ? ถ้าไม่มี เรา…เราไปเลยได้ไหม?”เทาคิดก่อนจะดึงหลุยส์ไปหาและพูดว่า “นายท่านฟรีแมน ทำไมเราไม่ปล่อยคนพวกนี้ไป? เราสัญญาไว้แล้วว่าจะปล่อยไปถ้ามันบอกมาทุกอย่าง”“ปล่อยงั้นเหรอ?” นายท่านฟรีแมนยิ้มเย็นชา “ผู้อาวุโสแลมเบิร์ต คุณเป็นคนสัญญา ไม่ใช่ฉัน แต่ไม่ต้องห่วง เพราะฉันจะฆ่าพวกมันเอง ไม่ต้องกระดิกนิ้วเลยด้วยซ้ำ อย่างนี้จะไม่ผิดสัญญาแล้วใช่ไหม?”เทาคิดและเสนอ “ฆ่าคนพวกนี้ก็ไม่มีประโยชน์ ไม่ได้แก้แค้น ทำไมเราไม่ปล่อยมันไปแล้วถ้าเจอเฟนด์กับคนอื่น ๆ เมื่อไหร่ก็ให้มันมาบอก? ในเมื่อเราปล่อยมันไป มันก็เป็นไปได้ที่มันจะติดหนี้เรา! ถ้าคุณไปฆ่าพวกนั้น ในทางกลับกัน เทย์เลอร์คนอื่น ๆ จะยิ่งซ่อนตัวมากขึ้นด้วยซ้ำเมื่อรู้เรื่องนี้” เทาหยุดก่อนพูดว่า “ถึงตอนนั้นมันก็คงยากแล้วที่จะหาตัวเฟนด์”“ก็ได้” หลุยส์คิดแล้วว่ามันก็สมเหตุสมผล จากนั้นเขาก็เดินไปหาคนพวกนั้นและพูดว่า “ฉันจะปล่อยพวกแกไป แต่ต้องบอกฉันเมื่อไหร่ก็ตามที่เฟนด์ติดต่อกลับมา ฉันมีรางวัลให้อย่างน้อยร้อยล้านถ้าเป้าหมายถูกต้อง มันจะถึงหนึ่งพันล้านด้วยซ้ำถ้าข้อมูลพวกนั้
“พวกเขาจะฆ่านายท่านตระกูลแชฟฟ์แมนของฉันได้ยังไงกัน? บอดี้การ์ดที่ไร้ค่าพวกนั้นไม่สำคัญอะไรหรอกน่า แต่กลับกล้าฆ่าผู้เชี่ยวชาญที่เทียบเท่ากับราชาสงครามระดับหกดาราได้ ฉันจะบอกเรื่องนี้กับครอบครัว” พีซโมโหกับตัวเอง “ฉันต้องบอกพ่อกับคนอื่น ๆ อยู่ดีแม้มันจะทำให้ฉันเสียผู้หญิงสองคนนั้นไป ฉันต้องแก้แค้น!”พีซตัดสินใจขับรถไปคฤหาสน์หลังใหญ่พร้อมกับบอดี้การ์ดอีกหลายคนมันเป็นที่พักของตระกูลแชฟฟ์แมน และคฤหาสน์ที่พีซอาศัยอยู่คือที่ที่เขาจะได้สนุกกับพื้นที่ส่วนตัวนอกจากนี้ยังเป็นที่ที่ได้มีเสวยสุขกับผู้หญิงสวย ๆ ในตอนที่ไม่มีอะไรทำ เขามักจะมีพ่อคอยหนุนเสมอเพราะไม่ชอบทำงานที่ซื่อสัตย์ปกติแล้วตระกูลแชฟฟ์แมนจะเมินเฉย ตราบใดที่พีซไม่ได้ทำอะไรเกินไป“โอ๊ะ นายน้อย! ทำไมคุณกลับมาวันนี้ล่ะ?” สาวใช้คนหนึ่งเดินออกมาทักทายทันทีที่เขาลงมาจากรถพีซเดินไปข้างหน้าสองก้าวและตบก้นของเธอ “นี่มันก็นานแล้วนะจีน หุ่นเธอดีขึ้นนะเนี่ย! ฮ่า ๆ! ไว้ให้ฉันชื่นชมร่างกายเธอหน่อยสิตอนว่าง ๆ ดีไหม?”“ไม่ดี? นายน้อย คุณล้อกันเล่นมากขึ้นนะเนี่ย คุณไม่เคยขาดสาวงามนี่คะ ใช่ไหม? เมื่อไหร่กันที่จำคนอย่างฉันได้?” สาวใช้กลอกตาใส
ผู้คนที่จะมาเป็นผู้คุ้มกันลับของตระกูลแชฟฟ์แมนมีไม่มาก ผู้คุ้มกันลับส่วนตัวของพวกเขาคือผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริงคนที่มีความแข็งแกร่งเทียบได้กับราชาสงครามสี่หรือห้าดาราถึงจะมีคุณสมบัติที่เป็นผู้คุ้มกันลับของตระกูลแชฟฟ์แมนผู้คุ้มกันลับพวกนี้จะไม่ทำอะไรในตอนที่สถานการณ์ปกติ จะลงมือเมื่อตระกูลแชฟฟ์แมนมีปัญหาหรือโดนคุกคามครั้งใหญ่เท่านั้นอนิจจา มีแค่ผู้คุ้มกันลับแค่โหลเดียวเท่านั้นแม้จะมีพลังในการต่อสู้มากมายก็ตามเมื่อนายใหญ่แชฟฟ์แมนกลับมา เขาก็แอบไม่มีความสุขเมื่อรู้ว่าพีซสั่งให้ผู้คุ้มกันลับออกไปกับเขาทั้งสองคนเขาตัดสินใจที่จะปล่อยเรื่องนี้ไป แต่เพราะพีซคือหลานชายของเขา ผู้หญิงข้างนอกอาจจะจับตามองเขาได้นายท่านแชฟฟ์แมนไม่คิดว่าวันนี้จะมาถึง อย่างไรก็ตาม พีซมาบอกว่าผู้คุ้มกันลับทั้งสองของเขาตายแล้ว“พีซ จริงเหรอ? แกกำลังบอกว่าผู้คุ้มกันลับเราตายแล้วเหรอ?” นายท่ายแชฟฟ์แมนตกใจมาก ทุก ๆ สายตาหันไปมองที่พีซสุดท้ายแล้ว ผู้ที่สามารถฆ่าผู้คุ้มกันลับของตระกูลแชฟฟ์แมนได้ ก็ต้องเป็นคนที่มีความสามารถในการต่อสู้ที่แข็งแกร่งมากแน่นอน ประเด็นสำคัญคือ อีกฝ่ายกล้าฆ่าผู้คุ้มกันลับเมื่อรู้ว่าเป็น
พีซคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และตั้งข้อสังเกตว่า “ผู้ชายที่ชื่อเฟนด์ และผู้หญิงที่ใส่หน้ากากดูเหมือนจะมีความสามารถ กับผู้หญิงอีกคนที่ชื่อเซเลน่า เหมือนจะเป็นคนธรรมดา บอดี้การ์ดของเราและผู้คุ้มกันลับหลายคนโดนฆ่าโดยชายที่เหมือนจะอายุสี่สิบหรือห้าสิบ เขาคือหัวหน้าผู้บังคับบัญชาของบอดี้การ์ด!”“หัวหน้าผู้บังคับบัญชาบอดี้การ์ด? มีอำนาจขนาดนั้นเลย?” นายใหญ่แชฟฟ์แมนขมวดคิ้วและถามอีกครั้ง “ผู้คุ้มกันลับทั้งสองที่แกพาไปด้วยแข็งแกร่งขนาดไหน?”“ความสามารถในการต่อสู้เทียบได้กับราชาสงครามหกดาราเลยครับ” พีซพูด ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มขมขื่นขระพุดต่อ “นั่นเป็นเหตุผลที่ผมประหลาดใจว่าทำไมถึงโดนฆ่าง่าย ๆ อย่างนั้น ผมเดาว่าชายคนนั้นเทียบได้กับราชาสงครามเจ็ดหรือแปดดาราเลย”“แก...” นายใหญ่แชฟฟ์แมนรู้สึกโกรธมากและพูดใส่พีซว่า “ผู้คุ้มกันลับพวกนั้นทรงพลังมาก พระเจ้า คนที่แกไปทำให้ขุ่นเคืองต้องเป็นตระกูลชนชั้นสองแน่ ๆ อย่างน้อย!”“ปู่ ผมก็ไม่ได้ถาม ผมจะรู้ได้ไงว่ามันมีอำนาจขนาดนั้น! เฮ้อ... ทำยังไงดี? ผมแนะนำว่าเราควรจบมันให้เร็วที่สุดไม่งั้นก็ต้องขายขี้หน้า คนอื่น ๆ จะต้องหัวเราะเยาะแน่!” พีซช่วยไม่ได้และพยายามย
คืนนั้น เซเลน่ารู้สึกกังวลอย่างมาก เธอขมวดคิ้วอย่างเห็นได้ชัดตอนที่นอนกับเฟนด์อยู่บนเตียง “ที่รัก คุณว่าพวกแชฟฟ์แมนจะกลับมาสร้างปัญหาให้เราไหม?”สุดท้าย ตระกูลแชฟฟ์แมนก็แข็งแกร่งกว่าตระกูลคาเลบมาก นี่คือตระกูลชนชั้นสอง และตระกูลชนชั้นสองจากเมืองนางแอ่นก็มีอำนาจมากกว่าตระกูลชนชั้นสองของเมืองเล็ก ๆ อย่างอาณาเขตกลาง“ฮ่า ๆ ! ขึ้นอยู่กับความฉลาดของพวกเขาน่ะสิ ผมอดไม่ได้หรอกถ้าพวกนั้นกล้าพอที่จะมาสร้างปัญหาให้เราในเมื่อรู้อยู่แล้วว่าเรามีผู้เชี่ยวชาญอันแสนจะแข็งแกร่งอยู่ด้วย! ถ้าฉลาดพอ จะไม่มีท่าทีเผด็จการอย่างนั้นหรอก”“สุดท้ายแล้ว เราก็เพิ่งมาถึงเมืองนางแอ่น และผมไม่คิดว่าพวกเขาจะรู้ว่าเราเป็นใคร!” เฟนด์ตอบอย่างเฉยชาพร้อมกับเสียงหัวเราะ“ก็จริง” เซเลน่ายิ้มและวางศีรษะลงบนหน้าอกของเฟนด์ เธอเงยหน้าขึ้นและถามอีกครั้ง “ที่รัก เมื่อไหร่คุณจะไปหาพ่อคะ?”ได้ยินเช่นนั้น เฟนด์ก็ยิ้มแหย “ทีหลังแล้วกัน ผมยังต้องตรวจสอบอย่างอื่นที่นี่อีก ที่รัก ที่นี่มีเกร็ดมังกรปรากฏขึ้นมา แล้วผมก็ค่อนข้างสนใจมัน ผมเลยมีแผนจะตรวจสอบเรื่องนี้โดยละเอียด”“จริงเหรอ? โลกนี้มีเกร็ดมังกรด้วยเหรอเนี่ย?” เซเลน่าขมวดคิ
ผู้พิทักษ์รุ่นที่เก้ายิ้มอย่างขมขื่นขณะรายงานงานของเขา“พวกเขาออกไปอย่างเงียบ ๆ เหรอ?” ลิลลี่ไม่พอใจ “ผู้ชายคนนั้นตั้งใจจะกลับมาหาตระกูลวู๊ดหลังจากที่ไปรุกรานคนมีอำนาจที่เมืองจินมาหรือเปล่า? มันอาจจะหาที่หลบที่ตระกูลวู๊ด หลังจากโกรธเคืองเรื่องที่โดนทิ้งไว้อย่างไม่มีทางเลือกมากมายนัก มันอาจจะมาขอความคุ้มครองจากตระกูล!”“เราไม่รู้ครับ ผมได้ยินมาว่าพวกเขาแอบหนีออกไปกันตอนดึก และคนของเราก็หาไม่เจอ ผมกังวลว่าอาจจะกลับมาหาตระกูลวู๊ด ถ้าเป็นอย่างนั้นก็จะมาถึงภายในสองวัน!” ผู้พิทักษ์รุ่นที่เก้าไม่สบายใจกับเรื่องนี้ สุดท้ายเขาได้เงินที่เป็นของเฟนด์มามาก แล้วก็ยังได้จากลิลลี่อีกตระกูลลาโกริโอในตอนแรกนั้นแข็งแกร่งมาก ขณะที่นายน้อยคนโตมีความสามารถมากมาย ทุกคนมั่นใจว่าเขาจะได้เป็นนายท่านของตระกูลวู๊ด เขาเลยกล้าพอที่จะทำงานให้ลิลลี่ โดยคิดว่าเฟนด์ไม่มีโอกาสกลับมาอีกเขาไม่คิดว่ามันจะมีการเปลี่ยนแปลงกะทันหันเช่นนี้ นั่นทำให้เขากังวลเขาคิดลอบฆ่าเฟนด์และโจแอนอย่างลับ ๆ เพื่อฝังทุกอย่างที่เกิดขึ้นในตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ แต่เขาไม่คิดว่าคนของเขาจะกลับมาด้วยมือเปล่า เฟนด์กับคนอื่น ๆ หนีออกไปจากอาณา
ขณะนั้น บอดี้การ์ดก็วิ่งเข้ามาและบอกเฟนด์ว่า “นายท่าน สาวสวยสองคนกำลังตามหาคุณอยู่ข้างนอก โอ้ใช่ แล้วก็คุณเซเลน่ากับคุณลาน่าด้วย”“เราสามคนเนี่ยเหรอ?” เฟนด์ขมวดคิ้วเล็กน้อยขณะที่เดินไปพร้อมกับเซเลน่าเมื่อไปถึงทางเข้า พวกเขาก็คิดได้ว่าคือดาราดังสองคนที่อาศัยอยู่ข้าง ๆ “สวัสดีครับ มีอะไรให้เราช่วยไหม? เข้ามาก่อนสิ” เฟนด์เสนอขณะที่ยิ้มให้เบลคและธิอันน่า“เราจะไม่เข้าไป เราซาบซึ้งที่คุณช่วยเราเมื่อไม่นานมานี้ วันนี้อากาศดีก็เลยอยากจะมาชวนคุณไปทานอาหารกันได้ไหมคะ?” เบลคยิ้มอย่างเขินอายและมองเฟนด์“ทำไมจะไม่ล่ะครับ แน่นอน! เราจะปฏิเสธคำเชิญจากสาวสวยได้ยังไงกัน? แน่นอน เป็นเกียรติมากที่ได้ทานอาหารร่วมกับคนดังสองคน!” เฟนด์พยักหน้าและตกลงธิอันน่ายืดแขนออกขณะที่ยิ้มแย้ม “งั้นก็ไปกันเถอะ คุณสองคนด้วยนะคะ บอดี้การ์ดไม่จำเป็นต้องพาไปเลย แบบนี้สบายกว่าเยอะ!”“เราต้องขับรถไปไหมคะ?” เซเลน่าถามหลังจากคิด“ไม่ต้องหรอกค่ะ มีร้านอาหารดี ๆ อยู่ไม่ไกล ฉันกับเบลคชอบไปทานอาหารที่นั่นตอนว่าง ๆ รสชาติกับบรรยากาศก็ดีมากเลย!” ธิอันอ่ายิ้มและนำไปพร้อมกับธิอันน่าไม่นานทั้งห้าคนก็มาถึงร้านอาหารดี ๆ แห่ง
แน่นอน ทุกคนในร้านอาหารเงียบเสียงลงถึงอย่างนั้น เฟนด์ที่นั่งอยู่ก็ได้ยินทุกอย่างชัดเจน และความเห็นเรื่องเบลคกับธิอันน่าก็ดังขึ้นมาเรื่อย ๆ สุดท้ายแล้ว มันไม่ง่ายเลยที่จะอยู่ในวงแบบนี้อย่างไรก็ตาม ผู้ชายหลายคนเดินผ่านพวกเขาไปข้างนอกร้านอาหารและไปมองสาวสวยที่อยู่กับเฟนด์มีตาของคนหนึ่งเป็นประกาย เขาวิ่งไปอีกฝั่งและแอบโทรหาผู้กำกับ “ผู้กำกับแวกเนอร์ ผมเห็นเบลคกับธิอันน่ากินข้าวอยู่กับผู้ชายคนอื่นแล้วก็ผู้หญิงอีกสองคน ทั้งหมดเป็นห้าคน และไม่มีบอดี้การ์ดอยู่เลย นี่เป็นโอกาสที่ดีมาก!”แววตาของผู้กำกับแวกเนอร์ที่อยู่อีกฝั่งของสายโทรศัพท์เบิกตากว้างขึ้นมาอย่างพอใจ “จริงเหรอ? เยี่ยมไปเลย! ส่งที่อยู่มาเดี๋ยวฉันส่งคนไปจัดการเอง คราวนี้ดีกว่าเดิมแน่นอน ครั้งล่าสุดนี่มันไร้ประโยชน์จริง ๆ จับผู้หญิงสองคนยังทำไม่ได้ แถมยังโดนกระทืบมา!”ชายที่อยู่อีกฝั่งของโทรศัพท์ส่งตำแหน่งให้เขาทันทีชายคนนั้นรู้ดีว่าแม้ผู้กำกับแว็กเนอร์จะเป็นผู้กำกับที่เชี่ยวชาญด้านการสร้างภาพยนตร์ แต่เขาก็ยังห่างไกลจากการเป็นคนดีและแถมยังถ่ายหนังแย่หลาย ๆ เรื่องอีกอย่างไรก็ตาม เพราะเขาคือนายน้อยที่ร่ำรวยจากตระกูลที่ร่ำ