Share

5.2

last update Terakhir Diperbarui: 2024-12-24 01:35:09

“เย้! ที่นอนนุ่มๆ ดีจังเลย” เด็กน้อยวิ่งไปทางห้องทันทีไม่ได้สนใจผู้ใหญ่อีก เพราะตอนอยู่บ้านนอกหาได้มีเบาะนอนดีๆ สักหลังไม่ เหลียงซือพอคาดเดาได้เลยไปขอซื้อที่นอนเก่าของเพื่อนบ้านมาไว้ต้อนรับหลานๆ อย่างน้อยก็คือว่าเป็นของขวัญจากผู้ใหญ่ก็แล้วกัน

“ซูเจิน เจ้าคิดจะกลับมาตามหาพ่อของไฉไฉจริงหรือ” ชายวัยกลางคนถามหลานสาว เพราะเนื้อความในจดหมายที่อดีตหลี่ฮูหยินส่งมามันไม่ชัดเจนนัก ความจริงพวกเขาก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าในคืนนั้นใครคือคนที่อยู่กับซูเจินกันแน่ เพราะตัวนางเองยังไม่เคยยอมพูดให้ชัดเจน “ซูเจิน ผ่านมานานขนาดนี้แล้ว เขาอาจจะจำไม่ได้แล้วก็เป็นได้ หรือถ้าเขาเป็นคนชั่วร้าย บางทีพวกเราไม่ต้องรับรู้ไปเลยเสียยังจะดีกว่า คิดซะว่าเขาเป็นแค่ใครคนหนึ่งที่ได้ตายจากไป”

“ข้าก็อยากจะคิดแบบนั้น แต่พอมาทบทวนดูแล้ว เหตุใดข้าถึงต้องแบกรับทุกอย่างเพียงลำพัง ทั้งที่ข้าไม่ได้ทำอะไรผิด” หญิงสาวพูดอย่างจริงจัง “อารอง ข้าคิดว่าอย่างน้อยเขาควรได้รับผิดชอบอะไรบ้าง แต่อย่าห่วงเลย ข้าจะทำการสืบหาตัวเขาแบบเงียบๆ หากเจอเขาแล้วก็จะเฝ้าดูอยู่ก่อนสักระยะ เผื่อเขาเป็นคนเลวระยำ ข้าจะได้ไม่เข้าไปวุ่นวายด้วยให้เปลืองตัว...”

พูดไปอย่างนั้น แต่ความจริงนางตัดสินใจมาแล้วจากบ้านว่าจะรีดไถผู้ชายคนนั้นให้ได้ ไม่ว่าจะใช้วิธีใด นางได้เงินจากเขาแล้วจะเอาไปพามารดาไปรักษาตัว และที่เหลือก็จะเพื่อเป็นทุนรอนดูแลไฉไฉให้เติบใหญ่ต่อไปในภายหน้า และจะไม่ยุ่งเกี่ยวกันอีกต่อไป

“เอาเถอะๆ แล้วนี่เจ้าคิดจะทำอย่างไรต่อไป” อารองถามก่อนจะถอนใจเฮือกใหญ่ “อาเสียใจจริงๆ ที่ให้หลานอยู่ช่วยงานที่ร้านไม่ได้ อย่างที่บอกไว้แต่แรก ลำพังค่าเช่าที่อายังต้องหาจนหัวหมุน แต่อาก็พอจะหาลู่ทางไว้ให้แล้ว ที่ตลาดใหญ่มีร้านขายข้าวสารและเกลือมาเปิดใหม่ เห็นว่าเป็นของเศรษฐีสกุลหู...ที่เคยอยู่ฝั่งประตูตะวันตก จับพลัดจับผลูอย่างไรไม่อาจรู้ได้ แต่จู่ๆ ก็ได้กลายเป็นเศรษฐีขึ้นมา เลยมาเปิดร้านที่ตลาดกลางเมืองนี่เอง”

“แล้วมันอย่างไรเจ้าคะ” ซูนเจินฟังอย่างกระตือรือร้น เพราะสมัยบิดาอยู่ นางชอบติดตามท่านเวลาไปที่คลังข้าวบ่อยๆ จึงพอจะมีความรู้เรื่องข้าวและเกลืออยู่บ้าง “เอ...หรือว่าเขารับสมัครเสมียนหรือเจ้าคะ แต่ถ้าเป็นเศรษฐีอย่างนั้น ก็น่าจะมีเสมียนที่เอามาจากตระกูลอยู่แล้วหรือเปล่าเจ้าคะ ไม่น่าจะประกาศหาจากคนนอก”

“ไฮ้...ซูนเจิน เจ้าก็อย่าพูดไป” อารองทำท่าเอามือป้องปาก “ก็อาเพิ่งจะบอกอยู่ว่าพวกเขากลายเป็นเศรษฐีได้อย่างไรก็ไม่รู้ จากฐานะแค่ชาวบ้านธรรมดา ทำให้ในตระกูลไม่ได้มีคนเก่งอันใดเท่าไรนัก เขาเลยมาประกาศรับสมัครลูกจ้าง เพียงแค่มีเงื่อนไขอยู่หน่อยเรื่องความเชี่ยวชาญในสายพันธุ์ของข้าวสาร และการทำระเบียนการค้า ซึ่งอาคิดว่า หากเป็นหลานแล้ว คงทดสอบและผ่านเงื่อนไขพวกนี้ได้อย่างสบายๆ”

เหลียงซือจำได้ ผลพวงอีกอย่างของหลี่ซูเจินที่ชอบไปไหนกับบิดา ทำให้นางร้อนวิชามาก อยากจะเปิดร้านขายข้าวสารเป็นของตัวเอง ตอนนั้นบิดาจึงเปิดร้านจำลองเล็กๆ ให้เล่นกับคนในจวน ทีแรกก็คิดแค่ว่าซูเจินจะได้มีอะไรทำไม่ออกไปตะลอนกับผู้เป็นพ่อ

ที่ไหนได้ นางกลับใช้ความรู้เรื่องการจัดการที่มีจากบิดา เอามาควบคุมการค้าที่นางชื่นชอบ อารองยังจำสีหน้าของหลี่ลู่ซือผู้เป็นพี่ชายได้ดี ตอนที่เขาเห็นระเบียนการค้าร้านจำลองของบุตรสาว ก็หันมาบอกกับน้องชายเลยว่า ดูท่าเราจะมีอัจริยะด้านค้าขายมาเกิดในครอบครัวขุนนางเสียแล้วกระมัง

“อย่างนั้นก็น่าสนใจเลยเจ้าค่ะ” หญิงสาวหมายมั่นปั้นมือมาก เพราะหากได้งานนี้ ก็จะได้ไม่รบกวนญาติผู้ใหญ่เกินไปด้วย และน่าจะมีเวลาได้สืบหาผู้ชายคนนั้นอีก “ข้าจะไปสมัครงานวันนี้เลยเจ้าค่ะ ข้าใจร้อน อยากจะได้งานได้เงินไวๆ”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • มารดาผู้นี้จะรีดไถเงินบิดาที่ไม่เคยเลี้ยงดูให้หมดตัวเลย   บทส่งท้าย

    สองปีผ่านไป...หลังจบเรื่องวุ่นวายในราชสำนัก ก็ใช้เวลาไปเกือบปี ทำให้ฤกษ์หมั้นหมายเสียหาย องค์ชายฟู่เหรินจึงเสนอว่าให้ใช้ฤกษ์อภิเษกไปเลยในคราวเดียว นั่นคือหมั้นและแต่งในวันเดียวกันย่อมไม่มีใครขัดขวางอยู่แล้ว เพราะใครๆ ต่างก็อยากให้องค์ชายใหญ่เป็นฝั่งเป็นฝาเพื่อที่จะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งต่อไป แต่เป็นเขาเองที่ชิงทูลองค์จักรพรรดิก่อน ว่าไม่ต้องการขึ้นเป็นรัชทายาท“เจ้าเป็นลูกคนโต ถ้าเจ้าไม่เป็นรัชทายาท แล้วเจ้าจะเป็นอะไร”พระบิดาถามเขาในวันนั้น และเขาที่มีพระชายาอยู่เคียงข้าง ก็ตอบทันควัน“กระหม่อมจะเป็นหมอ จะรักษาผู้คนโดยไม่แบ่งแยกฐานะ นี่ก็เป็นการดูแลไพร่ฟ้าในฐานะเชื้อพระวงศ์เช่นกัน...”องค์จักรพรรดิอยากจะขัด แต่พอเห็นโอรสกับชายาของเขาจับมือกันไว้แน่นราวกับว่าได้ร่วมกันตัดสินใจเรื่องนี้มาทั้งคู่ ก็ได้แต่ระลึกไปถึงพระสนมอิงหลันผู้ล่วงลับ นางไม่เคยมีใครรักชอบให้เขา แต่งงานเพราะหน้าที่ แต่ตลอดเวลานางก็ทำได้ดี กระทั่งอบรมสั่งสอนบุตรก็ยังทำได้ไม่มีบกพร่อง เป็นเขาเองที่กักขังนางไว้ในวังหลวงนี้จนวันตาย“เช่นนั้นเมื่อถึงเวลาแล้วก็ไปปกครองเมืองต้าหลี่ก็แล้วกัน” จักรพรรดิพูดถึงเมืองใหญ่ที่สุดที่อย

  • มารดาผู้นี้จะรีดไถเงินบิดาที่ไม่เคยเลี้ยงดูให้หมดตัวเลย   56

    “ข้าจะไปช่วยเขา สนามพลังแบบนั้นต้องมีคนคุ้มกัน ไม่อย่างนั้นอาจเป็นอันตราย” นางหันไปบอกสองคนข้างหลัง “ท่านพาลูกปลาตัวกลมไปที่บ้านยายเฒ่าตาบอดก่อน แล้วข้าจะตามไปทีหลัง”“คงไม่ต้องแล้ว” เป็นฮัวฮัวที่พูดขึ้น สายตานางมองไปอีกทางแล้วก็ชี้นิ้วไปข้างหน้า “ท่านพ่อกับพวกอาๆ มาช่วยพวกเราแล้ว เย้!”เกิดการปะทะระหว่างนักฆ่าลึกลับกับพวกองครักษ์เสื้อแพรที่มากันเต็มรูปแบบ เพราะตอนนี้ได้จัดการภายในราชสำนักเสร็จสิ้น จึงตามออกมากวาดล้างทั้งหมดที่เหลือข้างนอกในคราวเดียว“ถวายการอารักขาองค์ชายใหญ่!” เสียงเจิ้งห่าวหรานหัวหน้าองครักษ์ตะโกนก้อง “ไฉไฉ ฮัวฮัว หลบไปอยู่ในที่ปลอดภัย เร็ว!”เมื่อพ่อสั่งก็มีอย่างเดียวคือห้ามต่อต้าน สามสายลับต่างวัยวิ่งไปหลบหลังต้นไม้ไกลๆ และคอยดูห่างๆ พวกเขาไม่ได้เก่งต่อสู้สักคน แค่พอมีวิชาและเอาตัวรอดเป็นเท่านั้น ในเมื่อองครักษ์มาแล้ว ก็ควรให้เป็นหน้าที่ของคนมีความสามารถแล้วกัน“นั่น...เสียงอะไร” เพราะความเป็นคนหูดีที่สุดของไฉไฉทำให้ได้ยินอะไรแปลกๆ นางรู้ทันทีว่ามีคนแอบอยู่แถวนั้นและกำลังจะหนี หันไปมองหน้าน้องสาว เห็นนางจ้องอยู่เช่นกัน แสดงว่ารู้แล้ว “ฮัวฮัว พี่เพิ่งเจอว่าเหลือลู

  • มารดาผู้นี้จะรีดไถเงินบิดาที่ไม่เคยเลี้ยงดูให้หมดตัวเลย   55

    “นี่เจ้า! ริอ่านติดสินบนเจ้าพนักงานตั้งแต่ยังเด็ก ท่านพ่อตีเจ้าตายแน่ๆ! ตุ่นภูเขา! แล้วท่านเป็นผู้ใหญ่ประสาอะไร พาเด็กห้าขวบมาในสถานที่แบบนี้ ท่านเองก็ต้องถูกลงโทษด้วยแน่นอน!”“โฮ่! แมวพันหน้า อย่าเพิ่งพูดมากเลยดีกว่า ถ้าไม่ได้ข้ากับลูกปลาตัวกลมเมื่อครู่ ท่านเองก็คงไม่เหลือซาก”“นี่พวกเจ้า...พูดอะไรกัน ข้างงไปหมด” ฟู่เหรินที่ฟังสายลับสามคนสามวัยเถียงกันด้วยภาษาอะไรก็ไม่รู้ช่างปวดหัวนัก “เดี๋ยวก่อน ทำไมเราต้องมาเถียงกันในเวลานี้ นี่มันหน้าสิ่วหน้าขวาน! พวกนักฆ่าตามมาถึงตัวแล้ว!”“ลูกหินของข้าหมดแล้ว! พี่ใหญ่ ท่านเอาที่ข้าให้ไว้มาด้วยหรือเปล่า” ฮัวฮัวแบมือหาพี่สาวทันที ไฉไฉรีบล้วงเสื้อ ปรากฏว่ามีแต่หมั่นโถวตากแดดร่วงลงมาหลายชิ้น “พี่ใหญ่! แล้วก็ชอบห้ามข้ากินของหวานตอนกลางคืน แต่พี่กลับพกติดตัวตอนหนีพวกนักฆ่าออกมาแบบนี้ จะให้ข้าคิดยังไงกัน!”“นี่ทำไมข้าถึงได้พกหมั่นโถวออกมาขนาดนี้เนี่ย ข้าต้องหยิบเสื้อมาผิดตัวแน่ๆ” นางคิดไปถึงเหตุผลว่าทำไมต้องหยิบเสื้อมาใส่ แล้วก็ดันเกิดหน้าแดง เพราะตอนนั้นเกือบได้สานสัมพันธ์กับฟู่เหรินอยู่แล้วเชียว “โอ๊ย! ไม่รู้แล้ว พวกเราหาอาวุธเอาเท่าที่มีรอบตัวสู้ไป

  • มารดาผู้นี้จะรีดไถเงินบิดาที่ไม่เคยเลี้ยงดูให้หมดตัวเลย   54

    “หา...หมายความว่า...ว้าย!”พรึ่บ!ไฉไฉมัวแต่เถียงกับองค์ชายเลยไม่ทันระวังตัว นางก้าวพลาดลงไปในบ่อที่ขุดไว้ดักสัตว์ แม้จะไม่เจ็บเท่าไรเพราะกลิ้งม้วนตัวลงไปพอดี แต่หลุมนี้ลึกมาก เรียกว่าเป็นความซวยจริงๆ“องค์ชาย! ท่านวิ่งไปข้างหน้าอีกไม่เท่าไรจะเจอต้นไม้สองง่าม มีกระท่อมของยายเฒ่าตาบอดอยู่ไม่ไกลจากนั้น” นางตะโกนบอกเขาเสียงดัง “ที่นั่นเป็นจุดนัดพบของสายลับกับองครักษ์ ท่านจะปลอดภัย”“ไม่ได้! รอก่อน ข้าจะช่วยเจ้าเอง” ฟู่เหรินลงไปนอนแนบพื้นแล้วพยายามส่งมือเข้าไปหา “ข้าจะไม่หนีไปคนเดียว ถ้าจะรอด เราต้องรอดไปด้วยกัน!”“โอ๊ย! ท่านนี่โง่จริง ข้าให้ท่านหนีไปก่อนเพราะท่านเป็นตัวถ่วง ยังไม่รู้ตัวอีก” เสียงหญิงสาวแผดขึ้นมา “ท่านมันอ่อนแอจึงเป็นตัวภาระ นี่ข้ามีแผนแล้ว ข้ามีระเบิดพลุติดตัวไว้ยามฉุกเฉิน ข้าจะยิงใส่พวกมัน แล้วท่านจะมาอยู่แถวนี้ให้เกะกะทำไมเล่า!”หญิงสาวโกหก นางไม่มีของที่ว่า แต่ทำเป็นชูอะไรก็ไม่รู้ขึ้นมา เพื่อให้เขาสบายใจ“ระเบิดพลุอะไรของเจ้าหา นั่นมันหมั่นโถวตากแดดที่เอาไว้ปิ้งกินกับน้ำผึ้งที่น้องสาวชอบไม่ใช่หรือไง แล้วนี่พกมาทำไมเนี่ย!” เขาพูดแบบนั้นนางเลยได้หันดู อ้าวจริงด้วย ไม่ร

  • มารดาผู้นี้จะรีดไถเงินบิดาที่ไม่เคยเลี้ยงดูให้หมดตัวเลย   53

    โอ๊ย!...อุ้บ!”ไฉไฉดึงหูฟู่เหรินเหมือนที่เห็นหลี่ซูเจินทำเจิ้งห่าวหรานมาตั้งแต่นางจำความได้ ท่านแม่ดึงหูท่านพ่อทีไร ท่านพ่อมีอันได้ยอมแพ้ เพราะมันเจ็บ!มือหนึ่งดึงหู อีกมืออุดปากเขาแน่นไม่ให้ร้อง แต่เพียงครู่เดียวก็ปล่อยมือที่บิดหูออกแล้วไปกระซิบ“ข้างนอกเป็นนักฆ่าที่ตั้งใจลอบฆ่าท่านมาตั้งแต่ที่ตลาดแล้ว และท่านคงคิดไม่ผิด ฝู่เตี้ยวเป็นหนอนจริงๆ ตอนนี้พวกเราถึงได้ตกอยู่ในอันตราย”“ขืนยังอยู่แบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ยังไงพวกเราก็คงได้ตาย” ฟู่เหรินได้พูดเป็นคำแรกตนที่เอามือลูบหูตัวเองป้อยๆ คิ้วขมวดตึง มองไปข้างนอกยังเห็นห่ามีดบินอยู่เลย “ข้าจะพาเจ้าออกไปเอง เจ้าหลบข้างหลังข้าไว้ก็แล้วกัน”กลายเป็นไฉไฉที่คิ้วขมวดไปด้วย เพราะสำหรับนางแล้วฟู่เหรินหาได้เป็นวรยุทธ์ไม่ ซ้ำยังอ่อนแอจนไม่รู้ว่ามีชีวิตรอดจากวังหลวงมาถึงวันนี้ได้อย่างไร ถึงนางไม่เก่งอะไรมาก แต่อย่างน้อยก็รู้หลักพื้นฐาน และเอาตัวรอดเก่งด้วย “ท่านอยู่ข้างหน้าข้า คงอยากเป็นเป้าเคลื่อนที่กระมัง” นางเอื้อมมือขึ้นไปบนเตียง ควานหาลูกหินของฮัวฮัวอีกชุด ซึ่งมันเป็นชุดสุดท้ายแล้ว “นี่แหละองค์ชาย ท่านคงยังไม่รู้ว่าอะไร ข้าถูกท่านพ่อจับไปฝึกเป็นสา

  • มารดาผู้นี้จะรีดไถเงินบิดาที่ไม่เคยเลี้ยงดูให้หมดตัวเลย   52

    “ฝู่เตี้ยวคงไม่ได้อยู่ตรงนั้นตั้งแต่แรก” นางบอก หลังคาดการณ์จากสิ่งที่ฮัวฮัวบอกไว้ก่อนกลับบ้านไป พฤติกรรมประหลาดของขันทีน้อย คือเขาชอบหายไปไหนในช่วงที่ฟู่เหรินจะไม่มีทางรับรู้ ฮัวฮัวสะกดรอยตามแบบห่างๆ จึงรู้ว่าฝู่เตี้ยวต้องไปพบใครมาแน่ๆ แต่คงไม่ใช่ฝ่ายเดียวกัน เพราะฝ่ายเดียวกันนี้ก็มีเพียงหน่วยองครักษ์กับคนของเซี่ยงกงกงเท่านั้นเอง ประจวบเหมาะกับที่อยู่ดีๆ ตำแหน่งขององค์ชายถูกเปิดเผย จึงไม่มีทางคิดเป็นอื่นไปได้เลย นอกจาก... “ฝู่เตี้ยวคือหนอนบ่อนไส้สินะ” ฟู่เหรินพูดขึ้นมาเอง เป็นไฉไฉที่ต้องหันหน้าไปมอง เพราะเขาพูดเหมือนรู้ว่านี่มันเรื่องอะไร ชายหนุ่มสั่นหน้าด้วยความหดหู่ใจ “อะไรคือสิ่งที่ทำให้ฝู่เตี้ยวที่อยู่กับข้ามาตั้งแต่อายุสิบปีกลับมาหักหลังข้าได้” “นั่นเป็นเรื่องที่ต้องไปสืบภายหลัง แต่ตอนนี้...” ข้างนอกเงียบเกินไป ราวกับไม่มีแม้แต่เสียงของสายลมราตรี หญิงสาวล้วงไปใต้เตียงแล้วหยิบดาบที่เป็นอาวุธประจำตัวซึ่งซุกซ่อนไว้เผื่อเวลาฉุกเฉิน “เราต้องรอดไปจากที่นี่ให้ได้ก่อน ได้โปรดอยู่ข้างหลังข้าก็พอ” “อาหง ท่าทีเจ้าเปลี่ยน หรือว่าความจริง...เจ้ามีสถานะอื่น”

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status