- 3 วันต่อมา -
ณ โรงแรม Moonsky ทันทีที่ร่างอรชรของหญิงสาวเดินผ่านประตูเข้ามาในโรงแรมพนักงานทุกคนที่กำลังทำงานอยู่ก็รีบยืนขึ้นทำความเคารพเธอทันที นี้ก็ผ่านมา 3 วันแล้วที่เธอเริ่มฝึกงานและมาเรียนรู้งานที่โรงแรมโดยมีสาวิตรีเลขาของพ่อเธอช่วยสอน "แด๊ดดี๊อยู่ไหม? " โมเน่ที่พึ่งขึ้นลิฟท์มาถึงชั้นบนสุดของโรงแรมเอ่ยขึ้นถามสาวิตรีที่นั่งอยู่หน้าห้องของผู้เป็นพ่อ "อยู่ค่ะคุณโมเน่" หลังจากสาวิตรีเอ่ยจบร่างบางก็เคาะประตูแล้วรีบเปิดเข้าไปทันที ก๊อกๆ "แด๊ดดี๊ขาาา" "มาแล้วหรอลูก" ก้องเกียรติที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ของผู้บริหารเอ่ยขึ้นแต่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองลูกสาวที่กำลังเดินเข้ามาแต่กับเอาแต่จ้องอ่านบางอย่างในไอแพดด้วยใบหน้าเคร่งเครียด "เป็นอะไรคะแด๊ดดี๊ทำไมหน้าเครียดเชียว" โมเน่ที่เดินมายืนข้างผู้เป็นพ่อเอ่ยขึ้นพร้อมกับชะโงกหน้าดูไอแพดของผู้เป็นพ่อ "โรงแรม Mareena สื่อแววจับมือกับบริษัทนำเขาเครื่องดื่มแอลกอฮอลยักษ์ใหญ่ GR " โมเน่อ่านข่าวที่ขึ้นพลาดหัวข่าวว่าโรมแรมดังของอังกฤษที่พึ่งมาเปิดสาขาที่ไทยสนใจร่วมมือกับบริษัท GR พร้อมกับมีรูปผู้บริหารสาวของโรมแรมกำลังนั่งคุยอยู่กับดราก้อน "นี้แค่ข่าวออกยังไม่ได้รับการยืนยันหุ้นของโรงแรมเรายังตกไปขนาดนี้แล้ว" ก้องเกียรติเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงงเคร่งเครียดก่อนจะเปิดไปยังหน้าหุ้นของโรงแรมที่ล่วงลงไปถึง 3% "แล้วแบบนี้เราจะทำยังไงกันดีล่ะคะ" "เดียววันนี้แด๊ดดี๊ว่าจะเข้าไปพบมิสเตอร์ดราก้อนสะหน่อย" ก้องเกียรติเอ่ยขึ้นก่อนจะกดโทรศัพท์ในห้องทำงานต่อไปยังเลขาหน้าห้อง ติ๊ด~ "ค่ะท่าน" "ติดต่อบริษัท GR ไปทีว่าฉันกับลูกสาวขอเข้าพบมิสเตอร์ดราก้อน" "รับทราบค่ะ" สาวิตรีเอ่ยก่อนที่ก้องเกียรติจะกดวางสายไป "โมเน่ด้วยหรอคะ แด๊ดดี๊ไม่ไปกับหม่ามี๊หรอ" โมเน่เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนักเพราะเธอไม่อยากจะไปเจอดราก้อนอีก "หม่ามี๊ติดรับทูตจากญี่ปุ่นคงไม่สะดวกไปโมเน่จะได้ไปเรียนรู้งานด้วยไงลูกเพราะเดียวแด๊ดดี๊กับหม่ามี๊ไม่อยู่โมเน่ก็ต้องเป็นคนติดต่อมิสเตอร์ดราก้อนเอง" "แต่ว่า.." "ไม่มีแต่โมเน่ไปเตรียมตัวได้แล้ว" ยังไม่ทันที่ร่างบางจะเอ่ยจบผู้เป็นพ่อก็เอ่ยแทรกขึ้นมาทันที "ค่ะ" ณ บริษัท GR สาขาประเทศไทย "สวัสดีค่ะไม่ทราบมาพบใครคะ" เสียงพนักงานต้อนรับของบริษัทเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นก้องเกียรติ โมเน่และสาวิตรีเดินเข้ามาภายในบริษัท "สวัสดีค่ะ นัดไว้คุณก้องเกียรติ ประธาน Moonsky กับคุณพรนับพัน" สาวิตรีเอ่ย "เชิญเลยค่ะท่านประธานรออยู่ชั่นบน" พนักงานต้อนรับเอ่ยพร้อมกับพาทั้งสามคนเดินไปที่ลิฟท์พร้อมกับนำทางไปยังห้องที่ประธานของพวกเขารออยู่ ณ ห้องรับรองแขกของบริษัท GR ก๊อกๆ "ท่านคะ คุณก้องเกียรติและลูกสาวมาแล้วค่ะ" พนักงานต้อนรับคนเดิมเคาะประตูพร้อมกับเอ่ยขึ้น "เชิญเข้ามาเลยครับ" "เชิญค่ะ" สิ้นเสียงของเจ้านาย เธอก็เอ่ยขึ้นพร้อมกับเปิดประตูห้องรับแขกของบริษัทและผายมือให้กับทั้ง 3 คน "สวัสดีครับ เชิญนั่งครับ" ดราก้อนที่นั่งรออยู่ก่อนแล้วเมื่อเห็นแขกมาเยือนก็ลุกขึ้นพร้อมกับยกมือขึ้นสวัสดีก้องเกียรติตามมารยาทก่อนจะเอ่ยขึ้นโดยมีมาตินมือขวาคนสนิทยืนอยู่ด้านหลัง "สวัสดีครับ โมเน่สวัสดีสิลูก" ก้องเกียรติเอ่ยรับไหว้พร้อมกับสะกิดบอกลูกสาวของตนที่ยืนหน้าตาไม่สู้ดีนัก "สวัสดีค่ะ" ร่างบางที่ขัดคำของผู้เป็นพ่อไม่ได้ก็ยกมือไหว้พร้อมกับเอ่ยขึ้นและพยายามปรับสีหน้าให้ดูปกติมากที่สุดในขณะที่ถูกร่างแกร่งจ้องมองอยู่ "ขอนัดผมแบบนี้คงเป็นเรื่องไวน์สินะครับ" ดราก้อนเอ่ยพร้อมกับนั่งลงยังโซฟารับแขกตัวหรูหลังจากที่ทั้ง 3 คน นั่งลงก่อนแล้วพร้อมกับหยิบแก้วกาแฟขึ้นมาจิบและมองไปยังร่างบางที่นั่งนิ่งอยู่ข้างผู้เป็นพ่อ "ใช่ครับ งั้นผมก็ขอไม่อ้อมค้อมเลยนะครับนี้เป็นข้อเสนอจากทางเรา" ก้องเกียรติที่ถูกถามเข้าประเด็นเลยก็เอ่ยขึ้นพร้อมทั้งสาวิตรีที่ยื่นเเฟ้มเอกสารที่เตรียมมาให้กับดราก้อน "ข้อเสนอน่าสนใจดีนะครับแต่ทางเรายังไม่สนใจที่จะร่วมกับโรงแรม Moonsky ตอนนี้" ดราก้อนเอ่ยขึ้นหลังจากรับเอกสารไปเปิดดูจนจบพร้อมกับวางแฟ้มเอกสารกลับคืน "มิสเตอร์ดราก้อนติดขัดตรงไหนจากข้อเสนอของทางเราเสนอมาได้เลยนะครับ" "เรื่องนี้ผมว่าฝ่ายคุณต้องยื่นข้อเสนอที่ถูกใจให้ผมเองดีกว่า" "นายครับอีก 15 นาทีจะเริ่มการประชุมแล้วครับ" มาตินเอ่ย "กาแฟที่นี้อร่อยมากนะครับผมนำเข้ามาเองยังไงก็ลองชิมก่อนกลับด้วยนะครับ งั้นถ้าไม่มีธุระอะไรแล้วผมขอตัวก่อน" ดราก้อนเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มที่ดูมีเลศนัยก่อนจะเดินออกจากห้องไปพร้อมกับมาติน ปล่อยให้ทั้ง 3 คนนั่งอยู่ภายในห้องที่เงียบสงัดกันเพียงลำพัง "จะเอายังไงต่อดีคะท่าน" สาวิตรีเอ่ย "ก็คงต้องไปหาข้อเสนอใหม่มาเดียวให้คนไปสืบทีว่าทาง Mareena ยื่นข้อเสนออะไรให้กับทาง GR " "ค่ะท่าน" "กลับกันเถอะ" ก้องเกียรติเอ่ยหลังจากวางแก้วกาแฟลงพร้อมกับลุกขึ้นและเดินนำไปที่ลิฟท์ ติ๊ง~ "แด๊ดดี๊โมเน่ลืมของ แด๊ดดี๊ลงไปก่อนเดียวโมเน่ตามลงไปนะคะ" ร่างบางเอ่ยขึ้นเมื่อเสียงลิฟท์ที่กดดังขึ้นเมื่อมาถึงชั้นที่พวกเธอยืนรออยู่ "ลืมอะไรล่ะลูกให้สาวิตรีไปเอาแทนก็ได้" "เอ่อ..ลิปน่ะคะน่าจะหล่นตอนเอาออกมาเติมลิฟท์มานานแล้วแด๊ดดี๊ลงไปก่อนเลยค่ะเดียวโมเน่รีบตามไป" ร่างบางเอ่ยขึ้นพร้อมกับดันหลังผู้เป็นพ่อให้เข้าไปในลิฟท์พร้อมกับสาวิตรีก่อนจะรีบเดินกลับไป "ห้องมิสเตอร์ดราก้อนไปทางไหนคะ" ร่างบางที่เดินกลับมาก็เอ่ยถามพนักงานที่อยู่หน้าห้องรับแขกทันที "เลี้ยวขวาห้องในสุดค่ะ" หลังจากที่สิ้นเสียงของพนักงานคนดังกล่าวเธอก็รีบเดินจั้มเท้าไปทันที "นัดไว้รึป่าวคะ" พนักงานที่นั่งอยู่หน้าห้องของดราก้อนเอ่ยถาม "บอกว่าโมเน่มาขอพบค่ะ" ร่างบางหันไปมองหน้ามาตินที่ยืนนิ่งอยู่หน้าประตูห้องก่อนจะเอ่ย "เชิญค่ะ" หลังจากที่โมเน่เอ่ยจบเธอก็ต่อสายบอกเจ้านายทันทีเมื่อได้รับคำอนุญาติเธอจึงเอ่ยขึ้นเเละผายมือไปทางประตูพร้อมกับมาตินที่เปิดประตูให้เธอ "ทำยังไงนายถึงจะรับขอเสนอจากโรงแรมของฉัน" โมเน่เอ่ยขึ้นทันทีพร้อมทั้งหย่อนตัวนั่งยังเก้าอี้ตรงข้ามกับเขา "หึ เธอก็ลองใช้อย่างอื่นแทนข้อเสนอดูสิฉันอาจะสนใจมากขึ้นก็ได้นะถ้าข้อเสนอมันเร้าใจพอ" ร่างแกร่งเอ่ยพร้อมกับใช้ดวงตาคมกริบมองเรือนร่างอรชรตั้งแต่หัวจรดเท้าที่อยู่ในชุดเดรสเกาะอกสีแดงสั้นและมีสูทสีดำทับไว้ก่อนที่สายตาจะไปหยุดอยู่จุดที่อยู่ต่ำกว่าใต้สะดือ "ไอทุเรศ!! " โมเน่เอ่ยขึ้นพร้อมกับกำหมัดแน่นอย่างโกรธเคืองเมื่อถูกร่างแกร่งมองด้วยสายตาและคำพูดที่ดูถูกแบบนั้น "ฉันให้เวลาเธอก่อนงานเปิดบริษัทวันจันทร์ที่จะถึงนี้ไม่งั้นฉันคงต้องตอบตกลงกับ Mareena" "เรื่องของเรามันไม่เกี่ยวกับเรื่องธุรกิจสักหน่อยหัดแยกแยะบ้างสิถ้านายโกรธที่ฉันขอซื้อนายคืนนั้นฉันก็ขอโทษใครมันจะไปรู้ล่ะว่าไม่ได้ขายก็เห็นทำงานแบบนั้นและอีกอย่างไม่เห็นต้องเอาเรื่องธุรกิจมาเกี่ยวเลย" โมเน่เอ่ยขึ้นอย่างพยายามทำใจเย็นทั้งที่ในใจเธอตอนนี้มันอยากจะเดินออกจากห้องนี้ไปเต็มทน "พูดจบแล้วใช่ไหมฉันต้องเข้าประชุมแล้ว" ดราก้อนที่มองร่างบางด้วยสายตาเรียบเฉยเอ่ยพร้อมทั้งลุกขึ้นและเดินออกจากห้องไปทันที- บนรถ -"เห้อ~ " หลังจากที่รถตู้คันหรูเคลื่อนตัวออกจากบริษัท GR ได้ไม่นานก้องเกียรติก็ถอนหายใจออกมาทันทีอย่างคนเหนื่อยล้า"แด๊ดดี๊อย่าทำหน้าแบบนั้นสิคะ" โมเน่ที่เห็นสีหน้าที่ดูตึงเครียดและเหนื่อยล้าของผู้เป็นพ่อเอ่ยขึ้น"ถ้าโรงแรม Mareena ได้ GR ไปโรงแรมเราแย่แน่""งั้นรอบนี้โมเน่ขอเป็นคนทำข้อเสนอไปยื่นเองได้ไหมคะ""แน่ใจหรอลูก" ก้องเกียรติที่ได้ยินที่ลูกสาวเอ่ยก็หันไปมองหน้าเธอและเอ่ยถาม"แน่ใจคะเชื่อใจโมเน่นะคะ ยิ้มได้แล้ว" โมเน่เอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มให้ผู้เป็นพ่อแต่ภายในใจเธอกับสั่นกลัวเพราะเธอรู้ดีว่าสิ่งที่ดราก้อนต้องการคืออะไร- วันต่อมา -ณ บริษัท GRร่างอรชรที่พึ่งขับรถยุโรปคันหรูมาถึงยังบริษัทของดราก้อนได้แต่สูดหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะสวมแว่นตาสีดำจากแบรนด์หรูและก้าวเท้าเดินลงจากรถเข้าไปยังข้างในบริษัทอย่างพยายามซ่อนความกลัวไว้ในใบหน้าที่ดูเย่อหยิ่ง"สวัสดีค่ะมาพบใครคะ" ทันทีที่เธอเดินผ่านพ้นประตูบริษัทเสียงพนักงานต้อนรับก็เอ่ยขึ้น"มิสเตอร์ดราก้อน" โมเน่เอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบพร้อมทั้งถอดแว่นตาดำของแบรนด์หรูออก"เออ..คุณโมเน่ได้นัดไว้รึป่าวคะ? " "ไม่ค่ะ""ปกติจะเจอท่านประธานต้
มือหนารวบข้อมือทั้งสองข้างของคนตัวเล็กไปไว้ด้านหลังพร้อมกับไล่ริมฝีปากหนาดูดเม้นตามตัวของเธอจนเกิดรอยแดงเป็นจ้ำๆ"เจ็บ" โมเน่เอ่ยออกมาเสียงสั่นเมื่อถูกชายหนุ่มมอบสัมผัสที่หยาบโลนเหมือนกับสัตว์ร้ายให้แก่เธอ"หุปปาก แล้วจับมันใส่เข้าไปสะ" ดราก้อนเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงกดต่ำพร้อมกับถอดนิ้วของเขาออกจากรูสวาทงามของเธอก่อนที่จะมองไปยังแก่นกายของเขาที่ตอนนี้มันขยายใหญ่เต็มขนาดให้เธอเอาเข้าไปร่างบางที่ได้ยินที่เขาสั่งก็ได้แต่เก็บความเคียดเเค้นไว้ในใจก่อนจะใช้มือเรียวจับแก่นกายมหึมาของเขามาจ่อที่ยังบริเวณรูสวาทของตัวเองพร้อมกับค่อยๆ นั่งลงไป"อื้อ~ เจ็บ" โมเน่ร้องออกมาพร้อมกับน้ำตาที่ค่อยๆ ไหลเมื่อเธอพยายามดันแก่นกายแต่เข้ามาได้แค่หัวมันกับเจ็บมาจนเหมือนตรงส่วนนั้นของเธอมันจะฉีก"อย่ามาสำอ่อยทำยังกับไม่เคย" คนใจร้ายเอ่ยด้วยถ้อยคำที่ร้ายกาจพร้อมกับมองดูแก่นกายของเขาที่เข้าไปยังรูสวาทของเธอได้แค่หัวเท่านั้นก๊อกๆ"นายครับมีสายด่วนจากนายท่านครับ" มาตินเอ่ยขึ้นพร้อมกับเคาะประตู"ให้ตายเถอะ" ดราก้อนสบดออกมาอย่างหงุดหงิดที่ถูกขัดจังหวะพร้อมกับดันตัวร่างบางที่นั่งคล่อมเขาอยู่ให้นั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงานข
ทันทีที่ร่างสูงเอ่ยจบก็ใช้มือหนากระชากข้อเท้าของร่างบางที่ขยับหนีไปจนติดหัวเตียงลงมาพร้อมกับรีบขึ้นไปคล่อมตัวเธอไว้ทันที"นะ..นายจะทำอะไร" โมเน่เอ่ยถามเสียงสั่นเมื่อถูกคนตัวสูงใช้เข็มขัดแบรนด์หรูมามัดแขนทั้งสองข้างของเธอไว้เหนือศรีษะจนทำให้เธอไม่สามารถขัดขืนได้มาเฟียหนุ่มรีบจัดการถอดอาภรณ์ช่วงล่างตัวเองออกเผยให้เห็นแก่นกายมหึมาที่มันดูใหญ่เกินขนาดคนเอเซีย"ดะ..เดียวก่อน อื้ม~ "แคว้ก!ยังไม่ทันที่เธอจะได้เอ่ยห้ามเขาจนจบประโยคคนใจร้ายก็จัดการฉีกกระชากชุดนอนของเธอจนขาดริ้วเผยให้เห็นเรือนร่างขาวอมชมพูที่ตอนนี้มีแค่เสื้อชั้นในและแพตตี้ตัวจิ๋วเท่านั้นมาเฟียหนุ่มไล่สายตามองคนใต้ร่างของเขาตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างพึ่งพอใจที่ร่างกายของเธอยังคงมีรอยแดงเป็นจ้ำๆ จากฝีมือของเขาเมื่อกลางวันอยู่ก่อนจะโน้มหน้าถ้าลงไปดูดเม้นซอกคอขาวไล่ลงมายังเนินอกอวบอิ่ม"อะ..เจ็บ" ร่างบางร้องออกมาด้วยสีหน้าบิดเบียวเมื่อถูกมือหนากระชากเสื้อชั้นในของเธอออกและฝังคมเคี้ยวไว้กับเต้านมอวบจนเป็นรอยเคี้ยวก่อนจะลากลิ้นสากเลื่อนลงต่ำมายังหน้าท้องแบนราบและเลื่อนต่ำลงใต้สะดือไปจนถึงกลีบกุหลาบงามที่ถูกปิดไว้ด้วยแพตตี้ตัวจิ๋ว"อ
- เช้าวันต่อมา - เวลา 7.00 น. แสงแดดอ่อนๆ ในยามเช้ารอดส่องเข้ามาผ่านกระจกบานหรูกระทบกับใบหน้าของหญิงสาวที่หลับไหลอยู่ด้วยความเหนื่อยล้าจากเรื่องเมื่อคืนเหมือนกับเป็นการช่วยปลุกให้เธอตื่นจากห้วงนิทรา "อื้ม~ เจ็บ" ทันทีที่เธอรู้สึกตัวตื่นความเจ็บปวดก็แล่นเข้ามาทันทีโดยเฉพาะใจกลางความเป็นสาวก่อนที่เธอจะค่อยๆ ลืมตาตื่นมาพบกับว่าเธอกำลังอยู่ในอ้อมกอดของชายใจร้ายที่ยังหลับไหลอยู่ ก่อนที่เหตุการณ์เมื่อคืนจะหลั่งเข้ามาในความทรงจำของเธออีกครั้ง ร่างบางมองใบหน้าคมคายนั้นอยู่พักใหญ่ด้วยความคับแค้นใจก่อนจะก้มลงมองดูร่างกายของตัวเองที่เลอะเทอะเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำรักของคนใจร้ายและคราบเลือดของเธอที่เกิดจากการฉีกขาดของจุดสงวน "นอนนิ่งๆ ถ้าไม่อยากตาย" ร่างแกร่งเอ่ยขึ้นเมื่อร่างบางขยับตัวพร้อมทั้งกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น "ปล่อย! นายได้ที่นายต้องการแล้วก็กลับไปสะแล้วก็อย่างลืมที่สัญญากับฉันไว้ด้วย" โมเน่เอ่ยขึ้นด้วยความโกรธพร้อมทั้งดันตัวเองออกจากอ้อมกอดแกร่งของเขาก่อนจะฝืนลุกขึ้นนั่ง "ฉันบอกเมื่อไหร่ว่าจะสัญญากับเธอ" ดราก้อนที่ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมองร่างบางก่อนจะเอ่ยขึ้นเสียงเรียบอย่างไม่รู้สึกรู
- เช้าวันต่อมา -ณ โรงแรม Moonskyก๊อกๆชายวัยกลางคนที่กำลังตรวจเอกสารด้วยสีหน้าเคร่งเครียดอยู่นั้นก็เอ่ยขึ้นเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูของเลขาหน้าห้อง"เข้ามา""ทางบริษัท GR ติดต่อมาขอเข้าพบตอน 9 โมงค่ะ" สาวิตรีที่ได้ยินคำอนุญาติจากผู้เป็นเจ้านายก็เปิดประตูออกมาพร้อมทั้งเอ่ยขึ้น"จริงหรอ! บอกไปว่าทางเราสะดวกและยินดีมาก" ก้องเกียรติที่ได้ยินที่เลขาของตนบอกก็วางเอกสารลงเเละเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น"แล้วประชุมช่วงเช้า.." สาวิตรีเอ่ยขึ้นอย่างมีสีหน้าลำบากใจเพราะว่าช่วงเช้าของวันนี้ก็มีประชุมที่สำคัญมากเช่นกัน"เลื่อนออกก่อนสักชั่วโมงแล้วก็โทรตามโมเน่ให้มาให้ทันก่อน 9 โมง""รับทราบค่ะ" หลังจากที่ได้รับคำสั่งจากผู้เป็นนายแล้วเธอก็เอ่ยขึ้นก่อนจะหันหลังกลับไปทำตามที่ก้องเกียรติสั่ง- 15 นาทีผ่านไป -ก๊อกๆแกร็ก~"อ้าว คุณหญิงไปส่งลูกค้าเสร็จแล้วหรอผมกำลังจะโทรไปบอกข่าวดีเลย" ก้องเกียรติที่กำลังจัดเตรียมเอกสารอยู่อย่างอารมณ์ดีก็เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นผู้เป็นภรรยาของตนเปิดประตูเข้ามาในห้อง"เสร็จแล้วค่ะแล้วก็นี่ฉันซื้อวุ้นมะพร้าวร้านโปรดคุณมาให้ด้วย" คุณหญิงไพรรินที่พึ่งไปส่งลูกค้าของตนที่สนามบินเ
- หลายวันต่อมา -ก๊อกๆ"เสร็จรึยังลูกเดียวไปสายนะ" เสียงหวานของผู้เป็นเเม่เอ่ยถามลูกสาวของตนอยู่ที่หน้าประตูห้องนอนเนื่องจากใกล้จะถึงเวลางานเปิดตัวบริษัทของ GR แล้ว"เสร็จแล้วค่ะหม่ามี๊กำลังออกไปค่ะ" โมเน่เอ่ยขึ้นพร้อมทั้งใส่ต่างหูอย่างรีบร้อนรู้ทั้งรู้ว่าเป็นวันสำคัญแต่เธอก็ดันนอนตื่นสายสะได้- 15 นาทีต่อมา -"วันนี้ลูกสาวแด๊ดดี๊สวยจังเลยแบบนี้ต้องเป็นดาวเด่นในงานแน่ๆ " ก้องเกียรติเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นลูกสาวของตนเองที่อยู่ในชุดเดรสสีน้ำเงินเรียบหรูเดินลงมาจากบันไดชั้นสองมายังห้องนั่งเล่น"นี้จ๊ะช่อดอกไม้อย่าลืมให้มิสเตอร์ดราก้อนล่ะ" คุณหญิงไพรินที่นั่งรออยู่แล้วเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งหยิบช่อดอกไม้ที่เตรียมไว้ให้ลูกสาวของตน"ค่ะหม่ามี๊" โมเน่เอ่ยขึ้นพร้อมกับยิ้มให้แม่ของตนด้วยสีหน้าประมาทเพราะงานนี้ไม่มีพ่อกับแม่ของเธอไปด้วยอย่างทุกครั้ง"งั้นแด๊ดดี๊กับหม่ามี๊ไปก่อนนะเดียวจะตกเครื่องเอา" ก้องเกียรติเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งยกนาฬิกามาดูว่าใกล้เวลาที่ต้องออกจากบ้านแล้วพร้อมกับเดินมาโอบเอวภรรยาของตน"ค่ะเดินทางดีๆ นะคะ" ร่างบางเอ่ยขึ้นพร้อมกับมองแผ่นหลังของพวกท่านทั้งสองเดินออกไปจากบ้านก่อนจะสูดหายใจเข้าป
คลืด คลืด~ร่างบางที่กำลังเดินออกจากงานไปยังโรงจอดรถก็หยุดฝีเท้าลงพร้อมกับควานหาโทรศัพท์มือถือจากกระเป๋าสะพายแบรนด์หรูก่อนจะกดรับสาย"ว่าไงคะแด๊ดดี๊" เสียงหวานเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าผู้เป็นพ่อโทรมา( แด๊ดดี๊กับหม่ามี๊เห็นข่าวแล้วนะลูกตอนนี้หุ้นเราพุ่งขึ้น 10% เกิดคาดมากโมเน่อยากได้อะไรบอกมาเลยเดียวแด๊ดดี๊หามาให้ ) ก้องเกียรติเอ่ยชมลูกสาวของตนด้วยน้ำเสียงดีใจและภูมิใจเป็นการใหญ่ที่ลูกสาวของตนสามารถทำให้หุ้นของโรงแรมขึ้นมาได้มากว่าที่ร่วงลงไปหลายเท่าตัว"ตอนนี้โมเน่ยังคิดไม่ออกค่ะ เออแด๊ดดี๊คะช่วงนี้โมเน่ขอไปอยู่คอนโดนะคะ" โมเน่เอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าที่ห่อเหี่ยวเมื่อเธอรับรู้ได้ว่าหลังจากนี้ชีวิตของเธอคงจะไม่สงบสุขหรือมีอิสระอีกต่อไปแล้วเเน่ๆ( ทำไมล่ะลูกอยู่บ้านก็สบายดีออกหนิ ) ก้องเกียรติเอ่ย"ก็โมเน่โตแล้วหนิค่ะ โมเน่ก็อยากจะอยู่คนเดียวบ้างตอนอยู่อเมริกาก็อยู่คนเดียว"( งั้นก็ตามใจโมเน่แต่อย่าเที่ยวมากนะลูกว่างๆ ก็เข้าบริษัทบ้าง ) ผู้เป็นพ่อเอ่ยขึ้นอย่างเข้าใจลูกสาวของตนว่าคงจะอยากมีเวลาส่วนตัวตามประสาวัยรุ่น"ค่ะแด๊ดดี๊"( ถ้าโมเน่ไม่อยากเข้าบริษัทก็หาลูกเขยหล่อๆ เก่งแบบมิสเตอร์ดราก้อนมาให
Monet Part"ยินดีต้อนรับกลับบ้านครับ/ค่ะ" ทันทีที่ดราก้อนเดินเข้ามาในตัวบ้านเหล่าพ่อบ้านแม่บ้านทั้งหลายก็มายืนเรียงกันพร้อมกับเอ่ยต้อนรับเขาและทุกคนต่างก็พากันก้มหน้าอย่างไม่มีใครกล้าเงยหน้ามามองเขาที่กำลังฉุดกระชากฉันสักคน"โอ้ย! เจ็บฉันเดินเองได้" ฉันเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งสะบัดแขนออกอีตานี้แรงเยอะชะมัด"...." ดราก้อนไม่ได้เอ่ยตอบอะไรฉันก่อนจะเดินนำหน้าฉันไปชั้นบนของคฤหาสน์นิ่งๆ ฉันที่เดินตามหลังเขาก็มองไปรอบๆ คฤหาสน์หลังนี้ที่ถูกตกแต่งด้วยโทนสีดำทองอย่างหรูหราลงตัวดูจากตาเปล่าก็รู้แล้วว่าของในบ้านหลังนี้ถูกนำเข้ามาทั้งหมดและราคาคงแพงเอาเรื่อง"โอ้ย จะหยุดทำไมไม่บอก" ฉันเอ่ยขึ้นอย่างตกใจเมื่ออยู่ดีๆ ดราก้อนก็หยุดเดินอยู่ที่หน้าประตูบานใหญ่ลายมังกรที่ดูแล้วน่าจะเป็นห้องของเขาทำให้ฉันที่มัวมองรอบๆ บ้านอยู่นั้นชนเข้ากับแผ่นหลังของเขาเต็มๆแต่เขาก็ไม่ได้เอ่ยตอบอะไรพร้อมกับเปิดประตูเข้าไปโดยมีฉันเดินตามเข้าไปด้วยแกร็ก~"ถอดเสื้อผ้าออกสะ" ดราก้อนเอ่ยขึ้นพร้อมกับกำลังถอดเข็มขัดหนังแบรนด์หรูของตัวเองออก"อะไรของนา..อุป" ฉันที่ยังไม่ทันที่จะเอ่ยอะไรจบก็ถูกเขาประกบปากจูบอย่างเร้าร้อนเสียก่อน"อ
"เสร็จแล้ว" หญิงสาวเอ่ยขึ้นเมื่อเธอพึ่งใช้ผ้าก๊อซพันเเขนให้กับเขาเสร็จ"....." หลังจากที่หญิงสาวเอ่ยจบมาเฟียหนุ่มก็มองที่ผ้าพันแผลที่แขนของเขาที่มันดูไม่เรียบร้อยเท่าไหร่นัก"นี่! ไม่ต้องมามองแบบนั้นเลยนะก็ฉันพึ่งพันครั้งแรกมันก็แบบนี้แหละ" หญิวสาวที่เห็นสายตาของมาเฟียหนุ่มก็รู้ได้มันทีว่าเขาคิดอย่างไรกับการทำแผลของเธอ"ก็ไม่ได้ว่าอะไร" มาเฟียหนุ่มเอ่ยพร้อมกับลุกขึ้นไปหยิบกระเป๋าฉุกเฉินของศัตรูที่เขาขนเสบียงพวกนั้นลงมาด้วยไว้ตรงหน้าหญิงสาว"ว้าวว พวกนั้นเตรียมพร้อมกว่านายอีก" โมเน่ที่เปิดกระเป๋าดูและเห็นของกินก็เอ่ยขึ้นอย่างดีใจ"ฉันไม่ได้เตรียมตัวมาไล่ยิงคน""ก็นั้นแหละเป็นถึงมาเฟียนายก็ควรจะเตรียมพร้อมกว่านี้ไหมเกือบจะพาฉันมาตายอยู่แล้ว" โมเน่เอ่ยบ่นเป็นชุดพร้อมกับหยิบขนมปังขึ้นมาแกะถุงก่อนจะกัดคำโตอย่างคนหิวโหย"...." ดราก้อนที่ได้ยินที่ร่างบางเอ่ยก็ได้แต่นั่งกินแครกเกอร์เงียบๆ อย่างไม่ได้เอ่ยเถียงอะไรกลับไปส่วนหนึ่งที่เธอพูดก็มีเหตุผลเขาควรจะเตรียมพร้อมให้มากกว่านี้จริงๆ อย่างที่เธอเอ่ยเพราะเขานั้นเป็นมาเฟียและมีศัตรูอยู่รอบตัว"ทำไมนายไม่กินขนมปังล่ะมันน่าจะอยู่ท้องกว่า" โมเน่ถา
หญิงสาวตะโกนเรียกชื่อมาเฟียหนุ่มขึ้นมาอย่างสุดเสียงด้วยความตกใจพร้อมกับดวงตาที่เบิกกว้างเบิกเมื่อเห็นว่าเขาถูกกระสุนยิงเข้าที่แขนเพื่อที่จะมาช่วยผลักเธอให้พ้นจากกระสุน"ซี๊ด~ " ดราก้อนที่ถูกยิงเข้าที่แขนก็ทำสีหน้าเจ็บเพียงเล็กน้อยเพราะดีว่ากระสุนนี้เพียงแค่เฉี่ยวดีว่าไม่ฝังเข้าที่แขนแต่ก็เป็นรอยเฉี่ยวที่ลึกพอสมควร"ดะ...ดราก้อนเเขนนาย ฮึก" หญิงสาวเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นคลอนด้วยความกลัวและตกใจพร้อมกับชี้ไปที่แขนข้างขวาของมาเฟียหนุ่มที่ตอนนี้เลือดไหลจนชุ่มแขนเสื้อเชิ้ตของเขา"หลับตาไว้จนกว่าฉันจะบอกให้ลืมตา" ดราก้อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงกดต่ำพร้อมกับเปลี่ยนสีหน้าและแววตาเป็นโหดเหี้ยวก่อนจะสไลค์ปืนเพื่อเตรียมจะยิงทั้งที่ตอนนี้เขาเหลือกระสุนเพียงแค่ลูกเดียวเท่านั้น"อืม" หญิงสาวเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าและแววตาของชายหนุ่มเปลี่ยนไปเป็นโหดเหี้ยมอย่างที่เธอนั้นไม่เคยเห็นมาก่อนหลังจากที่หญิงสาวหลับตาลงดราก้อนก็หันกลับไปทางชายฉกรรจ์ที่นอนอยู่กับพื้นทรายพร้อมกับกำลังเล็งปืนมาทางเขาทั้งที่ตนเองเเทบจะยืนไม่ไหวเพราะเลือดไหลนองออกมาจากขาที่ถูกมาเฟียหนุ่มยิงจนเลอะพื้นทรายสีขาวดราก้อนที่เห็นแบบนั้นได้แต่ก
หญิงสาวกรีดร้องออกมาอย่างสุดเสียงเมื่อเธอวิ่งมาเกือบถึงชายหาดหมายจะเจอเหล่าลูกน้องของดราก้อนมาช่วยเหลือเธอแต่เธอก็ต้องผิดหวังพร้อมกับตาเบิกกว้างด้วยความตกใจกลัวทันทีเมื่อเรือที่มาจอดเทียบใกล้ๆ เรือสปีดโบ๊ทของดราก้อนเป็นเรือของชายฉกรรจ์ที่ไล่ยิงเธอเเละดราก้อนเมื่อเช้าและพวกเขากำลังเล็งปืนมาที่เธอโมเน่หลับตาปี๋เมื่อคิดว่าเธอคงไม่รอดแล้วแน่ๆ พร้อมกับได้ยินเสียงปืนที่ลั่นผ่านเธอไปแต่เธอกับไม่รู้สึกเจ็บอะไรพร้อมกับเสียงของมาเฟียหนุ่มดังขึ้น"ฉันบอกแล้วใช่ไหมไม่ให้ไปไหน! " ดราก้อนตวาดลั่นพร้อมกับรีบวิ่งมาดึงเธอไปหลบหลังเขาหญิงสาวที่หลบอยู่หลังมาเฟียหนุ่มค่อยๆ ลืมตาขึ้นเมื่อได้ยินเสียงของชายหนุ่มพร้อมกับมองไปยังเรือของอีกฝ่ายก็เห็นว่าคนที่เล็งจะยิงเธอเมื่อกี้ตอนนี้ถูกดราก้อนยิงตกทะเลไปแล้ว"มึงฆ่าลูกพี่แล้วก็เพื่อนกู กูไม่ปล่อยไว้แน่!! " ชายฉกรรจ์คนหนึ่งที่เหลือรอดอยู่เอ่ยขึ้นเสียงดังลั่นด้วยใบหน้าเครียดเเค้นพร้อมกับเล็งปืนมาที่เขา"เดียวฉันนับหนึ่งถึงสามเธอวิ่งไปหลบอยู่หลังต้นไม้เข้าใจไหม""แล้วนายล่ะ""ไม่ต้องถามมากฉันบอกให้ทำอะไรก็ทำ! " ดราก้อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงดุดันพร้อมกับเล็งปืนไปที่เ
"ที่นี่เกาะอะไร" ร่างบางที่เดินตามหลังมาเฟียหนุ่มเข้าไปในเกาะเอ่ยถามขึ้นอย่างสงสัยเพราะเมื่อเธอมองไปรอบๆ เธอไม่เห็นเรือหรือแม้แต่ผู้คนอาศัยอยู่เลย"ไม่รู้ แต่น่าจะเป็นเกาะที่ไม่มีเจ้าของ" ดราก้อนเอ่ยขณะที่เขาเเละเธอเดินลึกเข้าไปเพื่อที่จะหาที่หลบภัย"พวกมันจะตามเรามาไหม" โมเน่เอ่ยถามมาเฟียหนุ่มด้วยสีหน้าเป็นกังวลและหวาดกลัว"ตาม" "นี่ ฉันยังไม่อยากตายนะ! " หลังจากสิ้นคำตอบของดราก้อนร่างบางก็รีบตวาดออกมาทันทีพร้อมกับหัวใจที่เริ่มเต้นแรงขึ้นอย่างหวาดกลัวว่าพวกนั้นจะตามมาเจอ"เธออยู่กับฉันไม่ตายหรอก""มันก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้วฉันยังสาวยังสวยอยู่จะไม่ยอมตายเด็ดขาดและถ้าฉันตายฉันจะมาหักคอนายคนแรก! ""ผีฉันก็ขมขืน""ไอทุเรศ แล้วพวกลูกน้องนายจะมารับตอนไหน""ไม่รู้ที่นี้ไม่มีสัญญานโทรศัพท์" ดราก้อนเอ่ยขึ้นตามความจริงเพราะตั้งแต่ลงเรือมาเขาเอาโทรศัพท์ขึ้นมาดูหลายต่อหลายครั้งก็ไม่มีคลื่นสัญญาขึ้นมาเลยสักขีดเดียว"หมายความว่าไง นี่ฉันต้องอยู่ที่เกาะนี่ถึงเมื่อไหร่ก็ไม่รู้จนกว่าลูกน้องนายจะหาเจอทั้งๆ ที่มีคนจะไล่ฆ่าเราน่ะหรอ! " โมเน่ตวาดขึ้นเสียงดัง"ใช่" ดราก้อนเอ่ยด้วยเสียงเรียบนิ่งก่อนจะหย
- 20 นาทีต่อมา -"อรุณสวัสดิ์ครับนาย" เสียงทักทายยามรุ่งสางของเหล่าบรรดาลูกน้องที่เริ่มตื่นมาเริ่มงานกันอีกครั้งเอ่ยทักทายดราก้อนที่พึ่งเดินออกมาจากโกดังพร้อมกับหญิงสาว"เตรียมสปีดโบ๊ทไว้ให้กูแล้วใช่ไหม" มาเฟียหนุ่มเอ่ยถามเมื่อเห็นมาตินและเฟรดเดินมา"ครับ นายจะให้ผมขับไปให้ไหมคับ" มาตินเอ่ยพร้อมกับยื่นกุญแจเรือสปีดโบ๊ทให้กับผู้เป็นนาย"ไม่ต้อง" มาเฟียหนุ่มเอ่ยก่อนจะเดินนำโมเน่ไปยังเรือสปีดโบ๊ทที่จอดรอเขาไว้อยู่ที่ชายฝั่ง- บนเรือสปีทโบ๊ท -"แค่จะดูพระอาทิตย์ขึ้นต้องออกมาไกลขนาดนี้เลยหรอ? " โมเน่เอ่ยถามเมื่อเห็นว่าดราก้อนขับเรือออกมาค่อนข้างที่จะไกลจากชายฝั่งอย่างรู้สึกสงสัยและหวั่นๆ ใจอย่างบอกไม่ถูกเหมือนกับว่ามันจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น"จุดนี้เป็นจุดที่สวยที่สุดแล้ว" ดราก้อนที่ขับเรือสปีดโบ๊ทมาถึงยังจุดที่เขาต้องการก็ทำการดับเครื่องพร้อมกับเอ่ยขึ้นและเป็นจังหวะเดียวกันกับพระอาทิตย์ที่กำลังโผลขึ้นมาจากขอบฟ้า"สวยจังเลย" หญิงสาวเอ่ยพร้อมกับสายตาที่จ้องมองไปยังพระอาทิตย์ที่กำลังขึ้นอย่างหลงไหลจนลืมเรื่องที่เธอเป็นกังวนในใจไปจนหมดสิ้น"ชอบไหม" ดราก้อนที่มองร่างบางอยู่ด้วยสายตาอ่อนโยนก็เอ่
"วิวตรงนี้สวยจัง" โมเน่เอ่ยขึ้นเมื่อขึ้นมาถึงระเบียงชั้น 2 ของโกดังและทอดสายตามองไปที่ทะเลอันกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาตรงหน้า"นั้นสิ สวยจัง" เวนิสที่มองท้องทะเลยามค่ำคืนกับเพื่อนรักของตนเอ่ย"มึงยังไม่ได้บอกกูเลยนะว่ามึงไปอยู่กับเอเทรนได้ยังไง" โมเน่เอ่ยพร้อมกับนั่งลงยังเก้าอี้ม้าหินอ่อนที่ตั้งไว้ที่ระเบียงพร้อมทั้งจ้องมาที่เวนิสอย่างต้องการคำตอบ"เรื่องมันยาว" เวนิสเอ่ยขึ้นพร้อมกับก้มลงต่ำด้วยแววตาเศร้าที่สั่นไหว"เล่ามากูพร้อมรับฟัง" โมเน่เอ่ยขึ้นพร้อมทั้งจับมือเพื่อนรักของตนมากำไว้อย่างให้กำลังใจ"คือว่า....." เวนิสเงยหน้ามองเพื่อนรักของเธอด้วยน้ำตาที่คลอเบ้าอย่างหลากหลายความรู้สึกก่อนจะเริ่มเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้โมเน่ฟัง"เหี้ยมาก แล้วตอนนี้อีเเม่เลี้ยงมึงอยู่ไหนกูจะไปจัดการมันเอง" หลังจากที่โมเน่ได้ฟังเหตุการณ์ทั้งหมดที่เวนิสเอ่ยเล่าให้ฟังก็รู้สึกโกรธแค้นแทนเพื่อนทันทีและรู้สึกเสียใจไปในคราวเดียวกันที่เธอเองไม่สามารถช่วยอะไรได้"ไม่ต้องถึงมือมึงหรอกกูรอคิดบัญชีกับมันอยู่แค่หาจังหวะ" เวนิสเอ่ยขึ้นด้วยแววตาเครียดแค้น"แล้วมึงอยู่กับเอเทรนมันดูแลมึงดีไหม""ก็ดี หรือกูเริ่มปรับตัวได้ก
"ไม่ได้หรอกครับ นายหญิงเป็นผู้หญิงของนายเรียกนายหญิงถูกแล้วครับ" ลูกน้องคนเดิมเอ่ยขึ้นเพราะว่าถ้าเธอผู้หญิงของนายเขายังไงก็ต้องเรียกว่านายหญิงเท่านั้น"ช่างมันเถอะจะเรียกอะไรก็เรียก แต่ข้าวกล่องมันจะพอไปมีแรงทำงานอะไร" โมเน่กรอกตาไปมาอย่างไม่อย่างไม่อยากสนใจกับสรรพนามที่ลูกน้องของดราก้อนเรียกตนก่อนจะเอ่ยต่อพร้อมกับกวักมือเรียกเฟรดที่ยืนอยู่กับดราก้อนให้มาหาเธอ"เฟรดมานี้หน่อย""ครับ" เฟรดที่พึ่งเดินมาถึงเธอเอ่ย"เดียวนายสั่งกุ้งลอฟเตอร์มา 100 ตัวนะ"" 100 ตัว? " เฟรดเอ่ยทวนอีกครั้งด้วยสีหน้าสงสัยปนตกใจกับจำนวน"ใช่ แล้วก็ข้าวผัดปูด้วยที่นี้มีกี่คน" โมเน่เอ่ยขึ้นพร้อมทั้งมองไปรอบๆ โกดังที่ตอนนี้มีเหล่าลูกน้องมากมายทำงานกันอยู่อย่างไม่มีใครได้หยุดพัก"ประมาณ 250 คน ครับ" "งั้นข้าวผัดปู 300 กล่อง ปลาหมึกย่าง 50 โล ปลาเผา 200 ตัว ปูม้านึ่งด้วย""สั่งมาให้คนกินหรอครับ? ""ฉันคงสั่งมาเลี้ยงผีเจ้าที่มั้ง นี้พวกนายจะกินไรไหมเดียวฉันเลี้ยงเอง" โมเน่เอ่ยเหวี่ยงใส่เฟรดอย่างหงุดหงิดกับสิ่งที่เขาถามเชิงแขวะเธอก่อนจะหันไปเอ่ยถามเอลิค เฟยหลงและแดเนียลที่ยังคงทำงานกันอยู่เช่นกัน"หึ ไม่ใช่ใช้เงินเพื
"ไง สาวน้อยมานั่งทำอะไรตรงนี้คนเดียว" แดเนียลที่พึ่งเดินมาจากการตรวจงานอีกด้านของโกดังเสร็จก็เอ่ยทักหญิงสาวที่นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ที่โซฟารับแขกของโกดัง"ตอนแรกมีเฟรดด้วยแต่ฉันใช้ไปซื้อชานมไข่มุก" หญิงสาวเอ่ยโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นไปมองเพราะสายตาของเธอยังคงจดจ่อกับเกมส์ในโทรศัพท์ของตนเองอยู่"ฮ่าๆ เธอนี้ใจกล้าไม่เบาเลยนะใช้มือซ้ายคนสนิทของเพื่อนฉันไปซื้อชานมไข่มุก" แดเนียลที่ได้ยินที่หญิงสาวเอ่ยก็หัวเราะลั่นขึ้นมาทันทีก่อนจะเอ่ยต่อ"แล้วมันแปลกตรงไหนคะหรือว่าใช้ไม่ได้? " โมเน่ที่เห็นว่าแดเนียลกำลังหัวเราะกับคำสั่งที่เอใช้เฟรดก็ขมวดคิ้วพร้อมกับเงยหน้ามองชายหนุ่มพร้อมกับเอ่ยขึ้น"ป่าวหรอก ไม่ใช่ใช้ไม่ได้แต่ฉันแค่ไม่เคยเห็นใครใช้ไอเฟรดไปทำอะไรแบบนั้นมาก่อน""งั้นตอนนี้ก็เห็นแล้วนะคะ" "เธอนี้ฝีปากใช้ได้ แต่ถึงเธอจะเป็นผู้หญิงของดราก้อนหรือว่าที่นายหญิงใหญ่ของตระกูลมันก็ควรระวังคำพูดไว้บ้าง" แดเนียลเอ่ยกับหญิงสาวเสียงเรียบอย่างต้องการจะตักเตือนเธอเพราะแค่เขาเจอเธอแค่ไม่กี่ครั้งก็พอจะเดาได้ว่าเธอคงแสบใช่ย่อยจากวีรกรรมต่างๆ ที่เธอทำกับเพื่อนรักของเขา"ฉันไม่ได้อยากเป็นผู้หญิงของเขาหรือนายหญิงอะ
"กำหนดมันวันเสาร์ไม่ใช่หรอ? " หลังจากที่มาตินเอ่ยจบมาเฟียหนุ่มก็เงยหน้าพร้อมกับเอ่ยขึ้นทันที"คุณเฟยหลงบอกว่ามีสายบอกตำรวจมันรู้แล้วว่าเสาร์นี้เลยจะเลื่อนเวลาส่งของให้ไวขึ้นครับ""อืม แล้วตอนนี้พวกมันไปที่ท่าเรือกันรึยัง""คุณเฟยหลงอยู่ท่าเรือที่สตูลกับคุณเอลิคแล้วครับส่วนคนอื่นๆ กำลังตามไป""บอกพวกมันว่าเดียวกูตามไป""ครับ" หลังจากที่รับคำสั่งจากผู้เป็นนายเสร็จมาตินก็รีบออกไปทันทีพร้อมกับดราก้อนที่ยกโทรศัพท์ขึ้นมากดต่อสายไปยังเบอร์ของหญิงสาว( ฮะโหล )"งานเธอยังเหลืออีกเยอะไหม"( ไม่ฉันมีแค่เซ็นเอกสารแทนแด๊ดดี๊กับหม่ามี๊มีอะไรรึป่าว ) โมเน่เอ่ยถามด้วยความสงสัย"เดียวฉันไปรับ"หลังจากที่เขาเอ่ยจบก็กดตัดสายทันทีโดยไม่ฟังคำตอบของคนปลายสายพร้อมกับเก็บงานทุกอย่างและลุกออกไปจากห้องทำงานทันทีอย่างรีบร้อน- บนรถ -"นี่นายจะพาฉันไปไหน" เสียงของหญิงสาวที่มาเฟียหนุ่มพึ่งไปรับมาจากโรงแรมของเธอเอ่ยขึ้นพร้อมกับมองไปข้างทางที่ตอนนี้รถตู้คันหรูกำลังแล่นอยู่ด้วยความเร็วที่เร็วกว่าปกติ"เดียวถึงก็รู้เอง" ดราก้อนเอ่ยพร้อมทั้งเช็คงานที่เขาต้องทำให้เสร็จภายในอาทิตย์นี้ผ่านทางไอแพด"นายคงไม่ได้พาฉันไปฆ่า