Share

บทที่ 18

กู้อิ๋นเชิดใบหน้าน้อย ๆขึ้นมา แล้วถามว่า “แล้วถ้าฉันไม่ตกลงล่ะ?”

ในเรื่องการแต่งงานนี้ คุณย่ากำชับเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า จะมาทำถูไถไม่ได้ และยิ่งจะมาฝืนแต่ง ไม่ได้เป็นอันขาด!

ทั้งหมด ต้องเอาความสุขของเธอเป็นหลัก

แม้ว่าตอนนี้จะเป็นการเล่นละครตบตา แต่กู้อิ๋นก็ยังไม่ค่อยเต็มใจ

เมื่อสิ้นเสียง สายตาเย็นชาของลั่วเหยียน ก็ยิ่งเย็นชาขึ้นอีกเท่าตัว “ได้ยินที่ประธานเผยพูดเมื่อกี้แล้วใช่ไหม?”

ฉะนั้นถ้าเธอยังปฏิเสธอีกละก็ จุดจบคงมีเพียงแค่...ออกไปจากเมืองก่าง!

กู้อิ๋นยังอยากจะพูดอะไรอีก ทว่าเมื่อสบกับสายตาที่เคร่งเครียดของลั่วเหยียน ก็รู้ได้ว่าสถานการณ์ตรงหน้าไม่ง่ายเลยที่เธอจะคัดค้าน จึงทำได้เพียงกลืนคำพูดทั้งหมดลงไป

ลั่วเหยียนเห็นเธอไม่พูดไม่จา จึงถามไปเลยว่า “สำเนาทะเบียนบ้านล่ะ?”

“อยู่ที่พี่สาวฉันค่ะ” กู้อิ๋นก้มหน้าพลางพูด

ลั่วเหยียนมองเวลาบนนาฬิกาข้อมือ แล้วพูดขึ้นต่อว่า “วันนี้ตอนบ่ายให้คุณลาได้ ไปเอามาซะ”

ไม่รู้ว่าเป็นแบบนี้หรือเปล่า แบบว่าตอนนี้กู้อิ๋นรับรู้ได้ถึงความรู้สึกของการบังคับแต่งงาน!

ส่วนฉากการแต่งของตัวเองนั้น เธอเคยคิดถึงดอกกุหลาบและเทียนธรรมดา ๆ และเคยคิดถึงภาพพูดคุยเรื่องสินสอดด้วยกันกับพ่อแม่ของอีกฝ่าย

แต่จู่ๆให้ไปเอาสำเนาทะเบียนบ้านมาแต่งงานเลยแบบนี้ เธอไม่เคยนึกถึงมาก่อน

แม้จะรู้สึกได้ถึงการขู่ แต่เธอก็ทำได้เพียงพยักหน้า “งั้น นานแค่ไหนคะ?”

ลั่วเหยียนขมวดคิ้ว “นานแค่ไหนอะไร?”

“คุณบอกว่า เป็นแค่การแต่งงานตามการตกลงไม่ใช่เหรอคะ?” กู้อิ๋นที่ตอบสนองกลับมา รู้สึกว่าจะหนีไม่พ้น

ทำได้เพียงพยายามถามบางสิ่งให้ชัดเจนเท่าที่จะทำได้

เมื่อพูดถึงเวลา ลั่วเหยียนก็ขมวดคิ้ว “เรื่องนี้คุณต้องถามประธานเผยแล่วล่ะ”

รู้เพียงว่าตอนนี้ต้องตัดความคิดของผู้หญิงคนนั้น แต่เขาเองก็ไม่รู้รายละเอียดว่าต้องนานแค่ไหน

ใบหน้าน้อย ๆ ของกู้อิ๋นทุกข์ระทมอีกแล้ว เพราะเธอไม่กล้าที่จะไปถามเผยเซียว

ตั้งแต่ลั่วเหยียนออกมาจากห้องทำงาน

สีหน้าของกู้อิ๋นก็หม่นหมองราวกับขี้เถ้า หมดอาลัยตายอยาก

เผยเซียวจัดการเอกสารอยู่ในห้องทำงาน ขณะเงยหน้าขึ้น ก็มองเห็นกู้อิ๋นที่กำลังเก็บข้าวของเตรียมจะออกไปข้างนอกผ่านทางช่องหน้าต่างมู่ลี่

ท่าทางไม่มีชีวิตชีวานั้น ทำให้เขาไม่สบอารมณ์เอาซะเลย

ลั่วเหยียนเข้ามา เผยเซียวถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เรียบร้อยแล้วเหรอ?”

ลั่วเหยียนพยักหน้า แล้วเอ่ยขึ้นว่า “ว่ากันตามเหตุผลแล้วคุณควรจะบอกด้วยตัวเองนะครับ ดีร้ายยังไงก็เป็นการแต่งงาน!”

จะทำอย่างไรเมื่อเขาเอ่ยปากขู่ไปแล้ว ลั่วเหยียนกลัวมากจริง ๆ ว่าเขาจะขู่จนทำให้เธอหนีไป

แม้ผู้หญิงในเมืองก่างที่อยากแต่งงานกับเขามีไม่น้อย แต่คนที่เหมาะสมกลับหาได้ยากมาก!

สีหน้าของเผยเซียวเคร่งขรึม แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร!

ท่าทางไม่เต็มใจของกู้อิ๋น เห็นชัดว่าทำเอาเขาไม่สบอารมณ์เล็กน้อย

ลั่วเหยียน “ตอนนี้ปล่อยให้เธอลาไปเอาสำเนาทะเบียนบ้านแล้วครับ ผู้ช่วยกู้มีพี่สาวอยู่ที่นี่ด้วยคนหนึ่ง”

เผยเซียวเพียงแค่ ‘อืม’ ไม่ได้พูดอย่างอื่นต่อ

ลั่วเหยียนเองก็คิดว่าที่เขาไม่ถามคงมีเหตุผล

ถึงยังไงพวกเขาก็แต่งงานกันตามข้อตกลง ด้วยเหตุนี้ในส่วนของด้านพิธีการจึงไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจอยู่แล้ว

กู้อิ๋นออกมาจากเผยซื่อ ทว่ายังไม่ได้ออกไปเลย เมื่อครู่เธอส่งข้อความหาเหยียนฉู่

ในขณะนี้เธอนั่งรออยู่ข้างแปลงดอกไม้ไม่ไกลจากบริษัท

ไม่นานเหยียนฉู่ก็มา

วิ่งอย่างกระหืดกระหอบ แล้วก็มาหย่อนก้นนั่งลงข้างกู้อิ๋นเลย

จากนั้นก็ส่งเนื้อไก่แดดเดียวห่อหนึ่งให้เธอ ส่วนตัวเองเปิดโกโก้เย็นจิบไปสองสามทีก่อนจะถามขึ้นว่า “เกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกแล้วเหรอ?”

กู้อิ๋นรับเนื้อไก่แดดเดียวมากินแล้วลุกขึ้น “ฉันจะแต่งงานแล้ว!”

เมื่อเหยียนฉู่ได้ยินดังนั้นก็ ‘พรวด...’ พ่นโกโก้เย็นในปากออกมาทั้งหมด

เธอมองไปทางกู้อิ๋นด้วยความช็อก “เธอว่าอะไรนะ? ฉันได้ยินไม่ชัด!”

เธอบอกว่าจะแต่งงานและมีลูกช้าเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้คิดจะทิ้งตัวเองอย่างกะหมา?

กู้อิ๋นพยักหน้า “กับประธานเผย!”

“ไม่สิ นี่มันสถานการณ์ไหนอีกเนี่ย?”

เหยียนฉู่ถูกคำพูดของเธอ ทำให้เวียนหัวไปหมดแล้ว

แม้ลั่วเหยียนจะบอกเพียงว่าเป็นการแต่งงานตามข้อตกลลง และบอกว่าจะไม่เปิดเผย

แต่กู้อิ๋นไม่อยากปิดบังเหยียนฉู่ ถึงยังไงก็ปิดไม่ได้!

เธอเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ให้เหยียนฉู่ฟังอย่างละเอียด ทว่าเมื่อเหยียนฉู่ได้ฟังจนจบ ก็อึ้งจนอ้าปากค้างไปเลย

แม้กู้อิ๋นจะพูดอย่างชัดเจนมากแค่ไหน ทว่าเธอกลับฟังจนสับสนไปหมด

“พวกเขารู้ว่าเธอคือคนในคืนนั้น?” เหยียนฉู่ถามหาวิธีที่จะแก้ไขปัญหาได้

กู้อิ๋นส่ายหน้า “พวกเขาไม่รู้ แต่นับตั้งแต่ตอนนี้ไม่ว่าใครจะถามฉัน ฉันก็ต้องบอกว่าเป็นฉัน!”

เหยียนฉู่ก็ยังไม่เข้าใจ

ตกลงแล้วนี่มันเรื่องบ้าบอคอแตกอะไรกันแน่!

ฉะนั้นอันที่จริงเผยเซียวก็ยังไม่รู้ว่าคนในคืนนั้นคือกู้อิ๋น? เพียงแต่ตอนนี้เขาต้องแต่งงาน

และกู้อิ๋นเองก็จำเป็นต้องเป็นคนในคืนนั้น? เพื่ออะไรล่ะ? เพื่อกำจัดแผนของคนที่อยู่เบื้องหลัง?

ผ่านไปนานสองนาน เหยียนฉู่ถึงเข้าใจความเป็นมาเป็นไปทั้งหมดอย่างชัดเจน

และถามขึ้นอย่างตกตะลึงอีกว่า “เธอกับประธานเผย ตกลงมีเวรกรรมอะไรต่อกันกันแน่!?”

โชคชะตานี้ ไม่งดงามเอาซะเลยจริง ๆ! ช่างทำคนตกใจแทบตาย

หากเผยเซียวรู้ว่าคนในคืนนั้นเป็นเธอ ผลสุดท้ายคงไม่เป็นอย่างตอนนี้แน่

“งั้นเธอก็ต้องตอบตกลงนะ!” เหยียนฉู่เอ่ย

ถ้าไม่ตกลงละก็ เดาว่าเธอต้องพลอยติดร่างแหไปด้วยแน่ๆ

กู้อิ๋น “ถ้าไม่ตกลงก็ต้องออกไปจากเมืองก่าง!”

“เธอออกไปจากเมืองก่างน่ะเรื่องเล็ก ถ้าทำให้ทั้งตระกูลเหยียนของฉันต้องออกไปจากเมืองก่าง...”

จะเป็นเวรกรรมของแท้!

ทั้งสองคนปิดบังเรื่องราวอย่างยากลำบากมาตลอดจนถึงตอนนี้ ทำได้เพียงปิดบังมันต่อไป

“งั้นตอนนี้ทำยังไงดี” เห็นกู้อิ๋นไม่พูด เหยียนฉู่จึงถามขึ้นอีก

กู้อิ๋น “ไปเอาสำเนาทะเบียนบ้านที่พี่สาวฉัน”

ตอนนั้นที่แม่แต่งงานใหม่ ก็ย้ายสำมะโนครัวของตัวเธอเองไปอยู่ภายใต้ชื่อของพ่อเลี้ยง

ฉะนั้นเธอกับพี่สาวคนโตจึงยังอยู่ภายใต้ชื่อของคุณย่า เมื่อคุณย่าจากไป สำมะโนครัวของพวกเธอจึงอยู่ด้วยกัน

เมื่อได้ยินว่าเธอต้องไปหาพี่สาว เหยียนฉู่ก็ส่งกุญแจรถให้เธอ “เอานี่”

กู้อิ๋นส่ายหน้า “ไม่ขับรถ!”

พี่สาวกับพี่เขยอยู่ที่หมู่บ้านกลางเมืองแถวชานเมืองก่าง เธอขับรถปอเช่ห์ของเหยียนฉู่ไป มันดูโอ้อวดเกินไป

เหยียนฉู่คิด ๆ แล้วก็ใช่ “งั้นฉันไปส่งเธอที่ประตูรถไฟฟ้าใต้ดินนะ”

กู้อิ๋นส่ายหน้าอีกครั้ง “ไม่ต้อง ฉันยังต้องไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้า”

แม้จะอยู่เมืองเดียวกันกับพี่สาว แต่เพื่อไม่ให้พี่สาวลำบาก เธอจึงไม่ค่อยไปหาเขาเท่าไหร่

ทุกครั้งที่ไปก็มักจะเอาของไปให้หลานสาวมากมาย เพื่อไม่ให้คนในครอบครัวแม่สามีของพี่สาวต้องนินทาว่าร้าย

“งั้นฉันไปส่งที่ห้างโอเคไหม?” นี่ก็ไม่ได้นั่นก็ไม่ได้ เหยียนฉู่ชักจะโมโหแล้ว

ทว่ากู้อิ๋นกลับหัวเราะ แล้วกอดเหยียนฉู่ “ฉูฉู่ ทำไมเธอถึงได้ดีกับฉันขนาดนี้เนี่ย”

หลังจากเธอได้เจอกับเหยียนฉู่ เหยียนฉู่ก็ดีกับเธอสุด ๆ ในช่วงมัธยมต้นกำลังเป็นช่วงที่ดีที่ได้สร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนๆ

ตอนนั้นเพื่อนร่วมชั้นเรียนส่วนใหญ่ในห้องต่างรังเกียจที่เธอจน มีเพียงเหยียนฉู่ทายาทไฮโซรุ่นที่สองในสายตาของทุกคนที่ยอมเล่นกับเธอ

เหยียนฉู่ได้ฟังประโยคนี้ของเธอ ในใจก็มีความสุขเป็นอย่างมาก ความกดดันที่กลัวว่าจะถูกจับได้หายไปครึ่งหนึ่ง “ตอนนี้รู้แล้วเหรอว่าฉันดี? ตอนค่ำจะอยู่กินข้าวกับพี่สาวเธอไหม?”

“ไม่รู้เหมือนกัน ตอนค่ำเธอไม่ต้องรอฉันหรอก!”

“รู้แล้ว!” เหยียนฉู่สะกิดเธอ

ทั้งสองคนลุกขึ้นแล้วไปโรงจอดรถด้วยกัน บนรถกู้อิ๋นโทรหากู้หลานพี่สาว ถามว่าตอนนี้หลานสาวสูงแค่ไหนน้ำหนักเท่าไร

กู้หลานที่อยู่ปลายสายรู้ว่าเธอจะซื้อเสื้อผ้ามาให้ลูก จึงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเอ็นดู “เธอไม่ต้องซื้อมาให้เธอหรอก เธอมีเสื้อผ้าเยอะแยะ เธอใช้เงินเดือนของตัวเองไปซื้อของดี ๆ ให้ตัวเองกินหน่อย เก็บเงินที่จะซื้อเอาไว้ ต่อไปต้องมีโอกาสที่ได้ใช้แน่ๆ”

เมื่อได้ยินว่าพี่สาวเป็นห่วง ในใจกู้อิ๋นก็รับรู้ได้ถึงความรู้สึกที่อบอุ่น

รู้ว่าพี่สาวประหยัดอดออม ตอนนี้เสื้อผ้าของเด็กคุณภาพดี ใส่แล้วไม่ขาด ฉะนั้นทุกครั้งที่เธอไป เห็นได้ชัดว่าเสื้อผ้าสั้นลง!

ฉะนั้นที่เธอบอกว่าหลานสาวมีเสื้อผ้าเยอะ อันที่จริงเป็นเพียงแค่เสื้อผ้าที่ตัดใจทิ้งไม่ลง ตัวเองไม่เคยซื้อใหม่เลยต่างหาก

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status