คิดไม่ถึงว่าเผยเซียวจะให้เงินเดือนผู้ช่วยแบบนี้ตั้งหนึ่งแสนบาท?ถึงกับยอมทำแบบนี้เลยเชียวหรือ?แต่เมื่อนึกถึงกู้อิ๋นที่คอยติดตามเผยเซียวอยู่ตลอดเวลา เธอก็น่าจะมีความสำคัญอยู่ไม่น้อยเขากัดฟันพูด “สองแสนห้า ย้ายมาทำงานที่บริษัทผม!” กู้อิ๋นมุมปากกระตุกไม่รู้เลยว่าลู่ซือเหยี่ยนในใจคิดกับเธออะไรอยู่ มีบางอย่างที่ไม่เข้าใจเหตุผลจึงมองหน้าลู่ซือเหยี่ยน แล้วนี่ยังอะไรอีกล่ะ?ถ้าหากเธอรู้ว่า ลู่ซือเหยี่ยนต้องการดึงตัวเธอไปทำงานด้วย เพียงเพราะโกรธกระฟัดกระเฟียดกับเผยเซียวนั้น ลู่ซือเหยี่ยนต้องโดนกาแฟสาดใส่หน้าอย่างแน่นอนลู่ซือเหยี่ยนเห็นกู้อิ๋นไม่พูดไม่จา จึงกัดฟันพูดอีกครั้ง “หากคิดว่าน้อยไป งั้นผมให้ห้าแสนก็ได้!”ในเมื่อเผยเซียวจับมือร่วมกับคู่ปรับของเขา ลู่ซือเยี่ยนก็จะดึงตัวผู้ช่วยที่เขาชอบมากที่สุดทำให้เขารู้สึกโกรธบ้างตอนนี้ลู่ซือเหยี่ยนโกรธจนปวดหัวไปแล้ว!กู้อิ๋นกลับไม่กล้าก่อกวนเขา “ต้องขอโทษด้วยนะคะประธานลู่ ตอนนี้ดิฉันไม่ได้คิดเรื่องย้ายที่ทำงานใหม่ค่ะ”ใบหน้าของลู่ซือเหยี่ยนคลี่รอยยิ้มออกมาทันที แต่เป็นรอยยิ้มที่แฝงความชั่วร้ายในนั้นถึงแม้เขาจะแสดงท่าทีทำดีและให้โอกาสก
ให้ขอโทษกู้อิ๋นเป็นสิ่งที่ทำให้เธอลำบากใจไม่น้อย ตอนนี้เธอเองก็ไม่รู้ว่าตอนนั้นทำไมจึงเก็บความโกรธไว้ในใจทำท่าขบเคี้ยวเขี้ยวฟันขนาดนั้นกล่าวคำพูดแสนจะจริงใจขนาดไหนออกมา ประธานกรรมการเฉินได้ฟังยิ่งทำให้โกรธไปกันใหญ่ “เธอขอโทษไปแล้ว แล้วทำไมเรื่องยังกลับเป็นอย่างนี้?”“หนูจะไปรู้ได้ไงคะ?”ตอนนี้เฉินซิงหลีคิดอยากจะร้องไห้หากรู้ตั้งแต่แรกเธอก็จะไม่ยุยงหลีเวยเยว่ให้มาเมืองเป่ยด้วยกันหรอก คิดไม่ถึงเลยว่าจะก่อเรื่องจนนำภัยอันร้ายแรงมาสู่บริษัทของตระกูลได้ขนาดนี้เธอไม่ชอบความใสซื่อของกู้อิ๋น ทั้งๆที่มาจากบ้านนอก นึกไม่ถึงว่าอยากจะไต่เต้ามาอยู่ที่สูงประธานกรรมการเฉินเมื่อได้ฟังน้ำเสียงเฉินซิงหลี “เรื่องนี้ถ้ายังจัดการไม่สำเร็จ แกไม่ต้องกลับบ้านก็แล้วกัน!”เขาตัดบัตรทุกอย่างของเธอ แล้วตอนนี้ยังจะสั่งไม่ให้เธอกลับมาบ้านอีกหรือ?“คุณพ่อ คุณพ่อจะทำขนาดนี้กับหนูได้ยังไงคะ? ”“ฉันทำขนาดนี้กับแกงั้นรึ?แกไม่ลองดูตัวเองบ้างว่าแกไปก่อเรื่องโง่ๆอะไรเอาไว้!”ประธานกรรมการเฉินโกรธเป็นอย่างมากเผยเซียวได้สร้างความกดดันแก่บริษัทครั้งแล้วครั้งเล่าในตอนนี้ แม้แต่กองทุนเงินหมุนเวียนก็ล้วนแต่ประ
เฉินซิงหลีก็คิดดั่งที่หลีเวยเยว่คิดในใจนั้นเช่นกัน สีหน้าของเธอนั้นถึงกับซีดเผือกเล็กน้อย!เฉินซิงหลีพยักหน้าด้วยความอึ้ง “พี่พูดถูกค่ะ สามารถอธิบายได้แค่ว่าอาจเป็นเพราะตัวกู้อิ๋นเองที่สำคัญมากสำหรับพี่รอง!”แต่ความสำคัญแบบนี้ ถึงขนาดที่ว่าอยู่เหนือตำแหน่งหลีเวยเยว่ที่ที่อยู่ในใจของเผยเซียวคิดถึงจุดจุดนี้ เฉินซิงหลีก็ฉายแววตาอันชั่วร้ายออกมาหากเป็นเช่นนั้นล่ะก็ อย่างนั้นเธอ....ก็ยิ่งอดทนต่อกู้อิ๋นไม่ไหวแล้วแววตาของหลีเวยเยว่ก็ฉายรังสีอำมหิตเช่นกัน!เป็นไปได้อย่างไรกัน? จะมีใครกัน?ที่สำคัญมากกว่าตัวเองที่อยู่ในใจของเผยเซียว?ฉันคือหลีเวยเยว่ ไม่มีทางยอมโดยเด็ดขาด! “พี่คะ เรื่องแบบนี้พี่รองคงไม่ได้เลือกมั่วๆเพื่ออยู่กับกู้อิ๋นไปตลอดชีวิตหรอกนะ?แล้วอย่างนี้พี่จะทำอย่างไรดีคะ?”พวกเขาไม่รู้หรอกว่า ตกลงมันเป็นเพราะอะไรกันแน่ที่กู้อิ๋นเป็นคนที่สำคัญมากสำหรับเผยเซียวแต่ทว่าการกลับมาครั้งนี้ของหลีเวยเยว่ ก็เพราะเผยเซียวโดยเฉพาะ......เธอไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาหรือด้วยเหตุผลอื่นใดมาเกาะแกะเผยเซียวหรอกพยักหน้า “ฉันเข้าใจ!”หลีเวยเยว่ก็รู้ๆอยู่และทันใดนั้นคิดขึ้นได้เกี่ยวกับเรื่อ
เผยเซียวได้ยินสิ่งที่กู้อิ๋นพูดถึงลู่ซือเหยี่ยนเป็นคนที่ไว้ใจไม่ได้ นัยน์ตาเปล่งประกายบ่งบอกถึงความประหลาดใจยิ่งเมื่อได้ยินสิ่งที่กู้อิ๋นพูดว่าเผยเซียวเป็นสามีของเธอนั้น นัยน์ตาก็ยิ่งแฝงไปด้วยรอยยิ้มที่ไม่ชัดเจน......“คุณยังดูคนเป็นด้วยรึ?” เผยเซียวพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันตระกูลเผยทุกคน มีใครบ้างล่ะที่ไม่รู้ว่ากู้อิ๋นเป็นเด็กโง่คนหนึ่ง?ไม่ว่าเธอจะทำอะไร ก็ไม่ทำให้คนอื่นไว้วางใจได้เลย!ตอนนี้นึกไม่ถึงว่ากู้อิ๋นยังสามารถดูออกว่าลู่ซือเหยี่ยนไว้ใจไม่ได้.......!และหากเธอสามารถมีสิ่งนี้ เผยเซียวก็รู้สึกดีใจที่บังเอิญโชคดี และก็ยิ่งดีใจที่เธอไม่โกหกตัวเองลู่ซือเหยี่ยนในตอนนี้ต้องการดึงตัวเธอมาทำงานด้วย แน่นอนว่าอยากจะแก้แค้นเผยเซียว และทำให้เขาทนไม่ได้ส่วนที่เรื่องกู้อิ๋นนั้น ลู่ซือเหยี่ยนไม่เลี้ยงคนไม่เอาไหนหรอก ไม่แน่ว่าเงินเดือนเดือนแรกห้าแสนบาทไม่ถึงมือ แล้วยังถูกไล่ออกอีก“ประธานลู่ เขาไม่ใช่คนดีอะไรหรอกค่ะ!” กู้อิ๋นพูดเมื่อวานกู้อิ๋นก็เคยพูดไปแล้วประโยคนี้ แต่ตอนนั้นเผยเซียวกลับวิจารณ์เธอ ว่าไม่ควรมองที่คุณสมบัติของลู่ซือเหยี่ยนตอนนี้กู้อิ๋นยังยืนยันคำพูดเดิมนี้ แต่ท
เมื่อหลีเวยเยว่เดินเข้ามาในห้อง เฉินซิงหลีก็ตามเธอเข้ามาทีหลังเธอไม่เป็นเหมือนแต่ก่อนแล้ว ที่ตั้งใจเดินชนกระแทกกู้อิ๋นให้ออกห่าง ครั้งนี้กลับทำตัวสุภาพอยู่ไม่น้อยกู้อิ๋นปิดประตูแล้วเดินเข้าไปพร้อมกัน“อาเซียว!”หลีเวยเยว่เดินเข้าหาตัวเผยเซียว เรียกเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนทั้งออดอ้อนกู้อิ๋นมองไปที่เฉินซิงหลีที่ยืนอยู่ข้างๆ แล้วใช้ถ้อยคำสุภาพถามเธอ “คุณเฉินจะรับเครื่องดื่มอะไรดีคะ?”เฉินซิงหลีส่ายหน้า แล้วตอบกลับ “ไม่ต้องแล้วค่ะ ขอบคุณค่ะ”ตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่สุภาพเกรงใจทำให้กู้อิ๋นพึงพอใจการเปลี่ยนแปลงตัวเองเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าตอนนี้เฉินซื่อถูกสถานการณ์บีบบังคับให้ร้อนรน!ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้กู้อิ๋นยิ่งรู้สึกยิ่งกลัวไปกันใหญ่กับกลวิธีจัดการของเผยเซียว.......เขาคนนี้หากเกิดบันดาลโทสะขึ้นมา ก็ไม่มีใครที่สามารถรับมือไหวได้หรอก“อาเซียวคะ เรื่องนี้ลุงของฉันก็ร้อนใจอยู่แล้ว คุณบอกมาสิจะจัดการอย่างไร จึงไม่ให้กระทบกับเฉินซื่อ”“พี่รองคะ ฉันขอร้องล่ะค่ะอย่าทำอย่างนี้เลยนะคะ!” เฉินซิงหลีพูดต่อจากหลีเวยเยว่ในน้ำเสียงนั้นก็ไม่เหมือนแต่ก่อนที่มีท่าทีทะนงตัวอย่างนั้นแล้วซึ่งก่
เผยเซียวถูกทำให้โกรธในที่สุด แววตาเต็มไปด้วยความเยือกเย็น เขาพูดสองพยางค์อย่างเย็นชาว่า “ออกไป!”“พี่รอง!”“เผยเซียว คุณทำกับฉันขนาดนี้ได้อย่างไรคะ?” หลีเวยเยว่ก็ทรุดลงในที่สุดเมื่อวานที่พวกเธอกระทำการล่วงเกินต่อกู้อิ๋น ในเมื่อตอนนี้เธอขอโทษสิ่งที่กระทำนี้ไปหมดแล้ว เขาจะเอาอะไรอีก?เผยเซียว “ออกไป!อย่าให้พูดเป็นครั้งที่สองนะ!หรือพวกคุณจะให้เฉินซื่อล้มละลายในวันนี้เลยมั้ย?”ในน้ำเสียงของเผยเซียวได้เตือนภัยจนถึงขั้นไม่มีหนทางใดให้ต่อรองอีกเฉินซิงหลีและหลีเวยเยว่ได้ยินก็ยิ่งกลัว เห็นได้ชัดว่าเรื่องราวจะบานปลายจนถึงจุดจุดนี้อย่างคาดไม่ถึงทั้งสองมองตากัน ถึงแม้อยากจะพูดอะไรออกไปแต่ว่าตอนนี้แม้แต่พยางค์เดียวก็พูดไม่ออกท่าทางของเผยเซียวเย็นชามากเกินไป!เยือกเย็นจนไม่มีแม้แต่ความรู้สึกใดๆและพวกเธอเองก็เข้าใจดี ถ้าหากก่อกวนใจเผยเซียวต่อไป เขาก็พูดจริงทำจริงอย่างแน่นอน“ซิงหลี......ไปกันเถอะ” หลีเวยเยว่ใช้สายตาให้สัญญาณเฉินซิงหลีแต่ว่าตอนนี้เฉินซิงหลียังไงก็ไม่อยากไปอยู่แล้วเธอทุกข์ใจจึงมองไปที่เผยเซียว!ไม่น่าเชื่อเลยว่าเผยเซียวจะทำกับพวกเธออย่างไร้ความปราณีได้ถึงขนาดนี้ “พ
กู้อิ๋นเป็นผู้ช่วยของท่านประธานที่บริษัทเผยซื่อกรุ๊ปมาสองปีแล้ว ในสายตาของทุกคน ผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่สุขุมรอบคอบและมีความระมัดระวัง ปฏิบัติหน้าที่ของตนเป็นอย่างดีแต่ทว่าเมื่อคืนก่อน เธอ........!มือน้อย ๆ ของกู้อิ๋นค่อยๆเปิดชายผ้าห่มขึ้นอย่างเกร็งๆ เห็นตัวเองเปลือยเปล่าอยู่ด้านใน สีหน้าก็พลันซีดเผือดขึ้นมาภาพความทรงจำที่ดึงเนคไทของชายหนุ่มและบังคับให้เขาขึ้นเตียงก็ลอยขึ้นมาในหัว เธอที่ในสมองกำลังปิ๊งขึ้นมานั้นก็สั่นสะท้านไปทั่วทั้งตัว! เธอที่ค่อยๆหันหน้าไปก็เห็นชายหนุ่มที่ยังคงหลับสนิทอยู่“ฮึบ!!” กู้อิ๋นตกใจจนร้องเฮือกออกมาเลย จากนั้นก็ ‘ฟึ่บ!’ ดึงผ้าห่มมาปิดหน้าไว้แน่นเมื่อคืนเรื่องพวกนั้นไม่ใช่ความฝัน ไม่นึกเลยว่าเธอจะจับบอสของตัวเอง มา...ขึ้นเตียงแล้ว! เผยเซียว ประธานกรรมการและประธานบริหารของตงฟางอินเตอร์เนชั่นแนล และก็เป็นเจ้านายของเธอ เธอทำอะไรลงไปเนี่ย...!?กู้อิ๋นที่ตกตะลึงไปไม่น้อย ไม่ได้สนใจว่าตัวเองนั้นสูญเสียความบริสุทธิ์ไปแล้ว เธอกระโดดลงจากเตียงแล้วสวมใส่เสื้อผ้าอย่างลุกลี้ลุกลนรีบหนีไปจากที่เกิดเหตุก่อนที่เผยเซียวจะตื่นกลับไปยังห้องของตัวเองพร้อมทั้งขาสองข้างที่กำลั
กู้อิ๋นไม่รู้ว่าออกมาจากห้องพักได้ยังไง เธอกลับไปในงานประชุมด้วยใบหน้าหมองคล้ำราวกับเถ้าถ่านเหยียนฉู่เห็นสภาพเธอ จึงถามขึ้นอย่างเป็นห่วง “ทำไมสีหน้าถึงได้ดูไม่ได้ขนาดนี้เนี่ย? ไม่สบายเหรอ?”กู้อิ๋นมองเพื่อนสนิทที่คบกับตัวเองมาตั้งแต่สมัยมัธยมต้นตรงหน้า ตาก็พลันแดงก่ำขึ้นมาเหยียนฉู่เห็นเธอทำท่าจะร้องไห้ จึงรีบมองไปรอบ ๆเมื่อเห็นไม่มีคน ก็ลากเธอเดินเข้าไปในห้องน้ำ แล้วกระซิบถามเสียงเบาๆว่า “เธอเป็นอะไรไป? ประธานเผยด่าเธอเหรอ?”เมื่อมาถึงห้องน้ำเหยียนฉู่เพิ่งจะล็อกประตูไป กู้อิ๋นก็อ่อนปวกเปียกไปแล้วทั้งตัว นั่งเป็นอัมพาตอยู่บนพื้นด้วยสีหน้าซีดเผือดเหยียนฉู่รีบเดินมาพยุงไหล่ของเธอเอาไว้แล้วถามขึ้นว่า “เกิดอะไรขึ้น? แต่อย่าให้ประธานเผยเห็นเธอในสภาพนี้เชียว ไม่งั้นไม่เป็นผลดีกับเธอแน่!”ใครไม่รู้บ้างว่าท่านประธานแห่งเผยซื่อกรุ๊ปเป็นพวกเที่ยงธรรมไม่เกรงกลัวอำนาจทั้งสิ้นพนักงานหญิงจะสวยอีกสักแค่ไหนต่อหน้าเผยเซียวก็เป็นแค่ของประดับเท่านั้น ร้องไห้เวลาทำงาน ยิ่งเป็นการทำผิดข้อห้ามร้ายแรงของเขาเคยมีพนักงานหญิงร้องไห้ในออฟฟิศเพราะอกหัก เขาถึงกับไล่ออกทั้งแผนกเลยรักหยกถนอมบุปผาอะไรนั่น เขาไ