ตอนที่15
ไปกินขาวบ้านดุจดาว
“ก็แค่คิดอะไรเพลินไปหน่อยน่ะ ไม่มีอะไรหรอกคุณ เอ..นี่ก็ถึงเวลาแล้วนี่ ทำไมยังไม่ได้ยินประกาศเที่ยวบินของเจ้าธัชลงเสียทีล่ะ”
โสภามองสามีอย่าเข้าใจ เธอรู้ว่าเขาก็กังวลไม่น้อยถึงเรื่องของเมธัชกับวุ้นเย็น แต่กลับพยายามพูดปลอบใจเธอ
“บอกไม่ให้ฉันคิดมาก แต่ดูหน้าคุณซิคิ้วชนกันหมดแล้ว จนไม่ได้ยินที่เจ้าหน้าที่เขาประกาศว่าเครื่องของคุณธัชลงช้าไปสิบนาทีค่ะ”
โสภาบอกพร้อมกับกดนิ้วชี้ไปที่ระหว่างคิ้วเข้มของสามีเบา ๆ
วิชัยรู้ว่าไม่สามารถปิดบังความรู้สึกของตัวเองจากภรรยาได้ จึงถอนหายใจออกมาเบา ๆ
“เฮ้อ! ผมก็ได้แต่หวังว่าช่วงเวลาที่ผ่านไปคงจะรักษาแผลในใจของเจ้าธัชจนหายดี แล้วก็หายโกรธหนูวุ้นแล้วนะ หนูวุ้นจะได้กลับมาร่าเริงมีชีวิตชีวา และมีกำลังใจในการรักษาตัว ไม่ใช่จมอยู่กับการรู้สึกผิดตลอดเวลาแบบนี้”
“ค่ะ ฉันก็หวังจะให้เป็นแบบนั้น” สองสามีภรรยาต่างสบตากันและกันด้วยความหวังที่เต็มตื้นอยู่ในใจ
สิบนาทีต่อมาก็มีประกาศเที่ยวบินของเมธัชลงจอด วุ้นเย็นรีบซอยปลายเท้าถี่ ๆ เพื่อที่จะไปรอรับเมธัชตรงทางออก ในความเร่งรีบและไม่ทันระวัง เพราะสายตาเอาแต่มองไปยังที่ที่วิชัยกับแม่ยืนอยู่ ปลายเท้าเล็กจึงสะดุดเข้ากับขาของใครบางคนเข้าอย่างจัง
“อ๊ะ ว้าย” เธอร้องขึ้นด้วยความตกใจ ร่างบางทิ้งตัวไปข้างหน้า และคาดว่าใบหน้าของเธอต้องคว่ำตำพื้นอย่างแรงแน่ ๆ
หมับ
ในตอนนั้นเอวบางกิ่วก็ถูกฝ่ามือหนาใหญ่คว้าเอาไว้ พร้อมกับดึงเข้าไปจนใบหน้าเรียวเล็ก ปะทะเข้ากับแผ่นอกกว้างอย่างจัง จนเธอได้กลิ่นหอมที่คุ้นเคย แต่ด้วยความรีบที่จะไปรับเมธัชจึงดันตัวออกมา พร้อมทั้งก้มหัวให้เพื่อเป็นการขอบคุณ
“ขอบคุณมากค่ะ ที่ช่วยฉันเอาไว้” พูดจบก็รีบเดินแกมวิ่งจากไป โดยไม่ได้มองหน้าคนที่ช่วยเธอ
“อะไรนะ นั่งแท็กซี่กลับไปแล้ว อ๊ะเดี๋ยว เจ้าธัช” วิชัยถอนหายใจแรงอย่างหัวเสีย เมื่อเมธัช โทรมาบอกว่าขึ้นแท็กซี่ออกจากสนามบินไปแล้ว
วุ้นเย็นหน้าเสีย กำการ์ดในมือแน่นจนมันยับยู่ยี่ การ์ดที่เธอทนุถนอมมาแปดปี บัดนี้พังยับพอ ๆ กับความรู้สึกของเธอ เพราะการที่เมธัชหนีกลับไปนั้น แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่ายังโกรธ และเกลียดเธอมากแค่ไหน
“นี่มันจะเกินไปแล้วนะ” วิชัยบ่นออกมาอย่างหงุดหงิด
“เอ่อ..ไม่เป็นไรหรอกคุณ คุณธัชเธอคงอยากจะไปพบกับเพื่อน ๆ ก่อน ตามประสาหนุ่ม ๆ ไปงั้นเราก็กลับบ้านกันเถอะ” โสภาพยายามแก้ไขสถานการณ์ไม่ให้ตึงเครียดไปกว่านี้
“แต่ว่าอย่างนี้ก็เกินไปนะคุณ พวกเราอุตส่าห์มารอรับนะ”
“ฮื้อ ไม่เอาน่าคุณ ลูกมาวันแรกอย่าอารมณ์เสียไปเลย แค่คุณธัชเธอกลับมาอย่างปลอดภัยก็ดีที่สุดแล้ว ไปค่ะกลับบ้านกัน ไปยายวุ้น” พูดพลางดึงแขนของสามีกับลูกสาวให้เดินไปขึ้นรถพร้อมกัน
บรรยากาศในรถตอนขากลับกับตอนขามา ช่างต่างกันลิบลับ ทุกคนต่างนิ่งเงียบและจมอยู่ในความคิดของตัวเอง โดยเฉพาะวุ้นเย็นที่เอาแต่ทอดสายตามองออกไปนอกหน้าต่าง เพื่อซ่อนความเสียใจและน้ำตาที่รินไหลไม่ขาดสาย
แม้ไม่มีเสียงสะอื้น ให้ได้ยิน แต่โสภาก็รู้ว่าลูกสาวกำลังร้องไห้ เพราะไหล่บางที่สั่นไหวนั่นเอง แต่เธอก็ไม่รู้ว่าจะปลอบลูกสาวอย่างไรดี เพราะสิ่งที่ลูกทำมันทำร้ายความรู้สึกของเมธัชอย่างรุนแรงเกินไป คงต้องปล่อยให้ลูกยอมรับความจริง ว่าเมธัชจะไม่มีวันกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีก
เมื่อมาถึงบ้านก็ปรากฏว่าเมธัชไม่ได้กลับมาบ้าน แต่ไปอยู่ที่คอนโดที่วิชัยซื้อไว้นานแล้ว และปล่อยให้คนเช่า แต่เพิ่งจะย้ายออกไปเมื่อสองเดือนก่อนที่เมธัชจะกลับมา
“คุณเมธัชยังบอกอีกว่าไม่ต้องรอกินข้าวเย็นเพราะคืนนี้จะไปทานที่บ้านคุณดุจดาวค่ะ” ป้าแมวหัวหน้าแม่บ้านรายงาน ก่อนจะถอยกลับเข้าไปในครัว เตรียมอาหารกลางวัน
“เฮ้อะ แปดปีที่ออกจากบ้านไป แทนที่จะรีบกลับมาหาพ่อ เจ้าธัชทำเกินไปมากจริง ๆ” วิชัยบ่นอย่างผิดหวังและน้อยใจ
“หนูขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะคะ เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับ วันนี้เลยเพลีย ๆ น่ะค่ะ” พูดจบก็เดินขึ้นบันไดไป
เมื่อเข้ามาอยู่ในห้อง วุ้นเย็นก็ทิ้งตัวลงนอนบนที่นอนนุ่ม ก่อนจะร้องไห้โฮออกมา จนร่างบางสั่นไปทั้งตัว
“ฮือ ๆ หนูรู้ว่าหนูทำเกินไป แต่ก็ผ่านมาตั้งหลายปีแล้ว จะไม่ให้อภัยกันเลยใช่ไหม จะโกรธจนหนูตายไปจากพี่เลยใช่ไหมพี่ชาย ฮือ...” วุ้นเย็นฟูมฟาย กดใบหน้าลงบนตุ๊กตาแมว จนมันเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา
เธอเกลียดตัวเอง ที่ตอนเป็นเด็กหญิงกลับก่อเรื่องทำร้ายความรู้สึกของเมธัชไปขนาดนั้น หากย้อนเวลาได้จะไม่ทำเด็ดขาด แต่เพราะเวลาที่ย้อนกลับไม่ได้ เมธัชก็ควรที่จะให้อภัยและให้โอกาสเธอได้ขอโทษไม่ใช่หนีหน้ากันแบบนี้ ไม่เจอกันมาแปดปีแทนที่จะรีบมาหาครอบครัว แต่กลับไปหาดุจดาว วุ้นเย็นปวดร้าวไปทั้งหัวใจ
ตอนที่15 ไปกินขาวบ้านดุจดาว “ก็แค่คิดอะไรเพลินไปหน่อยน่ะ ไม่มีอะไรหรอกคุณ เอ..นี่ก็ถึงเวลาแล้วนี่ ทำไมยังไม่ได้ยินประกาศเที่ยวบินของเจ้าธัชลงเสียทีล่ะ”โสภามองสามีอย่าเข้าใจ เธอรู้ว่าเขาก็กังวลไม่น้อยถึงเรื่องของเมธัชกับวุ้นเย็น แต่กลับพยายามพูดปลอบใจเธอ “บอกไม่ให้ฉันคิดมาก แต่ดูหน้าคุณซิคิ้วชนกันหมดแล้ว จนไม่ได้ยินที่เจ้าหน้าที่เขาประกาศว่าเครื่องของคุณธัชลงช้าไปสิบนาทีค่ะ” โสภาบอกพร้อมกับกดนิ้วชี้ไปที่ระหว่างคิ้วเข้มของสามีเบา ๆวิชัยรู้ว่าไม่สามารถปิดบังความรู้สึกของตัวเองจากภรรยาได้ จึงถอนหายใจออกมาเบา ๆ “เฮ้อ! ผมก็ได้แต่หวังว่าช่วงเวลาที่ผ่านไปคงจะรักษาแผลในใจของเจ้าธัชจนหายดี แล้วก็หายโกรธหนูวุ้นแล้วนะ หนูวุ้นจะได้กลับมาร่าเริงมีชีวิตชีวา และมีกำ
ตอนที่14 ไม่รับคำขอโทษดวงตากลมใส มองไปที่ทางออกของผู้โดยสารอย่างใจจดใจจ่อ สลับกับมองตัวเองเพื่อให้ดูสวยและสมบูรณ์แบบที่สุด เธอกำการ์ดในมือ ที่บรรจงทำขึ้น ตั้งแต่แปดปีที่แล้วอย่างระมัดระวัง กลัวความชื้นจากฝ่ามือจะทำให้การ์ดใบนี้เสียหายเมธัชเรียนจบมอหกก็ขอวิชัยไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยต่างประเทศทันที วิชัยก็ไม่ได้ขัดข้องพร้อมกับให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ทำให้เธอกับ เมธัชต้องจากกันท่ามกลางความโกรธที่เมธัชมีต่อเธอ แปดปีที่ผ่านมาเธอต้องทุกข์ทรมานอยู่กับความรู้สึกผิด เพราะหลังจากเหตุการณ์วันนั้น เขาก็ไม่เข้าใกล้เธอเหมือนเดิมอีกเลย ไม่แม้แต่จะรับคำขอโทษจากเธอ แม้ว่าดุจดาวจะช่วยอธิบายก็ตามน้ำใสเริ่มซึมเอ่อจนล้นขอบตาไหลลงมาบนผิวแก้มที่ขาวเนียน มือเล็กรีบยกขึ้นปาดน้ำตาทิ้งไป เธอมักจะร้องไห้ทุกครั้งที่คิดถึงเหตุการณ์ในวันนั้น “เป็นอะไร ทำไมถึงหน้าซีดขนาดนั้น รู้สึกเหนื่อยหรือใจสั่นอีกแล้วหรือ แล้วนี่กิ
ตอนที่13 สายตาแห่งความผิดหวังดุจดาวกระพริบตาปริบ ๆ พยายามใช้ความคิดว่าจะอธิบายให้อีกฝ่ายเข้าใจได้อย่างไรดี ที่จะไม่โยงไปถึงวุ้นเย็น เพราะถ้าเขารู้ว่าวุ้นเย็นเป็นคนเอาเรื่องนี้มาบอกเธอ พี่น้องจะต้องทะเลาะกันแน่ ๆมือเล็กค่อย ๆ ดันแผ่นอกกว้างให้ถอยห่างออกไป ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงปนขำเล็กน้อย “ไม่ใช่ ธัชออกแมนเสียขนาดนี้ ใครจะไปคิดอย่างนั้นล่ะ แค่รู้สึกว่าธัชอาจจะรำคาญ เพราะเวลาสาว ๆ มากรี๊ดก็ไม่เคยเห็นธัชยิ้มเลย”เมธัชหัวเราะออกมาเบา ๆ ใบหน้าคมแดงเรื่อ ก่อนจะยกมือข้างหนึ่งขึ้นลูบเรือนผมสีหมึก แล้วพูดออกมาอย่างเขิน ๆ “ก็ทำหน้าตึงแก้เขินไปงั้นแหละ” “คิก ฮ่า ๆ” ดุจดาวอดไม่ได้จึงปล่อยขำออกมาอย่างสุดกลั้นเสียงหัวเราะที่ดังมา ทำให้วุ้นเย็นที่เพิ่งซ้อมลีดเสร็จรู้สึกสะดุดหู ใบหน้าเรียวเล็กแหงนเงยขึ้นไป
ตอนที่12คิดว่าผมเป็นเกย์หมับ!!ปลายจมูกเล็กถูกบีบเบา ๆ ก่อนที่น้ำเสียงที่แหบนิด ๆ แต่มีเสน่ห์น่าฟังจะดังตามมา “เป็นอะไร ดูทำหน้าทำตาเข้า”เมธัชร้องถาม เมื่อเห็นท่าทางแปลก ๆ ของน้องสาว “พี่ชาย แล้วพี่ดุจดาวล่ะคะ” วุ้นเย็นเอ่ยถามเมื่อไม่เห็นดุจดาวกลับมาด้วย “กลับแล้ว ไปเราก็กลับบ้านกันเรือเทียบท่านานแล้ว เร็วลุก” พูดพร้อมกับดึงข้อมือเล็กเบา ๆวุ้นเย็นมองตามมือเรียวแข็งแรงและอบอุ่นนั้น แล้วก็ใจหายเมื่อคิดว่าวันหนึ่งมือนี้จะต้องไปจับมือของดุจดาวหรือผู้หญิงคนอื่น และไม่มีวันกลับมาจับมือเธออีก จู่ ๆ น้ำตาใสก็ซึมออกมา ด้วยอารมณ์ที่เธอเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าเป็นอะไร..........................................................................ณ โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งดุจดาวสาวเท้าเข้าไปหาร่างสูงที่นั่งอยู่ที่โต๊ะริมหน้าต่าง ตรงหน้ามีหนังสือเตร
ตอนที่11เต้นรำกัน “แล้วน้องวุ้นรู้ได้อย่าไงไรคะ ว่าธัชเอ่อ...”ดุจดาวถามต่อด้วยความสงสัยว่าเด็กน้อยไปรู้ความลับของเมธัชได้อย่างไร “พี่ดาวเคยไปบ้านพี่ชายหรือเปล่าคะ”วุ้นเย็นแอบถามหยั่งเชิง เพราะเธอก็ไม่รู้ว่าเมธัชกับดุจดาวจะสนิทกันแค่ไหนเดี๋ยวป้อนข้อมูลผิดไปแผนการก็พังหมด “ก็เคยนะคะทุกปีที่เป็นวันเกิดของธัชกับคุณลุงวิชัย”ดุจดาวตอบตามจริงเพราะพ่อของเธอกับวิชัยนั้นเป็นเพื่อนกันมานานทั้งยังร่วมงานกันอีกด้วยทั้งสองครอบครัวจึงสนิทสนมกันเป็นพิเศษ “แล้วพี่ดาวเคยเข้าไปในห้องพี่ธัชหรือเปล่าคะ” วุ้นเย็นโพล่งถามออกมา ดุจดาวหน้าแดงพลางยกมือปิดปากของวุ้นเย็น “น้องวุ้น ถามอะไรแบบนี้ มันไม่ดีรู้ไหมคะพี่ไม่เคยเข้าไปในห้องข
ตอนที่10 พี่ธัชชอบผู้ชายดุจดาวนั่งลงบนเก้าอี้ที่เมธัชขยับมาให้ พร้อมกับกล่าวขอบคุณ “ขอบคุณค่ะธัช” “ไม่เป็นไรครับ นี่ดาวกินอะไรหรือยัง ให้ผมไปหาอะไรให้ไหม” เมธัชเอ่ยถามตามมารยาท วุ้นเย็นรู้สึกว่า มันมีความพิเศษอยู่ในน้ำเสียงนั้น แต่เธอยังเด็กเกินไปที่จะตอบตัวเองว่าอะไรคือความพิเศษนั้น “ดาวเรียบร้อยแล้วค่ะ นี่ก็อิ่มจนต้องลุกมาเดินเล่น พอดีเห็นธัชกับน้องวุ้นนั่งกันอยู่ตรงนี้ จึงเข้ามาทักทายน่ะค่ะ ว่าแต่ธัชเลือกมหาลัยได้หรือยังว่าจะไปเรียนที่ไหน” ดุจดาวตอบด้วยรอยยิ้มหวาน ประโยคท้ายเอ่ยถามเรื่องเรียน “ผมเลือกเรียนที่...” เมธัชตอบ หลังจากนั้นทั้งคู่ก็คุยกันเรื่องเรียนแล้วก็เรื่องธุรกิจที่วุ้นเย็นฟังไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจ ราวกับคุยกันคนละภาษา แต่ท