Share

บทที่ 1432

Author: หว่านชิงอิ๋น
นางลุกขึ้นลงจากเตียงแล้วเดินเข้าไปตรวจดูดวงตาของโฉวสือชีก็มิพบไอชั่วร้าย

เมื่อจับชีพจรดูก็ปกติทุกอย่าง นางจึงปลุกโฉวสือชีให้ตื่น

เมื่อโฉวสือชีตื่นขึ้นมาก็ยังงุนงง “ข้า… ข้ามาอยู่ในห้องของเจ้าได้อย่างไร? ข้ามิได้อยู่ที่หน้าห้องหรอกรึ?”

ลั่วชิงยวนถามว่า “เจ้าจำมิได้เลยหรือว่าเกิดกระไรขึ้น? จำสิ่งใดมิได้เลยจริงหรือ?”

โฉวสือชีส่ายหน้า จำมิได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น

เมื่อมองไปยังกระบี่ที่อยู่ในข้างมือ โฉวสือชีก็ตื่นตระหนกขึ้นมา “ข้า… ข้ามิได้ทำร้ายเจ้าใช่หรือไม่?”

ลั่วชิงยวนเท้าแขนมองเขาอย่างจนปัญญา “เมื่อครู่นี้เจ้าเกือบจะปาดคอข้าเข้าแล้ว”

โฉวสือชีตกใจจนพูดมิออก “กระไรนะ?”

“ข้า… ข้าจำอะไรมิได้เลย”

โฉวสือชีรู้สึกหนาวเยือกไปถึงสันหลัง ก่อนถามว่า “ข้าโดนสิ่งใดเข้าสิงหรือไม่?”

ลั่วชิงยวนส่ายหน้า “โหยวจิ้งเฉิงน่ะสิ”

“ถึงเขาจะสลายไปแล้ว แต่รัศมีอาฆาตบางส่วนของเขาเข้ามาในร่างข้า แต่ข้าคาดมิถึงว่าเจ้าจะได้รับผลกระทบไปด้วย”

เมื่อได้ยินดังนั้น โฉวสือชีก็ประหลาดใจ “แล้วจะทำอย่างไร?”

ลั่วชิงยวนปรุงยาชุดหนึ่งส่งให้โฉวสือชีกิน

เมื่อดูแล้วว่าในร่างของโฉวสือชีไม่มีรัศมีอาฆาตหลงเหลืออยู่ นางก็โล่งใ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
อัญชิษฐา คําเสียง
ต่อวันละ10ตอนใด้มี้ย
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1433

    “ช่างเถิด ข้าจะออกไปเดินเล่นสูดอากาศบริสุทธิ์เสียหน่อย”ลั่วชิงยวนจึงลุกขึ้นเดินออกจากห้องพักไปแต่สิ่งที่แปลกคือในโรงเตี๊ยมกลับไม่มีผู้คนให้เห็นเลยลั่วชิงยวนกำลังจะถามอวี๋โหรว เมื่อหันไปก็เห็นว่าอวี๋โหรวกลับเข้าไปในห้องพักแล้วนางจึงเดินลงไปข้างล่างเพียงลำพังในโรงเตี๊ยมไม่มีทั้งเถ้าแก่และพนักงาน มิเห็นแม้แต่เฉินชีและโฉวสือชี พวกเขาอาจจะยังพักผ่อนกันอยู่เดิมทีนางคิดจะออกไปเดินเล่นนอกโรงเตี๊ยม แต่กลับเห็นเงาดำวูบผ่านไปที่ประตูหลัง ลั่วชิงยวนตาเป็นประกาย รีบตามไปทันทีนางตามไปจนถึงหลังโรงเตี๊ยม แต่กลับไม่มีผู้ใดอยู่เลยทันใดนั้นเอง ลั่วชิงยวนก็รู้สึกหายใจมิออกราวกับมีใครบางคนบีบคอนางไว้แน่นแต่ตอนนี้รอบตัวนางไม่มีใครเลยนางทรุดลงนั่งคุกเข่า ใช้มือทั้งสองข้างยันขอบอ่างน้ำไว้จู่ ๆ ก็เห็นว่าในน้ำกลับมีใบหน้าของชายคนหนึ่งสะท้อนอยู่โหยวจิ้งเฉิง!ความหนาวยะเยือกแผ่ซ่านเข้ามาลั่วชิงยวนรีบกลั้นหายใจแล้วหยิบเข็มทิศอาณัติสวรรค์ขึ้นมาส่องไปที่ตนเอง แสงสีทองสาดส่องออกมารัศมีชั่วร้ายสีดำค่อย ๆ สลายออกจากร่างของนางไปจากนั้นนางก็หยิบยันต์แผ่นหนึ่งขึ้นมาติดที่หน้าอกของตนอย่างแรง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1434

    คำพูดนี้ทำให้ลั่วชิงยวนตกใจกลัวไปด้วยนางหวนนึกถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในคืนนั้น แล้วกล่าวว่า “หากโหยวจิ้งเฉิงยังมิสลายไป เช่นนั้นอวี๋ตันเฟิ่งก็อาจจะยังมิสลายไปด้วย”“ตามหลักการแล้วอวี๋ตันเฟิ่งตายอย่างน่าอนาถยิ่งกว่า ไม่มีแม้แต่ร่างที่สมบูรณ์ ความแค้นของนางย่อมต้องแข็งแกร่งกว่าโหยวจิ้งเฉิงมาก ไม่มีทางที่นางจะยอมปล่อยโหยวจิ้งเฉิงไปเป็นแน่”“และไม่มีเหตุผลที่อวี๋ตันเฟิ่งต้องสลายไป แต่โหยวจิ้งเฉิงกลับมิสลายไป”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋โหรวก็พยักหน้า “เช่นนั้นคงเป็นเพียงรัศมีชั่วร้ายที่เกิดขึ้นในขณะที่เขาตาย แล้วเข้าไปในร่างเจ้าเท่านั้น”“ปัญหาคงมิใหญ่มากนัก”ลั่วชิงยวนพยักหน้า “ค่อย ๆ ฟื้นฟูไปก็คงดีขึ้น”โชคดีที่หลังจากกลับมายังเมืองหลวงแล้วมิได้มีเรื่องราวประหลาดใดเกิดขึ้นอีกเมื่อกลับมาถึงเมืองหลวง สิ่งแรกที่ลั่วชิงยวนทำคือการส่งวิญญาณของสิบวายร้ายไปสู่สุคติ เพียงแต่ยังคงเก็บวิญญาณของหงไห่ไว้ก่อนโฉวสือชียืนมองอยู่ข้าง ๆ อดมิได้ที่จะกล่าวด้วยความสะเทือนใจ “พวกเรามารวมตัวกันแต่แรกก็เพียงเพื่อปลดปล่อยยันต์ผนึกวิญญาณเท่านั้น ตอนนี้พวกเขาได้ไปเกิดใหม่แล้ว ถือได้ว่าเป็นการเติมเต็มความปร

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1

    ตำหนักอ๋องในห้องฝั่งปีกตะวันออก ถัดจากเตียงแกะสลักขาดใหญ่ มีเสื้อผ้าเกลื่อนอยู่เต็มพื้นห้องลั่วชิงยวนพยุงตัวลุกขึ้นนั่ง นางมองดูรอยยุ่งเหยิงบนเตียงด้วยใบหน้าซีดเซียวแสงแดดส่องกระทบรอยสีแดง ทำให้นึกไปถึงชายห้าหกคนที่บุกเข้ามาในห้องหอเมื่อคืนนี้ ความอัปยศอดสู และความโกรธค่อย ๆ หลั่งไหลเข้ามาโจมตีนางอย่างหนักหน่วงน้ำตาแห่งความรู้สึกอัปยศเอ่อล้นในดวงตา“จะร้องไห้ทำไม ในเมื่อเจ้าได้แต่งงานกับท่านอ๋องอย่างที่หวังไว้ ก็ควรจะดีใจมิใช่รึ?”เสียงทุ้มเย็นยะเยือกดังขึ้น ความหนาวเหน็บแผ่ซ่านไปที่กระดูกสันหลังของลั่วชิงยวน นางหันกลับไปด้วยความตกใจเห็นผู้ชายคนนั้นนั่งอยู่บนเก้าอี้ รูปร่างสง่างามและน่าเกรงขาม สายตาเย็นชา และไม่แยแสนั้นจับจ้องมา ราวกับมีดที่กำลังกรีดเลือดของนางบางสิ่งกำลังระเบิดในหัว ลั่วชิงยวนรู้สึกหายใจไม่ออกชั่วขณะ “ท่านอ๋อง… ท่านอยู่ตรงนี้มาตลอดเลยหรือเพคะ?”น้ำเสียงไม่แยแสกล่าวขึ้น “วันอภิเษกสมรสของข้ากับเจ้า ถ้าข้าไม่อยู่ที่นี่ แล้วข้าควรจะอยู่ที่ใดเล่า?”ทันใดนั้น นางก็รู้สึกราวกับถูกสายฟ้าฟาด เลือดทั่วร่างพลันแข็งมองดูรอยยับบนเตียง นึกถึงคนที่บุกเข้ามาในห้องหอ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 2

    ซ่า…น้ำเย็นในขันถูกสาดลงบนหน้าอย่าแรง!ลั่วชิงยวนยกเปลือกตาขึ้นด้วยความยากลำบาก นี่นางยังไม่ตายหรือ ทำไมถึงรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวด?หญิงที่แต่งตัวเหมือนแม่นมคนหนึ่งโยนขันน้ำทิ้ง และมองมาที่นางด้วยสายตาโกรธเคือง "อย่ามาเล่นเล่ห์ด้วยการร้องไห้สร้างปัญหา และแขวนคอตัวเองเช่นนี้ ท่านอ๋องไม่หลงกลท่านหรอก! ไม่ได้ดูสารรูปตัวเลยว่าเป็นสินค้าเช่นใด ถึงได้กล้าเข้าพิธีอภิเษกสมรสแทนคุณหนูรอง ท่านคิดว่า​​ตำหนักอ๋องนี้เข้ามาได้ง่าย ๆ งั้นรึ!”หน้าตาของแม่นมเติ้งเต็มไปด้วยความโกรธ เดิมทีนางวางแผนที่จะกลับบ้านไปดูแลแม่ที่ชรา แต่ใครจะรู้ว่า พระชายาที่ไร้ยางอายผู้นี้จะเล่นอุบายแกล้งปลิดชีพตน ทำให้ต้องมาที่นี่เพื่อรับใช้นางแทน“เป็นคุณหนูจวนอัครเสนาบดีดี ๆ มิเป็น แต่กลับทำแต่เรื่องอื้อฉาวเช่นนี้ ตายไปเสียยังจะดีกว่า!”เสียงข่มเหงและเสียงบ่นดังอยู่เหนือหัวนางอย่างต่อเนื่อง ลั่วชิงยวนมองดูทุกสิ่งที่แปลกประหลาดนี้ และความทรงจำที่ไม่ใช่ของนางก็พุ่งเข้ามาเมื่อวานนี้เป็นวันอภิเษกสมรสของท่านอ๋องกับลั่วเยวี่ยอิงแต่ลั่วชิงยวนก็ยอมเสี่ยง แสร้งทำว่าตนคือเจ้าสาวในคืนวันแต่งงาน แถมยังจุดกำยานปลุกกำหนัดในห้อ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 3

    แม่นมเติ้งร้องขึ้นอย่างตกใจ “อุ๊ย คุณหนูรอง มือของคุณหนู!”นางรีบเข้าไปประคองลั่วเยวี่ยอิง พลางก่นด่า “ท่านช่างเป็นหญิงที่ร้ายกาจนัก แย่งงานแต่งคุณหนูรองไปแล้ว คุณหนูยังใจดีป้อนยาให้ ท่านยังกล้าผลักคุณหนูอีก!”ทันใดนั้น ร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาในห้อง ปรี่ไปที่ลั่วเยวี่ยอิงด้วยหน้าตาที่ตื่นตระหนก “เยวี่ยอิง!”ลั่วเยวี่ยอิงขมวดคิ้ว และยกฝ่ามือที่เปื้อนเลือดของนางขึ้น ทำให้ผู้ที่มองเห็นรู้สึกสงสารยิ่งนักฟู่เฉินหวนมองไปที่มือของลั่วเยวี่ยอิงที่เต็มไปด้วยเลือด ก่อนจะมองไปที่ลั่วชิงยวนด้วยสายตาอาฆาตลั่วชิงยวนรีบพูดขึ้นทันที “หม่อมฉัน…”แต่ยังไม่ทันที่จะได้อธิบาย ก็มีเงาปกคลุมมาที่นางก่อนที่ร่างของนางจะถูกกระชากลงมาจากเตียง จนล้มตัวลงกับพื้น ยังไม่ทันที่จะได้ทรงตัว มือใหญ่ก็ตวัดลงมาอย่างแรงทันใดนั้น ในหัวของนางก็เกิดเสียงอื้ออึงขึ้น ก่อนจะรู้สึกแสบร้อนและระบมที่แก้มยังไม่ทันที่นางจะได้สติ ลั่วเยวี่ยอิงรีบคว้าแขนเสื้อฟู่เฉินหวน และขอร้องอ้อนวอน “ท่านอ๋องข้ามิระวังเอง อย่าโทษท่านพี่เลยเพคะ!”แม่นมเติ้งรีบฟ้องท่านอ๋องทันที “ท่านอ๋อง หม่อมฉันเห็นกับตาว่า คุณหนูรองป้อนยาให้ แต่พระชายามิรับ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 4

    ดวงตาของนางแดงก่ำ นัยน์ตาเต็มไปด้วยความเย็นชานางปิดประตู ยกมือขึ้นกดหน้าอกที่ยังปวดอยู่ พลางเดินกลับไปนั่งทำสมาธิบนเตียงการมาเข้ามาอยู่ในร่างนี้ นางแทบจะไม่มีพละกำลังนางคือนักบวชที่ทุกคนต่างเคารพในแคว้นหลี่ นอกเหนือจากทักษะพิเศษด้านฮวงจุ้ย การอ่านโหงวเฮ้ง และการทำนายดวงชะตาแล้ว นางยังมีวรยุทธที่น่าเกรงขาม แบบหนึ่งต่อร้อยเมื่อนึกถึงตรงนี้ นางก็คิดถึงร่างกายของตนเองเป็นอย่างมาก นางฝึกฝนวรยุทธตั้งแต่ยังเด็ก เส้นลมปราณของนางค่อนข้างแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไป ข้ารับใช้เหล่านี้ไม่สามารถจะกลั่นแกล้งนางได้น่าเสียดาย บัดนี้ร่างกายของนางน่าจะถูกเผาเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว… พอกลับมาที่ห้องตำรา ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้วมุ่น เขารู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูกซูโหยวเดินมาเคาะประตู “ท่านอ๋อง คืนนี้ยังจะส่งชายพวกนั้นไปแกล้งขู่คุณหนูลั่วอีกหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”พอได้ยิน ฟู่เฉินหวนก็ขมวดคิ้วแน่นขึ้นไปอีก “ช่างเถอะ”เมื่อคืนนี้เขาได้สั่งสอนนางไปแล้ว หากขู่นางอีก นางคงแกล้งปลิดชีพตนไม่จบไม่สิ้นเสียทีและถ้าหากนางตายขึ้นมาจริง ๆ คงจะรายงานกับจวนอัครเสนาบดีได้ยากซูโหยวพยักหน้ารับ “พ่ะย่ะค่ะ”……ฟึ่บบบานประตู

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 5

    “ก็ช่วยไปแล้ว เหตุใดจะต้องมีเหตุผลด้วยเล่า?” ลั่วชิงยวนเอ่ยอย่างเรียบเฉยจากนั้นนางก็หันหลังและจากไปเมื่อเห็นว่านางกำลังจะเดินจากไปไกล แม่นมเติ้งก็รู้สึกไม่สบายใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเช้านี้ เลยอดไม่ได้ที่จะเรียกนางไว้ "พระชายาเจ้าคะ!" ลั่วชิงยวนชะงักฝีเท้า แม่นมเติ้งรีบก้าวไปข้างหน้าทันที“บ่าวขอโทษสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเช้านี้ ถ้าไม่ใช่เพราะต้องดูแลรับใช้ท่าน บ่าวก็คงได้ออกจากตำหนักไปนานแล้ว นั่นเป็นสาเหตุที่บ่าวรู้สึกไม่พอใจ ก็เลยระบายความโกรธใส่ท่าน..." แม่นมเติ้งก้มหน้าลงอย่างรู้สึกผิดนางไม่คิดว่า พระชายาจะเข้ามาช่วยนาง มิเช่นนั้นนางคงถูกเมิ่งจิ่นอวี่ทุบตีจนตายเป็นแน่! แล้วนางยังช่วยต่อแขนของตนอีกด้วย ซึ่งนั่นแตกต่างจากข่าวลือที่ว่านางคือนางงูพิษโดยสิ้นเชิงเมื่อได้ยินเช่นนี้ ลั่วชิงยวนก็เข้าใจเหตุผลแม่นมเติ้งเตือนขึ้นอีกครั้ง "หากท่านต้องการอยู่ในตำหนักต่อไป ก็อย่าได้ทำให้เมิ่งจิ่นอวี่ขุ่นเคืองเลยเจ้าค่ะ นางเป็นสาวใช้ชั้นหนึ่งในตำหนัก แล้วยังเป็นลูกสาวของแม่บ้านของตำหนักนี้อีกด้วยเจ้าค่ะ""ไม่ทันแล้วกระมัง" มาพูดเอาป่านนี้ก็ไม่มีประโยชน์แล้วแม่นมเติ้งมองไปรอ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 6

    ลั่วชิงยวนหยิบไม้ที่อยู่ตรงมุมกำแพงขึ้นมา และหวดไม้ใส่เมิ่งจิ่นอวี่จนหมดสติ นางหยิบหมั่นโถวชิ้นเล็ก ๆ ออกมาจากแขนเสื้อ แล้วยัดเข้าไปในปากของเมิ่งจิ่นอวี่ ทำให้นางกลืนมันลงไปชายบางคนได้ยินเสียงเคลื่อนไหวจากทางหน้าต่าง คิดว่าลั่วชิงยวนกำลังจะหนีออกไป "นี่! คิดจะหนีรึ!" หนึ่งในนั้นก้าวไปข้างหน้า และกระชากนางลงมาทันที ลั่วชิงยวนใช้โอกาสนี้ปล่อยตัวเมิ่งจิ่นอวี่ พวกนั้นคิดว่าเมิ่งจิ่นอวี่ที่สลบไปคือลั่วชิงยวน จึงได้พานางกลับไปที่เตียงลั่วชิงยวนพิงผนังและฟังเสียงเคลื่อนไหวภายในห้อง เมื่อแน่ใจว่ามันเป็นไปตามแผน นางจึงหันหลังและจากไปอย่างสบายใจในความมืด นางแอบเดินเข้าไปในครัวด้านหลัง หลังจากค้นหาทั่วครัวก็ไม่มีอะไรเหลือให้กิน! นางจึงหามุมเพื่อเอนตัวลงนอน ก่อนจะผล็อยหลับไปณ ห้องตำราฟู่เฉินหวนกำลังจะหยุดพักหลังจากทำงานเสร็จสิ้น จู่ ๆ ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น พร้อมกับเสียงตื่นตระหนกของลั่วเยวี่ยอิง "ท่านอ๋อง ท่านบรรทมอยู่หรือไม่เพคะ?"เมื่อได้ยินเสียงที่ลุกลน ฟู่เฉินหวนจึงรีบก้าวไปข้างหน้าและเปิดประตู "มีเรื่องอันใดรึ?"ลั่วเยวี่ยอิงมองเขาด้วยใบหน้าซีดเซียว นัยน์ตาที่ชุ่มน้ำของน

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1434

    คำพูดนี้ทำให้ลั่วชิงยวนตกใจกลัวไปด้วยนางหวนนึกถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในคืนนั้น แล้วกล่าวว่า “หากโหยวจิ้งเฉิงยังมิสลายไป เช่นนั้นอวี๋ตันเฟิ่งก็อาจจะยังมิสลายไปด้วย”“ตามหลักการแล้วอวี๋ตันเฟิ่งตายอย่างน่าอนาถยิ่งกว่า ไม่มีแม้แต่ร่างที่สมบูรณ์ ความแค้นของนางย่อมต้องแข็งแกร่งกว่าโหยวจิ้งเฉิงมาก ไม่มีทางที่นางจะยอมปล่อยโหยวจิ้งเฉิงไปเป็นแน่”“และไม่มีเหตุผลที่อวี๋ตันเฟิ่งต้องสลายไป แต่โหยวจิ้งเฉิงกลับมิสลายไป”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋โหรวก็พยักหน้า “เช่นนั้นคงเป็นเพียงรัศมีชั่วร้ายที่เกิดขึ้นในขณะที่เขาตาย แล้วเข้าไปในร่างเจ้าเท่านั้น”“ปัญหาคงมิใหญ่มากนัก”ลั่วชิงยวนพยักหน้า “ค่อย ๆ ฟื้นฟูไปก็คงดีขึ้น”โชคดีที่หลังจากกลับมายังเมืองหลวงแล้วมิได้มีเรื่องราวประหลาดใดเกิดขึ้นอีกเมื่อกลับมาถึงเมืองหลวง สิ่งแรกที่ลั่วชิงยวนทำคือการส่งวิญญาณของสิบวายร้ายไปสู่สุคติ เพียงแต่ยังคงเก็บวิญญาณของหงไห่ไว้ก่อนโฉวสือชียืนมองอยู่ข้าง ๆ อดมิได้ที่จะกล่าวด้วยความสะเทือนใจ “พวกเรามารวมตัวกันแต่แรกก็เพียงเพื่อปลดปล่อยยันต์ผนึกวิญญาณเท่านั้น ตอนนี้พวกเขาได้ไปเกิดใหม่แล้ว ถือได้ว่าเป็นการเติมเต็มความปร

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1433

    “ช่างเถิด ข้าจะออกไปเดินเล่นสูดอากาศบริสุทธิ์เสียหน่อย”ลั่วชิงยวนจึงลุกขึ้นเดินออกจากห้องพักไปแต่สิ่งที่แปลกคือในโรงเตี๊ยมกลับไม่มีผู้คนให้เห็นเลยลั่วชิงยวนกำลังจะถามอวี๋โหรว เมื่อหันไปก็เห็นว่าอวี๋โหรวกลับเข้าไปในห้องพักแล้วนางจึงเดินลงไปข้างล่างเพียงลำพังในโรงเตี๊ยมไม่มีทั้งเถ้าแก่และพนักงาน มิเห็นแม้แต่เฉินชีและโฉวสือชี พวกเขาอาจจะยังพักผ่อนกันอยู่เดิมทีนางคิดจะออกไปเดินเล่นนอกโรงเตี๊ยม แต่กลับเห็นเงาดำวูบผ่านไปที่ประตูหลัง ลั่วชิงยวนตาเป็นประกาย รีบตามไปทันทีนางตามไปจนถึงหลังโรงเตี๊ยม แต่กลับไม่มีผู้ใดอยู่เลยทันใดนั้นเอง ลั่วชิงยวนก็รู้สึกหายใจมิออกราวกับมีใครบางคนบีบคอนางไว้แน่นแต่ตอนนี้รอบตัวนางไม่มีใครเลยนางทรุดลงนั่งคุกเข่า ใช้มือทั้งสองข้างยันขอบอ่างน้ำไว้จู่ ๆ ก็เห็นว่าในน้ำกลับมีใบหน้าของชายคนหนึ่งสะท้อนอยู่โหยวจิ้งเฉิง!ความหนาวยะเยือกแผ่ซ่านเข้ามาลั่วชิงยวนรีบกลั้นหายใจแล้วหยิบเข็มทิศอาณัติสวรรค์ขึ้นมาส่องไปที่ตนเอง แสงสีทองสาดส่องออกมารัศมีชั่วร้ายสีดำค่อย ๆ สลายออกจากร่างของนางไปจากนั้นนางก็หยิบยันต์แผ่นหนึ่งขึ้นมาติดที่หน้าอกของตนอย่างแรง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1432

    นางลุกขึ้นลงจากเตียงแล้วเดินเข้าไปตรวจดูดวงตาของโฉวสือชีก็มิพบไอชั่วร้ายเมื่อจับชีพจรดูก็ปกติทุกอย่าง นางจึงปลุกโฉวสือชีให้ตื่นเมื่อโฉวสือชีตื่นขึ้นมาก็ยังงุนงง “ข้า… ข้ามาอยู่ในห้องของเจ้าได้อย่างไร? ข้ามิได้อยู่ที่หน้าห้องหรอกรึ?”ลั่วชิงยวนถามว่า “เจ้าจำมิได้เลยหรือว่าเกิดกระไรขึ้น? จำสิ่งใดมิได้เลยจริงหรือ?”โฉวสือชีส่ายหน้า จำมิได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อมองไปยังกระบี่ที่อยู่ในข้างมือ โฉวสือชีก็ตื่นตระหนกขึ้นมา “ข้า… ข้ามิได้ทำร้ายเจ้าใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนเท้าแขนมองเขาอย่างจนปัญญา “เมื่อครู่นี้เจ้าเกือบจะปาดคอข้าเข้าแล้ว”โฉวสือชีตกใจจนพูดมิออก “กระไรนะ?”“ข้า… ข้าจำอะไรมิได้เลย”โฉวสือชีรู้สึกหนาวเยือกไปถึงสันหลัง ก่อนถามว่า “ข้าโดนสิ่งใดเข้าสิงหรือไม่?”ลั่วชิงยวนส่ายหน้า “โหยวจิ้งเฉิงน่ะสิ”“ถึงเขาจะสลายไปแล้ว แต่รัศมีอาฆาตบางส่วนของเขาเข้ามาในร่างข้า แต่ข้าคาดมิถึงว่าเจ้าจะได้รับผลกระทบไปด้วย”เมื่อได้ยินดังนั้น โฉวสือชีก็ประหลาดใจ “แล้วจะทำอย่างไร?”ลั่วชิงยวนปรุงยาชุดหนึ่งส่งให้โฉวสือชีกินเมื่อดูแล้วว่าในร่างของโฉวสือชีไม่มีรัศมีอาฆาตหลงเหลืออยู่ นางก็โล่งใ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1431

    คราวนี้ที่มาเมืองแห่งภูตผี ใช้พละกำลังไปมากกว่าเดิม ตอนนี้ยังมิได้ทำอะไรแต่ก็ยังรู้สึกอ่อนเพลียอย่างมาก นั่งอยู่ในรถม้าก็ยังง่วงตลอดเวลาอวี๋โหรวเองก็เป็นกังวลมาก นางกล่าวว่า “ประเดี๋ยวถึงเมือง พวกเราหยุดพักกันก่อนเถิด”“ข้าจะจุดธูปหอมที่ช่วยให้สงบแก่เจ้า จะได้นอนหลับสบายขึ้น”“พักผ่อนให้เพียงพอแล้วค่อยเดินทางกันต่อ”ลั่วชิงยวนพยักหน้าเฉินชีก็เห็นด้วยกับการจะไปพักผ่อนที่เมือง แต่ขบวนของพวกเขาใหญ่โตเกินไป เมื่อไปถึงเมืองจึงทำให้ผู้คนมากมายปิดประตูบ้านเรือน มิกล้าออกมาค้าขายโชคดีที่พบโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งก่อนฟ้ามืด ก่อนเข้านอน ลั่วชิงยวนดื่มน้ำมนตร์เพื่อขับไล่สิ่งชั่วร้ายจากนั้นอวี๋โหรวจุดธูปหอมช่วยให้สงบ ลั่วชิงยวนจึงหลับไปในตอนแรกลั่วชิงยวนหลับสนิทดี แต่เมื่อถึงยามดึกนางก็ได้ยินเสียงลากเก้าอี้ เสียงนั้นใกล้เข้ามาเรื่อย ๆลั่วชิงยวนรู้สึกกระวนกระวายใจยิ่งนัก พยายามอย่างหนักที่จะตื่นขึ้น นางพยายามลืมตาแต่ก็ลืมตามิขึ้นราวกับว่าร่างกายยังคงหลับใหล แต่จิตสำนึกตื่นขึ้นมาแล้วเสียงลากเก้าอี้นั้นเหมือนมาหยุดอยู่ข้างเตียงของนางจากนั้นนางก็รู้สึกราวกับมีกระดาษแผ่นหนึ่งแปะลงบนหน้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1430

    จดหมายเหล่านั้นเขียนถึงครอบครัวของนางดูเหมือนว่าจะถูกเขียนขึ้นในช่วงเวลาที่แตกต่างกันลั่วชิงยวนมิได้เปิดอ่านนี่คงเป็นจดหมายที่อวี๋ตันเฟิ่งเขียนหลังจากที่นางแยกทางกับครอบครัว เป็นคำพูดในใจที่อยากจะกล่าวแต่ก็มิอาจกล่าวได้คิดดูแล้วหลังจากที่นางถูกโหยวจิ้งเฉิงฆ่า นางคงรู้สึกเสียใจที่มิได้ส่งจดหมายเหล่านี้ออกไปอย่างน้อยก็คงพอจะบอกข่าวคราวให้คนในครอบครัวได้ทราบบ้าง จะได้มิเงียบหายไปนานถึงเพียงนี้ลั่วชิงยวนมิรู้ว่าตอนนี้จะยังสามารถหาบิดามารดาและพี่น้องของอวี๋ตันเฟิ่งได้หรือไม่ แต่นางจะนำจดหมายเหล่านี้ลงจากเขาไปด้วย เพราะนี่เป็นหลักฐานว่านางเคยพบกับอวี๋ตันเฟิ่งเมื่อได้สิ่งของครบถ้วนแล้ว พวกนางก็เตรียมตัวลงจากเขาเนื่องจากคนใบ้มิยอมเดินทางไปกับพวกนางด้วย ลั่วชิงยวนจึงกำชับลุงเฉิงให้จัดคนไปส่งคนใบ้ลงจากเขาในขณะที่กำลังออกกันไป ฟู่เฉินหวนที่ยืนอยู่บนยอดเขากำลังทอดสายตามองลงมาเงียบเชียบ ต้นไม้ในป่าหนาทึบ เขามองมิเห็นเงาร่างของลั่วชิงยวนเลยเวลาผ่านไปรวดเร็วจริง ๆ รู้สึกว่ายังไม่มีเวลาได้อยู่ด้วยกันนานเท่าไหร่ก็ต้องจากกันอีกแล้ว“ชิงยวน หวังว่าคราวหน้าที่จะได้พบกันคงจะมิใช่ในสถานก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1429

    “ข้าว่าตอนนี้นางคงดีใจมาก เพราะคิดว่าข้าต้องตายอยู่ในเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้แล้ว”อวี๋โหรวมองนางอย่างตั้งใจ “เจ้าคิดจะทำกระไร?”ลั่วชิงยวนยกยิ้มจาง แล้วกล่าวช้า ๆ “เฉินชีมาคราวนี้มีข่าวมาบอกว่า ช่วงนี้ตระกูลซีก็โดนคนของสำนักเทียนฉยงเล่นงานอยู่เช่นกัน ถึงคราวที่เวินซินถงจะต้องแสดงฝีมืออีกแล้ว”“ข้าก็ต้องส่งของกำนัลชิ้นใหญ่ไปให้เวินซินถงสักหน่อย ถึงจะสมกับที่นางส่งของกำนัลมาให้ข้า”อวี๋โหรวถามว่า “แล้วพวกเราจะกลับไปเมื่อใด?”ลั่วชิงยวนกล่าวเสียงหนักแน่น “ยังมีที่ที่ข้าอยากไปอีกครั้ง หลังจากไปที่นั่นแล้วค่อยลงเขากัน”อวี๋โหรวพยักหน้าท้องฟ้ายังมิทันมืด หลังจากที่อวี๋โหรวจากไปแล้วลั่วชิงยวนก็ออกจากห้องไปยังหน้าห้องของคนใบ้เมื่อปิดประตูห้องแล้ว ลั่วชิงยวนก็กล่าวอย่างตรงไปตรงมา “อีกมิกี่วันพวกเราก็ต้องลงจากเขาแล้ว”คนใบ้พยักหน้า“ข้ายังกังวลเรื่องอาการบาดเจ็บของเจ้าอยู่บ้าง ข้าขอตรวจดูอีกครั้งนะ”หลังจากลงจากเขาไปแล้วนางกับเขาอาจจะมิได้เจอกันอีก เกรงว่าจะไม่มีโอกาสรักษาอาการบาดเจ็บให้เขาได้อีกคนใบ้ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็ถอดเสื้อออกเมื่อได้เห็นบาดแผลทั่วร่างของคนใบ้อีกครั้ง ลั่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1428

    ลั่วชิงยวนตกใจ เฉินชีมาได้อย่างไร?“ข้าไปดูเอง”ลั่วชิงยวนรีบลงจากเขาทันใดเมื่อนางลงจากเขาก็เห็นเฉินชีกำลังจะจุดไฟเผาภูเขาเมื่อเห็นผู้คนลงมาจากบนเขา เขาก็ขู่ตะคอกเสียงดัง “ปล่อยลั่วชิงยวนออกมาเดี๋ยวนี้! มิเช่นนั้นข้าจะเผาภูเขาเฮงซวยของพวกเจ้า!”ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว เขามาได้จังหวะดีจริง ๆ“เฉินชี หยุดนะ!”เมื่อได้ยินเสียงของนาง เฉินชีก็ตกใจพลันรีบวิ่งเข้ามา เมื่อเห็นนางเขาก็ตื่นเต้นอย่างมาก“เจ้ามิเป็นอะไรใช่หรือไม่?”เขากล่าวพลางคว้าแขนของนางไว้แล้วดึงไปอยู่ข้างหลังตน มองลุงเฉิงและคนอื่น ๆ ด้วยความระแวดระวัง “พวกนั้นทำกระไรเจ้า!”ลั่วชิงยวนผลักเขาออก “ข้ามิเป็นอะไร เจ้าบอกให้คนของเจ้าหยุดเดี๋ยวนี้! รีบไปดับไฟเสีย!”นางเคยดูแผนที่การวางกำลังป้องกันของเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้แล้ว บนเขามีคูคลองมากมายและยังมีแหล่งน้ำขนาดใหญ่ด้วย เมื่อไฟลุกโชนขึ้นก็สามารถดับไฟได้นางมิกลัวว่าเขาจะเผาภูเขาแต่ก็มิอยากใช้กลไกของแหล่งน้ำเหล่านี้โดยพลการเฉินชีโบกมือทันใด คนอื่น ๆ จึงรีบดับไฟเฉินชีดึงนางไปด้านข้าง แล้วถามด้วยความเป็นห่วง “อาเหลา เจ้ามายังเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้โดยมิบอกกล่าวข้าสักคำ เจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1427

    ลั่วชิงยวนเข้าใจ นางจึงอธิบายว่า “บนตราประทับทาสส่วนใหญ่มียันต์ผนึกวิญญาณอยู่ ข้าสามารถช่วยท่านเอายันต์ผนึกวิญญาณออกได้”เมื่อได้ยินดังนั้น ลุงเฉิงก็ตกใจ“เอาออกได้หรือขอรับ? นี่มัน…”นี่คือยันต์ผนึกวิญญาณของสำนักนักบวชเชียวนะ!นอกจากคนในสำนักนักบวชแล้ว ใครกันจะแก้ได้!ในเวลานั้นเอง โฉวสือชีก็เดินเข้ามาแล้วหัวเราะก่อนกล่าวว่า “บนตัวข้าก็มียันต์ผนึกวิญญาณ นางเป็นคนแก้ให้ข้าเอง เชื่อใจนางเถิด ลุงเฉิง”เมื่อได้ยินดังนั้น ลุงเฉิงก็ตกใจมากเขารีบถอดเสื้อออกลั่วชิงยวนรีบแก้ยันต์ผนึกวิญญาณออกไป ลวดลายสีทองบนรอยแผลเป็นนั้นหายไป เหลือเพียงรอยแผลเป็นธรรมดาลุงเฉิงหยิบคันฉ่องทองเหลืองมาส่องดู เมื่อเห็นว่ายันต์ผนึกวิญญาณบนหลังของตนหายไปจริง ๆ ก็ดีใจจนเนื้อเต้นเขาทรุดตัวลงคุกเข่าตรงหน้าลั่วชิงยวน “นับจากนี้ไป เฉิงติ่งผู้นี้ขออุทิศชีวิตบุกน้ำลุยไฟเพื่อท่านเจ้าเมือง โดยมิลังเลเลยขอรับ!”ลั่วชิงยวนคลี่ยิ้มจาง “ลุกขึ้นเถิด”“ไปรวบรวมสมบัติทั้งหมดบนเขามาให้ข้าดู แล้วทำบัญชีมาให้ข้าด้วย”“ขอรับ!”เฉิงติ่งรีบจากไปด้วยท่าทางกระปรี้กระเปร่าและมีความสุขยิ่งโฉวสือชีมองท่าทางก้าวเดินอย่างมีควา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1426

    โฉวสือชีตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้นลั่วชิงยวนรีบเข้าไปดู เมื่อเห็นบัวถวายก็ดีใจเป็นอย่างยิ่ง“นี่คงเป็นของที่พวกนั้นบังเอิญทำตกไว้โดยมิได้ตั้งใจ”โฉวสือชีกล่าวพลางเปิดหน้าต่างก็เห็นว่ามีรอยเท้าอยู่บนขอบหน้าต่างจริง ๆ“โชคดีจริง ๆ ที่ยังหาเจออีกดอก”ลั่วชิงยวนยกยิ้มแล้วกล่าวว่า “ใช่แล้ว ดูเหมือนสวรรค์จะมิใจร้ายกับข้ามากนัก”ถึงแม้จะหาบัวถวายเจอเพียงดอกเดียวแต่สำหรับลั่วชิงยวนแล้วก็สามารถช่วยชีวิตนางได้ และพอจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกสักระยะจากนั้นลั่วชิงยวนก็จัดยาให้คนใบ้นำกลับไปกิน เมื่อได้สมุนไพรครบถ้วนจากในคลังโอสถนี้จึงจัดยาได้หลายห่อหลังจากกินยาแล้วลุงเฉิงก็เข้ามา“ท่านเจ้าเมือง จัดการศพเรียบร้อยแล้วขอรับ มีสิ่งใดให้ข้าน้อยจัดการต่อหรือไม่?”ลั่วชิงยวนกล่าวว่า “ช่วยพาข้าไปดูห้องของต่งอวิ๋นซิ่วหน่อย”“ขอรับ”จากนั้นลั่วชิงยวนก็มายังเรือนของต่งอวิ๋นซิ่ว ลุงเฉิงกล่าวว่า “ท่านเจ้าเมือง ท่านโปรดดูว่าเครื่องเรือนในห้องนี้ต้องปรับเปลี่ยนสิ่งใดหรือไม่ ข้าน้อยจะได้จัดการให้ขอรับ”ลั่วชิงยวนมองดูห้องคร่าว ๆ จากนั้นก็ไปยังห้องตำรานางพบแผนที่การวางกำลังป้องกันซึ่งเป็นแผ่นเดียวกั

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status