“วิญญาณสิงร่างใหม่?”ท่านจินต้าเอ่ยออกมา “ท่านอ๋อง จะเป็นไปได้เยี่ยงไร? ใต้หล้าผืนนี้จะมีเรื่องแปลกประหลาดเช่นนี้ได้อย่างไรพ่ะย่ะค่ะ?”เซียวหลินเทียนเห็นว่าท่านจินต้าตกใจจนหน้าถอดสีก็ยิ้มพลางเอ่ย“ท่านจะกลัวอะไรเล่า? ต่อให้หลิงอวี๋จะเป็นผีแต่ก็เป็นผีใจดีหนา!”ท่านจินต้าสงบสติอารมณ์ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้าพลางเอ่ย “พระชายาเป็นคนใจดีจริง ๆ นางช่วยพวกเรามามากโดยมิคำนึงถึงความขุ่นเคืองในครั้งก่อนเลย อีกทั้งยังรักษาขาของท่านด้วย ความมีน้ำใจของนางที่มีต่อพวกเรามิต้องพูดทุกคนก็รู้สึกได้!”“อืม! ข้าอยากจะให้สิ่งเหล่านี้แน่ชัดก่อน มิใช่เพื่อจะหาทางจัดการกับนาง แต่แค่อยากจะรู้จักนางให้มากขึ้น!”เซียวหลินเทียนเอ่ยเสียงทุ้ม “ข้ามิอยากแสดงความรู้สึกที่แท้จริงออกไปโดยที่มิแน่ชัด กับจ้าวเจินเจินข้าก็มองพลาดไปแล้ว...”“ข้าหวังเพียงว่า คนที่จะอยู่กับข้าไปตลอดชีวิตจะเป็นคนที่ข้าสามารถฝากชีวิตได้ เป็นคนที่มิว่าจะแก่เฒ่า เจ็บป่วยหรือตายไปก็มิทอดทิ้งกัน!”ท่านจินต้าเข้าใจแล้ว เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเอ่ย “อยู่ด้วยกันก็แบ่งห้องสองห้องได้พ่ะย่ะค่ะ ถัดจากห้องนอนของท่านอ๋องคือห้องตำรา พรุ่งนี้กระหม่อม
วันรุ่งขึ้นเรือนริมวารีมีการปรับเปลี่ยนตั้งแต่เช้าตรู่เซียวหลินเทียนให้จ้าวซวนมาเชิญหลิงอวี๋เป็นพิเศษ เพื่อให้นางไปดูว่ามีอะไรในเรือนริมวารีที่ต้องปรับเปลี่ยนอีกบ้างหลิงอวี๋จนใจ จึงต้องเข้าไปดูสิ่งที่หลิงอวี๋มิคาดคิดก็คือเซียวหลินเทียนให้คนเปลี่ยนหน้าต่างทั้งหมดเป็นหน้าต่างกระจกแทนนอกจากนี้ยังมีห้องสุขากับห้องอาบน้ำแยกออกมาอยู่ด้านหลังห้องนอนด้วยนี่เป็นการเลียนแบบการออกแบบของเรือนบุหงาทั้งสิ้น ช่างฝีมือที่ใช้คือพวกหลี่ต้าหนิวเหมือนครั้งที่แล้ว“พระชายา ท่านอ๋องตรัสว่าต้องการให้ท่านเข้ามาอยู่อย่างสบาย หากมีสิ่งใดที่ท่านมิพอใจก็สามารถเปลี่ยนได้!” จ้าวซวนเอ่ยด้วยรอยยิ้มหลิงอวี๋กวาดสายตามองไปแล้วเอ่ยกับจ้าวซวน “ตู้เสื้อผ้ากับโต๊ะหนังสือในห้องของข้าพวกเจ้าสามารถไปลอกเลียนแบบมาได้ หากทำเช่นนั้น ต่อไปเสื้อผ้าของท่านอ๋องจะดูแลได้ง่ายขึ้น!”ทางเซียวหลินเทียนไม่มีนางรับใช้ อาหาร เสื้อผ้า ที่อยู่อาศัย และการเดินทางของเขาทั้งหมดได้รับการดูแลจากองครักษ์จ้าวซวนได้ยินก็เอ่ยทันที “ลู่หนานบอกข้าเกี่ยวกับตู้เสื้อผ้าแล้ว ก่อนหน้านี้ข้าก็อยากจะช่วยเปลี่ยนให้ท่านอ๋อง แต่หาได้มีเวลาไม่ เช่
ตกกลางคืนทุกอย่างเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว สัมภาระของหลิงอวี๋นั้นแม่นมลี่กับคนอื่น ๆ ก็ย้ายมาให้แล้วแม่นมลี่ซื้อเครื่องนอนกับกระเป๋าสัมภาระทั้งหมดนี้ด้วยเงินของนางเองนางเอ่ยกับหลิงอวี๋ “พระชายา แม้ว่าท่านจะแต่งงานเข้าตำหนักอ๋องอี้มาหลายปีแล้ว แต่คืนนี้เป็นครั้งแรกที่ท่านได้อาศัยอยู่ในเรือนหลักอย่างเป็นทางการเลย!”“ถือว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสินสอดที่แม่นมมอบให้ท่านเถิด! ในเมื่อมิสามารถหย่าร้างกันได้ ก็ใช้ชีวิตที่ดีอยู่กับท่านอ๋องเสียเถิดเจ้าค่ะ!”“แม่นมแก่แล้ว มิรู้จะอยู่กับท่านได้อีกกี่ปี หากท่านมีครอบครัวที่ดี แม่นมจะได้จากไปอย่างสบายใจ!”ดวงตาของหลิงอวี๋เริ่มรื้นน้ำตาหลังจากที่แม่นมลี่บอก นางจึงกอดแม่นมลี่ไว้แม่เฒ่าผู้นี้อยู่กับนางมาตลอด แม้ว่าจะเป็นตอนที่นางตกต่ำที่สุดก็มิเคยทิ้งนางไปไหนในใจของหลิงอวี๋ นางถือว่าแม่นมลี่เป็นแม่ของตนไปแล้ว!“แม่นม มิต้องกังวล ข้าจะต้องมีชีวิตที่ดีอย่างแน่นอน! ส่วนเจ้า ก็จะต้องมีชีวิตที่ยืนยาวอย่างแน่นอน... เจ้ายังต้องดูเยวี่ยเยวี่ยแต่งงานและมีเหลนชายให้เจ้านะ!”แม่นมลี่ยิ้มมิหุบ นางมีหรือจะกล้าคิดไปไกลถึงเพียงนั้น!ได้เห็นเยวี่ยเยวี่ยเติบโตขึ
เซียวหลินเทียนมิเคยคิดเลยว่าวันหนึ่งการอาบน้ำจะสนุกถึงเพียงนี้เขาล้างตัวด้วยฝักบัวเหมือนเด็ก ๆ รู้สึกว่าการอาบน้ำเช่นนี้สะอาดและสบายกว่าอ่างอาบน้ำเสียอีกขณะที่กำลังอาบอยู่นั้น ก็ได้ยินหลิงอวี๋เอ่ยจากข้างนอก “ท่านต้องรีบหน่อยเพคะ คำนวณไว้แล้วว่าน้ำหนึ่งถังจะอาบได้นานแค่ไหน อย่าให้น้ำหมดก่อนที่จะอาบสะอาดเพคะ!”ความมิพอใจอย่างเดียวของหลิงอวี๋ก็คือสิ่งนี้ การอาบน้ำมิเหมือนกับท่อน้ำในยุคสมัยใหม่ที่สามารถจ่ายน้ำได้อย่างต่อเนื่องฉินตะวันตกยังไม่มีเทคโนโลยีเช่นนี้ น้ำที่พวกเขาอาบคือน้ำที่จ้าวซวนให้องครักษ์เติมน้ำร้อนลงในถังไม้ขนาดใหญ่บนหลังคาห้องอาบน้ำ เช่นนี้น้ำจึงไหลลงมาได้โดยมิต้องเพิ่มแรงดันเมื่อเซียวหลินเทียนได้ยินเช่นนี้ก็เร่งอาบน้ำให้เร็วขึ้นกระทั่งอาบน้ำเสร็จออกมา เขาก็ยังคงรู้สึกว่ายังมิสะอาดเท่าไหร่ เลยคิดว่าวันหลังจะให้จ้าวซวนขยายถังให้ใหญ่ขึ้นอีกเซียวหลินเทียนเช็ดผมแล้วใช้กำลังภายในบังคับให้มันแห้ง เขาไม่มีความอดทนพอที่จะเปลี่ยนผ้าเช็ดผมไปเรื่อย ๆ หรอกหลิงอวี๋เห็นเช่นนั้นก็อิจฉา นางคุ้นเคยกับผมสั้นตอนอยู่ในยุคสมัยใหม่ มันแห้งง่ายมากแต่ในสมัยโบราณนางต้องใส่เครื่องหั
“เซียวหลินเทียน หม่อมฉันมิได้ล้อเล่น ในเมื่อท่านแม่ของหม่อมฉันมีเคล็ดลับในการฝึกพลังวิญญาณเช่นนี้ ย่อมมีมากกว่านี้เป็นแน่! ท่านอ๋องนับท่านแม่ของหม่อมฉันเป็นอาจารย์เถิด!”“ต่อไปหากหม่อมฉันพบเคล็ดลับวรยุทธอื่น ๆ อีก ท่านก็สามารถสืบทอดมันได้อย่างสมเหตุสมผลแล้ว!”“ท่านดูสิ่งที่อยู่บนกระดาษก่อนเถิด ท่านคิดว่าเจ้ามีความสามารถต้านทานพลังจิตวิญญาณลึกลับนี้ได้หรือ?”หลิงอวี๋ยัดกระดาษให้เซียวหลินเทียนเซียวหลินเทียนมองอย่างจนใจ เมื่อเขาเห็นก็รู้สึกทึ่งกับมันหากเขาฝึกฝนตามวิธีการฝึกฝนในนี้ วรยุทธของตนจะสามารถพัฒนาอย่างรวดเร็วจนถึงระดับที่เขามิกล้าจะคาดคิดเลยหากตนพัฒนาได้เช่นนี้ จะมิน่ากลัวอย่างยิ่งหากศัตรูของพวกเขามีวิธีฝึกฝนเช่นนี้หรือ?การเผชิญหน้ากับศัตรูที่ทรงพลังเช่นนี้ ด้วยความสามารถของตนในตอนนี้แล้ว มีเพียงการตายทางเดียวเท่านั้นหากเขาตายเพียงผู้เดียวก็มิเป็นไรหรอก แต่แล้วหลิงอวี๋กับหลิงเยวี่ยเล่า?“ได้ หลิงอวี๋ ข้าจะคารวะท่านแม่ของเจ้าเป็นอาจารย์ของข้า!”เซียวหลินเทียนยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าคนที่ครอบครองพลังวิญญาณน่ากลัวมาก เพื่อเห็นแก่คนที่เขาต้องการปกป้อง เขาจึงพยักหน้าอย่างแ
ทั้งสองคนมิกล้าเคลื่อนไหวใด ๆ และมิกล้าหายใจตามปกติด้วย เพราะกลัวว่าจะรบกวนอีกฝ่ายหลิงอวี๋เพียงอธิษฐานขอให้เซียวหลินเทียนประหม่าจนหลับไป นางจะได้พลิกตัวได้อย่างอิสระเซียวหลินเทียนก็เช่นกัน ปลายจมูกของเขาได้กลิ่นหอมจากร่างกายของหลิงอวี๋ จิตใจของเขาฟุ้งซ่าน แต่ก็มิกล้าทำอะไรเลยตอนนี้เขาเป็นบุรุษปกติแล้ว!ชั่วครู่หนึ่ง เซียวหลินเทียนอยากกอดหลิงอวี๋มาก เขาต้องการนางอย่างมิสนใจสิ่งใดแล้ว!แต่สัญชาตญาณดั้งเดิมเช่นนี้ยังทำให้เซียวหลินเทียนต้องล่าถอยไป!หลิงอวี๋คือสหายของเขา คือศิษย์น้องของเขา และเป็นคนที่เขาอยากปกป้องในภายหน้า!เขาต้องมิทำร้ายนางก่อนที่เขาจะรู้ว่าจริง ๆ แล้วเขาคิดอย่างไรกับนางกันแน่!ทั้งสองตัวแข็งทื่อเช่นนี้อยู่เป็นเวลานาน จนหลิงอวี๋ทนมิไหวผล็อยหลับไปด้วยความง่วงเซียวหลินเทียนอยู่จนกระทั่งใกล้รุ่งสางจึงจะหลับลงได้หลังจากนอนหลับไปสักพัก ก็ได้ยินเสียงของหานเหมยดังมาจากข้างนอก “ท่านอ๋อง ถึงเวลาตื่นแล้วเพคะ!”เซียวหลินเทียนตื่นขึ้นมา รู้สึกว่าหลิงอวี๋ยังคงหลับอยู่ จึงค่อย ๆ ลุกขึ้นไปอาบน้ำกระทั่งเปลี่ยนอาภรณ์ออกมาแล้ว หลิงอวี๋ก็ยังคงหลับอยู่เซียวหลินเทียนเดิน
หลังจากที่หลิงอวี๋ตื่นขึ้นมาอาบน้ำแล้ว หานเหมยก็นำอาหารเช้ามาให้หลิงอวี๋หยิบตะเกียบขึ้นมา แล้วคิดได้ว่าตอนนี้ตนอาศัยอยู่ที่เรือนริมวารี จึงถามอย่างสบาย ๆ “ท่านอ๋องไปแต่เช้าแล้วหรือ? เสวยพระกระยาหารเช้าหรือไม่?”หานเหมยยิ้มพลางเอ่ย “เมื่อวานแม่นมลี่สั่งอาหารกับบ่าวไว้แล้วเจ้าค่ะ ดังนั้นทาสจึงไปที่ครัวแล้วยกพระกระยาการเช้ามาให้ท่านอ๋อง พระองค์เสวยเสร็จแล้วจึงเสด็จไปทรงงานเจ้าค่ะ!”หลิงอวี๋พยักหน้าอย่างชื่นชม แล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “โชคดีที่มีพวกเจ้าคอยดูแลแทนข้า ข้าลืมเรื่องนี้ไปเสียสิ้นเลย!”หานเหมยเอ่ยอย่างเอาใจใส่ “พระชายามีงานต้องทำมากมาย เรื่องพวกนี้ควรให้พวกบ่าวคิดแทนแล้วเจ้าค่ะ!”“แม่นมลี่บอกว่าที่เกิดเรื่องขึ้นกับท่านครั้งนี้ องค์ชายเย่กับภรรยาทำเพื่อท่านหลายอย่าง นางเตรียมของกำนัลบางอย่างจะมอบให้ตำหนักองค์ชายเย่เจ้าค่ะ ประเดี๋ยวท่านไปดูรายการของกำนัลเถิดเจ้าค่ะ หากเหมาะสมแล้วบ่าวจะไปส่งให้เจ้าค่ะ!”“ได้!”หลิงอวี๋รู้ว่าองค์ชายเย่มิน่ากังวล ครั้งนี้ที่สามารถช่วยตนได้ถึงเพียงนี้ ทั้งหมดเป็นเพราะพระชายาเย่มิว่าของกำนัลจะมีราคาแพงแค่ไหน ก็มิเพียงพอที่จะแทนความขอบคุณของตนต่อพร
เมื่อทั้งสี่คนข้างนอกได้ยินสุ่ยหลิงมาถ่ายทอดคำพูดของหลิงอวี๋ ก็มองหน้ากันไปมาเสวี่ยเจินรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันทีเมื่อชื่อของนางถูกเรียก และแทบรอมิไหวที่จะเดินเข้าไปในเรือนริมวารีจื่อผิงดูสงบลงเล็กน้อย แล้วขมวดคิ้วอันบอบบางพลางเอ่ยถามสุ่ยหลิง “เหตุใดพระชายาถึงจะพบแค่เราสองคน! เนี่ยนจือกับน้องเสวี่ยฉินทำอะไรผิดหรือไม่?”สุ่ยหลิงฟังออกถึงเจตนาของจื่อผิงที่จะทำให้เกิดความขัดแย้ง จึงเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง“พระชายามิชอบความวุ่นวาย พวกท่านทั้งสี่คนเข้าไปพร้อมกันจะไปรบกวนนาง นางมิชอบเจ้าค่ะ!”“เหตุใดกัน อนุชายาจื่อ เจ้ามีข้อโต้แย้งใด ๆ กับการจัดการของพระชายาหรือ? หากเจ้ามิยินยอม ก็เปลี่ยนเป็นเสวี่ยฉินเถิด เจ้าค่อยมาวันอื่น!”เสวี่ยฉินเอ่ยอย่างใจร้อน “เช่นนั้นให้ข้าไปเถิด พี่จื่อผิง เจ้าไปวันอื่นแล้วกัน!”พูดแล้ว เสวี่ยฉินก็ลากเสวี่ยเจินเดินเข้าไปจื่อผิงโกรธจนสีหน้าเปลี่ยนไปเลย นางหันไปจะให้เนี่ยนจือช่วยแทนตนเองเนี่ยนจือยิ้มบาง ๆ “ในเมื่อพระชายามิอยากให้เสียงดัง เช่นนั้นเนี่ยนจือจะกลับมาทำความเคารพพระชายาในวันอื่น!”พูดจบ เนี่ยนจือก็พานางรับใช้ออกไปจื่อผิงฝืนยิ้มให้สุ่ยหลิงแล้วเด
“หึหึ!”ชายาเจ้าแห่งทะเลหัวเราะออกมา “หลิงอวี๋ เจ้าคิดว่าข้าโง่รึ? หยกหล้าสุขาวดีหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเจ้าแล้ว ค้นตัวเจ้าจะหาเจอได้อย่างไร?”“หลิงอวี๋ หยกหล้าสุขาวดีมิใช่ของของเจ้าตั้งแต่แรก มารดาเจ้าเป็นนางโจร ขโมยมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของจวนเจ้าแห่งทะเลไป การให้เจ้าคืนมาก็แค่เป็นการคืนของสู่เจ้าของเดิม!”“ข้าสืบรู้มาหมดแล้ว เจ้าและเซียวหลินเทียนสามีของเจ้าต่างก็อยู่ในเมืองหลวงแดนเทพ เจ้ายังมีบุตรชายอีกคนที่ฉินตะวันตก!”“หลิงอวี๋ ที่เจ้าปฏิเสธมิยอมรับฐานะของตนเองมาตลอด คงเป็นเพราะล่วงรู้ถึงวิธีที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาแล้วสินะ”“เจ้าคิดว่าอย่างไรก็ต้องตายอยู่ดี ดังนั้นเจ้าจึงคิดว่า ขอเพียงมิยอมรับก็เป็นไปมิได้ที่พวกเราจะมัดตัวเจ้าไปสลายเลือดละลายกระดูกที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อนำหยกหล้าสุขาวดีออกมา!”ชายาเจ้าแห่งทะเลพูดถึงตรงนี้ก็แค่นเสียงหัวเราะ “เจ้าเชื่อหรือไม่ ข้ามิจำเป็นต้องพิสูจน์ยืนยัน ก็สามารถมัดตัวเจ้าไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว!”“ที่ข้าให้คนนำตัวเจ้ามาที่จวนเจ้าแห่งทะเล ก็เพื่อจะให้โอกาสเจ้า!”หลิงอวี๋หรือจะยอมรับฐานะของตนเพียงเพราะชายาเจ้าแห่งทะเลพูดเช่นนี้ได้อย่าง
“เข้าไป อย่าให้พ่อบ้านผู้นี้ต้องพูดเป็นครั้งที่สอง!”รอยยิ้มบนใบหน้าของพ่อบ้านเว่ยหายไปสิ้น กล่าวอย่างมิอดทน “เมื่อให้โอกาสดี ๆ มิชอบ ก็ต้องเจอดีเสียบ้าง!”เถาจื่อกำแขนหลิงอวี๋ไว้แน่น และถามผ่านสายตา“ตอนนี้ควรทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”หลิงอวี๋ก็คาดมิถึงว่าจวนเจ้าแห่งทะเลจะเปลี่ยนท่าทีเร็วถึงเพียงนี้ ก่อนหน้านี้นางยังคิดว่า เมื่อเข้ามาในจวนเจ้าแห่งทะเลแล้วจะสามารถยื้อเวลาสักพักได้ชายาเจ้าแห่งทะเลมิปรากฏตัว แต่กลับให้พ่อบ้านเว่ยพาตนมาที่นี่เช่นนี้เลย?นี่หมายความว่าอย่างไรกัน?คิดจะขังนางไว้ หรือว่ามีแผนอื่นกระไร?หลิงอวี๋มองไปยังท่าทีมีเจตนาร้ายของพวกพลธนูและชายร่างใหญ่หลายคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เหล่านั้น นางและเถาจื่อไม่มีทางหนีรอดจากเงื้อมมือของพวกเขาไปได้เลย“เข้าไปก่อนเถอะ!”หลิงอวี๋นำหน้าเดินเข้าไป เถาจื่อตามติดอยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เพิ่งจะก้าวเท้าเข้าประตูเรือน เมื่อเห็นสภาพข้างในก็รู้สึกว่ามิดีแน่ เพิ่งจะคิดถอยหลังเถาจื่อกลับถูกคนผลักจากด้านหลังอย่างแรง ชนเข้ากับร่างหลิงอวี๋จนดันหลิงอวี๋เข้าไปข้างในทั้งสองคนล้มลงไปกองรวมกัน ยังมิทันได้ลุกขึ้นยืนก็ได้ยินเสียงดังโครมสนั่นกล
หลงเพ่ยเพ่ยห้อยอยู่บนชะง่อนผานั้น นางเองก็ทนต่อไปมิไหวแล้ว ภายใต้การเกลี้ยกล่อมของทุกคน นางจึงปีนป่ายเชือกขึ้นไปนางนึกถึงจุดประสงค์ที่ตนมาที่นี่ หากเย่หรงตายไปแล้วจริง ๆ เขาย่อมหวังให้นางช่วยหลิงอวี๋ออกมาได้อย่างแน่นอนนางมิอาจทำให้เย่หรงตายตามิหลับได้!เมื่อหลงเพ่ยเพ่ยปีนขึ้นมาได้ก็มิสนใจตรวจสอบบาดแผลของตน นางคุกเข่าลงต่อหน้าฮองเฮาทันทีนางกล่าวเสียงเครือ “เสด็จย่า เรื่องที่ทรงรับปากหม่อมฉันเมื่อครู่ สามารถประทานพระราชโองการให้หม่อมฉันตอนนี้ได้หรือไม่เพคะ?”“เมื่อครู่เย่หรงช่วยชีวิตหม่อมฉันและหยวนซานไว้ เพียงเห็นแก่บุญคุณทั้งสองครั้งนี้ เสด็จย่าทรงควรจะช่วยให้เขาสมหวังนะเพคะ!”ฮองเฮานึกถึงเรื่องที่เย่หรงและหลงเพ่ยเพ่ยอ้อนวอนตนเมื่อครู่ เย่หรงเป็นถึงเพียงนี้แล้ว นางจะยังทำให้คนที่เขาชอบพอลำบากใจได้อีกหรือ?ฮองเฮาถอดปิ่นปักผมอันหนึ่งของตนออกมาโดยมิทันคิด แล้วยื่นให้กับหลงเพ่ยเพ่ย“ถือปิ่นปักผมนี้ไปพาตัวสิงอวี๋ออกมาเถอะ!”หลงเพ่ยเพ่ยรับปิ่นปักผมหงส์คู่ปักทองคำของฮองเฮามาทั้งน้ำตา นี่คือปิ่นปักผมที่ฮองเฮาเท่านั้นจึงจะสวมใส่ได้ เห็นปิ่นดังเห็นองค์ เทียบเท่ากับพระราชโองการของฮองเฮ
“ท่านหญิง...”“เพ่ยเพ่ย...”ฮองเฮาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยตกลงไปก็ตกใจจนหัวใจแทบหยุดเต้นไปชั่วขณะ ผานกกระเรียนแห่งนี้เป็นปรปักษ์กับราชวงศ์หรืออย่างไร?เหตุใดถึงได้ตกลงไปทีละคนเช่นนี้?“เร็วเข้า ช่วยคน!”ฮองเฮาตะโกนลั่น นางกำนัลที่มีไหวพริบรีบไปตามองครักษ์มาช่วยทางด้านเย่หรงทรงตัวได้มั่นคงบนชะง่อนผาแล้ว เขาเพิ่งจะถอนหายใจโล่งอกก็ได้ยินเสียงกรีดร้องจากด้านบนเมื่อเงยหน้าขึ้น เขาก็เห็นหลงเพ่ยเพ่ยกำลังร่วงหล่นลงมาหัวใจของเย่หรงหดเกร็งวูบ มิทันได้คิด คว้าเถาวัลย์ข้าง ๆ แล้วโหนตัวไปหาหลงเพ่ยเพ่ยหลงเพ่ยเพ่ยตกใจจนหลับตาลงแล้ว เตรียมพร้อมยอมรับความตายแต่ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนตนชนเข้ากับคนผู้หนึ่ง จากนั้นร่างก็ถูกกอดไว้“ไปทางนั้น เร็วเข้า คว้าชะง่อนผานั่นไว้!”เย่หรงพลิกตัวกลางอากาศ เหวี่ยงหลงเพ่ยเพ่ยไปทางนั้น หลงเพ่ยเพ่ยพุ่งเข้าใส่ผนังผา แต่ใช้แรงมากเกินไปจนใบหน้าชนกับผนังผาจนถลอก นางเจ็บเสียจนหน้ามืดตาลายแต่นางมิสนใจความเจ็บปวดแทบขาดใจ เช่นเดียวกันกับเย่หรง เขาพยายามสุดชีวิตที่จะคว้าเถาวัลย์เหล่านั้นไว้โชคดีที่เถาวัลย์ฝั่งนี้ยังพันเกี่ยวกับกิ่งไม้มากมาย เถาวัลย์ที่พันกิ่งไม้ไว้นั้
“ซานเอ๋อร์!”หลงอวิ๋นก็เห็นภาพนี้เช่นกัน ทันใดนั้นในสมองก็ว่างเปล่า…ในฐานะมารดา นางจะมิรู้ได้อย่างไรว่าตนลำเอียงต่อบุตรชายทั้งสองคนหยวนซือและหยวนซานป่วยไข้พร้อมกัน นางกลับเฝ้าหยวนซือทั้งวันทั้งคืนส่วนหยวนซานกลับเป็นหยวนซิ่งสามีของนางที่คอยดูแลด้วยตนเองของประทานที่ได้รับจากมหาเทพและเจ้าแห่งทะเลผู้เป็นบิดาในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันสำคัญต่าง ๆ นางก็จะให้หยวนซือเลือกก่อน ที่เหลือถึงจะให้หยวนซานเรื่องเช่นนี้นับมิถ้วน แต่หยวนซานกลับถูกหยวนซิ่งบิดาของเขาสั่งสอนมาอย่างดี มิเคยบ่นว่าเรื่องความลำเอียงของนางเลย!บัดนี้มองดูหยวนซานกำลังจะตกหน้าผา หลงอวิ๋นในฐานะมารดาจะสามารถมองดูเฉย ๆ ให้บุตรชายตายตกไปเช่นนี้ได้หรือ?ฝ่ามือหลังมือก็เนื้อเดียวกัน นางทำให้หยวนซานมาสู่ใต้หล้าผืนนี้ หยวนซานมีความผิดอะไร นางมีสิทธิ์อะไรจะทำกับหยวนซานเช่นนี้“ซานเอ๋อร์!”เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิต เมื่อคิดว่าจะต้องสูญเสียบุตรชายคนนี้ไปตลอดกาล หลงอวิ๋นก็พลันเสียใจแต่ก็สายเกินไปนางมิสนใจอีกต่อไปว่าจะทำให้หยวนซือบาดเจ็บหรือไม่ นางใช้แรงดึงหยวนซือออกอย่างแรงแล้วพุ่งเข้าไปที่หน้าผา“ซานเอ๋อร์ แม่มาช่วยเจ้าแล้ว
หลงเพ่ยเพ่ยเห็นท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋น ในสมองพลันเกิดความคิดแวบขึ้นมา ถึงได้คิดข้ออ้างนี้ออกเมื่อเห็นเย่หรงตามแนวคิดของตนทัน หลงเพ่ยเพ่ยก็แอบชื่นชมในไหวพริบของเย่หรงในใจ แล้วกล่าวต่อไป“เสด็จย่า ท่านคงมิประสงค์ให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลต้องเสียหน้าใช่หรือไม่เพคะ!”“หากเย่หรงไปหาท่านปู่ของเขาให้ออกหน้า การกระทำอันเผด็จการเช่นนี้ของท่านอาเจ้าแห่งทะเลจะถูกผู้คนรังเกียจ ถึงเวลานั้นก็จะส่งผลกระทบต่อเกียรติของราชวงศ์พวกเรา!”“ในใต้หล้านี้มีสตรีมากมาย ท่านอาเจ้าแห่งทะเลก็มิได้ขาดสตรีที่มาเสนอตัวให้ เหตุใดต้องทำเรื่องทำลายวาสนาคู่ครองของผู้อื่นเช่นนี้ด้วย!”ครั้นฮองเฮานึกถึงความเหลวไหลของเจ้าแห่งทะเลก็รู้สึกเสียหน้ายิ่งนัก กล่าวเสียงเข้ม “เอาเถอะ ย่ารู้แล้ว จะออกพระราชโองการให้พวกเจ้าไปรับคนที่จวนเจ้าแห่งทะเล...”หลงเพ่ยเพ่ยและเย่หรงถอนหายใจโล่งอก เพียงแต่ทั้งสองยังมิทันลุกขึ้นยืน ก็มีเสียงกรีดร้องดังแว่วมาจากที่ไกล ๆได้ยินเสียงคนกำลังตะโกนแว่วมา “ช่วยด้วย เร็วเข้า ใครก็ได้ คุณชายน้อยตกลงไปใต้หน้าผาแล้ว...”ฮองเฮาพลันลุกขึ้นยืน ร้องเรียกอย่างร้อนรน “เร็ว ไปดูซิ ใครตกลงไป?”วันนี้
หลงอวิ๋นได้สติกลับคืนมา ตามปกติแล้วคนทั่วไปหากมิได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็จะถามว่า “เมื่อครู่เจ้าว่ากระไรนะ?”แต่หลงอวิ๋นกลับมิทำตามปกติ ลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวว่า “เสด็จย่า เด็ก ๆ เดินไปไกลแล้ว หม่อมฉันไปตามพวกเขากลับมาดีกว่า ควรลงจากเขาได้แล้วเพคะ!”พูดจบ หลงอวิ๋นก็เดินออกจากศาลาพักร้อนไป ร้องเรียกสาวใช้ของตนว่า “พวกคุณชายใหญ่ไปทางไหนกันหรือ?”เนี่ยนจูนางรับใช้ของหลงอวิ๋นกล่าวพลางยิ้มประจบ “แม่นมจี้และเนี่ยนชิงพาพวกเขาไปทางนั้นเจ้าค่ะ มิน่าจะเดินไปไกล!”“ไป ไปดูกัน!”หลงอวิ๋นเดินตามทิศทางที่เนี่ยนจูชี้ไปโดยมิหันกลับมามองท่านหญิงชิงเฉิงมองแผ่นหลังของนางที่เดินจากไปเช่นนั้นก็โกรธจนแทบจะด่าทอเสียงดังลั่นออกมา“พี่หญิงชิงเฉิง พี่หญิงอวิ๋นไปตามหาเด็ก ๆ แล้ว ท่านมิไปตามหาแก้วตาดวงใจทั้งสองของท่านบ้างหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยเห็นดังนั้นก็จงใจกล่าว “ผานกกระเรียนแห่งนี้แม้จะไม่มีสัตว์ร้าย แต่เด็ก ๆ ยังเล็กนัก เล่นอยู่ริมผา หากพลาดตกลงไป เช่นนั้นก็…”“เจ้าแช่งลูกข้ารึ?”ท่านหญิงชิงเฉิงมองหลงเพ่ยเพ่ยอย่างโกรธเคือง ด่าว่า “หลงเพ่ยเพ่ย เจ้าอายุยังน้อย เหตุใดจึงทำตัวเหลวไหลเช่นนี้ คบหากับเย่ห
“เรื่องคู่ครองของข้ารึ?”หลงเพ่ยเพ่ยชะงักไปครู่หนึ่ง นางยังมิได้พูดคุยเรื่องแต่งงานเลย เหตุใดจึงเกี่ยวข้องกับเรื่องคู่ครองของตนได้เล่า“นี่เป็นเพียงข้ออ้าง หลอกพวกนางไปก่อน แล้วค่อยพูดเรื่องสำคัญกับเสด็จย่าของท่าน!”เย่หรงยิ้มกล่าว “อย่างไรเสีย เรื่องนี้ค่อยอธิบายให้เสด็จย่าของท่านเข้าใจทีหลังก็ได้!”ขณะพูดคุยกัน ทั้งสองก็มาถึงศาลาพักร้อนแล้วท่านหญิงชิงเฉิงที่อยู่ในศาลาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยกับเย่หรงตามมาถึงที่นี่ ก็พลันนึกถึงคำกำชับของชายาเจ้าแห่งทะเลนางรีบชิงพูดก่อน “ท่านหญิงฉางเล่อก็มาด้วยรึ อ้าว นี่พาคุณชายมาด้วย!”“คุณชายผู้นี้หน้ามิคุ้นเลย เมื่อก่อนมิเคยเห็น เป็นคุณชายจากตระกูลใดกัน?”เย่หรงเห็นใบหน้างดงามของท่านหญิงชิงเฉิงแสดงท่าทีดูแคลนก็รู้ว่าอันที่จริงนางรู้ว่าตนเป็นใครเพียงแต่เหมือนกับพวกคนหัวสูงในเมืองหลวงแดนเทพ นางก็ดูถูกตนที่เป็นบุตรชายที่มิได้เรื่องของตระกูลเย่เช่นกันเสด็จย่าของหลงเพ่ยเพ่ยยังคงดูสดใสร่าเริง อายุหกสิบกว่าปีแล้วแต่ใบหน้ายังคงเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล แทบจะไม่มีริ้วรอยเลยฮองเฮาได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็มองมาอย่างสงสัย พินิจพิจารณาเย่หรง แล้วกล่าวพล
สิ่งที่เย่หรงคิด หลงเพ่ยเพ่ยก็คิดถึงเช่นกัน นางกล่าวกับเย่หรงอย่างขัดแย้งในใจ“เจ้าคิดจะบอกเรื่องที่เฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ให้พี่หญิงอวิ๋นฟังรึ?”“แต่เช่นนี้ก็มิยุติธรรมกับพี่เขยหยวน เขาและพี่หญิงอวิ๋นก็มีลูกชายด้วยกันอีกคนแล้ว หากบอกพี่หญิงอวิ๋นว่าเฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ จะเป็นการทำลายครอบครัวของพวกเขาเสียเปล่า!”“ข้ามิชอบที่ชายาเจ้าแห่งทะเลทำกับเฉาฮุยเช่นนี้ แต่พี่เขยหยวนและหลานชายตัวน้อยของข้าเป็นผู้บริสุทธิ์!”“อีกอย่าง พี่เขยหยวนก็ดีต่อพี่หญิงอวิ๋นมาก ก่อนหน้านี้ข้ายังอิจฉาพี่หญิงอวิ๋นที่ได้ลงเอยกับคนที่ดี!”เย่หรงยิ้มเย็นชา “เช่นนั้นยุติธรรมกับเฉาฮุยแล้วหรือ? เขายังมีบิดามารดาที่ต้องกตัญญูเลี้ยงดู ท่านหญิงอวิ๋นมิช่วยเขาออกมา แล้วจะมีใครช่วยเขาได้อีก?”“ชั่วชีวิตของเขาจะต้องอยู่ในคุกน้ำไปตลอดหรือ? นี่มันโหดร้ายยิ่งกว่าการฆ่าเขาทิ้งเสียอีก!”หลงเพ่ยเพ่ยพูดมิออกเดิมทีเฉาฮุยมีอนาคตที่สดใส เพียงเพราะรักใคร่กับท่านหญิงอวิ๋น ถึงต้องตกอยู่ในชะตากรรมอันน่าเศร้าเช่นนี้มิอาจกตัญญูเลี้ยงดูบิดามารดาได้ บุตรชายก็มากลายเป็นของผู้อื่น การที่เขาสามารถทนอยู่ต่อไปในคุกน้ำได้ คาดว่าคงเพราะยังมี