.
ปาร์คขับรถเข้ามาจอดในที่จอดรถประจำตำแหน่ง เพียงแค่รถแล่นเข้ามาทุกคนก็มองเป็นตาเดียว พอชายหนุ่มลงจากรถสาวๆ ที่ทำงานในโรงงานต่างก็พากันกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่โต แต่พอใบหลิวเดินลงมาจากรถเสียงกรี๊ดก็เงียบลงกลายเป็นเสียงซุบซิบแท
น ทุกสายตาจ้องมองมายังเธอที่ยืนข้างทายาทโรงงานน้ำมันสุดหล่อด้วยความสงสัย ใบหลิวไม่ค่อยชินกับเหตุการณ์เหล่านี้เท่าไหร่นัก แต่เธอเก่งเรื่องการเมินคนอยู่แล้ว เธอจึงเก๊กหน้าไม่สนใจมันซะก็สิ้นเรื่อง
"ตามพี่มา...อ้อ แล้วอยู่ที่นี่ต้องเรียกพี่ว่าคุณชรัน"
"คุณชรัน? คือใครล่ะคะ? พี่ชื่อปาร์ค ก็ต้องเรียกคุณปาร์คสิ"
"ชรันคือชื่อจริงพี่"
"ไม่บอกนามสกุลด้วยเลยล่ะคะ จะได้เรียกให้เต็มยศเลย"
"ต่อปากต่อคำจริงๆ"
ปาร์คส่ายหน้าก่อนจะเดินนำเธอเข้าไปที่ตึกบริหาร ใบหลิวก็รีบเดินตามเข้าไปเพราะกลัวจะหลง โรงงานกว้างขวางขนาดนี้ถ้าหลงคงได้หาทางออกเป็นวันแน่ๆ ปาร์คนำเธอมายังหน้าห้องฝ่ายบุคคลพร้อมกับบอกให้เธอรออยู่หน้าห้อง ส่วนเขาเดินเข้าไปคุยกับหัวหน้าฝ่ายบุคคลครู่หนึ่งก็เดินออกมา
"เดี๋ยวตามคุณเขมไปนะ เขาจะบอกว่าเธอต้องทำอะไร"
"อ้าว แล้วพี่ปาร์คจะไปไหน"
"บอกแล้วใช่ไหมว่าให้เรียกว่าอะไร"
"ก็มันไม่ชินอ่ะ"
"ถ้ามาทำงานไม่ชินก็ต้องชิน"
"ค่า คุณ ชรัน"
ใบหลิวทำหน้าล้อเลียนชายหนุ่ม ปาร์คถอนหายใจก่อนจะเดินหายขึ้นลิฟต์ไป ไม่นานนักผู้หญิงหน้าตาสุดเฉี่ยวเจ้าของดวงตาคมหุ่นเพรียวสวยก็ได้เดินเข้ามาหาเธอ ใบหลิวคิดในใจว่าที่นี่เขารับคนที่หน้าตาและหุ่นหรืออย่างไร ถึงได้มีแต่คนสวยๆ
"สวัสดีค่ะน้องลัลล์ลลิต พี่ชื่อเขมนะคะเป็นหัวหน้าฝ่ายบุคคล"
"สวัสดีค่ะ หนูชื่อใบหลิว เรียกใบก็ได้ค่ะ"
"อ้อค่ะ พี่เห็นเอกสารประวัติของน้อง....อืม...จบมหาวิทยาลัยดัง แต่เกรดเฉลี่ย...."
"เข้าใจค่ะ ไม่รับเข้าทำงานก็ได้นะคะใบไม่ติด"
"คงไม่ได้หรอกค่ะ เพราะยังไงคุณชรันก็เป็นคนฝากมา"
"......"
ใบหลิวไม่ตอบอะไรเพราะมองดูสายตาของหัวหน้าฝ่ายบุคคลก็พอจะรู้ได้ว่าเธอคิดว่าใบหลิวเป็นเด็กเส้น แถมสายตายังดูเหมือนดูถูกดูแคลนเธอมากจนใบหลิวเองก็ไม่ได้ชอบใจเท่าไหร่ เพราะเธอก็ไม่ชอบให้ใครดูถูกอยู่แล้ว
"ว่าแต่น้องใบรู้ใช่ไหมคะ? ว่าคุณชรันมีแฟนอยู่แล้ว?"
"คะ?"
ใบหลิวนึกถึงเหตุการณ์เมื่อเช้าที่เธอพึ่งตื่นก็คลับคล้ายคลับคลาว่ามีผู้หญิงสวยคนหนึ่งมาที่บ้านอยู่กับพี่ๆ แต่แค่ตอนนั้นเธอไม่ได้สนใจ นั่นคงจะเป็นแฟนของปาร์คเพราะเธอเห็นอยู่ข้างๆ กัน
"อ้อค่ะ.."
"รู้ทั้งรู้...เฮ้อ...เด็กสมัยนี้หาทางลัดง่ายจริง"
เขมพูดเบาๆ เหมือนคล้ายจะพูดกับตัวเองแต่มันก็ดังพอที่จะทำให้ใบหลิวได้ยิน เขมเดินเธอไปที่แผนกทำความสะอาดก่อนจะเข้าไปแนะนำเธอให้คนในนั้นรู้จัก
"เขมฝากน้องใบหลิวหน่อยนะคะ มาทำงานวันนี้เป็นวันแรก คุณชรันให้ทำความสะอาดประจำชั้นบริหาร"
"ทำไมคุณชรันถึงต้องลงทุนสนใจการทำงานของแม่บ้านเองล่ะเนี่ย"
หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งพูดขึ้น เพราะปกติแล้วระดับพวกบริหารไม่มาสนใจแผนกแม่บ้านเล็กๆ แบบนี้แน่ๆ แต่ใบหลิวนี่สิอึ้งกว่า นึกว่าจะให้เธอเข้ามาทำเอกสารหรืออะไรก็ได้ แต่ดันให้เธอเข้ามาทำเป็นแม่บ้านทำความสะอาด กลับบ้านไปคงต้องได้คุยกันอีกยาว
"คุณชรันฝากมาน่ะค่ะ"
"อ๋อ เด็กเลี้ยงคุณชรันล่ะสิเธอน่ะ"
"เด็กเลี้ยง?"
หลังจากที่เขมได้พูดบอกทุกคน แม่บ้านหลายคนก็แบะปากใส่ใบหลิวเป็นแถบ พร้อมกับโยนอุปกรณ์ทำความสะอาดให้เธอโดยไม่สนใจ พวกเขาทำแบบนั้นกับใบหลิวทั้งๆที่อยู่ต่อหน้าฝ่ายบุคคลแท้ๆ แต่เขมกลับไม่ได้สนใจว่าใบหลิวจะเป็นยังไง
"ไปเปลี่ยนสิคะ เดี๋ยวฉันจะพาขึ้นไปชั้นบนที่เธอต้องรับผิดชอบ"
"......"
ใบหลิวไม่ตอบอะไรนอกจากเดินไปหยิบชุดที่แขวนเรียงกันไว้ เป็นเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีฟ้าธรรมดาและกางเกงขายาวสีเดียวกับเสื้อ ยังมีผ้าสามเหลี่ยมคาดผมอีกต่างหาก พอเธอเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยก็เดินไปหยิบอุปกรณ์ที่ถูกโยนไว้โดยไม่พูดอะไร ใบหลิวเก็บอารมณ์สุมในอกเตรียมจะระเบิดตลอดเวลา แต่ตอนนี้เธอแค่รอเวลาให้เลิกงานเท่านั้น
"เอาล่ะ วันนี้ถือว่ามาฝึกงานวันแรก น้องได้จะเลิกงาน5โมงเย็นเหมือนคนอื่นๆ ถ้าพรุ่งนี้มาสายพี่ไม่ปล่อยไว้แน่... ตามฉันมา"
ใบหลิวไม่ได้ตอบเหมือนเดิมแต่กลับเดินตามไปอย่างว่าง่าย เขมพาเธอขึ้นลิฟต์มายังชั้นบนสุดของตึก เพราะเป็นตึกที่ตั้งอยู่ในโรงงานจึงไม่สูงมากนัก มีเพียง8ชั้นเท่านั้น เมื่อมาถึงเธอก็พาใบหลิวเข้าไปห้องที่เขียนว่าชรัน เป็นภาษาอังกฤษ เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็เห็นว่าปาร์คกำลังนั่งทำงานอยู่
"มาแล้วหรอ"
"ค่ะ คุณชรัน"
ปาร์คพูดทั้งๆที่ยังไม่ได้เงยหน้าจากเอกสารเสียด้วยซ้ำ แต่คนที่ตอบรับเสียงหวานคือเขมที่ยืนอยู่ต่อหน้าของเขา รอยยิ้มหวานปรากฏบนใบหน้าสวยคมของหัวหน้าฝ่ายบุคคล ใบหลิวมองดูก็รู้ว่าผู้หญิงสวยคมนี้คลั่งไคล้ปาร์คมากแค่ไหน
"ถ้าไม่มีอะไรแล้ว คุณก็ไปทำงานเถอะ ขอบใจมาก"
"เอ่อ...ค่ะ คุณชรัน"
ปาร์คเงยหน้าขึ้นมาพูดกับเขมก่อนจะปรายตามองใบหลิวเล็กน้อย เขามองดูเสื้อผ้าที่ใบหลิวใส่ก็อดนึกขำไม่ได้ ไหนจะสีหน้าที่ไม่พอใจอยู่มากตอนมองเขาอีก พอเขมออกไปก็เหลือแต่ใบหลิวที่ยืนจ้องหน้าเขาอย่างเอาเรื่อง
"มีอะไรหรือเปล่า คุณลัลล์ลลิต"
"....!!"
ปาร์คมองใบหลิวที่ตกใจไม่น้อยที่เขาเรียกเธอแบบนั้น เขายกยิ้มเมื่อเห็นปฏิกิริยาของใบหลิว ก่อนจะสงวนท่าทางและมองเธออีกครั้งพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งเพื่อย้ำคำถามของเขาก่อนหน้า
"เปล่า...ค่ะ"
"งั้นก็ไปทำงานของคุณสิ"
"ค่ะ"
ใบหลิวตอบเพียงเท่านั้นก่อนจะมืออุปกรณ์ทำความสะอาดออกจากห้องไป ปาร์คมองตามพร้อมยกยิ้มก่อนจะหันกลับไปทำงานของเขาต่อ ใบหลิวเดินออกมาก็เริ่มกวาดห้องประชุมและตามทางเดินและโต๊ะคอม ก่อนจะจัดการทำความสะอาดที่โต๊ะชงกาแฟของพนักงาน ในขณะที่ทำความสะอาดไปก็ได้ยินเสียงซุบซิบนินทากันไป แต่เธอก็ไม่ได้มีท่าทีที่จะโต้ตอบ
"นี่ไงเด็กเลี้ยงของคุณชรัน"
"ใช่หรอเธอ? ฉันอยากเป็นบ้างจัง"
"เห็นว่าการศึกษาห่วย แต่ยังได้เข้ามาทำงาน"
"แหม ก็มาปรนนิบัติถถึงที่ทำงาน"
"แต่คุณชรันมีแฟนแล้วนะแก แบบนี้คุณบีบีจะรู้ไหม"
"ดูเด็กอยู่เลย น่าจะเด็กจบใหม่นะ หาเงินง่ายเนอะ เอาตัวเข้าแลก"
"ไปทักทายหน่อยดีกว่าไหมแก"
ใบหลิวทำหูทวนลมกับคำพูดไร้สาระเหล่านั้น ก่อนจะก้มหน้าก้มตาทำความสะอาดต่อไป แต่ก็มีหญิงสาวสามสี่คนเดินมาชงกาแฟ ก่อนจะเทกาแฟลงบนพื้นอย่างช้าๆ ใบหลิวคิดในใจว่า นึกว่ามีแต่ในละครเสียอีก
"อุ้ย! พี่ขอโทษนะคะน้อง"
"........."
ใบหลิวมองพื้นที่เลอะกาแฟแล้วหันไปมองหน้าคนที่เทมันลงไป ยังไม่ทันไรผู้หญิงอีกคนก็หยิบถังขยะมาเทลงบนพื้น ทำให้เศษขยะกระจัดกระจายเต็มไปหมด
"ขอโทษนะคะ พอดีพี่ไม่ทันระวัง"
"เพื่ออะไรเนี่ย?"
"ก็เหมาะกับน้องดีนะคะ ขยะสกปรกๆ เหมาะกับคนจิตใจสกปรก"
"เล่นละครกันอยู่หรอคะ?"
"ทำไมน้องถึงว่าพวกพี่แบบนั้นล่ะคะ?"
"ก็เห็นแสดง"
"อย่าคิดว่าเป็นเด็กคุณชรันแล้วจะมากล่าวหาพวกพี่ได้นะคะน้อง"
"เป็นน้องสาว เข้าใจอะไรผิดรึเปล่า"
"พี่น้องท้องชนกันหรอคะ? กล้าพูดเนอะ...น้องสาว"
ใบหลิวยืนเท้าสะเอวต่อล้อต่อเถียงกับพนักงานหญิง ที่กล่าวหาเธออย่างไม่มีที่มาที่ไปก่อนจะก้มลงไปรวบพวกกระดาษและซองกาแฟที่ถูกเทมาจากถังขยะลงพื้นเมื่อครู่ขึ้นมาโปรยใส่พวกสาวๆ ทั้งสี่คนพร้อมกับยกยิ้ม
"กรี๊ดดดด นังเด็กบ้านี่!"
"โดนแค่นี้ทำเป็นกรี๊ด"
เสียงกรี๊ดกร๊าดโวยวายเรียกคนที่นั่งทำงานอยู่ให้หันมาสนใจ ทุกคนเริ่มมามุงดูเหตุการณ์วุ่นวายที่เกิดขึ้น หนึ่งในสี่สาวก็เดินเข้ามากระชากผมของใบหลิวและใบหลิวเองก็กระชากกลับพร้อมกับเสียงโวยวายและด่ากันลั่น
"แกมันสมควรโดนแล้ว!! คิดจะมาชูคอเป็นเมียน้อยคุณชรันก็ต้องโดนสั่งสอนซะบ้าง"
"คุณก็ดูเหมาะกับขยะดีนี่ค่ะ ในสมองมีแต่คิดเรื่องสกปรกๆ เต็มไปหมด!"
"กรี๊ดดดด แกดึงผมฉัน"
"คุณดึงผมฉันก่อน!"
"อย่างแกต้องโดนตบสักฉาด"
หญิงสาวอีกคนเดินเข้ามากระชากไหล่เธอก่อนจะประทับฝ่ามือบนใบหน้าสวย แต่มีหรือที่คนอย่างใบหลิวจะไม่ตอบโต้ เธอตบกลับทันที สาวทั้งห้าคนตะลุมบอนกันอยู่พักใหญ่
"นังเด็กขายตัว! ชอบแย่งแฟนชาวบ้าน! กรี๊ดดดด"
"ไม่ได้แย่งใครโว้ย! ปล่อยหัวฉันนะ!"
"คุณชรันไม่ได้รักแกหรอก เขามีคุณบีบีอยู่แล้วอย่าได้ใจไปหน่อยเลย!!"
"อิจฉาฉันว่างั้น? พี่ปาร์คไม่มองพวกเธอล่ะสิ ทั้งที่อยากได้จนตัวสั่น!"
"นังเด็กนี่!!"
"หยุด!!"
.
.."ทำไมพี่ปาร์คต้องให้หลิวเอาลูกไปฝากแม่ละคะ"ใบหลิวเอ่ยถามขึ้นหลังจากฝากลูกชายหัวแก้วหัวแหวนไว้กับผู้เป็นแม่ตามที่ปาร์คขอร้องให้เอาไปฝากไว้สักวัน ทั้งที่ลูกชายของเธอพึ่งจะสี่ขวบ เธอก็ยิ่งคิดหนักและคิดถึงเป็นธรรมดาจนใบหน้าสวยสลดอย่างเห็นได้ชัด ปาร์คปรายตามองใบหลิวครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้น"แค่สองสามวันเอง...พี่อยากมีเวลาอยู่กับหลิวบ้าง""ปกติก็อยู่ด้วยกันทุกวันนี้คะ ไม่เห็นต้องแยกลูกไปเลย""พี่อยากอยู่กับหลิวสองต่อสองบ้าง...เรามัวแต่ทำงานเลี้ยงลูกไม่มีเวลาให้กันเลยนะหลิว"ปาร์คเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าที่ดูจริงจัง ใบหลิวหันมองยังเขาที่กำลังขับรถกลับในเมืองอย่างไม่เข้าใจนัก เพราะเธอคิดว่าก็อยู่ด้วยกันตลอดจะไม่มีเวลาได้ยังไง"เราไม่มีเวลา...หวานกันบ้างเลยแล้วนี่ก็ใกล้จะวันวาเลนไทน์แล้วด้วยพี่เลยอยากจะ...""วาเลนไทน์แล้วไง ไม่ใช่วันครบรอบสักหน่อย"ใบหลิวเอ่ยขัดขึ้นมาใบหน้าดูท่าทางหงุดหงิด ปาร์คหันไปมองยังภรรยาของตนครู่หนึ่งก่อนจะขับรถต่อไปเงียบๆ ภายในหัวคิ
ห้องใบหลิวปาร์คมองร่างหญิงสาวที่นอนหลับอยู่เงียบๆ ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความคิดถึงและห่วงหา มือหนาของเขายังจับมือเธอไว้แน่นโดยที่เธอไม่รู้สึกตัวเหมือนกลัวจะหายไปใบหลิวขยับตัวเล็กน้อย เพราะเธอรู้สึกคลื่นไส้อีกครั้งก่อนจะลุกพรวดขึ้นมาทันที ปาร์ครีบเข้าไปพยุงพร้อมมองเธอด้วยสายตาเป็นห่วง ตอนคุยโทรศัพท์เธอไม่เคยพูดถึงเรื่องแพ้ท้องให้เขาฟังเลยสักครั้ง“พี่ปาร์ค? แม่อนุญาตแล้วหรอคะ?”ปาร์คพยักหน้าพร้อมกับยิ้มบางๆ ตาเรียวมองใบหน้าซีดเซียวของหญิงสาวอันเป็นที่รักอย่างสลด ที่เขาไม่สามารถดูแลหรืออยู่ใกล้ๆ ได้เลยเกือบจะหนึ่งเดือนเต็ม แต่ใบหน้าซีดเซียวนั้นกลับยิ้มให้เขาอย่างดีใจที่ได้เจอกันจนลืมอาการอยากอาเจียนไปเสียหมด เมื่อเห็นเธอทำหน้าแบบนั้นชายหนุ่มจึงคว้าตัวเธอเข้ามากอดไว้แน่นด้วยความคิดถึง ก่อนจะคลายกอดอย่างอ้อยอิ่ง“ลุกไหวไหม? พ่อพี่ใกล้จะมาถึงแล้ว”“คะ? คุณปรเมตต์มาด้วยหรอคะ?”ชายหนุ่มพยักหน้าแทนการตอบคำถามของเธอ ใบหลิวทำหน้างงเล็กน้อยแต่ก็พอเข้าใจได้ เพราะนี่
..วันแล้ววันเล่าที่ปาร์คยังคงทำงานช่วยที่บ้านแม่รวีเกือบเดือนที่เขายังคงไม่ได้เห็นหน้าใบหลิวเลย ได้เพียงแค่พูดคุยผ่านโทรศัพท์ทุกคืนเพียงเท่านั้น แต่ปาร์คก็ยังไม่หนีไปและเฝ้ารอวันที่แม่รวีใจอ่อน ไหนจะปรเมตต์ผู้เป็นพ่อที่คอยโทรมาย้ำเขาตลอดว่าให้อดทนปาร์คทำงานอยู่ด้านล่างของตัวบ้านก็ได้ยินเสียงดังจากด้านบนที่ใบหลิวอยู่ เขาได้ยินกลายๆ ว่าใบหลิวแพ้ท้องหนัก แม่รวีจึงเดินขึ้นไปดูแลบ่อยๆ ชายหนุ่มทำงานไปด้วยก็แอบยิ้มไปด้วย ในใจก็คิดว่าเขากำลังจะเป็นพ่อคนแล้วจริงๆ แม้เขาจะอยากขึ้นไปดูแลเธอด้วยตัวเอง แต่เขาก็ทำได้แค่อดทนเพียงเท่านั้น“ไอ้ปาร์ค!” –บิลลี่“นี่มึงเปลี่ยนจากประธานโรงงานน้ำมันมาเป็นพ่อค้าข้าวแกงแล้วหรอวะ” -กาย“กูละยอมใจมึงจริงๆ” –ออดี้บิลลี่และคนอื่นๆ เดินเข้าบ้านมาพร้อมของฝากของบำรุงมากมาย เพื่อนทั้งสี่คนกอดทักทายกันด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเอาของไปวางไว้ที่โต๊ะกินข้าวตัวใหญ่ใต้ถุนบ้าน“แล้วแม่กูไปไหนละ”“อยู่ข้างบนดูแลหลิวอยู่”“เจ้าใบป่วยหรอ?”“เปล่า หลิวแพ้ท้องหน
..06.00 น.“มาทำไม?”“มาช่วยแม่น่ะครับ”“ไม่จำเป็น ฉันทำของฉันเองได้”ปาร์คเดินเข้ามายืนยิ้มให้กับแม่รวี แต่ก็ถูกปฏิเสธอย่างไม่ไยดี การที่เขามีหน้าที่การงานที่ดีมีฐานะดีไม่ได้ช่วยให้แม่รวียอมยกลูกสาวให้เลยแม้แต่น้อย ปาร์คจึงคิดว่าคงต้องเข้าหาว่าที่แม่ยายด้วยการพิสูจน์ว่าเพื่อใบหลิวแล้วเขาสามารถทำได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะลำบากแค่ไหนก็ตาม“ซื้อแกงหน่อยจ้า”“ครับ เอาแกงอะไรดีครับ?”“ตายแล้ว!!! หล่ออะไรขนาดนี้พ่อคุ๊ณ อย่างกับพระเอกแน่ะ ป้ารวีนี่ลูกเขยหรอ? หล่อจนจะเป็นลม เสียดายป้าเกิดก่อนนานไปหน่อย”“ป้าก็ยังสวยอยู่นะครับ”“แหม พูดแบบนี้เอามันทุกแกงเลยล่ะกัน”ปาร์คพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเอาแกงใส่ถุงแล้วยื่นให้ เขาไม่คิดว่าจะได้ยืนขายแกง แต่มันพอดีที่เขายืนอยู่หน้าบ้าน แต่แม่รวียืนอยู่ไกล เลยเป็นเหตุให้เขาได้ช่วยไปโดยปริยาย หลังจากที่ป้าคนนั้นซื้อไปแล้ว กลับมีคนแห่มาซื้อแกงจนแทบขายไม่ทัน เพราะความหล่อที่ไม่อาจมีใครต้านทานจนไม่เหลียวมองได้ ไม่ว่
..ภายในร้านอาหารบ้านๆ เต็มไปด้วยลูกค้าแน่นไปหมด กิจการกำลังดำเนินไปได้ดีจนทุกคนวิ่งวุ่น ใบหน้าเปื้อนต้อนรับลูกค้าตลอดเวลาอย่างมีความสุข ทำให้หญิงสาวแทบจะน้ำตาคลอ เธอไม่อยากทำลายรอยยิ้มนั้นเลยแม้แต่น้อย ใบหลิวยืนมองผู้เป็นแม่อยู่ไกลๆ แต่ไม่ยอมเข้าไปที่บ้านเสียที ปาร์คเองก็ไม่ได้ว่าอะไร ได้แค่ยืนรอข้างๆ รอให้เธอพร้อมที่จะก้าวเข้าไปกับเขาปาร์คจับมือใบหลิวไว้แน่นเป็นเชิงให้กำลังใจ แต่ถึงอย่างนั้นใบหลิวก็ยังคงทำหน้าเศร้ามาคลาย จากที่ไม่ได้เจอแม่มาหลายเดือน และไม่เคยได้แวะเวียนมาเยี่ยมหา แต่เธอก็ส่งเงินมาให้ตลอดไม่ขาด แต่พอกลับมาเจอกันอีกครั้งก็ไม่รู้ว่าแม่ของตนจะดีใจหรือเสียใจ“เข้าไปกันเถอะ”“ค่ะ..”ใบหลิวตอบปาร์คก่อนจะเดินนำเขาเข้าไปยังร้านอาหารที่เธอกับแม่ช่วยกันสร้างขึ้น ใบหลิวเดินเข้าไปทั้งที่ผู้เป็นแม่ยังไม่เงยหน้าด้วยซ้ำแต่ก็ยังร้องเรียกทักทายเพราะคิดว่าเธอเป็นลูกค้า“เชิญก่อนจ้า...ด้านในว่าง...ไอ้หลิว!!”“แม่”ผู้เป็นแม่ละทิ้งทุกอย่างด้วยความดีใจที่เห็นลูกสาวท
“คนไข้อ่อนเพลีย อาจจะเสี่ยงเป็นภาวะเลือดจาง”“ปกติก็แข็งแรงดีนี่ครับ”“ค่ะ แต่เพราะตั้งครรภ์เลยทำให้เสี่ยง เด็กทารกในท้องต้องใช้เลือดคุณแม่เพื่อสร้างอวัยวะ”“!!!”“กี่เดือนแล้วครับ?”ปรเมตต์ที่นั่งอยู่พร้อมพยุงลากสายน้ำเกลือมาด้วยถามขึ้น ในขณะที่ปาร์คยังคงช็อกค้างอยู่ พยาบาลยิ้มให้ปรเมตก่อนจะส่งใบผลตรวจพร้อมอัลตราซาวท์ให้เขา ปรเมตต์และปาร์คก้มมองดูภาพก้อนกลมๆ ที่มีตัวอ่อนคล้ายลูกอ๊อดอยู่ด้วยความตื่นเต้น“สามสัปดาห์แล้วนะคะ ดูเหมือนคุณแม่จะยังไม่รู้ว่าตัวเองตั้งครรภ์”“ลูกแกไม่ผิดแน่ไอ้ลูกชาย ฮ่าๆๆ”ปรเมตต์เผลอหัวเราะออกมาเมื่อรู้ว่าจะมีหลาน ปาร์คมองผู้เป็นพ่อด้วยรอยยิ้มที่เขาดีใจขนาดนี้ แต่พอปรเมตต์รู้ตัวก็กระแอมเบาๆ แล้วทำหน้าเรียบเฉย“พ่อยอมรับหลิวแล้วใช่ไหม?”“ก็เรื่องมันถึงขนาดนี้ ไม่อยากยอมก็ต้องยอม”“พ่อไม่กลัวหลานโง่แล้วหรอ?”“โง่ก็ส่งไปเรียนโรงเรียนดีๆ สิฟ่ะ ยากอะไร”ปาร์คหัวเราะกับความดื้อดึงของพ่อ แต่ตอนนี้เขาก็ยอม