วันรุ่งขึ้น
ติ๊ติด ติ๊ติด ติ๊ติด
นิราตื่นขึ้นมาคว้านมือหานาฬิกาปลุก ที่แผดเสียงดังอยู่หัวเตียง ก่อนจะเพ่งสายตาที่เหนื่อยอ่อนไปดูเวลาในหน้าปัด
“อร้าย สายแล้ว งานวันแรกของชั้น!”
นิราแผดเสียงร้องดังลั่นห้องเมื่อมองนาฬิกา ตอนนี้มันบอกเวลา 07.30 น. แล้ว อีกครึ่งชั่วโมงเธอจะต้องไปอยู่ที่ทำงาน มันจะทันได้ไงกับเวลาแค่ครึ่งชั่วโมง แค่อาบน้ำก็เกินแล้ว
“อ๊ะ อา เจ็บ” นิราที่ขยับลุกจากเตียงเพื่อจะไปอาบน้ำทรุดตัวลงนั่งบนพื้นห้องทันทีที่เธอทำแบบนั้น นี่เธอเมาแล้วไปลากใครเข้าห้องด้วย ร่างกายถึงได้มีสภาพแบบนี้
“บ้าเอ้ย ทำบ้าอะไรลงไปเนี้ย”
นิราไม่มีเวลาคิดเรื่องเมื่อคืน ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอบ้าง เธอกำลังจะพลาดงานสำคัญ นิราลุกขึ้นไปอาบน้ำอย่างรวดเร็ว เจ็บแค่ไหนก็ต้องอดทน งานนั่นสำคัญยิ่งกว่าชีวิต เพราะมันคือรายรับเดียวที่เธอจะใช้จ่ายในสิ้นเดือนนี้
“ชุดอะไรวะเนี้ย”
นิราออกมาจากห้องน้ำ ค้นหาชุดที่เจนจิราเลือกให้เมื่อวาน มันใช้ไม่ได้เลยสักชุด เธอต้องการชุดที่มันสามารถปกปิดรอยแดงเป็นจ้ำๆ ที่เธอเห็นตามตัวตอนอาบน้ำ
“ไปสภาพเดิมก็ได้วะ”
ตอนนี้เหลือเวลาแค่ 5 นาที นิราจึงเดินไปหยิบเสื้อเชิ้ตสีขาวในตู้ กับกางเกงขายาวมาใส่ ผมสีดำปล่อยมันให้สยายไปเต็มแผ่นหลัง เพื่อปิดรอยแดงที่คอ ส่วนหน้าไม่แต่งมันแล้ว เวลาหมดแล้ว เธอไปสายตั้งแต่ทำงานวันแรก
“พี่วิน ไปซอย 57 ด่วนเลยค่ะ”
นิราเดินมาโบกวินมอเตอร์ไซค์หน้าคอนโด ก่อนจะก้าวขาขึ้นรถมอเตอร์ไซด์ด้วยความลำบาก เพราะเจ็บบริเวณจุดอ่อนไหวที่มันบวมเจ่อ เธอรู้สึกว่ามันยังมีเลือดไหลซึม เธอจึงใส่แผ่นอนามัยแบบเดลี่ไว้ด้วย นี่เธอโดนอะไรไปเนี้ยทำไมมันระบมได้ขนาดนี้
“พี่วิน เร็วค่ะ หนูสายแล้ว”
เร่งวินมอเตอร์ไซด์ ทั้งที่พี่เขาขับเกือบ 80ไปแล้ว ในเมืองหลวงแบบนี้ ต่อให้เร่งแค่ไหนมันก็มีไฟแดง และที่สำคัญคือรถติดมากในเวลาเร่งด่วนแบบนี้
“น้อง พี่เป็นวินนะ ไม่ใช่นักบิน จะได้เหาะได้ แหม๋ รีบขนาดนี้ไม่มาตั้งแต่เมื่อวานละ”
วินมอเตอร์ไซด์หันหน้ามาแขวะ ตอนจอดรถติดไฟแดง ก่อนจะขับต่อเมื่อสัญญาณไฟขึ้นสีเขียว
“พี่วินอะ” นิราได้แต่นั่งเงียบ แม้ในใจจะรู้สึกกังวล ซอยที่เธออยู่กับที่ทำงาน มันไกลกันทีเดียว คงต้องทำใจน้อมรับคำด่าตั้งแต่วันแรกแล้วละนิราเอ้ย
@บริษัทนำเข้าและส่งออก
เสือที่หนีออกมาจากคอนโดนิรา ตอนตีห้า เข้ามานั่งทำงานด้วยอาการง่วงหง่าวหาวนอน เมื่อคืนกว่าเขาจะข่มใจได้ ก็เกือบตีสี่ แทบจะไม่ได้นอนเลย เพราะยัยนิราที่หลับอยู่ข้างกาย
“พี่เสือ เลขาคนใหม่ยังไม่มาเหรอครับ ฝ่ายบุคคลแจ้งแล้วใช่ไหม ว่าเมื่อวานผมรับเลขามาให้พี่แล้ว” นรสิงค์ที่รอประชุม เดินเข้าห้องมาถามพี่ชายที่นั่งทำหน้าง่วงอยู่ในห้องทำงานประจำตำแหน่ง
“เหรอ ยังไม่เห็นใครมาเลย นี่ถ้ามาสายเกินชั่วโมงไม่ต้องให้เข้ามานะ ไม่รับ” เสือบอกอย่างหงุดหงิด ก่อนจะหลับตาลงเอนหลังไปกับเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่ พลางคิดถึงร่างกายที่เขานอนกอดเมื่อคืน
“อ่า หรือคุณนิราเกิดเปลี่ยนใจ” นรสิงค์พูดแค่นั้น ก่อนจะเดินทำหน้าไม่สบายใจออกไป เสือเลิกคิ้วขึ้นข้างนึง เลขาใหม่ชื่อเหมือนยัยคนเมื่อคืนเลยแฮะ
“คนชื่อนิรามีเยอะแยะว่ะ!”
เสือพูดกับตัวเอง ก่อนจะหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน เขายังไม่อิ่มจากยัยนั่นเลย รู้สึกเสียดายชะมัด ถ้าไม่ติดว่าต้องเข้ามาเคลียร์งาน ตอนนี้เขาคงยังนอนกอดก่ายร่างนุ่มนิ่มนั้นอยู่
@ชั้นหนึ่งของบริษัทนำเข้าและส่งออก
นิราเมื่อมาถึงบริษัท ก็รีบเดินกึ่งวิ่งมากดลิฟต์เพื่อใช้มันโดยสารขึ้นไปชั้นบนสุด ตอนนี้เวลา 08.49 น. ไปแล้ว เธอต้องโดนเจ้านายใหม่เพ่งเล็งแน่ๆ ที่มาสายตั้งแต่วันแรกแบบนี้
“คุณเจน นิรายังมีโอกาศไหมคะ” นิราเดินมาถึงโต๊ะก็เห็นเจนจิรานั่งทำงานอยู่แล้ว เจนจิราทำแค่เพียงยิ้มให้นิรานิดๆ ก่อนจะมองสำรวจนิราอีกครั้ง
“ไม่ผ่านค่ะ คุณไม่ยอมใส่ชุดที่เจนเลือก แต่ตอนนี้เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน ท่านประธานกำลังรออยู่ในห้องค่ะ รีบไปเถอะค่ะเพราะเหลืออีกแค่5นาที ก่อนจะหมดโอกาศที่ท่านให้ไว้” เจนจิราบอกพลางชี้ไปที่ห้องขนาดใหญ่ที่อยู่ห่างออกไปนิดเดียว
นิรารีบวิ่งมาที่ห้องดังกล่าว ก่อนจะจัดชุดของตัวเองอีกครั้ง เสร็จแล้วก็รวบรวมความกล้า ยกมือเคาะประตูเบาๆ
ก๊อก ๆ ๆ
“เข้ามา”
เสียงทรงอำนาจดังออกมาจากในห้อง นิราจึงเปิดประตูเข้าไปแล้วปิดลงอย่างเบามือ ก้มหน้าลงอย่างนอบน้อม ไม่ได้มองไปทางโต๊ะทำงาน ที่มีใครสักคนนั่งหันหลังอยู่สักนิด
“สวัสดีค่ะ ดิฉันเป็นเลขาคนใหม่ที่เพิ่งเข้ามาวันแรกค่ะ” เธอพูดเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ไม่กล้าพูดอะไรมากเพราะกลัว
“หึ ถ้าช้ากว่านี้ 1 นาทีผมไม่เอามาใช้งานหรอกนะ วันแรกก็สายขนาดนี้ แล้วงานสำคัญของผมจะไม่พังหมดเหรอ”
เสือยังคงนั่งหันหลังให้คนที่เข้ามาในห้อง เขาไม่ชอบคนไม่ตรงต่อเวลา คงจะมัวแต่นอนกกกอดผัวอยู่ละสิ ถึงได้มาสาย คนสมัยนี้ก็แบบนี้ ไม่ค่อยตรงต่อเวลา
“ดิฉันขอโทษค่ะ” นิราขอโทษเสียงเบา
“ผมจะสัมภาษณ์ใหม่ ถ้าไม่ผ่านก็ไม่ได้ทำ”
เสือพูดก่อนจะหันเก้าอี้กลับมา เป็นจังหวะเดียวกันกับที่นิราเงยหน้าขึ้นมาพอดี เพราะรู้สึกไม่พอใจกับคำพูดเจ้านายคนใหม่
“แต่คุณนรสิงค์บอกว่ารับฉันทำงานแล้วนะคะ”
นิราเถียงกลับ เธอถูกนรสิงค์นัดเข้าทำงานแล้วนะ แม้เธอจะมาสายหนึ่งชั่วโมงในวันแรกก็ตามเถอะ เธอควรได้ทำต่อสิ ไม่ใช่เริ่มใหม่หมดแบบนี้
“แต่ผมเป็นคนจ่ายเงินค่าจ้าง”
เสือมองผู้หญิงตรงหน้าที่ให้ความรู้สึกแปลกตามาก เขาจำหน้าเธอได้ แม้ตอนนี้หน้าเธอจะไร้เครื่องสำอางบนใบหน้า แตกต่างจากเมื่อคืน แต่ความสวยของใบหน้านั้นยังคงฉายชัด เขามั่นใจว่าเธอคือคนที่เขาคิดถึงเมื่อครู่แน่ๆ
“ฉัน…” นิราพูดอะไรไม่ออกเลย เธอจะทำยังไงดี ถ้าเขาสัมภาษณ์เองเธอจะได้งานไหม? คนตรงหน้าดูไม่ได้ใจดีเลยสักนิด
“ให้เวลาเตรียมตัวห้านาที แล้วมาเริ่มสัมภาษณ์กัน”
เสือพูดอย่างหงุดหงิด ตอนนี้เขาต้องโฟกัสเรื่องงาน มากกว่าเรื่องที่เธอทำเหมือนว่าจำเรื่องเมื่อคืนไม่ได้
“ฉันพร้อมแล้วค่ะ ไม่ต้องรอถึงห้านาทีหรอกตอนนี้เลย” เมื่อเธอไม่มีทางเลือก เธอก็ต้องพุ่งชนกับเขาตรงๆ นี่ละ
“ดี! หวังว่าไอ้สิงค์คงไม่เอาเด็กบ้านนอกมาย้อมแมวเป็นเลขาผมหรอกนะ”
เสือบอกออกไป ไม่คิดว่านั่นจะเป็นการดูถูกคนตรงหน้าสักนิด ดูยังไงเธอก็แตกต่างจากเมื่อคืนลิบลับ ผิวคล้ำที่โผล่พ้นเสื้อเชิ้ตสีขาว ไหนจะใบหน้าสดที่หมองคล้ำนั่นอีก ทาครีมบ้างไหมเนี้ย หรือยัยนี่จะเป็นฝาแฝดกับคนเมื่อคืนวะ
“เลือกเอา ว่าจะยอมดีๆ หรือต้องให้ฉันบีบจนเธอจนมุม” “คุณมันเอาแต่ใจ” “รู้แล้วก็ไปเตรียมตัวซะ!” “ไม่แอล ฉันไม่ยอม!” “ชอบความท้าทายเหรอน้ำขิง ได้! งั้นฉันจะทำให้บริษัททัวร์ของเธอหายไปตั้งแต่วันนี้เลย” ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงอย่างรวดเร็ว หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก แต่ยังไม่มีคนรับสาย มือเรียวสวยก็ปัดมันอย่างแรงจนร่วงหล่นลงบนพื้น “น้ำขิง!” มือใหญ่ดึงรั้งใบหน้าสวยเข้าหาอย่างรวดเร็ว บดริมฝีปากลงไปแรงๆ เป็นการลงโทษที่เธอทำให้เขาโกรธ ลิ้นร้อนกดแทรกกลีบปากบางเข้าไปอย่างแรง กวาดต้อนลิ้นเล็กจนเธอหนีไปไหนไม่พ้น “อื้อ! อืม” จูบรุนแรงทำให้รู้สึกหัวหมุน ร่างกายตอบสนองต่อจูบรุนแรงนั้นด้วยการเบียดการเข้าหาร่างแกร่ง มือไร้เรี่ยวแรงดึงอกเสื้อไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยว ทำไมเธอต้องแพ้ให้เขาอยู่ตลอด ไม่ชอบใจตัวเองเลย “อืม” การตอบสนองอย่างไม่เต็มใจทำให้ริมฝีปากหนากระตุกยิ้ม น้ำขิงมุมนี้ก็น่ารักดี ใบหน้าเคลิบเคลิ้มขัดกับดวงตาแข็งกร้าวของเธอช่างน่ามอง มือหนาเปลี่ยนจากจับ เป็นลูบไล้ลงต่ำ เมื่อความต้องการเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น “มะ ไม่เอานะ กลัว!” ร่างเล็กสั่นสะท้านเบาๆ
รถคันหรูขับเข้ามาในคอนโด เปิดประตูห้องไปเพื่อพบกับความว่างเปล่า เดินไปนั่งลงบนเตียงแผ่วเบา ลูบไล้ฝ่ามือทั่วผ้าปูที่นอนสีน้ำเงินเข้ม สีโปรดของน้ำขิง โทรศัพท์เครื่องหรูถูกหยิบขึ้นมากดต่อสายหาเพื่อน ริไม่นานปลายสายก็กดรับ [มีอะไร?] “ถามอะไรอย่างหนึ่งได้ไหม” [ได้ดิ] “ความรักคืออะไรวะ” [เห้ย! ทำไมถามแบบนี้วะ] เสียงอคินดูตกใจมาก เขาเองก็ตกใจ เคยคิดว่าตัวเองพอจะรู้จักความรักมาบ้าง แต่วันนี้กลับรู้สึกว่าไม่รู้จักมัน “ไม่รู้สิ แค่อยากรู้ว่าสำหรับคนอื่นๆ มันจะรู้สึกเหมือนกันไหม” [อืม ไม่รู้วะแอล ฉันเองก็เพิ่งจะรู้จักความรักจริงๆ ก็ตอนที่แต่งงานนี่แหละ] “เหอะ! แล้วตอนนี้มึงรู้สึกยังไงวะ” [ก็ หวงมั้ง แค่เห็นหน้าเมียกูก็รู้สึกหวงมากๆ บางทีก็ห่วง เวลาไม่เจอก็คิดถึง ประมาณนั้น] “เหรอ ไม่ใช่คิดถึงเพราะอยากมีอะไรด้วยใช่ไหม?” [ไม่ใช่ดิเห้ย คิดถึงเพราะคิดถึง ส่วนเรื่องนั้นมันเรื่องรอง] “งั้นเหรอ ขอบใจนะอคิน” [แกเป็นอะไรไหมวะแอล] “เปล่า แค่นี้แหละ ไม่กวนแล้ว” เพราะเสียงงัวเงียของภรรยาเพื่อนดังให้ได้ยิน เลยรู้สึกเกรงใจที่โทรไปรบกวนมันดึกดื่น หลังจากกดวา
“มีไร?” “ดื่มด้วยกันก่อนสิ” “ไม่! จะกลับแล้ว” พยายามกระชากกระเป๋าตัวเองออกมา แต่มือนั้นกลับกระชากมันกลับอย่างแรง จนเธอเสียหลักเพราะรองเท้าส้นสูงที่ใส่ ถลาเข้าหาร่างผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงหน้า พรึ่บ! “ก็บอกว่าอย่าเพิ่งไง ยังไม่รู้ชื่อเลย” “ปล่อยนะ” ดิ้นรนออกจากมือที่เลื่อนลงจับสะโพก โคตรทุเรศเลย ฉวยโอกาสตอนเธอล้ม จับสะโพกเธอไว้ ไม่จับเปล่ายังขย้ำไปมาด้วย ฮึ่ย! อย่าให้หลุดไปได้นะเว้ย! หมับ! แรงดึงมหาศาลทำให้ร่างทั้งร่างของน้ำขิงเป็นอิสระ มองคนที่มาช่วยด้วยการรวบเธอมากอดไว้ไม่วางตา เขามาช่วยเธอทำไมล่ะ “ปล่อยนะ คนนี้ของฉัน!” “ของฉัน!” พูดจบก็ออกเดิน เพียงแค่เห็นร่างเย้ายวนเซถลาไปด้านหน้า เขาก็ออกวิ่งทันที ไม่สนใจว่ากำลังคุยเรื่องธุรกิจกับคู่ค้าอยู่ด้วยซ้ำ ตอนนี้ก็ไม่คิดจะเดินกลับไปคุยงานของตัวเองต่อ เหลือบตามองคนที่ยอมตามไปเงียบๆ ที่เธอบอกว่าจบ หมายถึงจบจริงๆสินะ เขารู้ว่าเธอใจแข็ง แต่ไม่คิดว่าจะใจแข็งได้ขนาดนี้ เขากลับไปรอเธออยู่ที่คอนโดแห่งนั้น คิดว่าเธออาจจะกลับไป แต่ไม่เลย เขารออยู่ทั้งอาทิตย์ โดยที่ไม่เห็นแม้แต่เงาของเธอ ช่องทางติดต่อก็ถูกตั
รถสาธารณะจอดลงหน้าร้านเหล้าสุดหรูที่เพื่อนนัดไว้ เพื่อนของเธอโชคดีได้สามีร่ำรวย จะเรียกว่าสามีก็ไม่ถูกนัก เพราะทั้งสองคนยังไม่ได้แต่งงานกัน แต่มิ้งค์นั้นท้องลูกของเขาแล้ว และแน่นอนว่าเพื่อนเธอ ลาออกจากมหาวิทยาลัย เพื่อเลี่ยงข่าวเสียหายที่จะเกิดขึ้น “ขิงทางนี้” เพราะจองห้องวีไอพีไว้ กลัวเพื่อนเข้าไปไม่ได้ เพราะโซนนั้นให้เข้าได้เฉพาะลูกค้าที่มีบัตรสมาชิก จึงต้องออกมารับด้วยตัวเอง เมื่อเห็นเพื่อนก็รีบเรียก มองสำรวจร่างกายเพื่อนก่อนจะยกนิ้วให้ “ชุดนี้เริ่ด” “แน่นอน” น้ำขิงพูดอย่างอารมณ์ดี เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีนัก ตั้งแต่ออกจากบ้านมา เธอเที่ยวหนักมาก แม้จะถูกแอลห้ามไว้บ่อยๆ แต่เพราะเขาไม่ค่อยอยู่ด้วย เธอเลยใช้ชีวิตได้อิสระ ก็มีบ้างที่หนีเที่ยวแล้วเขาจับได้ ก็ถูกจับลลงโทษไปตามระเบียบนั้นแหละ เธอเลยค่อนข้างกลัว เวลาที่ทำให้เขาอารมณ์ไม่ดี “หน้าบึ้งทำไม เมื่อกี้ยังดีๆ” “เปล่า แค่คิดอะไรไปเรื่อย” เดินตามเพื่อนไปช้าๆ มันจะมีวันที่เธอลืมเขาได้ไหมนะ ทำไมตัวตนของเขาถึงได้ชัดเจนนักในหัวใจเธอ ทั้งที่เธอกับเขาคงความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจนมาตลอด แล้วทำไมเขาถึงไม่เคยหายไปจากหัว
“คุณแม่อยากได้หลานค่ะ” มือเรียวสวยยกโอบรอบลำคอสามี โน้มใบหน้าหล่อเหลาลงมาใกล้จนหน้าผากชิด “พี่ไม่ได้บังคับนะ ถ้าหนูวาวยังมีความสุขกับชีวิตตอนนี้อยู่ ยังไม่ต้องมีก็ได้ พี่รอได้ครับ” “คิกๆ ไม่ต้องรอแล้วค่ะ เพราะว่าในท้องวาว มีหลานของคุณแม่อยู่แล้ว” “อะไรนะ? หลอกพี่หรือเปล่า?” “ไม่ค่ะ วาวลองตรวจเมื่อเช้า เพราะประจำเดือนมาช้า ที่ตรวจมันขึ้นสองขีด พีคิดว่ายังไง?” “ไม่คิดยังไงครับ พรุ่งนี้เราไปโรงพยาบาลกันนะ” มือใหญ่จับสะโพกกลมกลึงไว้หลวมๆ จับยกขึ้นเหนือพื้น เพื่ออุ้มภรรยาไปที่เตียง วางร่างกายเย้ายวนลงบนเตียงอย่างหวงแหน ทอดสายตามองใบหน้าสวยหวาน ก่อนจะกดริมฝีปากเข้าหา เชื่องช้าและเนินนาน “พี่จะดูแลหนูกับลูกอย่างดีที่สุด ขอบคุณนะครับ ที่เลือกแต่งงานกับพี่” “วาวก็ขอบคุณค่ะ” พูดจบก็บดริมฝีปากเข้าหากัน ความรู้สึกของเธอกับเขาเหมือนกันสักที วันนี้เธออาจจะยังไม่มั่นใจ แต่เธอจะให้เวลาเขาพิสูจน์ทั้งชีวิต ผู้ชายชื่ออคิน ที่เธอเคยตราหน้าว่าเป็นคนไม่ดี วันนี้เปลี่ยนไปมากแล้ว และเธอเองก็พร้อมที่ตะเปลี่ยนตัวเอง ให้เป็นภรรยาที่ดี และเป็นแม่ที่ดี เพื่อผู้ชายที่ชื่อ อคิน
“คุณแอลจะกลับแล้วเหรอคะ” “ครับ แค่มาดูว่าเมื่อคืนกลับบ้านปลอดภัยหรือเปล่า ขอโทษและขอบคุณนะครับที่เข้าใจ” เขากลายเป็นคนขี้โกหกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่เขาไม่กล้าบอกเธอไป ว่าเมื่อคืนเขาหายไปอยู่กับผู้หญิงคนอื่นทั้งคืน เขาสนใจเธอนะ ตอนนี้ยังสนใจอยู่ เพียงแต่มันไม่มากเท่าตอนแรกแล้ว เขารู้สึกว่าเธอไม่เหมือนที่เขาเห็น แน่นอนว่าเขาไม่ชอบผู้หญิงเสแสร้ง “คุณลุงพูดอะไรกับคุณเหรอคะ หน้าตาเคร่งเครียดทั้งคู่เลย” “เรื่องธุรกิจครับ” “เหรอคะ เดี๋ยววุ้นเดินไปส่งนะคะ” “ไม่เป็นไรครับ ผมขายาว เดินไม่กี่ก้าวก็ถึงรถแล้ว” ยิ้มให้คนตัวเล็กกว่าด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน ก่อนจะค่อยๆหุบยิ้มลง เมื่อเห็นร่างเพรียวระหง เดินถือจานของกินจานใหญ่เดินขึ้นบันไดไป อย่างน้อยๆเขาก็รู้ว่าเธออยู่ที่นี่ เป็นคนที่มีที่ของตัวเองอยู่แล้วจริงๆสินะ “คิดว่าฉันจะยอมให้เธอกลับมาแย่งทุกอย่างไปงั้นเหรอน้ำขิง” เสียงพึมพำดังขึ้นเมื่ออยู่เพียงลำพัง ใบหน้าที่เคยอ่อนโยนเปลี่ยนเป็นไม่พอใจ เธอกับแม่วางแผนกันมาตั้งนาน กว่าจะจัดการทำให้น้ำขิงออกไปจากบ้านได้ ไม่คิดว่าอยู่ดีๆ ยัยนั่นจะกลับมา พวกเธอยังกอบโกยสมบัติของบ้านนี้ได้ไ