หนุ่มสาวสองคนพากันเดินเข้าไปในงานสวดอภิธรรมศพของคุณปู่ของนัฐธวีร์ อย่างไม่สนใจสายตาที่จับจ้องมองมายังทั้งคู่ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อของบิดาของนัฐธวีร์ เขาคือ กรพจน์
ผ้าสีขาวผูกสลับไขว้กับผ้าสีดำไปมาตลอดทางยาวในงาน สวดอภิธรรมศพของ ‘คุณปู่กรชัย’ ของนัฐธวีร์
นรีกุลสัมผัสได้ถึงความโศกเศร้าของชายคนรักและผู้มา ร่วมงานพิธีเคารพศพของปู่ของนัฐธวีร์
แขกเหรื่อที่มาร่วมอาลัยในงานอวมงคลของนายกรชัย จิระชาญ ล้วนแล้วแต่แต่งกายสวมชุดสีขาวและสีดำ เพื่อเป็นเกียรติแก่งานศพของกรชัย จิระชาญ บุคคลที่ล่วงลับไปแล้วอย่างปู่ของนัฐธวีร์
เวลานี้นัฐธวีร์และนรีกุลนั่งอยู่เบื้องหน้าของรูปภาพสีขาวดำของปู่ของนัฐธวีร์
ภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าของนัฐธวีร์ในเวลานี้เป็นใบหน้าคม เข้มของบุรุษคนหนึ่งแต่นัฐธวีร์ไม่คาดคิดมากก่อนว่าปู่ของเขาจะมีวันนี้
ในสายตาของนัฐธวีร์ปู่กรชัยของเขาคือคนที่เขารักมากที่สุด และยังเป็นคนเดียวที่เขาไว้ใจเล่าความลับเรื่องราวต่าง ๆ ให้ฟังรวมทั้งเรื่องของหญิงคนรักอีกด้วย
นัฐธวีร์ก้มกราบศพของปู่เขาเพียงครั้งเดียวพลางคุกเข่าคลาน ไปปักธูปที่กระถางหน้าโลงศพของปู่ตนเอง
กลุ่มควันสีขาวโขมงโชยออกมาจากธูปที่ผ่านการจุดแล้ว ข้างกายของนัฐธวีร์เป็นหญิงสาวดวงตากลมโตสุกใส เธอสวมชุดเดรสยาวกรอมเท้าสีดำสนิทกำลังนั่งมองเขาอย่างสำรวม
เวลานี้นรีกุลเกล้าผมเรียบร้อย นัฐธวีร์สังเกตว่า… เมื่อนรีกุลทำผมทรงนี้แล้วดูเหมือนสาวฝรั่งที่บิดาของเขาอยากให้ แต่งงานด้วยเป็นอย่างมาก
นรีกุลเหลียวมองนัฐธวีร์ที่เวลานี้มีน้ำตาคลอหน่วยตาอย่างสงสารและเห็นใจแม้ว่าเธอจะไม่เคยเจอปู่ของนัฐธวีร์คนรักของเธอหากแต่หญิงสาวอดรู้สึกใจหายไม่ได้กับการจากไปของนาย กรชัย จิระชาญ ในครั้งนี้
มือเรียวของหญิงสาวเอื้อมดึงธูปออกมาจากกองที่มัดรวมกันอยู่ นรีกุลนำธูปไปจ่อยังเทียนที่ลุกไหม้ให้แสงส่องสว่างเปลวเทียนส่องสว่างเรารัศมีดวงอาทิตย์ลามลงมายังปลายธูปของหญิงสาว นรีกุลสะบัดมือเล็กน้อยเพื่อตามธรรมเนียมพิธีกรรมของคนไทยในการเคารพศพของปู่ของนัฐธวีร์
กรพจน์ บิดาของกรีวีร์เหลียวมองไปทางนรีกุลหญิงคนรักเพียงแวบเดียว ทว่าเขากลับเบือนหน้าหนีภาพของลูกสะใภ้เพียงคนเดียวของเขาที่พรากลูกชายของเขาไปจากอกตั้งแต่นัฐธวีร์ บุตรชายยังเรียนไม่จบ
กรพจน์เหลือบมองใบหน้าของบุตรชายของเขาที่ยิ้มแย้มแจ่ม ใสยิ่งทำให้ไฟโทสะของผู้เป็นบิดาเริ่มกรุ่นทีละน้อย ๆ
กรพจน์สืบทราบมาว่าหญิงสาวที่มากับบุตรชายของเขาคือ นรีกุล ดิเรกวิยะกุล ผู้หญิงที่นัฐธวีร์หมายมั่น ปั้นมือว่าจะให้เป็นภรรยาเพียงคนเดียวของเขาเท่านั้น
หนุ่มใหญ่ยังสืบทราบมาอีกว่า ตระกูลดิเรกวิยะกุล เป็นคนจีนที่เข้ามาในประเทศไทยและได้ถือครองที่ถือครอง อสังหาริมทรัพย์ส่วนหนึ่งของประเทศไทย ที่มั่งคั่ง และ ร่ำรวยในแวดวงอสังหานี้เป็นอย่างมาก
โลงศพของคุณปู่ยังคงตั้งอยู่ในศาลาหากแต่เวลานี้นัฐธวีร์ควรจะนั่งอยู่ที่เก้าอี้ฟังสวดอภิธรรมตามปกติทว่าหญิงสาวกลับมองไม่เห็นคนรักหนุ่มในเวลานี้
นรีกุลเหลียวมองหานัฐธวีร์ที่เดินออกไปจากงานศพอย่างกระทันหันพลันสายตาเจ้ากรรมของนรีกุลก็สบสายตาเข้ากับสตรีวัย กลางคนผู้หนึ่งเข้า
ดวงตาของหญิงวัยกลางคนที่จ้องเขม็งมองมาทางนรีกุลอย่างสำรวจและจับสังเกต
เพียงแค่ได้เห็นสตรีสวมชุดดำยาวกรอมเท้าเกล้าผมมวยบน ศีรษะประดับกิ๊บแวมวับจับตา นรีกุลอดรู้สึกประหลาดใจไม่ได้ ลางสังหรณ์ของเธอบอกหญิงสาวอย่างชัดเจนว่าว่างานนี้จะต้องมี อะไรที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
สองหนุ่มสาวเคารพศพเสร็จ นัฐธวีร์ก็ขอตัวแยกจากนรีกุล ชายหนุ่มหาที่นั่งให้นรีกุลนั่งห่างไกลบิดาและมารดาของเขาพอสมควร
“เดี๋ยวผมมาผมไปเข้าห้องน้ำสักครู่”นัฐธวีร์เอ่ยขึ้นกับหญิง คนรักด้วยน้ำเสียงสุภาพ
“ค่ะเดี๋ยวนุ่นจะรออยู่ตรงนี้ค่ะ รีบไปรีบมานะคะวีร์” หญิงสาวเอ่ยบอกนัฐธวีร์ด้วยน้ำเสียงหวาน
นรีกุลนั่งได้สักพักใหญ่นัฐธวีร์ก็ยังไม่กลับมาจากห้องน้ำ หญิงสาวเดี๋ยวมองซ้ายแลขวาก็รู้สึกว่าเวลานี้นั้นเธอมองเห็นสตรีผู้ หนึ่งเดินเข้ามาพุ่งตรงเข้ามาหาตัวเธอ
“อ้าวนี่คงจะเป็นเพื่อนของตาวีร์ใช่ไหมจ้ะ”มารดาของนัฐธวีร์เอ่ยถามหญิงสาวด้วยน้ำเสียงทรงพลัง
ทว่ายังไม่ทันที่สาวเจ้าจะได้ตอบออกไปนั้นเสียงเข้มของชายหนุ่มก็ขัดขึ้นมากลางปล้องเสียก่อน
“แม่ครับนี่นุ่นครับ เขาเป็นว่าที่เจ้าสาวของผม” นัฐธวีร์กล่าวกับมารดาพลางเอื้อมมือมากุมมือหญิงสาวอย่างแผ่วเบา
สีหน้าแช่มชื่นเมื่อครู่ของมารดาแท้ของนัฐธวีร์แปรเปลี่ยน เป็นใบหน้าบูดบึ้งทันที
“วีร์หมายความว่าอย่างไรลูก”แม่ของชายหนุ่มเอ่ยถามเขา ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
นรีกุลสังเกตเห็นดวงตาคู่คมของหญิงวัยกลางคนมีหยาดน้ำ ใสคลอเบ้าตาของเธอ หากนรีกุลคาดคะเนไม่ผิดนักสตรีผู้นี้อาจเป็นมารดาที่ชายคนรักพูด ถึงให้ฟังบ่อย ๆ
ชายหนุ่มดันร่างอรชรให้นอนราบไปกับพื้นเตียง เวลานี้นรีกุลรู้สึกปั่นป่วนอย่างบอกไม่ถูกมือเรียวของนัฐธวีร์ซอนไซ้ไปยังร่องสวรรค์ของหญิงสาว ลมหายใจของนรีกุลกระตุกขึ้นในทันทีเจ้าบ่าวสอดนื้วเข้าไปเพื่อสำรวจห้องแห่งความลับสวรรค์อย่างที่เขาต้องการมานานแสนนานไม่ว่าจะผ่านไปเนิ่นานเพียงใด นรีกุลก็เป็นสตรีที่เขาชอบอยู่เสมอไม่ว่าจะส่วนเว้าส่วนโค้งที่เห็นได้จนเด่นชัดหรือจะเป็นความเด็ดขาดจริงใจก็ตามเขาจุมพิตหล่อนอย่างดูดดื่ม จนนรีกุลรู้สึกราวกับว่าหล่อนกำลังฝันไปหญิงสาวอดรู้สึกไม่ได้ว่าอุณหภูมิในเรือนกายร้อนผะผ่าวกับเวลานี้อยู่ในห้องอบซาวน่าก็ไม่ปานดวงหน้าคมเข้มของนัฐธวีร์ก้มลงตักตวงความหอมหวานจากน้ำตกสวรรค์ของหล่อนอย่างรวดเร็วนรีกุลครวญเสียงหวานยามเมื่อเวลานี้ชายหนุ่มก้มลงสำรวจซอนไซ้ซุกซนอยู่ตรงปากทางเข้าหว่างขาของหล่อน“ซี้ดดด” นรีกุลร้องสุดเสียงยามเมื่อเวลานี้ชายหนุ่มลากลิ้นสากขึ้นลงราวกับจะมุดร่องสวรรค์ของหล่อนลิ้นเหนียวลากไล้ไปมาจนเจ้าหล่อนอดรู้สึกกำซาบซ่านไปทั่วกายาไม่ได้นรีกุลกำผ้าปูที่นอนแน่นบามเมื่อเวลานี้ชายคนรักกำลังดอมดมดแกกุหลาบสีหวานในถ้ำอย่างหลงใหลนัฐธวีร์ปลดชั้นในตัวจิ๋วของ
ผ่านมาหนึ่งสัปดาห์ งานแต่งงานของนรีกุลและนัฐธวีร์จัดขึ้นอย่างใหญ่โตอีกครั้งกรพจน์บิดาของเขาเชิญแขกมาทั้งตำบลเพื่อมาเป็นสักขีพยานให้กับบ่าวสาวห้องแต่งตัวเจ้าสาวภาพที่ปรากฎตรงหน้ากระจกบานใหญ่เป็นภาพของสตรีสวมชุดวิวาห์ยาวกรอมเท้าดวงหน้าหวานรูปไข่ คิ้วเรียวเข้มโค้งดั่งคันศร จมูกของหล่อนโด่งรั้นเชิดขึ้นริมฝีปากสีแดงระเรื่อดูน่าสัมผัสเวลานี้นรีกุลไม่นึกฝันว่าเธอจะได้แต่งงานกับนัฐธวีร์ใหม่อีกครั้งท่ามกลางความเห็นดีเห็นงามจากผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้นรีกุลและนัฐธวีร์ผ่านอะไรร้าย ๆ มาตั้งมากมายหากหล่อนไม่มีกรพจน์ได้ช่วยเหลือเธอในวันนั้นอาจจะไม่มีนรีกุลหลงเหลืออยู่เลยนรีกุลอดรู้สึกขึ้นมาไม่ได้ว่าเวลานี้หล่อนช่างเป็นหญิงที่โชคดีที่สุดในโลกที่จะได้เป็นสะใภ้ตระกูลจิระชาญและในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อจากนี้ เธอกำลังจะเข้าพิธีมงคลสมรสกับสามีที่รักเธอสุดดวงใจพิธีแต่งงานของนรีกุลเป็นไปอย่างราบรื่น วันนี้นรีกุลดูงดงามมากในสายตาของนัฐธวีร์“ขอเชิญบ่าวสาวมาตัดเค้กได้”สิ้นเสียงพิธีกรที่ ได้รับเชิญมา นรีกุลสาวเท้าเข้ามายืนใกล้ๆ กับนัฐธวีร์หล่อนมองดูเค้กแต่งงานของเธออย่างไม่น
“งั้นเราเข้าไปข้างในกันเถอะคุณพ่อกับคุณแม่ท่านรอนานแล้วล่ะ” นัฐธวีร์กล่าวด้วยเสียงนุ่มนรีกุลมองมือของนัฐธวีร์ที่ยื่นมาทางหล่อน หญิงสาวนิ่งไปชั่วอึดใจในวันนี้ตั้งแต่ที่หล่อนเข้ามาเป็นสะใภ้ในบ้านของนัฐธวีร์ ไม่มีวันไหนที่หล่อนไม่เลือกเขา นรีกุลและสามีผ่านอะไรด้วยกันมามากมายไม่ว่าเรื่องราวที่ผ่านเข้ามาในชีวิตจะดีหรือร้ายก็ตามแต่นรีกุลได้เตรียมใจและได้เลือกเส้นทางนี้เอง นั้นคือการได้อยู่กับสามีของหล่อนยอ่างนัฐธวีร์ ผู้ชายเพียงคนเดียวที่ชาตินี้ทั้งชาตินรีกุลจะรักนัฐธวีร์ตลอดไปเวลานี้นรีกุลเลือกแล้วว่าจะซื่อสัตย์ต่อหัวใจของตนเอง“นุ่นคุณฟังผมอยู่ไหม” นัฐธวีร์ถามย้ำเมื่อหญิงสาวยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่อย่างใจลอย“ค่ะวีร์ เราเข้าไปข้างในกันเถอะค่ะ” นรีกุลกล่าวพลางยื่นมือออกไปกุมมือของชายคนรัก“ครับคุณภรรยา” นัฐธวีร์กล่าวพลางพานรีกุลเข้าไปด้านในบ้านหลังใหม่ของพวกเขา“หนูนุ่น แม่เตรียมอาหารไว้แล้วล่ะ หนูคงหิวแล้วใช่ไหมจ้ะ” มารดาของนัฐธวีร์กล่าวอย่างไม่ถือตัวเหมือนแต่ก่อนนรีกุลที่เห็นดังนั้นชะงักไปเพียงเล็กน้อย หล่อนพยักหน้ารับคำมารดาของเขาอย่างรวดเร็ว“ไปเจ้าวีร์พาหนูนุ่นไปกินข้าวเสียซิ” ก
ไม่กี่วันต่อมาหมอเจ้าของไข้ก็ให้นรีกุลกลับบ้านได้ นัฐธวีร์ได้พานรีกุลออกมาขึ้นรถกลับไปบ้าน“นุ่นคาดเข็มขัดดี ๆ นะ” ชายหนุ่มเอ่ยหยอกล้อกับคนรัก ทว่าเขากลับมีสีหน้าจริงจังนรีกุลอดสงสัยขึ้นมาไม่ได้ กระนั้นดวงหน้าหวานยังคงแต้มรอยยิ้มกว้างอย่างเดิมนรีกุลเอื้อมมือคาดเข็มขัดนริภัย ไม่กี่นาทีต่อมานัฐวีร์ก็ขับรถพุ่งทะยานออกไป“เราจะไปไหนกันคะวีร์” นรีกุลเอ่ยถามอย่างสงสัยในตัวของสามีไม่น้อย“ไปที่ที่เป็นของเรา” นัฐธวีร์กล่าวด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง“ที่ที่เป็นของเรา” นรีกุลทวนคำตอบของชายคนรัก“เดี๋ยวนุ่นก็รู้เองล่ะน่า” นัธธวีร์บอกปัด“ก็ได้ค่ะวีร์” นรีกุลตอบ หล่อนเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ข้างคนขับรถยนต์ของนัฐธวีร์แล่นไปตามถนนใหญ่เรื่อย ๆในที่สุดรถขอองชายหนุ่มก็ไปหยุดอยู่หน้าบ้านหลังโตสไตล์มินิมอลหลังหนึ่ง“นุ่นตื่นได้แล้วครับ” นัฐธวีร์กล่าวพลางเขย่าตัวของหญิงสาวให้ตื่นขึ้น“คะ วีร์” หญิงสาวงัวเงียตอบออกมาด้วยเสียงอู้อี้“ถึงแล้วค่ะ ที่นี่แหละที่ของเรา” นัฐธวีร์กล่าวพลางเอื้อมปลดสายเข็มขัดนริภัยให้เธอนรีกุลลงจากรถอย่างรวดเร็วตามหลังนัฐธวีร์ สามีไปติด ๆ…ดวงตาคู่สวยของนรีกุลเบิกกว้างกว่าเดิม หล่
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณย่า นุ่นอภัยให้” นรีกุลตอบออกมาในที่สุด“แต่ผมว่าคุณอาควรมาขอโทษนุ่นด้วยตนเองนะครับ” นัฐธวีร์เอ่ยเสียงแข็งเขาจะไม่ยอมให้นรีกุลยอมอ่อนข้อให้คนในตระกูลของเขาอีกต่อไปแล้วอย่างไรเสียอัญมณีก็ควรมาขอโทษด้วยตนเองไม่ใช่หลบอยู่ด้านหลังผู้เป็นมารดาปลอม ๆ เช่นนี้“หลานวีร์ อัญมณีเขา…” คุณย่าเอ่ยอย่างไม่ทันจบประโยคดี หยาดน้ำใสไหลคลอหน่วยตาของหญิงชรานัฐธวีร์และนรีกุลมองสบสายตากันอย่างรู้สึกสังหรณ์ในใจ“อัญมณี เขาเสียชีวิตแล้ว เมื่อเช้านี้” คุณย่าพูดเพียงเท่านั้นก็ปล่อยโฮออกมาทันทีจนผู้เป็นสะใภ้ต้องเข้ามาปลอบประโลม“พ่ออยากให้แกอภัยให้อาของแกสักครั้งนะวีร์” เสียงของกรพจน์อ่อนลงมากในเวลาเช่นนี้“แต่ที่คุณอาทำมันมากเกินการให้อภัย” นัฐธวีร์โต้เถียงกลับไปอย่างไม่ลดละ“พ่อเข้าใจ จริง ๆ พ่อก็ยังไม่ชอบใจกับการกระทำของเขาแต่อัญมณีถูกทำร้ายก่อนโดยบิดาของเขาเอง”“คุณพ่อหมายความว่ายังไงครับ” นัฐธวีร์ถามเสียงเข้มของนัฐธวีร์ทำให้ผู้เป็นบิดาเล่าความจริงบางอย่างออกมา“อัญมณีถูกคุณพ่อจับไปทดลอง ทำให้หล่อนกลายเป็นยักษ์ร้าย” กรพจน์เล่าเท้าความ“จับไปทดลอง” ชายหนุ่มทวนคำ“ใช่ ใช่พ่อของฉันรับอัญ
หยดน้ำใสไหลหยดออกมาจากดวงตาของนัฐธวีร์หล่นลงบนแขนขวาของนรีกุลแพขนตางอนยาวหนากระพือเปิดขึ้นอย่างเชื่องช้า นรีกุลค่อย ๆ ลืมตาขึ้น“นุ่น คุณตื่นแล้วใช่ไหม”“นี่ผมไม่ได้ฝันไปใช่ไหม” นัฐธวีร์ถามย้ำนรีกุลไม่ตอบอะไร หล่อนคลี่ระบายรอยยิ้มเล็กน้อยมือเรียวของนัฐธวรีร์กดออดเรียกพยาบาล เขากรอกเสียงลงไปตามสายอย่างรวดเร็ว“หมอครับ หมอครับ ภรรยาของผมฟื้นแล้วครับ” ชายหนุ่มกรอกเสียงลงไปฉับพลันพยาบาลสาวรีบเข้ามาตรวจดูคนไข้อย่างรวดเร็วนัฐธวีร์ถอยออกมาจากห้องพักพิเศษผู้ป่วยนอกให้แพทย์ได้เข้ามาตรวจนรีกุลได้อย่างเต็มที่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นทำให้นัฐธวีร์ละสายตาจากหญิงสาวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู“หนูนุ่นเป็นอย่างไรบ้างตาวีร์” ปลายสายเป็นมารดาของเขาโทรถามอาการของภรรยาสุดรัก“นุ่นปลอดภัยแล้วครับแม่” นัฐธวีร์กล่าวขึ้นแม่ดีใจด้วยนะตาวีร์ มารดาเขาตอบกลับมาด้วยความยินดี“ครับแม่” นัฐธวีร์น้ำตารื้นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกเขาอดรู้สึกดีใจขึ้นมาไม่ได้ว่าครอบครัวเขาเองก็เป็นห่วงภรรยาของเขาเหมือนกันชายหนุ่มสังเกตเห็นตอนที่กรพจน์ขับรถ เขามองแววตานั้นออกแววตานั้นคล้ายกับแววตาที่ผู้เป็นพ่อมองบุตรสาวความห่วงหา และห่วงใยที