“ผมกับนุ่น เราสองคนวางแผนจะแต่งงานกันในเร็ว ๆ นี้ครับ” นัฐธวีร์เอ่ยตอบมารดาแท้ ๆ ของเขาด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเสียจนมารดาของเขากลัวใจ
วูบหนึ่งที่นรีกุลอดรู้สึกไม่ได้ว่า มารดาของนัฐธวีร์มี
ท่าทีเปลี่ยนไป ทว่าชั่วขณะพริบตาเดียว มารดาของนัฐธวีร์ก็หันมาทางหญิงสาวที่ยืนทำหน้าไม่ถูกในบทสนทนาของแม่ลูกคู่นี้
“ยินดีต้อนรับนะหนู” มารดาของนัฐธวีร์เอ่ยกับหญิงสาวที่เวลานี้ทำตัวไม่ถูกราวกับว่านรีกุลยังไม่เป็นตัวของตนเอง
“ขอบคุณค่ะคุณแม่” นรีกุลกล่าวพลางยกมือไหว้มารดาของนัฐธวีร์
“ใครรับหล่อนมาเป็นสะใภ้จิระชาญไม่ทราบ” เสียงเข้มของบุรุษคนหนึ่งดังขึ้นท่ามกลางความไม่คาดคิดของทุกคน
นรีกุลหน้าเสีย หญิงสาวมีสีหน้าซีดเผือดราวกับกระดาษเอสี่ที่ไร้การขีดเขียนใด ๆ ลงบนกระดาษ
“คุณพ่อผมว่าคุณพ่อเมามากแล้วไปพักก่อนดีกว่าครับ” นัฐธวีร์กล่าวกับบิดาของเขาด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“อย่ามามั่วซั่ว ฉันไม่ได้เมา” กรพจน์เอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจในวาจาของบุตรชายที่ไม่ได้เจอมานานแรมชาติ
“ทำไมคุณพูดกับหนูนุ่นแบบนี้ล่ะคุณพจน์” มารดาของนัฐธวีร์เอ่ยเสียงแหลมสูงอย่างไม่พอใจที่สามีของเธอหักหน้าหล่อนและลูกชาย
“ยังไงฉันก็ไม่มีวันยอมรับสะใภ้เจ๊กเด็ดขาด” กรพจน์กล่าวด้วยน้ำเสียงฉุนเฉียว
นรีกุลยืนหน้าถอดสี ไหล่บางของหญิงสาวสั่นไหวระริกราวกับกรพจน์กำลังถือมีดเล่มคมข่มขู่เธอ
นัฐธวีร์ลอบมองอากัปกิริยาของหญิงคนรักอย่างสะท้อนใจ เวลานี้เขาควรตัดสินใจให้เด็ดขาด
ชายหนุ่มยกยิ้มขึ้นมาอย่างร้ายกาจ ริมฝีปากหยักขยับเอ่ยต่อว่า
“ถ้าคุณพ่อไม่รับนุ่นเป็นสะใภ้ และไม่ให้ผมแต่งงานกับนุ่นผมจะไม่กลับไปเหยียบบ้านและรับมรดกจิระชาญอีกเลย” นัฐธวีร์กล่าวด้วยสีหน้าไม่พอใจอย่างถึงที่สุด
โทสะของผู้เป็นพ่อปะทุขึ้นราวกับกาต้มน้ำที่ร้อนได้ที่ กรพจน์ยกมือชี้หน้าบุตรชายและสะใภ้เจ็กอย่างนรีกุลทันที
“หัวเด็ดตีนขาดอย่างไร ฉันจะไม่รับหล่อนมาเป็นสะใภ้จิระชาญเด็ดขาด และแกไอ้วีร์แกอย่าหวังว่าแกจะได้อะไรจากมรดกปู่ของแกที่ยังจัดงานศพไม่เสร็จ” กรพจน์กล่าวด้วยน้ำเสียงเดือดดาลเป็นพ้นทวี
“ถ้าผมไม่ได้แต่งงานกับนุ่น งั้นคุณพ่อก็อย่างหวังเลยว่าจะมีคนสืบทอดที่ดินนั่นต่อจากคุณปู่” นัฐธวีร์กล่าวด้วยแรงอารมณ์อย่างไม่ลดละ
“ไปนุ่นกลับ” นัฐธวีร์เอ่ยกับหญิงคนรักพลางคว้าข้อมือของหล่อนออกไปจากงานศพที่ยังสวดไม่จบทันที ทิ้งให้กรพจน์ยืนกรุ่นด้วยอารมณ์โกรธระคนเสียใจในเวลาเดียวกัน
“จะดีเหรอคะวีร์” นรีกุลเอ่ยถามชายหนุ่มขึ้นอย่างแผ่วเบาด้วยตนเองไม่อยากให้เกิดเรื่องราวใหญ่โตในงานพิธีอวมงคลเช่นนี้
“หยุดเดี๋ยวนี้นะตาวีร์ แม่กับพ่อพร้อมยอมรับ แม่หนูนุ่นนี่เป็นสะใภ้” มารดาของนัฐธวีร์ กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด
นัฐธวีร์หยุดชะงัก ไม้ตายนี้ใช้ได้ผลกับมารดาของเขาเสมอ ขณะนรีกุลมีสีหน้าโล่งใจไม่น้อยที่ในที่สุดบิดามารดาของชายคนรักยอมรับเธอเป็นสะใภ้เสียที
“จริงแหรอครับแม่” นัฐธวีร์กล่าวพลางปล่อยข้อมือของหญิงคนรักให้เป็นอิสระจากการกอบกุมของเขา
มารดาของนัฐธวีร์โผเข้ากอดบุตรชายอย่างปลอบประโลมลูกชายคนที่สองของเธออย่างหวงแหน
“ฉันยอมรับได้ แต่ตาวีร์ต้องรับมรดกของคุณปู่กรชัย และแต่งงานเป็นเรื่องเป็นราวกับหนูนุ่นนะลูกนะ” มารดาของนัฐธวีร์กล่าวพลางปรายหางตามามองนรีกุลอย่างสำรวจหญิงสาว
นรีกุลหลุบตาลงต่ำเสียจนแทบมองเท้าของตนเองแต่ไหนแต่ไรเกิดมาหญิงสาวไม่เคยต้องมานั่งกังวลใจในเรื่องชาติตระกูลของหล่อนมาก่อน
หญิงสาวทราบดีว่านัฐธวีร์มีชาติตระกูลสูงส่งเพียงใด บรรพบุรุษของนัฐธวีร์เคยเป็นพ่อค้าคหบดีในสมัยรัตนโกสินทร์มาก่อน ตระกูลจิระชาญจึงเป็นตระกูลที่มั่งคั่งรองลำดับลงมาจากหลายตระกูลใหญ่ที่ถูกจัดอันดับไว้บนชาร์ตระดับนานาประเทศ
ผิดกับตระกูลลูกสาวคนจีนอย่างนรีกุลที่บิดามารดาหอบสื่อผืนหมอนใบมาขายเส้นบะหมี่แต่พวกเขาก็ก่อร่างสร้างตัวกลายเป็นตระกูลที่ร่ำรวยพอมีพอกินได้แม้ว่ามันจะนานมากหลายสิบปีก็ตามที
ขอบคุณที่ตามอ่านนิยายไรท์กิฟมาจนถึงบทนี้นะคะ เรื่องกำลังเข้มข้น ดุเดือดกันเลยทีเดียว จะเป็นอย่างไรนั้นมาติดตามกันต่อเลยค่ะ
ชายหนุ่มดันร่างอรชรให้นอนราบไปกับพื้นเตียง เวลานี้นรีกุลรู้สึกปั่นป่วนอย่างบอกไม่ถูกมือเรียวของนัฐธวีร์ซอนไซ้ไปยังร่องสวรรค์ของหญิงสาว ลมหายใจของนรีกุลกระตุกขึ้นในทันทีเจ้าบ่าวสอดนื้วเข้าไปเพื่อสำรวจห้องแห่งความลับสวรรค์อย่างที่เขาต้องการมานานแสนนานไม่ว่าจะผ่านไปเนิ่นานเพียงใด นรีกุลก็เป็นสตรีที่เขาชอบอยู่เสมอไม่ว่าจะส่วนเว้าส่วนโค้งที่เห็นได้จนเด่นชัดหรือจะเป็นความเด็ดขาดจริงใจก็ตามเขาจุมพิตหล่อนอย่างดูดดื่ม จนนรีกุลรู้สึกราวกับว่าหล่อนกำลังฝันไปหญิงสาวอดรู้สึกไม่ได้ว่าอุณหภูมิในเรือนกายร้อนผะผ่าวกับเวลานี้อยู่ในห้องอบซาวน่าก็ไม่ปานดวงหน้าคมเข้มของนัฐธวีร์ก้มลงตักตวงความหอมหวานจากน้ำตกสวรรค์ของหล่อนอย่างรวดเร็วนรีกุลครวญเสียงหวานยามเมื่อเวลานี้ชายหนุ่มก้มลงสำรวจซอนไซ้ซุกซนอยู่ตรงปากทางเข้าหว่างขาของหล่อน“ซี้ดดด” นรีกุลร้องสุดเสียงยามเมื่อเวลานี้ชายหนุ่มลากลิ้นสากขึ้นลงราวกับจะมุดร่องสวรรค์ของหล่อนลิ้นเหนียวลากไล้ไปมาจนเจ้าหล่อนอดรู้สึกกำซาบซ่านไปทั่วกายาไม่ได้นรีกุลกำผ้าปูที่นอนแน่นบามเมื่อเวลานี้ชายคนรักกำลังดอมดมดแกกุหลาบสีหวานในถ้ำอย่างหลงใหลนัฐธวีร์ปลดชั้นในตัวจิ๋วของ
ผ่านมาหนึ่งสัปดาห์ งานแต่งงานของนรีกุลและนัฐธวีร์จัดขึ้นอย่างใหญ่โตอีกครั้งกรพจน์บิดาของเขาเชิญแขกมาทั้งตำบลเพื่อมาเป็นสักขีพยานให้กับบ่าวสาวห้องแต่งตัวเจ้าสาวภาพที่ปรากฎตรงหน้ากระจกบานใหญ่เป็นภาพของสตรีสวมชุดวิวาห์ยาวกรอมเท้าดวงหน้าหวานรูปไข่ คิ้วเรียวเข้มโค้งดั่งคันศร จมูกของหล่อนโด่งรั้นเชิดขึ้นริมฝีปากสีแดงระเรื่อดูน่าสัมผัสเวลานี้นรีกุลไม่นึกฝันว่าเธอจะได้แต่งงานกับนัฐธวีร์ใหม่อีกครั้งท่ามกลางความเห็นดีเห็นงามจากผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้นรีกุลและนัฐธวีร์ผ่านอะไรร้าย ๆ มาตั้งมากมายหากหล่อนไม่มีกรพจน์ได้ช่วยเหลือเธอในวันนั้นอาจจะไม่มีนรีกุลหลงเหลืออยู่เลยนรีกุลอดรู้สึกขึ้นมาไม่ได้ว่าเวลานี้หล่อนช่างเป็นหญิงที่โชคดีที่สุดในโลกที่จะได้เป็นสะใภ้ตระกูลจิระชาญและในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อจากนี้ เธอกำลังจะเข้าพิธีมงคลสมรสกับสามีที่รักเธอสุดดวงใจพิธีแต่งงานของนรีกุลเป็นไปอย่างราบรื่น วันนี้นรีกุลดูงดงามมากในสายตาของนัฐธวีร์“ขอเชิญบ่าวสาวมาตัดเค้กได้”สิ้นเสียงพิธีกรที่ ได้รับเชิญมา นรีกุลสาวเท้าเข้ามายืนใกล้ๆ กับนัฐธวีร์หล่อนมองดูเค้กแต่งงานของเธออย่างไม่น
“งั้นเราเข้าไปข้างในกันเถอะคุณพ่อกับคุณแม่ท่านรอนานแล้วล่ะ” นัฐธวีร์กล่าวด้วยเสียงนุ่มนรีกุลมองมือของนัฐธวีร์ที่ยื่นมาทางหล่อน หญิงสาวนิ่งไปชั่วอึดใจในวันนี้ตั้งแต่ที่หล่อนเข้ามาเป็นสะใภ้ในบ้านของนัฐธวีร์ ไม่มีวันไหนที่หล่อนไม่เลือกเขา นรีกุลและสามีผ่านอะไรด้วยกันมามากมายไม่ว่าเรื่องราวที่ผ่านเข้ามาในชีวิตจะดีหรือร้ายก็ตามแต่นรีกุลได้เตรียมใจและได้เลือกเส้นทางนี้เอง นั้นคือการได้อยู่กับสามีของหล่อนยอ่างนัฐธวีร์ ผู้ชายเพียงคนเดียวที่ชาตินี้ทั้งชาตินรีกุลจะรักนัฐธวีร์ตลอดไปเวลานี้นรีกุลเลือกแล้วว่าจะซื่อสัตย์ต่อหัวใจของตนเอง“นุ่นคุณฟังผมอยู่ไหม” นัฐธวีร์ถามย้ำเมื่อหญิงสาวยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่อย่างใจลอย“ค่ะวีร์ เราเข้าไปข้างในกันเถอะค่ะ” นรีกุลกล่าวพลางยื่นมือออกไปกุมมือของชายคนรัก“ครับคุณภรรยา” นัฐธวีร์กล่าวพลางพานรีกุลเข้าไปด้านในบ้านหลังใหม่ของพวกเขา“หนูนุ่น แม่เตรียมอาหารไว้แล้วล่ะ หนูคงหิวแล้วใช่ไหมจ้ะ” มารดาของนัฐธวีร์กล่าวอย่างไม่ถือตัวเหมือนแต่ก่อนนรีกุลที่เห็นดังนั้นชะงักไปเพียงเล็กน้อย หล่อนพยักหน้ารับคำมารดาของเขาอย่างรวดเร็ว“ไปเจ้าวีร์พาหนูนุ่นไปกินข้าวเสียซิ” ก
ไม่กี่วันต่อมาหมอเจ้าของไข้ก็ให้นรีกุลกลับบ้านได้ นัฐธวีร์ได้พานรีกุลออกมาขึ้นรถกลับไปบ้าน“นุ่นคาดเข็มขัดดี ๆ นะ” ชายหนุ่มเอ่ยหยอกล้อกับคนรัก ทว่าเขากลับมีสีหน้าจริงจังนรีกุลอดสงสัยขึ้นมาไม่ได้ กระนั้นดวงหน้าหวานยังคงแต้มรอยยิ้มกว้างอย่างเดิมนรีกุลเอื้อมมือคาดเข็มขัดนริภัย ไม่กี่นาทีต่อมานัฐวีร์ก็ขับรถพุ่งทะยานออกไป“เราจะไปไหนกันคะวีร์” นรีกุลเอ่ยถามอย่างสงสัยในตัวของสามีไม่น้อย“ไปที่ที่เป็นของเรา” นัฐธวีร์กล่าวด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง“ที่ที่เป็นของเรา” นรีกุลทวนคำตอบของชายคนรัก“เดี๋ยวนุ่นก็รู้เองล่ะน่า” นัธธวีร์บอกปัด“ก็ได้ค่ะวีร์” นรีกุลตอบ หล่อนเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ข้างคนขับรถยนต์ของนัฐธวีร์แล่นไปตามถนนใหญ่เรื่อย ๆในที่สุดรถขอองชายหนุ่มก็ไปหยุดอยู่หน้าบ้านหลังโตสไตล์มินิมอลหลังหนึ่ง“นุ่นตื่นได้แล้วครับ” นัฐธวีร์กล่าวพลางเขย่าตัวของหญิงสาวให้ตื่นขึ้น“คะ วีร์” หญิงสาวงัวเงียตอบออกมาด้วยเสียงอู้อี้“ถึงแล้วค่ะ ที่นี่แหละที่ของเรา” นัฐธวีร์กล่าวพลางเอื้อมปลดสายเข็มขัดนริภัยให้เธอนรีกุลลงจากรถอย่างรวดเร็วตามหลังนัฐธวีร์ สามีไปติด ๆ…ดวงตาคู่สวยของนรีกุลเบิกกว้างกว่าเดิม หล่
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณย่า นุ่นอภัยให้” นรีกุลตอบออกมาในที่สุด“แต่ผมว่าคุณอาควรมาขอโทษนุ่นด้วยตนเองนะครับ” นัฐธวีร์เอ่ยเสียงแข็งเขาจะไม่ยอมให้นรีกุลยอมอ่อนข้อให้คนในตระกูลของเขาอีกต่อไปแล้วอย่างไรเสียอัญมณีก็ควรมาขอโทษด้วยตนเองไม่ใช่หลบอยู่ด้านหลังผู้เป็นมารดาปลอม ๆ เช่นนี้“หลานวีร์ อัญมณีเขา…” คุณย่าเอ่ยอย่างไม่ทันจบประโยคดี หยาดน้ำใสไหลคลอหน่วยตาของหญิงชรานัฐธวีร์และนรีกุลมองสบสายตากันอย่างรู้สึกสังหรณ์ในใจ“อัญมณี เขาเสียชีวิตแล้ว เมื่อเช้านี้” คุณย่าพูดเพียงเท่านั้นก็ปล่อยโฮออกมาทันทีจนผู้เป็นสะใภ้ต้องเข้ามาปลอบประโลม“พ่ออยากให้แกอภัยให้อาของแกสักครั้งนะวีร์” เสียงของกรพจน์อ่อนลงมากในเวลาเช่นนี้“แต่ที่คุณอาทำมันมากเกินการให้อภัย” นัฐธวีร์โต้เถียงกลับไปอย่างไม่ลดละ“พ่อเข้าใจ จริง ๆ พ่อก็ยังไม่ชอบใจกับการกระทำของเขาแต่อัญมณีถูกทำร้ายก่อนโดยบิดาของเขาเอง”“คุณพ่อหมายความว่ายังไงครับ” นัฐธวีร์ถามเสียงเข้มของนัฐธวีร์ทำให้ผู้เป็นบิดาเล่าความจริงบางอย่างออกมา“อัญมณีถูกคุณพ่อจับไปทดลอง ทำให้หล่อนกลายเป็นยักษ์ร้าย” กรพจน์เล่าเท้าความ“จับไปทดลอง” ชายหนุ่มทวนคำ“ใช่ ใช่พ่อของฉันรับอัญ
หยดน้ำใสไหลหยดออกมาจากดวงตาของนัฐธวีร์หล่นลงบนแขนขวาของนรีกุลแพขนตางอนยาวหนากระพือเปิดขึ้นอย่างเชื่องช้า นรีกุลค่อย ๆ ลืมตาขึ้น“นุ่น คุณตื่นแล้วใช่ไหม”“นี่ผมไม่ได้ฝันไปใช่ไหม” นัฐธวีร์ถามย้ำนรีกุลไม่ตอบอะไร หล่อนคลี่ระบายรอยยิ้มเล็กน้อยมือเรียวของนัฐธวรีร์กดออดเรียกพยาบาล เขากรอกเสียงลงไปตามสายอย่างรวดเร็ว“หมอครับ หมอครับ ภรรยาของผมฟื้นแล้วครับ” ชายหนุ่มกรอกเสียงลงไปฉับพลันพยาบาลสาวรีบเข้ามาตรวจดูคนไข้อย่างรวดเร็วนัฐธวีร์ถอยออกมาจากห้องพักพิเศษผู้ป่วยนอกให้แพทย์ได้เข้ามาตรวจนรีกุลได้อย่างเต็มที่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นทำให้นัฐธวีร์ละสายตาจากหญิงสาวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู“หนูนุ่นเป็นอย่างไรบ้างตาวีร์” ปลายสายเป็นมารดาของเขาโทรถามอาการของภรรยาสุดรัก“นุ่นปลอดภัยแล้วครับแม่” นัฐธวีร์กล่าวขึ้นแม่ดีใจด้วยนะตาวีร์ มารดาเขาตอบกลับมาด้วยความยินดี“ครับแม่” นัฐธวีร์น้ำตารื้นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกเขาอดรู้สึกดีใจขึ้นมาไม่ได้ว่าครอบครัวเขาเองก็เป็นห่วงภรรยาของเขาเหมือนกันชายหนุ่มสังเกตเห็นตอนที่กรพจน์ขับรถ เขามองแววตานั้นออกแววตานั้นคล้ายกับแววตาที่ผู้เป็นพ่อมองบุตรสาวความห่วงหา และห่วงใยที